Home / รักโบราณ / แม่ทัพร้ายโหยหารัก / บุรุษหน้ากากสีเงิน 1.2

Share

บุรุษหน้ากากสีเงิน 1.2

last update Last Updated: 2025-01-01 22:21:19

ในขณะเดียวกัน

ยุคอดีต

ยุคชุนชิวหรือยุควสันตสารท เป็นยุคสมัยหนึ่งในประวัติศาสตร์ของจีน โดยอยู่ในช่วง 770 จนถึงราว 400 ปีก่อนคริสตกาล ยุคชุนชิว คือช่วงเวลาที่แผ่นดินจีนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ แต่ละแคว้นและหัวเมืองต่าง ๆ ต่างเปิดศึกและแย่งชิงอำนาจกันเพื่อหมายที่จะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน

โดยสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสงครามในยุคชุนชิวนั้น เกิดขึ้นจากการปกครองแผ่นดินภายใต้กษัตริย์ของราชวงศ์โจว ซึ่งปกครองในระหว่าง 1,046 จนถึง 256 ปีก่อนคริสตกาล ที่มีความอ่อนแอและไร้อำนาจ ทำให้ไม่สามารถควบคุมบรรดาหัวเมืองและแคว้นต่าง ๆ ให้อยู่ภายใต้การนำของราชวงศ์โจวได้ 

ท้ายที่สุด บรรดาหัวเมืองและแว่นแคว้นต่าง ๆ ก็ประกาศแยกตัวจากราชวงศ์โจว และเปิดศึกต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจกัน โดยที่ไม่เกรงกลัวต่อราชวงศ์โจวอีกต่อไป แผ่นดินจีนในขณะนั้น จึงแตกแยกออกเป็นแคว้นเล็กแคว้นน้อย 200กว่าแคว้น ถึงขั้นที่ว่าผู้นำของบางแคว้น ประกาศตั้งตัวเองเป็น "อ๋อง" หรือกษัตริย์ซึ่งมีสถานะเทียบเท่ากับกษัตริย์ของราชวงศ์โจว กันเลยทีเดียว

บริเวณเขตชายแดนแคว้นต้าเหลียง

ภายในเทือกเขาสูงเสียดฟ้า เต็มไปด้วยซากศพของชายฉกรรจ์นอนตายกลาดเกลื่อนไปทั่วพื้นที่ราบสูง แคว้นต้าเหลียงถูกแคว้นฉินทำลายจนสิ้นชาติเพื่อยึดครองดินแดน ชีวิตทหารมากมายนับเรือนแสน ล้มตายดั่งใบไม้ปลิดปลิว ทั่วทั้งหุบเขาเต็มไปด้วยร่างอันไร้วิญญาณของทหารชาวต้าเหลียง 

พร้อมพระศพของเจ้าผู้ครองแคว้นซึ่งพลีชีพในสนามรบครั้งนี้ ทว่าชีพสลายก็มิอาจทำให้ต้าเหลียงหวนกลับคืนมาได้ จุดจบคือพบกับความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับและถูกทำลายแคว้นจนสูญสิ้นราชวงศ์ และก่อนที่แคว้นจะล่มสลาย แคว้นเพื่อนบ้านน้อยใหญ่ที่มีเขตพรมแดนใกล้เคียงถูกตีแตก ทำลายจนสิ้นชาติไปกว่า 70 แคว้นเลยทีเดียว จนทำให้แคว้นฉินมีดินแดนในครอบครองกว้างใหญ่ด้วยฝีมือของแม่ทัพอิ๋งหยาง ซึ่งเป็นผู้นำทัพใหญ่ในครั้งนี้ 

กลิ่นคาวเลือดฟุ้งกระจายตลบอบอวล ท่ามกลางสายตาคมกล้าของแม่ทัพใหญ่ นามกระฉ่อนของแคว้นฉิน ร่างสูงตระหง่านกำลังยืนถือดาบง้าวขนาดใหญ่ ใบมีดคมกริบแวววาวส่องประกายระยิบระยับ เต็มไปด้วยหยาดโลหิตเปรอะเปื้อนเต็มไปหมด ชุดเกราะสีดำทะมึนเต็มไปด้วยเลือดแดงฉาน ด้วยเพราะกรำศึกติดต่อกันข้ามวันข้ามคืน จนสามารถยึดแคว้นต้าเหลียงได้เป็นผลสำเร็จ

ดวงตาสีนิลกาฬกวาดสายตาไปทั่วบริเวณภายใต้หน้ากากสีเงินปกปิดใบหน้าเอาไว้อย่างมิดชิด ทั่วหล้าไม่เคยมีผู้ใดได้พานพบเห็นโฉมหน้าอันแท้จริงของแม่ทัพอิ๋งหยาง แม้กระทั่งทหารที่ร่วมรบในกองทัพก็มิเคยล่วงรู้ว่าแม่ทัพผู้กล้าของตนแท้จริงรูปโฉมเป็นเช่นไร จนมีเสียงเล่าลือไปทั่วแคว้นว่าแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นฉินคือบุรุษอัปลักษณ์! 

แม่ทัพผู้กล้ามีร่างสูงใหญ่ กำยำบึกบึน องอาจผึ่งผายเป็นที่น่าหวาดหวั่นอย่างยิ่งยวด ทว่ามิมีผู้ใดล่วงรู้เลยว่าเพราะเหตุใดหนอแม่ทัพหนุ่มผู้นี้จึงสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าเอาไว้ตลอดเวลา บุรุษผู้ลือนามแท้จริงแล้วเป็นเช่นไรกันเล่า รูปโฉมอันแท้จริงเป็นที่น่าสงสัยหากแต่ต้องจบสิ้นคำถามเพราะฝีมือในการทำสงครามหามีผู้ใดเทียมทาน

รอยแสยะยิ้มเหยียดปรากฏอยู่บนใบหน้าภายใต้หน้ากากสีเงิน เมื่อธงรบของแคว้นฉินถูกปักลงในเขตแดนของต้าเหลียง แม่ทัพใหญ่ผู้นี้มีลักษณะเคร่งขรึมอยู่ตลอดเวลาและช่างยิ้มยากเป็นยิ่งนัก

ฉับพลันปรากฏกลุ่มควันขาว ค่อยๆ ลอยคละคลุ้งลงปกคลุมไปทั่วทิวเขา ก่อนจะกระจายไปทั่วบริเวณซึ่งเบื้องหน้าในขณะนี้ เต็มไปด้วยร่างอันไร้วิญญาณมากมายกลับเต็มไปด้วยเมฆหมอก

“อะไรกันนี่! จู่ๆ เหตุใดจึงบังเกิดหมอกหนาปกคลุมเช่นนี้ขึ้นมาได้” แม่ทัพหนุ่มบ่นพึมพำพยายามเพ่งมองเบื้องหน้าที่เต็มไปด้วยกลุ่มควันขาวแผ่ไปโดยรอบ

“ทหาร! จุดคบไฟ!” เสียงตะโกนสั่งกึกก้อง

ทันใดนั้นเอง

เปรี้ยง!!!! เสียงดั่งสายฟ้าฟาดดังกระหึ่มขึ้นมาทันที

ดวงตาสีนิลกาฬหยุดนิ่งพลางจ้องเขม็งอยู่แต่เบื้องหน้า เมื่อจู่ๆ เกิดเสียงดังประหลาดผิดปกติท่ามกลางร่างไร้วิญญาณของทหารต้าเหลียงนับเรือนแสน ก่อนจะได้ยินเสียงแผ่วเบาราวกับว่ามาจากที่ไกลแสนไกล

“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยฉันที!!!” เสียงร้องเรียกขอความช่วยเหลือดังอยู่เบื้องหน้าท่ามกลางหมอกควัน

“เสียงผู้หญิง!” แม่ทัพหนุ่มกล่าวออกมาทันใดครั้นจับต้นเสียงได้ยินจนชัดเจน 

“กลางสนามรบเช่นนี้มีสตรีอยู่ภายในบริเวณนี้ด้วยหรือนี่ หรือกองทัพต้าเหลียงมีอิสตรีแฝงเร้นอยู่ในคราบบุรุษ มีกลศึกซ่อนเร้นและยังมีทัพเสริมอยู่อีกอย่างนั้นรึ! เป็นไปไม่ได้!” แม่ทัพหนุ่มกล่าวพร้อมกระชับดาบง้าวขนาดใหญ่ที่อยู่ในมือเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา 

“ช่วยด้วย!!!” เสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือได้ยินอย่างชัดเจน พร้อมร่างระหงของสตรีวิ่งฝ่าม่านหมอกควันเห็นเพียงเงาเลือนรางตรงมาที่แม่ทัพหนุ่ม

ครั้นสายตาของสตรีผู้นั้นเห็นบุรุษยืนอยู่ตรงหน้าเธอไม่ไกลเท่าใดนัก เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังออกมาทันที

“คุณคะได้โปรดช่วยฉันด้วย!!” หญิงสาวนางนั้นตะโกนก้องขอความช่วยเหลือ พร้อมร่างระหงรีบวิ่งตรงดิ่งมาทางบุรุษในชุดเกราะแม่ทัพที่กำลังยืนมองด้วยความรู้สึกแปลกใจอย่างยิ่งยวด

เปรี้ยง!!!! เสียงแปลกประหลาดดังขึ้นมาอีกคำรบคล้ายเสียงปืนในยุคอนาคตฉันใดก็ฉันนั้น

เฮือก! ร่างระหงของหญิงสาวสะดุ้งจนสุดตัว เมื่อคมกระสุนเจาะทะลุตรงเข้าแผ่นหลังของเธอ ก่อนจะล้มลงตรงหน้าบุรุษในชุดเกราะ

ร่างใหญ่ถลาเข้ารับร่างของหญิงสาวปริศนาเอาไว้ทันที 

“แม่นาง! เจ้าเป็นเช่นไร” เสียงทุ้มถามโฉมงามในอ้อมกอดออกมาทันที

เปรี้ยง! เสียงดังสนั่นเกิดขึ้นอีกครา

เฮือก! คมกระสุนเจาะทะลวงชุดเกราะฝังเข้าไปข้างในอยู่บริเวณช่วงบนของหน้าอก จนร่างใหญ่สะท้านสะเทือน

ตุบ! บุรุษในชุดเกราะทรุดฮวบลงกับพื้นทันที อาการเจ็บปวดแปลบอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเกิดขึ้นมาโดยพลัน ก่อนจะก้มลงมองสตรีสาวซึ่งหมดสติอยู่ในอ้อมกอดขณะนี้ พร้อมโลหิตแดงฉานไหลนองออกมาจากเรือนกายงาม

ทันใดนั้นเองหมอกขาวเริ่มแผ่เข้ามาปกคลุมโดยรอบอีกครา พร้อมร่างสตรีสาวที่อยู่ในอ้อมกอดแข็งแกร่งค่อยๆ เลือนหายไปต่อหน้าต่อตาแม่ทัพหนุ่มท่ามกลางความตกตะลึงที่เห็นเหตุการณ์ประหลาดดังกล่าว

“หายไปแล้ว... นี่นางเป็นคนหรือปีศาจกันแน่!” เสียงพึมพำดังออกมาเบาๆ สายตาพยายามมองค้นหาโฉมงามไปทั่วบริเวณโดยรอบ ก่อนจะยกมือขึ้นจับบริเวณหน้าอกช่วงบนเมื่อความเจ็บปวดทวีรุนแรงขึ้นอย่างยิ่งยวด 

มือหนาค่อยๆ แบออกพร้อมโลหิตแดงฉานเต็มฝ่ามือ ก่อนจะเริ่มสั่นขึ้นมาทีละน้อย ทีละน้อย เพราะพิษจากบาดแผลที่ถูกกระสุนปืนจากยุคอนาคตฝังในอยู่บริเวณช่วงอก 

“องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ!!!” เสียงของทหารดังก้องอยู่ทางด้านหลัง

ร่างสูงยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่พื้นเช่นเดิม มิได้หันกลับไปมองทางด้านหลังแต่อย่างใด ใบหน้าที่ปกปิดด้วยหน้ากากสีเงินซึ่งเต็มไปด้วยคราบเลือด ยังคงเย็นชาไร้สิ้นความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้น 

ทว่าหามีผู้ใดล่วงรู้ว่าภายใต้ความเย็นชาที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้หน้ากากขณะนี้ ความเจ็บปวดจากคมกระสุนทำให้แม่ทัพใหญ่ผู้ลือนามเริ่มนั่งโงนเงนไปมา

ตุบ! ร่างใหญ่ล้มลงหมดสติไปทันที ท่ามกลางเสียงร้องเรียกของบรรดารองแม่ทัพและนายกองซึ่งวิ่งมาถึงพอดี

“องค์ชาย!!!!” เสียงเรียกของเหล่าทหารในกองทัพดังเอ็ดอึงขึ้นมาทันใด ความโกลาหลบังเกิดขึ้นมาโดยพลัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ดวงพิฆาต รักนิรันดร์ (ตอนอวสาน)

    ยุคอดีตตำหนักจินไท่ทั่วบริเวณในเวลานี้เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกเหมยฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ แจกันดินเผาขนาดใหญ่วาดลวดลายเป็นลายเมฆและนกยูงสลับไปมา เพิ่มความสวยงามได้อย่างลงตัวและแจกันดังกล่าวเต็มไปด้วยกิ่งดอกเหมยปักลงบนแจกันวางตั้งไว้บนโต๊ะข้างแท่นพระบรรทมเพื่อให้คนงามได้สูดกลิ่นหอมดังกล่าวร่างอรชรของจางเพ่ยอันบัดนี้นอนสงบนิ่งอยู่บนแท่นพระบรรทม และเธอหลับใหลอยู่เช่นนี้มานานนับเดือนแล้ว โดยมีสายตาของพระสวามีผู้หล่อเหลาจับจ้องอยู่กับดวงหน้างามของพระชายาอยู่ตลอดเวลา พระองค์จะเพียรเข้าคอยมาดูแลพระชายาเพียงหนึ่งเดียวทันทีที่เสร็จภารกิจจากการออกว่าราชการในท้องพระโรงเหตุการณ์ในวันที่รัชทายาทหลี่จิ้งบุกโจมตีพระราชวังหลวงของต้าฉินอย่างอุกอาจ และจบลงคือเซ่นสังเวยพระชนม์ชีพของพระองค์ให้กับแม่ทัพปีศาจพร้อมชีวิตทหารต้าหลู่ไปอีกนับไม่ถ้วน ต่างพากันสิ้นชีพวิบัติโรยรากลายเป็นหินไปชั่วพริบตาเหตุการณ์ในวันนั้นเล่าลือไปอย่างกว้างขวางจนล่วงรู้ไปทั่วทุกแคว้นแดนดิน และต่างพากันขยาดแม่ทัพปีศาจกันอย่างถ้วนหน้า จนมีคำกล่าวติดปากออกมา

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   โหยหามิคลาดครา 1.1

    ในขณะเดียวกันบริเวณลานกว้างหน้าท้องพระโรงกองทหารของแคว้นต้าหลู่และกองทหารจากต้าฉิน ต่างวิ่งเข้าโจมตีปะทะกันอย่างดุเดือด ทั่วทั้งพระราชวังหลวงเต็มไปด้วยเปลวเพลิงและกลุ่มควันขาวพร้อมเสียงกรีดร้องของเหล่านางกำนัลและเชื้อพระวงศ์ บรรดาขุนนางที่อยู่ในท้องพระโรงต่างแตกฮือแยกย้ายกันหนีตายจนจ้าละหวั่น เมื่อทหารต้าหลู่บุกเข้ามาถึงในท้องพระโรงและปะทะกับจางฟงอัครเสนาบดีที่เคยเป็นขุนศึกในวัยหนุ่มแม้จะมีอายุมากถึงหกสิบปีแล้วก็ตาม แต่จางฟงมีวิทยายุทธ์ในระดับสูงจึงเป็นฝ่ายใช้อาวุธออกปกป้องเหล่าขุนนางเอาไว้ ก่อนจะวิ่งตามไปสมทบกับกองทหารของตนและกองทหารขององค์ชายปีศาจที่ยกตามมาช่วยอย่างทันท่วงที ทั่ววังหลวงเต็มไปด้วยซากศพมากมายมิรู้ใครเป็นใครท่ามกลางความวุ่นวายองค์ชายปีศาจอิ๋งหยางและองค์ชายหลี่จิ้ง รัชทายาทจากต้าหลู่กำลังปะทะฝีมือกันอย่างดุเดือด ทั้งสองยืนจ้องหน้ากันในขณะที่องค์ชายหลี่จิ้งถือทวนยาวและองค์ชายอิ๋งหยางใช้ดาบง้าวอาวุธประจำพระวรกายไล่ฟาดฟันองค์ชายผู้นี้อย่างบ้าคลั่ง“เจ้าเอาอันอันของข้าไปไว้ไหน! เอาคนของข้าคืนมา!!

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   โหยหามิคลาดครา 1.2

    ทันทีที่พระพักตร์หล่อเหลาขององค์ชายปีศาจเงยขึ้นทอดพระเนตร ทหารของต้าหลู่ที่กำลังมองมาที่พระองค์เป็นจุดเดียวค่อยๆ แปรเปลี่ยนไปทันที เมื่อร่างค่อยๆ กลายเป็นหินลามเลียตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าและแผ่ขยายออกเป็นวงกว้างเพียงชั่วเวลาไม่กี่อึดใจ ติดตามด้วยเสียงของเหล่าทหารดังแทรกขึ้นมา“แม่ทัพปีศาจ!!!” เสียงเรียกขานดังออกมาได้เพียงแค่นั้นก็ต้องเงียบงันลงไปโดยพลันเมื่อทุกอย่างกลับหยุดการเคลื่อนไหวทั้งสิ้น ลมหายใจของเหล่าทหารต้าหลู่หลุดลอยไปทันใดนับหนึ่งพันนายที่แออัดอยู่ภายในท้องพระโรงท่ามกลางสายพระเนตรขององค์ชายหลี่จิ้ง ครั้นได้ทอดพระเนตรเหตุการณ์ที่มีผู้คนกล่าวขานเลื่องลือมานานแสนนาน และตอนนี้กำลังเกิดขึ้นอยู่ตรงพระพักตร์ในขณะนี้“เป็นความจริงหรือนี่! คนผู้นี้คือแม่ทัพปีศาจอิ๋งหยางอย่างนั้นหรอกรึ!” องค์ชายหลี่จิ้งรับสั่งได้เพียงเท่านั้นองค์ชายปีศาจหันกลับไปทอดพระเนตรรัชทายาทผู้นั้นทันที โดยที่อีกฝ่ายมิทันได้ตั้งตัวเพียงแค่เห็นใบหน้าก็สิ้นชีพไปโดยมิรู้ตัว พระเศียรค่อยๆ กลายเป็นหินลามเลียไปทั่วพระวรกายก่อนจะกลืนกินจนกระทั่งยืนแข็ง

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   พระสนมชายของข้า! 1.2

    ทันทีที่พระหัตถ์ของรัชทายาทรูปงามสัมผัสกับแก้มนวลเนียนของหญิงสาว ภาพเหตุการณ์ในอนาคตบังเกิดขึ้นมาให้เธอได้เห็นทันทีท่ามกลางกองทหารของทั้งสองฝ่ายกำลังสู้รบกันอย่างดุเดือด ร่างของจางฟงท่านพ่อและจางฮั่นพี่ชายคนโตกำลังใช้ดาบสู้รบกับทหารของต้าหลู่ ในขณะที่พระสวามีปีศาจของเธอกำลังบุกเข้าโจมตีไล่ฟาดฟันองค์ชายหลี่จิ้งจนถอยไม่เป็นท่า“อันอันของข้าอยู่ไหน! ไอ้คนถ่อย! ลักพาตัวชายาของข้าไปไว้ที่ใด!!!” รับสั่งพร้อมบุกไล่ฆ่ากองทหารมากมายที่เข้ามาปกป้ององค์ชายของตน จนล้มตายกองสุมมิรู้กี่ร้อยชีวิตองค์ชายหลี่จิ้งวิ่งหนีการไล่ล่าอย่างบ้าคลั่งของแม่ทัพปีศาจจนวิ่งเข้าไปอยู่ในท้องพระโรง “คนผู้นี้มันบ้าไปแล้ว! ช่างบ้าคลั่งราวปีศาจร้ายยิ่งนัก” รับสั่งพร้อมพยายามหาอาวุธที่สามารถทุ่นแรงของพระองค์ได้ดีกว่าดาบ ก่อนจะไปสะดุดกับคันธนูและลูกธนูรวมไปถึงอาวุธอื่นๆ ที่มีเกลื่อนกลาดท่ามกลางร่างไร้วิญญาณของทหารทั้งสองฝ่ายและขุนนางบางคนที่หนีตายไม่ทันคันธนูถูกหยิบขึ้นจากพื้นพร้อมลูกธนูสามดอก พระหัตถ์ล้วงเข้าไปในอกเสื้อฉลองพระองค์ก่อนจะดึงขวดยาใบน้อยออกมาพร้อมรีบดึงจุกออกเทผงสีขาวลงบนลูกธนูทั้งสามดอกพรึบ! ภาพเหตุการ

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   พระสนมชายของข้า! 1.1

    บริเวณคุกใต้ดิน ดวงเนตรสีนิลดำใหญ่ทอดสายตามองร่างไร้วิญญาณขององค์ชายอิ๋งเฟิ่ง เจ้าของพระตำหนักหรดีในสภาพศพลิ้นจุกปาก ดวงตาถลนแทบจะทะลักออกมานอกเบ้า รอบลำคอถูกรัดอย่างรุนแรงจนเห็นเป็นรอยโซ่ และสิ่งที่ใช้สังหารองค์ชายโฉดผู้นี้ก็ตกอยู่ใกล้ๆ พระศพนั่นเอง พระพักตร์หล่อเหลาขององค์ชายหลี่จิ้ง ค่อยๆ เงยขึ้นจากพระศพขององค์ชายโฉดพร้อมสำรวจไปทั่วบริเวณคุกใต้ดินไปโดยรอบก่อนจะพบว่า กองทหารของพระองค์ที่คอยรักษาเวรยามตั้งแต่ปากทางเข้าแม่น้ำทางชายป่ารกร้าง จนถึงคุกใต้ดิน มีเพียงทหารยามที่คอยดูแลบริเวณคุกเท่านั้นจบชีวิตทั้งหมด สภาพศพร่างแหลกเหลวและมีรอยโซ่ทิ้งร่องรอยเอาไว้บนศพเหล่านั้น “พวกเจ้าที่เหลือรอดชีวิตล่วงรู้หรือไม่ว่าผู้ใดเข้ามาสังหารผู้คนภายในนี้รวมไปถึงเจ้าของตำหนักนี้ด้วย!” รับสั่งถามกองทหารที่รอดชีวิต “กระหม่อมได้ยินว่าคนผู้นั้นเป็นพี่ชายของเด็กหนุ่มหน้าหวาน ซึ่งถูกจับตัวมาจากตำหนักบูรพาพร้อมกันพ่ะย่ะค่ะ แต่องค์ชายอิ๋งเฟิ่งทรงแยกขังเจ้าคนพี่ไว้ที่คุกใต้ดิน ส่วนคนน้องนำไปขังในตำหนักหรดีเพื่อนำไปมอบให้พระองค์ที่จวนสกุลไป๋ต่อไปพ่ะย่ะค่ะ” ทหารที่รอดชีวิตกราบทูลรายงานอย่างละเอียดเท่าที่ล่ว

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   เป็นหรือตาย 1.3

    พระตำหนักหรดีภายในคุกใต้ดินพระตำหนักหรดีขององค์ชายอิ๋งเฟิ่ง ตั้งอยู่ห่างไกลจากพระตำหนักอื่นๆ อยู่ช่วงท้ายๆ ของพระราชวังมีพื้นที่ติดกับชายป่ารกร้างซึ่งองค์ชายโฉดใช้เป็นเส้นทางลำเลียงอาวุธและกองทหาร ทางเข้าออกต้องดำน้ำลงไป แม่น้ำซึ่งอยู่ติดกับชายป่าและมีทางเข้าเชื่อมต่อขุดไปถึงกับสระบัวในอุทยานส่วนพระองค์ ใช้เป็นเส้นทางเพื่อสะสมฐานกำลังเตรียมพร้อมช่วงชิงบัลลังก์เพื่อขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองแคว้นภายในพระตำหนักลึกลงไปใต้ดิน ถูกสร้างเป็นห้องพักมากมายเพื่อใช้สะสมเงินทองและอาวุธรวมไปถึงเสบียงและคุกใต้ดิน เพื่อใช้ลักพาตัวผู้คนที่บังเอิญมาระแคะระคายการกระทำคิดคดทรยศขององค์ชายผู้นี้ และนี่คือสาเหตุว่าทำไมองค์ชายสามจึงไม่อนุญาตให้บุรุษเข้ามาในพระตำหนัก สืบเนื่องมาจากสาเหตุดังกล่าวด้วยส่วนหนึ่งและอีกเหตุผลนั่นก็คือ เกรงกลัวการถูกลอบปลงพระชนม์จากการจ้างวานฆ่าของผู้อื่นนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องร่วมสายโลหิตหรือพันธมิตรที่เคยร่วมมือและรีบหันหลังให้แก่กันทันใดที่หมดประโยชน์ร่วมกันพระวรกายสูงใหญ่ขององค์ชายปีศาจ ถูกล่ามไว้ที่ข้อพระหัตถ์และข้อพระบาทก่อนจะนำไปโยงกับคานที่แขวนไว้ เตรียมเครื่องทรมานเพื่อเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status