ระหว่างที่รอข่าว เซียวเหิงออกคำสั่ง ให้กองทัพทั้งหมดตั้งค่ายขวางเส้นทาง นับจำนวนลูกธนูอาบพิษมนุษย์โอสถ เตรียมพร้อมใช้งานพวกเขาเดินทัพระยะไกล จึงไม่สามารถพกนกไม้กลไกไปด้วยได้มิเช่นนั้นก็คงใช้นกไม้กลไกบินข้ามกองทัพศัตรู บุกเข้าแคว้นตงซานไปแล้ว ไฉนเลยจะให้ถานไถเหยี่ยนมาควบคุม และฟังคำสั่งของถานไถเหยี่ยนอยู่อย่างนี้?ตอนนี้เข้าสู่เดือนเจ็ดแล้ว อาการจึงร้อนอบอ้าวเหล่าทหารเดินทางติดต่อกันหลายวัน จึงตั้งค่ายพัก ณ จุดเดิม สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือน้ำเซียวเหิงให้พวกเขาจูงม้าไปดื่มน้ำ และตักน้ำกินแม่น้ำอยู่ใกล้ ๆ ไม่นาน ก็ตักน้ำมาได้เหล่าทหารล้อมถังน้ำ เวียนดื่มน้ำทีละคนเสียงดังอึก ๆตอนนี้ อากาศร้อนจนทนไม่ไหวมีบางคนแอบถอดเสื้อเกราะออก เพื่อให้เย็นขึ้นเซียวเหิงเห็นเช่นนั้น พลันตะคอกอย่างโมโห“สงครามกำลังจะเริ่ม ดูพวกเจ้าซิ เอื่อยเฉื่อยเช่นนี้ใช้ได้ที่ไหน!“หากกองทัพเหลียงบุกโจมตีเข้ามาในเวลานี้ พวกเจ้าจะทำอย่างไร!”เขาตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา จึงไม่พอใจที่ลูกน้องเอื่อยเฉื่อยให้พวกเขาดื่มน้ำเสร็จ ก็จัดระเบียบทันทีแม้จะเป็นการตั้งค่าย ก็ต้องจัดเตรียมกองทัพ เพื่อต้านศัตรูที่โจมตีเข
แววตาของหร่วนฝูอวี้เยือกเย็นอย่างยิ่ง“ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับท่าน”กับศัตรูที่บุกเข้ามาในแคว้นของตัวเอง นางแทบอยากกำจัดทิ้งให้สิ้นซากหร่วนฝูอวี้พลิกตัว นอนหันหลังให้รุ่ยอ๋องรุ่ยอ๋องไม่ถือสา พูดพึมพำขึ้นมาคนเดียว“ลองเชื่อในการตัดสินใจของฝ่าบาทสักครั้งเถอะ“รวมใต้หล้าเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีอะไรแย่ตรงไหน“ไม่ว่าจะเป็น ‘ใยแมงมุม’ หรือพิษมนุษย์โอสถ ล้วนจะทำให้ประชาชนตกอยู่ในความไม่สงบ ถูกผู้มีอำนาจหลอกใช้…” “ข้าเติบโตมาในหนานเจียง ในใจของข้า มันไม่สามารถบุกรุกได้ง่าย ๆ”รุ่ยอ๋องย้อนถาม “พวกเจ้าสร้างหมอกพิษขึ้นมาให้หนานเจียง เพื่อปกป้องประชาชนของหนานเจียงก็จริง แต่มันก็เป็นพันธการอย่างหนึ่งมิใช่หรือ?“หากไม่ใช่เพราะแคว้นอื่นจับจ้องตาเป็นมัน พวกข้าจะสร้างหมอกพิษขึ้นมาทำไม ก็เพื่อป้องกันพวกท่านไม่ใช่หรือไร!”ยิ่งพูดหร่วนฝูอวี้ก็ยิ่งโมโห จึงลุกขึ้นมานั่ง จ้องมองรุ่ยอ๋องอย่างคุกรุ่น“อย่าพยายามใช้หลักการเหล่านั้นมาโน้มน้าวข้า ข้าไม่มีทางยอม ให้แคว้นหนานฉีของพวกท่านมาปกครองหนานเจียง!“ถึงฝ่าบาทจะโง่เง่า หลงเชื่อพวกถานไถเหยี่ยนและเซียวเหิง นั่นก็เป็นเรื่องภายในของหนานเจียง พวกท่านไม่มี
นอกเมืองหลวง ในหมู่บ้านเล็ก ๆองครักษ์นำข่าวการจับกุมเซี่ยหวั่นเฉินมารายงานต่อถานไถเหยี่ยนเมื่อถานไถเหยี่ยนได้ยิน กลับมีสีหน้าเรียบเฉยและสงบนิ่งจากนั้นองครักษ์ผู้นั้นเอ่ยต่อ: “แผนการของหยวนจั้นคือ จับกุมสมาชิกราชวงศ์คนอื่น ๆ และกำจัดให้สิ้นซาก”ถานไถเหยี่ยนยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ“เช่นนั้นก็มอบหมายให้เขาไปจัดการ”“ท่านกุนซือ แล้วฮ่องเต้กับองค์รัชทายาท จะไม่สังหารก่อนจริงหรือ?”“อืม ทำตามแผนการของหยวนจั้น ถึงอย่างไรทั้งหมดนั้นก็เป็นศัตรูของเขา”ถานไถเหยี่ยนดูจะเข้าอกเข้าใจอยู่พอสมควรเขาถาม: “กองทัพฉีมีความเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง?”“ตอนนี้ยังคงตรึงกำลังอยู่ แต่พวกเขาตัดเส้นทางเสบียงของพวกเราอย่างชั่วร้าย ดูเหมือนวางแผนจะปิดล้อมพวกเราไว้”ถานไถเหยี่ยนไม่รู้สึกตื่นตระหนกแม้แต่น้อย“ไม่เป็นไร ตราบใดที่พวกเรายังยึดครองแคว้นตงซานอยู่ ก็ไม่ต้องกังวลว่าผืนดินแห่งนี้จะปลูกข้าวไม่ได้”......ณ แคว้นหนานเจียงหร่วนฝูอวี้ควบคุมตัวรุ่ยอ๋องไว้ ทว่ากลับเป็นแผนการที่แย่ที่สุดนางรู้ดีว่า รุ่ยหลินผู้นี้ ที่ดูเหมือนอ่อนโยนและเจรจาง่าย ความจริงแล้วดื้อดึงกว่าใครทั้งหมดอีกทั้งยังไม่รู้ว่าเขาซ่
สีหน้าของตงฟางซื่อดูไม่เหมือนกำลังพูดเล่น เขามองไปยังที่ไกล ๆ พลางเอ่ยพึมพำ“หลุมศพของฮ่องเต้ซวี่หยางยังไม่เคยถูกค้นพบ“ที่ที่เป็นไปได้มากที่สุด ก็คือที่ตั้งของจุดศูนย์กลาง ‘ใยแมงมุม’ นั่นเอง”เฟิ่งจิ่วเหยียนมีสีหน้าเรียบเฉย“หาจุดศูนย์กลางให้เจอก่อน”......ในแคว้นตงซานเหล่าแม่ทัพกล่าวกับถานไถเหยี่ยน: “ท่านกุนซือ เสบียงของพวกเราเหลือน้อยลงทุกทีแล้ว! เช่นนั้นจะทำอย่างไรกันดี?”ถานไถเหยี่ยนย้อนถาม: “คนเพียงเท่านี้ จะไม่พอกินได้อย่างไร?”“ถึงแม้พวกเราจะมีคนน้อย ทว่าก็มาอยู่ที่แคว้นตงซานได้หลายเดือนแล้ว อีกทั้ง...อีกทั้งก็ยังมีการเผาเมือง เสบียงจึงไม่ได้เก็บไว้แม้แต่น้อย”แม่ทัพผู้นั้นพูดจบ ก็เสนอขึ้นว่า “ท่านกุนซือ ท่านราชครูมิใช่กำลังจะนำทหารห้าหมื่นนายมาแล้วหรอกหรือ? มิสู้ส่งจดหมายไปแจ้งเขา ให้เขานำเสบียงมาเพิ่มอีกหน่อย?”ถานไถเหยี่ยนไม่ได้คัดค้าน“ได้ ใครก็ได้ นำหมึกกับพู่กันมาที”อีกด้านหนึ่งที่คุกหลวงฮ่องเต้ถูกคุมขังอยู่ พร้อมทั้งด่าทอหยวนจั้นว่าเป็นคนทรยศต่อแผ่นดินทุกวันหยวนจั้นจะมาเยี่ยมเยียน และนำอาหารมาส่งให้ด้วยตนเองฮ่องเต้ก็ทรงทราบว่า หยวนจั้นเกลียดตนเอง
เวยเฉียงเป็นห่วงสุขภาพของพี่หญิง เหนือกว่าทุกสิ่งนายหญิงเฟิ่งก็เช่นเดียวกัน พยายามเกลี้ยกล่อมนางให้พักฟื้นอีกสักระยะทว่า เรื่องที่เฟิ่งจิ่วเหยียนตัดสินใจแล้ว พวกนางก็ไม่อาจเกลี้ยกล่อมได้บุตรชายสองคน นางจะทิ้งไว้ที่แคว้นซีหนี่ว์หากหนานฉีพ่ายแพ้จริง ๆ มือของถานไถเหยี่ยนคงเอื้อมมาไม่ถึงแคว้นซีหนี่ว์ในทันที เด็กทั้งสองยังพอมีโอกาสหนีเอาชีวิตรอดได้เหล่าองครักษ์ที่ติดตามนางมายังแคว้นซีหนี่ว์ ทุกคนก็ถูกทิ้งไว้เพื่อปกป้ององค์ชายทั้งสองนางพาอู๋ไป๋ไปเพียงคนเดียวเท่านั้นแม้พี่หญิงจะไม่ได้เปิดเผยสิ่งใด แต่เฟิ่งเวยเฉียงก็พอรับรู้ได้ถึงความหวาดหวั่นคล้ายสถานการณ์ตึงเครียดบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นครั้นถึงเวลาจากลา เฟิ่งเวยเฉียงจึงเอ่ยถาม“พี่หญิง หนานฉีจะโจมตีแคว้นตงซานแล้วใช่หรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้ตอบอย่างชัดเจน เพียงแต่กำชับนาง“ต้องทุ่มเทสุดความสามารถของเจ้า เพื่อปกป้องแคว้นซีหนี่ว์ไว้“มันไม่เพียงเป็นคำฝากฝังของเสด็จป้า แต่ในใต้หล้านี้ ที่นี่ยิ่งเป็นแผ่นดินที่เป็นของสตรีโดยเฉพาะ”เฟิ่งเวยเฉียงพยักหน้า“ข้ารู้ ความหมายของพี่หญิง ข้าเข้าใจทุกอย่าง!“พี่หญิง ข้าจะปกป้องอ
ในแคว้นตงซานถานไถเหยี่ยนกำลังฟังรายงานจากทหาร“ท่านกุนซือ! กองทัพฉียึดครองหนานเจียงแล้ว ท่านอ๋อง...เขาถูกสังหารแล้ว!”เมื่อแม่ทัพคนอื่น ๆ ได้ยินข่าวต่างก็โศกเศร้า“ท่านกุนซือ! พวกเราต้องล้างแค้นให้ท่านอ๋อง!”“ท่านกุนซือ โปรดอนุญาตให้ข้านำทัพกลับหนานเจียง และสังหารกองทัพฉีเหล่านั้นให้สิ้นซาก!”พวกเขาล้วนเป็นชาวหนานเจียง ไม่อาจทนเห็นกองทัพฉียึดครองแคว้นของตนได้ยอมละทิ้งการคุ้มกันแคว้นตงซาน ก็ต้องกลับไปถานไถเหยี่ยนนั่งอยู่ประจำที่ ด้วยแววตาโศกเศร้า“เป็นข้าที่วางแผนผิดพลาด ประเมินกำลังรบของกองทัพฉีต่ำเกินไป”แม่ทัพผู้หนึ่งในนั้นถามว่า“ท่านกุนซือ ท่านว่าพวกเราควรจะทำอย่างไรต่อไป? ข้าเชื่อฟังท่านทุกอย่าง!”เขาเชื่อมั่นว่า ถานไถเหยี่ยนจะนำพวกเขากลับไปสู้รบที่หนานเจียง และชิงแผ่นดินที่เสียไปกลับคืนมาได้ทว่า ถานไถเหยี่ยนเอ่ยต่อทันที“หยุดเคลื่อนทัพ ถึงจะเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุด”เหล่าแม่ทัพมองหน้ากันด้วยความงุนงง จากนั้นก็พากันโต้แย้ง“ไม่ได้นะท่านกุนซือ! ก็เห็นอยู่ว่ากองทัพฉียึดครองแผ่นดินเรา เหตุใดถึงไม่ตอบโต้?”ถานไถเหยี่ยนสั่งการโดยไม่เปิดโอกาสให้หารือ“พวกเรามีกำลังทห