Home / โรแมนติก / แฟนเก่าที่(ไม่)รัก / บทที่ 1 เลิกแล้วค่ะ! - 60% -

Share

บทที่ 1 เลิกแล้วค่ะ! - 60% -

last update Last Updated: 2025-08-28 15:54:50

แก้มของเขาขึ้นเป็นรอยฝ่ามือ เขาต้องเจ็บแน่ เธอรู้ เพราะเธอใส่แรงไปเต็มที่ แต่เขาไม่รู้หรอกว่าเธอเจ็บกว่าเขาหลายเท่านัก เพราะไม่ใช่แค่เจ็บที่มือเท่านั้น หัวใจของเธอก็เจ็บไปด้วย

ภัทรมัยเปิดประตูบันไดหนีไฟแล้วก้มหน้าก้มตากึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังห้องน้ำทันที หญิงสาวมองตัวเองหน้ากระจก เห็นภาพของตนเองที่กำลังร้องไห้น้ำตาอาบแก้มเพราะใจสลาย เธอกะไว้แล้วว่าวันนี้จะต้องร้องไห้แน่จึงไม่ได้แต่งหน้ามาเยอะนัก จะได้ไม่มีสภาพน่าสมเพชอันเกิดจากมาสคารากับอายไลเนอร์เลอะเปรอะเปื้อนรอบดวงตาให้ใครเห็น

มีแต่ลิปสติกที่เลอะออกมานอกริมฝีปากอันเกิดจากการจูบกับเขาอย่างเร่าร้อน

หญิงสาวหลับตา พยายามสะกดกลั้นความเสียใจเอาไว้ เพราะอย่างไรเสียก็ยังต้องทำงานร่วมกันไปอีกนาน

แต่เธอจะทำใจได้หรือที่ต้องเห็นหน้าเขาทุกวัน แล้วจำกัดให้เขาเป็นเพียงรุ่นพี่ หรือเพื่อนร่วมงานเท่านั้น ทั้งที่เคยคบหาจนถึงขั้นมีอะไรกันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

และที่สำคัญ ช่วงบ่ายเธอต้องเข้าประชุมพร้อมเขาอีกด้วย

ทำอย่างไรดีล่ะทีนี้

ภัทรมัยรีบใช้กระดาษทิชชูเช็ดคราบน้ำตาออกจากแก้ม ดวงตาของเธอบวมแดงเล็กน้อย ไม่ว่าใครก็มองออกว่าผ่านการร้องไห้มา แต่จะให้เธออยู่ในห้องน้ำเพื่อหลบหน้าหลบตาผู้อื่นก็ทำไม่ได้ เพราะตนยังมีงานต้องทำ

หญิงสาวหลับตาสูดลมหายใจเข้าลึกหลายครั้งเพื่อตั้งหลัก เมื่อลืมตาอีกครั้ง เธอก็ยิ้มให้ตัวเองในกระจก

“เอาวะ The show must go on”

ภัทรมัยนั่งเตรียมเอกสารการเข้าประชุมสำหรับบ่ายนี้ โดยตลอดช่วงเช้าของการทำงาน หญิงสาวไม่สนใจ ไม่หันไปมองอดีตคนรักที่นั่งอยู่อีกด้านของออฟฟิศเลยแม้แต่น้อย จะว่าไปแล้วเธอแทบไม่สบตาใครเลยด้วยซ้ำ เพราะไม่ต้องการตอบคำถามเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับเรื่องระหว่างเธอกับชยาวุธ

แม้กระทั่งพักกลางวัน ภัทรมัยก็ไม่ยอมลงไปกินข้าว หญิงสาวใช้เรื่องเอกสารที่ต้องเข้าประชุมมาเป็นข้ออ้างในการไม่ลงไปกินข้าวกลางวันกับเพื่อนในแผนก

ชยาวุธเดินมาหยุดที่โต๊ะทำงานของเธอ เขาทำท่าเหมือนอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอไม่สนใจ ยังคงก้มหน้าก้มตาอยู่กับคอมพิวเตอร์ตรงหน้า ทั้งที่ความจริงงานเธอทำเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว

“ให้พี่ซื้อข้าวมาเผื่อไหมแก้ม” เขาถามเสียงอ่อน

“ไม่ต้อง!” เธอตอบเขาเสียงห้วน

ชยาวุธพยักหน้าแล้วไม่พูดอะไรอีก เขาเปิดประตูจะเดินออกจากออฟฟิศ ก่อนไปเขาหันกลับมามองหญิงสาวจนภัทรมัยต้องรีบหลบตาไปทางอื่น คล้อยหลังเขา เธอก็มองไปยังทิศทางที่ชายหนุ่มเดินไปด้วยแววตาปวดร้าว

เลิกกันแล้วจะมายุ่งวุ่นวายกับเธออีกทำไม...รู้สึกผิดอย่างนั้นหรือที่หลอกลวงเธอมาตลอด

ภัทรมัยฟุบหน้าลงกับโต๊ะ กระบอกตาปวดหนึบขึ้นมาอีกแล้ว จนเธอต้องหลับตาเพื่อสะกดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาอีก

ชยาวุธเดินถือถุงใส่กล่องข้าวมายืนเตร็ดเตร่รอสาว ๆ แผนกเออีอยู่หน้าลิฟต์ เมื่อเห็นกลุ่มหญิงสาวที่ตนกำลังรออยู่จึงเดินเข้าไปหาทันที

“เหมียว พี่วานอะไรหน่อยสิ” เขายื่นถุงกล่องข้าวที่สั่งมาจากร้านอาหารตามสั่งไปให้หญิงสาวตรงหน้า

“พี่ฝากเอาข้าวให้แก้มหน่อย เพราะถ้าพี่เอาไปให้เองแก้มคงไม่กินน่ะ”

เหมียวรับไปพลางหรี่ตามองชายหนุ่มอย่างสงสัยใคร่รู้ เพื่อนร่วมงานอีกคนที่อยู่ข้างกันจึงโพล่งถามทันที

“ทำไมพี่เวฟเลิกกับแก้มล่ะ ถามได้ไหมพี่” อ้อนถามจบ อีกคนก็ถามต่อ

“นั่นสิ หรือว่าพี่มีแฟนใหม่” เจนยืนกอดอกจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง

“เฮ้ย! ไม่มี เห็นพี่เป็นคนยังไงเนี่ย” ชยาวุธปฏิเสธเสียงเข้ม

“ก็เพราะเห็นว่าพี่ไม่ใช่คนเจ้าชู้น่ะสิ พวกเราก็เลยเชียร์เต็มที่ตอนพี่จีบยายแก้ม อุตส่าห์เป็นม้าเร็วคอยวิ่งส่งเพลงยาวให้จนได้คบกัน แล้วทำไมจู่ ๆ ถึงเลิกกันได้ อาทิตย์ที่แล้วยังสวีตหวานจ๋อยจนน่าหมั่นไส้อยู่เลย”

เหมียวถามออกไปด้วยความอยากรู้เช่นกัน เพราะก่อนหน้านี้ไม่สามารถง้างปากภัทรมัยได้เลยว่าทำไมถึงเลิกกับชยาวุธ

ชายหนุ่มถอนหายใจแผ่ว “เรื่องมันซับซ้อนน่ะ อย่ารู้เลยดีกว่า เอาเป็นว่าพี่ฝากข้าวให้แก้มหน่อยละกันนะ ไม่ต้องบอกว่าพี่เป็นคนซื้อมาให้” พูดจบเขาก็เดินจากไปทันที ทิ้งให้สามสาวได้แต่มองหน้ากันไปมา

“อะไรวะ พี่เวฟก็ยังดูเป็นห่วงเป็นใยยายแก้มดีนี่นา” อ้อนมองตามหลังชายหนุ่มไป

“นั่นดิ แล้วเลิกกันด้วยเรื่องอะไรล่ะเนี่ย เมื่อเช้าแก้มมันก็ร้องไห้จนตาบวมไปหมด” เจนพูด

“เฮ้อ...ฉันว่าเอาไว้ยายแก้มอยากเล่าเมื่อไรเดี๋ยวนางก็เล่าให้ฟังเองนั่นแหละ ตอนนี้คงยังทำใจไม่ได้น่ะ ขึ้นข้างบนกันดีกว่า” เหมียวพยักหน้าให้เพื่อน ก่อนเดินไปกดเรียกลิฟต์เพื่อขึ้นไปทำงานช่วงบ่ายต่อ

เมื่อได้เวลาประชุม ภัทรมัยวางเอกสารไว้ทั้งหมดหกชุดบนโต๊ะประชุม โดยผู้ที่นั่งหัวโต๊ะเป็นอาร์ตไดเรกเตอร์ซึ่งเปรียบเสมือนหัวหน้าทีม ส่วนอีกสองฝั่งเป็นทีมครีเอทีฟกับฝ่ายประสานงานลูกค้า หรือเออี

ภัทรมัยพยายามไม่มองหน้าชยาวุธ แม้ว่าชายหนุ่มจะเดินมานั่งตรงข้ามตน เธอรู้ว่าเขาคอยมองอยู่ตลอด แต่เธอทำทีเป็นไม่สนใจเขา

เมื่อสมาชิกเข้าประชุมครบทุกคนแล้ว จิ๊บ จิติมา โพรเจกต์เมเนเจอร์ของทีมจึงเข้าเนื้อหาการประชุมทันที

“จากที่จิ๊บกับแก้มไปประชุมกับลูกค้ามา ทางบีเอสคอนซูเมอร์กำลังจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นกาแฟสดพร้อมดื่มค่ะ รายละเอียดทั้งหมดอยู่ในเอกสารที่แก้มแจกให้ทุกคนแล้ว แต่จิ๊บจะให้แก้มสรุปให้ทุกคนฟังอีกทีนะคะเพื่อจะได้เข้าใจตรงกัน” จิติมาหันไปพยักหน้าให้ภัทรมัย หญิงสาวจึงเริ่มอธิบายลักษณะงานที่รับมาจากลูกค้าให้ทุกคนฟัง

“ข้อแรกเลยนะคะ กาแฟสดพร้อมดื่มตัวนี้จะไม่เหมือนกับกาแฟพร้อมดื่มทั่วไปค่ะ กาแฟพร้อมดื่มที่เราเห็นทั่วไปมักเป็นแบบกระป๋องหรือเป็นแก้วพลาสติกใช่ไหมคะ แต่ของบีเอสจะเป็นกล่องเหมือนกล่องนมเลย เขาต้องการชูเรื่องรีไซเคิล เพราะทางบีเอสจะมีโครงการนำกล่องนมที่ดื่มหมดแล้วไปทำหลังคาให้โรงเรียน วัด หรือศูนย์พักพิงต่าง ๆ ในชนบท

ข้อสอง กาแฟสดตัวนี้จะไม่ใส่น้ำตาลเลย แต่จะใช้ความหวานจากธรรมชาติ จึงเหมาะกับคนที่ไม่ชอบกินหวานค่ะ” ภัทรมัยเว้นช่วงการพูด กำลังจะพูดต่อ ชยาวุธก็พูดแทรกขึ้น

“หวานจากธรรมชาติงั้นหรือ เป็นนมหวานหรือใส่น้ำผึ้งล่ะ”

ภัทรมัยชะงักไปทันที รู้ดีว่าอีตาแฟนเก่าคนนี้กำลังตั้งใจกวนประสาท เพราะมีหลายครั้งตอนร่วมรักกัน เขามักเอาน้ำผึ้งมาหยดใส่ยอดอกของเธอแล้วใช้ปลายลิ้นไล้เลียน้ำผึ้งจนหมด ส่วนเธอก็นอนอ่อนระทวยอยู่บนเตียง

บ้าจริง เขาทำให้เธอเขวจนได้ อีตาบ้านี่!

“ไม่ต้องใส่น้ำผึ้งหรอกค่ะเพราะนมมันหวานอยู่แล้ว เป็นแล็กโทสจากนมไงคะ” เธอตอบเขาพร้อมรอยยิ้มประชดประชัน กำลังจะพูดต่อ ชยาวุธก็พูดแทรกขึ้นมาอีก

“พี่ก็ว่างั้น รสชาติของนมมันหวานอยู่แล้ว” ชายหนุ่มยิ้มพร้อมกับมองหน้าเธออย่างยั่วเย้า จนหญิงสาวต้องเสมองไปทางอื่นแล้วเริ่มพูดต่อ

“กลุ่มเป้าหมายของลูกค้าคือคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพ หนุ่มสาววัยทำงานทั่วไปที่เริ่มหันมาใส่ใจดูแลตัวเองค่ะ เขาอยากได้โฆษณาในลักษณะแบบพนักงานที่นั่งทำงานในออฟฟิศหันมาดื่มกาแฟตัวนี้ แทนที่จะไปซื้อกาแฟสดตามร้านที่ใส่นมข้นหวานหรือใส่ไซรัปเยอะ ๆ น่ะค่ะ” ภัทรมัยหยุดพูดเพื่อเปิดโอกาสให้ฝ่ายครีเอทีฟซักถาม

“เนื้องานโฆษณาอยากได้บรรยากาศในออฟฟิศใช่ไหมครับ” ชยาวุธถามเธอเสียงอ่อน

“ใช่ค่ะ แต่พวกพี่ทั้งสามคนลองทำสตอรีบอร์ดมาแตกต่างกันเพื่อให้เขาเลือกก็ได้นะคะ อาจจะเป็นในออฟฟิศหรือในฟิตเนสอะไรพวกนี้ พวกพี่ลองไปคุยกันนะว่าใครจะทำแบบไหน” เธอตอบอย่างเป็นการเป็นงาน

“ลูกค้านัดดูงานวันไหน” พี่เบส ดนุพร อาร์ตไดเรกเตอร์ถามขึ้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   ตอนพิเศษ - 100% -

    “แล้วน้องเขารู้รึยังว่ามึงชอบเขา” ทิวากรถามยิ้ม ๆ“จะรู้ได้ไง ก็กูไม่ได้บอก”ทิวากรกลอกตาพลางเอ่ยว่า “เหรอออ ไอ้คุณเวฟครับ กูว่าน้องเขาน่าจะรู้แล้วละครับ เพราะมึงน่ะมองเขาตาเชื่อมขนาดนั้น แหม...ไม่แสดงออกเลยสักนิด แค่คนเขารู้เขาเห็นกันทั้งบริษัทแค่นั้นเอง”“เฮ้ยถามจริง น้องเขารู้หรือวะ” คนอื่นเขาไม่สนใจ ใครจะคิดอย่างไรก็คิดไป แต่ภัทรมัยนั้นเขาต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะเธอยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขาโสด ถ้าเขาเผลอมองเธอตาเชื่อมจริง เธอจะต้องคิดแน่ว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้หลายใจ“ไม่ได้การแล้วไอ้ทิว มึงรีบไปป่าวประกาศให้กูด่วนเลยว่ากูโสดแล้ว”และตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เขาจะเริ่มจีบภัทรมัยอย่างจริงจังสักทีชยาวุธกับทีมงานคนอื่น ๆ นั่งฟังบรีฟงานจากภัทรมัยในห้องประชุมเล็ก ตลอดเวลาที่นั่งประชุม ชายหนุ่มแทบไม่ละสายตาไปจากเออีคนสวยเลย และเขาไม่ใช่แค่มองอย่างเดียว แต่ยังยิ้มนิด ๆ ตลอดเวลาด้วยภัทรมัยรู้ตัวว่าถูกชยาวุธจ้องเอา ๆ ก็อดประหม่าไม่ได้ หญิงสาวต้องตั้งสติและใช้สมาธิอย่างมา

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   ตอนพิเศษ - 70% -

    “เฮ้อ...” ภัทรมัยถอนหายใจอีกครั้งทั้งยังเผลอมองเขาไม่วางตา จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น หัวคิ้วของหญิงสาวพลันขมวดมุ่นอย่างไม่สบอารมณ์ทันทีตาคนนี้ปล่อยให้คนอื่นเขาแซงคิวอีกแล้ว...นังแก้มจะไม่ทน!หญิงสาวลุกขึ้นแล้วเดินดุ่ม ๆ เข้าไปหาชยาวุธด้วยสีหน้าเอาเรื่อง แต่ไม่ได้พูดกับเขา เธอพูดกับผู้หญิงคนนั้น“ขอโทษนะคะ ท้ายแถวอยู่ตรงนั้นค่ะ กรุณาไปต่อคิวด้วย”“อะไรกัน ก็คุณคนนี้...” ผู้หญิงคนนั้นยังพูดไม่จบ ภัทรมัยก็ขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่เบานัก“ถึงพี่ฉันจะยอมให้คุณแซงคิว แต่ฉันไม่ให้ และฉันจะเข้าคิวแทนพี่เขาเอง เพราะฉะนั้นกรุณาไปต่อท้ายแถวค่ะ” หญิงสาวชี้ไปทางท้ายแถว จากนั้นหันไปพูดกับชายหนุ่มว่า“พี่เวฟไปนั่งรอก่อนเลย แก้มจะแลกการ์ดเอง” พูดจบก็หันไปมองหน้าผู้หญิงคนนั้นต่อ เจ้าหล่อนเห็นคนเริ่มมองมาหลายคน อีกทั้งคนที่ต่อแถวบางคนก็ทำหน้าไม่พอใจ จึงเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปจากแถวทันทีเมื่อแลกการ์ดเรียบร้อยแล้ว ภัทรมัยจึงเดินไปหาชยาวุธที่นั่งรออยู่ จากนั้นก็ยื่นการ์ดให้เขา&

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   ตอนพิเศษ - 35% -

    เออีน้องใหม่ภัทรมัยเดินออกจากลิฟต์ด้วยหัวใจที่เต้นกระหน่ำ วันนี้เธอเริ่มงานวันแรกกับบริษัทโฆษณาที่จัดว่าเป็นบริษัทอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย เธอใฝ่ฝันอยากทำบริษัทนี้มานานแล้ว เคยมาสัมภาษณ์สองครั้ง แต่ไม่ถูกเรียกให้เข้าทำงาน หญิงสาวจึงต้องไปสมัครบริษัทอื่น ทำอยู่หลายปีจนกระทั่งทราบข่าวว่าบริษัทนี้เปิดรับ Account Executive เธอจึงลองยื่นใบสมัครดูอีกครั้ง หลังจากสัมภาษณ์เสร็จก็กลับบ้านไปรอฟังผล ผ่านไปสองวันจึงได้รับโทรศัพท์จากฝ่ายบุคคลว่าเธอได้รับการพิจารณาให้เป็นพนักงานของบริษัทแล้วภัทรมัยจำได้ว่าวันนั้นตนกรี๊ดลั่นห้องจนเพื่อนชายที่อยู่ห้องติดกันรีบมาเคาะประตูถามด้วยความเป็นห่วง เพราะนึกว่าเธอเกิดอันตรายขณะที่หญิงสาวกำลังจะผลักประตูเข้าไป เสียงทุ้มจากด้านหลังพลันดังขึ้นจนทำให้เธอสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่ามาติดต่อธุระอะไรรึเปล่าครับ”ภัทรมัยลดมือลงจากที่จับประตูแล้วหันไปมองคนถาม ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งคนนี้หน้าตาใช้ได้ อายุน่าจะประมาณยี่สิบปลายถึงสามสิบปี สวมเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนกับรองเท้าผ้าใบ ดูท่าทางเป

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทส่งท้าย - 100% -

    โลกใบแรกที่เป็นทนายปราบต์ได้ตายไปแล้ว แต่ยังเหลือโลกใบที่สองคือนวัช เจ้าของบ่อปลาน้ำจืดขนาดใหญ่เขาเหลือชีวิตเดียวแล้ว คงต้องรักษาเอาไว้ให้ดี ให้สมกับที่มารดาของเขายอมเสียสละทุกอย่างเพื่อให้เขาเติบโต...เมี้ยว...เสียงร้องแผ่วเบาของแมวตัวหนึ่งทำให้ความคิดของชายหนุ่มหยุดชะงักลงทันที เขามองหาที่มาของเสียงจึงเห็นลูกแมวตัวเล็กยืนห่างเขาออกไปประมาณสามก้าว“แมวบ้านไหนเนี่ย” เขาไม่เคยได้ยินว่าคนแถวนี้เลี้ยงแมวสักคน จึงคิดจะจับตัวมันมาดูว่าสวมปลอกคอเอาไว้หรือไม่ แต่เจ้าตัวเล็กก็กระโดดหนีไปเสียก่อน และเพราะความมืดเขาจึงไม่แน่ใจว่ามันมีสีอะไร แต่ในเมื่อมันไปแล้วเขาจึงไม่ได้สนใจอีกทว่าพอเขาเดินเข้าบ้าน กลับเห็นลูกแมวตัวน้อยนั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนโซฟาราวกับเป็นบ้านของมัน“จะมาอยู่ด้วยกันรึไงเจ้าเหมียวน้อย” เขาก้มตัวลงมองมันชัด ๆ เป็นแมวไทยทั่วไปสีส้มท้องขาว มีปลอกคอสวมอยู่แสดงว่าเป็นแมวมีเจ้าของ“กลับบ้านไปได้แล้ว เจ้าของหาแย่แล้วมั้ง”มันเงยหน้ามองเขาเหมือนจะฟังรู้เรื่อง แต่พอเห็นมันเอนตัวลงนอนฟุบบนโซฟาเหมื

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทส่งท้าย - 75% -

    “น่ารักจังเลย กี่เดือนแล้วคะ” ภัทรมัยมองเด็กน้อยลูกครึ่งด้วยความเอ็นดู สีผมของทั้งคู่เป็นสีน้ำตาล นัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลเช่นกัน พวงแก้มแดงระเรื่อทั้งสองข้าง แขนขาจ้ำม่ำดูน่ากอดทั้งคู่“แปดเดือนแล้ว กำลังคลานเลย เวฟกับแก้มล่ะ เมื่อไรจะมีตัวเล็กบ้าง” เฟิร์นถามยิ้ม ๆ“คงอีกสักพักค่ะ” ภัทรมัยยิ้มแหย“โห นี่แปลว่าไปอยู่ที่โน่นได้ไม่นานก็แต่งงานเลยสิเนี่ย แฟนเป็นคนอเมริกันใช่ไหม แล้วรู้จักกันได้ยังไง” ชยาวุธยิ้มกว้างเช่นกัน ดีใจที่เห็นอดีตคนรักมีชีวิตที่ดี“ใช่ ตอนมาถึงที่นี่เฟิร์นก็ช่วยน้าทำงานในคลินิกสัตว์ และเพ็ทชอปน่ะ เขาเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ เพราะพาแมวมาถ่ายพยาธิและหยอดยากันเห็บหมัดทุกเดือน มาซื้ออาหารแมว ทรายแมวบ่อย ๆ ก็เลยได้รู้จักกัน บ้านเขาอยู่ไม่ไกลจากคลินิกด้วย เขาจะออกมาวิ่งทุกเช้าเลยได้คุยกันทุกวัน”“ดีใจด้วยนะเฟิร์น ลูก ๆ น่ารักมาก แก้มแดงน่าหยิกมากเลย ไฮ...”ชายหนุ่มโบกมือทักทายเด็กน้อยที่มองตนตาแป๋วผ่านทางหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะหันไปยิ้มกับภรรยาอย่างถูกใจเมื่อเห

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทส่งท้าย - 50% -

    “ไอ้เสี่ยกวงมันอยู่ได้อีกไม่นานหรอก เชื่อพี่ น่าจะตายอยู่ในคุกนั่นแหละ ไม่ได้ออกมาเห็นโลกภายนอกอีกหรอก”“แล้วคุณทนายล่ะ แก้มว่าเขาก็ทำบาปกับคนอื่นไว้ไม่น้อยเลยนะนั่น อยากรู้จริงว่าตอนนี้เขาทำอะไรอยู่”แม้จะผ่านมาสองปีแล้ว แต่ภัทรมัยยังคงเชื่อว่าทนายปราบต์ยังไม่ตาย และคิดว่าเขาคงอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้แน่นอน“จะไปคิดถึงมันทำไม มันทำให้พี่เกือบตายเชียวนะ” เขาตัดพ้อเสียงขุ่น ภัทรมัยจึงรีบกอดเขาไว้อย่างเอาใจ“แหม ก็แค่อยากรู้เฉย ๆ ว่าเขาทำยังไงถึงรอด หมายถึงว่าเขาทำยังไงถึงทำให้ตัวเองกลายเป็นคนตายไปได้ แล้วตอนนี้เขาจะใช้ชื่อว่าอะไร ยังอยู่ในประเทศไทยรึเปล่าแค่นั้นเอง”“เขาอยู่กับเสี่ยกวงมานาน ยังไงก็ต้องมีทางออกให้ตัวเองเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วละ แต่ไอ้เรื่องชุบตัวเป็นคนใหม่หรือสวมรอยเป็นคนอื่นรึเปล่าเราก็ไม่รู้กับเขาหรอก พี่ว่าเรื่องแบบนี้มันน่าจะรู้กันเฉพาะกลุ่มว่ามีขบวนการทำให้ ดีไม่ดี เจ้าหน้าที่พวกนั้นอาจจัดการให้เขาเองก็ได้ ช่างมันเถอะ แค่อย่ามาให้เจอหน้าก็แล้วกัน บอกตามตรงเลยนะ พี่ไม่ถูกชะตา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status