Beranda / โรแมนติก / แฟนเก่าที่(ไม่)รัก / บทที่ 1 เลิกแล้วค่ะ! - 60% -

Share

บทที่ 1 เลิกแล้วค่ะ! - 60% -

last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-28 15:54:50

แก้มของเขาขึ้นเป็นรอยฝ่ามือ เขาต้องเจ็บแน่ เธอรู้ เพราะเธอใส่แรงไปเต็มที่ แต่เขาไม่รู้หรอกว่าเธอเจ็บกว่าเขาหลายเท่านัก เพราะไม่ใช่แค่เจ็บที่มือเท่านั้น หัวใจของเธอก็เจ็บไปด้วย

ภัทรมัยเปิดประตูบันไดหนีไฟแล้วก้มหน้าก้มตากึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังห้องน้ำทันที หญิงสาวมองตัวเองหน้ากระจก เห็นภาพของตนเองที่กำลังร้องไห้น้ำตาอาบแก้มเพราะใจสลาย เธอกะไว้แล้วว่าวันนี้จะต้องร้องไห้แน่จึงไม่ได้แต่งหน้ามาเยอะนัก จะได้ไม่มีสภาพน่าสมเพชอันเกิดจากมาสคารากับอายไลเนอร์เลอะเปรอะเปื้อนรอบดวงตาให้ใครเห็น

มีแต่ลิปสติกที่เลอะออกมานอกริมฝีปากอันเกิดจากการจูบกับเขาอย่างเร่าร้อน

หญิงสาวหลับตา พยายามสะกดกลั้นความเสียใจเอาไว้ เพราะอย่างไรเสียก็ยังต้องทำงานร่วมกันไปอีกนาน

แต่เธอจะทำใจได้หรือที่ต้องเห็นหน้าเขาทุกวัน แล้วจำกัดให้เขาเป็นเพียงรุ่นพี่ หรือเพื่อนร่วมงานเท่านั้น ทั้งที่เคยคบหาจนถึงขั้นมีอะไรกันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

และที่สำคัญ ช่วงบ่ายเธอต้องเข้าประชุมพร้อมเขาอีกด้วย

ทำอย่างไรดีล่ะทีนี้

ภัทรมัยรีบใช้กระดาษทิชชูเช็ดคราบน้ำตาออกจากแก้ม ดวงตาของเธอบวมแดงเล็กน้อย ไม่ว่าใครก็มองออกว่าผ่านการร้องไห้มา แต่จะให้เธออยู่ในห้องน้ำเพื่อหลบหน้าหลบตาผู้อื่นก็ทำไม่ได้ เพราะตนยังมีงานต้องทำ

หญิงสาวหลับตาสูดลมหายใจเข้าลึกหลายครั้งเพื่อตั้งหลัก เมื่อลืมตาอีกครั้ง เธอก็ยิ้มให้ตัวเองในกระจก

“เอาวะ The show must go on”

ภัทรมัยนั่งเตรียมเอกสารการเข้าประชุมสำหรับบ่ายนี้ โดยตลอดช่วงเช้าของการทำงาน หญิงสาวไม่สนใจ ไม่หันไปมองอดีตคนรักที่นั่งอยู่อีกด้านของออฟฟิศเลยแม้แต่น้อย จะว่าไปแล้วเธอแทบไม่สบตาใครเลยด้วยซ้ำ เพราะไม่ต้องการตอบคำถามเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับเรื่องระหว่างเธอกับชยาวุธ

แม้กระทั่งพักกลางวัน ภัทรมัยก็ไม่ยอมลงไปกินข้าว หญิงสาวใช้เรื่องเอกสารที่ต้องเข้าประชุมมาเป็นข้ออ้างในการไม่ลงไปกินข้าวกลางวันกับเพื่อนในแผนก

ชยาวุธเดินมาหยุดที่โต๊ะทำงานของเธอ เขาทำท่าเหมือนอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอไม่สนใจ ยังคงก้มหน้าก้มตาอยู่กับคอมพิวเตอร์ตรงหน้า ทั้งที่ความจริงงานเธอทำเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว

“ให้พี่ซื้อข้าวมาเผื่อไหมแก้ม” เขาถามเสียงอ่อน

“ไม่ต้อง!” เธอตอบเขาเสียงห้วน

ชยาวุธพยักหน้าแล้วไม่พูดอะไรอีก เขาเปิดประตูจะเดินออกจากออฟฟิศ ก่อนไปเขาหันกลับมามองหญิงสาวจนภัทรมัยต้องรีบหลบตาไปทางอื่น คล้อยหลังเขา เธอก็มองไปยังทิศทางที่ชายหนุ่มเดินไปด้วยแววตาปวดร้าว

เลิกกันแล้วจะมายุ่งวุ่นวายกับเธออีกทำไม...รู้สึกผิดอย่างนั้นหรือที่หลอกลวงเธอมาตลอด

ภัทรมัยฟุบหน้าลงกับโต๊ะ กระบอกตาปวดหนึบขึ้นมาอีกแล้ว จนเธอต้องหลับตาเพื่อสะกดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาอีก

ชยาวุธเดินถือถุงใส่กล่องข้าวมายืนเตร็ดเตร่รอสาว ๆ แผนกเออีอยู่หน้าลิฟต์ เมื่อเห็นกลุ่มหญิงสาวที่ตนกำลังรออยู่จึงเดินเข้าไปหาทันที

“เหมียว พี่วานอะไรหน่อยสิ” เขายื่นถุงกล่องข้าวที่สั่งมาจากร้านอาหารตามสั่งไปให้หญิงสาวตรงหน้า

“พี่ฝากเอาข้าวให้แก้มหน่อย เพราะถ้าพี่เอาไปให้เองแก้มคงไม่กินน่ะ”

เหมียวรับไปพลางหรี่ตามองชายหนุ่มอย่างสงสัยใคร่รู้ เพื่อนร่วมงานอีกคนที่อยู่ข้างกันจึงโพล่งถามทันที

“ทำไมพี่เวฟเลิกกับแก้มล่ะ ถามได้ไหมพี่” อ้อนถามจบ อีกคนก็ถามต่อ

“นั่นสิ หรือว่าพี่มีแฟนใหม่” เจนยืนกอดอกจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง

“เฮ้ย! ไม่มี เห็นพี่เป็นคนยังไงเนี่ย” ชยาวุธปฏิเสธเสียงเข้ม

“ก็เพราะเห็นว่าพี่ไม่ใช่คนเจ้าชู้น่ะสิ พวกเราก็เลยเชียร์เต็มที่ตอนพี่จีบยายแก้ม อุตส่าห์เป็นม้าเร็วคอยวิ่งส่งเพลงยาวให้จนได้คบกัน แล้วทำไมจู่ ๆ ถึงเลิกกันได้ อาทิตย์ที่แล้วยังสวีตหวานจ๋อยจนน่าหมั่นไส้อยู่เลย”

เหมียวถามออกไปด้วยความอยากรู้เช่นกัน เพราะก่อนหน้านี้ไม่สามารถง้างปากภัทรมัยได้เลยว่าทำไมถึงเลิกกับชยาวุธ

ชายหนุ่มถอนหายใจแผ่ว “เรื่องมันซับซ้อนน่ะ อย่ารู้เลยดีกว่า เอาเป็นว่าพี่ฝากข้าวให้แก้มหน่อยละกันนะ ไม่ต้องบอกว่าพี่เป็นคนซื้อมาให้” พูดจบเขาก็เดินจากไปทันที ทิ้งให้สามสาวได้แต่มองหน้ากันไปมา

“อะไรวะ พี่เวฟก็ยังดูเป็นห่วงเป็นใยยายแก้มดีนี่นา” อ้อนมองตามหลังชายหนุ่มไป

“นั่นดิ แล้วเลิกกันด้วยเรื่องอะไรล่ะเนี่ย เมื่อเช้าแก้มมันก็ร้องไห้จนตาบวมไปหมด” เจนพูด

“เฮ้อ...ฉันว่าเอาไว้ยายแก้มอยากเล่าเมื่อไรเดี๋ยวนางก็เล่าให้ฟังเองนั่นแหละ ตอนนี้คงยังทำใจไม่ได้น่ะ ขึ้นข้างบนกันดีกว่า” เหมียวพยักหน้าให้เพื่อน ก่อนเดินไปกดเรียกลิฟต์เพื่อขึ้นไปทำงานช่วงบ่ายต่อ

เมื่อได้เวลาประชุม ภัทรมัยวางเอกสารไว้ทั้งหมดหกชุดบนโต๊ะประชุม โดยผู้ที่นั่งหัวโต๊ะเป็นอาร์ตไดเรกเตอร์ซึ่งเปรียบเสมือนหัวหน้าทีม ส่วนอีกสองฝั่งเป็นทีมครีเอทีฟกับฝ่ายประสานงานลูกค้า หรือเออี

ภัทรมัยพยายามไม่มองหน้าชยาวุธ แม้ว่าชายหนุ่มจะเดินมานั่งตรงข้ามตน เธอรู้ว่าเขาคอยมองอยู่ตลอด แต่เธอทำทีเป็นไม่สนใจเขา

เมื่อสมาชิกเข้าประชุมครบทุกคนแล้ว จิ๊บ จิติมา โพรเจกต์เมเนเจอร์ของทีมจึงเข้าเนื้อหาการประชุมทันที

“จากที่จิ๊บกับแก้มไปประชุมกับลูกค้ามา ทางบีเอสคอนซูเมอร์กำลังจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นกาแฟสดพร้อมดื่มค่ะ รายละเอียดทั้งหมดอยู่ในเอกสารที่แก้มแจกให้ทุกคนแล้ว แต่จิ๊บจะให้แก้มสรุปให้ทุกคนฟังอีกทีนะคะเพื่อจะได้เข้าใจตรงกัน” จิติมาหันไปพยักหน้าให้ภัทรมัย หญิงสาวจึงเริ่มอธิบายลักษณะงานที่รับมาจากลูกค้าให้ทุกคนฟัง

“ข้อแรกเลยนะคะ กาแฟสดพร้อมดื่มตัวนี้จะไม่เหมือนกับกาแฟพร้อมดื่มทั่วไปค่ะ กาแฟพร้อมดื่มที่เราเห็นทั่วไปมักเป็นแบบกระป๋องหรือเป็นแก้วพลาสติกใช่ไหมคะ แต่ของบีเอสจะเป็นกล่องเหมือนกล่องนมเลย เขาต้องการชูเรื่องรีไซเคิล เพราะทางบีเอสจะมีโครงการนำกล่องนมที่ดื่มหมดแล้วไปทำหลังคาให้โรงเรียน วัด หรือศูนย์พักพิงต่าง ๆ ในชนบท

ข้อสอง กาแฟสดตัวนี้จะไม่ใส่น้ำตาลเลย แต่จะใช้ความหวานจากธรรมชาติ จึงเหมาะกับคนที่ไม่ชอบกินหวานค่ะ” ภัทรมัยเว้นช่วงการพูด กำลังจะพูดต่อ ชยาวุธก็พูดแทรกขึ้น

“หวานจากธรรมชาติงั้นหรือ เป็นนมหวานหรือใส่น้ำผึ้งล่ะ”

ภัทรมัยชะงักไปทันที รู้ดีว่าอีตาแฟนเก่าคนนี้กำลังตั้งใจกวนประสาท เพราะมีหลายครั้งตอนร่วมรักกัน เขามักเอาน้ำผึ้งมาหยดใส่ยอดอกของเธอแล้วใช้ปลายลิ้นไล้เลียน้ำผึ้งจนหมด ส่วนเธอก็นอนอ่อนระทวยอยู่บนเตียง

บ้าจริง เขาทำให้เธอเขวจนได้ อีตาบ้านี่!

“ไม่ต้องใส่น้ำผึ้งหรอกค่ะเพราะนมมันหวานอยู่แล้ว เป็นแล็กโทสจากนมไงคะ” เธอตอบเขาพร้อมรอยยิ้มประชดประชัน กำลังจะพูดต่อ ชยาวุธก็พูดแทรกขึ้นมาอีก

“พี่ก็ว่างั้น รสชาติของนมมันหวานอยู่แล้ว” ชายหนุ่มยิ้มพร้อมกับมองหน้าเธออย่างยั่วเย้า จนหญิงสาวต้องเสมองไปทางอื่นแล้วเริ่มพูดต่อ

“กลุ่มเป้าหมายของลูกค้าคือคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพ หนุ่มสาววัยทำงานทั่วไปที่เริ่มหันมาใส่ใจดูแลตัวเองค่ะ เขาอยากได้โฆษณาในลักษณะแบบพนักงานที่นั่งทำงานในออฟฟิศหันมาดื่มกาแฟตัวนี้ แทนที่จะไปซื้อกาแฟสดตามร้านที่ใส่นมข้นหวานหรือใส่ไซรัปเยอะ ๆ น่ะค่ะ” ภัทรมัยหยุดพูดเพื่อเปิดโอกาสให้ฝ่ายครีเอทีฟซักถาม

“เนื้องานโฆษณาอยากได้บรรยากาศในออฟฟิศใช่ไหมครับ” ชยาวุธถามเธอเสียงอ่อน

“ใช่ค่ะ แต่พวกพี่ทั้งสามคนลองทำสตอรีบอร์ดมาแตกต่างกันเพื่อให้เขาเลือกก็ได้นะคะ อาจจะเป็นในออฟฟิศหรือในฟิตเนสอะไรพวกนี้ พวกพี่ลองไปคุยกันนะว่าใครจะทำแบบไหน” เธอตอบอย่างเป็นการเป็นงาน

“ลูกค้านัดดูงานวันไหน” พี่เบส ดนุพร อาร์ตไดเรกเตอร์ถามขึ้น

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 3 ตราบาปติดตัว - 80% -

    ชยาวุธมองสบสายตาคู่นั้นอย่างหลงใหลขณะค่อย ๆ เคลื่อนริมฝีปากพรมจูบต่ำลงไปเรื่อย ๆ สองมือแยกขาเรียวสวยออกกว้าง ข้างหนึ่งพาดไว้กับบ่าตน อีกข้างวางไว้กับพื้นเสียงครวญครางดังระงมเมื่อปลายลิ้นอุ่นร้อนเข้าปัดป่ายจุดอ่อนไหวอย่างเร่งเร้าสลับเชื่องช้า สะโพกกลมกลึงบิดส่ายรับการปรนเปรออันแสนร้อนเร่า ปากครางเรียกชื่อเขาไม่หยุด เขาจึงยิ่งเร่งระรัวเพื่อส่งเธอถึงปลายทางโดยไว เพราะเขาเองก็ปวดหนึบจนแทบระเบิดแล้วเมื่อร่างเย้ายวนเกร็งกระตุกพร้อมเสียงครางดังขึ้นกว่าเดิม อันเป็นภาษากายบ่งบอกว่าหญิงสาวถึงปลายทางแล้ว หากแต่ชายหนุ่มกลับยังคงก้มหน้าปรนเปรอไม่หยุด สองมือคลึงเคล้นทรวงสล้าง ปลายนิ้วสะกิดยอดอกอย่างหยอกเย้า ขณะที่ร่างอรชรได้แต่นอนหอบหายใจถี่จากความสุขสมที่ถาโถมเมื่อครู่ชายหนุ่มบรรจงจูบต้นขาด้านในทั้งสองข้างก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนตัวขึ้นมาจนใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับหญิงสาว เขายิ้มมุมปาก แววตารุ่มร้อนจนคนมองใจสั่นระรัว“ตรงนี้หรือในห้อง” เขาถามเสียงพร่า ขณะที่ท่อนล่างเริ่มบดเบียดสอดแทรกเข้าสู่ช่องทางฉ่ำชื้น“เอาเข้ามาแล้วยังจะถามอีกทำไม” เธอตอ

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 3 ตราบาปติดตัว - 60% -

    เฟิร์นต้องโทษเขาแน่ ๆ ว่าเป็นต้นเหตุให้มารดาของตนเองต้องตาย เขาควรยอมรับความผิดกับเธอตามตรงว่า ที่มารดาของเธออาการทรุดลงเป็นเพราะเขาทำให้มันเกิดขึ้นชยาวุธลืมตาขึ้นพลางกด โทร.ออกไปหาอดีตคนรัก รอสายอยู่นานกว่าปลายสายจะกดรับ ยิ่งได้ยินเสียงเจือสะอื้นของอีกฝ่าย เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดจนท่วมท้นไปทั้งใจ“ฮัลโหล เฟิร์น...เราขอโทษ”ภัทรมัยอดมองไปทางโต๊ะทำงานของชยาวุธไม่ได้ เขาลางานไปสองวันแล้วโดยแจ้งกับฝ่ายบุคคลว่าลากิจ ต้องไปงานศพญาติ นอกนั้นเธอก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาแล้ว เพราะไม่กล้าเปิดปากถามคนอื่นหญิงสาวเข้าเฟซบุ๊กแล้วเปิดกล่องข้อความที่เพิ่งแชตคุยกับเขาเมื่อคืนวันเสาร์ ตั้งแต่วันนั้นมาเขาก็ไม่ได้แชตมาหาเธออีกราวกับหายเข้ากลีบเมฆไปอย่างไรอย่างนั้น...และจู่ ๆ นิ้วมือของเธอก็พิมพ์ข้อความลงไปโดยไม่รู้ตัว...พี่เวฟเป็นไงบ้าง...ภัทรมัยเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าตนทำอะไรลงไปจึงรีบลบข้อความนั้นออกไปทันที เพราะกลัวว่านิ้วมือจะกดส่งไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็นั่งถอนหายใจอย่างโล่งอก“เฮ้อ...ดีนะที่ยังไม่ได้กดส่งไ

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 3 ตราบาปติดตัว - 40% -

    “Chaya Wave งั้นหรือ อะไรกัน อีพี่เวฟมีกี่ไอดีกันเนี่ย มีหลายไอดีไว้จีบสาวรึไง อีตาบ้า!” หญิงสาวกดไอคอน “โกรธ” ให้กับคอมเมนต์นั้น แต่เขากลับกด “หัวใจ” ให้กับสเตตัสของเธอชยาวุธร่างสตอรีบอร์ดเสร็จไปหนึ่งแบบจึงลุกขึ้นยืนยืดเส้นสาย เขามองนาฬิกา เมื่อเห็นว่าหนึ่งทุ่มแล้วจึงเดินไปหยิบโทรศัพท์ในห้องนอนเพื่อดูว่ามีใคร โทร.มาหรือไม่ แต่ปรากฏว่าแบตหมดจึงเสียบสายชาร์จแล้ววางไว้ที่เดิม จากนั้นจึงเปลี่ยนชุดเพื่อลงไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสของคอนโดมิเนียมชายหนุ่มขึ้นห้องอีกครั้งตอนสองทุ่มกว่า เขารีบอาบน้ำเพื่อชำระล้างคราบเหงื่อไคล เสร็จเรียบร้อยจึงมานั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เพื่อเข้าเฟซบุ๊กที่เขาสมัครไว้อีกชื่อหนึ่งเขายิ้มทันทีเมื่อเห็นว่าภัทรมัยยังไม่บล็อกบัญชีชื่อนี้ของเขา ดังนั้นชายหนุ่มจึงลองทักเธอทางกล่องข้อความChaya Wave : ทำไรอยู่แก้มเขาทักไปแล้วก็รอว่าเธอจะอ่านเลยหรือไม่ รอประมาณห้านาทีหญิงสาวก็ตอบกลับมาGam Phattramai : ถามทำไมChaya Wave : ก็อยากรู้Chaya Wave : เค้ก

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 3 ตราบาปติดตัว - 20% -

    มารดาของเฟิร์นยังคงโทรศัพท์หาชยาวุธอย่างไม่ลดละความพยายาม ในที่สุดชายหนุ่มก็ตัดรำคาญด้วยการรับสาย“ครับ คุณแม่”“ตาเวฟ วันนี้ไม่มาหรือลูก”“ผมติดธุระสำคัญครับ ช่วงนี้ผมค่อนข้างยุ่ง” ธุระสำคัญที่เขาพูดถึงคือการตามง้อภัทรมัย“แหม ยุ่งแค่ไหนก็น่าจะแวะมาหาแม่บ้าง หรือไม่ก็แวะมากินข้าวกับยายเฟิร์นสักมื้อก็ยังดี เป็นแฟนกันมันต้องใส่ใจกันนะลูกนะ ไปทำตัวห่างเหินกันเหมือนตอนนั้นมันไม่ดีหรอก แม่นี่ใจไม่ดีเลย”ชยาวุธลอบถอนหายใจ เขาคิดว่าเรื่องนี้อดีตคนรักน่าจะคุยกับมารดาของตนบ้างแล้ว แต่ท่านคงไม่เชื่อ เพราะฉะนั้นเขาคงต้องเอ่ยปากออกไปด้วยตนเองเสียแล้ว“คุณแม่ครับ ผมไม่ได้คบกับเฟิร์นแล้ว ความจริงเราเลิกกันตั้งแต่ปีที่แล้วครับคุณแม่”ปลายสายเงียบไปชั่วอึดใจจนเขาคิดว่าสายหลุดไปแล้ว กำลังคิดจะเรียกอีกฝ่าย แต่ทางนั้นก็เอ่ยปากพูดขึ้นก่อน“อะไรกันพวกเธอนี่ หมายความว่ายังไงที่ว่าเลิกกัน แล้วยายเฟิร์นลูกสาวแม่ล่ะจะทำยังไง”“ผมคุยและตกลงกับเฟิร์นเรี

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 2 ไม่ต้องทอน - 100% -

    “เมื่อกี้แก โทร.ไปหาตาเวฟหรือยายเฟิร์น” เสียงของมารดาถามขึ้นทันทีที่หญิงสาวเปิดประตูกระจกเข้าไปในห้อง“เปล่าสักหน่อย เฟิร์นคุยกับเพื่อนที่ทำงาน” เธอเดินไปนั่งบนโซฟายาวสำหรับให้แขกนอนเฝ้าคนป่วย“วันนี้ตาเวฟจะมาเยี่ยมแม่รึเปล่า”“ไม่มามั้ง เห็นบอกว่าติดงานนี่นา ทำไมแม่ต้องให้เวฟมาทุกวันด้วยเนี่ย ไม่เกรงใจเขาหรือไง วันหยุดทั้งทีเขาก็อยากพักผ่อนอยู่ห้องบ้าง”“อีกหน่อยก็ต้องมาเป็นลูกเขยแม่อยู่แล้ว เขาก็ต้องมาคอยดูแลแม่สิ”เฟิร์นถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย “ต้องให้เฟิร์นพูดอีกกี่ครั้งแม่ถึงจะเข้าใจเนี่ย เราเลิกกันแล้ว เฟิร์นไม่ได้เป็นแฟนกับเวฟแล้ว ทุกวันนี้คือเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แม่หยุดทำให้เขาลำบากใจได้ไหม แม่ไม่เห็นหน้าเวฟเวลาแม่พูดเรื่องเก่า ๆ บ้างหรือ ทุกอย่างมันจบไปแล้วแม่ และเวฟก็มีแฟนใหม่ไปแล้วด้วย”“แล้วแกจะยอมหรือยายเฟิร์น ตาเวฟน่ะดีจะตาย คบกับแกมาตั้งสิบกว่าปีไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงมาให้กวนใจแกสักครั้ง แกจะยอมปล่อยเขาไปง่าย ๆ ได้ยังไงกัน แม

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 2 ไม่ต้องทอน - 80% -

    ผู้เป็นมารดามองหน้าบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง รู้ดีว่าภัทรมัยชอบแต่งตัวสวย ๆ ชอบการพบปะผู้คนตามประสาหญิงสาวที่ชอบเข้าสังคมและมีเพื่อนเยอะ จึงบอกกับอีกฝ่ายว่า“ไม่ต้องรีบหรอก แกก็ทำงานของแกไปให้เต็มที่นั่นแหละ อยากลาออกเมื่อไรก็ค่อยว่ากัน แม่ไม่ได้บังคับว่าแกต้องลาออกมาช่วยแม่ทันทีสักหน่อย งานที่ร้านแม่ก็ยังทำไหว”“แม่ก็ไหวตลอด แต่เข้าโรงพยาบาลกี่รอบแล้วแก้มก็ขี้เกียจนับ” ภัทรมัยทำหน้ามุ่ยใส่มารดา“แค่หน้ามืดไปนิดเดียว ทำเป็นเรื่องใหญ่โตกันไปได้ แล้วนี่แม่จะออกจากโรงพยาบาลได้รึยัง”“หมอให้นอนดูอาการก่อนนะแม่ พรุ่งนี้ค่อยออก” เธอรีบบอกท่าน และเป็นตามคาด ท่านแย้งขึ้นทันที“พรุ่งนี้! ได้ยังไงกัน แล้วที่ร้านใครจะดู”“น้าแววไง ให้น้าแววดูให้ก่อน ยังไงพรุ่งนี้เราก็ปิดร้านอยู่แล้วไม่ใช่หรือ แก้มว่าแม่น่าจะนอนพักผ่อนให้เต็มที่ไปเลยนะ เปิดร้านแล้วค่อยลุยใหม่...เถอะนะแม่ พักผ่อนเถอะ”“ปรับเตียงขึ้นมาให้แม่หน่อย” ได้ยินอย่างนั้น ภัทรมัยจึงกดปุ่มปรับเตียงเพื่อให้ท่านน

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status