Wanna be yours
ตอนที่ 2.1
สัมผัส
ตอนค่ำ
ไม่ใช่ครั้งแรกที่นับดาวมีโอกาสได้ร่วมมื้อเย็นกับเพื่อนสนิทของพี่ชาย แต่ทั้งสองได้ร่วมโต๊ะทานข้าวด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง ทว่าส่วนมากก็จะมีนับคลื่นร่วมวงอยู่ด้วยเสมอ น้อยครั้งที่เธอและอีกฝ่ายจะได้อยู่กันเพียงลำพัง
“ไอ้ฉายมันว่าจะไม่ทำต่อ เห็นว่าต้องทำงานส่งอาจารย์เยอะ ที่ซวยคือช่วงนี้พี่มีคิวนัดลูกค้าอีกหลายเจ้า แม่งจะไม่ทำก็ไม่ว่าแต่อย่างน้อยก็ต้องบอกล่วงหน้า จะไปหาคนช่วยงานที่ไหนทันวะถามจริง…”
แม้เสียงของคนซึ่งยกกระป๋องเบียร์ขึ้นซดตั้งแต่หัววันจะบ่งชัดว่าไม่ต้องการถามความเห็นจริงจัง แต่ผู้ฟังที่ดีอย่างนับดาวก็ผงกศีรษะรับฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ บ้างก็จะขานเสียงรับเป็นบางทีเพื่อไม่ให้เจ้าของคำบ่นร่ายยาวต้องรู้สึกเหมือนพูดอยู่คนเดียว
“แล้วที่สตูไม่มีคนอื่นเลยเหรอ?”
“ก็อย่างที่เธอเห็น เพื่อนพี่แต่ละคนมันหวงตัวกันอย่างกับอะไรดี จะเลือกใครมาช่วยงานทีก็เรื่องมากฉิบหาย โดยเฉพาะไอ้ห่าคลื่นนี่แหละตัวดี จะแดกหัวเขาซะทุกคน”
“อือ” คนฟังพยักหน้าเห็นด้วย นับดาวรู้ดีแก่ใจว่าพี่คลื่นของเธอมีนิสัยส่วนตัวเป็นอย่างไร
ตอนนี้เธอกับฮาร์เปอร์กำลังนั่งอยู่ที่ร้านอาหารเอาต์ดอร์ของห้างสรรพสินค้าละแวกใกล้กับมหาวิทยาลัยซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก และเพราะเป็นเวลาช่วงหัวค่ำบรรยากาศโดยรอบจึงคึกคักเต็มไปด้วยผู้คน
หากแต่ความวุ่นวายของเมืองหลวงในเวลานี้ไม่มีผลต่อความสนใจของนับดาวเลยแม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่เธอสนเห็นจะมีแค่คนตรงหน้า และอาจเพราะจดจ่อนานเกินพอดีจึงพลั้งเผลอหลุดปากโดยไม่ตั้งใจ
“ดาวเป็นลูกมือให้พี่ได้นะ”
“…” คนตัวโตชะงักเสียงบ่นในจังหวะเดียวกัน
กระป๋องเบียร์ที่ถูกยกจนหมดถูกวางลงบนโต๊ะ ฮาร์เปอร์แสดงสีหน้าไม่มั่นใจกับการเสนอตัวที่ได้ยิน สายตาที่เมื่อครู่กวาดมองไปโดยรอบหันกลับมาให้ความสนใจหญิงสาวในทันที
นับดาวเองก็ไม่คิดว่าจะมีคนจ้องเธอเหมือนจะทำการสแกนขนาดนี้จึงได้แต่อึกอักขยายความ อย่างน้อยก็เพื่อไม่ให้ใครจับพิรุธได้ถึงความต้องการซ่อนเร้นที่ส่วนลึกภายใน
“กะ… ก็ถ้าแค่ช่วยหยิบจับหรือจัดของ ดาวก็น่าจะพอช่วยได้”
“ถ้าลูกค้าจ้างถ่ายพวกโปรดักต์ก็คงไม่มีปัญหา” ฮาร์เปอร์พยักหน้ารับ ทว่าก็สั่นหัวในอีกวินาที “แต่ถ้าถ่าย คน พี่ว่าเธอน่าจะไม่เหมาะ”
“ทำไมล่ะ? ดาวช่วยหยิบนั่นจับนี่ก็พอไหวนะ ดาวอยากลองทำ” นับดาวยืนยันในคำพูดเดิม อย่างไรช่วงเย็นถึงค่ำเธอก็ไม่ได้ทำอะไร
“…” ฮาร์เปอร์ไม่ตอบ สายตาเบนมองไปทางอื่นทั้งสีหน้าลำบากใจ
หากเพียงถ่ายโปรไฟล์บุคคลธรรมดาคงไม่มีอะไรน่าเป็นกังวล แต่น้องสาวตัวน้อยของเพื่อนคงไม่เป็นอันทำงานทำการกับบางครั้งบางทีที่อาจต้องถ่ายภาพแนว 18+ ถึงจะมีลูกค้าแนวนี้ไม่มาก แต่ถ้าตอบแบบไม่ตอแหลก็ต้องบอกว่า มี
แม้จะเป็นแค่นิสิตปีสามแต่เพราะฐานะทางบ้านของเพื่อนแต่ละคนค่อนข้างมีกำลัง ทุกคนจึงร่วมลงขันเปิดสตูดิโอถ่ายภาพเล็ก ๆ ทดลองรับงานช่วงที่พอมีเวลาว่างเว้นจากการเรียน และเพราะเลือกเรียนถ่ายภาพโดยตรงจึงค่อนข้างตอบโจทย์กับการต่อยอดในอนาคต
ระหว่างนี้ก็แล้วแต่ว่าใครจะรับงานมากน้อย ทว่าทุกคนล้วนมีสิทธิ์ใช้สตูดิโอที่ร่วมหุ้นกันเป็นสถานที่ถ่ายงาน รวมถึงสถานที่ก็เปิดให้บริการสำหรับช่างภาพขาจรที่จะมีแวะเวียนเข้ามาบ้างเป็นบางทีก็ด้วย
และเพราะบางครั้งลูกค้าอาจติดต่อไปถ่ายงานนอกสถานที่ ฮาร์เปอร์คิดว่าหากได้ผู้ช่วยที่เป็นผู้ชายคงสะดวกในการทำงานมากกว่า อย่างไรก็มากกว่าที่จะเลือกน้องสาวเพื่อนมาทำงานด้วยกัน อีกทั้งเขาไม่รู้ว่าพี่ชายอีกฝ่ายจะโอเคหรือไม่ สุดท้ายจึงหยัดกายขึ้นยืนพยักหน้าเรียกคนตัวเล็กเพื่อปิดประเด็นโดยไม่คิดขยายความในเรื่องเดิม
“ดูหนังไหม?”
“ฮะ?” นับดาวที่กำลังคว้าของส่วนตัวขึ้นจากโต๊ะถึงกับเงยหน้าขึ้นมองด้วยสีหน้างุนงงกับคำถามใหม่ที่ไม่ทันได้ตั้งตัว แต่คนชวนก็เพียงไหวไหล่เหมือนไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
“น้องคนที่มีผัวเขามาไม่ได้แล้ว พี่มีตั๋วสองใบพอดี ขี้เกียจไปชวนคนอื่น แถมจะดูคนเดียวก็ยังไงอยู่ ก็ถ้าเธอว่าง…”
“เอาสิ” เสียงหวานตอบรับทันทีเมื่อสติกลับมา แม้ที่ข้างในจะเต้นโครมเต้นครามเพราะไม่ทันได้เตรียมใจ ทว่านับดาวก็พยายามคงสีหน้าเรียบเฉยเอ่ยย้ำในคำเดิม “เอาสิพี่เปอร์ วันนี้ดาวว่างอยู่พอดี”
“ไม่รีบกลับใช่ไหม?”
“ไม่รีบ แต่ขอโทรบอกพี่คลื่นก่อนนะ”
“อาฮะ หวังว่าแม่งจะไม่แดกหัวพี่” คนตัวโตหัวเราะเสียงแปร่ง เขาไม่ได้กลัวเพื่อนเลยสักนิด แค่แอบกังวลนิดเดียวเท่านั้น
“พี่คลื่นไม่ว่าอะไรหรอก เราก็ดูหนังด้วยกันบ่อย ๆ”
“อืม” ฮาร์เปอร์ได้แต่เบนสายตาไปอีกทาง ก็จริงอยู่ที่เขาและหญิงสาวดูหนังด้วยกันบ่อยครั้ง แต่นั่นหมายถึงการที่มีนับคลื่นอยู่ด้วยเสมอ
เขามั่นใจว่าไม่ได้กลัวเพื่อนด่าแน่นอนกับอีเรื่องแค่นี้… แต่ก็เกือบจะตั้งท่ากลับคำในอีกอึดใจ ทว่าดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว เมื่อนับดาวทำการยกหูโทรหาพี่ชายในวินาทีเดียวกัน ร่างบางเดินห่างออกไปอีกทาง ระหว่างต่อสายเจ้าตัวก็ชำเลืองมองมาที่เขาไปด้วย
ฮาร์เปอร์ไม่ทันได้คิดว่าเป็นเรื่องผิดเพี้ยนไปจากกิจวัตรประจำวันทั่วไป ที่โดยปกติเขาก็ได้เจอหน้าหญิงสาวอยู่เสมอ ไม่ผิดอะไรที่จะชวนคนเป็น น้อง ทำนู่นทำนี่บ้างตามประสา พี่ชายนอกไส้ ที่ก็สนิทสนมกันดี
แต่พอได้คิด… ก็เสือกจะคิดเยอะเกินพอดี จนต้องท่องซ้ำไปซ้ำมาในในใจว่า ไม่เห็นเป็นไร ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย แค่ชวนน้องนุ่งดูหนัง ไม่ได้ชวนไปดูหมา ดูแมว หรือชวนดูงวงช้างที่ห้องเสียที่ไหน
และในระหว่างที่คิ้วหนาเลื่อนขมวดเข้าหากันถกประเด็นความผิดชอบชั่วดีอยู่ในใจ คนตัวเล็กก็เดินกลับมาพร้อมสั่นศีรษะไปมา
“พี่คลื่นไม่รับสาย”
“งั้น…”
“ดาวว่าพี่คลื่นไม่ว่าหรอก อีกอย่างดาวได้ดูฟรีด้วย”
“อาฮะ” ฮาร์เปอร์ยังคงทำได้เพียงขานเสียงรับ
ดวงตาคมหลุบมองใบหน้าขาวผ่องของคนที่เงยหน้าจ้องเขา สายตาคาดหวังของหญิงสาวราวกับจะรอฟังคำชวนย้ำอีกที และอาจเพราะความลังเลใจของเขามันฉายชัดเกินพอดี อีกฝ่ายจึงเม้มริมฝีปากเมินมองไปอีกทาง
“ไม่เป็นไร ถ้าพี่อยากชวนคนอื่นแทน ดาวกลับห้องเองก็ได้”
นับดาวพยายามฝืนยิ้มให้เมื่อคิดว่าเจ้าของคำชวนอาจต้องการเปลี่ยนใจแม้นาทีก่อนเธอจะดีใจล่วงหน้าไปแล้วก็ตามที ทั้งอดไม่ได้ที่จะตบบ่ากว้างเพื่อไม่ให้ใครต้องรู้สึกลำบากใจ
“ถ้าพี่เปลี่ยนใจจะไปกับใครก็ไม่เป็นไร”
“พูดมาก” เป็นฮาร์เปอร์ที่ตัดบทในท้ายที่สุด วงแขนกว้างกอดคอดึงร่างบางเข้าหาตัว ก่อนเขาเองจะเป็นฝ่ายออกเดินนำโดยไม่ปล่อยให้ใครมีโอกาสได้พร่ำคิดไปเองแบบที่ไม่เข้าใจในข้อเท็จจริงอีก
ก็แค่ดูหนัง… แค่ดูหนังสองต่อสองกับน้องสาวคนสนิทที่มีพี่ชายประสาทแดกนิดหน่อยเท่านั้น ไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต