LOGIN“รถใครมาเหรอจิตรี” นิตยาถามแม่บ้านที่อยู่บริเวณนอกบ้านขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงรถยนต์ดังใกล้เข้ามา
“คุณคินกับเพื่อน ๆ คะคุณหญิง” จิตรี ป้าแม่บ้านผู้อาวุโสของที่นี่ และก็อยู่ที่นี่มาตั้งแต่ที่พวกเขามาตั้งรกรากกันเลย แถมยังเป็นแม่แท้ ๆ ของ ธวัฒน์อีกด้วย
“สวัสดีครับ อานิตเป็นยังไงบ้างครับ” ธีรเมธเป็นฝ่ายทักทายก่อนเมื่อเดินเข้ามาในบ้านตามอคิราห์ พร้อมกับของฝากจากไร่ของเขาด้วย
“สวัสดีลูกดีขึ้นเยอะแล้วล่ะ แต่ยังต้องนั่งรถเข็นอยู่ เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันน่ะ จะได้ไม่ต้องเดินไปไหนมาไหนบ่อย ๆ” นิตยาตอบไปพร้อมกับติดตลก เพราะหากเป็นเมื่อก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุนั้น เขาจะชอบเดินไปสอดแนมที่บ้านลูกชายบ่อย ๆ กลัวลูกชายจะเอาผู้หญิงสาวสำราญมาค้างด้วย
“เดี๋ยวอานิตก็กลับมาเดินได้ครับ” เธียรวัฒน์พูดอย่างให้กำลังใจแม่ของเพื่อนที่พึ่งออกมาพักฟื้นต่อที่โรงพยาบาล หลังจากประสบอุบัติเหตุอาการสาหัสมา
“ว่าไงพ่อตัวดี ถ้าเพื่อนไม่มา ก็ไม่มาหาแม่ที่บ้านเลยนะ ไม่รู้ว่ามีอะไรยุ่งนักหนาขลุกอยู่แต่ที่นั่น” นิตยาหันมาพูดเหน็บแนมทางลูกชายทันที
“ผมงานยุ่งนี้ครับแม่” อคิราห์เอาแต่ตอบทีเล่นที และยกเอางานที่ไร่มาอ้างขึ้นอีกตามเคย
“งานยุ่งแล้วทำไมไม่จ้างเลขา หรือไม่ แกก็หาเมียสักคนสิ อายุก็ขนาดนี้แล้ว” นิตยาต่อว่าลูกชายออกมาต่อหน้าเพื่อน ๆ ที่วัน ๆ เอาแต่สนใจงานจนมากเกินไป
“เรื่องหาเมียมันไม่ยากหรอกครับแม่ เอาตอนไหนก็ได้” อคิราห์ตอบแม่ออกไปโดยไม่ต้องคิดอะไรให้มาดูความ เพราะคนอย่างเข้าที่หน้าตาดีเป็นทุนเดิมอยู่เพียงแค่อายุจะเลยเลขสามมาแล้วก็เถอะ
หากว่าเขาต้องการ พวกผู้หญิงก็พร้อมจะถวายกายให้อยู่แล้ว เพียงแต่เขาไม่จริงจังก็เท่านั้นเอง ให้เอาเพื่อสนองความต้องการเขาเอาได้ แต่ถ้าจะให้เอามาเป็นแม่ของลูก เขาก็ต้องเลือกหน่อย
“หยุดคิดที่จะเอาพวกหญิงสาวที่วิ่งเข้าหาเพราะเงินมาเป็นเมียเด็ดขาด และอย่าไปหลงกลผู้หญิงพวกนั้นเหมือนพ่อแกด้วย ผู้หญิงพวกนั้นก็เก่งแค่เรื่องบนเตียงเท่านั่นแหละ ถ้าภายในปีนี้แกยังไม่มีเมีย แม่จะหาให้เอง”
“อานิตครับ พวกเราก็อายุพอ ๆ กันยังไม่มีใครมีเมียกันเลย” เธียรวัฒน์ที่ทนฟังแม่ลูกเถียงเรื่องพวกนี้ก็พูดขึ้นมาบ้าง ไม่ต่างจากแม่เขาเลยจริงๆ แต่ดีที่แม่เขามีหลานให้เลี้ยง เพราะน้องสาวพึ่งจะมีครอบครัวให้
“แบบนี้ไง ถึงคบกันมาได้จนถึงทุกวันนี้ แต่พวกเรายังมีพี่น้อง แถมมีหลานกันแล้วด้วย ส่วนอานี้สิอายุก็เยอะแล้ว แล้วอาก็มีมันแค่คนเดียว อาก็ต้องการหลานมาสืบสกุลนะ” นิตยาคงยังวนกลับมาพูดเรื่องลูกชายเหมือนเดิม
“ครับ เดี๋ยวจะรีบหาเมีย แล้วรีบมีหลานให้แม่เร็ว ๆ นี้เลยครับ” อคิราห์พูดรับปากออกมา เพราะอยากมลให้แม่สบายใจ จะได้เลิกบ่นเขาเรื่องนี้เสียที
“แกพูดอย่างกับแกมีแฟนอย่างนั้นแหล่ะตาคิน” นิตยาหันมาถลึงตาใส่ลูกชายที่ชอบพูดเล่น ที่เห็นเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องตลก
“ไม่มีใครหรอกครับ”
“ก่อนจะมีเมียมีลูก ขั้นแรกมึงก็หาแฟนให้ได้ก่อนเถอะ” ธีรเมธขัดขึ้นมาเสียก่อน เมื่อทนฟังอคิราห์พูดเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องเล่น ๆ
“ภายในปีนี้แน่ แม่รอผูกขวัญหลานหนัก ๆ เลย ผมจะทำให้แม่ดู” อคิราห์พูดขึ้นมาอย่างมั่นใจ แล้วหันไปทางแม่ของเขาที่นั่งอยู่บนวีลแชร์
“มั่นใจมากนะมึง” เธียรวัฒน์สวนขึ้นมาอย่างหมั่นไส่ในความมั่นหน้าของอคิราห์ พร้อมกับส่ายหน้าเบา ๆ ให้กับเขาด้วย
“...” อคิราห์เงียบ พร้อมกับหลบสายตาที่ทุกคนมองมาทางเขาทันที
“หรือมึงแอบไปมีแฟนจริง ๆ วะไอ้คิน” เธียรวัฒน์จึงเค้นถามอคิราห์ออกมาอีก
“ไม่มี กูอยู่แต่ไร่จะเอาเวลาไหนไปมีแฟน ไปเที่ยวก็มีพวกมึงไปด้วยกันตลอด ก็รู้ ๆ กันอยู่นี้” อคิราห์รีบปฏิเสธทันควัน
“ไม่รู้แหล่ะ เผื่อมึงแอบสารสัมพันธ์กับใครต่อ พวกกูจะรู้หรือไง” เธียรวัฒน์พูดพร้อมกับหันหน้าไปทางธีรเมธที่นั่งอีกฝั่ง พร้อมขยิบตาให้อย่างรู้ ๆ กัน ไอ้นี่มันพูดเป็นนัย ๆ เหมือนจะสื่ออะไร แถมที่บ้านก็ยังทำตัวมีพิรุธอีก
“กูไม่สารสัมพันธ์กับผู้หญิงพวกนั้น พวกมึงก็เป็นเหมือนนี้” อคิราห์พูดพร้อมกับยกน้ำขึ้นดื่ม
“พวกลูกนั่งคุยกันไปตามสบายเลยนะ แม่จะออกไปรับลมที่ด้านนอกหน่อย” นิตยาจึงขอตัวออกไปจากตรงนั้น แล้วปล่อยให้ สามหนุ่มได้อยู่กันตามลำพัง
กรุงเทพมหานคร
“พึ่งจะกลับมาเองน่ะ...ลูกมีงานที่ไหนต่ออีกหรือ แต่งตัวสะสวยเชียววันนี้” พลอยไพลินถามขึ้นมา เมื่อเห็นลูกสาวสุดที่รักแต่งตัวสวยลงมา
“อีเว้นนิด ๆ หน่อย ๆ คะแม่ เพราะสัปดาห์ก็ต้องเดินทางไปถ่ายที่ต่างจังหวัดกันแล้ว” หญิงสาวเอ่ยตอบแม่ออกไปตามตรง
“รอบนี้ไปที่ไหนล่ะ...ให้แม่ไปด้วยไหม” พลอยไพลินถามลูกสาวออกมาด้วยความเป็นห่วง ที่ต้องไปไกลถึงต่างจังหวัด และยังเป็นผู้หญิงอีก เธอก็เป็นห่วงลูกตามประสาแม่
“พี่แนตตี้บอกว่าโลเคชั่นถ่ายในไร่องุ่นคะทางตอนเหนือเลยคะ” หญิงสาวตอบผู้เป็นแม่ออกมาตามตรง เพราะไม่ค่อยมีความลับต่อกัน แต่จะมีบางเรื่องที่ปิดบังอยู่
“ทำไมต้องไปถึงเหนือด้วย แถว ๆ นี้ก็มีส่วนองุ่นนี้...” พลอยไพลินถามออกไปด้วยความอยากรู้ เพราะลูกสาวไม่ค่อยชอบออกกองนอกสถานที่
“ผู้จัดอยากได้บรรยากาศมั้งค่ะแม่...พราวกะว่าไปรอบนี้ตั้งใจจะพายัยแพรไปด้วยเพราะตรงวันหยุดพอดี แต่ยัยแพรก็หนีหายเงียบเสียดื้อ ๆ” หญิงสาวพูดขึ้นกับแม่ เพราะไปต่างจังหวัดที่ไร เธอจะเอาสิตาพัชร์ไปช่วยดูแลเธอตลอด
“เรื่องของมันเถอะ มันก็ใกล้จะอายุ 20 แล้วนี้ หรือว่ามันอยากจะออกไปจากที่นี่เร็ว ๆ” พลอยไพลินพูดขึ้นอย่างไม่สนใจ
เพราะเธอไม่เคยสนใจเรื่องของลูกสามีอีกคนอยู่แล้ว ว่าจะเป็นแบบไหน แค่อย่ามาทำให้ครอบครัวเธอเดือดร้อนก็พอ เพราะตั้งแต่ที่สิตาพัชร์ลืมตาขึ้นมาดูโลก เธอกับสาวน้อยคนนั้น ก็ต่างคนต่างอยู่ตลอด
ส่วนลูกสาวของเธออย่างพัชร์สิตา ก็ไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่อยู่แล้ว เพราะทั้งคู่อายุห่างกันมาก และถูกเลี้ยงดูมาต่างกัน
บทส่งท้าย(จบ)ทุกคนและญาติสนิทต่างพากันมามุงอยู่ที่ห้องหอของคู่บ่าว-สาว โดยที่อคิราห์ใช้บ้านของเขานั้นเอง ที่แปลงโฉมมาเป็นเรือนหอของเขาและเธอ“แม่ก็ไม่มีอะไรจะพูดน่ะ เพราะลูกชายแม่ก็อายุปาไปขนาดนี้แล้ว เชิญคุณพงษ์กับคุณพลอยดีกว่าคะ” นิตยาพูดขึ้นมาทันที“ผมขอเป็นตัวแทนก็แล้วกันน่ะ” พงษ์พิพัฒน์จึงเป็นฝ่ายพูดพูดขึ้นเอง“เชิญคะ” นิตยาอนุญาตทันที“พ่อขอให้ลูกทั้งสอง มีแต่ความสุขในชีวิตคู่รักกันไปจนแก่เฒ่า จนกว่าจะตายจากกันเลยนะ ผิดถูกรู้จักให้อภัยกัน จำไว้น่ะ การแต่งงานมันคือตอนจบของบทละคร แต่ชีวิตจริงแล้วมันคือการเริ่มต้นของชีวิตคู่ต่างหาก สุดท้ายนี้ พ่อขอให้ลูกทั้งสองรักกันให้เหมือนวันแรกที่รักกันน่ะ มีลูกเต็มบ้าน มีหลานเต็มเมืองเลย” พงษ์พิพัฒน์ร่ายยาวออกเป็นคำสอนทันที“ขอบคุณครับ/คะ” ทั้งคู่เอ่ยขอบคุณพร้อมกับยกมือไหว้ด้วยทันที ที่พงษ์พิพัฒน์เอ่ยจบ“ประโยคสุดท้ายนี้ ผมจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังแน่นอนครับ ตอนนี้ก็มีแล้วอยู่ในท้อง รอคลอดอีกจะจัดให้อย่างงามเลยครับ” อคิราห์พูดขึ้นมาทันที เมื่อนึกถึงคำสอนของพ่อตา แล้วเอ่ยรับปากออกมาอย่างมั่นใจในตัวเอง“พี่คิน!” หญิงสาวข้างกายตวัดสายตามองค้อนใส่สา
วิวาห์ พารักหนึ่งเดือนต่อมาไร่อคิราห์บรรยากาศงานแต่งงานของทั้งคู่ ถูกจัดขึ้นมาในไร่ของเขาเอง ที่เต็มไปด้วยความชื่นมื่นของแขกเหรื่อแต่เรียบง่าย มีการเชิญแค่ญาติสนิทของทั้งสองฝ่ายมาร่วมเป็นสักขีพยาน และคนงานในไร่เพียงเท่านั้น ตอนแรกเขาตั้งใจจะจัดงานที่ใหญ่โต ประกาศข่าวให้โลกรู้ไปเลย แต่สิตาพัชร์ขอเอาไว้ด้วยแล้วมีหรือที่คนอย่างเขาจะกล้าขัดใจเมียรัก ขอแค่เธอปริปากพูด เขาก็พร้อมจะสยบในทันที แล้วอีกอย่างเธอก็ตั้งครรภ์อยู่ด้วย หากว่าแขกเหรื่อมากันเยอะ ก็จะต้องต้อนรับกันนาน เกรงว่าภรรยาของเขาจะเหนื่อยเอาด้วย“ว่าไงไอ้เจ้าบ่าว และว่าที่คุณพ่อ มาแรงแซงพวกกูเลยน่ะมึง” ธีรเมธเอ่ยแซวขึ้นมาทันที ที่เดินเข้ามาหาทั้งคู่ พร้อมกับเธียรวัฒน์ ที่เดินมาตามหลังสบทบด้วยอีกคน“พวกพี่คุยกันไปก่อนเลยน่ะ แพรขอตัวไปหาป้าติ๋มกับคุณพ่อก่อน” สิตาพัชร์เมื่อเห็นว่าเพื่อนของสามีมา เธอจึงขอตัวออกมาจากตรงนั้น เพื่อที่จะให้พวกเขาได้คุยกันสะดวกขึ้น ในฐานะเพื่อนสนิทกัน“เดินระวังนะครับ แล้วอย่าไปนานล่ะ ใกล้จะถึงเวลาเข้าห้องหอแล้ว” เสียงนุ่มเอ่ยบอกด้วยความเป็นห่วง เพราะเธอไม่ค่อยระวังตัวเลย แถมยังส่งสายตาเจ้าเล่ห์มองเธอ
สิ่งล้ำค่ารุ่งเช้าบ้านโยธาพิวัฒน์พงษ์พิพัฒน์ให้เจ้าหน้าที่อำเภอเข้ามาที่บ้าน เพื่อดำเนินเรื่องการจดทะเบียนสมรสของลูกสาวคนเล็กในวันนี้เดิมที่อคิราห์จะพาเธอไปที่สำนักงานเขตเอง แต่เพราะเธอกำลังตั้งครรภ์อ่อน ๆ อยู่อาจจะไม่ค่อยสะดวก ผู้เป็นพ่อเลยให้เจ้าหน้าที่เข้ามาที่บ้านแทนเสียเองและเมื่อคืนเขาก็ไม่ได้กลับไปพักที่คอนโดฯ เขาอยู่ที่บ้านหลังนี้กับเธอ โดยที่เขาให้เมฆากับนิตยาผู้เป็นแม่กลับไร่ไปก่อน ส่วนตัวเขาจะขอพาสิตาพัชร์ทำธุระ จัดการทุกอย่างทางนี้เสร็จแล้วจะกลับไปที่ไร่ และจัดงานแต่งขึ้นทันที“หนูอยากเปลี่ยนชื่อไหมหนูแพร” พงษ์พิพัฒน์ผู้เป็นพ่อถามลูกสาวขึ้นมาทันที“ไม่ค่ะ แพรว่าชื่อนี้ก็ดีอยู่แล้ว” เธอรีบปฏิเสธในทันทีที่พ่อของเธอถามถึงเรื่องนี้“ทำไม่ล่ะแพร” อคิราห์ถามเธอขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจในความคิดของเธอ เมื่อเธอปฏิเสธพ่อของเธอเช่นนั้น “ก็เพราะชื่อนี้ยังไงล่ะคะ ถึงทำให้แพรกับพี่คินได้มาเจอกัน แล้วก็รักกัน...” เธอพูดขึ้นมาด้วยน้พเสียงที่อ่อนนุ่ม พร้อมกับจ้องมองเขาด้วยสายตาที่น้ำตาคลอเบ้าอย่างหวานซึ้งอคิราห์ที่ได้ยินดังนั้น กลับพูดไม่ออกทันที เพราะไม่รู้จะสันหาคำไหนมาขอบคุณเธอ จึงได
เลี้ยงต้อนรับลูกเขยทุกคนที่ยังคงอยู่กันที่บ้านหลังนี้ต่อ คุยเสวนากันตามคนที่พึ่งจะผูกดองกัน และร่วมรับประทานมื้อกลางวันร่วมกันเป็นครั้งแรก โดยพงษ์พิพัฒน์ได้จัดเลี้ยงฉลองให้แก่หญิงสาวที่เป็นลูกสาวคนเล็ก และว่าที่ลูกเขยหมาด ๆ ที่ริมสระน้ำข้างบ้าน“รถใครมาอีกล่ะ...ติ๋มไปดูหน่อยสิ” เสียงผู้นั่งหัวโต๊ะของพงษ์พิพัฒน์พูดขึ้น เมื่อได้ยินเสียงรถดังเข้ามาภายในบริเวณบ้านอย่างสงสัย เพราะตนมั่นใจว่าไม่ได้เชิญใครที่ไหนแล้วทุกคนที่อยู่กลางวงสังสรรค์นั่น หยุดทุกการกระทำ แล้วหันไปตามต้นเสียงที่ได้ยินเสียงรถกันอย่างสามัคคีกันทุกคน และติยาแม่บ้านของที่นี่ จึงรีบเดินออกไปแต่ไม่ทันที่จะถึงเป้าหมาย“พราว!” เสียงเอ่ยเรียกชื่อขึ้นมาดังขึ้น พร้อมกับชายหนุ่มเจ้าของเสียง ร่างสูงโปร่งเดินเข้าไปหาสิตาพัชร์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ใกล้กันพงษ์พิพัฒน์และอคิราห์ทันที ที่เดินเข้ามาถึงวงสังสรรค์ติยาเมื่อทราบว่าชายหนุ่มผู้นี้คือใคร ก็รีบขึ้นไปตามหญิงสาวที่อยู่ชั้นบนของบ้านในทันที เพราะเกรงว่าจะมีปากเสียงกัน“หยุดครับ” อคิราห์รีบลุกขึ้นเอ่ยห้าม และรีบดึงหญิงสาวข้างกายเข้ามาใกล้ตัว แล้วเอาตัวเขาเอาบังเอาไว้ทันที“แกเป็นใครว
เล่นใหญ่“พี่คิน!” หญิงสาวตวัดสายตาค้อนใส่ทันที เมื่อได้รับรู้ถึงความเจ้าเล่ห์ของเขา แล้วหยิกเข้าไปที่ต้นแขนของเขาด้วยอย่างแรง“โอ้ยยย” อคิราห์ร้องออกมาเสียงหลงทันที เมื่อถูกคนที่นั่งข้างกายหยิกเข้ามาที่ต้นแขนเต็ม ๆทุกคนที่ยังอยู่บริเวณนั้น ต่างพากันหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ และเอ็นดูทั้งคู่ เมื่อคนอย่างอคิราห์ที่ไม่เคยยอมใครมาก่อน กลับต้องสยบให้แก่หญิงสาว“ดูก็รู้แล้วนะครับว่าใครจะมีอำนาจสูงสุดต่อไปนี้” เมฆาที่นั่งอยู่กับพื้น ใกล้ ๆกับเหล่าบรรดาแม่บ้านและคนสวนของบ้าน ต่างพากันซุบซิบออกมาเสียงดังพอที่จะให้ทุกคนได้ยิน“ไอ้เมฆ!” อคิราห์หันมาจ้องโทษที่เมฆาไว้ทันที ด้วยสาตายที่ดุดัน“เอาล่ะ มีกันอยู่แค่นี้ ก็ทำพิธีกันแค่นี้แหล่ะ ไหนล่ะแหวนเอามาสวมให้น้องสิ ทำพอแต่เป็นพิธีไปก่อน” พงษ์พิพัฒน์พูดขึ้นมาอย่างเป็นจริงเป็นจังทันที“แม่ครับ” อคิราห์หันไปนิตยาทันที เพราะเขาก็ลืมเรื่องนี้จนสนิท จะมาทาบทามลูกดสาวเขาแต่กลับมาเสียตัวเปล่า“แหวนวงนี้อาจจะไม่ได้มีราคาแพงมากนัก แต่เป็นแหวนประจำตระกูลของแม่เอง ถึงจะสู้ราคาหลายล้านจากสร้อยคอของหนูแพรไม่ได้ แต่มันก็เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่ล้ำค่าที่สุด ที่แม่เต็
สารภาพต่อหน้าผู้ใหญ่“ดิฉันขอไม่พูดอ้อมค้อมเลยแล้วกันนะคะ ที่จริงแล้วคนที่ลูกชายดิฉันจะให้มาสู่ขอ คือหนูแพรวา ลูกสาวคนเล็กของบ้านนี้ต่างหากคะ”“สู่ขอยัยแพร!” พัชร์สิตาเน้นย้ำ“ใช่แล้วค่ะ เพราะหนูแพรคือแฟนของตาคิน และคนที่ทำหนูแพรท้องก็คือตาคินนี้แหละค่ะ ทั้งคู่รักกัน แล้ววันนี้ก็ถือว่าเป็นวันดีเลยมาทำทุกอย่างให้ถูกต้องสักที ถึงจะข้ามขั้นไปหน่อย แต่ทางเรายินดียอมรับหนูแพรเป็นลูกสะใภ้คะ” นิตยาร่ายยาวออกมาทันที“ร้ายมากเลยน่ะครับลูกชายคุณ เอ่อ...” พงษ์พิพัฒน์พูดแหย่ทางอคิราห์ แล้วหันมาถามทางนิตยาต่อ“นิตยาคะ หรือเรียกว่านิตก็พอ และยังเป็นภรรยาที่ถูกต้อง ตามกฎหมายของ นายอัครา รัตนสืบสิงห์ พอจะคุ้นบ้างไหมค่ะ คุณพราวฟ้า!” นิตยาบอกกับพงษ์พิพัฒน์ในประโยคแรก แต่ประโยคหลังกลับเน้นเสียงขึ้น แล้วหันมาทางพัชร์สิตาแทนทำเอาพัชร์สิตาที่ได้ยินดังนั้น แทบจะนั่งไม่ติด เพราะชื่อผู้ชายที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่ไม่คิดว่าจะเป็นครอบครัวเดียวกันกับอคิราห์ แถมยังเป็นพ่อลูกกันอีก“ลูกชายคุณนิตไม่รู้หรือครับ ว่าลูกสาวผมยังเป็นผู้เยาว์อยู่เลย” พงษ์พิพัฒน์พูดขึ้นอีกครั้ง“ทราบคะ ตาคินทราบดีว่าหนูแพรยังเด็ก แต่ทำอย







