VEGAS : PART
บ้านของแม็กซ์เวลล์ คำว่า 'ของเล่น' ที่ออกมาจากปากของพี่แม็กซ์ มันควรเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันถอดใจนะ แต่ดูสิ เพียงแค่ฉันเห็นภาพน่ารักๆที่เขาหยอกล้อ คุยกันกระหนุงกระหนิงแบบพ่อลูก หัวใจของฉันกลับเต้นแรง พร้อมกับเผลออมยิ้มออกมา "ดีกันนะครับ คนสวยของแด๊ดดี้" คนเป็นพ่อชูนิ้วก้อยพร้อมกับขยับไปมาตรงหน้าบุตรสาว ใบหน้าหล่อเหลาเผยรอยยิ้มเล็กๆ ในขณะที่ตาคมเฉียบคู่นั้น กระพริบปริบๆ เหมือนต้องการออดอ้อนไปมา "คูมพ่อไม่ดุพี่กัสแล้ว มิลินรักคูมพ่อค่ะ" แล้วจากนั้นนิ้วก้อยเล็กๆ ก็สอดเข้าไปเกี่ยวปลายนิ้วของบิดาทันที พ่อกับลูกเขายิ้มให้กัน กอดกัน บอกรักกัน ภาพแบบนั้นเป็นอะไรที่อบอุ่นหัวใจที่สุดเลย "พี่กัสเจ็บแผลไหมคะ" แล้วคนตัวเล็กก็หันมาหาฉันที่แอบมองอยู่ใกล้ๆ ฉันจึงรีบส่ายหน้ากลับไปรัวๆ "ไม่เจ็บแล้วค่ะ แผลแค่ตึงๆ นิดหน่อย เดี๋ยวก็หาย" "มิลินเป่าแผลให้นะคะ" แล้วมิลินก็ทำแบบที่ว่าโดยการเป่าแผลของฉันเบาๆ ฝ่ามือของฉันสัมผัสกับศีรษะเล็กของเด็กน้อยวัยห้าขวบ แล้วยิ้มออกมา ฉันรักมิลินจริงๆ นะ ฉันพบเด็กคนนี้มาตั้งแต่แรกเกิด น้องถูกแม่ทิ้งตั้งแต่ไม่ทันได้รู้เรื่องอะไร ชีวิตของน้องคล้ายฉัน คล้ายฉันในหลายๆ อย่างเลย "ทีหลังไม่เอาแบบนี้แล้วนะคะ มิลินจะข้ามถนนโดยไม่มีผู้ใหญ่ไม่ได้นะคะ ถ้ารถมาเร็วมากๆ เราอาจจะเจ็บมาก เลือดออกเยอะ แขนขาหักได้เลยค่ะ" "ตอนนั้นมิลินอยากหาพี่กัสนี่คะ" "เอาเป็นว่าหลังจากนี้ พี่กัสจะมาหามิลินทุกวันเลยค่ะ มิลินไม่ต้องข้ามถนนแล้วนะ พี่กัสเป็นห่วงค่ะ" "ก็ได้ค่ะ" มิลินยิ้มให้ฉัน จากนั้นแขนเล็กๆ ก็เกี่ยวลำคอของฉันไปกอดทันที แปลกดีเหมือนกัน ทั้งที่ไม่ใช่สายเลือด ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกัน แต่ฉันกับรักและเอ็นดูเด็กคนนี้ ต่อให้ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับพ่อของน้องแต่ฉันก็รักน้องอยู่ดี แว๊บหนึ่งที่สายตาของฉันเลื่อนมองสบตากับพี่แม็กซ์ เขามองฉันกับมิลินกอดกันนิ่งๆ โดยที่ไม่เอ่ยอะไรออกมาเลยสักคำ ตอนนี้เขาอนุญาตให้ฉันเข้าออกบ้านเขาได้ตามสบาย ซ้ำยังรับปากว่าจะไม่ดุ ไม่ด่า ไม่ร้ายใส่ แต่เขาไม่ได้อนุญาตให้ฉันรักเขา เพราะคนอย่างเขา ไม่เคยรักใคร แผลของฉันหายดีตามลำดับ ใช้ยาทั้งภายนอกและภายในจนแผลแห้ง เห็นเป็นรอยแผลจางๆ เพราะทุนเดินของฉันก็ผิวขาวอยู่แล้ว วันนี้ฉันไปมหา'ลัย ตามปกติ แล้วพอเจอหน้ายัยมิ้นท์ก็ไม่พ้นเรื่องเดิมๆ ที่ยัยนั่นชวนฉันคุย "บ้าบอมากแก พูดแบบนี้โคตรมั่นหน้าเลยว่ะ!" ทั้งที่ฉันเล่าเรื่องที่พี่แม็กซ์คุยกับฉันให้ยัยมิ้นท์ฟังแล้วนะ แต่ยัยนี่ก็ยังเลือดร้อนอยู่ดี "เอาเถอะน่า ช่างเขาเถอะ" "ไม่ควรช่างเลยนะกัส แกรู้ไหมว่าคนอย่างฉันเนี่ย มีแฟนมาเป็นสิบๆ คน ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนพูดแบบนี้เลยสักครั้ง แบบนี้มันหยามหน้ากันชัดๆ" "..." ฉันเงียบไป ไม่อยากฟัง และไม่อยากคุยเรื่องนี้เลยสักนิด "แกสวยนะกัส แกสวยมาก แกเลือกได้เว้ย แกไม่ควรจมปลักกับผู้ชายแบบนั้น พี่โมไง พี่ชายฉัน ทำไมแก..." "หยุดเลยแก ไม่ต้องจับคู่เลยนะ" ฉันส่ายหน้ารัวๆ ไปมา แต่ทว่า ยัยเพื่อนตัวแสบกลับไม่ฟัง "พี่ฉันหล่อเว้ย หล่อพอๆ กับไอ้พี่แม็กซ์ของแกแล้วนิสัยดีมาก แกควรเลือกพี่ฉัน" ฉันถอนหายใจอย่างคิดหนัก ก็ตามนั้นแหละ รู้อยู่ว่าหล่อและนิสัยดีมาก แต่ฉันก็ไม่ได้เกิดมาเพื่อรักคนหล่อและนิสัยดีไหมล่ะ เรื่องแบบนั้นฉันว่ามันเลือกไม่ได้ ในเมื่อฉันรักคนอื่นไปแล้ว จะให้ฉันมารักพี่ชายของเพื่อนได้ยังไง พี่โมคือพี่ชายของยัยมิ้นท์ เรียนอยู่ปีสี่มหา'ลัย เดียวกับฉัน เป็นคนเดียวกับที่ขับบิ๊กไบค์ไปส่งฉันวันนั้นนั่นแหละ แล้วที่เขาต้องไปส่งฉัน เบื้องหลังก็มาจากยัยมิ้นท์ทุกอย่าง ยัยนั่นอยากจับคู่ฉัน แต่เป็นเพราะวันนั้นฉันรีบมากๆ ฉันจึงเลี่ยงการให้พี่โมไปส่งไม่ได้ "แกเอาพี่ชายฉันเป็นตัวเลือกก็ได้" "มิ้นท์..." "เถอะน่าเชื่อฉัน อย่างน้อยๆ ก็ให้ไอ้พี่แม็กซ์นั่นเห็นไงว่าแกมีตัวเลือก ไม่ได้เป็นของตายของเขา หรือแกอยากให้เขาเห็น ว่าแกเป็นของตาย" ฉันถอนหายใจออกมาหนักๆ จากนั้นก็ส่ายหน้ารัวๆ "ถ้าอย่างนั้นแกต้องฟังฉันเว้ย ผู้ชายหลงตัวเองมักไม่โอเคเมื่อเห็นผู้หญิงของมันกำลังมีคนอื่น ฉันรู้ดี เรื่องแบบนี้แกต้องถามฉัน แล้ววิธีใส่ชุดนักศึกษา กระโปรงแกโอเคนะ ขาเราสวย อวดไปเลย ส่วนเสื้อ มันก็โอเคเว้ย แต่แกไม่ควรสวมเสื้อคลุมด้านนอกปะ มันบดบังความแซ่บของแกหมด ส่วนรองเท้า ไม่ควรสวมผ้าใบเว้ย มันต้องสูงๆ แบบฉัน ส่วนแก้ม ปัดแรงๆ ดิวะ แก้มต้องแดง ปากต้องแจ่ม ใสๆ ผู้ชายมันไม่ชอบ มันต้องแซ่บๆ" "มิ้นท์..." "ไม่ต้องงอแงนะกัส เชื่อฉัน ฉันไม่ได้ให้แกเปลี่ยนแปลงที่ข้างใน นิสัยแกดีอยู่แล้ว เรื่องนั้นมันโอเคอยู่แล้ว แต่ฉันให้แกเปลี่ยนแปลงแค่เปลือก เปลือกคนเรา ควรมีสีสัน แซ่บบ้าง ใสบ้าง เขาเรียกว่าเพิ่มสีสันให้กับตัวเอง แกอย่าโลกสวย เพราะเวลาผู้หญิงโดนผู้ชายเฮงซวยทิ้ง มันเสียศูนย์เว้ย มันรู้สึกแย่มาก เรามีดีสักอย่างเราควรรักตัวเอง ดูแลตัวเอง เพราะถ้าเราดูแลตัวเองดีแล้ว ต่อให้ผู้ชายมันจะทิ้งเราไป เราก็มีปัญญาหาผัวใหม่ได้อย่างสบายๆ" ยัยมิ้นท์ฉีกยิ้มมั่นใจ ในขณะที่ฉันได้แต่พยักหน้าไปมา "เอาเป็นว่า ฉันจะเก็บคำพูดของแกไปพิจารณาก็แล้วกัน" "เริศเลยค่ะ!" ฉันยิ้มให้เพื่อนรัก อย่างน้อยๆ ยัยมิ้นท์ก็รักและหวังดีกับฉัน ฉันก็ควรฟังมัน วันนี้ฉันคุยกับยัยมิ้นท์ว่าขอกลับบ้านเองก่อน ยังไม่ค่อยอยากให้พี่ชายของมันไปส่งสักเท่าไหร่ โดยที่ฉันอ้างว่ายังเคืองๆ ตอนเกือบจะถูกรถชนไม่หาย ยังไม่อยากกลับมอไซค์ ยัยนั่นจึงยอมตามใจฉันแต่โดยดี ก่อนกลับ ฉันก็ไม่ลืมที่จะซื้อขนมไปฝากมิลิน ฉันยังจำได้ดีว่ามิลินชอบทานอะไรบ้าง ฉันจึงสับเปลี่ยนซื้อไปฝากน้องอยู่บ่อยครั้ง เพราะบ่อยครั้งที่ป้ามารีญาเอง ก็ให้ตังค์ฉันไว้เป็นค่าขนมเช่นกัน ทั้งที่ฉันก็ไม่ได้อยากรับ แต่ท่านก็บอกว่ามันเป็นน้ำใจจากผู้ใหญ่ อย่างน้อยก็ให้เป็นรางวัล ที่ฉันช่วยท่านดูแลมิลินก็ได้ ฉันจึงไม่ขัดและยอมรับไว้แต่โดยดี วันนี้ฉันจบคลาสตอนสี่โมงครึ่ง อาจารย์เลทสั่งงานค่อนข้างนาน ฉันจึงออกจากมหา'ลัย ช้า ไหนจะมารอคิวซื้อขนมไปฝากมิลินอีก กว่าจะกลับบ้านก็เกือบมืด แต่ฉันก็ไม่ลืมที่จะโทรกลับไปหาป้ามารีญาว่าอาจจะกลับค่ำหน่อย กลัวมิลินคอยแล้วงอแงเหมือนวันนั้นซ้ำอีก แต่ระหว่างที่ฉันกำลังเดินออกมาจากร้านเบเกอรี่ เพื่อที่จะเรียกแท็กซี่กลับบ้าน สายตาของฉันกลับสะดุดตาที่รถคันหนึ่งที่คุ้นเคย แต่เพียงแค่แว๊บเดียวเท่านั้นที่ฉันหยุดสายตามองที่รถ เพราะทันทีที่ขาของฉันก้าวไปที่เบื้องหน้าอีกครั้ง ฉันกลับเห็นภาพที่ไม่คาดฝัน และมันก็เป็นภาพที่โครตบาดตาบาดใจ มือของฉันสั่น กระบอกตาร้อนผ่าว ไม่นานเกินรอ น้ำตาเม็ดโตก็ร่วงเผาะลงมา พี่แม็กซ์ยืนจูบผู้หญิงที่ข้างรถของเขา ปากที่เขาเคยใช้จูบฉัน บดขยี้ที่ปากของผู้หญิงคนนั้นอย่างนัวเนีย ต้องพอใจขนาดไหน ถึงกล้าทำกันในที่แบบนี้ได้ เขาเคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าจะมีใครผ่านมาพบเห็นหรือไม่ แล้วคนเห็นจะคิดอย่างไร แต่ฉันคงจะลืมไปว่าเขามันคนไม่มีหัวใจ ต่อให้ใครจะผ่านมาเห็น เขาก็คงไม่แคร์ ฉันบีบถุงหิ้วกระดาษใส่กล่องขนมแน่น ก่อนจะก้มหน้า แล้วเดินผ่านเหตุการณ์นั้นออกมา ฉันปาดน้ำตาออกจากตาลวกๆ จริงๆฉันควรถอดใจซะทีนะ ฉันไม่ควรคาดหวังอะไรทั้งนั้น เพราะความพยายามของฉันมันไม่เคยมีความหมาย ไม่ว่าฉันจะพยายามแค่ไหนก็ตาม ฉันหิ้วขนมไปฝากมิลินเมื่อถึงบ้าน แต่โชคดีที่พ่อของน้องยังไม่กลับ ไม่อยากจะนึกเลยสักนิดว่าเขาจะไปทำอะไรต่อหลังจากที่จูบกันซะดูดดื่มแบบนั้น เพียงแค่นึก มันก็จุกที่ใจ น้ำตามันจะไหล ฉันไม่น่ามารักคนใจร้ายแบบเขาเลยด้วยซ้ำ "เวกัส เป็นอะไรรึเปล่าลูก ป้าเห็นตาแดงๆ ซึมๆ ด้วย" ป้ามารีญาถามฉัน คล้อยหลังที่มิลินหิ้วกล่องขนมเข้าไปด้านใน ฉันยิ้มให้ แล้วส่ายหน้าไปมารัวๆ "ร้องไห้มารึเปล่า ไม่สบายใจเรื่องอะไรบอกป้าได้นะ" แล้วความห่วงใยที่ถักทออยู่ในคำถาม ก็เรียกน้ำตาของฉันให้รื้นออกมา "เรียนหนักค่ะคุณป้า กัสเลยเหนื่อยๆ" "ไหวหรือเปล่า ชีวิตนักศึกษาก็แบบนี้ แต่กัสเก่งนะ ที่ผ่านมันมาได้ กอดไหม..." ป้ามารีญาถามพร้อมกับกางแขนกว้าง พอเห็นแบบนั้น ฉันเดินเข้าไปใกล้แล้วสอดแขนกอดป้ามารีญาไว้ทันที น้ำใสๆ กลิ้งเกลือกไปทั่วทั้งสองตา ฉันคงเป็นยัยขี้แยแบบที่เขาว่า ฉันไม่สามารถหยุดน้ำตาของตัวเองได้เลย ทำไมมันเหนื่อยแบบนี้ ทำไมมันถึงเจ็บแบบนี้ ถ้าเขาไม่ทำแย่ๆ กับฉันในคืนนั้น ฉันคงไม่คาดหวังขนาดนี้เลย ผู้หญิงทุกคนสามารถสูญเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดให้ผู้ชายที่ีรักได้ แต่มันเจ็บปวดเมื่อเขาไม่เคยเห็นค่านั้นเลย "คนเก่งของมิลินร้องไห้ใหญ่เลย ต้องให้มิลินมาโอ๋ล่ะมั้ง" สองแขนของคุณป้ากอดฉัน คำพูดนั้นยิ่งทำให้น้ำตาของฉันหลั่งออกมา ฉันไม่เก่งเลยสักนิด ฉันไม่ได้เก่งแบบที่ใครต่อใครคิดเลย ฉันค่อยๆ คลายอ้อมกอดออก เมื่อแสงไฟจากรถยนต์คันหนึ่งสาดส่องเข้ามาในตัวบ้าน ฉันรีบยกมือปาดน้ำตาออกจากพวงแก้มลวกๆ เพียงไม่นานเจ้าของรถก็เปิดประตูลงมา แค่ได้กลิ่นน้ำหอม ฉันก็รู้ทันที ว่าคนๆนั้นคือใคร "กัสขอตัวนะคะคุณป้า วันนี้อาจารย์สั่งงานเยอะเลยค่ะ" ฉันยกมือไหว้ป้ามารีญาอีกครั้ง จากนั้นก็ก้มหน้าเดินออกมาโดยไม่มองหน้าเขาคนนั้นเลย ****** จุกแทนกัสเลยอ่ะ พี่แม็กซ์ใจร้ายมากMAXWELL : PARTตาแดงช้ำ! คงร้องไห้อีกตามเคย! ผมปรายตามองอีกคนในจังหวะที่เธอกำลังจะเดินผ่าน พลางดันลิ้นกับกระพุ้งแก้มเมื่อเห็นว่ายัยนั่นไม่มองหน้าผมเลยกลิ่นแป้งเด็ก และกลิ่นโลชั่นอ่อนๆ ผ่านจมูกผมไปในจังหวะที่เวกัสเดินผ่าน แต่ผมก็ไม่ได้คิดที่จะหันกลับไปมอง"ยัยนั่นมาฟ้องอะไรคุณแม่งั้นเหรอครับ" ผมตั้งคำถามอย่างไม่สบอารมณ์ ผมรู้อยู่แก่ใจว่ายัยนั่นเป็นอะไรอยากเฉย ก็เฉยให้ได้ตลอดก็แล้วกัน! "ทำไมต้องมองน้องในแง่ร้ายตลอด น้องแค่เหนื่อย" "เหนื่อยเหรอครับ แต่ที่ผมเห็น คือเวกัสร้องไห้แล้วกอดคุณแม่นะครับ มาฟ้องอะไรคุณแม่หรือเปล่า" ผมถามอย่างไม่แน่ใจ ใครจะไปรู้วะ เกิดยัยนั่นเล่าอะไรต่อมิอะไรให้แม่ผมฟัง ผมอาจจะพังได้เหมือนกัน"น้องแค่เหนื่อย เป็นธรรมดาของวัยรุ่นนั่นแหละแม็กซ์ น้องไม่มีใคร แม่ก็แค่กอดให้กำลังใจเท่านั้นเอง ทำเหมือนอิจฉาเลยนะเรา" "เปล่านี่ครับ ไม่ได้รู้สึกแบบนั้น จริงๆ ผมว่าคุณแม่ใจดีกับเวกัสมากเกินไปนะครับเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับครอบครัวเราด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่คุณแม่ทำ อย่างกับเขามีส่วนเกี่ยวข้องในครอบครัวของเราเลย" "ไม่เกี่ยวข้องทางสายเลือด แต่เกี่ยวข้องทางความรู้สึก แม่รู้จั
VEGAS : PARTบ้านของแม็กซ์เวลล์คำว่า 'ของเล่น' ที่ออกมาจากปากของพี่แม็กซ์ มันควรเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันถอดใจนะ แต่ดูสิ เพียงแค่ฉันเห็นภาพน่ารักๆที่เขาหยอกล้อ คุยกันกระหนุงกระหนิงแบบพ่อลูก หัวใจของฉันกลับเต้นแรง พร้อมกับเผลออมยิ้มออกมา"ดีกันนะครับ คนสวยของแด๊ดดี้" คนเป็นพ่อชูนิ้วก้อยพร้อมกับขยับไปมาตรงหน้าบุตรสาว ใบหน้าหล่อเหลาเผยรอยยิ้มเล็กๆ ในขณะที่ตาคมเฉียบคู่นั้น กระพริบปริบๆ เหมือนต้องการออดอ้อนไปมา"คูมพ่อไม่ดุพี่กัสแล้ว มิลินรักคูมพ่อค่ะ" แล้วจากนั้นนิ้วก้อยเล็กๆ ก็สอดเข้าไปเกี่ยวปลายนิ้วของบิดาทันที พ่อกับลูกเขายิ้มให้กัน กอดกัน บอกรักกัน ภาพแบบนั้นเป็นอะไรที่อบอุ่นหัวใจที่สุดเลย"พี่กัสเจ็บแผลไหมคะ" แล้วคนตัวเล็กก็หันมาหาฉันที่แอบมองอยู่ใกล้ๆ ฉันจึงรีบส่ายหน้ากลับไปรัวๆ"ไม่เจ็บแล้วค่ะ แผลแค่ตึงๆ นิดหน่อย เดี๋ยวก็หาย" "มิลินเป่าแผลให้นะคะ" แล้วมิลินก็ทำแบบที่ว่าโดยการเป่าแผลของฉันเบาๆ ฝ่ามือของฉันสัมผัสกับศีรษะเล็กของเด็กน้อยวัยห้าขวบ แล้วยิ้มออกมาฉันรักมิลินจริงๆ นะ ฉันพบเด็กคนนี้มาตั้งแต่แรกเกิด น้องถูกแม่ทิ้งตั้งแต่ไม่ทันได้รู้เรื่องอะไร ชีวิตของน้องคล้ายฉัน คล้ายฉันในหล
VEGAS : PART"ฉันทำดีกับเธอก็ได้ ไม่ว่าเธอแล้วก็ได้ แต่เตือนตัวเองเอาไว้ ว่าอย่ารักฉัน เพราะคนที่จะเจ็บมันคือเธอ!"อืม คนที่เจ็บมันคือฉัน คือฉันคนเดียวจริงๆ เจ็บทั้งตัว เจ็บไปทั้งหัวใจ!ฉันไม่น่ามารู้สึกกับคนใจร้ายแบบเขาเลย!พี่แม็กซ์อุ้มฉันแล้วพาเดินลงมาจากบันไดจากชั้นบนสุดของบ้าน ความใกล้ชิดในแบบที่ไม่ได้ตั้งใจ ส่งผลให้ฉันได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวเขาอย่างชัดเจน ทุกครั้งที่ได้กลิ่น มันทำให้ลมหายใจของฉันพ่นออกมาอย่างติดขัด มันมีอิทธิพลเหมือนตอนที่เขาเลื่อนสายตามามองสบตากับฉัน เพราะแบบนั้น ทำให้ฉันเลือกที่จะเมินหน้าออกไปอีกทาง"ไม่ต้องมาทำเป็นเมินฉัน แขนเธอที่กอดคอฉันอยู่มันแน่นพอที่จะทำให้ฉันรู้ว่าเธอตื่นเต้นมาก" "..." คำพูดนั้นส่งผลให้ฉันคลายวงแขนออกจากลำคอของเขาอัตโนมัติ แต่ทันทีที่ฉันทำแบบนั้น ร่างของฉันก็เหมือนจะร่วงลงสู่พื้นเสียง่ายๆ ความตกใจทำให้ฉันรวบลำคอเขาไว้แบบเดิมพอเลื่อนสายตามองหน้าเขา ก็เห็นรอยยิ้มแห่งความพอใจ ผุดขึ้นที่มุมปาก"เธอเนี่ย จะว่าอ่านง่ายมันก็ง่าย จะว่าอ่านยากมันก็ยากนะ แอบชอบฉันมาหลายปี ผู้หญิงแบบนี้ไม่น่าจะยังซิงด้วยซ้ำ ทำตัวแรดทั้งที่ยังเด็กมาก" ฉันเม้มปาก หั
MAXWELL : PARTปลายลิ้นร้อนดันเข้าหากระพุ้งแก้มอย่างหงุดหงิด เกิดมาผมไม่เคยต้องมาทำอะไรงี่เง่าแบบนี้เลยสักนิด"ขอโทษ!" ผมพูดออกไปพร้อมกับตวัดสายตาไปมองหน้าเวกัสใหม่ ยัยนั่นยังคงยกมือปาดน้้ำตาออกจากแก้มลวกๆ ปากอิ่มเม้มเข้ากันจนมันเป็นเส้นตรง เธอไม่ได้คิดจะสนคำพูดของผมเลย"บอกว่าขอโทษไงเวกัส" "กลับไปเถอะค่ะ กัสไม่อยากเห็นหน้าพี่แม็กซ์แล้ว กัสรำคาญ!" ยัยบ้านี่! ผมบดกรามอย่างหงุดหงิด หากไม่คิดได้ว่าเธอมีความสำคัญต่อมิลินแค่ไหน ผมจะไม่สน ไม่เสียเวลามายืนขอโทษแบบนี้เลย"ตกลงจะไม่รับคำขอโทษจากฉัน?" ผมเลิกคิ้วถาม แต่ยัยนั่นกลับเงียบปาก ผมจึงเลือกที่จะเดินไปหยุดที่ตรงหน้ายัยนั่นแทน"ที่พูด ฟังอยู่ไหมวะ!" ผมตะคอกออกมาเสียงดัง ยัยนั่นถึงกับลุกพรวดพราดเผชิญหน้ากับผมทันที"คำขอโทษที่ไม่ได้ออกมาจากใจ ใครจะอยากรับไว้ กัสบอกให้พี่แม็กซ์กลับไปไง กลับไปเลย ไม่ต้องมายุ่งกับกัสเลย" เป็นอีกครั้งที่ผมกำลังอ้าปากเตรียมตอบกลับ แต่ทว่า น้ำตาของยัยนั่นกลับไหลพราก เออดีว่ะ พอตัวเองตะคอกบ้าง แล้วมาร้องไห้เองแบบนั้น แล้วจะให้กูทำยังไงวะ!"กัสรู้ว่าพี่แม็กซ์มาเพราะโดนคุณป้าว่า แต่พี่แม็กซ์ก็ไม่จำเป็นต้องแคร์นี่ค
MAXWELL : PARTบ้านของแม็กซ์เวลล์หลังจากที่ไอ้นิกกี้กระแนะกระแหนผมจนจบบทใหญ่ๆ มันก็ขอตัวกลับไป และไม่ลืมที่จะทิ้งท้ายเอาไว้ '...ถ้ามึงไม่หยุดทำร้ายคนที่ดีกับมึง เดี๋ยวกูเป่าหูให้น้องเกลียดขี้หน้ามึงแม่งเลย!'ผมคิดถึงคำนั้นพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก อย่างยัยนั่นน่ะนะ จะเกลียดขี้หน้าผมได้ เชื่อไหมล่ะว่าต่อให้ผมจะร้ายใส่แค่ไหน หากโดนผมเอาใจนิดหน่อยคงหลงผมจะเป็นจะตาย ซื่อบื้อ ขี้แย ไม่ทันใครแบบยัยนั่น ครองความโสดความซิงมาได้ไงกันตั้งยี่สิบกว่าปี สภาพนี้ไม่น่ารอดมือใครต่อใครจนตกมาอยู่ในมือของผมได้เลย!ผมคีบบุหรี่ออกจากปากเมื่อสายตาปะทะกับร่างของมารดาที่พึ่งเดินเข้ามาในรั้วบ้าน พบผมนั่งสูบบุหรี่ที่สวนข้างบ้าน ดูก็รู้ ว่าผมคงโดนกระทงใหญ่ๆ อีกหนึ่งกระทง"สบายใจแล้วใช่ไหมที่ทำเขาร้องไห้ได้" ประโยคธรรมดาๆ กับสีหน้าเรียบเฉยของแม่ทำผมชะงักไปทันที ผมดับบุหรี่ที่อยู่ในมือพร้อมกับเมินหน้าออกไปอีกทาง"เกลียดน้องงั้นเหรอแม็กซ์" "ไม่ได้เกลียดครับ แค่ไม่ชอบที่ยัยนั่นบอกมิลินเรื่องคริส" "แล้วมันไม่ใช่ความจริงงั้นเหรอ คริสตินาจะกลับมาหาลูก กลับมาหาผัว ทั้งที่ทิ้งลูกทิ้งผัวไปตั้งแต่ลูกได้แค่เดือนเดียวน่ะน
VEGAS : PARTบ้านแม็กซ์เวลล์"มิลินทำแบบนี้ไม่ได้แล้วนะ ย่าบอกหลายครั้งแล้วว่ามิลินจะข้ามถนนโดยไม่มีผู้ใหญ่พาไปแบบนี้ไม่ได้!" เสียงป้ามารีญาดุจริงจัง พี่นิกกี้วางร่างฉันลงบนโซฟา เสียงมิลินร้องไห้ยังดังเล็ดเข้ามาเป็นระยะๆ แต่ฉันไม่ได้คิดจะขัดอะไรเพราะเรื่องที่มิลินข้ามถนนโดยไม่มีผู้ใหญ่มาด้วยเป็นเรื่องที่อันตรายจริงๆ หากฉันไม่เห็นเข้า ครั้งนี้อาจจะพลาดพลั้งจนเกิดอันตรายซึ่งฉันเห็นดีว่าควรตัดไฟตั้งแต่ต้นลม อบรมมิลินให้เข้าใจจะได้ไม่กล้าทำแบบนี้ซ้ำ"พี่กัสต้องเจ็บตัวเพราะหนู หนูรู้ตัวหรือเปล่า" มิลินยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้น แขนเล็กๆ รวบลำคอแด๊ดดี้ของน้องไปกอดไม่ยอมห่าง โดยที่แด๊ดดี้ของน้องมองมาที่ฉันอย่างไม่สบอารมณ์"ฟังที่ย่าสอนหรือเปล่า คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกเข้าใจไหม" "พอเถอะครับแม่ มิลินยังเด็ก แล้วเด็กจะไปรู้เรื่องอะไร มิลินไม่ได้ตั้งใจหรอกครับ""หยุดเถียงแทนลูกนะแม็กซ์เวลล์ มิลินห้าขวบ บางอย่างไม่รู้ แต่ผู้ใหญ่ควรบอกควรสอน บ้านอยู่ติดถนนเป็นเรื่องที่อันตราย ผู้ใหญ่ควรประกบก็จริง แต่มิลินควรรู้และจดจำว่าการข้ามถนนเพียงลำพังมันไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ!" "คุณแม่จะเอาแต่โทษหลานคุณแม่ที่อาย