อธิปัตย์ขับรถออกจากหน้าร้านอัญญาคาเฟ่ได้ไม่นาน เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกหาทินภัทรเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่รู้ว่าตอนนี้เขากลับมาอยู่เมืองไทยแล้ว
“ว่าไงอธิป หิมะจะตกไหมเนี่ยนายโทรหาฉัน” ทินภัทรทักทายกึ่งแซวเพราะปกติจะเป็นเขาเองมากกว่าที่เป็นคนโทรศัพท์หาอธิปัตย์ก่อน
“ตกมาก็ดีเหมือนกันว่ะ ช่วงนี้อากาศเมืองไทยร้อน”
“มันก็ร้อนแบบนี้ตลอดแหละ ว่าแต่นี่โทรมามีอะไรหรือเปล่า”
“ฉันอยากรู้ประวัติของคุณอัญญาเพิ่ม” ชายหนุ่มรีบบอกจุดประสงค์ตนเองออกอย่างไม่รอช้า
“จะรู้ไปทำไม ได้แค่ไปทำงานเป็นแฟนปลอมๆ เองนะ ไม่จำเป็นต้องรู้อะไรเยอะหรอก” ทินภัทรตอบเสียงเรียบ
“ที่พูดแบบนี้คือนายเองก็ไม่รู้ประวัติเธอมาก่อนใช่มั้ยล่ะ” อธิปัตย์รู้ทัน
“มันก็ใช่ ส่วนใหญ่เราจะไม่ถามประวัติของลูกค้านะ มีแต่ลูกค้าที่จะต้องรู้ประวัติของคนที่ตัวเองจ้าง แต่ก็เป็นประวัติแค่คร่าวๆ ว่าเคยทำอะไรที่ไหน จากนั้นพวกเขาก็จะตกลงกันเองแหละว่าจะเพิ่มเติมข้อมูลอะไรไปบ้างเวลาที่ต้องเจอคนอื่น แล้วนายถามถึงประวัติเธอทำไมล่ะ” ทินภัทรเริ่มจับสังเกต
“ก็ตอนนี้ฉันสนใจคุณอัญญาจริงๆ นะ” อธิปัตย์ตอบอย่างไม่ปิดบัง
“ฉันชักอยากจะเห็นแล้วสิว่าคุณอัญญาหน้าตาเป็นยังไง”
“ก็บอกแล้วไงว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมาก”
“แต่นายเองก็เจอผู้หญิงสวยๆ มาเยอะไม่ใช่เหรอ”
“ไม่รู้สิ กับผู้หญิงที่ชื่ออัญญารินทร์คนนี้ฉันรู้สึกว่ามันมีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นน่ะ”
“อาจเป็นเพราะเธอมาจ้างนายเป็นแฟนเช่าหรือเปล่า นายก็เลยรู้สึกว่าเธอน่าค้นหา”
“เรื่องนั้นก็ใช่ แต่ฉันชอบเธอจริงๆ นะ ยิ่งคุยกันก็ยิ่งรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดูเหมือนจะอ่อนแอ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย คุณอัญญารินทร์เธอเป็นคนเข้มแข็งมาก”
“นายพูดเหมือนรู้จักกับเธอมาเยอะหรือแอบไปเจอเธอมาล่ะ” ทินภัทรสงสัย
“ไม่ได้แอบนะ ก็ขับรถไปหาเธอตามปกตินี่แหละ”
“นี่นัดกันก่อนวันจะไปเริ่มงานอีกเหรอ บอกก่อนนะเว้ยฉันไม่ให้ค่าจ้างเพิ่ม” ทินภัทรดักคอ
“รู้หรอกน่า ฉันก็ไม่ได้อยากได้ค่าจ้างจากนายหรอก แค่อยากรู้จักคุณอัญญาให้มากขึ้นแค่นั้น”
“แล้วนายรู้อะไรมาบ้างล่ะ เล่าให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม”
“เจอกันที่ผับคืนนี้ไหมล่ะ จะได้นั่งคุยกันด้วย” อธิปัตย์เสนอ
“ได้สิ ขอชวนไอ้มาร์คไปด้วยได้ไหม วันนี้มันก็ถามถึงนาย แต่ฉันยังไม่ได้บอกหรอกว่านายกลับมาเมืองไทยแล้ว”
“ชวนมันมาด้วยก็ได้ ฉันก็ไม่ได้เจอมันนานแล้วเหมือนกัน”
“ถ้างั้นสามทุ่มเจอกันที่ร้านนะ เดี๋ยวฉันส่งพิกัดให้ มาถูกใช่ไหม”
“ถ้านายส่งพิกัดมาถูก ฉันก็ไปถูกแล้วนั่นแหละ งั้นขอวางสายก่อนนะ”
เสียงเพลงดังกระหึ่มในผับยามค่ำคืน ผู้คนมากมายพากันออกมาเต้นและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน อธิปัตย์เดินเข้าไปในร้านด้วยมาดนิ่งๆ สแกนสายตามองหาเพื่อน ก่อนจะเห็นทินภัทรและมาร์คนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งของร้าน พร้อมแก้วเครื่องดื่มวางอยู่ตรงหน้า
“อธิป ทางนี้” ทินภัทรยกมือทักทายขึ้น
“สบายดีนะเว้ย ไม่เจอกันตั้งนาน” มาร์คเอ่ยขึ้น
“สบายดี แล้วนายล่ะมาร์คเป็นไงบ้าง”
“ก็เรื่อยๆ กลับมานาแล้วเหรอ”
“เพิ่งมาได้ไม่กี่วัน”
“ไอ้ทินบอกว่านายกำลังสนใจผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป็นใครวะ เล่าให้ฟังหน่อยสิ”
“เธอชื่อคุณอัญญารินทร์น่ะ”
“สรุปนายชอบเธอจริงๆ เหรอวะ” มาร์คด้วยความสนใจ
“จริงสิ ฉันรู้สึกว่าเธอมีอะไรบางอย่างที่น่าค้นหา เธอเป็นคนสวยมาก แต่ไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียว เธอเป็นคนที่มีเสน่ห์ มีความเข้มแข็งอยู่ในตัวที่ฉันไม่เคยเห็นในผู้หญิงคนไหนมาก่อน”
“ขนาดนั้นเลยเหรอวะ” ทินภัทรถามอย่างไม่เชื่อสายตา
“นายเองก็เจอผู้หญิงสวยๆ มาเยอะแยะไม่ใช่เหรอ”
“แต่กับคุณอัญญาคนนี้มันไม่เหมือนกันเลยจริงๆ”
“เอาล่ะๆ ฉันรู้แล้วว่านายชอบเธอมากแค่ไหน แต่ฉันก็ไม่ค่อยมีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับลูกค้ามากนักหรอกนะ อย่างที่บอกไปเมื่อกี้แหละว่าส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นฝ่ายให้ข้อมูลคนที่ตัวเองจ้างมากกว่า”
“ฉันแค่คิดว่าถ้าได้รู้ข้อมูลของเธอมากขึ้น ฉันก็จะสามารถแสดงบทบาทได้สมจริงมากขึ้น” เขาพยายามหาเหตุผลเพื่อรองรับความอยากรู้ของตัวเอง
“นายเองก็เป็นคนฉลาดอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องรู้เยอะก็ได้มั้ง” ทินภัทรยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนถึงได้สนใจอัญญารินทร์มากขนาดนี้
“แล้วที่นานไปเจอเธอมาล่ะ รู้อะไรเพิ่มไหม”
“เท่าที่ฉันรู้มานะ คุณอัญญารินทร์เธอเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่เสียหมดแล้ว แล้วก็เปิดร้านกาแฟเล็กๆ เธอเล่าให้ฟังว่าเธอเรียนจบบริหารธุรกิจ แต่หางานทำไม่ได้เกือบสองเดือน ก็เลยตัดสินใจใช้เงินประกันที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้มาเปิดร้านกาแฟเองทั้งที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน”
“การที่เธอตัดสินใจแบบนั้นได้ ทั้งที่ไม่มีประสบการณ์ แถมยังต้องอยู่คนเดียว มันแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นคนมีความกล้า และไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เลย ฉันก็เลยคิดว่าเธอน่าสนใจมาก”
“ก็จริงของนายนะ ว่าแต่ที่นายเล่ามานี่คือจะปรึกษาเพื่อจะหาทางจีบเธอใช่ไหม” มาร์คที่นั่งฟังอยู่นานก็ถามขึ้นมาบ้าง
“โทษทีว่ะมาร์คที่ฉันไม่ได้บอกนายก่อนว่าไอ้อธิปมันรับจ้างเป็นแฟนเช่า”
“อะไรนะ” มาร์คตกใจที่ได้ยินทินภัทรพูดเขาหันไปมองหน้าอธิปัตย์ที่ดูเหมือนว่าไม่ปฏิเสธกับสิ่งที่เพื่อนพูด
“ทำไมต้องตกใจขนาดนั้น” อธิปัตย์เห็นหน้ามาร์คแล้วก็อดขำไม่ได้
“นายคิดจะทำอะไรเหรออธิป”
“คืองี้นะมาร์ค นายก็รู้ว่าฉันเปิดบริษัทจัดหาแฟนเช่าใช่ไหมล่ะ ที่นี่ฉันก็ให้ไอ้อธิปมันลงไปบอกลูกค้าว่าฉันหาคนแบบที่เอต้องการมาได้ แต่พอมันเจอหน้าเธอมันก็ตกลงรับงาน”
“งานแฟนเช่าน่ะเหรอ”
“อือ”
“มันท่าจะเพี้ยนนะ” มาร์คมองหน้าอธิปัตย์แล้วส่ายศีรษะ
“ฉันว่าถ้าเป็นนายเวลาเห็นหน้าคุณอัญญาแล้วก็ปฏิเสธไม่ลงเหมือนกันล่ะน่า”
“ฉันไม่รู้ว่านายคิดอะไรอยู่นะ” มาร์คยังคงไม่เข้าใจสิ่งที่เพื่อนทำ
“ฉันชอบเธอจริงๆ นั่นแหละ”
“นายรู้ใช่มั้ยว่างานของเรามันเป็นแค่การแสดง บทบาทนายคือแฟนเช่าเท่านั้น”
“ฉันรู้ แต่ความรู้สึกของฉันมันห้ามกันไม่ได้”
“แล้วถ้าเกิดเธอไม่ได้คิดเหมือนนายล่ะ” มาร์คถามเพิ่ม
“ฉันก็จะพยายามทำให้เธอเห็นว่าฉันจริงจังแค่ไหน”
“เผื่อใจไว้บ้างก็ดีนะเพื่อน ฉันละเป็นห่วงนายจริงๆ เลย” ทินภัทรเตือนเพราะไม่อยากให้เพื่อนผิดหวัง
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันจัดการได้” อธิปัตย์กล่าวด้วยแววตาที่มุ่งมั่น
“พรุ่งนี้ฉันไปที่ร้านนั้นอยากจะเห็นว่าเธอสวยอย่างที่นายพูดไหม”
“แค่ไปดูนะเว้ย อย่าจีบอัญญาของฉันเด็ดขาด” อธิปัตย์ห้าม
“ไอ้นี่มันเป็นเอามากว่ะทิน” มาร์คหัวเราะกับท่าทางหวงก้างของเพื่อน
อัญญารินทร์นั่งนิ่งเธอไม่รู้จะพูดอะไรออกมาในเวลานี้ เพราะมันไม่เหมือนที่เธอคิดไว้เลย ทุกอย่างที่ออกมาจากปากของอธิปัตย์มันยากเกินที่เธอจะเข้าใจหญิงสาวมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง ที่ผ่านมาเธอคิดว่าอธิปัตย์จริงใจมาตลอดและเธอเองก็ให้โอกาสเขาเข้ามาใกล้ชิด แต่ไม่เลยว่าจะถูกเขาหลอกด้วยรอยยิ้มที่จริงใจและสายตาที่อบอุ่น“คุณพูดจริงเหรอคะ” เธอถามเสียงสั่น “จริงครับ” อธิปัตย์พยักหน้าช้าๆ“แล้วทำไมคุณถึงโกหกฉันคะ ทำไมคุณไม่บอกความจริงกับฉันตั้งแต่แรก” อัญญารินทร์ถามเสียงดังขึ้นด้วยความโกรธ เสียใจและผิดหวัง น้ำตาเริ่มเอ่อคลอ“ผมขอโทษครับอัญญา ผมไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณเลยนะครับ” อธิปัตย์รีบจับมือเธอไว้แต่อัญญารินทร์ก็ดึงมือออก“ไม่ตั้งใจ? แล้วสิ่งที่คุณทำมาทั้งหมดคืออะไรคะคุณอธิปัตย์ คุณหลอกฉัน คุณหลอกฉันให้เชื่อว่าคุณเป็นแค่คนธรรมดา คุณหลอกฉันว่าคุณยอมเปลี่ยนชีวิตเพื่อฉัน” อัญญารินทร์พูดออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวด“ผมไม่ได้หลอกนะครับ ผมแค่ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกับคุณยังไง ไม่ว่าผมจะเป็นใครแต่ความรู้สึกของผมที่มีต่อคุณก็เหมือนเดิมนะครับอัญญา” อธิปัตย์พยายามอธิบาย“แล้วตอนนี้ฉันจะเชื่อใจคุณไ
เช้าวันจันทร์อธิปัตย์ไปเริ่มงานที่บริษัทตามกำหนด ชายหนุ่มแต่งกายด้วยชุดสูทสีเข้มดูภูมิฐานและน่าเชื่อถือ บรรยากาศในบริษัทดูเหมือนจะคุ้นเคยสำหรับเขาอยู่แล้ว การประชุมแรกในฐานะรองประธานผ่านไปได้ด้วยดี เขาสามารถตอบคำถามและให้แสดงความคิดเห็นกับเรื่องที่ประชุมเป็นอย่างดี สร้างความประทับใจให้กับบอร์ดบริหารและพนักงานที่เข้าร่วมประชุมถึงแม้จะยุ่งกับงานใหม่ แต่พอถึงเวลาพักกลางวันเขาก็โทรศัพท์ไปหาอัญญารินทร์แต่ก็คุยกับเธอได้ไม่นานเพราะช่วงเวลาพักเที่ยงที่ร้านของเธอก็ยุ่งมากหลังเลิกงานเขาถอดสูทออกและขับรถไปหาอัญญารินทร์ที่ร้านของเธอทันที“ร้านปิดแล้วเหรอครับ” อธิปัตย์ทักทายด้วยรอยยิ้มอย่างทุกครั้ง“สำหรับคนอื่นปิดแล้วค่ะ แต่สำหรับคุณอธิปอัญญาเปิดต่อให้อีกนิดก็ได้ค่ะ วันนี้ไปทำงานวันแรกเป็นยังไงบ้าง เหนื่อยมั้ยคะ หิวหรือเปล่า” หญิงสาวถามอย่างห่วงใย“เหนื่อยมากเลยแล้วก็หิวมากด้วย เราไปกินข้าวข้างนอกกันนะผมว่าขนมปังคงไม่อิ่มแน่”“ได้ค่ะ” อัญญารินทร์ปิดไฟในร้านขณะที่เขาช่วยเธอดึงประตูลงก่อนจะพากันไปทานอาหารที่ร้านซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงแค่สามคูหาเมื่อมาถึงอธิปัตย์ก็รีบสั่งอาหารพอพนักงานยกมาเสิร์ฟเข
หลังจากการประชุมบอร์ดบริหารในช่วงเช้า ข่าวการเพิ่มตำแหน่งรองประธานคนใหม่ก็ถูกกระจายไปยังทุกแผนกของบริษัท พนักงานทุกคนต่างพากันตื่นเต้นที่จะมีเจ้านายคนใหม่ นอกจากข่าวที่แนบไปแล้ว ทางบริษัทยังแนบรูปถ่ายของอธิปัตย์ลงไปในนั้นด้วยสิรดาเพื่อนสนิทของอัญญารินทร์มองรูปถ่ายพร้อมกับชื่อของรองประธานคนใหม่ด้วยสีหน้าที่ตกใจ เพราะเธอไม่คิดว่าคนที่อัญญารินทร์จ้างไปเป็นแฟนเช่าจะกลายมาเป็นถึงรองประธานบริษัทใหญ่โตขนาดนี้ สีหน้าของหญิงสาวเต็มด้วยความกังวล เธออยากบอกเรื่องนี้กับอัญญารินทร์แต่ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนจะดีใจหรือเสียใจกับเรื่องนี้อีกอย่างสิรดาก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ทั้งสองคนคบกันถึงขั้นไหนเลิกงานสิรดาโทรไปถามอัญญารินทร์ เมื่อเพื่อนบอกว่ากำลังคิดจะเปิดใจให้อธิปัตย์ ฟังจากเสียงแล้วเหมือนอัญญารินทร์ชอบอธิปัตย์มากแต่ก็ยังไม่เรียกว่าแฟนสิรดาจึงคิดว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับเพื่อนในตอนนี้ แต่เธอจะต้องหาทางคุยกับอธิปัตย์ก่อน เธออยากถามว่าเขาโกหกทำไมและคิดจะบอกเรื่องนี้กับอัญญารินทร์เมื่อไหร่สายๆ ของวันเสาร์อธิปัตย์กำลังนั่งอ่านข้อมูลของบริษัทอยู่ที่คอนโด วันจันทร์ที่จะถึงนี้เขาจะเข้าไปทำงานเป็นวันแรกในตำแหน่งรอง
วันพฤหัสบดีอธิปัตย์ก็มาที่ร้านของอัญญารินทร์ตั้งแต่เช้าเพื่อช่วยดูว่าช่างติดตั้งกล้องวงจรปิดครบทุกจุดตามที่คุยกันไว้เมื่อตอนเย็นของเมื่อวานหรือเปล่าจากนั้นเขาก็ช่างเชื่อมต่อสัญญาณกล้องเข้ากับมือถือของเขาด้วยเพื่อจะได้เปิดดูระหว่างที่ไม่อยู่ที่นี่หลังจากทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยในเวลาบ่ายเขาก็ไปทานอาหารกับอัญญินทร์ก่อนจะขอตัวกลับเพราะอยากให้หญิงสาวได้พักผ่อน ส่วนตัวเขาเองนั้นตัดสินใจแล้วว่าจะกลับเข้าไปที่บ้านอธิปัตย์ขับรถเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ของครอบครัวเขาบีบแตรที่หน้าบ้านและรอจนกระทั่งสาวใช้คนหนึ่งเดินมาเปิด“คุณอธิป” สาวใช้วัยกลางคนตกใจที่เห็นเจ้านายกลับมาบ้านทั้งที่ไม่เคยมีใครพูดเรื่องนี้มาก่อน“อย่าพึ่งตกใจเลยสาลี่เปิดประตูให้ฉันเข้าไปก่อนเถอะ” เขาหัวเราะกับท่าทางสาลี่ที่เหมือนกับคนโดนผีหลอกสาวใช้รีบเปิดประตูให้จากนั้นอธิปัตย์ก็ขับรถเข้าไปจอดด้านหน้าของประตูบ้านก่อนจะลงจากรถและเข้าไปทักทายบิดามารดาที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ในห้อง“สวัสดีครับ คุณพ่อสวัสดีครับคุณแม่”“อธิป!.....มาได้ยังไงแล้วใครไปรับที่สนามบิน โธ่....ลูกแม่จะมาทั้งทีทำไมไม่บอก” คุณทิพย์สุดาลุกขึ้นแล้วโผเข้ากอดลูกชายด้วยคว
“พี่อธิปสุดยอดเลยค่ะ” กวางเดินเข้ามาพูดกับอธิปัตย์หลังจากที่เขาคุยกับจิรวัฒน์จนชายหนุ่มยอมเดินออกไปจากร้าน“เขามานานหรือยังกวาง”“มาได้สักพักหนึ่งแล้วค่ะ พอเขามาถึงกวางก็รีบโทรบอกพี่อธิปเลยค่ะ ว่าแต่สองวันนี้พี่หายไปไหนมาคะ ทำไมไม่มาที่ร้านเลยล่ะคะ”“พี่มีธุระต้องไปทำนิดหน่อยนะ แล้วเป็นยังไงบ้างพี่อัญญาเขาพูดอะไรถึงพี่ไหม”“ไม่ได้พูดค่ะแต่กวางว่าพี่อัญญาต้องคิดถึงพี่อธิปแน่ๆ ค่ะเพราะพี่อัญญาชอบนั่งเหม่อแล้วก็มองออกไปนอกร้านเหมือนที่กวางส่งรูปให้ดูไงคะ”“ขอบใจนะกวางงั้นพี่ขอไปคุยกับพี่อัญญาของกวางก่อนนะ”“ได้ค่ะ เดี๋ยวกวางกับน้ำหวานจะดูหน้าร้านให้เองถ้ายุ่งหรือต้องการความช่วยเหลือจะกดกริ่งเรียกนะคะ”“ขอบใจนะกว้าง” อธิปัตย์อาทิตย์ยิ้มให้พนักงานทั้งสองก่อนจะเดินเข้าไปด้านหลังร้านซึ่งตอนนี้อัญญากำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวเล็กซึ่งเป็นจุดพักผ่อนของพนักงาน“เขากลับไปแล้วใช่ไหมคะ”“กลับไปแล้วเขาทำอะไรคุณหรือเปล่าอัญญา”“เปล่าค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่คุณมา”“แล้วคุณคุยอะไรกับเขาบ้างพอจะเล่าให้ผมฟังได้ไหม”“อัญญาไม่ได้คุยอะไรกับเขา เป็นเขานั่นแหละที่คุยอยู่ฝ่ายเดียว”“แล้วเขาคุยว่าอะไรล่ะ อยากเล่าให้ผมฟั
สองวันแล้วที่อธิปัตย์หายไปจากชีวิตของอัญญารินทร์ หญิงสาวรู้สึกแปลกๆ เพราะเขาไม่โทรหา ไม่แวะมาดื่มกาแฟ เธอรู้ว่าเขาให้เวลาเธอคิดแต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกคิดถึงเขา เสียงหัวเราะ รอยยิ้มและเรื่องราวที่เขานำมาเล่ามันวนเวียนอยู่ในความคิดของเธออยู่ตลอดอัญญารินทร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหลายครั้ง คิดจะกดโทรหาเขา แต่ก็ต้องวางลงเพราะความไม่กล้า เธออดคิดไม่ได้ว่าบางทีตอนนี้อธิปัตย์อาจจะเปลี่ยนใจไปแล้ว เพราะคงไม่มีใครอยากเปลี่ยนชีวิตตัวเองเพื่อใครคนหนึ่งง่ายๆ หรือที่เขาพูดอาจจะเป็นแค่คำหลอกลวงและเธอเองก็หลงเชื่อกับคำพูดของเขา ความคิดเหล่านี้ทำให้เธอรู้สึกเศร้าเหมือนกับคนกำลังอกหักทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มต้นคบกันด้วยซ้ำ“พี่อัญญาเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ดูซึมๆ นะคะ” กวางถามขึ้นอย่างห่วงใย เมื่อเห็นเจ้านายเอาแต่นั่งเหม่อมองออกไปนอกร้าน“เปล่าหรอกกวาง พี่แค่คิดอะไรเพลินๆ น่ะ” อัญญารินทร์ฝืนยิ้ม“สงสัยคิดถึงคุณอธิปล่ะสิใช่ไหมคะ” กวางแซวเบาๆ อัญญารินทร์หน้าแดงเล็กน้อย“พี่จะคิดถึงเขาทำไมล่ะ เขาก็แค่แฟนเช่านะ” เธอตอบปฏิเสธ แต่ในใจกลับยอมรับว่ากวางพูดถูกกวางเห็นท่าทางของเจ้านายก็พอรู้ว่าตอนนี้คงกำลังคิดถึงคุณอธิป