กรุงเทพมหานคร
บนพื้นห้องนอนในคอนโดฯสุดหรู ที่เต็มไปด้วยเศษซากถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว กระจายเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด สองร่างเปลือยเปล่ายังคงกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันแน่นแฟ้นอยู่ที่นอนกว้างนั้น ในคอนโดฯหรูของพระเอกหนุ่มอย่างเทวินทร์ ที่เป็นคู่ขาคนใหม่ของพัชร์สิตา
“วินพอแล้วนี่มันสายมากแล้วน่ะ พราวต้องกลับแล้ว” หญิงสาวเอ่ยห้ามเมื่อชายหนุ่มยังคงคลอเคลียไม่หยุด
“ขออีกรอบได้ไหม?” เสียงกระเส่าเอ่ยขอขึ้นมา แต่ยังปากก็ยังคงทำหน้าที่จูบซับไปตามซอกคอขาวของเธอ
“แต่เมื่อคืนพราวก็ให้ทั้งคืนแล้ว จนแทบจะไม่ได้นอนเลยนะ” หญิงสาวเอ่ยบอก เพราะคืนเร้าร้อนที่ผ่านมา ก็แทบจะไม่ได้พักเลย ไม่รู้ว่าจบไปกี่รอบต่อกี่รอบ นับจากสภาพเศษซากถุงยางอนามัยแล้ว แทบจะไม่เชื่อสายตาด้วยเองด้วยซ้ำ ว่าทำลงไปได้ยังไง ไม่ใช่ไม่ชอบเรื่องพวกนี้น่ะ แต่เพราะเธอมีงานต่อ
“ก็พราวเด็ดนี่ อีกรอบนะครับ เดี๋ยววินจะรีบเร่งให้ แล้วจะรีบไปส่งพราวที่บ้านนะ” ชายหนุ่มเอ่ยบอกด้วยประโยคที่หว่านล้อมหญิงสาว
“...แต่ อย่าทำรอยน่ะ เย็นนี้พะราวมีงาน” หญิงสาวรีบเอ่ยห้าม เมื่อชายหนุ่มขบเม้มที่ซอกคอของเธอ
“ครับ” เสียงครางกระเส่ารับคำ แล้วซุกไซร้ซอกคอของเธอ ก่อนที่จะไถลมาจูบบดเบียดที่ปากต่อ ให้เผลอไผลไปตามการชักจูงของเขา แล้วก้มลงจูบปิดปากเธอทันที อย่างดุดัน โดยที่เธอไม่อาจปฏิเสธเขาได้เลย เพราะเธอก็จูบตอบเขาอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน แล้วบทเพลงอันเร้าร้อน ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง
ไร่อคิราห์
“ขึ้นไปทำอะไรนานจังว่ะ ลืมไปแล้วหรือไงว่ามีพวกกูรออยู่” ธีรเมธถามขึ้นมาทันที ที่อคิราห์เดินลงมานั่งที่เดิม เมื่อเขาขึ้นไปด้านบนอยู่นานสองนาน
“ไปเอาโทรศัพท์ไง” อคิราห์ตอบกลับคนที่ถาม พร้อมกับชูโทรศัพท์มือถือขึ้นเพื่อนทั้งสองดู
“เหรอ นึกว่ามีอะไรซ่อนอยู่ด้านบน” เธียรวัฒน์แซวออกมาอย่างหยอกล้อ ด้วยท่าทีที่เล่น ๆ
“อะไรของมึง ไม่มีทั้งนั้นแหละ ว่าแต่พวกมึงมานี่ แวะหาแม่กูยัง ถึงหอบของกันมาที่นี่สะเยอะเลย” อคิราห์รีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที เพื่อเบายงเบนความสนใจ
“ยัง มาหามึงก่อนนี่แหละ” ธีรเมธตอบบอกมาบ้าง
“ถ้าอย่างนั่นก็ไปบ้านแม่กูกัน เอาของฝากพวกมึงไปให้ท่านที่บ้านด้วยเลย” อคิราห์เพื่อนทั้งสองขึ้นทันที เพื่อที่จะได้ออกจากที่นี่ให้เร็วโดยเร็วที่สุด
“มึงจะรีบไปไหน นาน ๆ ทีพวกกูจะมีเวลามาหา บ้านแม่มึงไม่หนีไหนหรอก” ธีรเมธพูดขึ้น เมื่อเห็นท่าทีกระวนกระวายของเจ้าของไร่
“ก็ที่นี่มันไม่ค่อยโอเค ไปบ้านแม่กูนั้นแหละสะดวกสบายดี” อคิราห์หาเหตุผลมาอ้าง เพราะที่บ้านของเขาตอนนี้ไม่สะดวกจริง ๆที่จะให้เพื่อนอยู่กันนาน
“มึงดูมีพิรุธนะไอ้คิน” เธียรวัฒน์เสริมขึ้นมา เพราะอาการของอคิราห์ที่แสดงอย่างชัดเจนถึงความเป็นกังวล
“พิรุธอะไร ไม่มี๊” อคิราห์รีบปฏิเสธทันที
“เสียงสูงไป” ธีรเมธแซวออกมา
“ไปกันได้แล้ว แม่กูอยากเจอพวกมึงด้วย ถามหาตลอดเลยว่าเมื่อไหร่พวกมึงจะมาอีก” อคิราห์ลุกขึ้น แล้วรีบลากเพื่อนทั้งสองออกมา
ทั้งสามจึงขับรถออกไปจากที่นี่ โดยมุ่งหน้าไปที่บ้านหลังใหญ่ใกล้ทางเข้าไร่ ซึ่งก็คือบ้านที่แม่เขาอยู่ตอนนี้นั้นเอง และปล่อยให้หญิงสาวอยู่ด้านบนคนเดียว เพราะไม่อยากให้เพื่อนรู้ว่าเขากำลังทำอะไร
เมื่อทั้งสามหนุ่มออกจากบ้านไปแล้ว ธวัฒน์ก็เอาอาหารมาให้หญิงสาวตามคำสั่งของเจ้านายหนุ่ม ที่ได้สั่งการเอาไว้
“คุณครับ อาหารมาส่งแล้วครับ” ธวัฒน์เอ่ยเรียก เมื่อเดินเข้ามาในบ้าน กลับไม่พบใครเลย และเขาไม่กล้าเข้าไปด้านในเหมือนเช่นที่เคยทำ
เพราะตั้งแต่ที่มีสิตาพัชร์เข้ามา อคิราห์ก็สั่งห้ามให้คนเข้าในบ้านก่อนที่จะได้รับอนุญาตทันที เขาก็ไม่เข้าใจว่าเจ้าหนุ่มกำลังทำอะไร บางทีก็ดูแค้นหญิงสาวมาก บางครั้งก็ออกอาการแสดงความเป็นห่วงหญิงสาว แต่ก็ช่างเถอะ เพราะมันเป็นเรื่องของเจ้านาย เขาเพียงทำตามหน้าที่เท่านั้น
“เอ่อ ขอบคุณนะคะ วางไว้ตรงนั่นก็ได้คะ เดียวแพรจัดการเอง คุณวัฒน์กลับไปทำงานต่อเถอะค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” สิตาพัชร์เอ่ยบอก พร้อมกับชี้นิ้วไปที่โต๊ะอาหารอีกฝั่งหนึ่ง เมื่อเดินลงมาเห็นชายหนุ่มยืนรออยู่ที่หน้าประตูบ้านพอดี
“ไม่ต้องเรียกผมว่าคุณหรอกครับ” ธวัฒน์รีบถ่อมตนทันที ที่หญิงสาวเรียกเขาว่าคุณ แล้วเดินเข้าไปภายในบ้าน วางของลง
“ถ้าอย่างนั้น แพรขอเรียกว่าพี่วัฒน์ละกันนะคะ ดูพี่ก็อายุเยอะมากกว่าแพรด้วย” หญิงสาวเอ่ยบอก พร้อมกับส่งยิ้มออกมาให้ด้วยสายตาที่ดูเป็นมิตร
“ทำไมคุณแทนตัวเองว่าแพรละครับ ไม่แทนว่าพราวเหมือนที่นายใหญ่เรียก” ธวัฒน์ถามด้วยความสงสัยทันที ที่ได้ยินหญิงสาวแทนตัวเองอีกชื่อ
“นายใหญ่เป็นใครหรือคะ” หญิงสาวถามออกไปด้วยความสงสัยทันที เพราะเธอไม่ทราบว่าชายหนุ่มพูดถึงใคร แล้วเขาผู้นั้นเกี่ยวโยงอะไรพี่สาวเธออีก
“ก็คนที่รักคุณพราวที่สุดนั่นแหละครับ”
“แพรชื่อ แพรวาค่ะ ส่วนพราวก็ เอ่อ...ใครหรือคะ” สิตาพัชร์พูดออกมาตรง และกำลังจะเอ่ยบอกความจริง แต่ก็ต้องหยุดชะงักคำพูดนั้นเอาไว้ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าพี่สาวต่างพ่อเคยบอกเอาไว้ ไม่ให้เธอบอกใครว่าเป็นพี่น้องกัน และเธอคือลูกต่างแม่ เธอไม่อยากให้มีเสื่อมเสียของครอบครัวแพร่ออกไปอีกด้วย
“ไม่มีอะไรแล้ว ถ้าอย่างนั้นเชิญคุณแพรวาตามสบายเลยนะครับ ผมขอตัวไปทำงานต่อก่อน”
เมื่อชายหนุ่มเดินออกไปจากบ้านแล้ว หญิงสาวจึงจัดแจงแกะอาหารออกมา เพื่อที่จะได้รับประทาน เพราะเธอหิวมากแล้วด้วย ขณะที่มือยังคงวุ่นวาย
ความรู้สึกหลากหลายเมื่อสักครู่ก็เกิดขึ้นมา พลางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย พี่สาวของเธอคงไปทำอะไรไว้ แล้วเอาชื่อเธอไปแอบอ้างอีกแน่เลย เพราะครั้งหนึ่งก็เคยมีคนโทรมาขู่เธอบ่อย ๆ ว่าให้เธอเลิกยุ่งกับสามีคนอื่น ทั้ง ๆ ที่เธอพึ่งจะอายุแค่นี้ แถมไม่เคยมีแฟนด้วย เธอจะไปยุ่งกับใครได้ยังไง วัน ๆ เธอก็สนใจแต่กับการเรียน จนแทบจะไม่เคยได้ออกไปเที่ยวไหนเสียด้วยซ้ำ
“เฮ้อ พี่ไปทำเรื่องอะไรไว้อีกพี่พราว แล้วพี่เกี่ยวข้องอะไรกับคนที่นี่ด้วย เขาถึงเอาตัวแพรมาแบบนี้”
บทพิสูจน์ NC“แพร...” ร่างสูงก้มลงมาจูบปากของเธออีกครั้ง เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจกึก กึก สวบ“กรี๊ดดด...เจ็บ ฮือ เอามันออกไป แพรไม่เอาแล้ว”เขาดันตัวตนลงไปที่เดียวจนมิดด้าม ด้วยความอยากลำบาก และรับรู้ถึงเยื้อผนังกั้นบาง ๆ ที่เขาทำลายลง ทำให้เขาทราบได้ทันที ว่าเธอไม่ใช่คนที่พ่อเขามีสัมพันธ์ด้วย เขาจึงแช่ตัวตนไว้เพื่อให้เธอได้ปรับตัว“แพร...” เสียงกระเส่าเอ่ยเรียกชื่อของเธอใบหน้ามีรอยยิ้มผุดขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ เมื่อได้รู้ว่าเขาได้เป็นคนแรกของเธอ ถึงแม้จะไม่รู้เลยว่าเธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร แต่ตอนนี้ไม่สนแล้ว ขอกอบโกยความสุขตรงนี้เอาไว้ให้หนำใจเสียก่อน“เจ็บ...ฮือ” เสียงสั่นสะอื้นเอ่ยขึ้นบอก พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาดั่งสายธาร“แพร! พี่ถอยไม่ได้แล้ว” เขาเปลี่ยนสรรพนามเรียกแทนตัวเองกับเธอทันที พร้อมกับน้ำเสียงที่อ่อนโยนกับเธอขึ้นมา แล้วมือก็ช้อนคางเธอขึ้นมาให้สบตากับเขา“...” หญิงสาวไม่โต้ตอบอะไรเข้ากลับ เอาแต่หลบสายตา พร้อมกับน้ำตาที่ยังคงไหลออกมาไม่หยุด“ขอโทษที่ไม่สืบให้ดีกว่านี้ก่อน ขอโทษที่ไม่ยอมฟังคำอธิบายของแพร และขอโทษที่จับตัวแพรมา แต่ขอบคุณน่ะ ที่ให้พี่ได้เป็นคนแรกของแพร มีความสุข
พิสูจน์หาความจริง NCธวัฒน์เอาสำรับ สำหรับมื้อเย็นของเจ้านายมาให้ แล้วกลับออกไปทันที ไม่ได้อยู่นาน เพราะไม่เห็นเจ้านายหนุ่มอยู่ที่ด้านล่าง คงจะทำงานอยู่ด้านบนเหมือนเช่นเคย แถมเวลาที่เขาทำงาน ทุกคนจะไม่กล้าเข้าไปเรียกเป็นอันขาด เพราะเขาเป็นคนที่จริงจังในการทำงานส่วนด้านเจ้าของบ้านเองนั่งมองหญิงสาวที่หลับอยู่บนที่นอน นานสองนานเธอก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย มือหนาเอื้อมขึ้นไปตรงที่หน้าอกของหญิงสาว แค่เปิดเสื้อดูก็รู้แล้วนี้ว่าใช่หรือไม่ใช่ ไม่ต้องพิสูจน์อะไรมากมายตามคำแนะนำของธวัฒน์ด้วย“คุณ! จะทำอะไร” หญิงสาวถามขึ้นทันที เมื่อลืมตาขึ้นมา กลับพบมือของร่างสูงอยู่ตรงหน้าอกของเธอ“เอ่อ...คือ?” อคิราห์รีบชักมือกลับมาอย่างไว และได้แต่อ้ำอึ้ง เพราะไม่รู้ว่าจะแก้ตัวกับเธอว่าอย่างไร“ถอยออกไปเลยน่ะ คิดจะฉวยโอกาสฉันเหรอ ไหนว่าฉันไม่ใช่สเปคของคุณยังไงล่ะ” หญิงสาวรีบลุกขึ้น แล้วดึงผ้าห่มขึ้นคลุมถึงอกทันที“คือ ฉันเพียงแค่ต้องการพิสูจน์อะไรสักอย่างเพื่อความแน่ใจ ไม่คิดจะทำอะไรอย่างที่เธอคิดหรอก” อคิราห์พูดบอกตามตรง“พิสูจน์อะไร ถึงจะมาจับที่หน้าอกฉันด้วย ไอ้ลามก!” หญิงสาวไม่ได้สนใจในคำพูดของเขา แถม
อยากพิสูจน์ทางด้านของพงษ์พิพัฒน์เมื่อลูกสาวคนเล็กที่เกิดจากภรรยาอีกคน หายตัวไปหลายวันแล้ว แถมติดต่อก็ไม่ได้ ก็มีความกระวนกระวายใจอยู่ไม่น้อย จึงจ้างให้คนคอยตามสืบไปทุกที่ ที่หญิงสาวเคยไป หรือเพื่อนที่หญิงสาวรู้จัก แต่ก็ยังไร้วี่แววข่าวคราวของเธอ เพราะกระเป๋าและโทรศัพท์มือถือถูกตัดระบบหมด แถมหญิงสาวยังใช้เพียงโทรศัพท์เครื่องธรรมดาอีกด้วย จึงตามตัวได้ยาก“หนูหายไปไหนแพรวา” เสียงทุ้มพูดคนเดียวอย่างเหนื่อยใจและหมดหวัง เมื่อคนที่จ้างวานสืบข่าวของลูกสาวคนเล็ก แจ้งมาว่ายังไม่มีข่าวคราวอะไรเขาจ้างให้คนตามสืบข่าวอยู่เงียบ ๆ เพราะไม่อยากให้ภรรยาที่บ้านรับรู้ ถ้าจะไม่ตามหาเลยก็ตัดขาดไม่ลง เพราะหญิงสาวคือลูกในไส้ ที่เกิดจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองแท้ ๆเขารักเธอเท่ากับลูกสาวอีกคน แต่ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ เพราะเกรงใจภรรยาที่จดทะเบียนสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย ถึงแม้ว่าจะหมดรักกันไปนานแล้วก็ตาม และเขาก็ทำผิดต่อภรรยาด้วยที่เผลอตัวเผลอใจไปรักกันกับหญิงสาวที่เป็นเพียงสาวใช้ภายในบ้านและอีกอย่างเขาก็ไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวของลูกคนนี้ด้วย จึงทำได้เพียงแต่คอยดูการเติบโตของเธออยู่ห่าง ๆ และอีกไม่นานเธอก็จะ
เริ่มสงสัย“รถใครมาเหรอจิตรี” นิตยาถามแม่บ้านที่อยู่บริเวณนอกบ้านขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงรถยนต์ดังใกล้เข้ามา“คุณคินกับเพื่อน ๆ คะคุณหญิง” จิตรี ป้าแม่บ้านผู้อาวุโสของที่นี่ และก็อยู่ที่นี่มาตั้งแต่ที่พวกเขามาตั้งรกรากกันเลย แถมยังเป็นแม่แท้ ๆ ของ ธวัฒน์อีกด้วย“สวัสดีครับ อานิตเป็นยังไงบ้างครับ” ธีรเมธเป็นฝ่ายทักทายก่อนเมื่อเดินเข้ามาในบ้านตามอคิราห์ พร้อมกับของฝากจากไร่ของเขาด้วย“สวัสดีลูกดีขึ้นเยอะแล้วล่ะ แต่ยังต้องนั่งรถเข็นอยู่ เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันน่ะ จะได้ไม่ต้องเดินไปไหนมาไหนบ่อย ๆ” นิตยาตอบไปพร้อมกับติดตลก เพราะหากเป็นเมื่อก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุนั้น เขาจะชอบเดินไปสอดแนมที่บ้านลูกชายบ่อย ๆ กลัวลูกชายจะเอาผู้หญิงสาวสำราญมาค้างด้วย“เดี๋ยวอานิตก็กลับมาเดินได้ครับ” เธียรวัฒน์พูดอย่างให้กำลังใจแม่ของเพื่อนที่พึ่งออกมาพักฟื้นต่อที่โรงพยาบาล หลังจากประสบอุบัติเหตุอาการสาหัสมา“ว่าไงพ่อตัวดี ถ้าเพื่อนไม่มา ก็ไม่มาหาแม่ที่บ้านเลยนะ ไม่รู้ว่ามีอะไรยุ่งนักหนาขลุกอยู่แต่ที่นั่น” นิตยาหันมาพูดเหน็บแนมทางลูกชายทันที“ผมงานยุ่งนี้ครับแม่” อคิราห์เอาแต่ตอบทีเล่นที และยกเอางานที่ไร่มาอ้าง
เก็บความสงสัยกรุงเทพมหานครบนพื้นห้องนอนในคอนโดฯสุดหรู ที่เต็มไปด้วยเศษซากถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว กระจายเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด สองร่างเปลือยเปล่ายังคงกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันแน่นแฟ้นอยู่ที่นอนกว้างนั้น ในคอนโดฯหรูของพระเอกหนุ่มอย่างเทวินทร์ ที่เป็นคู่ขาคนใหม่ของพัชร์สิตา“วินพอแล้วนี่มันสายมากแล้วน่ะ พราวต้องกลับแล้ว” หญิงสาวเอ่ยห้ามเมื่อชายหนุ่มยังคงคลอเคลียไม่หยุด“ขออีกรอบได้ไหม?” เสียงกระเส่าเอ่ยขอขึ้นมา แต่ยังปากก็ยังคงทำหน้าที่จูบซับไปตามซอกคอขาวของเธอ“แต่เมื่อคืนพราวก็ให้ทั้งคืนแล้ว จนแทบจะไม่ได้นอนเลยนะ” หญิงสาวเอ่ยบอก เพราะคืนเร้าร้อนที่ผ่านมา ก็แทบจะไม่ได้พักเลย ไม่รู้ว่าจบไปกี่รอบต่อกี่รอบ นับจากสภาพเศษซากถุงยางอนามัยแล้ว แทบจะไม่เชื่อสายตาด้วยเองด้วยซ้ำ ว่าทำลงไปได้ยังไง ไม่ใช่ไม่ชอบเรื่องพวกนี้น่ะ แต่เพราะเธอมีงานต่อ “ก็พราวเด็ดนี่ อีกรอบนะครับ เดี๋ยววินจะรีบเร่งให้ แล้วจะรีบไปส่งพราวที่บ้านนะ” ชายหนุ่มเอ่ยบอกด้วยประโยคที่หว่านล้อมหญิงสาว“...แต่ อย่าทำรอยน่ะ เย็นนี้พะราวมีงาน” หญิงสาวรีบเอ่ยห้าม เมื่อชายหนุ่มขบเม้มที่ซอกคอของเธอ“ครับ” เสียงครางกระเส่ารับคำ แล้วซุกไซร้ซอกคอข
ไม่สบอารมณ์สิตาพัชร์ตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าของวันใหม่ กลับต้องพบเพียงความเงียบ เพราะเจ้าของบ้านออกไปตั้งแต่เมื่อคืน ก็ยังไม่กลับมา และไม่มีใครอื่นใดที่กล้าเข้ามาที่นี่ เพราะเจ้าของสั่งห้ามเอาไว้ หญิงสาวจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว แต่ไม่มีเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนเลยเธอเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของเจ้าของห้อง จึงหยิบเอาเสื้อเชิ้ตของเขามาตัวหนึ่งสวมพอแก้ขัดไปก่อน เพราะเธอไม่มีอะไรใส่เลย แล้วจึงเดินลงมาที่ด้านล่างกลับต้องพบถุงมากมาย วางอยู่บนโต๊ะกลางห้องรับแขก เธอจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปเปิดออกดู พบเสื้อผ้าและของใช้ต่าง ๆ ที่ล้วนเป็นแต่ของผู้หญิง แม้กระทั่งชุดชั้นในในนั้นอีกด้วยแถมเสื้อผ้าแต่ละตัวยังเป็นขนาดไซส์เดียวกันกับที่เธอใส่อีก และชุดชั้นในนี้ก็ด้วย แต่หญิงสาวกลับเก็บเข้าไว้ที่เดิมคืน และกำลังจะหันหลังเดินเข้าไปที่ครัวต่อ“ทำอะไร” เสียงเข้มดังขึ้นมาตามหลังของเธอเสียก่อน“...” หญิงสาวไม่หันหลังมามอง เพราะเธอสวมเพียงเสื้อตัวเดียว แถมไม่มีชั้นใส่อีกด้วย จึงได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่แต่แต่จะกล้าขยับเดิน“ของเธอ รับไปสิ” เสียงเรียบเอ่ยขึ้นบอก โดยลดน้ำเสียงอ่อนลงมา“ไม่เป็นไร...” เธอรีบปฏิเสธทันควันโ