MAXWELL : PART
"เออ ฉันมันไม่มีหัวใจ แล้วใครใช้ให้เธอมารักฉันวะ" ผมพูดออกมาตามความรู้สึกของตัวเองโดยไม่ได้แคร์ด้วยซ้ำว่าคนฟังจะรู้สึกแบบไหน เอาจริงๆ เถอะ ที่ผ่านมาผมก็ไม่เคยสร้างภาพในสายตาใคร ไม่เคยให้เกียรติผู้หญิงหน้าไหนทั้งนั้น ถ้าโอเคก็แค่หันมาคุยกัน แต่เมื่อใดที่ผมไม่ต้องการ ผู้หญิงพวกนั้นก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาวุ่นวายกับชีวิตของผมเท่านั้นเอง อย่างเวกัสก็เช่นกัน ไม่ใช่เธอคนแรกหรอ ที่ยอมเสียครั้งแรกให้กับผม ยังมีผู้หญิงอีกหลายคนที่มีผมเป็นคนแรกเหมือนกันกับเธอ แต่ที่ผ่านมา กาลเวลามันก็พิสูจน์แล้วว่าผู้หญิงเหล่านั้นไม่สามารถใช้พรหมจรรย์ที่พวกเธอมีทำให้ผมหยุดที่พวกเธอได้ เพราะใจของผมมันไม่เคยคิดที่จะหยุดอยู่ที่ใคร "ความรักมันห้ามกันไม่ได้..." "แต่ถ้าเธอรักฉัน เธอจะได้รับแค่ความเจ็บปวดเท่านั้น!" ผมตะคอกเสียงดัง แต่ก็ตามนั้น เวกัสน้ำตาคลอเบ้าทันที ขี้แย นิสัยเด็กๆ แบบนี้มันไม่ใช่สเปคผมเลยสักนิดเดียว "หยุดความคิดที่จะถีบตัวเองมาแทนที่แม่ของมิลิน เพราะแม่ของมิลิน มีแค่คริสตินา แค่คนเดียว!" เวกัสหันหน้าหนีพลางยกมือปาดน้ำตาของตัวเองออกลวกๆ ร่างเล็กหันกลับไปจัดการสวมใส่รองเท้าผ้าใบของเธออีกครั้ง ก่อนที่ผมจะโยนเช็คที่เตรียมไว้ให้ยัยนั่นทันที "ฉันให้" เวกัสปรายตามองเช็คที่ผมให้เพียงนิดก่อนที่เธอจะหยัดกายลุกขึ้น พลางจัดแจงกระเป๋าสะพายที่คล้องบ่า ทำเหมือนไม่เห็นว่าจำนวนเงินที่อยู่บนเช็คใบนั้นมันมากแค่ไหน ห้าแสนที่ให้ มันมากกว่าที่ผู้หญิงทุกคนเคยได้ แต่ยัยนี่กลับทำเหมือนเงินผมเป็นขยะ ไม่แยแส และทำเพียงแค่ชายตาแล "อย่าหยิ่งให้มาก แล้วท่าทีที่เธอทำมันไม่ได้ทำให้ฉันสนใจ!" "กัสไม่สวยเหรอคะ หรือกัสมีดีไม่สู้ผู้หญิงของพี่ตรงไหน" "ก็เมื่อไหร่ที่ผู้หญิงที่ฉันเคยเอา พยายามถีบตัวเองเพื่อหวังที่จะมาเป็นแม่ของลูกฉัน ฉันเขี่ยทิ้งทุกคน แม้แต่เธอ" "การที่กัสบอกว่าพี่คริสไม่มา กัสแค่ไม่อยากให้มิลินรอเก้อค่ะ กัสไม่ได้อยากทำร้ายความรู้สึกของน้อง กัสไม่ได้อยากทำให้น้องเสียใจ" "แต่มันก็เป็นเพราะคำพูดของเธอที่ทำให้ลูกของฉันเสียใจ หากเลือกได้ ฉันจะสั่งห้ามเธอไม่ให้มายุ่งกับลูกของฉันอีกเลย!" เวกัสหันหน้าหนีทันทีที่ได้ฟัง เธอเหยียบเช็คของผมทำเหมือนมันเป็นเศษกระดาษ จากนั้นก็ทำท่าจะเดินผ่านหน้าผมไป แต่เป็นผมที่คว้าแขนของเวกัสได้ทัน "รับเช็คนั่นไป แล้วถือซะว่า...มันไม่เคยเกิดขึ้นเลยก็แล้วกัน!" คำตอบที่ผมได้ก็เป็นไปในรูปแบบที่ผมคิด เวกัสร้องไห้ แม้จะไม่มีเสียง แต่น้ำตาของเธอก็ไหล "พี่แม็กซ์ลืมได้..." "ฉันไม่เคยจำ ไม่ว่าจะเอากับผู้หญิงคนไหนก็ตาม!" "แต่กัสไม่ลืม..." "มันเรื่องของเธอ จะรู้สึกหรือไม่รู้สึกอะไรกับฉันมันก็เรื่องของเธอ แต่ฉันจะเตือนในฐานะที่เธอแสนดีกับลูกของฉัน เธอควรหยุดความรู้สึกที่มีต่อฉัน เพราะถ้าเธอไม่ยอมหยุดมัน เธอจะเป็นเพียงของเล่นของฉัน เหมือนกับผู้หญิงทุกคน!" "ขะ ของเล่น" เวกัสทวนคำนั้น แล้วปัดมือของผมออกจากแขนของเธอทันที "เก็บเช็คนั่นไป แล้วเธอจะมีสิทธิ์เข้าออกในบ้านฉันแบบเดิม แต่ถ้าหยิ่งมากนัก ก็ไม่ต้องมาเหยียบบ้านฉัน แล้วอย่าคิดว่าลูกฉันจะหลงเธอมาก แค่พี่เลี้ยงเด็กคนเดียว ฉันมีตัวเลือกให้มิลินเลือกเป็นสิบๆ คน!" เวกัสมองต่ำที่กระดาษแผ่นเล็กที่เธอเหยียบ แล้วสุดท้ายเธอก็เลือกที่จะก้มเก็บกระดาษแผ่นนั้นแบบที่ผมต้องการ ก็แค่นั้น เกิดมาจะมีใครบ้าง ที่ไม่ต้องการเงิน! "เกิดอะไรขึ้นเหรอแม็กซ์" เสียงที่ดังอยู่ทางด้านหลังส่งผลให้ผมละสายตาจากร่างบอบบางที่อยู่ในชุดนักศึกษา กระโปรงทรงเอสั้นๆ แต่แทนที่จะใส่ส้นตึกส้นสูงแบบที่ผู้หญิงคนอื่นๆ ชอบใส่กัน แต่ยัยนั่นกับใส่ผ้าใบสีขาว ส่วนด้านบน สวมทับด้วยเสื้อยีนส์แขนยาวปักลายเก๋ๆ ตามเดิม "แม่ได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกัน ชวนน้องทะเลาะอีกหรือเปล่า" แล้วแม่ของผมก็มองตามหลังเวกัสไปอีกคน "ทำไมถึงชอบคิดว่าผมหาเรื่องยัยนั่นอยู่เรื่อยเลยล่ะครับ ผมควรโกรธยัยนั่นนะครับ ที่เอาเรื่องแย่ๆ ยัดใส่หัวมิลิน" "พูดอะไรบ้าๆ เขาพยายามช่วยต่างหากล่ะ ในเมื่อแม่ของมิลินไม่ยอมมา แล้วอยู่ดีๆ คนเป็นพ่อกลับหายไป มิลินนั่งหงอยคอยอยู่หน้าประตูบ้าน ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่แบบนั้น ต่อให้เวกัสไม่บอก แม่ก็ต้องบอกหลานของแม่อยู่ดี" "เอาเป็นว่าต่อไปนี้ผมจะไม่พยายามพึ่งพายัยนั่นก็แล้วกันนะครับ" ผมบอกแค่นั้น แล้วหวังจะเดินเข้าไปในตัวบ้าน แต่... "เดี๋ยว!" ผมชะงัก เมื่อต้นแขนถูกมารดาจับเอาไว้ "เมื่อกี้แม่เห็นแว๊บๆ ว่าเวกัสร้องไห้ แล้วแม็กซ์ก็บังคับให้น้องรับอะไรสักอย่าง บอกแม่มาว่าสิ่งนั้นมันคืออะไร" ผมชะงักไปเพียงนิด อดคิดไม่ได้ว่ามารดาจะได้ยินอะไรบ้าง "ให้ของขวัญวันเกิดครับ" "ของขวัญวันเกิด? คืออะไร เป็นความลับไหม?" "ไม่มีอะไรมากมายหรอกครับ ไม่ใช่สิ่งสำคัญอะไร" ผมตอบเท่านั้นก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาทันที จริงๆ นั่นแหละ มันไม่มีอะไรสำคัญทั้งนั้น ไม่มีเลย VEGAS : PART ฉันเดินออกมาจากบ้านหลังนั้นด้วยหัวใจที่เจ็บจี๊ดหนักๆ เกิดมาไม่เคยแอบรักใครทั้งนั้น เขาเป็นผู้ชายคนเดียวเท่านั้น แล้วเขาก็เป็นผู้ชายคนเดียวที่ทำให้ฉันเจ็บมากเช่นกัน ฉันยกมือปาดน้ำตาออกจากใบหน้าลวกๆ มองเวลาที่อยู่บนนาฬิกาข้อมือ ก่อนจะเร่งฝีเท้าในการเดิน ตากลมโตมองหาแท็กซี่ที่อาจจะมีวิ่งผ่าน แต่ไม่มีเลยสักคัน วันนี้ฉันสายมาก ฉันควรรีบไปมหา'ลัยตั้งแต่ออกจากบ้าน แต่เป็นเพราะเป็นห่วงมิลินมากทำให้ฉันเลือกเข้าไปหาน้องก่อน แล้วดูสิ่งที่ฉันเจอสิ แย่ชะมัดเลย เวลา 15:30 น. ห้างสรรพสินค้า "โอ๊ย รีบอะไรของแกนักหนาเนี่ย!" เสียงของมินตราแผดร้อง เมื่อถูกฉันลากให้ไปโซนที่ยัยนั่นต้องการไวๆ "ฉันรีบกลับบ้าน แกเร็วๆ เลย อยากได้เครื่องสำอางแบบไหน ยี่ห้ออะไร แกรีบจัดเลย" เพราะเกิดมามีเพื่อนแค่คนเดียว เพื่อนอยากไปไหน ฉันก็เลยอยากตามใจเพื่อนบ้าง แต่เพราะมีเพื่อนสวย เป็นสาวมั่น เปรี้ยวและแซ่บมาก ที่ๆ เพื่อนของฉันอยากไปก็เห็นจะมีแต่โซนเสื้อผ้าและเครื่องสำอาง "เร็วๆ สิมิ้นท์ ฉันรีบกลับมาก" ก็นั่นแหละ ที่วันนี้ฉันอยากกลับเร็วกว่าทุกวัน เพราะอยากกลับไปหามิลิน โดยไม่ต้องเห็นหน้าเขาคนนั้นเท่านั้นเอง "รีบอะไรกันนักหนาเล่า ผู้หญิงกับการเลือกเครื่องสำอางมันเป็นของคู่กัน แกเองก็เหมือนกันนะกัส ควรเปลี่ยนสไตล์เป็นสาวเปรี้ยวแซ่บซี้ดแบบฉันบ้าง จะได้มีแฟนสักทีไง!" แล้วคำตอบที่ยัยมิ้นท์ได้รับ คือการที่ฉันส่ายหัวกลับไปกลับมา ไม่ใช่ว่าฉันไม่แต่งตัวนะ ฉันแต่งตัวเหมือนเพื่อนวัยเดียวกันตามปกตินั่นแหละ แต่ไม่ได้หวือหวาหรือทำตัวให้เป็นที่โดดเด่นอะไรมากมาย เพราะฉันมองว่า มันไม่ใช่เรื่องที่จำเป็น "ไม่แต่งก็เรื่องของแกก็แล้วกัน แต่มานี่ๆ แกเป็นเพื่อนฉัน แกควรรู้ว่าเครื่องสำอางแต่ละชนิด มันช่วยให้ความสวยของเราเฉิดฉายในรูปแบบไหนได้บ้าง..." แล้วสุดท้ายฉันก็ต้องเดินตามยัยมิ้นท์อย่างไม่มีทางเลี่ยง ฟังในสิ่งที่นางพูดไปพลางๆ แม้จะไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย แต่สุดท้ายบางสิ่งบางอย่างมันก็เข้าหูฉันอยู่ดี แล้วหลังจากที่ฉันและยัยมิ้นท์เสร็จธุระจากการซื้อของ ก็เป็นอีกครั้งที่ฉันรีบลากยัยมิ้นท์ออกจากห้าง แล้วด้วยความที่ไม่ทันระวัง พลั่กกก! ทำให้ฉันชนเข้ากับร่างของคนหนึ่งคนเข้าอย่างจัง "ขะ ขอโทษค่ะ" ฉันรีบยกมือไหว้ แต่ถึงกับชะงักไปเมื่อคนที่ฉันชนคือเขาคนนั้น คนที่ทำฉันร้องไห้เมื่อคืน ซ้ำยังกราดคำพูดแย่ๆ ใส่ฉันในตอนเช้า เขาคือคนคนเดียวกัน "เวกัส..." เป็นพี่นิกกี้ที่เป็นคนทักฉัน ฉันยกมือไหว้เขาแบบที่เคยทำ ในขณะที่อีกคนทำเฉย เหมือนคนไม่รู้จักกัน "มาช็อปปิ้งหรอ" พี่นิกกี้ถามซ้ำ พลางมองถุงกระดาษที่อยู่ในมือของฉัน ซึ่งมันล้วนแต่เป็นของยัยมิ้นท์ทั้งนั้น "พาเพื่อนมาซื้อของค่ะ กำลังจะกลับ" ฉันรีบตัดบททุกอย่าง ดูๆ แล้ว เหมือนพี่แม็กซ์จะไม่อยากให้พี่นิกกี้ทักฉันด้วยซ้ำ "อ้าวงั้นเหรอ กลับทางเดียวกันเลย พี่จะไปหามิลินพอดี กลับด้วยกันสิ!" "ถ้ามึงจะชวนคนอื่นกลับ ก็ให้ไปขึ้นรถมึง เพราะผู้หญิงสามคนที่จะนั่งรถของกูได้ ก็คือแม่กู มิลิน และแม่ของมิลิน คนอื่นไม่มีสิทธิ์!" พี่แม็กซ์ทิ้งท้ายประโยคด้วยการมองสบตาฉัน จุกมากนะ มันโคตรจุกเลย! ----MAXWELL : PARTตาแดงช้ำ! คงร้องไห้อีกตามเคย! ผมปรายตามองอีกคนในจังหวะที่เธอกำลังจะเดินผ่าน พลางดันลิ้นกับกระพุ้งแก้มเมื่อเห็นว่ายัยนั่นไม่มองหน้าผมเลยกลิ่นแป้งเด็ก และกลิ่นโลชั่นอ่อนๆ ผ่านจมูกผมไปในจังหวะที่เวกัสเดินผ่าน แต่ผมก็ไม่ได้คิดที่จะหันกลับไปมอง"ยัยนั่นมาฟ้องอะไรคุณแม่งั้นเหรอครับ" ผมตั้งคำถามอย่างไม่สบอารมณ์ ผมรู้อยู่แก่ใจว่ายัยนั่นเป็นอะไรอยากเฉย ก็เฉยให้ได้ตลอดก็แล้วกัน! "ทำไมต้องมองน้องในแง่ร้ายตลอด น้องแค่เหนื่อย" "เหนื่อยเหรอครับ แต่ที่ผมเห็น คือเวกัสร้องไห้แล้วกอดคุณแม่นะครับ มาฟ้องอะไรคุณแม่หรือเปล่า" ผมถามอย่างไม่แน่ใจ ใครจะไปรู้วะ เกิดยัยนั่นเล่าอะไรต่อมิอะไรให้แม่ผมฟัง ผมอาจจะพังได้เหมือนกัน"น้องแค่เหนื่อย เป็นธรรมดาของวัยรุ่นนั่นแหละแม็กซ์ น้องไม่มีใคร แม่ก็แค่กอดให้กำลังใจเท่านั้นเอง ทำเหมือนอิจฉาเลยนะเรา" "เปล่านี่ครับ ไม่ได้รู้สึกแบบนั้น จริงๆ ผมว่าคุณแม่ใจดีกับเวกัสมากเกินไปนะครับเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับครอบครัวเราด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่คุณแม่ทำ อย่างกับเขามีส่วนเกี่ยวข้องในครอบครัวของเราเลย" "ไม่เกี่ยวข้องทางสายเลือด แต่เกี่ยวข้องทางความรู้สึก แม่รู้จั
VEGAS : PARTบ้านของแม็กซ์เวลล์คำว่า 'ของเล่น' ที่ออกมาจากปากของพี่แม็กซ์ มันควรเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันถอดใจนะ แต่ดูสิ เพียงแค่ฉันเห็นภาพน่ารักๆที่เขาหยอกล้อ คุยกันกระหนุงกระหนิงแบบพ่อลูก หัวใจของฉันกลับเต้นแรง พร้อมกับเผลออมยิ้มออกมา"ดีกันนะครับ คนสวยของแด๊ดดี้" คนเป็นพ่อชูนิ้วก้อยพร้อมกับขยับไปมาตรงหน้าบุตรสาว ใบหน้าหล่อเหลาเผยรอยยิ้มเล็กๆ ในขณะที่ตาคมเฉียบคู่นั้น กระพริบปริบๆ เหมือนต้องการออดอ้อนไปมา"คูมพ่อไม่ดุพี่กัสแล้ว มิลินรักคูมพ่อค่ะ" แล้วจากนั้นนิ้วก้อยเล็กๆ ก็สอดเข้าไปเกี่ยวปลายนิ้วของบิดาทันที พ่อกับลูกเขายิ้มให้กัน กอดกัน บอกรักกัน ภาพแบบนั้นเป็นอะไรที่อบอุ่นหัวใจที่สุดเลย"พี่กัสเจ็บแผลไหมคะ" แล้วคนตัวเล็กก็หันมาหาฉันที่แอบมองอยู่ใกล้ๆ ฉันจึงรีบส่ายหน้ากลับไปรัวๆ"ไม่เจ็บแล้วค่ะ แผลแค่ตึงๆ นิดหน่อย เดี๋ยวก็หาย" "มิลินเป่าแผลให้นะคะ" แล้วมิลินก็ทำแบบที่ว่าโดยการเป่าแผลของฉันเบาๆ ฝ่ามือของฉันสัมผัสกับศีรษะเล็กของเด็กน้อยวัยห้าขวบ แล้วยิ้มออกมาฉันรักมิลินจริงๆ นะ ฉันพบเด็กคนนี้มาตั้งแต่แรกเกิด น้องถูกแม่ทิ้งตั้งแต่ไม่ทันได้รู้เรื่องอะไร ชีวิตของน้องคล้ายฉัน คล้ายฉันในหล
VEGAS : PART"ฉันทำดีกับเธอก็ได้ ไม่ว่าเธอแล้วก็ได้ แต่เตือนตัวเองเอาไว้ ว่าอย่ารักฉัน เพราะคนที่จะเจ็บมันคือเธอ!"อืม คนที่เจ็บมันคือฉัน คือฉันคนเดียวจริงๆ เจ็บทั้งตัว เจ็บไปทั้งหัวใจ!ฉันไม่น่ามารู้สึกกับคนใจร้ายแบบเขาเลย!พี่แม็กซ์อุ้มฉันแล้วพาเดินลงมาจากบันไดจากชั้นบนสุดของบ้าน ความใกล้ชิดในแบบที่ไม่ได้ตั้งใจ ส่งผลให้ฉันได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวเขาอย่างชัดเจน ทุกครั้งที่ได้กลิ่น มันทำให้ลมหายใจของฉันพ่นออกมาอย่างติดขัด มันมีอิทธิพลเหมือนตอนที่เขาเลื่อนสายตามามองสบตากับฉัน เพราะแบบนั้น ทำให้ฉันเลือกที่จะเมินหน้าออกไปอีกทาง"ไม่ต้องมาทำเป็นเมินฉัน แขนเธอที่กอดคอฉันอยู่มันแน่นพอที่จะทำให้ฉันรู้ว่าเธอตื่นเต้นมาก" "..." คำพูดนั้นส่งผลให้ฉันคลายวงแขนออกจากลำคอของเขาอัตโนมัติ แต่ทันทีที่ฉันทำแบบนั้น ร่างของฉันก็เหมือนจะร่วงลงสู่พื้นเสียง่ายๆ ความตกใจทำให้ฉันรวบลำคอเขาไว้แบบเดิมพอเลื่อนสายตามองหน้าเขา ก็เห็นรอยยิ้มแห่งความพอใจ ผุดขึ้นที่มุมปาก"เธอเนี่ย จะว่าอ่านง่ายมันก็ง่าย จะว่าอ่านยากมันก็ยากนะ แอบชอบฉันมาหลายปี ผู้หญิงแบบนี้ไม่น่าจะยังซิงด้วยซ้ำ ทำตัวแรดทั้งที่ยังเด็กมาก" ฉันเม้มปาก หั
MAXWELL : PARTปลายลิ้นร้อนดันเข้าหากระพุ้งแก้มอย่างหงุดหงิด เกิดมาผมไม่เคยต้องมาทำอะไรงี่เง่าแบบนี้เลยสักนิด"ขอโทษ!" ผมพูดออกไปพร้อมกับตวัดสายตาไปมองหน้าเวกัสใหม่ ยัยนั่นยังคงยกมือปาดน้้ำตาออกจากแก้มลวกๆ ปากอิ่มเม้มเข้ากันจนมันเป็นเส้นตรง เธอไม่ได้คิดจะสนคำพูดของผมเลย"บอกว่าขอโทษไงเวกัส" "กลับไปเถอะค่ะ กัสไม่อยากเห็นหน้าพี่แม็กซ์แล้ว กัสรำคาญ!" ยัยบ้านี่! ผมบดกรามอย่างหงุดหงิด หากไม่คิดได้ว่าเธอมีความสำคัญต่อมิลินแค่ไหน ผมจะไม่สน ไม่เสียเวลามายืนขอโทษแบบนี้เลย"ตกลงจะไม่รับคำขอโทษจากฉัน?" ผมเลิกคิ้วถาม แต่ยัยนั่นกลับเงียบปาก ผมจึงเลือกที่จะเดินไปหยุดที่ตรงหน้ายัยนั่นแทน"ที่พูด ฟังอยู่ไหมวะ!" ผมตะคอกออกมาเสียงดัง ยัยนั่นถึงกับลุกพรวดพราดเผชิญหน้ากับผมทันที"คำขอโทษที่ไม่ได้ออกมาจากใจ ใครจะอยากรับไว้ กัสบอกให้พี่แม็กซ์กลับไปไง กลับไปเลย ไม่ต้องมายุ่งกับกัสเลย" เป็นอีกครั้งที่ผมกำลังอ้าปากเตรียมตอบกลับ แต่ทว่า น้ำตาของยัยนั่นกลับไหลพราก เออดีว่ะ พอตัวเองตะคอกบ้าง แล้วมาร้องไห้เองแบบนั้น แล้วจะให้กูทำยังไงวะ!"กัสรู้ว่าพี่แม็กซ์มาเพราะโดนคุณป้าว่า แต่พี่แม็กซ์ก็ไม่จำเป็นต้องแคร์นี่ค
MAXWELL : PARTบ้านของแม็กซ์เวลล์หลังจากที่ไอ้นิกกี้กระแนะกระแหนผมจนจบบทใหญ่ๆ มันก็ขอตัวกลับไป และไม่ลืมที่จะทิ้งท้ายเอาไว้ '...ถ้ามึงไม่หยุดทำร้ายคนที่ดีกับมึง เดี๋ยวกูเป่าหูให้น้องเกลียดขี้หน้ามึงแม่งเลย!'ผมคิดถึงคำนั้นพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก อย่างยัยนั่นน่ะนะ จะเกลียดขี้หน้าผมได้ เชื่อไหมล่ะว่าต่อให้ผมจะร้ายใส่แค่ไหน หากโดนผมเอาใจนิดหน่อยคงหลงผมจะเป็นจะตาย ซื่อบื้อ ขี้แย ไม่ทันใครแบบยัยนั่น ครองความโสดความซิงมาได้ไงกันตั้งยี่สิบกว่าปี สภาพนี้ไม่น่ารอดมือใครต่อใครจนตกมาอยู่ในมือของผมได้เลย!ผมคีบบุหรี่ออกจากปากเมื่อสายตาปะทะกับร่างของมารดาที่พึ่งเดินเข้ามาในรั้วบ้าน พบผมนั่งสูบบุหรี่ที่สวนข้างบ้าน ดูก็รู้ ว่าผมคงโดนกระทงใหญ่ๆ อีกหนึ่งกระทง"สบายใจแล้วใช่ไหมที่ทำเขาร้องไห้ได้" ประโยคธรรมดาๆ กับสีหน้าเรียบเฉยของแม่ทำผมชะงักไปทันที ผมดับบุหรี่ที่อยู่ในมือพร้อมกับเมินหน้าออกไปอีกทาง"เกลียดน้องงั้นเหรอแม็กซ์" "ไม่ได้เกลียดครับ แค่ไม่ชอบที่ยัยนั่นบอกมิลินเรื่องคริส" "แล้วมันไม่ใช่ความจริงงั้นเหรอ คริสตินาจะกลับมาหาลูก กลับมาหาผัว ทั้งที่ทิ้งลูกทิ้งผัวไปตั้งแต่ลูกได้แค่เดือนเดียวน่ะน
VEGAS : PARTบ้านแม็กซ์เวลล์"มิลินทำแบบนี้ไม่ได้แล้วนะ ย่าบอกหลายครั้งแล้วว่ามิลินจะข้ามถนนโดยไม่มีผู้ใหญ่พาไปแบบนี้ไม่ได้!" เสียงป้ามารีญาดุจริงจัง พี่นิกกี้วางร่างฉันลงบนโซฟา เสียงมิลินร้องไห้ยังดังเล็ดเข้ามาเป็นระยะๆ แต่ฉันไม่ได้คิดจะขัดอะไรเพราะเรื่องที่มิลินข้ามถนนโดยไม่มีผู้ใหญ่มาด้วยเป็นเรื่องที่อันตรายจริงๆ หากฉันไม่เห็นเข้า ครั้งนี้อาจจะพลาดพลั้งจนเกิดอันตรายซึ่งฉันเห็นดีว่าควรตัดไฟตั้งแต่ต้นลม อบรมมิลินให้เข้าใจจะได้ไม่กล้าทำแบบนี้ซ้ำ"พี่กัสต้องเจ็บตัวเพราะหนู หนูรู้ตัวหรือเปล่า" มิลินยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้น แขนเล็กๆ รวบลำคอแด๊ดดี้ของน้องไปกอดไม่ยอมห่าง โดยที่แด๊ดดี้ของน้องมองมาที่ฉันอย่างไม่สบอารมณ์"ฟังที่ย่าสอนหรือเปล่า คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกเข้าใจไหม" "พอเถอะครับแม่ มิลินยังเด็ก แล้วเด็กจะไปรู้เรื่องอะไร มิลินไม่ได้ตั้งใจหรอกครับ""หยุดเถียงแทนลูกนะแม็กซ์เวลล์ มิลินห้าขวบ บางอย่างไม่รู้ แต่ผู้ใหญ่ควรบอกควรสอน บ้านอยู่ติดถนนเป็นเรื่องที่อันตราย ผู้ใหญ่ควรประกบก็จริง แต่มิลินควรรู้และจดจำว่าการข้ามถนนเพียงลำพังมันไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ!" "คุณแม่จะเอาแต่โทษหลานคุณแม่ที่อาย