Masukมาเฟียหนุ่มและลูกน้องคนสนิทเปิดประตูเข้ามานั่งในรถราวกับไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร ปล่อยให้ลูกน้องของเสี่ยสมบูรณ์ทั้งสามคนนอนกองอยู่ข้างถนน จากนั้นรถหรูก็ขับออกมาจากจุดเกิดเหตุ
เจ้าของใบหน้าหล่อในชุดสูตหันมาเอ่ยกับเธอ “บาดเจ็บตรงไหนไหม”
พระพายส่ายหน้าเล็กน้อยคล้ายกับปฏิเสธ ทว่าสายตาของมาคัสก็เหลือบไปเห็นมือของเธอเป็นรอยถลอก ในใจรู้สึกโชคดีมากที่เขาผ่านมาทางนี้ และช่วยเธอได้ทันเวลา ไม่คิดว่าเสี่ยสมบูรณ์จะจ้องเธอตาเป็นมัน จนทำเรื่องไม่น่าให้อภัย
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยหนูไว้”
“ช่วงนี้อย่าอยู่คนเดียวเลยดีกว่า มันไม่ปลอดภัย”
“เดี๋ยวหนูจะขอไปนอนกับเพื่อนสักคืนสองคืน”
“ผู้หญิงอยู่ด้วยกัน ถ้าพวกมันบุกมาจะเอาตัวรอดได้ยังไง ไปอยู่ที่เพนต์เฮาส์ของฉันก่อนดีกว่า รับรองว่าพวกมันไม่กล้าเข้าใกล้”
“มะ ไม่ดีกว่าค่ะ ช่วยจอดรถให้หนูลงแถวนี้ด้วยนะคะ หนูจะหารถกลับเอง”
หญิงสาวปฏิเสธทันควันราวกับหวาดกลัว หากอยู่คนเดียวอาจตกเป็นเป้าหมายให้เสี่ยสมบูรณ์ส่งลูกน้องมาจับตัวเธอไปก็จริง แต่การอยู่กับเขามันจะปลอดภัยแน่หรือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ยังทำให้ใจเธอหวาดผวาอยู่เลย
และก็ยังไม่ลืมว่าเขาก็เป็นอีกคนที่อยากได้ตัวเธอเช่นกัน
“ฉันกับไอ้เสี่ยนั่น ใครน่ากลัวกว่ากัน”
ใจดวงน้อยเต้นโครมครามขึ้นมากับการใกล้ชิดกัน เพราะเขาไม่เพียงแค่เอ่ยออกมา แต่ยังช้อนเอาตัวเธอขึ้นมานั่งบนตัก
หญิงสาวในชุดนักศึกษาก้มหน้าหลุบตามองต่ำ ไม่กล้าสบสายตา ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว “มันก็ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่”
ใบหน้าหล่อเลื่อนเข้ามาด้านข้าง เสียงทุ้มกระซิบข้างหู “ทำไมจะไม่ต่าง อย่าลืมว่าเธอตกเป็นของฉันแล้ว”
ใบหน้าของมาคัสก็เลื่อนมาอยู่ด้านหน้า สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นของกันและกัน ริมฝีปากหยักประกบเข้ากับริมฝีปากอวบอิ่มของเธอทันที
“อื้อ…”
มือเล็กออกแรงผลักอีกฝ่ายแต่ขัดขืนได้ไม่นาน ดูเหมือนว่าเธอจะเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสนุ่มหยุ่นที่ได้รับ ครั้งนี้มีสติเต็มร้อย แน่ชัดแล้วว่าหวั่นไหวไปกับความวาบหวามที่มาคัสปรนเปรอ ไม่ใช่แค่เพียงเสียอาการกับใบหน้าอันหล่อเหลาอย่างที่คิดก่อนหน้า
เธอเผลอจูบตอบอีกฝ่ายอย่างไม่ประสีประสา เพราะยังอ่อนประสบการณ์เรื่องความรัก โตจนป่านนี้แฟนสักคนก็ยังไม่เคยมี เพราะทุกวินาทีนอกจากเรื่องเรียนแล้ว ก็ทุ่มเทให้กับการหาเงินใช้หนี้ที่แม่เลี้ยงเป็นคนก่อ
มาเฟียหนุ่มผละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง รู้สึกพึงพอใจที่อีกฝ่ายปากไม่ตรงกับใจ เพราะร่างกายคนเรามันปฏิเสธไม่เก่งเหมือนลมปาก
“ลองคิดดูให้ดี อย่างน้อยฉันก็ไม่เคยเอาเปรียบ มีแต่จะให้ทุกสิ่งที่เธอต้องการ”
ใจดวงน้อยเต้นตึกตัก พลันนึกถึงเรื่องเงินปริศนาที่ถูกโอนเข้าบัญชี
“เงินห้าแสนเมื่อวานเป็นของคุณใช่ไหมคะ”
“นั่นเป็นค่าตอบแทนที่เธอมอบสิ่งที่มีค่าที่สุดให้กับฉัน แต่ถ้ายอมรับข้อเสนอ ฉันก็จะเลี้ยงดูเธอเป็นอย่างดี”
“ถ้าหนูยอมไปอยู่กับคุณ นอกจากโฉนดที่ดินแล้ว คุณจะให้อะไรหนูได้บ้าง”
“เงินใช้จ่ายไม่อั้น บ้าน รถ หรือถ้าอยากได้อะไรฉันก็จะซื้อให้ทุกอย่างที่สามารถให้ได้ แล้วก็ยังมีตำแหน่งงานในบริษัทหลังจากที่เรียนจบ ถึงแม้ความสัมพันธ์ของเราจะจบลง แต่ฉันรับรองได้ว่าจะไม่มีใครกล้าไล่เธอออกจากที่นั่นแน่นอน”
ข้อเสนอของเขานั้นช่างเย้ายวนใจเธอมาก อย่างน้อยก็เสียตัวให้มาคัสไปแล้วหนหนึ่ง ถ้าหากร่างกายของเธอที่มอบให้เขาเพียงคนเดียว แลกกับสิ่งที่มีค่าที่สุดที่พ่อแม่เหลือเอาไว้ให้ อีกทั้งชีวิตต่อจากนี้อาจจะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ เก็บเงินที่เขาให้เอาไว้เพื่อตั้งตัวในอนาคต สำหรับเธอคิดว่ามันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม
“หนูต้องเป็นเด็กเลี้ยงของคุณนานเท่าไหร่ แล้วถ้าวันไหนคุณเบื่อ คุณก็จะเขี่ยหนูทิ้งใช่ไหมคะ”
“ฉันยังไม่ได้คิดเรื่องนั้น แต่มีสิ่งเดียวที่เธอควรรู้เอาไว้ว่ามาแต่ตัวได้ แต่อย่าเอาใจลงมาผูกติดกับความสัมพันธ์นี้”
เมื่อเห็นว่าเธอเงียบ มาคัสจึงเชยปลายคางให้ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองสบตากัน
“เรื่องอนาคตมันไม่แน่ไม่นอน คนเราน่ะมันเปลี่ยนกันได้ทุกเมื่อ เธอจะยึดติดกับเรื่องพวกนั้นไปทำไม”
ก็จริงอย่างที่เขาว่า สามีภรรยาอยู่กินกันเป็นสิบปียี่สิบปียังแยกทางกันได้ นับประสาอะไรกับคนที่มีอะไรกันเพราะพลาด
“ถ้าคุณเอาโฉนดมาให้หนูได้ หนูจะคิดเรื่องนี้ดูอีกที”
“หึ ต่อรองเก่งเหมือนกันนะสาวน้อย ได้สิ สิ่งที่เธอต้องการฉันเอามันมาได้แน่”
“คุณจะไม่ถามหน่อยเหรอคะ ว่าหนูติดหนี้เสี่ยสมบูรณ์เท่าไหร่”
“เท่าไหร่ฉันก็ยินดีจ่าย” เขาเอ่ยอย่างมั่นอกมั่นใจ ก่อนจะพูดเสริม “แต่คืนนี้เธอต้องไปนอนที่เพนต์เฮาส์ของฉัน”
“แต่ว่า…”
“ไม่มีแต่ ฉันจะไปส่งเอาเสื้อผ้า” เขาว่าพลางเลื่อนมือหนาขึ้นไปประคองแก้มนุ่มที่มีรอยนิ้วมือแดงอย่างขุ่นเคือง ถ้าไม่ติดว่าจะทำให้เธอกลัวขึ้นมา พวกมันคงไม่ได้ตายดีแน่
“ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไร คืนนี้เธอไปพักที่นั่นให้สบายใจ ส่วนฉันจะกลับไปนอนที่บ้าน”
“แน่นะคะ”
“อืม”
ริมฝีปากของมาคัสคลี่ยิ้มขึ้นเล็กน้อย ทำให้เธอสบายใจขึ้นมาเปลาะหนึ่ง
แม้จะไม่ค่อยเชื่อใจเขาเต็มร้อย แต่ทว่าพอลองเทียบระหว่างอยู่ตามลำพัง หรือขอไปนอนห้องของมะนาว มันก็ไม่ปลอดภัยอย่างที่เขาว่าจริง ๆ ยิ่งหอพักราคาถูก ก็ยิ่งเดินเข้าออกง่าย ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์
แต่ถ้าเขายอมกลับไปนอนที่บ้าน แล้วให้เธออยู่ที่เพนต์เฮาส์ คาดว่าเสี่ยสมบูรณ์คงไม่รู้ภายในวันสองวันนี้แน่นอนว่าเธอหลบไปอยู่ที่ไหน
“ก็ได้ค่ะ หนูจะไปนอนที่เพนต์เฮาส์ของคุณ”
“กลับบ้านมาเหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถาม“...”พระพายนิ่งเงียบไปเพราะไม่คิดว่าเขาจะเดาถูก เธอเองก็เคยสงสัยว่ามาคัสให้คนตามสืบประวัติของเธอหรืออย่างไร ทำไมถึงได้รู้เรื่องของเธอดีไปหมดดวงตาคมจ้องมองใบหน้าอ้ำอึ้งของหญิงสาว ดูท่าทางหัวอ่อนแบบนี้คงจะโดนทางนั้นไถเงินไปไม่น้อย“เงียบแบบนี้แสดงว่าเอาเงินไปให้แม่เลี้ยงมาสินะ แล้วเงินที่ฉันให้ครั้งก่อนยังพอใช้อยู่ไหม”แบล็กการ์ดที่เคยให้ไว้ หญิงสาวไม่แตะต้องเงินในนั้นแม้แต่บาทเดียว ผิดจากผู้หญิงคนอื่นที่มักจะเข้าหาเขาเพราะต้องการกอบโกยผลประโยชน์กันทั้งนั้น“พอค่ะ”เงินที่ได้มาห้าแสนมันก็มากเกินพอแล้ว นักศึกษาอย่างเธอไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้เงินมากขนาดนั้น ถึงจะแบ่งให้แม่เลี้ยงไปสามแสน ก็ยังเหลือเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในอนาคตไปอีกหลายเดือน“เด็กดี เธอนี่มักน้อยไปแล้วนะ”หนุ่มหล่อคว้าเอาตัวพระพายลงมานั่งบนตัก ริมฝีปากหยักคลี่ยิ้มอ่อนโยน มือหนาเชยปลายคางเธอขึ้นสบกับดวงตาคู่คมเปล่งประกาย ส่งผลให้ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายของหญิงสาวสั่นไหว คนตัวเล็กเผลออมยิ้มอย่างลืมตัว แบบนี้มันไม่เป็นผลดีต่อตัวเธอเลย“ทำไมวันนี้คุณถึงมาไวจังคะ”“เบื่ออาหารข้างนอก เลยจะมาฝากท้อ
จันทร์วาดได้ยินเสียงรถจอดอยู่หน้าบ้าน จึงสวมรองเท้าเดินออกไปต้อนรับอย่างรวดเร็ว คราแรกก็คิดว่าจะเป็นรถหรูของคนมีระดับเสียอีก แต่ที่ไหนได้ลูกติดสามีที่จากโลกนี้ไปแล้วนั่งรถแท็กซีมา พลันถอนหายใจออกมาราวกับเสียเวลามายืนรอเมื่อเห็นหญิงสาวในชุดนักศึกษาสองคนก้าวลงจากรถ น้ำเสียงของแม่เลี้ยงก็ดังขึ้น “ผัวแกไม่มาส่งเหรอ แล้วนี่พาใครมาอีกล่ะ”“นี่มะนาวค่ะ เพื่อนของหนูเอง”คนถูกแนะนำตัวยกมือไหว้อย่างมีมารยาท ทว่าแม่เลี้ยงของเพื่อนกลับคว่ำปากพลางกรอกตามองบนอย่างไม่ต้อนรับ มะนาวพอจะรู้จักนิสัยใจคอของหญิงวัยกลางคนคนนี้มาบ้าง จึงไม่ได้ใส่ใจกับพฤติกรรมที่แสดงออกมา“เข้าบ้านก่อน ฉันเพิ่งกลับมาจากตลาด ว่าจะทำลาบหมูที่แกชอบให้กิน”ลาบหมูฝีมือแม่เลี้ยงเป็นเมนูที่พระพายชอบมาก แต่เธอไม่เคยได้กินเมนูนี้เป็นสิบปีแล้ว คิดจะมาทำให้ตอนนี้คงเป็นเพราะหวังผลจากตัวเธอแน่นอน“ไม่เป็นไรค่ะ หนูมาแค่แป๊บเดียวก็จะกลับแล้ว พอดีงานที่อาจารย์สั่งยังทำไม่เสร็จ”หญิงสาวพาเพื่อนเข้าไปนั่งตรงโซฟาภายในบ้าน ภาพบรรยากาศตอนเด็กฉายขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง มันทำให้พระพายมีความสุขมากจริง ๆ แม้ว่าชีวิตหลังจากนั้นจะผิดกันราวฟ้ากับเหว แต่เ
“ฉันอยากฟังเรื่องราวของเธอ ก่อนหน้านี้เป็นมายังไง ทำไมถึงได้ไปทำงานที่บาร์”พระพายอ้ำอึ้งเล็กน้อย เขารู้ถึงขั้นว่าบ้านเธอติดหนี้เสี่ยสมบูรณ์ จึงคิดว่าเล่าออกไปคงไม่เป็นไร ก็เหมือนเป็นการระบายความอัดอั้นที่อยู่ในใจมาตลอดหลายปี“แม่ของหนู ท่านเสียตอนหนูเก้าขวบ ไม่ถึงปีพ่อก็แต่งงานใหม่กับแม่จันทร์ เมื่อก่อนแม่จันทร์นิสัยดีมากเลยนะคะ ช่วยเหลือพ่อทุกด้านเลย แล้วก็ยังรักหนูมากด้วย แต่พอพ่อเสียไปอีกคน แม่จันทร์ก็เปลี่ยนเป็นคนละคน เริ่มไม่ทำงาน ใช้เงินที่พ่อเหลือไว้ให้ไปกับการพนัน แถมยังเกลียดขี้หน้าหนูอย่างกับอะไร มีแค่เหตุผลเดียวที่แม่จันทร์จะคุยด้วยนั่นก็คือเรื่องเงิน หนูเริ่มทำงานตั้งแต่เข้าเรียนมหา’ลัย แต่ยิ่งหาเงินได้ แม่จันทร์ก็โทรมาขอเรื่อย ๆ ถ้าไม่ให้ก็ขู่ว่าเสี่ยสมบูรณ์จะยึดบ้าน แล้วล่าสุดก็ถึงขั้นวางยาเพื่อจับตัวหนูไปให้เสี่ย ถึงได้หนีจนไปเจอคุณนั่นแหละค่ะ”“เธอนี่เก่งนะที่อยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้”ดูก็รู้ว่าไอ้เสี่ยสมบูรณ์เป็นพวกหัวงู อีกทั้งประวัติที่ลูกน้องสืบมาได้ก็ใช่ย่อย เมื่อเทียบกับเขาแล้วมันคนละชั้นจนเทียบไม่ติด อย่างน้อยเขาก็มีข้อแลกเปลี่ยนที่ชัดเจน ไม่เคยเอาเปรียบ หรือ
มือหนาประคองใบหน้าแดงก่ำที่มีคราบน้ำตาหยดลงบนพวงแก้ม ก่อนจะพรมจูบที่ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ พร้อมกับช้อนเอาตัวเธอขึ้นมานั่งบนตัก จับเรียวแขนเล็กทั้งสองข้างขึ้นกอดต้นคอมาคัสรู้วิธีรับมือกับคนอ่อนประสบการณ์ เขาบดคลึงริมฝีปากอวบอิ่มอย่างทะนุถนอม พอเธอเริ่มเผลอตัวก็แทรกลิ้นอุ่นเข้าไปในโพลงปากหวาน ตวัดปลายลิ้นหยอกล้อกับเจ้าของเรือนร่างเย้ายวนใจจนอดใจไม่ไหวหญิงสาวไม่มีท่าทีขัดขืนเพราะรู้ดีว่ามาคัสต้องการอะไร และครั้งนี้เธอก็ยินดีมอบร่างกายให้เขาอย่างเต็มใจ“พร้อมเป็นเด็กเลี้ยงของฉันรึยัง” เสียงพร่าเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา“ค่ะ หนูจะเป็นเด็กเลี้ยงของคุณ แต่คุณต้องสัญญาว่าระหว่างที่เรายังอยู่ในความสัมพันธ์นี้ คุณจะไม่ไปมีอะไรกับคนอื่นเด็ดขาด”“อืม ฉันสัญญา”หนุ่มหล่อหยัดกายขึ้นเต็มความสูง อุ้มหญิงสาวขึ้นในท่าเจ้าหญิงพาตรงไปยังเตียงขนาดคิงส์ไซซ์เขาเริ่มเล้าโลมและจัดการถอดชุดนักศึกษาของเธอทีละชิ้นจนเห็นเรือนร่างผิวพรรณดี สวยไร้ที่ติ จากนั้นก็จัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองต่อคนที่นอนอยู่บนเตียงใจเต้นตึกตัก มองร่างกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม หน้าท้องมีซิกซ์แพ็กเป็นลอนงาม ผิวกายของมาคัสสะอาดสะอ้าน ใ
หญิงสาวเลิกเรียนก็ได้แวะตลาด คัดเลือกวัตถุดิบสำหรับทำอาหารเย็นด้วยตัวเอง เธอคาดเดาว่ายังไงวันนี้มาคัสต้องมาหาอย่างแน่นอนกลับไปถึงเพนต์เฮาส์ก็เริ่มลงมือทำอาหาร ดีที่เธอเคยทำงานเสริมหลายอย่าง ร้านอาหารก็เคยทำ จึงมีทักษะเรื่องพวกนี้อยู่บ้างอาหารสามสี่อย่างพร้อมตั้งโต๊ะ และยังมีข้าวสวยร้อน ๆ ตักไว้อีกสองจานไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาเหมือนที่คิดเอาไว้ หนุ่มหล่อในชุดสูตเดินตรงเข้ามาหา ในมือของเขาถือซองเอกสารมาด้วย ริมฝีปากสวยคลี่ยิ้มอ่อนหวานเอ่ยทักทาย“ไม่เจอกันหลายวันเลยนะคะ หนูเพิ่งทำอาหารเสร็จพอดี มานั่งกินด้วยกันสิคะ”“รู้ได้ยังไงว่าฉันจะมา”“เซนส์หนูมันบอกค่ะ”“ไม่คิดว่าจะแม่นขนาดนี้”มาคัสถอดเสื้อสูตพร้อมกับดึงเนคไทออกวางลงบนเบาะโซฟา วางซองสีน้ำตาลไว้ด้านบนสุด เขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตลงอีกสองเม็ดเพื่อให้โล่งสบาย จากนั้นก็เข้ามานั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับหญิงสาว“ทำเองหมดเลยเหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถาม“ค่ะ ลองชิมดูสิคะ”ทั้งสองเริ่มกินมื้อเย็นด้วยกัน พระพายไม่คิดจะถามถึงเรื่องโฉนดเพราะอยากให้อีกฝ่ายเป็นคนบอกเอง ระหว่างมื้ออาหารก็เป็นบทสนทนาเรื่องทั่วไป กินข้าวอิ่มเธอก็นำจานไปล้างเหมือนว่างา
“ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันต้องการอะไร”“ต้องการให้หนูเป็นเด็กเลี้ยงของคุณ”“พรุ่งนี้ฉันจะไปรับที่มหา’ลัย ไปแจ้งออกจากหอพัก แล้วย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ ฉันไม่อยากให้เธออยู่ที่นั่นคนเดียว”“แต่ว่าหนูยังไม่ได้ตอบตกลงเลยนะคะ”มุมปากของมาเฟียหนุ่มกระตุกขึ้น แววตาของเขาจ้องมองเธออย่างอ่อนโยน มือหนาเลื่อนขึ้นมาจับปอยผมของหญิงสาวขึ้นทัดใบหู ก่อนจะเชยปลายคางของพระพายให้เงยหน้าขึ้นสบตากัน“ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรจนกว่าเธอจะยอมรับข้อเสนอ ส่วนเรื่องโฉนดฉันจะจัดการให้เร็วที่สุด ยังไงเธอก็ต้องเป็นผู้หญิงของฉัน พระพาย”ก่อนออกไปเขาก็ได้ยื่นคีย์การ์ดของห้องนี้ให้กับหญิงสาวในชุดนักศึกษา พร้อมกับแบล็กการ์ดวงเงินไม่จำกัด เอาไว้ใช้จ่ายได้ตามใจ โดยที่เธอยังไม่ได้ตอบตกลงหรือปฏิเสธออกไป.โทรศัพท์ส่งเสียงสั่นเตือนดังครืดครืดอยู่ในกระเป๋าส่งผลให้พระพายไม่มีสมาธิในการเรียน ช่วงพักกลางวันก็มีคนโทรเข้ามาหลายครั้ง เธอจึงกดรับแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ปลายสายก็กรอกเสียงแหลมเข้ามาทันที(แกไปหาเงินมาจากไหนตั้งหลายล้าน เห็นลูกน้องของเสี่ยบอกว่ามีคนมาไถ่โฉนดไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็เอามาให้ฉันเก็บไว้สิ)“...”พระพายนิ่งไปชั่วครู่อย่า







