สำหรับคีแรนแล้วคริสคือคนที่เหมาะสมกับรอยยิ้มมากที่สุด หากเลือกได้เขาอยากเกิดเป็นโอเมก้าแทนพี่ชายแต่ร่างบางกลับทำไม่ได้
หากคริสเป็นแค่เพียงโอเมก้าธรรมดาแบบคนทั่วไปก็คงไม่เป็นไร แต่พี่ชายของเขานั้นผ่านการทดลองในโครงการของปู่ตั้งแต่เด็กนับจากนั้นชีวิตของคริสก็เปลี่ยนไป
ปู่ของคีแรนเดิมทีมีทีมวิจัยที่ดีที่สุดในเมืองเอส แถมยังคิดค้นตัวยาที่จะช่วยเปลี่ยนโอเมก้าให้เป็นอัลฟ่า แต่เขานั้นทำไม่สำเร็จ
ตระกูลครูซที่ร่ำรวยเบื้องหลังเต็มไปด้วยเรื่องราวน่าขยะแขยงที่ปู่เขาเคยทำเอาไว้ มีที่ไหนจับหลานชายตัวเองไปทำการทดลอง จนฝากรอยแผลขนาดใหญ่ไว้ในใจครอบครัวของเขาเรื่อยมา
โชคดีที่พ่อของคีแรนรู้สึกเอะใจ อีกทั้งยังรักลูกปานแก้วตาดวงใจ แอบสืบโครงการนี้จนรู้ชัดว่าพ่อของเขากำลังใช้ลูกชายตนเองในการทดลองยาจึงพาตัวคริสออกมา และยื่นคำขาดตัดพ่อลูกกัน
แม้เรื่องราวจะผ่านมาหลายปีจนตอนนี้อาการคริสกำลังแย่ลง แต่คีแรนไม่เคยถอดใจ ยังคงหาทางช่วยพี่ชายเรื่อยมา
อาการของคนพี่นั้นจะรุนแรงในช่วงที่เขาฮีท คริสไม่สามารถควบคุมตัวเองจากคนที่มีเพศรองตรงข้ามได้ เขาต้องการคู่อย่างกระหายยิ่งกว่าอัลฟ่าที่อยู่ในช่วงรัทเสียอีก
นับจากที่คริสเริ่มมีอาการทุกครั้งที่เขากำลังเข้าสู่ช่วงฮีท เขาได้สั่งให้คีแรนขังเขาไว้ในห้องที่มีการป้องกันแน่นหนา เพราะกลัวว่าวันหนึ่งจะมองคีแรนเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่น้องอีกต่อไป
คีแรนเจ็บปวดกับการที่เขาต้องทำกับพี่ชายแบบนี้ แถมยังรู้สึกผิดที่ไม่สามารถหายาที่จะทำให้คริสกลับมาปกติได้อีก มันยิ่งทวีความเสียใจ
ร่างบางล้วงไปที่กระเป๋ากางเกงเพื่อต่อสายหาใครบางคน ไม่นานปลายสายก็ตอบรับด้วยน้ำเสียงเรียบ
“คีแรนหลานรัก” เสียงทักทายจาก คาร์ฟ ปู่แท้ๆของเขาเอง
“ปู่กำลังทำผมลำบาก”
“หลานมีทั้งเงินทอง ธุรกิจมากมาย แล้วหลานเดือนร้อนอะไร”
“ทีมวิจัยที่ปู่ดึงตัวไปไงครับ”
“ปู่จะทำแบบนั้นไปทำไมกัน ปู่เองก็แก่แล้วไม่คิดจะทำอะไรอีกแล้ว สู้อยู่ดูหลานๆเติบโตไม่ดีกว่าหรือ?”
“ปู่อย่าทำแบบนี้เลยครับผมรู้ว่าปู่เป็นคนทำ ยิ่งผมได้รู้จักปู่มากเท่าไหร่ ผมยิ่งเกลียดปู่มากเท่านั้น”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉลาด สมกับเป็นหลานปู่แท้ๆ”
“แล้วคริสไม่ใช่หลานปู่หรอครับ ถึงทำกับคริสแบบนั้น ถ้ายังเห็นผมเป็นหลานอยู่ อย่ารังแกผมด้วยวิธีสกปรกแบบนี้เลยครับ เผื่อตอนปู่ตายอาจจะยังได้เผาผีกันบ้าง”
คีแรนไม่รู้ว่าตอนนี้สีหน้าปลายสายจะเป็นอย่างไรหลังจากที่เขาวางสายไป แต่ตัวเขานั้นสีหน้าเรียบเฉยราวกับไร้ความรู้สึก
คีแรนหมดศรัทธาในตัวปู่ ทั้งยังรู้สึกเกลียดเขายิ่งกว่าใคร ไม่ว่าร่างบางจะหาทางช่วยพี่ชายเท่าไหร่ ก็จะถูกขัดขวางโดยคาร์ฟทุกครั้ง
ร่างบางมองออกไปข้างนอกยังคงเห็นพี่ชายยืนตัดกุหลาบในยามค่ำคืนอยู่ รอยยิ้มที่คริสส่งขึ้นมาให้เขานั้นสดใสราวกับไม่เคยผ่านเรื่องเลวร้ายมา
“ฉันจะช่วยนายเองคริส รอหน่อยนะ”
ช่วงเวลากลางดึกในคืนเดียวกันนั้นหน้าคฤหาสน์ครูซมีชายนิรนามคนหนึ่งยืนอยู่ ชายคนนั้นสวมใส่เสื้อผ้าสีดำสนิท ปิดบังใบหน้าด้วยฮู๊ดเดินก้มหน้ามาหยุดอยู่ที่หน้าประตูรั้ว
สายฝนโปรยปรายเบาๆ ในมือชายคนนั้นข้างหนึ่งถือร่มสีดำอันใหญ่ ส่วนอีกข้างล้วงกระเป๋าเสื้อแขนยาวอยู่ระดับใต้สะดือ
เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น1ครั้งไม่นานแม็กเวลก็เดินออกไปพบกับผู้มาเยือน
ทั้งคู่ยืนสนทนากันอยู่หน้าประตูรั้ว โดยมีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องภาพเหตุการณ์ผ่านหน้าต่างห้องนอนชั้นสองในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ตั้งห่างออกไป
ไม่นานชายสองคนก็ต่างแยกย้าย แม็กเวลส์จึงรีบกลับเข้าบ้านมารายงานคนที่กำลังรอเขาอยู่
“ได้มาแล้วครับคุณหนู” ชายสูงวัยรายงานคนที่ยังยืนหันหน้ามองนอกหน้าต่าง
“ได้มาจากที่ไหนครับ”
“จากเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานานแล้วหละครับ แต่คุณหนูไว้ใจได้”
“ผมเชื่อใจลุงครับ” คีแรนตอบตามที่รู้สึก เขานั้นไว้ใจแม็กเวลส์ที่สุด
คีแรนเดินทางไปยังสนามแข่งในช่วงบ่ายของวันนี้ด้วยสมองที่ไม่โล่งเอาเสียเลย
ร่างบางไม่สามารถหยุดคิดถึงเรื่องของคริสพี่ชายเขา หรือคาร์ฟที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตเขา รวมถึงเรื่องของบิรอนเองก็ยังคงรบกวนจิตใจอยู่ตลอดเวลา
คีแรนไม่สามารถละความสนใจจากใครได้เลย เพราะต่างก็มีเรื่องที่เขาต้องกังวล
ระหว่างที่คีแรนกำลังยืนก้มๆเงยๆ เช็คความเรียบร้อยที่ห้องเครื่องรถอยู่ หูก็ได้ยินเสียงรถยนต์อีกคันมาจอดที่ข้างๆ
ร่างบางไม่ได้สนใจยังคงก้มหน้าต่อไป แต่แล้วก็มีเสียงที่คุ้นเคยเอ่ยทักทายเขาขึ้นมา
“ถอนตัวตอนนี้ยังทันนะคีแรน” แม้ร่างบางจะไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองแต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความเย้ยหยัน
“อย่ามายุ่งกับกู” คีแรนตอบคนที่ยืนเอาหลังพิงรถอีกคันอยู่ด้วยน้ำเสียงเรียบ
“ถ้าวันนี้มึงแพ้ กูช่วยคุยกับจาฟาให้ได้นะ เรื่องเดิมพันของมึง”
“กูไม่ต้องการ”
“เย่อหยิ่งสมกับเป็นมึงจริงๆเลยนะคีแรน แต่ช่วยคิดให้ดีๆถ้ามึงไม่ได้ของจากจาฟาไป ไอ้คริสพี่ชายมึงอาจจะ…”
“มึงต้องการอะไร”
“คำตอบกูก็เหมือนเดิม”
“มึงคือคนสุดท้ายที่กูจะนึกถึงบิรอน” คีแรนเงยหน้าขึ้นมามองคู่สนทนาด้วยสายตาเอาเรื่อง
“อย่างน้อยก็ยังคิดถึงกู ฮ่าฮ่า วันไหนที่มึงจนตรอกก็ติดต่อกูมาได้นะ กูรอมึงตลอด” พูดจบบิรอนก็เดินไปหาจาฟาที่พึ่งมาถึง
2เดือนก่อนคีแรนได้ขอเจรจากับจาฟาเรื่องขอซื้อส่วนผสมสำคัญในตัวยาที่จะสามารถช่วยคริสได้ ซึ่งจาฟาคือผู้ถือครองอยู่ และดูเหมือนดีลครั้งนี้จะไม่ง่าย
จาฟายื่นข้อเสนอให้คีแรนด้วยการแข่งรถ หากคีแรนชนะเขายินดีทำการค้าด้วยแต่ถ้าไม่คีแรนต้องลำบากแน่
การแข่งขันนี้มีเดิมพันคือความเป็นความตายของคริส ซึ่งผลการแข่งขันครั้งนี้คีแรนมีเพียงทางเลือกเดียวคือต้องชนะ เท่านั้น
เมื่อรถที่ใช้แข่งทั้งสองคันลงสู่สนาม ทุกอย่างพร้อมแล้วคีแรนจึงเดินตรงไปที่รถทันที
แต่คู่แข่งกลับยังนั่งนิ่งที่ขอบสนามมีเพียงบิรอนที่เดินลงมาแทน หรือครั้งนี้บิรอนคือคนที่ลงสนามกัน
“แข่งกับกูเหนื่อยหน่อยนะ”
คำตอบที่คีแรนสงสัยตอนนี้กระจ่างแล้ว เขาไม่คิดว่าจะต้องแข่งกับบิรอน ซึ่งในเมืองนี้บิรอนนับว่าเป็นนักแข่งอันดับต้นๆ ซึ่งต่างจากตนที่พึ่งขับได้เพียง2เดือน
คีแรนทำได้เพียงมองหน้าบิรอนด้วยสายตาเย็นชา ไม่ว่าคู่แข่งจะเล่นนอกเหนือข้อตกลงยังไง เขาก็เพียงแค่ต้องยอมรับมัน เพราะตอนนี้คีแรนไม่มีทางเลือกอื่นให้อีก
หมวกนิรภัยถูกสวมเข้าที่หัวของทั้งคู่ก่อนจะเข้าไปในรถเพื่อเตรียมพร้อมในเกมครั้งนี้
ธงสีขาวดำลายตารางโบกสบัดไปมาก่อนจะทิ้งดิ่งลงพื้นเป็นสัญญาณปล่อยตัวของรถทั้งสองคัน
คีแรนเหยียบคันเร่งแล้วพุ่งได้ข้างหน้าด้วยหัวใจที่เต้นรัวราวกับกลองที่ตีเร่งจังหวะ
แม้ว่าความเร็วของรถจะบีบหัวใจเขาหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่ร่างบางยังคงมองตรงไปด้านหน้าแล้วโฟกัสแค่ตัวเขาเอง
ต่างจากบิรอนที่ขับปาดรถคีแรนไปมาเหมือนกับหมาป่ากำลังเล่นกับเหยื่อ ก่อนจะถึงรอบสุดท้ายของเกม
คีแรนยังคงนำคันข้างๆ อยู่1ช่วงแขน ร่างบางเพียงแค่ต้องรักษาระยะเอาไว้จนถึงเส้นชัยให้ได้ เพียงเท่านั้นเขาก็จะชนะ
แต่ผิดคาดรถของคีแรนถูกบิรอนปาดหน้าช่วงโค้งสุดท้าย ทำให้คีแรนเสียการควบคุมจนรถถไลออกนอกเส้นทางชนเข้ากับยางรถยนต์ที่วางเรียงกันเป็นกำแพงด้านข้าง
หน้าผากมนชนเข้ากับพวงมาลัยอย่างแรงจนเกิดรอยแผลที่มุมด้านขวา เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลลงมาข้างแก้ม กว่าร่างบางจะเรียกสติได้รถของคู่แข่งก็เข้าเส้นชัยไปแล้ว
คีแรนขับรถออกจากสนามมาด้วยอาการเหม่อลอย ใบหน้าของเขาไร้ความรู้สึก นี่คงเป็นอีกครั้งที่เขาล้มเหลว
รถของร่างบางจอดที่ริมถนนกลางป่าระหว่างทางกลับบ้าน เมื่อรถจอดสนิทคีแรนก็ไม่สามารถเก็บความรู้สึกที่มีไว้ได้อีกต่อไป
ม่านน้ำตาที่เคยกั้นเอาไว้มานานตอนนี้ได้พังทลายลง เขาปล่อยให้มันไหลอาบแก้มเนียนอย่างเกินจะอดกลั้นเอาไว้
มือสองข้างของเขาจับไปที่พวงมาลัยรถยนต์แน่นก่อนจะใช้หัวโขลกลงไปซ้ำๆ เพื่อระบายความเจ็บปวดในใจ
คีแรนทำทุกทางเพื่อช่วยพี่ชายของเขา แต่ก็ล้มเหลวทุกครั้ง และการแข่งขันครั้งนี้มันทำให้เกิดเป็นแผลในใจ
หลังจากที่คีแรนร้องไห้อย่างบ้าคลั่งร่างบางก็นั่งนิ่งปล่อยให้สมองได้ทบทวนเรื่องราวต่างๆ จนเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงเย็นของวัน
เสียงข้อความจากโทรศัพท์ดังขึ้นเรียกสติคนที่นั่งเหม่อลอย คีแรนหยิบมือถือขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นพี่ชายของเขาที่ส่งข้อความมาหา
คริส : กลับยังจ๊ะ ทำกับข้าวเสร็จหมดแล้ว
คีแรน : กำลังกลับ
คริส : ชนะมั้ย
คีแรน : ขอโทษนะคริส
คริส : ไม่ต้องเสียใจเลย คีแรนเก่งมาก มีเวลาซ้อมแค่2เดือน แต่ไปลงแข่งได้แบบนี้ก็สุดยอดแล้ว
คีแรนกลับมาร้องไห้อีกครั้งด้วยความรู้สึกผิดต่อพี่ชาย ที่ถึงแม้เขาจะรู้สึกล้มเหลวเพียงใด แต่กับคริสเขาคือคนที่เก่งเสมอ
เซฟเฮาท์ตระกูลเบรค
“ที่มึงทำวันนี้ไม่ใจร้ายเกินไปหน่อยหรอว่ะ” ลูคัสถามเพื่อนด้วยความสงสัย ที่จู่ๆบิรอนก็ลงสนามแข่งแทนจาฟา
“กูก็แค่อยากสั่งสอนคนอวดดี” บิรอนตอบพร้อมกับยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ
“แล้วถ้ามันหายาไม่ได้พี่มันตายขึ้นมาทำไง”
“มันไม่กล้าปล่อยให้คีแรนลำบากหรอก เดี๋ยวมันก็แอบช่วยเค้า มึงเชื่อกูดิ” เนย์อาร์บอกกับลูคัส
“สุดท้ายถ้าจะช่วยเค้าทำไมไม่ช่วยไปตรงๆ ทำไมต้องทำร้ายเค้าด้วยว่ะ หรือมึงชอบแบบฮาร์ทคอร์”
“กูออกตัวช่วยมันไม่ได้มึงก็รู้ แล้วคนอย่างมันจะยอมให้คนอื่นช่วยหรอ กูทำแบบนี้ก็เป็นผลดีกับทั้งตัวกูแล้วก็ตัวมันเอง”
บิรอนพูดอย่างตรงไปตรงมากับเพื่อน มันเป็นปัญหาที่เขาก็ยังหาทางออกไม่ได้ ทำได้เพียงแค่อยู่ในที่มืดเหมือนที่ผ่านมา
“คีแรน แผลที่หัวเป็นไงบ้าง ปวดมั้ย ไปหาหมอป่าว” “ดีขึ้นแล้วอ่ะ คือคริส..”“มีอะไรรึเปล่า?”“ขอโทษนะที่ทำไม่ได้” คีแรนมองหน้าพี่ชายด้วยสายตาตัดพ้อ“เก่งมากแล้ว พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษคีแรนที่ทำให้ลำบาก”“เรามีกันแค่นี้ มันไม่ลำบากเลย ก็แค่ต้องพยายามมากกว่านี้”“สู้ๆนะ พี่ก็จะสู้ เนี่ยเอาข้าวเอายามาส่ง ต้องกลับเข้าห้องแล้ว อีก2วันเจอกันนะ” คริสยิ้มกว้างให้กับคีแรนหลังจากให้กำลังใจกันและกัน คีแรนที่ทานข้าวทานยาเสร็จ ก็ทำได้เพียงลุกขึ้นเดินไปส่งพี่ชายเข้าห้องอีกฟากฝั่งของบ้านด้วยความเจ็บปวดแม้ว่าเขาผ่านเหตุการณ์เหล่านี้มานับครั้งไม่ถ้วน แต่คีแรนยังคงเจ็บปวดทุกครั้งที่ต้องจำกัดพื้นที่อิสระของพี่ชาย ไม่ว่าจะช่วงมีอาการฮีทหรือวันพระจันทร์เต็มดวงพอกลับจากห้องคริสคีแรนก็ตรงไปยังห้องพักโอเมก้าทั้ง3คนที่พึ่งเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้านหลังนี้หลังจากที่กลับจากงานประมูลในคืนก่อน คีแรนยังไม่มีโอกาศได้พูดคุยกับทั้งสามคนเลย แม้สภาพของเขาวันนี้จะไม่ค่อยดีนัก แต่ร่างบางก็ยังอยากเจอพวกเขาอยู่“หวัดดี” เสียงใสของคีแรนส่งเข้าไปทักทายคนที่อยู่ภายในห้องอย่างเป็นมิตร“คุณช่วยปล่อยพวกผมไปเถอะนะครับ” เสียงสั
สำหรับคีแรนแล้วคริสคือคนที่เหมาะสมกับรอยยิ้มมากที่สุด หากเลือกได้เขาอยากเกิดเป็นโอเมก้าแทนพี่ชายแต่ร่างบางกลับทำไม่ได้หากคริสเป็นแค่เพียงโอเมก้าธรรมดาแบบคนทั่วไปก็คงไม่เป็นไร แต่พี่ชายของเขานั้นผ่านการทดลองในโครงการของปู่ตั้งแต่เด็กนับจากนั้นชีวิตของคริสก็เปลี่ยนไปปู่ของคีแรนเดิมทีมีทีมวิจัยที่ดีที่สุดในเมืองเอส แถมยังคิดค้นตัวยาที่จะช่วยเปลี่ยนโอเมก้าให้เป็นอัลฟ่า แต่เขานั้นทำไม่สำเร็จตระกูลครูซที่ร่ำรวยเบื้องหลังเต็มไปด้วยเรื่องราวน่าขยะแขยงที่ปู่เขาเคยทำเอาไว้ มีที่ไหนจับหลานชายตัวเองไปทำการทดลอง จนฝากรอยแผลขนาดใหญ่ไว้ในใจครอบครัวของเขาเรื่อยมาโชคดีที่พ่อของคีแรนรู้สึกเอะใจ อีกทั้งยังรักลูกปานแก้วตาดวงใจ แอบสืบโครงการนี้จนรู้ชัดว่าพ่อของเขากำลังใช้ลูกชายตนเองในการทดลองยาจึงพาตัวคริสออกมา และยื่นคำขาดตัดพ่อลูกกันแม้เรื่องราวจะผ่านมาหลายปีจนตอนนี้อาการคริสกำลังแย่ลง แต่คีแรนไม่เคยถอดใจ ยังคงหาทางช่วยพี่ชายเรื่อยมาอาการของคนพี่นั้นจะรุนแรงในช่วงที่เขาฮีท คริสไม่สามารถควบคุมตัวเองจากคนที่มีเพศรองตรงข้ามได้ เขาต้องการคู่อย่างกระหายยิ่งกว่าอัลฟ่าที่อยู่ในช่วงรัทเสียอีกนับจากที่คริ
“ไม่คิดว่าจะเจอมึงที่นี่นะคีแรน” คำทักทายจากน้ำเสียงที่คุ้นเคยทำเอาคีแรนถึงกับมีสีหน้าไม่พอใจสายตาคมช้อนขึ้นมองคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยอารมณ์ครุกรุ่น เขาพยายามหลบสายตาผู้คนเพื่อหลีกเลี่ยงบทสนทนาที่ไม่น่าอภิรมย์แล้ว แต่ก็ยังหนีไม่พ้นสายตาของบิรอนไปได้ “กูไม่ได้อยากมาเหยียบที่นี่เลยสักนิด”“นั่นสิ แต่ก็มานั่งอยู่ตรงนี้ได้ หรือแค่อยากมาเจอหน้ากู” รอยยิ้มเจ้าเลห์ส่งไปยั่วยุร่างบางที่นั่งอยู่เบื้องหน้าอย่าตั้งใจ“อย่าว่าแต่เจอหน้าเลยบิรอน แค่ใช้อากาศหายใจร่วมกับมึงกูก็ไม่อยากใช้” คำตอบของคีแรนทำเอาบิรอนถึงกับแค่นหัวเราะออกมา เขาแพ้ให้กับคีแรนทุกครั้งที่ตีฝีปากกัน ในเมืองเอสแห่งนี้ไม่มีใครไม่อยากเข้าหาเขา และไม่เคยมีใครกล้าต่อกลอนกับเขาจนบางทีชีวิตก็ดูน่าเบื่อเกินไป คงจะมีคีแรนเพียงคนเดียวที่ทำให้ชีวิตเขามีสีสันขึ้นมาบ้าง“โบราณเขาว่า เกลียดอะไรจะได้อย่างนั้น ระวังไว้แล้วกันจะได้กูเป็นผัว” บิรอนก็ยังคงเป็นบิรอน ชอบทิ้งระเบิดไว้ให้คีแรนหัวฟัดหัวเหวี่ยงแล้วก็เดินจากไป ร่างหนานั่งลงที่โต๊ะห่างออกไปไม่ไกลมากนักก่อนจะยกแก้วแชมเปญขึ้นเป็นเชิงชักชวนให้คีแรนดื่มด้วยกัน งานประมูลได้เริ่มขึ้นหลังจาก
ค่ำคืนพระจันทร์เต็มดวงนั้นเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้อง และเสียงร่ำไห้ของโอเมก้าหลายชีวิต ที่ต้องเผชิญกับชะตากรรมแสนโหดร้ายและพี่ชายของ คีแรน เองก็เป็นหนึ่งในเหยื่อที่ถูกพวกคนที่ร่ำรวยเงินตราตามล่าราวกับจะฉีกทึ่งร่างเขาเป็นชิ้นๆเหมือนกับสัตว์ป่าที่หิวกระหาย “คีแรนหนีไป!”เสียง คริส ตะโกนบอกให้ร่างบางหนีจากฝูงอัลฟ่าที่กำลังไล่ล่าตามหลังมาไม่ไกล ดวงตาสีหม่นจ้องมองไปที่พี่ชายที่ล้มลงเพราะคริสเริ่มหมดแรงจะหลบหนี แต่ไม่ทันได้ตัดสินใจอะไรทุกอย่างก็ต้องหยุดลง สองพี่น้องถูกจับได้เสียแล้ว“ไอ้บิรอน” เสียงทุ้มต่ำของคีแรนเล็ดลอดออกมาตามไรฟันที่สบกันแน่นราวกับกำลังข่มอารมณ์ฉุนเฉียวเอาไว้“นึกว่าใคร ที่แท้ก็สองพี่น้องตระกูลครูซ” รอยยิ้มเจ้าเลห์ปรากฏบนใบหน้าหล่อ“แล้วมึงจะทำไม” สายตาดุส่งไปถามอัลฟ่าจ่าฝูงอย่างไม่หวั่นกลัว “ว้าว ขู่เป็นแมวเลยหวะ ฮ่า ฮ่า” เสียงหัวเราะชอบใจของคนเจ้าเลห์ดังขึ้น ก่อนบิรอนจะสาวเท้าเข้ามาใกล้คีแรนที่ยืนบังพี่ชายอย่างคริสอยู่ “ถอยไปไอ้สวะ!” เสียงเข้มร้องขู่คนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ แต่เหมือนว่าบิรอนจะไม่สนใจแม้แต่น้อย แถมยังนึกสนุกอะไรบางอย่างขึ้นมา“กูไม่ถอย เรื่องอะไรที่กูต้