Share

บทห้า

last update Huling Na-update: 2025-09-20 13:11:40

บทที่ 5. ไม่สำคัญ

มิรินเดินย่างกรายเข้ามาในห้องเรียน เธอรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบค่อย ๆ หมุน มิรินทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ทันที

"โอ๊ย เจ็บชะมัด!"

มิรินสบถขึ้นด้วยความเจ็บปวด เมื่อเธอเผลอทิ้งน้ำหนัก แรงเกินไป

มิรินซุกใบหน้าเข้าหาโต๊ะทันที ก่อนจะเผลอหลับไปในที่สุด ทว่าเธอกลับรู้สึกถึงการถูกจ้องมอง ดวงตาสีนิลค่อย ๆ ปรับโฟกัส ก่อนจะเห็นเด็กรุ่นน้องปีสองที่ตามวอแวเธอหลายอาทิตย์ก่อน จ้องมองเธอโดยใบหน้าห่างกันแค่คืบ

" นี่ นาย!" มิรินสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ

"ผมเห็นว่าพี่หลับอยู่เลยไม่อยากรบกวน เลยเอาเสื้อคลุมมาให้"

มิรินก้มมองเสื้อแจ็กเกตยีนส์ตัวโคร่งที่คลุมร่างของเธอแทบมิด

"ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง"

มิรินเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีสดใสก่อนจะส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม “เอ่อ! ขอโทษนะครับ” เปเปอร์ค่อย ๆ หยิบเจลลดไข้ออกมาจากกระเป๋าและติดลงบนหน้าผากของเธอ

"พอดีตอนเดินสวนกันพี่ตัวร้อนมาก ผมเลยแวะซื้อเจลลดไข้มาแปะไว้น่ะครับ"

มิรินส่งยิ้มให้รุ่นน้อง ก่อนจะฟุบหน้าลงบนโต๊ะอีกครั้งและผล็อยหลับไปในที่สุด

เจเลอร์ที่ยืนมองอยู่จึงกระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะนึกถึงคำพูดของมาร์ติน เมื่อตอนที่มาร์ตินนั้นจะสารภาพรักกับมิริน แต่กลับได้ยินประโยคที่เธอเอ่ยกับเฌอเบลล์เสียก่อน จึงเลือกที่เก็บมันไว้ในใจต่อไป และไม่บอกความในใจออกไป

เป็นเวลากว่าชั่วโมงที่มิรินหลับไป ก่อนจะมีเสียงเพื่อน ๆ ดังรบกวน ทำให้เธอรู้ว่าถึงเวลาเรียนแล้ว

นานะ เดินเข้ามาหามิรินด้วยท่าทีเป็นห่วง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย

"ยัยริน แกเอาเสื้อคลุมใครมาใส่อะ แกเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวแล้วเหรอ"

นานะก้มสูดดมเสื้อ กลิ่นน้ำหอมผู้ชายราคาแพงตลบอบอวลไปทั่วบริเวณเสื้อ

"ยัยริน นี่มันน้ำหอมผู้ชายหนิ"

นานะเอ่ยขึ้นก่อนที่เพื่อน ๆ จะขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

"นี่มิรินที่รีบวิ่งออกมา เพราะนัดใครไว้ที่นี่รึเปล่า"

เฌอเบลล์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกระแนะกระแหนทำให้มิรินรู้สึกไม่โอเคกับคำพูดของเธอ

"นี่! ฉันไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นนะ อยากจะคิดอยากพูดอะไรก็เชิญ"

มิรินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ก่อนที่มาร์ตินจะเอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งอีกครั้ง และแสดงสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

"เสื้อใคร"

"เห้อ! จะรู้กันให้ได้เลยใช่ไหม"

มิรินถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะจ้องมองใบหน้าเจ้าของคำถาม แต่ก็ต้องชะงักเมื่อถูกสายตาดุดันจ้องมองมาที่เธอ มิรินเม้มริมฝีปากเข้าหากันทันที

"ไม่ต้องคิดหาคำโกหก ไม่บอกก็ไม่มีใครอยากรู้"

มาร์ตินรับรู้ได้ทันทีทุกครั้งที่มิรินโกหกหรือทำผิด เธอจะเม้มริมฝีปากเข้าหากัน เพื่อหาข้อแก้ตัว ซึ่งมาร์ตินรู้ดี เพราะเขามักจะสังเกตเธออยู่ตลอดเวลา ทำพูดของมาร์ตินเมื่อครู่ ทำให้เธอรับรู้ได้ทันทีว่ามาร์ตินไม่เคยอยากจะสนใจเรื่องของเธอเลยสักนิด

"ติน เบลล์หนาวอะ"

"สลับที่กับตินไหม"

"โอเค ขอบคุณนะ"

เสียงทั้งคู่ยังคงดังกึกก้องวนอยู่ในโสตประสาทของเธอ สายตามิรินยังคงจับจ้องไปที่อาจารย์ แต่เธอกลับได้ยินแต่เสียงของเขาและเธอกำลังพูดคุยราวกับคนรัก

"นานะ ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายอะ ฝากจดเลคเชอร์ด้วยนะ"

มิรินกระซิบกับเพื่อนสนิทอย่างแผ่วเบา ก่อนจะลุกเดินออกไปจากห้องทันที

โดยมีสายตาของเพื่อนสนิทอย่างมาร์ตินจับจ้องอยู่ตลอดเวลา

มิรินเดินย่างกรายไปที่รถบิ๊กไบค์ของรุ่นน้องปีสองเจ้าของเสื้อ ก่อนจะแขวนไว้ที่รถ แล้วเดินกลับไปที่รถของตัวเองและขับออกมาทันที

วันเวลาผ่านไป แต่เรื่องเลวร้ายยังไม่จบแค่นั้น เมื่อมิรินกลับมาที่บ้าน ต้องเห็นความว่างเปล่า บริเวณภายในบ้าน มีเพียงพ่อของเธอ ที่นอนนอนจมกองเลือด มิริน วิ่งเข้าไปพยุงพ่อของเธอขึ้น

"เกิดอะไรขึ้นคะพ่อ ทำไมบ้านเรามันถึงได้ว่างเปล่าแบบนี้"

"มันเอาไปหมดแล้วลูก มันเอาไปหมดแล้ว"

แค่ก!

ทรงยศเอ่ยด้วยด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด ก่อนจะกระอักเลือดออกมา

" ไปโรงพยาบาลกันนะคะ"

"ไม่ ไม่ไป พ่อยังไหว"

ทรงยศพยายามพยุงร่างกายอันบอบช้ำของตัวเองลุกขึ้นยืน ก่อนจะมองไปรอบ ๆ ที่เหลือเพียงความว่างเปล่า นี่สินะที่เขาเรียกว่าหมดตัว

"คุณพ่อคะ คุณพ่อบอกรินได้ไหม ว่าคุณพ่อติดหนี้เท่าไหร่"

"รวมนอกระบบและธนาคารก็ราว ๆ 50 ล้าน"

มิรินเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เงินมากมายขนาดนั้นเธอคงไม่มีปัญญาหามาได้แน่ ๆ มิรินมองไปรอบ ๆ บ้านของตัวเอง ก่อนจะฉุกคิดขึ้นได้ว่า เมื่อสมบัติที่เหลืออยู่ไม่พอใช้หนี้ เพราะว่าพ่อของเธอนั้นไปกู้หนี้นอกระบบมาด้วยความจริงที่พ่อปิดบังมาตลอด เธอเหนื่อยกับปัญหาเหล่านี้เต็มทน รวมถึงปัญหาหัวใจที่ต้องทนเห็นสองเพื่อนสนิทสวีทกันต่อหน้า มิรินตัดสินใจขอร้องให้พ่อของเธอขายบ้านทันที

"พ่อคะ ขายบ้านหลังนี้ แล้วไปใช้ชีวิตที่อื่นกันนะคะ รินไม่อยากเห็นพ่อโดนใครทำร้ายอีกแล้ว ขายมันใช้หนี้ให้หมดแล้วไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กันนะคะ"

ทรงยศยอมทำตามลูกสาวเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของลูก เจ้าหนี้คนอื่น ๆ และมาเฟียยังคงมาวนเวียนแถวบ้านทุกวัน และยังหมายปองที่จะเอาลูกสาวเขาให้ได้

"เดี๋ยวพ่อจะลองให้ธนาคารประเมินราคาดูนะลูก อาจจะได้มากกว่า 50 ล้าน เราจะได้มีเงินไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กันนะลูกนะ"

@มหา’ลัย

เป็นอีกวันที่มิรินมามหา’ลัยด้วยท่าทีที่ไม่สดใส เรื่องราวปัญหาถาโถมเข้ามา และวันนี้คงเป็นวันสุดท้าย ที่เธอจะได้อยู่กับเพื่อน ๆ ของเธอ

มิรินเดินย่างกรายเข้ามาหาเพื่อน ๆ เฌอเบลล์และนานะนั่งอยู่

"มิริน นานะบอกว่าตินก็ชอบฉัน เราสองคนกำลังคบกัน"

เฌอเบลล์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใส

ราวกับฟ้าฝ่าลงกลางใจที่ร้าวระบมของเธอ มิรินเธอไม่รู้ว่าควรเอ่ยคำไหนออกไป มันจุกแน่นอยู่ในอกจนแทบล้มทั้งยืน

ดวงตาสีนิลจ้องมองใบหน้าเฌอเบลล์ ด้วยความรู้สึกมากมาย ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งเรียบดังเดิม

"อ๋อ! เอ้อ!... ดีใจด้วยนะ เธอมีแฟนคนแรกของกลุ่มเลย"

มิรินแสดงความยินดีออกไป ทั้งที่แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

"มิริน คืนนี้มีทำรายการกลุ่มที่ห้องมาร์ตินนะ แล้วเราก็จะฉลองที่สองคนนี้ยอมคบกันสักทีด้วย"

นานะเอ่ยขึ้น ก่อนจะจ้องมองใบหน้ามิรินด้วยสายตาเย้ยหยัน

มิรินยังคงนั่งเงียบอยู่อย่างนั้น ในหัวของเธอมีเรื่องให้คิดอยู่ตลอดเวลา ช่วงเวลาหลายเดือนนี้

มิรินซูบผอมลงไปเยอะมาก เพราะเกิดจากเครียดสะสม และนอนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายอ่อนแอได้ง่าย

"ต้องไปกี่ทุ่ม ไลน์มาบอกแล้วกัน"

มิรินเอ่ยขึ้น ก่อนจะส่งยิ้มให้เพื่อน ๆ

“ถ้าฉันเตรียมห้องพร้อม เดี๋ยวไลน์หาแต่ละคนเองนะ”

" งั้นฉันไปค้างห้องตินดีไหม"

มิรินที่กำลังเก็บของเข้ากระเป๋าชะงักไปทันที ก่อนจะเก็บของต่อและเดินออกไปทันที

"เราไปก่อนนะ พ่อรออยู่"

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • แพ้รักคนใจร้าย   บทที่ยี่สิบสี่

    มาร์ตินเดินย่างกรายออกไปจากห้องทันที ก่อนจะเห็นเฌอเบลล์และนานะนั่งรออยู่ก่อนแล้ว นานะรู้สึกไม่สบอารมณ์ทันที ที่ไม่เห็นมิรินเดินออกมาพร้อมกัน แต่ก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรออกไป"มีอะไร"มาร์ตินเอ่ยถามทั้งสองคนขึ้น เมื่อเห็นว่าพวกเธอมาหาเขาถึงที่นี่ เฌอเบลล์คิดหาข้ออ้างไม่ทัน จึงแกล้งชวนมาร์ตินคุยสัพเพเหระมิรินที่นั่งรอมาร์ตินนานพอสมควรจึงเดินสำรวจภายในห้อง ก่อนจะเหลือบไปเห็นเอกสารสัญญาจ้าง และภาพถ่ายงานของเธอ ต่าง ๆ นานา ที่เธอตั้งใจทำมัน มิรินกำรูปภาพเหล่านั้นด้วยความโกรธเคือง แปลว่าที่ผ่านมา มันไม่เคยมีสินค้าตัวไหนจ้างเธอจริง ๆ แต่มันจากมาร์ตินที่คอยจ้างเธอ ความโกรธเคืองและผิดหวังประเดประดังเข้ามาภายในใจ มิรินโกรธเคืองเป็นอย่างมาก แต่ทำได้เพียงให้ชายหนุ่มเดินกลับเข้ามา เอกสารการจ้างนักสืบพร้อมรูปถ่ายของเธอต่าง ๆ ถูกวางไว้บนโต๊ะ อย่างเป็นระเบียบเพื่อคำอธิบายจากเขา"ตินเราออกไปกินข้าวกลางวันกันร้านเดิมไหม เบลล์หิวแล้ว"เฌอเบลล์เอ่ยขึ้นด้วยท่าทีออดอ้อน ก่อนจะเดินเข้าไปกอดแขนชายหนุ่ม แต่กลับได้กลิ่นน้ำหอมของอีกคน ซึ่งเธอจำได้ดีว่ามันเป็นน้ำหอมของมิริน เพื่อนสนิทอีกคนในกลุ่ม หญิงสาวชะงักไปค

  • แพ้รักคนใจร้าย   40

    ใช้เวลาเพียงไม่นานเควินมาถึง สิ่งแรกที่เขามองหาก็คือเธอ แต่ก็ต้องแปลกใจที่มิราไม่ได้อยู่รอเขา"คิดว่าเมียจะวิ่งมากอดซะอีก"เควินสบถขึ้นในใจ ก่อนจะเดินไปหาเธอแม่มิรารีบเข้าไปกอดเมลลี่ทันที ก่อนที่ย่าก็ถามด้วยความเป็นห่วง" ปลอดภัยแล้วนะลูก""ขอบคุณทุกคนมากเลยนะคะ"ปู่เรียกเควินไปคุยอะไรนิดหน่อยก่อนจะแยกย้ายกันไปนอน ก่อนจะบอกว่า"พรุ่งนี้ค่อยจัดการพวกมัน"" เควินไปหามิราเถอะ ไม่ต้องห่วงลูก มิราเขาปั๊มนมและฝากลูกกับแม่หนึ่งคืน"" ฝากด้วยนะครับ"เควินรีบขึ้นไปบนห้องด้วยความเร่งรีและตื่นเต้น เป็นในรอบหลายเดือนตั้งแต่เธอท้อง เขาก็ไม่เคยได้สอดแทรกเข้าไปในกายของเธอเลย ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วขอจัดคืนนี้ให้หนำใจเลยแล้วกันเควินค่อย ๆ เปิดเข้ามาก่อนมองหาหญิงสาว แล้วก็ต้องตกตะลึงเมื่อมิรานั้น ใส่ชุดนอนคอสเพลย์สุดเซ็กซี่ นั่งรออยู่ มิราจ้องมองเควินด้วยสายตายั่วยวน" มาแล้วเหรอคะ ทำไมถึงปล่อยให้รอนานจัง"มิราเอ่ยขึ้นก่อนจะย่างกรายเข้าไปชายหนุ่มพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อผ้าให้ช้า ๆ เควินที่รู้สึกอยากจะขย้ำเธอจึงลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของเธอ ทว่ามิรากลับห้ามเอาไว้"ใจเย็นๆสิคะ เรามีเวลาด้วยกันทั้งคืน ไปอาบน้ำก

  • แพ้รักคนใจร้าย   39

    วันเวลาผ่านไปไวเกือบสามเดือนแล้วที่มิรานั้นออกมาอยู่บ้านกับปู่และย่าของมาเฟียหนุ่ม เธอโดนบังคับมาโดยให้เหตุผลว่า อยู่ใกล้พวกเขาจะปลอดภัยกว่า มิราไม่มีทางเลือก ถึงยอมมาในขณะที่เธอกำลังให้นมลูกอยู่ในสวน อยู่ ๆ ก็มีย่ากับแม่และเมลลี่ผู้จัดการช่วยเลี้ยงลูกของเธอ ทุกๆ คนเห่อหลานมาก" อะมาร์เวลล์ค่าบ กินนมอยู่เหรอค่าบ"ทุกคนต่างหยอกล้อเด็กน้อยวัยสามเดือนเศษ ก่อนจะฝังจมูกลงแก้มเด็กน้อยวัยสามเดือนเศษตอนนี้น้ำนมของเธอเยอะมากๆ ทว่าลูกของเธอก็กินเก่งมากเหมือนกัน น้ำนมเอ่อไหลจนต้องปั๊มนมใส่ตู้เก็บไว้จำนวนมาก อยู่ๆ เธอก็คิดถึงตอนที่น้ำนมยังไม่มา ตอนนั้นเธอรู้สึกเครียดมาก แต่ก็ยังดีที่ได้กินน้ำขิงของนัทเชลล์ ทำให้เธอมีน้ำนมสต๊อกไว้ถึงสามตู้ฟรีชหลังจากที่มิราให้นมลูกของเธอเสร็จ เมลลี่ก็มาอุ้มมาร์เวลล์ออกไปทันที"มิไปพักเถอะ""มิแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย จะต้องพักด้วยเหรอ"มิราเอ่ยขึ้นทว่าเมลลี่ไม่สนใจเธอ เอาแต่หยอกล้อหลาน"วันนี้แด๊ดดี้ไปไหน ทำไมห่างลูกนานจังเลย ปกติมาทุกสิบนาที"ว่าจบเควินก็เดินเข้ามากอดมิราจากทางด้านหลัง ก่อนจะประกบริมฝีปากแนบชิด ทั้งสองสวีทหวานอย่างไม่อายใคร และทุกคนก็เริ่มชินแล้ว

  • แพ้รักคนใจร้าย   38

    ครอบครัวเควินและมิราย้ายมาอยู่บนเกาะด้วยกันแทบตลอดเวลา เควินเลือกที่จะเอางานมาทำที่เกาะและดูแลเธอแบบใกล้ชิดเพิ่มความปลอดภัยแบบเต็มกำลังเควินแทบไม่ให้หญิงสาวออกห่างจากตัว และยังสั่งให้เธอนอนดูซีรีส์ฟังเพลงอยู่โซฟาในห้องทำงาน แล้วถ้าเบื่อเขาก็พาออกไปเดินเล่น และไปหาแม่ที่อยู่อีกฟากของเกาะแม่เธอกับผู้จัดการก็มาอยู่ด้วยแต่ว่าขอให้สร้างบ้านหลังเล็ก ๆ ส่วนหนึ่งของเกาะ พวกเขาอยากใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย จริง ๆ ทั้งสองอยากอยู่ที่ญี่ปุ่นแต่มิราเป็นห่วงจึงขอร้องให้มาด้วยกัน แม่ก็ไม่อยากทำให้ลูกสาวกับเควินต้องเป็นห่วงเลยอยู่ใกล้ ๆ กันจะได้สบายใจ และเชื่อว่าเควินจะดูแลทุกคนได้ปู่และย่าเอ่ยถามถึงข่าวเควินหลานชายจากลูกน้อง เพราะเควินไม่มาหาเขาเลย ด้วยความคิดถึงหลานชายคนเดียวจึงให้คนเป็นย่าแกล้งป่วย"คิดถึงมันมากก็แกล้งป่วยสิ""แกล้งหรือไม่แกล้ง ฉันก็เหมือนคนป่วยอยู่แล้ว"คนแก่ทั้งสองเริ่มปลงและทำใจยอมรับมิราและยิ่งได้รู้ว่านางใจเด็ดและไม่ยอมแพ้ที่จะรักเควินก็ยิ่งรู้สึกชอบ เธอเหมือนย่าของเควินในตอนนั้น ตอนแรกย่าก็อยากได้เมติน่าคู่หมั้นเควินมากเพราะคิดว่าจะทำทุกอย่างได้เพื่อเควิน แต่จริง ๆ แล้วเธอ

  • แพ้รักคนใจร้าย   37

    . ลูกเควินนั่งดูหมอตรวจหญิงสาวด้วยความตื่นเต้น มิราเองก็พยายามส่งสายตาให้ชายหนุ่มออกไป ทว่าชายหนุ่มกลับไม่สนใจเธอเอาแต่จ้องมองบนจอ แต่พอเห็นภาพลูกหน้าจอทั้งสองคนก็เงียบไป เควินเอ่ยถามหมอขึ้นว่าเสียงหัวใจเป็นของใคร คุณหมอก็เอ่ยตอบว่า"เสียงของตัวเล็กครับ"เควินนั่งฟังเสียงหัวใจของลูกน้อยด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เป็นครั้งแรกที่ดีใจจนแทบเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่เควินฟังหมออธิบายวิธีดูแลเมียกับลูกอย่างตั้งใจ สงสัยอะไรก็ถามทำเอาคนเป็นแม่อย่างมิรารู้สึกใจเต้นแรงและไม่คิดว่ามาเฟียอย่างเขาจะสนใจลูกขนาดนี้ และนึกภาพไม่ออกเลยว่าเควินจะโกรธมากแค่ไหนถ้าเธอทำแท้งจริงๆเควินเอ่ยถามเพศลูกขึ้น"เพศอะไรครับ""น้องเป็นผู้ชายครับ"เควินพอรู้ว่าได้ลูกชายก็ดีใจมาก ๆ แต่ก็ยังคงเก็บอาการพออัลตราซาวด์เสร็จหมอก็เอ่ยถามมิราขึ้นทันที"ยังแพ้ท้องอยู่มั้ย""ก็มีบ้างค่ะ""แล้วมีวิธีที่ทำให้หายแพ้ไหม"เสียงมาเฟียหนุ่มเอ่ยถามขึ้นทันที สร้างความมึนงงให้คนเป็นหมอเป็นอย่างมากมิรามองหน้าชายหนุ่มแบบงง ๆ"นี่โง่หรือแกล้งโง่ กันแน่ใครจะรักษาอาการแพ้ท้องได้"มิราเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีรำคาญ ทว่าหัวใจกลับเต้นแรงอย่างหนักที

  • แพ้รักคนใจร้าย   36

    36.มิราค่อย ๆ รู้สึกตัวตื่นก่อนจะนั่งคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา เธอไม่ได้รู้สึกตกใจกับอาการของตัวเอง เพราะเธอมักจะเป็นแบบนี้อยู่บ่อย ๆมิรารู้สึกเครียดมาก ๆ และไม่รู้จะทำยังไงกับเรื่องนี้ ทำได้เพียงคิดว่าเธอนั้นไปทำชั่วอะไรไว้ตั้งแต่ชาติปางไหนทำไมมันถึงได้ซวยซ้ำซ้อนขนาดนี้"จะมีผัวทั้งทีก็เป็นผัวคนอื่นซะงั้น"มิราสบถขึ้นแต่พอพูดถึงผัวเธอก็มองหามาเฟียหนุ่ม ทว่ากลับไม่เจอแล้วก็มีเสียงใครบางคนมาเคาะประตูปู่กับย่าของมาเฟียหนุ่มตั้งใจแอบมาคุยกับเธอตอนที่เควินไม่อยู่ พร้อมกับบังคับเธอให้ทำตามข้อตกลง"เควินควรมีชีวิตที่ดีกว่านี้ เธอไม่เหมาะที่จะยืนข้างเควิน เธอมันอ่อนแอเกินไปที่สู้เพื่อเควิน ออกไปจากชีวิตหลานฉันซะ!""ทำไมฉันต้องทำตามที่พวกคุณต้องการนี่มันชีวิตของฉัน พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาสั่งให้ฉันไปจากเควิน" "ความปลอดภัยของครอบครัวเธอมั้ง ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะคนที่จะเป็นเมียมาเฟียอย่างเควินจะต้องเป็นคนที่คู่ควร ดูแลตัวเองและลูกได้ ไม่เป็นภาระให้เควินเหมือนเธอ" "ยังไงเธอเองก็ไม่ได้รักหลานชายฉันอยู่แล้ว สู้เอาเงินไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ไม่ดีกว่าเหรอ ไม่ต้องมาเสี่ยงอันตราย ฉันจะให้เงิน

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status