เข้าสู่ระบบอย่าบอกนะว่า!
“คุณ ผมขอนอนนี่ได้ไหม”
“ไม่ได้! จะบ้าเหรอ”
“มีตั้งสองห้องนอน คุณอยู่คนเดียว เกิดจมน้ำเหมือนเมื่อกี้ใครจะช่วย” ปทัฏฐานรีบเสนอตัวทันที อย่างน้อยเขาก็เป็นหมอ ถ้าเกิดเธอเป็นอะไร เขาก็น่าจะช่วยเธอได้
“ฉันไม่ได้จม ฉันแค่ทำสมาธิในน้ำย่ะ” เธอเท้าสะเอวว่าคนที่ดึงเธอขึ้นจากสระ
“อ้าวเหรอ ไอ้เราก็อุตส่าห์เป็นห่วง”
“นี่คุณหมอ ตกลงจะออกไปได้หรือยัง ฉันต้องการความเป็นส่วนตัว” คำว่า ‘อุตส่าห์เป็นห่วง’ ของเขายิ่งทำให้อารมณ์ที่ขุ่นมัวของเธอทวีคูณ
แต่ยังไม่ทันที่จะได้เถียงกันต่อ อาหารมื้อค่ำก็ถูกลำเลียงเข้าไปในส่วนของเทอเรซที่ยื่นออกไปรับลมเย็นและยังเอาไว้ชมดาวในเวลากลางคืนอีกด้วย
“อาหารเรียบร้อยแล้วค่ะ ขอให้มีความสุขกับค่ำคืนนี้นะคะ ขาดเหลืออะไรเรียกได้ตลอดเวลาเลยค่ะ”
พนักงานสาวพูดจบและขอตัวออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะบุญนำพาต้องการความเป็นส่วนตัว ซึ่งเธอแจ้งตั้งแต่จองที่พักแล้ว
ไม่แปลกใจที่พนักงานจะเข้าใจว่าเขาคือคู่รักของเธอ ในเมื่อก่อนหน้านี้เธอได้แจ้งว่าจะเข้าพักสองท่าน
“คุณบุญครับ”
เสียงเรียกของอีกฝ่ายทำคนที่ยืนนิ่งต้องหันกลับมาทำตาขวางใส่อีกครั้ง
“ห้าพันได้ไหมครับ”
“อะไรห้าพัน!!!”
“คือผมเบิกค่าโรงแรมได้แค่ห้าพัน ผมจ่ายค่าที่พักให้คุณห้าพันได้ไหม ถ้าคุณไม่อยากให้ผมรบกวน ผมก็จะไม่ออกมาจากห้องอีก”
‘โกรธคือแก่ โมโหคือป้า คนสวยอย่างบุญนำพาจะไม่เป็นทั้งป้าและยังไม่แก่’
คาถาประจำตัวถูกนำมาท่องขมุบขมิบเพื่อลดอารมณ์โมโหที่พุ่งแตะระดับสูงสุด
จ๊อก!!!
เสียงท้องร้องของคุณหมอหนุ่มทำให้ทั้งสองสบตากันอีกครั้ง เธอเห็นคนตรงหน้าหูแดงเพราะความเขิน
“คือ...” ปทัฏฐานยกมือลูบท้ายทอยอย่างเขิน ๆ เขาติดอยู่สนามบินเกือบสี่ชั่วโมง อาหารมื้อล่าสุดคือมื้อเช้าที่โรงแรมก่อนออกเดินทางไปสนามบิน
จนถึงเวลานี้มีแค่น้ำที่ตกถึงท้อง
“คุณไปเปลี่ยนชุดเถอะ เดี๋ยวออกมากินข้าวกัน”
ถึงนิสัยจะไม่น่ารักใจดีเหมือนคนเป็นน้องอย่างใบบุญญา แต่เธอเองก็คงไม่ใจร้ายกับคนหิวข้าวได้ลงคอ เอาเถอะ กินอิ่มก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน
สิบนาทีต่อมาทั้งสองที่ไม่ควรมาอยู่ที่นี่เวลานี้ด้วยกัน ก็มาอยู่ด้วยกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
ปทัฏฐานรินไวน์ขาวที่ทางโรงแรมแช่ไว้ใส่แก้วของเธอผู้เป็นเจ้าของห้อง
“ทำไมคุณไม่ดื่มเหรอ” บุญนำพาถามเมื่อเห็นเขารินให้เธอ แต่ไม่ได้รินอีกแก้วให้ตัวเอง
“อืม...ไม่ดีกว่าครับ”
“ฉันรินให้ อาหารทะเลต้องกินกับไวน์ขาว” เธอยกขวดไวน์ในถังแช่รินให้เขา
อย่างน้อยก็มีเพื่อน เผื่อเมาตกน้ำ เขาจะได้ช่วยเธอ
ปทัฏฐานมองใบหน้างามที่ไม่ได้แต่งแต้มเครื่องสำอางเหมือนอย่างเคย เขาเคยเจอเธอหลายครั้ง ใบหน้างามจะตกแต่งด้วยเครื่องสำอางจนแทบไม่เห็นผิวหน้าหรือแม้แต่ตาดำแท้ ๆ
ผิดกับเวลานี้ที่เธอใส่แว่นกรอบสีดำ กับชุดนอนผ้าไหมสีดำขลิบทอง โลโก้ที่ปักบนหน้าอกเสื้อบ่งบอกราคาว่าคงจับต้องยากสำหรับคนชนชั้นกลางอย่างเขา
ขณะที่เขาอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงผ้ายืดสีเทาของแบรนด์ดังจากญี่ปุ่นซึ่งราคาสำหรับคนทั่วไป
“ขอบคุณครับ” เขาเอ่ยขอบคุณ รู้ว่าเธอคงไม่เต็มใจให้เขาอยู่ที่นี่นัก
“กินเถอะค่ะ” ทั้งสองนั่งกินด้วยกันเงียบ ๆ ปทัฏฐานเป็นคนคุยไม่เก่ง เขาเป็นคนไร้เสน่ห์แต่ไหนแต่ไร
เป็นคนธรรมดา ค่าพื้นฐานทั่ว ๆ ไป ความหมายในทางเดียวกันกับชื่อจริงและชื่อเล่นของเขานั่นแหละ
ปทัฏฐาน (อ่านว่า ปะ-ทัด-ถาน) มีความหมายเดียวกับ บรรทัดฐาน
‘Basic - เบสิก’ ความหมายคือพื้นฐาน
ไม่หล่อ แต่ก็ไม่ขี้เหร่
ไม่รวย แต่ก็ไม่จน...เมื่อก่อนนะ ตอนนี้อาจเรียกได้ว่าจน
“ขออีกแก้วค่ะ” เสียงของเธอทำเขาเงยหน้าจากอาหารบนจาน
“ครับ” เขารินไวน์ให้เธอ และก็รินให้ตัวเอง เพราะรู้ดีว่าถึงเขาไม่รินให้ตัวเอง เธอก็รินอยู่ดี
“คุณหมอมาทำอะไรที่นี่คะ” บุญนำพาเริ่มเป็นฝ่ายเอ่ยถาม เปล่าประโยชน์ที่จะไล่เขาไปนอนที่อื่น
“มาสัมมนาครับ ทางโรงพยาบาลส่งมา” ปทัฏฐานอธิบายเหตุผลที่ทำให้เขาต้องเดินทางมาที่นี่
เธอพยักหน้ารับทราบ ยกเครื่องดื่มในมือขึ้นจิบ
“คุณมาเที่ยวคนเดียวเหรอ” คุณหมอหนุ่มถามอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาเห็น บุญนำพาเป็นคนเฟรนด์ลี่ เธอไม่น่าจะโลกส่วนตัวสูงถึงขั้นมาเที่ยวคนเดียว กับห้องพักที่กว้างขวางขนาดนี้
“น้องบิวกิ้นกับน้องมิกิชอบเล่นด้วยกัน เป็นเพื่อนกันเป็นเรื่องปกติที่เด็กวัยนี้จะชอบคิดว่าเป็นแฟน อย่าคิดมากเลยนะคะ ความรักของเด็ก ๆ น่ะค่ะ” คุณครูฝ่ายปกครองพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ในตอนดึกของคืนวันนั้น สองผัวเมียนอนกอดกันและคิดถึงเรื่องราวของลูกสาวและลูกชายในวัยอนุบาล จากนั้นทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน “กว่าลูกจะโตเราต้องไปห้องปกครองกี่ครั้งกันเนี่ย” ปทัฏฐานผู้เป็นเด็กเรียนและเด็กดี ไม่เคยเข้าห้องฝ่ายปกครองเลยสักครั้ง พ่อแม่ไปโรงเรียนส่วนมากก็ไปรับใบประกาศเรียนดี “เรื่องปกติค่ะ” “แสดงว่าที่รักแสบมากใช่ไหมตอนเรียน นี่ลูกสาวเราคงเหมือนแม่” ปทัฏฐานแอบแซวทั้งยังกระชับอ้อมกอดให้เมียรักขึ้นมานอนเกยบนอก “แสบอยู่นะคะ พ่อเคยแอบไปหลายครั้งไม่บอกแม่ แม่เป็นดาราไงเดี๋ยวคนเอาไปเขียนข่าว” บุญนำพาหัวเราะคิกคัก “พี่ไม่ชินเลย” “พี่เบย์อย่าซีเรียสเรื่องปกติ เรื่องวันนี้พรุ่งนี้ก็เป็นอดีตแล้ว อะไรไม่ดีเราก็แก้ไข การเลี้ยงลูกก็เหมือนกันค่ะ บางทีเราต้องให้ลูกได้เรียนรู้โลกกว้างบ้าง เราไม่ได้อยู่กับเขาตลอดไป”
ปทัฏฐานต้องขมวดคิ้วทันที เมื่อที่โรงเรียนของลูกโทรมาแจ้งว่าลูกสาวสุดที่รักของเขาตีเพื่อน ลูกสาวสุดน่ารักของเขาเนี่ยนะตีเพื่อนเป็นไปไม่ได้ ต้องมีเรื่องอะไรเข้าใจผิดแน่นอน น้องบูลผู้อ่อนหวานสุดน่ารักจะตีเพื่อนได้อย่างไร “ที่รัก ครูโทรมาบอกว่าให้ไปที่โรงเรียนคือลูกเราตีเพื่อน” เสียงของผู้เป็นสามีทำให้บุญนำพาเบนสายตาจากจอทีวีมองหน้าสามีที่คิ้วกำลังผูกโบ “ไปค่ะ” “ที่รักเชื่อเหรอว่าลูกเราตีเพื่อน” ปทัฏฐานถามเมื่อเห็นว่าภรรยาดูท่าทีไม่ตกใจ “อืม ก็อาจเป็นไปได้นะคะ” บุญนำพาทำท่าทางคิด “ตอนเด็กบุญก็ตีเพื่อน” คำพูดของเมียรักทำคนฟังอึ้งไปสักพัก เมียเขาตีเพื่อน “เดี๋ยวนะ การตีเพื่อนมันคือการใช้ความรุนแรงนะบุญ” สามีผู้เป็นหมออ่อนโยนไม่เห็นด้วยกับการกระทำอันป่าเถื่อนที่ใช้กำลังแบบนี้ “อ้าว! ก็มันมาเปิดกระโปรงบุญ ไม่ให้ตีเหรอ” “เปิดกระโปรง!” ปทัฏฐานรู้สึกร้อนไปทั้งตัวเมื่อได้ยินคำว่ามาเปิดกระโปรงเมียรัก “ถ้าเกิดมีคนมาเปิดกระโปรงน้องบูล พี่เบย์จะไม่ให้ลูกตีเพื่อนเหรอ” “พี่จะเอามือจิ้มตามัน” เมื่อนึกถึงว่
ยิ่งคิดยิ่งน่าโมโห ปทัฏฐานรู้สึกถึงความกรุ่นโกรธจากคนนอนข้างกาย ปกติทั้งเขาและเธอต้องมีกิจกรรมกระชับรักหลังจากที่พาลูกเข้านอน “บุญจ๋า” เขาสอดแขนใต้ร่างบางดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอด “อย่าค่ะ” เธอร้องห้ามเมื่อเขากำลังจะเลิกชุดนอนเธอขึ้น รู้ว่าเขาอยากจะทำอะไรหลังจากนี้ “ทำไมคะ” “ใครจะดูดนมบุญ ต้องเรียกบุญว่าแม่ก่อน” เธอทำตาดุใส่เขา ปทัฏฐานหัวเราะชอบใจ “แม่บุญครับ” เขาทำเสียงออดอ้อน “เชอะ” “เดี๋ยวต่อไปพี่จะสอนลูกเรียกแม่นะครับ บุญจ๋า” “เชื่อได้หรือเปล่า” เธอพูดอย่างกระเง้ากระงอด “ทำไมขี้งอนจัง เหมือนคนท้องเลย” คำพูดของเขาทำให้ทั้งสองมองหน้ากัน “เอ้ย!” เป็นบุญนำพาที่เด้งตัวจากที่นอนทันที ควานหาที่ตรวจสอบการตั้งครรภ์ที่ซื้อไว้ จากนั้นทั้งสองก็พุ่งเข้าห้องน้ำพร้อมกัน คนหนึ่งทำหน้าที่เตรียมอุปกรณ์ตรวจ อีกคนพยายามให้ของเหลวในกายไหลออกมา “เป็นไงท้องไหมคะ” บุญนำพาซุกหน้ากับอกกว้างไม่อยากดูผลตรวจ “เดี๋ยว ๆ รอแป๊บ” ปทัฏฐานกอดเมียรักแน่นตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็นตรงห
ทั้งคู่ตัดสินใจย้ายมาอยู่ลำพูน ประสิทธิ์ยกที่ดินผืนหนึ่งให้ทั้งคู่เป็นที่ดินที่อยู่ระหว่างเชียงใหม่กับลำพูน หน้าบ้านเปิดเป็นคลินิกเล็ก ๆ รักษาคนทั่วไป บ้านและคลินิกปทัฏฐานได้สร้างไว้แล้วเมื่อปีก่อน เขามีความฝันอยากลาออกมาเปิดคลินิกรักษาโรคทั่วไปนานแล้ว มีความตั้งใจในคราแรกว่าจะย้ายกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลรัฐแถวลำพูนแล้วก็เปิดคลินิกคิดค่ารักษาถูก ๆ ถือว่าเป็นการทำบุญ แต่ที่ยังรอเวลาเพราะทำใจห่างจากดวงใจเขาอย่างบุญนำพาไม่ได้ ความฝันของเขามีเธออยู่ในนั้น เขาอยากให้เธอเดินทางไปกับเขาด้วยเช่นกัน เพียงไม่นานก่อนที่บุญนำพาจะคลอดได้แค่เดือนเดียว เธอก็ได้ซีอีโอที่เก่งกาจมาบริหารแทน พิมมี่และพอลย้ายตามเจ้านายไปทำหน้าที่กันถึงลำพูน เพราะที่บ้านค่อนข้างกว้างเกือบสิบไร่ ปทัฏฐานจึงแบ่งที่ดินให้พิมมี่กับพอลคนละหนึ่งไร่ บุญนำพาสร้างบ้านให้พวกเขาคนละหลังถือว่าเป็นโบนัสที่ทำให้เป็นทีมงานซัปพอร์ตความรักของทั้งคู่ น้องบูล หรือ บูรณิมา แปลว่าผู้มีบุญ คลอดด้วยน้ำหนักสามพันห้าร้อยกรัม แข็งแรง ตัวแดงและร้องดังมาก ผู้เป็นพ่อแม่ ปู่ย่า ตายายต่างดีใจ
“เรื่องนี้แหละที่พี่อยากคุยกับบุญ พี่อยากกลับไปเปิดคลินิกที่บ้าน คลินิกรักษาโรคทั่วไป คิดราคาไม่แพง ไม่ทิ้งอาชีพหมอแต่ก็มีเวลาเลี้ยงลูก พี่อยากให้บุญไปอยู่ด้วยกันได้ไหม ใช้ชีวิตง่าย ๆ มีเรามีลูก พี่ไม่อยากให้บุญเหนื่อย พี่เลี้ยงบุญกับลูกได้นะครับ” เธอรู้ว่าเขาพูดจริง เงินเก็บตลอดสามปีที่ผ่านมาเขาแทบไม่ใช้อะไรฟุ่มเฟือยนอกจากลงทุนเพื่อเก็บไว้ใช้ในอนาคต “จริง ๆ บุญทำงานที่บ้านก็ได้ค่ะ หรือไม่ก็จ้างซีอีโอมาบริหาร ก็ดีเหมือนกันนะคะ อยากใช้เงินที่หามาบ้าง ต่อไปต้องเกาะพี่เบย์กินแล้วนะคะ” บุญนำพายิ้มหวานกอดเอวเขาไว้แน่น เธอต้องขอบคุณชื่อตัวเองหรือวาสนาตัวเองนะ ที่มีบุญได้ผู้ชายคนนี้มาเป็นคู่ชีวิต “พี่เลี้ยงบุญได้จริง ๆ นะครับ” “บุญรู้ สามปีที่ผ่านมาใครหาข้าวให้บุญกินทุกมื้อ ถ้าไม่เรียกว่าเลี้ยงได้จะเรียกว่าอะไรคะ” บุญนำพาออดอ้อน ปทัฏฐานนั่งลงกับพื้นทราย ดึงร่างของเมียรักให้หย่อนกายนั่งบนตักเขา กอดเธอไว้แน่น เกยคางบนไหล่เล็ก “ครั้งแรกที่พี่เจอบุญ พี่กลัวมาก” “กลัวทำไม บุญน่ากลัวตรงไหน” เธอขยับกายนั่งพิงเขาอย่างอารมณ์ดี มอ
“ไปเดินเล่นกันเถอะ” เสียงทุ้มของคนเป็นสามีเอ่ยชวนคนท้องที่นอนเพิ่งตื่น แดดยามบ่ายใกล้เย็นทำให้อากาศร้อนลดลงไปมากแล้ว ท้องฟ้าสีฟ้าสดใสยิ่งให้ความรู้สึกดี กลิ่นทะเลที่เธอชื่นชอบ ทะเลที่ทำให้ทั้งสองได้เจอกัน หาดทราย น้ำทะเลและท้องฟ้า “พี่ถ่ายรูปนะ บุญยืนตรงนี้ พี่จะเอาไว้ให้ลูกดู” ลูกจะอยากดูหรือเปล่าปทัฏฐานไม่รู้ แต่เขานี่แหละอยากเก็บภาพเธอกับชุดคลุมท้องสีโอรสนี้ไว้เป็นความทรงจำ ชุดคลุมท้องทุกชุดเขาเป็นคนซื้อให้เธอ เขาตั้งใจเลือกทุกชุดและเธอก็ชื่นชอบชุดที่เขาเลือกให้ทุกชุดเช่นกัน “ถ่ายสวย ๆ นะคะพี่หมอ อย่าให้อ้วน” เธอเอ่ยแซวซึ่งได้ยินเสียงเขาหัวเราะออกมา “นั่นสิ เดี๋ยวพี่จะพยายามถ่ายไม่ให้เห็นพุง” “ฮ่า ฮ่า บุญต้องเอียงด้านไหนเนี่ย” เธอว่าพลางหันซ้ายหันขวาให้เขา พยายามหลบซ่อนพุงยื่น ๆ ของตัวเอง “พี่ล้อเล่น เอาพุงยื่น ๆ แบบนั้นแหละ เมียพี่สวยอยู่แล้วต่อให้พุงใหญ่กว่านี้ก็ยังสวยมาก” คนปากหวานเอ่ยชม “ปากหวานตลอด” บุญนำพานึกถึงช่วงเวลาที่เธอกับเขาพบกันครั้งสองอย่างไม่ตั้งใจ เวลานั้นเธอ







