แชร์

บทที่ 3 อันดามันลูกชัง

ผู้เขียน: เดย์ไลลา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-13 15:37:06

บ้านอันดามัน

"ยัยอันตื่น! อันดามันแม่บอกให้ลุกเดี๋ยวนี้!"

เสียงปลุกของหญิงวัยกลางคนดังขึ้นขณะเขย่าตัวลูกสาวที่นอนหลับสนิทบนเตียง อารมณ์ของสิมิลันคุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อลูกสาวพลิกตัวหนีแล้วเอาหมอนปิดหน้า นับวันเธอก็ยิ่งทำตัวเหลวไหลขึ้นทุกที ทำความอดทนผู้เป็นมารดาดิ่งฮวบ

"อันดามัน! แม่บอกให้ตื่น เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่แล้วนะ ช่วยทำตัวให้สมกับเป็นผู้หญิงหน่อย เมาเละกลับบ้านมาไม่รู้จักอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย แล้วดูแต่งตัว จะทำให้แม่ประสาทแตกตายให้ได้ใช่ไหม"

"อื้ออออ~ แม่อย่าเสียงดัง อันปวดหัว"

"ลุกเดี๋ยวนี้!"

"โอ๊ยแม่เจ็บ! อย่าหยิกอัน" หญิงสาวดิ้นหนีมือของมารดาพยายามหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง ใบหน้าสวยเลอะเทอะไปด้วยคราบเครื่องสำอาง มาสคาราเปรอะใต้ตาจนดำปี๋ เช่นเดียวกับอายไลน์เนอร์ที่เลือนหายเกือบหมด ชุดสีส้มที่สวมเมื่อคืนก็ยับยู่ยี่ ร่นขึ้นมาจนเห็นอะไรต่อมิอะไร ทำมารดายิ่งปวดหัวจี๊ด

"สภาพ! รีบไปอาบน้ำแต่งตัวให้ดีเดี๋ยวนี้เลย พ่อรอกินข้าวอยู่ข้างล่าง"

"ขอนอนต่ออีก 5 นาทีนะ"

"เดี๋ยวนี้! อย่าให้แม่เข้ามาปลุกรอบที่สอง" สิมิลินย้ำด้วยน้ำเสียงจริงจัง ถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนและเดินออกไปจากห้อง

อันดามันยังคงนั่งประคองสติอยู่บนที่นอน อาการแฮงก์เล่นงานจนศีรษะปวดตุบ ประตูห้องนอนสีขาวถูกเปิดเข้ามาอีกครั้ง เธอสะดุ้งโหยงคิดว่ามารดาจะเข้ามาเอาเรื่องต่อ

"ลุกแล้วๆ!"

"ฮ่า ฮ่า เจ๊เอ๊ย นั่นหน้าเหรอนั่น โคตรดูไม่ได้" น้ำเสียงยียวนกวนประสาทของ พีพี น้องชายหญิงสาวดังขึ้นมา ซึ่งผู้เป็นพี่ก็ไม่ได้ตอบกลับ แต่เขวี้ยงหมอนใกล้มือส่งให้แทน

พีพี ใช้ประตูเป็นเกราะป้องกันการจู่โจมของพี่สาว และชะโงกหน้ากลับมาเย้าแหย่ต่อ

"ซาดิสม์นะเรา ผู้ชายเขาไม่ชอบผู้หญิงโหดกันหรอกนะ"

"ถ้าไม่รีบออกไป แกได้เป็นหมันแน่"

"ดุตล๊อดดดดด~"

"ไอ้พีพี!"

"แค่มาเตือนให้รีบลง พ่อดูหงุดหงิดแล้ว"

"ถ้าแกไม่มัวแต่กวน ฉันเสร็จไปนานแล้ว!"

"ฮ่า ฮ่า เห็นเจ๊อารมณ์เสียแล้วสนุกชะมัด"

อันดามันส่งสายตาดุดันก้าวลงจากเตียงเตรียมพุ่งเข้าไปจัดการน้องชายตัวป่วน ซึ่งมันก็ส่งยิ้มทะเล้นแล้วปิดประตูหนีก่อนที่จะถูกพี่สาวเอาคืน

"โอ๊ย! จะขอนอนตื่นสายสบายๆ ไม่ได้สักวันเลยใช่ไหม"

เธอบ่นพึมพำพร้อมยีเส้นผมยุ่งเหยิงของตัวเองด้วยความหงุดหงิด มือน้อยนวดขมับบรรเทาอาการปวดหัวอีกครั้ง ก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวตรงเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำแต่งตัว

หนึ่งชั่วโมงต่อมา อันดามันก็สวมกางเกงขาสั้นความยาวแค่คืบและเสื้อยืดตัวใหญ่ลงมาทานอาหารเช้า แม้จะเป็นวันหยุดแต่บิดามารดาก็ไม่เคยปล่อยให้เธอนอนพักผ่อนให้สบายสักที ต้องตื่น 7 โมงเช้าและลงมาทานข้าวพร้อมกันช่วง 8 โมง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่น่าอึดอัดประจำวันสำหรับเธอทีเดียว

"เฮอะ! กว่าจะเสด็จลงมาได้!" น้ำเสียงฉุนเฉียวของวีรศักดิ์ดังขึ้น ละสายตาจากโทรศัพท์เพื่ออ่านข่าวสารอัปเดตต่างๆ

ทั้งครอบครัวนั่งประจำอยู่ที่โต๊ะอาหารกลางบ้านเรียบร้อย อันดามันไม่สนใจคำค่อนขอดของบิดา ทิ้งตัวลงนั่งข้างน้องชาย แม่บ้านรีบนำข้าวต้มปลาร้อนๆ มาวางตรงหน้า เธอก็ตักข้าวขึ้นเป่าและส่งมันเข้าปากหน้าตาเฉยไม่รอคนอื่น

"มารยาทแบบนี้ไปจำมาจากเพื่อนกลุ่มไหนอีกล่ะ ฉันกับแม่แกสั่งสอนจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว ช่วยทำตัวให้เหมือนคนได้รับการอบรมมาหน่อย ฉันกับแม่และน้องนั่งรอแกคนเดียว มาถึงไม่พูดไม่จากินข้าวก่อนคนอื่นได้ไง ขอโทษสักคำไม่มี!"

"คุณคะ พอเถอะค่ะ กินข้าวดีกว่า" สิมิลันที่แม้จะคอยบ่นจ้ำจี้จ้ำไชลูกสาว แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าสามีก็มักจะคอยเอาน้ำเย็นเข้าลูบไม่ให้ทะเลาะกับลูกสาวจนใหญ่โต

"ก็เพราะคุณคอยให้ท้ายไง ถึงได้เป็นแบบนี้"

"อย่าอารมณ์เสียแต่เช้าสิคะ คุณมีเรื่องคุยกับลูกไม่ใช่เหรอ"

"..."

อันดามันนั่งเงียบ กินข้าวต่อไปทำเหมือนไม่ใส่ใจคำพูดของพ่อ แต่ในใจก็รู้สึกอึดอัดกดดันเหลือเกิน แม้จะถูกตำหนิประชดใส่ทุกวัน แต่เธอก็ไม่เคยชินเสียที

เมื่อหมดเรื่องทั้งโต๊ะจึงลงมือทานอาหารกันต่อ บรรยากาศบนโต๊ะเต็มไปด้วยความอึมครึมราวกับมีเมฆฝนบดบัง หญิงสาวรีบตักข้าวเข้าปากให้เร็วที่สุด กินจนหมดชาม ทำท่าจะลุกหนีเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะคารมกับพ่อ

"นั่ง! จะลุกไปไหน คนอื่นยังกินไม่เสร็จ!"

"ก็อันทานเสร็จแล้ว" เธอตอบกลับเสียงเบาอย่างไม่ค่อยพอใจ ไม่เข้าใจว่าจะให้อยู่รอกันทำไมทั้งที่เธอก็ไม่ได้จะไปไหน จะลุกจะนั่งขยับตัวแต่ละทีก็ถูกจ้องจับผิดไปหมด ต่างกับน้องชายที่บิดาดูปล่อยและตามใจ

"เงียบ! นั่งก่อน ฉันมีเรื่องจะคุยต่อ"

อันดามันถอนหายใจและทรุดตัวลงนั่งที่เดิม พีพีหันมาส่งสายตาล้อเลียนเงียบๆ ซึ่งเธอก็ถลึงตากลับ หมั่นไส้นิสัยเสแสร้งของน้องชายต่อหน้าพ่อแม่เหลือเกิน

เธอนั่งไถโทรศัพท์รอด้วยความเบื่อหน่าย ดูข่าวในสื่อโซเชียลและพิมพ์ข้อความตอบกลับกลุ่มเพื่อนระหว่างรอคนอื่นทานอาหารเสร็จ แม้กระนั้นก็ยังมีเสียงตำหนิจากวีรศักดิ์ลอยมาเป็นระยะ แต่เธอก็ปล่อยคำพูดเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไป

"ได้ยินที่ฉันพูดไหม! อย่ามาทำลอยหน้าลอยตาเหมือนฉันเป็นหัวหลักหัวตอนะ" วีรศักดิ์ตบโต๊ะเสียงดังเมื่อลูกสาวดูไม่สนใจคำตักเตือนของเขาเลย

"พ่อก็พูดเหมือนเดิมทุกวัน อันงง แค่อันเล่นมือถือจะอะไรนักหนา ก็บอกให้อยู่รอก็รอแล้วไง"

"แกนี่มัน!"

"น่าพ่อ ปล่อยๆ เจ๊เขาไปบ้าง ระวังหน้าแก่เร็วนะครับ ผมอยากให้พ่อหล่อแบบนี้ไปนานๆ" พีพีหันไปส่งยิ้มช่วยพูดขึ้นบ้าง พยายามหยอกเย้าเอาใจเพื่อไม่ให้บรรยากาศย่ำแย่ไปมากกว่านี้ คนเป็นพ่อถึงได้ยอมหยุดและจิ้มผลไม้เข้าปาก

หญิงสาวระบายลมหายใจออกมาเบาๆ บรรเทาความอัดอั้นในใจ จนทุกคนทานอาหารเสร็จแม่บ้านก็เข้ามาช่วยเก็บจาน

เธอเท้าคางรอ เบื่อหน่ายเต็มที่ ไม่รู้ว่าบิดาจะหาเรื่องอะไรมาบ่นเธออีก

สิมิลันเอื้อมไปกุมมือผู้เป็นสามีใต้โต๊ะ ส่งสายตาอ่อนโยนให้ก่อนที่เขาจะพูดเรื่องสำคัญ

"งานหมั้นแกจะจัดขึ้นในอีก 2 อาทิตย์ ไปเตรียมตัวให้พร้อม"

"ตลกแล้ว! พ่อบ้าหรือไง หนูบอกแล้วว่าจะไม่หมั้นอะไรทั้งนั้น"

"เงียบ! นั่งลงให้เรียบร้อย เรื่องนี้แกไม่มีสิทธิ์ออกความเห็น ฉันกับแม่แกปรึกษากันหมดแล้ว"

"พ่อ! นี่พ่อเห็นอันเป็นตัวอะไร จะจับไปหมั้นกับคนที่ไม่เคยเจอหน้าเนี่ยนะ" หญิงสาวลุกเท้าโต๊ะถามกลับ ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจไหลพล่านเข้ามาทั่วร่างกาย ดวงตาไหวระริกมองบิดาอย่างตัดพ้อ

"ครอบครัวนั้นดี เป็นรุ่นพี่แม่แก ฉันตัดสินใจแล้ว แกควรมีคนดูแล จะได้เลิกทำตัวเหลวไหลสักที"

"แล้วพ่อเคยถามความเห็นอันบ้างไหม! สรุปอันใช่ลูกพ่อหรือเปล่า"

"ถ้าแกไม่ใช่ลูกฉัน ฉันจะไม่สนใจอะไรแกเลย นี่ก็เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แล้วยังต้องการอะไรอีก"

"พ่อโคตรเหลือเชื่อเลย! ถ้าดีนักพ่อก็หมั้นเองแล้วกัน"

ว่าจบเธอก็สะบัดหน้าเดินออกไป ไม่สนเสียงตะโกนรั้งของบิดาด้วยความโมโห ทั้งโต๊ะพยายามเข้ามาช่วยปลอบพ่อให้ใจเย็นลง แต่ท่าทางแข็งขืนของลูกสาวทำวีรศักดิ์ควันออกหู แม้จะเดินพ้นห้องอาหารมาไกลแล้ว เธอก็ยังได้ยินเสียงของพ่อดังทิ้งท้าย

"เรื่องนี้ไม่มีวันเปลี่ยน ต่อให้แกหนีไปก็ต้องหมั้นอยู่ดี!"

อันดามันยืนกระฟัดกระเฟียดในสวนหลังบ้าน เป็นมุมที่ค่อนข้างสงบเพราะใกล้กับบ้านพักทหารด้วย ช่วงเวลาเช้าเช่นนี้จึงไม่ค่อยมีคนผ่าน

เธอสูดหายใจเข้าปอดข่มความโกรธน้อยใจที่ผสมปนเปกัน น้ำตาร้อนรื้นรอบดวงตา เธอปาดมันทิ้งพยายามเข้มแข็งแต่ด้านในก็เจ็บร้าวไปหมด ไม่เคยเข้าใจความคิดของบิดา ทำไมถึงชอบจับผิดติเตียนหรือก้าวก่ายชีวิตเธอนัก

แม้ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน เขาก็ไม่เคยเชื่อใจเธอเลย กลับยัดเยียดคู่หมั้นมาให้อีก

สาวตัวเล็กหันไปเตะต้นไม้ใหญ่ที่เธอใช้พิงเมื่อครู่ระบายอารมณ์ ไม่สนความเจ็บหรือว่าขาเนียนสวยจะเป็นรอยถลอก

"ใจเย็นเจ๊ นี่จะเตะให้โค่นเลยปะเนี่ย" น้ำเสียงเย้าแหย่ดังขึ้นจากด้านหลัง

อันดามันพ่นลมออกมาตวัดสายตามองน้องชายที่สูงกว่าเธอเป็นฟุต ต้นไม้ใหญ่สามคนโอบเช่นนี้ต่อให้เธอเตะจนขาหักมันก็ไม่กระเทือนหรอก

"ยุ่ง!"

"อะไร คนอุตส่าห์เป็นห่วง มายืนแถวนี้คนเดียวเดี๋ยวก็โดนพวกทหารฉุดไปหรอก"

"ใครกล้าฉุด ฉันกระทืบจมดินแน่"

พีพีได้แต่ส่ายหัวระอา แม้จะรู้ว่าฝีมือการต่อสู้ของหญิงสาวจะดีมาก แต่เธอตัวเท่าลูกหมา ต่อให้เป็นพลทหารรับใช้ในบ้านเขาก็ไม่ค่อยวางใจ เพราะเคยเห็นแต่ละคนมองพี่สาวเขาตาละห้อย

"พกมาไหม ขอหน่อย" อันดามันแบมือขอบางสิ่งจากน้องชาย

"อะไร?"

"อย่ามาตีมึน เอามาฉันเครียด"

"เฮ้อ~" พีพีถอนหายใจ ก่อนยอมคว้าซองบุหรี่ในกระเป๋าส่งให้คนตัวเล็ก "ไหนบอกไม่ติด"

"ก็ไม่ติด ไปเที่ยวก็ไม่ได้ดูด แต่แกก็เห็นเรื่องวันนี้มันนรกแค่ไหน"

เธอว่าพลางจุดไฟที่ปลายมวนบุหรี่ ยืนเอนหลังพิงต้นไม้ หลับตาสูดควันพิษเข้าปอดเฮือกใหญ่ ให้นิโคตินช่วยดับความร้อนรุ่มในใจ แม้รู้ว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพแต่ตอนนี้เธอไม่รู้จะระบายความอึดอัดในใจอย่างไร

"เจ๊ก็อย่าไปแข็งใส่พ่อเยอะดิ เป็นผู้หญิงก็หัดอ้อนบ้าง พ่อก็ไม่ได้ใจยักษ์ขนาดนั้น"

เขาพูดแนะนำคนเป็นพี่สาว อายุทั้งสองห่างกันปีเดียวจึงค่อนข้างสนิทกันมาก แม้จะตีกันเป็นส่วนใหญ่ก็ตาม

"ฉันไม่ใช่แกไง ทำอะไรพ่อก็ว่าดี ฉันมันลูกชัง หายใจดังยังผิด"

"เว่อร์ไป เร็วรีบสูบ เดี๋ยวโดนจับได้ซวยคู่แน่นอน"

อันดามันกลอกตาด้วยความระอา อัดควันอีกครั้ง มองใบหน้าหล่อเหลาของน้องชาย ทั้งรักทั้งหมั่นไส้ไปพร้อมกัน

พีพีเรียนแพทย์อยู่ชั้นปี 4 แล้ว ภาพลักษณ์ลูกชายแสนดีมันเป็นเพียงแค่เปลือกบังหน้า ความจริงน้องชายเขาก็เละเทะเหลวไหลไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่หรอก ทั้งบุหรี่ เหล้า ผู้หญิง หมอนี่หนักทุกอย่าง แค่เพราะพูดเป็นวางตัวดีต่อหน้าพ่อแม่ ทางบ้านจึงไม่เคยรู้วีรกรรมลูกชาย

ผิดกับเธอที่ค่อนข้างแข็งกระด้าง หัวแข็ง ไม่ยอมคน ไม่อ่อนหวานเรียบร้อยอย่างที่บิดาต้องการ จึงเป็นที่ขัดตาคนเป็นพ่อเสมอ

"ทำไงดีวะ ฉันไม่หมั้นจริงๆ นะโว้ย"

"แค่หมั้น ยังไม่ได้แต่งอย่าเพิ่งตีโพยตีพายดิ"

"แกพูดได้นี่ ไม่ใช่คนโดน ถ้าพ่อจับแกหมั้นบ้างเอาไหมล่ะ"

"ถ้าสวยผมก็โอเคนะ"

"ไอ้นี่!"

"โอ๊ย! ไอ้เจ๊! เห็นยอมหน่อยเอาใหญ่เลยนะ"

พีพีบ่นอุบ กระโดดหนีหน้าแข้งพี่สาว เธอจ้องตาเขียวปั้ดด้วยความหงุดหงิดจากคำตอบที่ไม่ตรงใจ

"ฉันไม่เอา ยังไงก็ไม่เอา แกไม่เข้าใจหรือไง"

"บ้านนั้นรวยจะตาย เจ๊ควรดีใจที่ได้หมั้นไหม นอนสบายเป็นคุณนายไปทั้งชาติ"

"ถ้าได้คนหน้าเหี้ย นิสัยชั่วเล่า นัดกินข้าวก็ไม่เคยโผล่มา" เธอปล่อยมวนบุหรี่ที่เหลือแค่ก้นกรองลงพื้น ใช้ปลายเท้าขยี้จนดับ

"ได้ข่าวมือถือเจ๊มีสิ่งที่เรียกว่าอินเทอร์เน็ตนะ หัดเปิดส่องหาข้อมูลบ้าง บอกได้เลยว่าหล่อ แต่ดูเถื่อนๆ นะ จากในรูป"

"ไม่เอา ไม่อยากรับรู้ ฮืออออออออ~"

อันดามันยกมือปิดหู ส่ายหน้าเอาเป็นเอาตาย เพราะอคติที่มี จึงเลือกที่จะปิดการรับรู้ถึงตัวตนคู่หมั้นทุกทาง

"ไม่แปลกใจทำไมพ่อวีนเจ๊บ่อย ผมคุยด้วยยังปวดหัวเลย"

"โอ๊ยยยยย! เศร้า หงุดหงิด โมโห อึดอัดไปหมด"

"ไปสนามต่อยมวยไหมล่ะ ไปกับผมพ่อไม่ว่าหรอก"

"เออดี ขอออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์นอกบ้านหลังนี้บ้างเหอะ ในนี้โคตรมลพิษต่อจิตใจฉันเลย"

ทั้งคู่ใช้ประตูหลังแอบเดินกลับเข้ามาในตัวบ้าน ขึ้นไปเตรียมของ เธอเลี่ยงเส้นทางที่จะพบบิดาเพื่อลดความเสี่ยงจะโต้เถียงจนบ้านแตกอีก หวังว่าการใช้แรงหนักๆ จะทำอารมณ์เธอดีขึ้นบ้าง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แพ้ทางร้ายนายคู่หมั่น   ตอนพิเศษ 16 จะรักเธอไปจนวันสุดท้าย

    อั‍น‍ด‍า‍มั‍นและวิ‍ค‍เ‍ต‍อ‍ร์ช่วยกันพาลูกแฝดอาบน้ำเตรียมเข้านอน ก่อนจะจูงมือกันกลับห้องของตัวเอง บรรยากาศในห้องเงียบเชียบมีเพียงแค่แสงไฟจากภายนอกลอดเข้ามาผ่านหน้าต่างบานใหญ่เท่านั้น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปตั้งแต่เย็นทำให้ทั้งคู่ตกอยู่ในอาการกรึ่มเล็กน้อย ดวงตาหยาดเยิ้มฉ่ำวาวของหญิงสาวช้อนมองสามีอย่างสื่อความหมาย ก่อนจะเป็นฝ่ายพาเขามายังเตียงกว้างริมฝีปากของทั้งคู่ถูกดึงดูดเข้าหากันอัตโนมัติ ไม่ต้องมีสัญญาณหรือคำบอกกล่าวใดๆ ก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย ลมหายใจชายหนุ่มปั่นป่วน รวบร่างเล็กเข้ามาไว้ในอ้อนกอดแนบแน่น บรรจงถ่ายทอดความรู้สึกมากล้นให้อกให้เธอรับรู้ผ่านจุมพิตหวานซาบซ่านร้อนแรงท่อนแขนบางก็โอบรอบลำคอเขาเอาไว้ แหงนหน้าสุดความสามารถเพื่อตอบสนองรสจูบจากสามีที่สูงกว่าเกินฟุตกลีบปากฉ่ำนุ่มขบเม้มหยอกล้อกันไปมา ก่อนที่เรียวลิ้นทั้งคู่จะกระหวัดเกี่ยวรั้น รุกไล้ไล่ต้อนกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใครหัวใจเธอเต้นเร็วขึ้นจากทั้งฤทธิ์แอลกอฮอล์และอาการตื่นตัววาบหวามตอนนี้ เพียงแค่ลิ้นร้อนแทรกลึกเข้ามากวาดต้อนตักตวงน้ำลายใสในโพรงปาก ท้องน้อยเธอก็วูบหวิวเสียวสะท้านขึ้นมาจนต้องจิกขยุ้ม

  • แพ้ทางร้ายนายคู่หมั่น   ตอนพิเศษ 15 พร้อมหน้าพร้อมตา

    สัปดาห์ต่อมากลุ่มเพื่อนของวิ‍ค‍เ‍ต‍อ‍ร์เหมือนว่าจะเหงาอยากหาเรื่องเจอกัน จึงได้นัดรวมตัวกันที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของวิ‍ค‍เ‍ต‍อ‍ร์ในเย็นของวันเสาร์ ทำให้ทั้งวันอั‍น‍ด‍า‍มั‍น ต้องเตรียมสถานที่ คือสวนข้างบ้านเอาไว้รองรับเพื่อนฝูงและบรรดาลูกๆ ของพวกเขา อั‍น‍ด‍า‍มั‍นไม่ใช่แม่บ้านแม่เรือนนัก อาหารส่วนใหญ่จึงโทรสั่งเอา พวกข้าวผัด น้ำแกง และพวกซีฟู้ด บาบีคิวของสดทั้งกุ้ง หอย ปู เอาไว้ให้หนุ่มๆ ได้ปิ้งย่างเป็นกับแกล้มส่วนของเด็กๆ ก็ได้เตรียมพวกขนม น้ำหวานและอาหารรสอ่อนเอาไว้ให้ ทั้งของทอด สปาเกตตีหมูสับ จนกระทั่งเกือบบ่าย 3 โมง มิลินและไ‍ค‍โ‍รก็เดินทางมาถึงเป็นคู่แรกพร้อมน้องมีอาและมาติน เด็กทั้งคู่ท่าทางสดใสร่าเริงฉีกยิ้มกว้างทักทายเจ้าของบ้าน ก่อนจะแยกไปหาลูกแฝดของเธอที่เล่นน้ำคลายร้อนยังสระว่ายน้ำข้างบ้าน ไ‍ค‍โ‍รและวิ‍ค‍เ‍ต‍อ‍ร์จึงตามออกไปดูความปลอดภัย ปล่อยให้สองสาวเม้าท์กันตามประสาสาวๆ“นี่เมื่อวานลินหมักซี่โครงหมูไว้ด้วย ตั้งใจเอามาย่างเย็นนี้” มิลินเอ่ยพลางชูถุงในมือให้ดู ความเป็นแม่บ้านแม่เรือนทำให้หญิงสาวชอบเข้าครัว และทดลองทำอาหารเมนูใหม่ๆ เสมอ ผิดกับเจ้าของบ้านที่ทอดไข่ยังไม่สุก“ดีๆ

  • แพ้ทางร้ายนายคู่หมั่น   ตอนพิเศษ 14 ฉลองวันครบรอบแต่งงาน

    หลังจากรู้ความจริงว่าทุกอย่างที่คิดตลอดหลายวันเป็นแค่ความเพ้อเจ้อของตัวเองเท่านั้น ทำให้เธอถูกวิ‍ค‍เ‍ต‍อ‍ร์ไล่กลับไปทำงานก่อน ซึ่งเธอก็สลดพอที่จะไม่โต้เถียงอะไรสามีต่อ ขณะขับรถกลับบริษัทก็ได้โทรไปอัปเดตเรื่องราวหน้าแตกให้กลุ่มเพื่อนฟัง และแน่นอนทุกคนพร้อมใจกันหัวเราะเยาะเธอ และเทคะแนนสงสารไปทางวิ‍ค‍เ‍ต‍อ‍ร์จนหมดยิ่งทุกคนได้รู้ว่าเธอทำอะไรเขาบ้างก็รุมด่าประณามเสียร่างเล็กหูชา กับความใจร้อนไม่คิดหน้าคิดหลังของเธอ เมื่อถึงบริษัทก็ได้โทรย้ำกับม่านฟ้าภรรยาคนสวยของน้องสามีว่าช่วยไปรับลูกแฝดของเธอให้ตรงเวลา และระวังอย่าให้ลูกๆ เธอคลาดสายตา ไม่เช่นกันบ้านคุณปู่อาจจะเละได้ อีกฝ่ายรับคำขันแข็ง แต่พอคิดอีกทีว่าวันนี้ลูกจะไปอยู่ในความดูแลของคุณอาตัวป่วนก็อ่อนใจ หวังว่าโซเฟียและคาร์ลจะสามารถควบคุมสถานการณ์ในบ้านได้ ไม่ต้องโทรเรียกรถดับเพลิงมากลางดึกอีกอารมณ์หญิงสาวเปลี่ยนจากเคร่งเครียดเป็นเบิกบานใจ เฝ้าจับตามองนาฬิการอคอยเวลาเลิกงานด้วยใจจดจ่อ มุมปากบางคลี่ยิ้มหวานขณะเซ็นกองเอกสารมากมายอย่างมีความสุขผิดจากทุกวันแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึงเมื่อโทรศัพท์มือถือที่วางคว่ำไว้บนโต๊ะส่งเสียงร้อง คุณแม่คนสว

  • แพ้ทางร้ายนายคู่หมั่น   ตอนพิเศษ 13 แหกอกผัวไม่รักดี

    เครื่องยนต์รถยุโรปราคาแพงส่งเสียงกึกก้องขณะสาวคนขับเหยียบคันเร่งตามด้วยความร้อนใจ เมื่อรถของคนเป็นสามีนำหายไปไม่เห็นฝุ่น เส้นทางที่เขากำลังมุ่งหน้าไปทำโทสะในตัวคุณแม่ลูกแฝดพุ่งสูง เพราะนั่นคือเส้นทางไปโรงแรมวิลล์พาราไดซ์สายตาคุกรุ่นจ้องมือถือสลับกับท้องถนนเบื้องหน้า ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะมีความอดทนอดกลั้นนั่งรอในรถร่วม 3 ชั่วโมงอั‍น‍ด‍า‍มั‍นผ่อนความเร็วลงทิ้งระยะห่างมากขึ้นเมื่อใกล้ถึงจุดหมาย ดวงตาเป็นประกายวาวโรจน์จากเพลิงโทสะ เมื่อสัญญาณ GPS จอดนิ่งยังลานจอดของโรงแรม ก่อนที่มันจะเริ่มเคลื่อนไหวช้าๆ ร่างเล็กมองซ้ายมองขวาระมัดระวังไม่ให้ผู้เป็นสามีสังเกตเห็นรถยนต์ของตน ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปจอดเช่นเดียวกันหญิงสาวรื้อหาหมวกหรือแว่นกันแดดที่จะพอช่วงอำพรางสายตาของสามีได้ ก่อนจะคว้ากระเป๋าบีบมือถือในมือแน่นมุ่งดิ่งสู่ตัวโรงแรมเธอกวาดสายตาไปมาท่ามกลางแขกมากมายที่เดินกันขวักไขว่เพื่อมองหาร่างที่ดูคุ้นตา ก่อนจะเห็นชายร่างสูงสวมเชิ้ตขาวเดินหายไปยังลิฟต์ อั‍น‍ด‍า‍มั‍นไม่รอช้าวิ่งตรงไปทันที ภายในอกบีบรัดแน่น อึดอัด จุกเสียด หวาดกลัวกับความจริงที่เผชิญแต่ก็ไม่ต้อง

  • แพ้ทางร้ายนายคู่หมั่น   ตอนพิเศษ 12 สามีที่เปลี่ยนไป

    สองวันต่อมาร่างสูงใหญ่ของหนุ่มเจ้าของบ้านนั่งไขว่ห้างสายตาจับจ้องไอแพดอยู่ในห้องนั่งเล่นใหญ่กลางบ้านด้วยท่าทางเคร่งเครียดจริงจัง โดยก็มีลูกแฝดทั้งสองของเขาวิ่งวนรอบโซฟาหนังสีครีม ในมือทั้งคู่ถือปืนอัดลมที่ทำจากพลาสติก คนพี่หลบหลังโซฟาโผล่หน้าออกมาจ่อปืนของเล่นไปทางน้องสาว ส่วนอีกคนก็หลบอยู่มุมเสา เมื่อเสียงปังๆ ออกจากปากพี่ชายเงียบไป เธอก็ชะโงกตัวออกไปยิงบ้าง ก้มตัวหมอบคลานไปตามพื้นหินอ่อนเพื่อที่จะได้เข้าประชิดตัวพี่ชาย ที่ใช้คุณพ่อตัวใหญ่เป็นเกราะกำบังอย่างขี้โกง"ปัง ปัง""ปัง!""นี่แน่ะ อเล็กซ์ถูกจับได้แล้ว" ร่างเล็กกระโดดโถมตัวทับพี่ชาย ซึ่งเขาก็ยกปืนของเล่นยิงสวนกลับในเวลาเดียวกัน ก่อนที่ทั้งคู่จะล้มกลิ้งลงไปบนพื้นพร้อมกัน"ปัง ปัง ปัง!" อเล็กซ์ตะโกนเลียนแบบเสียงปืนย้ำไปทางน้องสาวที่คร่อมร่างเขาไว้"อเล็กซ์แพ้แล้ว ทิ้งปืนซะ!""ไม่! แอลต่างหากโดนยิง แอลแพ้!""ว้ายยย แต่แอลไม่ตาย แบร่ๆ นี่แน่ะๆ อเล็กซ์นั่นแหละแพ้"คนน้องดื้อดึงไม่รับความจริง ใช้ท่อนแขนเล็กป้อมรัดมือก่ายขาพี่ชายให้ยอมจำนนอย่างขี้โกง จนคนพี่ต้องตะโกนร้องฟ้องพ่อที่นั่งอ่านเอกสารอยู่"ป๊าาาาา! แอลขี้โกงอีกแล้ว!""อเล

  • แพ้ทางร้ายนายคู่หมั่น   ตอนพิเศษ 11 รวมตัวเหล่ามาเฟีย และเรื่องน่าช็อค

    Zonic Pubแม้เวลาจะผ่านไปหลายปี แต่ผับแห่งนี้ก็ยังได้รับความนิยมจากกลุ่มวัยรุ่นไม่เคยเปลี่ยน ลีโอได้ทำการปิดปรับปรุงรีโนเวทร้านใหม่เพื่อให้ดูทันสมัยขึ้น แต่โซนวีไอพีชั้นสองที่เป็นเหมือนจุดขายของร้านก็ยังคงมีอยู่ เพิ่มเติมคือความหรูหราและราคาค่าเปิดโต๊ะที่แพงหูฉีกกว่าเดิมแต่นั่นก็ยิ่งทำให้บรรดาลูกคนรวยมีเงินจับจองไม่เคยว่างเว้น เป็นการประกาศศักดาถึงฐานะไปในตัวกลุ่มชายหนุ่มทั้งห้าที่อายุเข้าสู่เลข 3 กันแล้ว นั่งล้อมวงบนโซฟาหนังอย่างดี พูดคุยกันสนุกสนานไม่ต่างจากสมัยยังเป็นวัยรุ่น กาลเวลาที่ผ่านพ้นยิ่งส่งเสริมให้พวกเขาดูหล่อเหลามีเสน่ห์ขึ้นอีกเท่าตัว ทุกท่วงท่าการขยับร่างกายแต่ละที ทำหัวใจสาวๆ วัยละอ่อนด้านล่างเคลิบเคลิ้ม แย่งกันส่งสายตาเป็นสัญญาณเชิญชวน แต่ก็ไม่มีใครในโต๊ะให้ความสนใจ"ไง~ ได้ข่าวลูกยกพวกตีกันเหรอ" ไ‍ค‍โ‍รนั่งไขว่ห้างแสยะยิ้มร้ายแซวเพื่อนที่ตัวใหญ่สุดในกลุ่มอย่างล้อเลียน ทำให้ลี‍อ‍อ‍นและโ‍อ‍นิ‍ก‍ซ์ที่ไม่รู้ข่าวหันมามองด้วยความสนใจ"ถามจริง ลูกมึงแสบขนาดยกพวกตีกันตั้งแต่เด็กเลยเหรอ" ลี‍อ‍อ‍นขมวดคิ้วถามกลับด้วยท่าทางจริงจัง ไอ้เรื่องอเล็กซ์แอลลี่แสบซนแก่นแค่ไหน เขาเองก็ทร

  • แพ้ทางร้ายนายคู่หมั่น   ตอนพิเศษ 10 ดุลูกเสร็จ ดุพ่อต่อ

    รถยุโรปเลี้ยวเข้ามาจอดยังหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่สีขาวตัดดำสวยสะกดตา เด็กๆ เปิดประตูรถวิ่งกรูกันเข้าบ้านด้วยพลังงานเต็มเปี่ยมต่างจากผู้เป็นแม่ที่ถอนหายใจรอบที่ร้อยของวัน แล้วก้มเข้าไปหยิบแฟ้มงานยังเบาะหลังก่อนจะปิดประตูรถที่ลูกๆ เปิดทิ้งเอาไว้ ก้าวตามหลังเด็กน้อยทั้งสองเข้าบ้าน"ปะป๊า~ เย้ๆๆๆๆ วันนี้ปะป๊ากลับบ้านเร็ว เรามาเล่นอะไรกันดีคะ"เสียงเจื้อยแจ้วของลูกสาวดังขึ้นด้วยท่าทางร่าเริงลอยมาให้ได้ยินก่อนที่อั‍น‍ด‍า‍มั‍นจะเข้าบ้านด้วยซ้ำ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบสามีตัวใหญ่อุ้มลูกสาวชูสุดมือหมุนตัวไปมาให้ร่างเล็กลอยวืดกลางอากาศ แอลลี่หัวเราะคิกคักเสียงใสชอบใจ ทำให้อเล็กซ์เริ่มอิจฉา กระตุกชายเสื้อบิดาอยากเล่นบ้าง"ป๊า อเล็กซ์อยากลอยบ้าง""ได้สิครับ""ปะป๊าไม่เอา~ แอลยังไม่อยากลง ให้อเล็กซ์รอก่อน""แต่อเล็กซ์ก็อยากให้ปะป๊าอุ้มลอยบ้างนี่น่า"ลูกแฝดสองคนเริ่มถกเถียงกันทำให้วิ‍ค‍เ‍ต‍อ‍ร์ตัดสินใจย่อตัวลง อุ้มลูกทั้งสองนั่งบนบ่าแกร่งกำยำคนละข้าง พร้อมช้อนประคองหลังของทั้งคู่แน่นระมัดระวังไม่ให้ลูกคนใดคนหนึ่งร่วงตกลงมาอั‍น‍ด‍า‍มั‍นวางข้าวของในมือกอดอกมองสามพ่อลูกนิ่งๆ ด้วยแววตาลึกล้ำยากจะสื่อความหมาย ห

  • แพ้ทางร้ายนายคู่หมั่น   ตอนพิเศษ 9 เม้าท์มอยตามประสาคุณแม่

    แชท 'สมาคมแม่บ้าน'Andaman: ใครว่างบ้าง ฉั‍นโดนเรียกพบผู้ปกครองอีกแล้ว นี่กะว่าจะรอแฝดเลิกเรียนเลยCLEO: เอ้า! มีเรื่องอะไรอีก LinLin: ลินกำลังออกจากบ้านไปรับมีอากับมาตินพอดีเลย อันอยู่ร้านไหนเดี๋ยวไปเจอAndaman: ยกพวกตีกันAndaman: @LinLin นั่งอยู่คาเฟ่บีข้างโรงเรียนPraeWa: ถามจริง? เด็ก 5 ขวบเนี้ยนะCLEO: ช็อกจ้า! ให้เดาไหมว่าใครแกนนำAndaman: ไม่ต้องสืบ มีอยู่คนเดียวPraeWa: สงสารนะ แต่ทำไมพี่แอบขำ 55555Ivy: เฮ้ย! น้องแอลลี่เหรอ ยังไงกันอั‍น‍ด‍า‍มั‍นเลยต้องนั่งเล่าวีรกรรมแสบของลูกแฝดให้กลุ่มบรรดาเมียๆ ของเพื่อนสามีฟัง ถือเป็นการระบายอารมณ์ไปในตัว สุดท้ายมิลินและแพรวาก็ออกปากว่าเดี๋ยวแวะเข้ามาหา คลีโอติดธุระเรื่องงานจึงฝากมิลินรับลูกเธอกลับมาให้ด้วย ส่วนไอวี่ต้องไปรับลูกสาวอีกที่หนึ่งจึงไม่สะดวกมาหาลูกๆ ของมิลินและคลีโอเรียนอยู่อนุบาลเดียวกับลูกเธอ แต่เรียนคนละห้องและคนอยู่ละชั้น ส่วนน้องอัศวินลูกของแพรวากับโ‍อ‍นิ‍ก‍ซ์เข้าชั้นประถมไปแล้วจึงเลิกเรียนช้ากว่าเด็กอนุบาล คุณแม่สุดสวยจึงพอมีเวลาว่างแวะมาเจอสาวๆ ในแก๊งได้บ้างหลังจากสั่งกาแฟเย็นดื่มให้รู้สึกสดชื่นขึ้นบ้าง

  • แพ้ทางร้ายนายคู่หมั่น   ตอนพิเศษ 8 เด็กแฝดแสบได้ใคร

    MD Agencyอั‍น‍ด‍า‍มั‍นในวัย 28 ปี สวยสะพรั่งเต็มที่ เธอยังคงตัดผมสั้นประบ่าเช่นเดิม ใบหน้าสวยจัดยังคงดูไม่ต่างจาก 5 ปีก่อนแม้แต่น้อย หญิงสาวสวมเสื้อสูทสีเทาเข้มคู่กับกางเกงขายาวเอวสูงดูสง่าผ่าเผยเหมาะกับตำแหน่งที่ได้รับ เอวบางคอดกิ่วไม่เหมือนคนที่เคยผ่านการท้องลูกแฝดมาก่อน คุณแม่สุดเปรี้ยวนั่งอยู่ในห้องทำงานยังชั้นบนสุดของบริษัท ตอนนี้เธอเข้ามารับตำแหน่งรองประธานบริษัทโฆษณาเต็มตัวแล้ว โดยสิมิรันเริ่มส่งไม้ต่อให้ลูกสาวดูแลกิจการ ส่วนตัวเธอเองก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ดูแลสามีที่ต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิตหลังเข้ารับการผ่าตัดเมื่อหลายปีก่อนอนาคตประธานบริษัทรุ่นใหม่ไฟแรงนั่งเคร่งเครียดอยู่กับตัวเลขมากมายจนเริ่มเวียนหัว ยอมรับตามตรงว่าเธอชอบทำงานใช้แรง ออกสถานที่จริงมากกว่าอุดอู้อยู่แต่ในห้องทำงาน จ้องเอกสารที่มีแต่ตัวหนังสือหลายสิบเท่า แต่งานก็คืองาน อั‍น‍ด‍า‍มั‍นต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าเธอสามารถดูแลบริษัทของมารดาได้โดยไม่มีปัญหาในขณะที่วุ่นวายเช็กทวนบัญชีอยู่นั้นโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะก็ส่งเสียงร้อง ทำให้ดวงตากลมโตต้องยอมละจากงานตรงหน้า ก่อนจะขมวดคิ้ว ตงิดใจแปลกๆ เมื่อเห็นรายชื่อคุณครูของคู่แฝดโ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status