แชร์

บทที่ 578

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
ภายใต้ท้องฟ้าทะเลดาว เฟิ่งจิ่วเหยียนเริ่มง่วงขึ้นมา

เซียวอวี้อุ้มนาง แล้วยิ้มบางเบาดุจสายลมเย็น ไร้มาดเคร่งขรึมเหมือนในยามปกติ

“กลับไปนอน”

ภายในเรือน

เฉินจี๋เห็นฝ่าบาทอุ้มซูฮ่วนกลับมา หัวใจพลันกระตุกวูบ

เซียวอวี้กลับเห็นว่า ในเรือนยังมีใครอีกคนยืนอยู่ด้วย

นั่นคือรุ่ยอ๋อง

เมื่อรุ่ยอ๋องเห็นภาพนี้ ดวงตาพลันก่อเกิดอารมณ์แปลกประหลาด

“เจ้ามาทำไม”  เซียวอวี้เอ่ยปาก ซักถามทันที

รุ่ยอ๋องก้มหน้าลงอย่างนอบน้อม

“กระหม่อม เป็นห่วงความปลอดภัยของฝ่าบาท”

เซียวอวี้ก้มมองคนในอ้อมกอด จากนั้นก็พานางเข้าไปส่งในห้องหลักก่อน

รุ่ยอ๋องเงยหน้ามองแผ่นหลังของทั้งสองคน ด้วยสายตามืดสลัว

เหตุใดฝ่าบาทถึงใกล้ชิดกับซูฮ่วนถึงเพียงนี้ล่ะ?

ไม่นานหลังจากนั้น เซียวอวี้ก็ออกมา

เขาอยู่ในชุดคลุมผ้าไหม ไม่เข้ากับสถานที่ธรรมดาแห่งนี้อย่างยิ่ง

“ออกไปคุยข้างนอก” เขาพูดกับรุ่ยอ๋อง

รุ่ยอ๋องตามเขาออกไป

……

“ใครบอกให้เจ้าตามสืบการเดินทางของรา” แววตาของเซียวอวี้เยือกเย็นเล็กน้อย

แม้นรุ่ยอ๋องจะเป็นเสมือนมือซ้ายมือขวาและพี่น้องที่คอยช่วยเหลือกัน ก็ไม่สมควรตามสืบเรื่องของเขาตามอำเภอใจ

รุ่ยอ๋องประสานมือคารวะ

“หรงเฟยพ่ะ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (4)
goodnovel comment avatar
Sutassee Hoffmann
ผู้พิทักษ์เป็นคนเดียวกับบุรุษชุดขาวหรือไม่ ชักจะงง
goodnovel comment avatar
Sutassee Hoffmann
ผู้พิทักษ์คือต้วน แฟนเก่านางเอกแน่ๆ
goodnovel comment avatar
Sakon Jindanin
ยุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่ง อิอิ เต้ก็รักของเต้ ไม่รู้ซะแว๊ววว
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 579

    ยุทธภพกับราชสำนัก แบ่งแยกอำนาจการปกครองผู้ใดก็ไม่คาคคิด ว่าทหารจะล้อมปราบปรามแต่ละสำนักอย่างเปิดเผยเช่นนี้ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้รับข่าวสารใด ๆ เลย แม้แต่พรรคเทียนหลงที่มีหน่วยสอดแนมเป็นหูเป็นตามากมาย ก็ยังไม่เคยได้รับข่าวใด ๆ ดังนั้น สำหรับพวกเขาแล้ว การล้อมปราบปรามในครั้งนี้จึงมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวเกินไปผู้พิทักษ์พรรคเทียนหลงลุกขึ้นทันที ออกคำสั่งว่า“ล่าถอย”ทันทีที่ปริปาก แม่นางหร่านที่ใส่ผ้าคลุมหน้าก็เข้ามาในห้อง วิ่งตรงเข้ามาหาผู้พิทักษ์“ท่านประมุขรู้เรื่องนี้แล้ว ผู้พิทักษ์ ตอนนี้เจ้ากำลังทำให้ราชสำนักแตกตื่น นับเป็นความผิดมหันต์!”แววตาของผู้พิทักษ์เยือกเย็นเป็นแค่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม กล้าดีอย่างไรมาสอนเขา?“เจ้ารีบไปคุ้มกันท่านประมุข ฝากบอกท่านประมุขด้วย ข้าจะไปรับโทษด้วยตัวเอง”คนจากสำนักอื่นที่มาขอความช่วยเหลือเห็นท่าทีไม่ดี จึงพากันรีบเผ่นหนีทหารบุกมาอย่างองอาจ พวกเขารับมือไม่ไหวแน่ทุกสำนักตกอยู่ในศึกอันขมขื่นระยะเวลาเพียงชั่วข้ามคืน ยุทธภพกลับปั่นป่วนไปหมดคุกในแต่ละแห่งอัดแน่นไปด้วยคนจนวุ่นวายชาวยุทธภพลงนามร่วมต่อสู้ ฟ้องร้องเรื่องที่ราชส

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 580

    ภายในศาลาแปดเหลี่ยมอันเงียบสงบทางทิศตะวันตกของวัง มีสองพี่น้องนั่งเผชิญหน้ากันอยู่บนโต๊ะหินมีกระดานหมากรุกวางบนนั้น ซึ่งใกล้จะจบตาแล้วใบหน้าของเซียวจั๋วประดับด้วยรอยยิ้มบางเบา ราวกับว่ายังเป็นพี่ชายผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารีย์เหมือนในตอนนั้น“แนวการเล่นหมากรุกของฝ่าบาทแตกต่างจากเมื่อก่อนเยอะเลย”เซียวอวี้พูดลอย ๆ “ทุกสิ่งย่อมมีการเปลี่ยนแปลง”เซียวจั๋วส่งเสียงกระแอม เหมือนกำลังข่มกลั้นอะไรบางอย่าง“มีบางอย่าง ที่อยากถามฝ่าบาทมาโดยตลอด“เรื่องในครานั้น ท่านเจ้าเชื่อว่าข้าคือผู้บริสุทธิ์หรือไม่?”ตอนนั้น องค์รัชทายาทลอบฆ่าพี่ชายแท้ ๆ ทั้งยังก่อกบฏเพื่อประโยชน์ส่วนตัว สร้างความสั่นสะเทือนแก่ราชสำนักสายตาของเซียวอวี้ทอดมองผิวน้ำบริเวณห่างไกล กล่าวอย่างเชื่องช้าว่า“เรื่องมันผ่านมาตั้งนานแล้ว เราจำไม่ได้”เซียวจั๋วยิ้มออกมาบางเบา นัยน์ตาทอแววขมขื่น“พูดตามตรง จนถึงตอนนี้ข้ายังคาดคิดไม่ถึงเลยว่า สุดท้ายคนที่ได้นั่งบัลลังก์ จะเป็นท่าน”ในการแข่งขันขององค์ชายทั้งหลาย เซียวอวี้เป็นคนที่ถูกตัดออกไปขุนนางในราชสำนักเองก็ไม่มีใครอยู่ข้างเขาใครก็ไม่รู้ว่า  ฮ่องเต้องค์ก่อนจะเลือกเดิน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 581

    หลังจากพักฟื้นอยู่สองสามวัน เฟิ่งจิ่วเหยียนก็พอจะลงมาเดินบนพื้นได้ทว่าร่างกายของฝานจิ้นกลับยิ่งแย่ลงตงฟางซื่อจึงหารือกับนาง และคิดจะหาตัวยาบางอย่างมาทดแทน เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของฝานจิ้นหลังจากฝานจิ้นรู้เรื่องก็เป็นฝ่ายปฏิเสธก่อน“มิต้อง เหล่าฝานอย่างข้าจะต้องผ่านพ้นไปได้!”เขาจะมิยอมแพ้และประนีประนอมเด็ดขาดบ่ายวันนั้น ตงฟางซื่อมาที่ห้องของเฟิ่งจิ่วเหยียน และนำภาพเหมือนแผ่นหนึ่งมาให้นางดู“นี่ก็คือศิษย์หญิงของสำนักหลิงซาน--- จางเสวี่ย”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองภาพเหมือนนั้นอย่างละเอียด แววตาพลันหม่นหมองลงทันที“สตรีที่สวมหน้ากากในคืนนั้น มิใช่คนผู้นี้”มิใช่แค่คิ้วและดวงตาที่เผยออกมาภายนอก รูปร่างนี้ก็แตกต่างเช่นกันตงฟางซื่อม้วนภาพเก็บ“ดูเหมือนว่า สตรีผู้นั้นจะหลอกเจ้าแล้ว ทว่านางก็ช่วยเจ้าไว้ ข้าแยกแยะมิออกจริง ๆ ว่า คนผู้นี้เป็นศัตรูหรือเป็นมิตร”เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ตกอยู่ในห้วงความคิดในตอนค่ำ เซียวอวี้ก็มาถึงตามเวลาทันทีที่เขาเอ่ยปากก็เป็นความกังวลถึงอาการบาดเจ็บของเฟิ่งจิ่วเหยียน เฟิ่งจิ่วเหยียนตอบว่า: “ที่จริงก็ดีขึ้นมากแล้ว”ในเวลาเดียวกับที่เซียวอวี้คลายกังวล ก็

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 582

    ความนุ่มนวลจากการจูบ ราวกับถูกปกคลุมด้วยขนนก ทั้งทะนุถนอม ดูเหมือนกลัวว่าจะทำให้นางเจ็บ เพียงสัมผัสแรกก็แยกออกจากกัน เซียวอวี้มีความสามารถในการดื่มสุราอย่างมากในฐานะฮ่องเต้ ขาดมิได้ที่จะต้องดื่มสุราในงานเลี้ยงภายในวังหากไม่มีความสามารถในการดื่มเพียงใดก็ไม่เมา ก็คงจะถูกผู้คนหัวเราะเยาะได้สุราเพียงเล็กน้อยในคืนนี้ ยังมิเพียงพอที่จะทำให้เขาขาดสติในเวลานี้ เขาออกแรงโอบกอดนางไว้ในอ้อมแขน โดยแสร้งทำเป็นขาดสติจากการมึนเมาเฟิ่งจิ่วเหยียนตกใจกับจูบเมื่อครู่นี้ จึงรีบผลักเขาออกไป และถอยหนี จนแผ่นหลังชนเข้ากับผนัง ฝ่ามือใหญ่ของบุรุษวางทับอยู่บนแผ่นหลังของนาง ภายใต้การปกป้องของมือ นางจึงมิได้รับแรงกระแทกมากเกินไปแม้กระทั่งความร้อนจากฝ่ามือของเขายังทะลุผ่านอาภรณ์ และส่งต่อมายังผิวหนังของนาง หากเทียบกับการจูบเมื่อครู่ที่ราวกับแมลงปอบินแตะน้ำนั้น ร้อนแรงกว่ามาก ทำให้นางตัวสั่นอยู่พักหนึ่งนางชะงักงันอย่างกะทันหัน เซียวอวี้มือหนึ่งเลื่อนมาหลังศีรษะนาง และก้มหัวลงมาตรงซอกคอของนางพร้อมหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ทั้งค่อย ๆ โน้มตัวลง ราวกับว่าในเสี้ยววินาทีนั้นเขาสูญเสียพละกำลังทั้งหมด“เรา.

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 583

    บุรุษถอดหน้ากากออก เผยให้เห็นใบหน้าอ่อนเยาว์อันหล่อเหลาจากการสังเกตอายุน่าจะยังไม่ถึงยี่สิบปี ในดวงตากลับเคร่งขรึมกว่าคนรุ่นเดียวกัน ราวกับถูกแช่อยู่ในยาน้ำแห่งความเกลียดชังมาตลอดทั้งปีเขามองดูท่าทางของเฟิ่งจิ่วเหยียนที่ประหลาดใจจนถึงกับตะลึงงันด้วยความชอบใจ พร้อมเอ่ยโดยเสียงท้ายขึ้นเสียงสูง “เป็นอย่างไร จำข้ามิได้หรือ? พี่สะใภ้”เขากัดฟันหนัก ๆ คำว่า “พี่สะใภ้” ทว่ากลับไม่มีความรู้สึกเคารพแม้แต่น้อยร่างกายของเฟิ่งจิ่วเหยียนแข็งเกร็ง ม่านตาสั่นไหว“อาเจิ้ง...”คนผู้นั้นได้ยินชื่อเรียกที่คุ้นเคยนี้ ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา ดวงตากลับแดงก่ำในทันที“ห้ามเรียกข้าเช่นนี้!“ก่อนหน้านี้เจ้าเคยเป็นพี่สะใภ้ข้า ตอนนี้ เจ้าใช้สถานะใด?“ดังนั้น...อย่ามาทำท่าทางที่ดูสนิมสนมกับข้าเสียเหลือเกิน ข้ารู้สึกรังเกียจ!”ปลายนิ้วของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นวาบเมื่อมองเห็นใบหน้าดวงนั้นที่มีส่วนคล้ายกับต้วนไหวซวี่ ในเสี้ยววินาทีนั้นในดวงตาของนางก็เต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความขมขื่น นางรู้สึกดีใจที่ต้วนเจิ้งยังมีชีวิตอยู่เมื่อนึกย้อนไปถึงครั้งแรกที่พบเขา เขามีอายุเพียงสิบสามสิบสี่ปีเท่านั้น ทั้งตัวคนดูผอ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 584

    คนชุดคลุมดำเคยพูดไว้ นางมิรู้ว่าต้วนไหวซวี่ตายอย่างไร ดูเหมือนว่า การตายของเขาคงมิใช่เพราะพิษวารีสวรรค์ธรรมดาเท่านั้นอีกทั้งยังพูดอีกว่า ต้วนไหวซวี่ใช้ตนเองแลกกับอายุขัยห้าปีของนางจนบัดนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ยังไม่มีเบาะแส ถึงขั้นเคยสงสัยว่า นี่เป็นคำโกหกที่คนชุดคลุมดำทำให้นางหวั่นไหวทว่าตอนนี้ ต้วนเจิ้งก็พูดอย่างมีความหมายอื่นแฝงอยู่ในคำพูดเช่นกันนางจักต้องพยายามถามให้กระจ่าง!“เรื่องของพี่ชายเจ้า เจ้ารู้สิ่งใดกันแน่”ทว่า ต้วนเจิ้งใบหน้าดูหม่นหมอง พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น“เจ้า มิสมควรรู้”ทันทีที่เอ่ยจบ มีดสั้นเล่มหนึ่งก็จ่ออยู่บนคอของเขาต้วนเจิ้งแทบมิอยากเชื่อ“เจ้าต้องการจะสังหารข้า? เฟิ่งจิ่วเหยียน เจ้าเสียสติไปแล้วหรือไม่!”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นชา“อย่าเรียกชื่อข้ามั่ว ๆ ทางที่ดีเจ้าควรจะเชื่อฟังข้า”หลังจากได้ตื่นเต้นกับการพบกันอีกครั้ง ก็กลับมาตั้งสติต้วนเจิ้งในตอนนี้ เป็นคนของพรรคเทียนหลงไปนานแล้วการปรากฏตัวของเขาในคราวนี้ แน่นอนว่ามิได้มาเพื่อพบกับนางแบบสหายอีกอย่างเขากับคนชุดคลุมดำก็อาศัยต้วนไหวซวี่ทำให้จิตใจของนางปั่นป่วนอยู่หลายครั้ง จักต้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 585

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมั่นใจว่า ต้วนไหวซวี่ตายไปแล้วร่างของเขาเป็นนางที่ฝังเองกับมือ...ต้วนเจิ้งมองดูปฏิกิริยาของนาง พร้อมทั้งหรี่ตาเขาเย้ยหยัน“เป็นอย่างไร มิดีใจหรือ?“ได้ยินว่าพี่ชายข้ายังมีชีวิตอยู่ เจ้ารู้สึกผิดหรือ? มิกล้าเผชิญหน้ากับเขาหรือ?“ก็อาจจะใช่ เจ้ายุ่งเกี่ยวกับบุรุษคนอื่น แล้วเจ้าจะมีหน้าไปพบพี่ชายข้าได้อย่างไร...”เฟิ่งจิ่วเหยียนเมินเฉยต่อคำพูดไร้สาระเหล่านั้นของเขา แววตาของนางเคร่งขรึมและเย็นชา ภายในกลับมีเปลวไฟที่ลุกโชน“เขายังมีชีวิตอยู่จริงหรือ ต้วนเจิ้ง พูดความจริงมา!”ต้วนเจิ้งก้มหน้าลง “ความจริงก็คือ พี่ชายข้ายังมีชีวิตอยู่! เจ้าก็คงรู้เรื่องข้อตกลงห้าปีนั้นกระมัง เหตุใดเจ้าถึงไม่ลองคิดดูว่า หากพี่ชายข้าตายแล้ว พรรคเทียนหลงของเขาเหตุใดจะยังคงรักษาข้อตกลงนั้นอยู่ พวกเขาเป็นพวกโง่เขลาหรือ!”หัวใจของเฟิ่งจิ่วเหยียนสั่นไหวอย่างรุนแรง ก็จริงอยู่ หากข้อตกลงห้าปียังอยู่ สิ่งใดถึงจะสามารถรับประกันได้ว่าข้อตกลงนี้จะยังคงได้รับการปฏิบัติ? อย่างไรเสียก็เป็นข้อตกลงที่ตกลงกันด้วยปากเปล่า สามารถยึดตามการตายของฝ่ายหนึ่ง โดยอีกฝ่ายก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรักษาข้อตกลง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 586

    ภายในห้องมืดสนิท ต้วนเจิ้งรู้สึกตัวแล้ว ทว่าร่างกายถูกมัดติดกับเก้าอี้ ปากก็ยังถูกอุดอยู่ ไม่มีทางช่วยเหลือตนเองได้ และขอความช่วยเหลือก็ไม่มีทางเช่นกันเขาเหมือนกับหมาป่าหิวโหยที่ดุร้าย จ้องมองไปที่ประตู และอยากรู้ว่าเมื่อใดเฟิ่งจิ่วเหยียนจะกลับมานางต้องรู้แล้วว่า เขาแสร้งลวงให้สับสน โดยให้นักฆ่าไปโอบล้อมตงฟางซื่อ...เมื่อครั้งแรกที่พบนาง นางยืนอยู่ข้าง ๆ พี่ชาย สีหน้าไร้ความรู้สึก บนตัวมีไอแห่งความแค้น ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้างทว่าตามด้วยเสียงที่เขาเรียกว่า “พี่สะใภ้” ในดวงตาที่สงบนิ่งของนางนั้นราวกับรู้สึกเบิกบานขึ้นมาเขาคิดว่า ครอบครัวของพวกเขาจะอยู่ด้วยกันไปตลอดกาลทว่าโชคชะตามักจะเล่นตลกกับคนเรา...ขณะที่ต้วนเจิ้งกำลังนึกย้อนไปถึงอดีต จู่ ๆ ประตูก็เปิดออกเขามองไปทางนอกประตูอย่างระแวดระวังในทันทีทว่ากลับเห็น เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่ตรงนั้น พร้อมในมือยังถือกล่องอาหาร......ต้วนเจิ้งหิวมาทั้งวันแล้ว เมื่อเห็นอาหารที่เฟิ่งจิ่วเหยียนนำมา เขากลับปฏิเสธเสียงแข็ง“เอาไปพ้น! ข้าไม่กิน!”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“อาหารก่อนถูกประหารตัดหัว เป็นมื้อสุดท้าย

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1214

    เฉินจี๋ได้รับการช่วยเหลือจากนายพรานผู้หนึ่ง ด้วยอาการบาดเจ็บรุนแรง กระทั่งตอนนี้ก็ยังหมดสติอยู่นี่จึงไม่น่าแปลกใจที่เขายังไม่ปรากฏตัว ที่แท้เป็นเพราะร่างกายไม่อาจเคลื่อนไหวได้นายพรานรู้ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนกับคณะรู้จักกับเฉินจี๋ จึงรู้สึกโล่งใจ“ข้าลำบากใจจริง ๆ เพราะคิดว่านี่คือชีวิตคนคนหนึ่ง จึงไม่อาจทอดทิ้งได้ ทว่าจะรักษาอาการบาดเจ็บของเขา ข้าก็ต้องใช้เงิน...”ไม่รอให้นายพรานพูดจบ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ส่งสัญญาณให้อู๋ไป๋นำเงินให้อู๋ไป๋ถนัดการจัดการเรื่องต่าง ๆ สักพักก็เริ่มคุ้นเคยกับนายพราน และเอ่ยขอบคุณอย่างสนิทสนม“พี่ชาย ขอบคุณจริง ๆ ที่เจ้าช่วยสหายข้าไว้! เงินเล็กน้อยนี้ไม่พอจะทดแทนคำขอบคุณได้! ใช่แล้ว เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่า เจอสหายข้าที่ใด แล้วเขาได้รับบาดเจ็บอย่างไร? และเจอคนที่น่าสงสัยคนอื่นหรือไม่?“เจ้าอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ข้าเพียงแค่อยากรู้ให้ชัดเจน ว่าผู้ใดทำร้ายสหายข้า บาปมีคนก่อหนี้ย่อมมีเจ้าหนี้”คำพูดของอู๋ไป๋ ล้วนเป็นความรู้สึกตามธรรมชาติของคนนายพรานลองคิดทบทวนอย่างละเอียดรอบหนึ่ง“ข้าช่วยเขาตรงริมแม่น้ำ ตอนนั้นไม่พบผู้อื่น ขอโทษจริง ๆ ที่ข้าช่วยพวกท่านไม่ได้”“

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1213

    ปลายเดือนสิบสอง ปีใหม่ใกล้เข้ามาเส้นทางมุ่งหน้าไปทางเหนือเต็มไปด้วยน้ำแข็ง การเดินทางนั้นยากลำบากเฟิ่งจิ่วเหยียนในช่วงอยู่ไฟมิได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ ตอนนี้ยังต้องเดินทางท่ามกลางพายุหิมะอีก จึงมักจะปวดเมื่อยเอว และเหงื่อออกมากอยู่บ่อย ๆในช่วงกลางคืนเข้านอน ก็มักรู้สึกเย็นที่ไหล่ และหนาวอย่างรุนแรงอู๋ไป๋เห็นสีหน้าของนางไม่สู้ดีนัก จึงเตือนนาง“นายท่าน ไม่สู้ให้หมอมาตรวจดูบ้าง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบร้อนจะตามหาคน จึงไม่อยากล่าช้าครั้งนี้อู๋ไป๋ยืนหยัดอย่างเต็มที่“นายท่าน ต่อให้ท่านไม่คำนึงถึงตนเอง ก็ควรนึกถึงฝ่าบาท หากท่านเจ็บป่วย จะยิ่งไม่ล่าช้ามากกว่าหรอกหรือ?”เขาเอ่ยเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเริ่มลังเลก็จริงหากนางเจ็บป่วยจนลุกไม่ขึ้น ก็จะไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียไปตรงชายแดนหนานฉี เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ไปที่สำนักการแพทย์แห่งหนึ่งหลังจากหมอจับชีพจรของนาง ก็เอาแต่ส่ายหัว“ฮูหยินท่านนี้ ท่านมีภาวะร่างกายไม่สมดุลหลังคลอด จึงเป็นต้นเหตุเกิดโรคเรื้อรัง“อาการปวดตามข้อเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในระยะนี้ที่ฝนหิมะรุนแรง แน่นอนว่าย่อมไม่สบายตัว“ในยามปกติรู้สึกว่าไม่เป็นไร ทนหน่อยก็ผ่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1212

    บนบัลลังก์มังกร เซียวถงเต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณของจักรพรรดิ “เรารับพระราชโองการจากเสด็จอา มาทำหน้าที่รักษาการแทนตำแหน่งฮ่องเต้ชั่วคราว ทุกท่านมีเรื่องใดก็เสนอได้”เหล่าขุนนางในราชสำนักมองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงงบางคนถึงกับสงสัยว่าเซียวถงแย่งชิงบัลลังก์ทว่าคิดดูอีกที ฮองเฮาทรงมีทักษะเพียงนั้น ผู้ใดจะกล้าแย่งชิงบัลลังก์?ณ วังหลังเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกอาวรณ์อย่างยิ่งที่จะกล่าวอำลาต่อบุตรทั้งสองพวกเขายังคงนอนหลับอยู่ ใบหน้าขณะหลับดูสงบนิ่งเป็นพิเศษ นางจุมพิตบนหน้าผากของพวกเขา หัวใจราวกับถูกบีบเข้าหากันสาวใช้หว่านชิวรู้สึกเศร้าใจ “ฮองเฮา จักต้องเสด็จไปให้ได้หรือเพคะ?”ฮองเฮาทรงตัดใจจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตนได้อย่างไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่นการไปของนางครั้งนี้ จะมีชีวิตอยู่หรือตายยังไม่แน่นอนการพาบุตรทั้งสองคนไปด้วย หนึ่งจะเป็นภาระให้กับนาง สองอาจจะนำภัยอันตรายถึงแก่ชีวิตมาให้พวกเขาการแยกจากบุตร ย่อมต้องทุกข์ใจอยู่แล้ว ทว่าหากให้นางกับลูกรออยู่ในวัง และทนทรมานกับการรอฟังข่าว นางยิ่งไม่ยินยอม“ฮองเฮา หนิงเฟยมาถึงแล้วเพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบปรับอารมณ์ทันที และเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1211

    ที่ดินที่โซ่วอ๋องได้รับมอบไม่ถือว่าไกลจากเมืองหลวงมากนัก หลังจากได้รับคำสั่งจากฮองเฮา ซื่อจื่อเซียวถงก็ออกเดินทางภายในวันเดียวกันห้าวันต่อมา เซียวถงก็มาถึงพระราชวัง และตรงไปยังห้องทรงพระอักษรเพื่อเข้าเฝ้าครั้งล่าสุดที่เขามาเมืองหลวง ก็คือเมื่อสามปีก่อน ช่วงที่เกิดความวุ่นวายในวิหารบรรพบุรุษ เขาได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากฮ่องเต้ ให้ขึ้นครองบัลลังก์ชั่วคราว เพื่อหลอกลวงพรรคเทียนหลงกับกองทัพศัตรูให้สับสนในตอนนั้นเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก พระราชโองการพินัยกรรมของฝ่าบาท ได้แต่งตั้งให้เขาเป็นว่าที่จักรพรรดิครั้งนี้ฮองเฮาทรงเรียกเขามา ไม่รู้ว่ามาเพราะเรื่องใดทว่าก็รู้สึกอยู่ลึก ๆ ว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับพระราชโองการพินัยกรรมก่อนที่เขาจะมาเมืองหลวง ท่านพ่อก็ยังเตือนเขาว่า ตอนนี้ฮองเฮาทรงประสูติองค์ชายแล้ว เช่นนั้นเขาที่เคยเป็นคนที่อ้างถึงในพระราชโองการพินัยกรรม ก็เท่ากับเป็นตัวขัดขวางขององค์ชายดังนั้น การมาเมืองหลวงครั้งนี้ ก็เสี่ยงอันตรายอย่างมากในใจของเซียวถงเต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย ทว่าสีหน้ายังคงสงบนิ่ง ไม่ถือตัวไม่ถ่อมตนเกินพอดีแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยสนใจตำแหน่งฮ่องเต้ แล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1210

    วันต่อมา องค์หญิงเซี่ยนอี๋เสด็จมาพบองค์ชายสี่ด้วยพระองค์เององค์ชายสี่ทรงยิ้มแย้ม ทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น“แขนของน้องหญิงเป็นอย่างไรบ้าง?”องค์หญิงเซี่ยนอี๋โมโหจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่“เหตุใดเสด็จพี่ต้องขัดขวางข้า!”รอยยิ้มขององค์ชายสี่เลือนหายไป และตอบอย่างมีเหตุมีผล“เซี่ยนอี๋ ข้าคิดว่าเจ้าแค่พาลไร้เหตุผล นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะโง่เขลาเพียงนี้ เจ้าคิดได้อย่างไรที่จะวางยาผู้อื่น แล้วบังคับขืนใจเขา?“หากเจ้าพลีกายให้กับฮ่องเต้ฉี แล้วจะให้ข้าทูลเสด็จพ่ออย่างไร?“คืนก่อนเจ้าเกือบจะแขนหักไปข้างหนึ่ง ก็น่าจะจำเป็นบทเรียนได้แล้วกระมัง”เซี่ยนอี๋รู้ตัวว่าทำผิดทว่าเรื่องที่นางยังทำไม่เสร็จสิ้น จะไม่ยอมแพ้และเลิกล้มเช่นนี้“หากข้าได้เป็นฮองเฮาของหนานฉี หนานฉีก็จะไม่เล่นงานเป่ยเยี่ยนอีก นี่ไม่ดีหรอกหรือ?”องค์ชายสี่แย้มพระสรวล“เซี่ยนอี๋ หากเสด็จพ่อได้ยินคำพูดนี้ของเจ้า เกรงว่าจะต้องถูกลงโทษสถานหนัก“การเกี่ยวดองของสองแคว้น เดิมทีไม่อาจหยุดยั้งความโหดเหี้ยมของหนานฉีได้“เจ้าจะทำให้ตนเองเสียหายโดยเปล่าประโยชน์ และถูกผู้อื่นหัวเราะเยาะ“บุรุษดี ๆ ในเป่ยเยี่ยนของเรามีมากมาย เหตุใดเจ้าต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1209

    ช่วงหลายวันที่เซียวอวี้ถูกขังอยู่ในคุกลับ หาได้นั่งนิ่งรอความตายไม่ จากการสังเกตของเขา องค์ชายสี่แห่งเป่ยเยี่ยนมิได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เยี่ยน แต่กลับเป็นหินที่ไว้ปูทางเดิน เพื่อผลักดันความทะเยอะทะยานให้องค์ชายเจ็ด หากสามารถโน้มน้าวใจองค์ชายสี่ได้ เขาก็จะหนีออกจากที่นี่ได้ กระนั้น องค์ชายสี่ของเป่ยเยี่ยนไม่โง่ ทันทีที่เขาได้ยินคำพูดของเซียวอวี้ ก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการชนะใจตน เพื่อยุแยงเขากับเจ้าเจ็ด รวมถึงตัวเขาและเสด็จพ่อด้วย “ฮ่องเต้ฉี ยิ่งพูดยิ่งพลาด ท่านตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ควรพูดให้น้อยลงจะดีกว่า” องค์ชายสี่พูดจบก็คิดจะเดินจากไป จู่ ๆ เซียวอวี้หัวเราะเยือกเย็นขึ้นมา “ในเวลาหนึ่งเดือน ฮ่องเต้เยี่ยนจะแต่งตั้งองค์ชายเจ็ดเป็นองค์รัชทายาท” องค์ชายสี่หยุดชะงัก ฮ่องเต้ฉีมั่นใจขนาดนั้นเชียวหรือ? ตำแหน่งองค์รัชทายาทนั้นเย้ายวนใจนัก องค์ชายสี่ต้องหันกลับมา พิจารณาเซียวอวี้อีกครั้ง เขาหาได้รุกถามใด ๆ ไม่ เพียงรอให้เซียวอวี้พูดต่ออย่างเงียบ ๆ เซียวอวี้ไม่ทำให้ผิดหวัง เอ่ยอย่างไม่รีบร้อน “กองทัพเยี่ยนเดินทัพลงใต้ เพื่อพิชิตแ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1208

    ในคุกลับ เซียวอวี้กินอาหารตามปกติ ไม่นานก็รู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกาย เขาตระหนักได้ทันที มันเป็นฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด! ดวงตาเย็นชาของเขามืดลง ความโกรธพลุ่งพล่านขึ้นมา ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า เป็นฝีมือของผู้ใด จริงตามคาด เพียงไม่นาน องค์หญิงเซี่ยนอี๋ก็มาที่คุกลับ คืนนี้นางแต่งกายอย่างพิถีพิถัน สวมอาภรณ์สีสันสดใส ประทินโฉมประณีตงดงาม สายตาเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและความต้องการครอบครอง นางมองใบหน้าที่แดงเพราะฤทธิ์ยาของเซียวอวี้ รู้สึกปรีดาบนความทุกข์ของผู้อื่น “สิ่งใดที่ข้าอยากได้ ไม่มีคำว่าไม่ได้!” เซียวอวี้พยายามสงบจิตใจอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ถูกควบคุมโดยฤทธิ์ยา เขาไม่กล้าคิด หากสัมผัสผู้หญิงคนอื่นแล้ว เขาจะเผชิญหน้ากับจิ่วเหยียยอย่างไรในอนาคต ให้ตาย! เขาอยากจะฆ่าคน ทว่ากลับสูญเสียกำลังภายในทั้งหมด แม้คุกลับจะคุมขังผู้คนไว้มากมาย แต่ห้องขังของเซียวอวี้อยู่ในจุดที่ลับตาคน และเป็นเอกเทศ องค์หญิงเซี่ยนอี๋จึงไม่กลัวที่จะมีคนมารบกวน นางปลดอาภรณ์ชั้นนอกของตนออก หัวเราะอย่างหยาบคาย “ฮ่องเต้ฉี ข้ารอให้เจ้าขอร้องข้าอยู่” ถูกฤ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1207

    ตำหนักหย่งเหอ เมื่อไทเฮาและหนิงเฟยมาถึง กลับไม่เห็นฮองเฮา เด็กทารกน้อยร้องไห้ระงมราวกับหัวใจจะแตก แม้พวกนางได้ยินแล้วยังรู้สึกปวดใจนัก หมอหลวงกำลังถวายโอสถให้องค์ชายน้อย ปริมาณยาทำให้คนเห็นแล้วอกสั่นขวัญแขวน หนิงเฟยขมวดคิ้ว อดไม่ได้ที่จะเตือน “พวกเจ้าระวังหน่อย! อย่าทำให้เด็กสำลัก!” ไทเฮาอดไม่ได้ที่จะตำหนิ “ฮองเฮาอยู่ที่ใด? นี่คือลูกชายแท้ ๆ ของนาง กลับทิ้งไว้แบบนี้รึ?” สาวใช้หว่านชิวตอบ “มีรายงานด่วนจากชายแดนเพคะ ฮองเฮาประทับที่ห้องทรงพระอักษร เพื่อหารือกับเหล่าแม่ทัพ...” ไทเฮาทนไม่ไหวอีกแล้ว น้ำเสียงจริงจังขึ้น “หารือตลอดทั้งวัน นางคิดถึงลูกชายทั้งสองบ้างหรือไม่? “คนหนึ่งถูกนางใช้เป็นเครื่องมือว่าราชการหลังม่าน อีกคนถูกนางทิ้งให้โดดเดี่ยวในวังหลัง นางทนได้อย่างไร!” ไทเฮาทราบดีว่าฮองเอามีราชกิจรัดตัว ทว่าเห็นเด็กน้อยที่น่าสงสารเช่นนี้ ก็อดจะทุกข์ใจมิได้ หว่านชิวไม่กล้าโต้แย้ง หนิงเฟยเกลี้ยกล่อม “ท่านป้าเพคะ ฮองเฮาต้องเห็นราชกิจสำคัญที่สุด ส่วนองค์ชายมีหมอหลวงถวายการดูแล เขาจะปลอดภัยแน่นอนเพคะ” ไทเฮามองทารกด้วยค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1206

    หลังจากที่ฮ่องเต้เยี่ยนได้ฟังคำขอของพระธิดา ก็หาได้ปฏิเสธทันทีไม่ ฮองเฮาของเซียวอวี้——เฟิ่งจิ่วเหยียน มิใช่สตรีธรรมดา สาเหตุที่เป่ยเยี่ยนพ่ายแพ้ต่อหนานฉีหลายครั้ง ล้วนมีฝีมือของสตรีคนนี้อยู่ในนั้น ถึงแม้เซี่ยนอี๋ไม่เอ่ย เขาก็ต้องการกำจัดเฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่แล้ว “ได้ พ่อรับปากเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋รู้สึกพอใจมาก “ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!” สิ่งใดที่นางไม่ได้ครอบครอง คนอื่นก็อย่าหวังจะได้ ทว่า ฮ่องเต้เยี่ยนยังไม่หายแคลงใจ เขาถาม “เรื่องในคุกลับนั้น ผู้ใดบอกเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋ยังมีจิตสำนึกอยู่ หาได้ทรยศองค์ชายสี่ไม่ “เป็น...เสด็จพี่เจ็ดเพคะ” สีหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนพลันมืดลง เจ้าเจ็ดนี่ เลอะเลือนเกินไปแล้ว! องค์หญิงเซี่ยนอี๋ขอร้อง “เสด็จพ่อ เสด็จพี่เจ็ดก็ถูกหม่อมฉันบังคับ ท่านอย่าตำหนิเขาเลย และอย่าบอกเขาด้วยว่า หม่อมฉันพูด มิฉะนั้นต่อจากนี้เขาคงไม่รักเอ็นดูหม่อมฉันอีกเพคะ” ใบหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนแสดงความอดกลั้นไม่ใส่ใจ “ได้ เราเข้าใจแล้ว”…… เมื่อองค์หญิงเซี่ยนอี๋ออกจากวังหลวง ก็ตรงไปที่คุกลับอีกครั้ง ครั้

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status