“สวัสดีอรอิน จำเราได้ไหม”
หญิงสาวเพ่งมองและพยายามนึก “อ่อ จำได้ ๆ คิน” อรอินยิ้มให้กับ ภาคิน เพื่อนที่เคยเรียนคณะเดียวกับเธอแต่ก็ไม่ได้สนิทกันเท่าไรนัก “ต้องแต่เรียนจบไปก็ไม่ได้เจอกันเลย และนี้อินมาเที่ยวคนเดียวเหรอ” “ใช่…..เรามาคนเดียว” หญิงเศร้าตอบกับท่าทางเศร้า “เป็นไร ทำไมทำหน้าอย่างนั้นอกหักมาหรือไง” ภาคินเอ่ยน้ำเสียงแกมขำขัน อรอินมองหน้าเพื่อนนิ่ง จะบอกว่าอกหักก็ได้มั่ง เคยมีคู่หมั้นเขาก็ไม่ได้รักและยังต้องถอนหมั้นปล่อยให้เขาได้ไปแต่งงานมีความสุข มาเที่ยวเกาะครั้งนี้ก็คงจะได้กินแห้วอีกก็เป็นได้ ทำไมชีวิตสาวสวยอย่างเธอถึงอาภัพเช่นนี้นะ หญิงสาวได้แต่คิดในใจ “เฮ้ย นี้อกหักจริง ๆ เหรอ เราขอโทษแค่จะแซวเล่นอย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ” ภาคินเห็นสีหน้าเศร้าหญิงสาวหลังจากที่เอ่ยแซว เขาก็เอื้อมมือไปกุมมือเธอไว้ อรอินก็เข้าใจว่าเพื่อนแค่จะปลอบจึงไม่ได้คิดอะไร และไม่ได้ขยับมือหนี ทั้งสองคุยกันและยังสั่งเครื่องดื่มมาดื่มกันอีกด้วย แต่อีกมุมหนึ่งพาทิศคิ้วขมวดมองทั้งสองอยู่ห่าง ๆ สายตาเขม็งจ้องไปที่ร่างบาง ก่อนจะเดินมานั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ เธอ อรอินรู้สึกว่าโต๊ะข้างขยับเธอจึงหันไปมอง ก็พบว่าเป็นพาทิศแต่เขากับนิ่งเฉยไม่เอ่ยทักเธอแต่อย่างใด จะว่าไม่เห็นก็คงไม่ใช่ เพราะนี้ก็เริ่มดึกเเล้วคนไม่ได้เยอะจนทำให้มองไม่เห็น เธอมองไปที่เขาค้างอยู่หลายวิ แต่พาทิศก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจ จนกระทั่งจันทร์ฉายเอาเครื่องดื่มมาส่งให้พาทิศ และนั่งลงอยู่ตรงข้ามชายหนุ่ม จันทร์ฉายหันมามองหญิงสาวและทำเป็นฉีกยิ้มให้เธออีกด้วย “ได้…” อรอินถอนลมหายใจ แล้วหันหน้ากลับมาหาภาคิน ในเมื่อทำเป็นไม่เห็นเธอแบบนี้ เธอก็จะทำแบบเขาบ้าง จะไม่สนใจเขาเช่นกัน หญิงสาวส่งยิ้มหวานให้ภาคิน และจึงได้สั่งเครื่องดื่มมาแบบจัดเต็ม “เรามาฉลองกันดีกว่า ไหน ๆ ก็ได้เจอกัน” หญิงสาวลุกขึ้นเปลี่ยนที่นั่ง ไปนั่งเก้าอี้ข้าง ๆ ภาคินและยังหันหลังให้กับโต๊ะของพาทิศด้วย แววตาดุดันจ้องมองแผ่นหลังบาง ก่อนจะตวัดสายตาดุไปมองที่จันทร์ฉายจนเธอเองยังรู้สึกหวันเกรง จันทร์ฉายรู้แล้วว่าพาทิศกำลังโมโห เพราะเวลาชายหนุ่มโมโหเขาจะน่ากลัวมาก ๆ แล้วชายหนุ่มก็ยกมือขึ้นทำสัญญาณให้จันทร์ฉายออกไป เธอจึงรีบเดินออกไปเงียบ ๆ อรอินดื่มกินกับเพื่อนชาย โดยไม่รู้เลยสักนิดว่ามีแววตาคมเข้มเดือดดานกำลังเพ่งมองอยู่ด้านหลัง เวลาผ่านไปจนดึกเสียงดนตรีของศูนย์อาหารหยุดลง เป็นสัญญาณว่าใกล้จะปิดแล้ว ภาคินเห็นว่าเพื่อนสาวเมาได้ที่ จึงได้เอื้อมมือมาโอบเธอไว้ อรอินที่เมาอยู่หัวกำลังจะเอนไปซบที่ไหล่เพื่อนชาย แต่พาทิศยื่นมือเข้ามาประคองหัวของหญิงสาวไว้ไม่ให้เอนไปซบไหล่ไอ้หนุ่มนั้น ภาคินหันมามอง พาทิศก็จ้องกลับ “อะไรของคุณนี้เพื่อนผม” ภาคินบอก "ผมเป็นเจ้าของรีสอร์ต.. อ้อเจ้าของเกาะด้วย ตอนนี้สวนอาหารปิดแล้ว และผู้หญิงคนนี้เป็นแขกพิเศษของผม เธอเมามากแล้วผมต้องดูแลเธอ” พาทิศพยายามพูดให้ปกติที่สุด เพราะตอนนี้เขาโมโหจนเลือดขึ้นหน้าตั้งแต่เห็นมันโอบไหล่เธอแล้ว ภาคินได้ยินดังนั้นก็มองไปรอบ ๆ ที่สวนอาหารเหลือแต่พนักงานยืนล้อมเขาอยู่หลายคน จึงไม่อยากจะมีปัญหา เขาจึงยอมปล่อยอรอินแต่โดยดี “อิน งั้นเรากลับก่อนนะพรุ่งนี้เรามาหาใหม่” กล่าวจบภาคินก็เดินจากไป “อืม….เค….พรุ่งนี้เจอกันอย่าลืมนะ” อรทะนุถนอมพูดน้ำเสียงยานคล้อยคอตก “หนูอินกลับห้องได้แล้ว” พาทิศพยุงร่างบางให้ยืนขึ้น แต่หญิงสาวเธอสะบัดตัวออก “ใคร…กัน…หนูอง หนูอิน อะไรไม่ต้องมาเรียก ที่เมื่อกี้ยังทำเป็นไม่รู้จักกันเลย” หญิงสาวพูดและชี้ไปอีกทางขณะที่พาทิศยืนอยู่ด้านหลังเธอ “หนูอินพอเถอะ เมามากแล้ว” ชายหนุ่มจับต้นแขนทั้งสองจากทางด้านหลัง พยายามจะพาคนตัวเล็กเดินกลับห้อง แต่หญิงสาวก็ปัดมือเขาออก เธอหันหน้ากลับมาดวงตาปรือจ้องไปที่ชายหนุ่ม “คุณเป็นใคร ฉันไม่รู้จักคุณ” เธอพูดบอกเขาเอานิ้วจิ้มไปที่อก เมื่อครู่นี้ยังแกล้งนั่งเฉยไม่ทักไม่ทายเธอเลย เธอก็จะแกล้งเขากลับบ้าง “หนูอินเลิกเล่นได้แล้ว” พาทิศรวบมือเธอที่จิ้มอกเขามากุมไว้ แล้วตัดสินใจอุ้มช้อนร่างบางขึ้นมา เดินมาส่งเธอที่ห้องพัก อรอินเวียนหัวเพราะความเมาจึงไม่ได้ขัดขืนปล่อยให้พาทิศอุ้มเธอเดินไป ใบหน้าสาวซบอยู่ที่อกใหญ่ของเขา พาทิศเห็นเธอนิ่งไปจึงคิดว่าเธอคงหลับแต่เขากลับรู้สึกถึงแรงสะอื้อ เหมือนเธอกำลังร้องไห้อยู่เขาจึงได้ก้มหน้ามามอง จริงดังคาดอรอินกำลังร้องไห้อยู่พาทิศจึงรีบเดินให้ถึงห้องพักของเธอ เมื่อเข้ามายังห้องพักพาทิศวางเธอลงบนเตียงนุ่มอย่างทะนุถนอม แต่อรอินรีบหันหน้าหนีไปอีกทางทันที “หนูอิน..มาคุยกันก่อน” เขากล่าวเสียงแข็ง “............” หญิงสาวนิ่งใช้มือปาดเช็คน้ำตาตนเอง “อรอิน…เป็นผู้หญิงทำไมถึงไปนั่งดื่มกับผู้ชายแปลกหน้าแบบนั้น” น้ำเสียงชายหนุ่มเริ่มขุ่นเคือง “แปลกหน้าแล้วไง ที่คุณนั่งดื่มกับผู้หญิง… อ้อของคุณคงไม่แปลกหน้าเพราะดูสนิทสนมกันดี น่าจะเคย ๆ กันอยู่” หญิงสาวตอบประชดร่างบางโอนเอนเพราะความเมา พาทิศถอนหายใจแรงเขาก็เริ่มโมโหที่วันนี้อรอินดูงี่เง่า “ทำไมคะ อินจะดื่มกับผู้ชายคนไหนมันก็สิทธิของอินไหม คุณจะมายุ่งทำไม” “มันไม่ใช้อย่างที่หนูอินคิด ผมกับจันไม่ได้มีอะไรกัน จันเป็นน้องสาวของนุ้ย” เขาพยายามอธิบาย “แล้วคุณมาบอกอินทำไม มาสนใจอินทำไม ที่เมื่อกี้คุณยังเมินอินอยู่เลย ฮือ ๆ” หญิงสาวพูดไปร้องไห้ไป “หนูอินฟังก่อน” “ไม่ฟัง ไม่ฟัง คุณมันโกหก อินไม่เชื่อ” เธอใช้มือปิดหูทั้งสองข้างไว้ทิ้งตัวลงนอนแล้วหันหน้าหนีเขา พาทิศนั่งนิ่งอยู่ข้างเตียงนอน เขาพยายามจะนึกคำพูดที่จะอธิบายบอกเธอ เขามันคนพูดจาหวาน ๆ ไม่เก่ง พูดเอาใจใครก็ไม่ถนัด นอกเสียจากลงมือทำให้เห็น ๆ ไปเลย แต่คนตัวเล็กเอาแต่ใจที่กำลังงอนเขาอยู่นี้เขาจะทำยังไงดี เขาก็คิดไม่ตก พาทิศรู้สึกว่าเสียงร้องไห้เริ่มเงียบไปจึงได้หันมาดู เห็นอรอินนอนนิ่งจึงได้ค่อย ๆ จับมือเล็กที่เธอเอามาปิดหูตนเองไว้ออก จึงได้รู้ว่าหญิงสาวหลับไปแล้ว เธอหลับไปพร้อมคราบน้ำตา ชายหนุ่มใช้มือเกลี่ยเช็ดคราบน้ำตาที่แก้มสวย เธอคงจะเมาถึงได้หลับไป พาทิศกระชับผ้าห่มมาห่มให้หญิงสาว แล้วถอยตัวออกมานั่งที่เก้าอี้ใกล้ ๆ เตียงนอน มองดูคนตัวเล็กแสนงอนที่หลับใหล พลางคิดถึงวันพรุ่งนี้ถ้าเธอตื่นมาจะจำเรื่องราวได้ไหมนะบทที่ 8คนมีอดีต“อ๊ะ….อืม…” เสียงหวานหลุดครางอย่างรัญจวน มีเรียวลูบขยุ้มไปที่ผมของเขา หญิงสาวแอ่นอกรับสัมผัสสวาท ลมหายใจของเธอแรงขึ้นเมื่อถูกปลุกอารมณ์อย่างเร่าร้อน มือของพาทิศเลือนต่ำลงผ่านหน้าท้องแบนราบ ล้วงเข้าไปในกางเกงนอนของหญิงสาวนิ้วเรียวสัมผัสรูดกับกลีบกุหลาบที่ปิดสนิท ซึ่งตอนนี้เริ่มมีน้ำหวานไหลเยิ้มออกมา เธอสะดุ้งเฮือกเมื่อปลายนิ้วเขาแตะโดนติ่งเกสร พาทิศจัดการนวดคลึงที่ติ่งเกสรกลางกายสาว ทำเอาร่างบางสั่นระริกเพราะความเสียวที่แปลกใหม่นี้อรอินขยับขาอ้าออก สะโพกเล็กเด้งลอยตามนิ้วมือที่เขาบดขยี้ เธอช่างหัวไวสอนง่ายดีจริง ๆ เขาผละออกจากอกคู่งาม มองใบหน้าสวยแก้มแดงระเรื่อดวงตาเป็นประกายหยาดเยิ้ม ริมฝีปากบางเผยอออกเล็กน้อยพ่นลมหายใจระบายความเสียวซ่านพาทิศยิ้มกริ่มที่เธอตอบสนองเป็นอย่างดี เอาละจากใบหน้าเธอ หันมาถอดกางเกงนอนของหญิงสาวออก แล้วแทรกกายใหญ่มานั่งตรงกลางหว่างขาเธอ ชายหนุ่มสัมผัสไปที่เนินสวาทอีกครั้ง นิ้วใหญ่ขยี้ที่ติ่งเกสรอยู่หลายที่ ก่อนจะสอดใส่นิ้วนั้นเข้าโพรงรักของเธอช้า ๆ“อ๊ะ อินเจ็บ” เสียงหวานร้องเอ่ย เลือนมือมาดันข้อมือชายหนุ่มที่ยังเสียบค้างอยู่ในร่องรัก“ไม่
“ผมรู้ว่าผมไม่ได้เป็นคนดีอะไร ไม่ใช้ผู้ชายที่เพียบพร้อมแถมยังมีลูกติด พูดจาหวาน ๆ เอาอกเอาใจไม่เก่ง ถ้าหนูอินไม่ชอบผมก็ไม่โกรธอะไร แค่อยากให้รู้ว่าผมชอบ….”ขณะที่พาทิศพูดตัดพ้ออยู่ อรอินก็หัวใจพองโตตั้งแต่ที่ได้ยินว่าเขาชอบเธอจนสตั้นไป พอได้ยินคำพูดตัดพ้อของเขาเธอยิ่งซาบชึ่งเข้าไปอีก หญิงสาวรีบก้าวตามมายืนอยู่ด้านหลัง“อินก็ชอบคุณคะ คุณพาทิศ” มือเรียวเล็กของเธอสอดเข้าไปกอดพาทิศจากด้านหลัง ใบหน้าสวยซบอยู่ที่กลางแผ่นหลังกว้าง“คุณไม่ได้เป็นคนดีของใครก็ช่าง แต่สำหรับอินคุณดีพร้อมมากแล้ว อดีตที่ผ่านมาอินก็ไม่สน อินสนแค่ปัจจุบันก็พอ พูดหวานเอาอกเอาใจไม่เก่งก็ไม่เป็นไร อินเอาอกเอาใจคุณแทนก็ได้ อินชอบคุณค่ะ”พูดจบวงแขนเล็กก็กำชับกอดเขาแน่นขึ้น“หนูอิน” พาทิศยิ้มอย่างดีใจและซาบซึ่งที่เธอกับเขา ใจตรงกันขนาดนี้ เขาปลดมือเล็กของเธอออกแล้วหันมากอดเธอไว้แนบอก ร่างบางก็โอบกอดเขาอย่างเต็มใจเช่นกันพาทิศลูบที่ศีรษะเธอเบาอย่างทะนุถนอม อรอินเงยหน้าขึ้นสบตาชายหนุ่มทั้งสองสบตากันอย่างลึกซึ้ง อรอินส่งยิ้มหวานให้เขา เสมือนตกอยู่ในภวังค์ใบหน้าหล่อก้มลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากสาวอย่างแผ่วเบา ริมฝีปากหนาเริ่มขยับร
บทที่ 6สารภาพ“ผม…” พาทิศพูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน เขาเองเริ่มรู้สึกผิด ยิ่งเห็นหญิงสาวร้องไห้ใจเขามันพลอยเจ็บไปด้วยฝ่ามือใหญ่เอื้อมไปจับตนแขนเธอเบา ๆ อรอินเงยหน้าขึ้นสบตาเขาอีกครั้ง แววตาพาทิศดูเปลี่ยนไปจากเมื่อครู่นี้ที่โมโหดุดัน ตอนนี้เริ่มฉายแววอบอุ่นเธอมองเขาค้างอยู่หลายวิ ก่อนจะโผเข้ากอดชายหนุ่มไว้แน่นพาทิศก็กอดเธอตอบ เขากอดร่างบางที่กำลังสั่นไหวจากแรงสะอื้น ฝ่ามือใหญ่ก็ลูบหลังเธอเบา“ผม…ขอโทษ ที่พูดไม่ดี ทั้งที่หนูอินยังตกใจอยู่ ขอโทษ” พาทิศใช้ปลายคางเกยบนศีรษะเธอเบา ๆ พูดคำขอโทษออกมาจากใจเมื่อได้ยินที่ชายหนุ่มพูด อรอินก็ร้องไห้กอดพาทิศแน่นขึ้น เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้อยู่ในอ้อมกอดเขาทั้งสองใช้เวลาปลอบกันอยู่สักพัก พาทิศเห็นว่าพระอาทิตย์จวนจะตกดินแล้วจึงได้คล้ายอ้อมกอด แล้วถอดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นของตนมาคลุมให้หญิงสาว พาทิศจ้องมองดวงตาบอบช้ำ ใช้มือเขี่ยปอยผมไปทัดใบหู และลูบที่ศีรษะเธอเบา ๆ“กลับกันเถอะ”เธอพยักหน้ารับเบา ๆ แล้วพาทิศก็ขับเรือกลับเข้าเกาะ พาเธอมาที่บ้านของเขาท้ายรีสอร์ต แล้วฝากฝังให้ป้าแก้วแม่บ้านของเขา ให้ดูแลและอยู่เป็นเพื่อนเธอก่อนเขาจะออก
“ก็จะมาดำน้ำไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวเสร็จเเล้วเราก็ลงน้ำกัน” ภาคินยื่นหน้ามาพูดเสียงน้ำเสียงกระเส่าที่ข้างใบหูหญิงสาวรีบเบือนหน้าหนี เธอเริ่มหวาดกลัว“สะ เสร็จอะไร คินปล่อยอินก่อนนะ” น้ำเสียงสั่นเริ่มหวาดกลัว“อะไร อย่าบอกนะว่าไม่เคย” น้ำเสียงเย้นยันเอ่ยอย่างขบขัน และใบหน้าสากเริ่มซุกไซร์ไปที่ซอกคอสาว“กรี๊ด!!” อรอินกลัวจนสติแตกเธอไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้มาก่อน พยายามดิ้นขัดขืน แต่ภาคินกับยิ้มชอบใจเหมือนคนโรคจิตที่เห็นเธอกรีดร้อง สองมือเรียวทั้งข่วนและทุบตีเท่าที่จะทำได้ภาคินเริ่มรำคาญบีบต้นแขนทั้งสองข้างของอรอินอย่างแรงจนมันแดงเทือก และเขาก็เหวี่ยงร่างเล็กขอเธอให้ลงไปกองกับพื้น อรอินทั้งเจ็บแล้วจุกจนน้ำตาไหล เธอไม่คิดเลยว่าภาคินจะเป็นคนแบบนี้ ตอนสมัยเรียนเขาก็ดูเป็นคนดีไม่มีพิษมีภัยอะไร คนเรานี่รู้หน้าไม่รู้ใจจริง ๆภาคินหยิบเอาเชือกบนเรือมาถือไว้ ก่อนจะมานั่งคร่อมทับตัวของหญิงสาว แล้วจับข้อมือทั้งสองมามัดไว้จนแน่น“เดี๋ยวก็จะมีความสุขกันแล้ว ไม่ต้องรีบร้องหรอกอิน” ภาคินกัดฟันพูด ออกแรงกดข้อมือของอรอินไว้เหนือหัว มืออีกข้างจับเข้าที่เอวเล็กของเธอ แล้วโน้มกายลงกดปลายจมูกไซร้ซอกคอหญิงสา
บทที่ 4ล่อลวงสายของอีกวันอรอินตื่นมาด้วยอาการปวดหัวตึบ ร่างบางชันกายลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอนนุ่ม แววตาสวยกวาดตามองไปรอบห้อง คล้าย ๆ ว่าในความทรงจำจะจำได้ว่าพาทิศพาเธอมาส่งยังที่นอนแต่ตอนนี้กับว่างเปล่าไม่มีแม้แต่ร่องรอยของเขา“นึกจะมาก็มานึกจะไปก็ไป” ปากบางบ่นคล้ายพึมพำแต่ความจริงแล้วชายหนุ่มนั่งมองเธออยู่เกือบจะค่อนคืน ถ้าไม่ติดคนงานที่ฟาร์มหอยมุกโทรมาตาม เขาคงอยู่เคลียร์กับเธอตอนเธอตื่นไปแล้วร่างบางฝืนลุกจากที่นอนเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนออกไปหาอะไรกินรองท้องก่อน หลังจากนั้นก็มานั่งเหงาอยู่ที่ชิงช้าริมชายหาด มาดูผู้คนเดินผ่านไปมาคนแล้วคนเล่า“อิน เจอกันอีกแล้วนะ” เสียงเพื่อนชายที่นั่งดื่มกับเธอเมื่อคืนดังมาจากด้านหลัง“อ่าว คินว่าไง” หญิงสาวเอ่ยทักกลับ“ทำไมมานั่งเหงา ๆ อยู่คนเดียวล่ะ และผู้ชายคนนั้นไปไหนแล้ว” ภาคินแสร้งถาม“ผู้ชายคนนั้น” หญิงสาวทวนคำพูดเพื่อน“คนที่พาอินกลับห้องไง เขาบอกว่าเป็นเจ้าของเกาะแล้วอินเป็นแขกพิเศษของเขา”“อ่อ พิเศษอะไรอินก็ลูกค้าทั่วไป” นี้นะเรียกพิเศษปล่อยให้อินอยู่คนเดียวแบบนี้ เธอคิดในใจ“แล้วเขาไปไหนแล้วล่ะ”“อินก็ไม่รู้เหมือนกัน บอกแล้วอินไม่ได้พิเศษ
“สวัสดีอรอิน จำเราได้ไหม”หญิงสาวเพ่งมองและพยายามนึก“อ่อ จำได้ ๆ คิน” อรอินยิ้มให้กับ ภาคิน เพื่อนที่เคยเรียนคณะเดียวกับเธอแต่ก็ไม่ได้สนิทกันเท่าไรนัก“ต้องแต่เรียนจบไปก็ไม่ได้เจอกันเลย และนี้อินมาเที่ยวคนเดียวเหรอ”“ใช่…..เรามาคนเดียว” หญิงเศร้าตอบกับท่าทางเศร้า“เป็นไร ทำไมทำหน้าอย่างนั้นอกหักมาหรือไง” ภาคินเอ่ยน้ำเสียงแกมขำขัน อรอินมองหน้าเพื่อนนิ่ง จะบอกว่าอกหักก็ได้มั่ง เคยมีคู่หมั้นเขาก็ไม่ได้รักและยังต้องถอนหมั้นปล่อยให้เขาได้ไปแต่งงานมีความสุข มาเที่ยวเกาะครั้งนี้ก็คงจะได้กินแห้วอีกก็เป็นได้ ทำไมชีวิตสาวสวยอย่างเธอถึงอาภัพเช่นนี้นะ หญิงสาวได้แต่คิดในใจ“เฮ้ย นี้อกหักจริง ๆ เหรอ เราขอโทษแค่จะแซวเล่นอย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ” ภาคินเห็นสีหน้าเศร้าหญิงสาวหลังจากที่เอ่ยแซว เขาก็เอื้อมมือไปกุมมือเธอไว้ อรอินก็เข้าใจว่าเพื่อนแค่จะปลอบจึงไม่ได้คิดอะไร และไม่ได้ขยับมือหนี ทั้งสองคุยกันและยังสั่งเครื่องดื่มมาดื่มกันอีกด้วยแต่อีกมุมหนึ่งพาทิศคิ้วขมวดมองทั้งสองอยู่ห่าง ๆ สายตาเขม็งจ้องไปที่ร่างบาง ก่อนจะเดินมานั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ เธออรอินรู้สึกว่าโต๊ะข้างขยับเธอจึงหันไปมอง ก็พบว่าเป็นพาทิศแต