공유

บทที่ 859

작가: อี้ซัวเยียนอวี่
เมืองหลวง

เวลานี้หอวั่งเจียงมีความคึกคักเป็นพิเศษ

เซียวอวี้มิอาจจัดงานเลี้ยงขอบคุณแก่กองทัพอินทรีเหินในพระราชวังได้อย่างเปิดเผย ด้วยกลัวผู้คนจะรู้ว่าฮองเฮาตั้งครรภ์เท็จ และแท้จริงออกไปทำภารกิจลับที่แคว้นซีหนี่ว์

ยามนี้จำต้องให้พวกเขาอดทนหน่อย โดยจัดงานเลี้ยงฉลองนอกพระราชวังเท่านั้น

ที่ชั้นล่างมีโต๊ะหลายสิบตัว ล้วนมีเหล่ากองทัพอินทรีเหินนั่งอยู่ทุกโต๊ะ

เหล่าองครักษ์เงานั่งอยู่เต็มทั้งสองโต๊ะ

หาได้มีผู้ใดสนใจหยิ่นฉีไม่

เป็นเพราะเขาสมควรได้ถูกทุบตีเหลือเกิน ตลอดการเดินทาง พู่กันด้ามนั้นมิเคยหยุดเคลื่อนไหวเลย

หยิ่นฉีรู้สึกน้อยใจยิ่งนัก

เขาเป็นผู้จดบันทึกภารกิจของฮองเฮาแท้ ๆ แต่เขายังเป็นผู้ที่ถูกทุบตี

ตอนนี้เขาได้เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว การเป็นผู้บันทึกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์นั้นมิง่ายเลย

หลังจากนี้หน้าที่อันเป็นปฏิปักษ์ต่อผู้คนนั้น....เขายังต้องทำ!

ณ ห้องส่วนตัวบนชั้นสอง

เฉินจี๋ยืนอารักขาอยู่ด้านนอก

ในห้องส่วนตัว ฮ่องเต้ฮองเฮากำลังนั่งรับประทานอาหารอย่างสงบสุขกันเพียงลำพัง

มองออกไปไกลเห็นแม่น้ำ ทิวทัศน์ยอดเยี่ยมนัก

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 860

    “ฮองเฮา นี่เจ้าจะทำอันใด” เซียวอวี้รีบประคองเฟิ่งจิ่วเหยียนขึ้นมาทันที นางกลัวเขาจะลงโทษกองทัพอินทรีเหิน หรืออยากให้เขาลงโทษกันแน่? ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร ก็ไม่ควรนอบน้อมเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ยอมลุกขึ้น นางยังอยู่ในท่าแสดงความเคารพ และเอ่ยด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “ฝ่าบาท ได้โปรดอนุญาตให้กองทัพอินทรีเหินกลับคืนสู่ค่ายเป่ยต้าด้วยเพคะ” เซียวอวี้ย่นคิ้วเบา ๆ เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่า นางจะทำเพื่อเหตุผลนี้ เซียวอวี้ประคองใต้ศอกของเฟิ่งจิ่วเหยียน เพื่อบอกให้นางอย่าได้มากพิธี เขากล่าวอย่างโล่งใจ “จิ่วเหยียน ระหว่างพวกเรา ไม่ต้องทำเช่นนี้เลย “หากเป็นเรื่องของกองทัพอินทรีเหิน ก็แค่เอ่ยมาตามตรง” เฟิ่งจิ่วเหยียนหยิบคำสั่งทหารออกมาอีกครั้ง นี่เป็นสิ่งที่เซียวอวี้มอบให้นางใช้ป้องกันตัว ก่อนจะออกเดินทางไปยังแคว้นซีหนี่ว์ นางเก็บรักษามันไว้อย่างดี ตอนนี้ได้กลับมาที่หนานฉีแล้ว ก็ควรจะคืนให้เขา ทว่า เซียวอวี้ไม่ยอมรับไว้ น้ำเสียงของเขาทุ้มลึก “สามีภรรยาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ทุกสิ่งของเรา ล้วนเป็นของเจ้า ไยจะต้องแบ่งแยกให้ชัดเจนเช่นนี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 861

    หลังจากเฟิ่งจิ่วเหยียนตอบตกลง ดวงตาเซียวอวี้ละลายไปด้วยความอบอุ่นเขาทำใจปล่อยมือนางไม่ได้ คว้าจับไว้แน่น“พรุ่งนี้เราจะประกาศเรื่องนี้”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาอย่างเรียบเฉย “ไม่ต้องร้อนใจขนาดนี้ สี่ชายแดนแคว้นหนานฉีตอนนี้ยังไม่สงบ รับมือกับศัตรูก่อน”เซียวอวี้พยักหน้า “เจ้าพูดถูก เช่นนั้นพวกเรา ทานข้าวกันก่อน?”นางเหนื่อยล้าจากการเดินทาง จะต้องไม่ได้ทานอิ่มสักมื้อแน่เฟิ่งจิ่วเหยียนหิวแล้วจริง ๆ นางก้มศีรษะมองมือขวาของตนเอง “ท่านจับมือของหม่อมฉันไว้ จะให้หม่อมฉันใช้ตะเกียบอย่างไร?”เซียวอวี้ยิ้มหัวเราะ “เราป้อนเจ้า”“อย่าเลย ให้หม่อมฉันทานเองเถอะเพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบแกะนิ้วของเขาออก พร้อมพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง……ก่อนกลับวัง เฟิ่งจิ่วเหยียนยังมีเรื่องต้องจัดการชานเมือง ในบ้านไร่แห่งหนึ่งภายในลานวุ่นวาย สุนัขไล่ไก่ ไก่บิน ไข่ไก่แตกเด็กอายุประมาณสิบขวบดูเหมือนผู้ใหญ่ตัวน้อย นั่งสานตะกร้าไม้ไผ่อยู่ตรงมุม มีหนังสือเล่มวางอยู่บนพื้นเขาทำสองอย่างพร้อมกัน ดูเหมือนเป็นคนขยันชอบเรียนหนังสือคนนี้คือจางโก่วตั้น ชื่อจริงจางฉวนเขาเห็นมีคนมา ก็ตื่นตัวขึ้นมาทันที วางตะกร้า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 862

    หลังจากเฉินจี๋ไปแล้ว จางฉวนอดกลั้นน้ำตาแห่งความตื่นเต้นไว้ พร้อมวิ่งเข้าไปในบ้านสตรีที่นอนอยู่บนเตียง ราวกับศพร่างหนึ่ง หลับตานอนราบ ไม่ขยับเขยื้อน แม้แต่ตาก็ปิดอยู่หากไม่ใช่เพราะนางยังหายใจอยู่ ก็ไม่แตกต่างอะไรกับคนตายเสี่ยวจางฉวนคุกเข่าอยู่ข้างเตียง จับมือของแม่ อดกลั้นน้ำตาเอาไว้“ท่านแม่ ข้าจะได้เข้าสถาบันทางการทหารแล้ว” “ต่อไปราชสำนักจะจ่ายเบี้ยหวัดให้ข้าทุกเดือน ข้าก็จะมีเงินซื้อยาให้ท่านแล้ว!”แม่ป่วยมานานหลายปี ลำบากที่ไม่มีเงินรักษามาตลอดเขาอยากเข้าร่วมการจัดสอบคัดเลือกช่วงวสันต์ อยากเป็นขุนนาง ก็เพื่อเก็บเงินรักษาอาการป่วยของแม่เพราะการเรียนหนังสือสอบบรรจุ เป็นทางออกทางเดียวของเขาทั้งที่เข้าร่วมการจัดสอบคัดเลือกช่วงวสันต์ในปีนี้มีความหวัง ฮ่องเต้กลับเลื่อนเวลาสอบมาล่วงหน้า! เขาจึงเกลียดชังฮ่องเต้อย่างมาก จึงเขียนบทกวีปริศนาก่นด่าฮ่องเต้ระบายอารมณ์เดิมโคมลอยล้วนถูกขายกระจัดกระจายออกไป ไม่มีคนพบบทกวีที่เชื่อมต่อกัน สุดท้าย...คืนวันเทศกาลชีซี เขาถูกมือปรามจับตัว ติดคุกหลายวัน เขาเสียใจอย่างมาก อย่างไร เขาถูกจับ ก็ไม่มีคนดูแลแม่แล้วหลังจากกลับบ้าน เขายังกลัว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 863

    รู้ว่าอู๋ไป๋ตกอยู่ในมือของแคว้นตงซาน ท่าทีเฟิ่งจิ่วเหยียนกลายเป็นเยือกเย็นขึ้นมาทันที เซียวอวี้จับมือของนางอย่างแผ่วเบา“เราไม่ได้บอกเจ้าตั้งแต่แรก เพราะกลัวเจ้า...”“เขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขัดจังหวะขึ้นมา พร้อมถามตามตรง เซียวอวี้พูดปลอบโยน “จากข่าวที่ได้มาในตอนนี้ เขาเพียงถูกล้อมไว้ คนน่าจะยังมีชีวิตอยู่ เจ้าวางใจ เราได้ส่งคนไปช่วยเหลือแล้ว เชื่อว่าไม่ช้าก็จะช่วยคนออกมาได้”“อู๋ไป๋รอไม่ไหว” สีหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนตึงเครียดนางลุกขึ้นมา หันไปพูดกับเซียวอวี้ “วิธีที่รวดเร็วที่สุด คือไปหาถานไถเหยี่ยน”ในวันเดียวกันฮ่องเต้รับสั่งให้ถานไถเหยี่ยนเข้าวังด่วนเขาเข้ามาในห้องทรงพระอักษร เห็นฮองเฮาก็อยู่ด้วยเพราะกำลังตั้งครรภ์ ท้องน้อยนูนเล็กน้อยเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่เคยเป็นคนท้อง แต่ก็เคยเห็นมาไม่น้อยยามนี้นางเลียนแบบรูปร่างของคนท้องได้อย่างแม่นยำ ท่าทีผ่อนคลาย หากคอยห่วงใยลูกในครรภ์อยู่ตลอดเวลา ถานไถเหยี่ยนถวายความเคารพฮ่องเต้กับฝ่าบาทหลายวันก่อน เขาตามหา “ใยแมงมุม” ที่เหลือมาตลอด ร่วมมือกับตงฟางซื่อได้เป็นอย่างดีสองวันนี้กลับมาเมืองหลวง มาเอายาถอนพิษยาส

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 864

    เทียนยาวลุกไหม้ตลอดคืน ในตำหนักหย่งเหอเต็มไปด้วยความรักไร้การหลับไหลทั้งคืนวันรุ่งขึ้น ครั้นเซียวอวี้ตื่นขึ้นมา มองไปที่คนยังนอนหนุนแขนตนเอง ด้วยสีหน้าอิ่มเอม ก้มศีรษะจูบแก้มนาง แล้วก็ปัดไรผมบนหน้าผากนางที่ยุ่งเหยิง จับจ้องนางอย่างรักใคร่เมื่อคืนเหน็ดเหนื่อยครึ่งค่อนคืน ดึกมากแล้วเฟิ่งจิ่วเหยียนค่อยนอนหลับไม่ง่ายที่จะได้ผ่อนคลาย วันนี้นางนอนจนตะวันโด่งฟ้าหว่านชิวเดินเข้ามาในตำหนัก ยกน้ำร้อนมาคอยปรนนิบัติฮองเฮาล้างหน้าแต่งตัว“ฮองเฮา หมอหลวงเจิ้งขอเข้าเฝ้าเพคะ รออยู่ด้านนอกเป็นเวลานานแล้วเพคะ”เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้า นวดเอวที่ปวดเมื่อยเวลาผ่านไปสองเค่อ หมอหลวงเจิ้งถูกพาเข้ามาเขาถวายความเคารพ “กระหม่อมถวายบังคมฮองเฮา”เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งบนตำแหน่งประมุข น้ำเสียงอ่อนโยน“หมอหลวงเจิ้งมาหาข้าอย่างรีบเร่ง มีเรื่องสำคัญอันใด?”“กระหม่อมมีเรื่องหนึ่งจริง วันนี้ได้กราบทูลรายงานฝ่าบาทแล้ว ฝ่าบาทยุ่งกับงานราชกิจ จึงให้กระหม่อมมายังตำหนักหย่งเหอ กราบทูลรายงานฮองเฮาโดยตรงอีกครั้ง” หมอหลวงเจิ้งอายุมากแล้ว เส้นผมเป็นสีขาวหมดแล้วทว่าทั่วทั้งสำนักหมอหลวง ด้านทักษะทางการแพทย์ ไม่มีผู้ใ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 865

    ภายใต้สายตาเร่าร้อนของเซียวอวี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนเปิดกล่องผ้าแพรข้างในมีมีดทองเล่มหนึ่ง ยังมีจดหมายลายพระหัตถ์ของประมุขแคว้นซีหนี่ว์หนึ่งฉบับเซียวอวี้ยังไม่ดูจดหมาย เมื่อเห็นมีดทองเล่มนั้น สีหน้าพลันเปลี่ยนไปมีดทองเป็นสิ่งของมีเฉพาะราชวงศ์แคว้นซีหนี่ว์ ใช้สำหรับมอบให้ผู้มีพระคุณ คนรู้ใจ และใช้เป็นสินสอดสู่ขอนี่ประมุขแคว้นซีหนี่ว์หมายความว่าอย่างไร!เซียวอวี้แสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจ ความจริงลูกตาเอียงไปด้านข้าง จ้องมองทางด้านเฟิ่งจิ่วเหยียนเฟิ่งจิ่วเหยียนเปิดจดหมาย เมื่ออ่านจบแล้ว ก็เก็บพับไว้ครั้นเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นสายตาไม่พอใจของเซียวอวี้“ท่านอยากดู?”เซียวอวี้นั่งตัวตรง: “ก็ไม่ได้อยากดูขนาดนั้น”เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ความคิดในใจเขาเป็นอย่างดี จึงอธิบาย“ประมุขแคว้นมอบมีดทอง เพื่อขอบคุณที่หม่อมฉันช่วยสงบศึกวุ่นวายภายใน”สีหน้าเซียวอวี้ทำเป็นไม่ใส่ใจ“เรารู้“เจ้าเป็นฮองเฮาของเรา ยังเป็นสตรี ประมุขแคว้นซีหนี่ว์มอบมีดทอง คงเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นสินสอด เรามีอันใดต้องคิดมาก”เฉินจี๋ที่อยู่ด้านข้างพูดเสริมขึ้นมา“ฝ่าบาท ท่าทีกระหม่อมทราบ ประมุขแคว้นซีหนี่ว์ท่านนั้นชอบทั้งชายและ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 866

    หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยามอาภรณ์อัปลักษณ์ในตำหนักจื้อเฉิน ถูกเฟิ่งจิ่วเหยียนโยนทิ้งไปทั้งหมดต่อให้เป็นเช่นนี้ อารมณ์ของนางก็ยากที่จะสงบสตรีปกติคนไหนสามารถรับได้ ผู้ชายของตนเองแต่งตัวราวกับหนุ่มน้อยยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นถึงจักรพรรดิตอนที่นางโยนเสื้อผ้า จักรพรรดิหนุ่มก็ตามอยู่ข้างหลังนาง ราวกับเด็กน้อยที่ทำอะไรผิด จนทำอะไรไม่ถูก“จิ่วเหยียน ชุดนี้ดีอยู่นะ...”“ฮองเฮา มิต้องโยนแล้ว ตัวนี้เราชอบมาก”“ตัวนี้โยนไม่ได้ เจ้าเคยพูดว่า ชอบดูเราสวมใส่...”แต่แล้ว ไม่ว่าเขาจะพูดอย่างไร ที่ควรทิ้งก็ยังคงทิ้งเฟิ่งจิ่วเหยียนโกรธมาก ถอดที่เขาสวมใส่อยู่ออกมาด้วยตนเองต่อให้เป็นเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ยังคงไม่สามารถระงับความโกรธได้นางเดินมาถึงด้านนอกตำหนัก กวาดสายตามอง แส้สีแดงในมือหลิวซื่อเหลียงหลิวซื่อเหลียง: แววตาของฮองเฮา น่ากลัวมาก...เฟิ่งจิ่วเหยียนแย่งเอาแส้นั้นมา“หัวมงกุฎท้ายมังกร! ข้าไม่เคยเห็นแส้สีแดง! อันนี้ก็เผาไปเสีย! !”หลิวซื่อเหลียงคุกเข่าลง “ตุบ” ปากตะโกนว่า“ฮองเฮา เผามิได้พ่ะย่ะค่ะ! ฝ่าบาทตรัสว่า นี่เป็นสิริมงคล...”ในใจกลับคิดว่า: เผาได้ดี! ฮองเฮาต่างหากที่เ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 867

    แต่ละแคว้นโจมตีแคว้นหนานฉี ภัยพิบัติครั้งนี้ รุนแรงยิ่งกว่าตอนที่เซียวอวี้เพิ่งครองราชย์ หลายแคว้นร่วมมือกันโจมตีแคว้นหนานฉีเหล่าขุนนางต่างมองหน้ากันต่อให้มีการเตรียมการปกป้องแล้ว ทว่า วันนี้ก็มาถึงเร็วเกินไปเซียวอวี้สมกับที่เป็นจักรพรรดิแห่งแผ่นดิน ศัตรูมาขวางหน้า ไม่มีความกระสับกระส่ายแม้เพียงนิดเขามีรับสั่งอย่างสุขุมใจเย็น“เฝ้าปกป้องสี่ชายแดนอย่างเข้มงวด เตรียมเสบียงอาหาร เตรียมปืนหอกไฟ!”“พ่ะย่ะค่ะ!”ยามนี้ ชายแดนแคว้นหนานฉี กองทัพแต่ละแคว้นรวมตัวกันชายแดนเหนือมีเป่ยเยี่ยน ตลอดจนสามแคว้นเล็กที่อยู่ภายใต้เป่ยเยี่ยนชายแดนตะวันออกมีแคว้นต้าเซี่ยเป็นผู้นำรวบรวมกองกำลังพันธมิตรสี่แคว้นชายแดนใต้ ทหารพันธมิตรที่เมื่อไม่นานถูกโจมตีล่าถอยหวนกลับมา ยังมีแคว้นหนานชางที่พักฟื้นมาหลายปี มีทหารม้าเป็นจำนวนมากรวมอยู่ด้วยชายแดนตะวันตกก็มีสองแคว้นเล็ก รวบรวมกำลังทหาร ทั้งหมดสามหมื่น ยังมีกองทัพหกหมื่นนายของแคว้นซีหนี่ว์ติดตามอยู่ข้างหลังพวกเขาเคลื่อนทัพมายังสี่ชายแดนแคว้นหนานฉี ทำการโอบล้อม มากันอย่างดุเดือดเหล่าทหารที่เฝ้าปกป้องชายแดน ไม่เคยเห็นเช่นนี้แคว้นใหญ่เล็กนับรวมก

최신 챕터

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1214

    เฉินจี๋ได้รับการช่วยเหลือจากนายพรานผู้หนึ่ง ด้วยอาการบาดเจ็บรุนแรง กระทั่งตอนนี้ก็ยังหมดสติอยู่นี่จึงไม่น่าแปลกใจที่เขายังไม่ปรากฏตัว ที่แท้เป็นเพราะร่างกายไม่อาจเคลื่อนไหวได้นายพรานรู้ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนกับคณะรู้จักกับเฉินจี๋ จึงรู้สึกโล่งใจ“ข้าลำบากใจจริง ๆ เพราะคิดว่านี่คือชีวิตคนคนหนึ่ง จึงไม่อาจทอดทิ้งได้ ทว่าจะรักษาอาการบาดเจ็บของเขา ข้าก็ต้องใช้เงิน...”ไม่รอให้นายพรานพูดจบ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ส่งสัญญาณให้อู๋ไป๋นำเงินให้อู๋ไป๋ถนัดการจัดการเรื่องต่าง ๆ สักพักก็เริ่มคุ้นเคยกับนายพราน และเอ่ยขอบคุณอย่างสนิทสนม“พี่ชาย ขอบคุณจริง ๆ ที่เจ้าช่วยสหายข้าไว้! เงินเล็กน้อยนี้ไม่พอจะทดแทนคำขอบคุณได้! ใช่แล้ว เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่า เจอสหายข้าที่ใด แล้วเขาได้รับบาดเจ็บอย่างไร? และเจอคนที่น่าสงสัยคนอื่นหรือไม่?“เจ้าอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ข้าเพียงแค่อยากรู้ให้ชัดเจน ว่าผู้ใดทำร้ายสหายข้า บาปมีคนก่อหนี้ย่อมมีเจ้าหนี้”คำพูดของอู๋ไป๋ ล้วนเป็นความรู้สึกตามธรรมชาติของคนนายพรานลองคิดทบทวนอย่างละเอียดรอบหนึ่ง“ข้าช่วยเขาตรงริมแม่น้ำ ตอนนั้นไม่พบผู้อื่น ขอโทษจริง ๆ ที่ข้าช่วยพวกท่านไม่ได้”“

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1213

    ปลายเดือนสิบสอง ปีใหม่ใกล้เข้ามาเส้นทางมุ่งหน้าไปทางเหนือเต็มไปด้วยน้ำแข็ง การเดินทางนั้นยากลำบากเฟิ่งจิ่วเหยียนในช่วงอยู่ไฟมิได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ ตอนนี้ยังต้องเดินทางท่ามกลางพายุหิมะอีก จึงมักจะปวดเมื่อยเอว และเหงื่อออกมากอยู่บ่อย ๆในช่วงกลางคืนเข้านอน ก็มักรู้สึกเย็นที่ไหล่ และหนาวอย่างรุนแรงอู๋ไป๋เห็นสีหน้าของนางไม่สู้ดีนัก จึงเตือนนาง“นายท่าน ไม่สู้ให้หมอมาตรวจดูบ้าง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบร้อนจะตามหาคน จึงไม่อยากล่าช้าครั้งนี้อู๋ไป๋ยืนหยัดอย่างเต็มที่“นายท่าน ต่อให้ท่านไม่คำนึงถึงตนเอง ก็ควรนึกถึงฝ่าบาท หากท่านเจ็บป่วย จะยิ่งไม่ล่าช้ามากกว่าหรอกหรือ?”เขาเอ่ยเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเริ่มลังเลก็จริงหากนางเจ็บป่วยจนลุกไม่ขึ้น ก็จะไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียไปตรงชายแดนหนานฉี เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ไปที่สำนักการแพทย์แห่งหนึ่งหลังจากหมอจับชีพจรของนาง ก็เอาแต่ส่ายหัว“ฮูหยินท่านนี้ ท่านมีภาวะร่างกายไม่สมดุลหลังคลอด จึงเป็นต้นเหตุเกิดโรคเรื้อรัง“อาการปวดตามข้อเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในระยะนี้ที่ฝนหิมะรุนแรง แน่นอนว่าย่อมไม่สบายตัว“ในยามปกติรู้สึกว่าไม่เป็นไร ทนหน่อยก็ผ่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1212

    บนบัลลังก์มังกร เซียวถงเต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณของจักรพรรดิ “เรารับพระราชโองการจากเสด็จอา มาทำหน้าที่รักษาการแทนตำแหน่งฮ่องเต้ชั่วคราว ทุกท่านมีเรื่องใดก็เสนอได้”เหล่าขุนนางในราชสำนักมองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงงบางคนถึงกับสงสัยว่าเซียวถงแย่งชิงบัลลังก์ทว่าคิดดูอีกที ฮองเฮาทรงมีทักษะเพียงนั้น ผู้ใดจะกล้าแย่งชิงบัลลังก์?ณ วังหลังเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกอาวรณ์อย่างยิ่งที่จะกล่าวอำลาต่อบุตรทั้งสองพวกเขายังคงนอนหลับอยู่ ใบหน้าขณะหลับดูสงบนิ่งเป็นพิเศษ นางจุมพิตบนหน้าผากของพวกเขา หัวใจราวกับถูกบีบเข้าหากันสาวใช้หว่านชิวรู้สึกเศร้าใจ “ฮองเฮา จักต้องเสด็จไปให้ได้หรือเพคะ?”ฮองเฮาทรงตัดใจจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตนได้อย่างไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่นการไปของนางครั้งนี้ จะมีชีวิตอยู่หรือตายยังไม่แน่นอนการพาบุตรทั้งสองคนไปด้วย หนึ่งจะเป็นภาระให้กับนาง สองอาจจะนำภัยอันตรายถึงแก่ชีวิตมาให้พวกเขาการแยกจากบุตร ย่อมต้องทุกข์ใจอยู่แล้ว ทว่าหากให้นางกับลูกรออยู่ในวัง และทนทรมานกับการรอฟังข่าว นางยิ่งไม่ยินยอม“ฮองเฮา หนิงเฟยมาถึงแล้วเพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบปรับอารมณ์ทันที และเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1211

    ที่ดินที่โซ่วอ๋องได้รับมอบไม่ถือว่าไกลจากเมืองหลวงมากนัก หลังจากได้รับคำสั่งจากฮองเฮา ซื่อจื่อเซียวถงก็ออกเดินทางภายในวันเดียวกันห้าวันต่อมา เซียวถงก็มาถึงพระราชวัง และตรงไปยังห้องทรงพระอักษรเพื่อเข้าเฝ้าครั้งล่าสุดที่เขามาเมืองหลวง ก็คือเมื่อสามปีก่อน ช่วงที่เกิดความวุ่นวายในวิหารบรรพบุรุษ เขาได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากฮ่องเต้ ให้ขึ้นครองบัลลังก์ชั่วคราว เพื่อหลอกลวงพรรคเทียนหลงกับกองทัพศัตรูให้สับสนในตอนนั้นเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก พระราชโองการพินัยกรรมของฝ่าบาท ได้แต่งตั้งให้เขาเป็นว่าที่จักรพรรดิครั้งนี้ฮองเฮาทรงเรียกเขามา ไม่รู้ว่ามาเพราะเรื่องใดทว่าก็รู้สึกอยู่ลึก ๆ ว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับพระราชโองการพินัยกรรมก่อนที่เขาจะมาเมืองหลวง ท่านพ่อก็ยังเตือนเขาว่า ตอนนี้ฮองเฮาทรงประสูติองค์ชายแล้ว เช่นนั้นเขาที่เคยเป็นคนที่อ้างถึงในพระราชโองการพินัยกรรม ก็เท่ากับเป็นตัวขัดขวางขององค์ชายดังนั้น การมาเมืองหลวงครั้งนี้ ก็เสี่ยงอันตรายอย่างมากในใจของเซียวถงเต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย ทว่าสีหน้ายังคงสงบนิ่ง ไม่ถือตัวไม่ถ่อมตนเกินพอดีแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยสนใจตำแหน่งฮ่องเต้ แล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1210

    วันต่อมา องค์หญิงเซี่ยนอี๋เสด็จมาพบองค์ชายสี่ด้วยพระองค์เององค์ชายสี่ทรงยิ้มแย้ม ทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น“แขนของน้องหญิงเป็นอย่างไรบ้าง?”องค์หญิงเซี่ยนอี๋โมโหจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่“เหตุใดเสด็จพี่ต้องขัดขวางข้า!”รอยยิ้มขององค์ชายสี่เลือนหายไป และตอบอย่างมีเหตุมีผล“เซี่ยนอี๋ ข้าคิดว่าเจ้าแค่พาลไร้เหตุผล นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะโง่เขลาเพียงนี้ เจ้าคิดได้อย่างไรที่จะวางยาผู้อื่น แล้วบังคับขืนใจเขา?“หากเจ้าพลีกายให้กับฮ่องเต้ฉี แล้วจะให้ข้าทูลเสด็จพ่ออย่างไร?“คืนก่อนเจ้าเกือบจะแขนหักไปข้างหนึ่ง ก็น่าจะจำเป็นบทเรียนได้แล้วกระมัง”เซี่ยนอี๋รู้ตัวว่าทำผิดทว่าเรื่องที่นางยังทำไม่เสร็จสิ้น จะไม่ยอมแพ้และเลิกล้มเช่นนี้“หากข้าได้เป็นฮองเฮาของหนานฉี หนานฉีก็จะไม่เล่นงานเป่ยเยี่ยนอีก นี่ไม่ดีหรอกหรือ?”องค์ชายสี่แย้มพระสรวล“เซี่ยนอี๋ หากเสด็จพ่อได้ยินคำพูดนี้ของเจ้า เกรงว่าจะต้องถูกลงโทษสถานหนัก“การเกี่ยวดองของสองแคว้น เดิมทีไม่อาจหยุดยั้งความโหดเหี้ยมของหนานฉีได้“เจ้าจะทำให้ตนเองเสียหายโดยเปล่าประโยชน์ และถูกผู้อื่นหัวเราะเยาะ“บุรุษดี ๆ ในเป่ยเยี่ยนของเรามีมากมาย เหตุใดเจ้าต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1209

    ช่วงหลายวันที่เซียวอวี้ถูกขังอยู่ในคุกลับ หาได้นั่งนิ่งรอความตายไม่ จากการสังเกตของเขา องค์ชายสี่แห่งเป่ยเยี่ยนมิได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เยี่ยน แต่กลับเป็นหินที่ไว้ปูทางเดิน เพื่อผลักดันความทะเยอะทะยานให้องค์ชายเจ็ด หากสามารถโน้มน้าวใจองค์ชายสี่ได้ เขาก็จะหนีออกจากที่นี่ได้ กระนั้น องค์ชายสี่ของเป่ยเยี่ยนไม่โง่ ทันทีที่เขาได้ยินคำพูดของเซียวอวี้ ก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการชนะใจตน เพื่อยุแยงเขากับเจ้าเจ็ด รวมถึงตัวเขาและเสด็จพ่อด้วย “ฮ่องเต้ฉี ยิ่งพูดยิ่งพลาด ท่านตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ควรพูดให้น้อยลงจะดีกว่า” องค์ชายสี่พูดจบก็คิดจะเดินจากไป จู่ ๆ เซียวอวี้หัวเราะเยือกเย็นขึ้นมา “ในเวลาหนึ่งเดือน ฮ่องเต้เยี่ยนจะแต่งตั้งองค์ชายเจ็ดเป็นองค์รัชทายาท” องค์ชายสี่หยุดชะงัก ฮ่องเต้ฉีมั่นใจขนาดนั้นเชียวหรือ? ตำแหน่งองค์รัชทายาทนั้นเย้ายวนใจนัก องค์ชายสี่ต้องหันกลับมา พิจารณาเซียวอวี้อีกครั้ง เขาหาได้รุกถามใด ๆ ไม่ เพียงรอให้เซียวอวี้พูดต่ออย่างเงียบ ๆ เซียวอวี้ไม่ทำให้ผิดหวัง เอ่ยอย่างไม่รีบร้อน “กองทัพเยี่ยนเดินทัพลงใต้ เพื่อพิชิตแ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1208

    ในคุกลับ เซียวอวี้กินอาหารตามปกติ ไม่นานก็รู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกาย เขาตระหนักได้ทันที มันเป็นฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด! ดวงตาเย็นชาของเขามืดลง ความโกรธพลุ่งพล่านขึ้นมา ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า เป็นฝีมือของผู้ใด จริงตามคาด เพียงไม่นาน องค์หญิงเซี่ยนอี๋ก็มาที่คุกลับ คืนนี้นางแต่งกายอย่างพิถีพิถัน สวมอาภรณ์สีสันสดใส ประทินโฉมประณีตงดงาม สายตาเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและความต้องการครอบครอง นางมองใบหน้าที่แดงเพราะฤทธิ์ยาของเซียวอวี้ รู้สึกปรีดาบนความทุกข์ของผู้อื่น “สิ่งใดที่ข้าอยากได้ ไม่มีคำว่าไม่ได้!” เซียวอวี้พยายามสงบจิตใจอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ถูกควบคุมโดยฤทธิ์ยา เขาไม่กล้าคิด หากสัมผัสผู้หญิงคนอื่นแล้ว เขาจะเผชิญหน้ากับจิ่วเหยียยอย่างไรในอนาคต ให้ตาย! เขาอยากจะฆ่าคน ทว่ากลับสูญเสียกำลังภายในทั้งหมด แม้คุกลับจะคุมขังผู้คนไว้มากมาย แต่ห้องขังของเซียวอวี้อยู่ในจุดที่ลับตาคน และเป็นเอกเทศ องค์หญิงเซี่ยนอี๋จึงไม่กลัวที่จะมีคนมารบกวน นางปลดอาภรณ์ชั้นนอกของตนออก หัวเราะอย่างหยาบคาย “ฮ่องเต้ฉี ข้ารอให้เจ้าขอร้องข้าอยู่” ถูกฤ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1207

    ตำหนักหย่งเหอ เมื่อไทเฮาและหนิงเฟยมาถึง กลับไม่เห็นฮองเฮา เด็กทารกน้อยร้องไห้ระงมราวกับหัวใจจะแตก แม้พวกนางได้ยินแล้วยังรู้สึกปวดใจนัก หมอหลวงกำลังถวายโอสถให้องค์ชายน้อย ปริมาณยาทำให้คนเห็นแล้วอกสั่นขวัญแขวน หนิงเฟยขมวดคิ้ว อดไม่ได้ที่จะเตือน “พวกเจ้าระวังหน่อย! อย่าทำให้เด็กสำลัก!” ไทเฮาอดไม่ได้ที่จะตำหนิ “ฮองเฮาอยู่ที่ใด? นี่คือลูกชายแท้ ๆ ของนาง กลับทิ้งไว้แบบนี้รึ?” สาวใช้หว่านชิวตอบ “มีรายงานด่วนจากชายแดนเพคะ ฮองเฮาประทับที่ห้องทรงพระอักษร เพื่อหารือกับเหล่าแม่ทัพ...” ไทเฮาทนไม่ไหวอีกแล้ว น้ำเสียงจริงจังขึ้น “หารือตลอดทั้งวัน นางคิดถึงลูกชายทั้งสองบ้างหรือไม่? “คนหนึ่งถูกนางใช้เป็นเครื่องมือว่าราชการหลังม่าน อีกคนถูกนางทิ้งให้โดดเดี่ยวในวังหลัง นางทนได้อย่างไร!” ไทเฮาทราบดีว่าฮองเอามีราชกิจรัดตัว ทว่าเห็นเด็กน้อยที่น่าสงสารเช่นนี้ ก็อดจะทุกข์ใจมิได้ หว่านชิวไม่กล้าโต้แย้ง หนิงเฟยเกลี้ยกล่อม “ท่านป้าเพคะ ฮองเฮาต้องเห็นราชกิจสำคัญที่สุด ส่วนองค์ชายมีหมอหลวงถวายการดูแล เขาจะปลอดภัยแน่นอนเพคะ” ไทเฮามองทารกด้วยค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1206

    หลังจากที่ฮ่องเต้เยี่ยนได้ฟังคำขอของพระธิดา ก็หาได้ปฏิเสธทันทีไม่ ฮองเฮาของเซียวอวี้——เฟิ่งจิ่วเหยียน มิใช่สตรีธรรมดา สาเหตุที่เป่ยเยี่ยนพ่ายแพ้ต่อหนานฉีหลายครั้ง ล้วนมีฝีมือของสตรีคนนี้อยู่ในนั้น ถึงแม้เซี่ยนอี๋ไม่เอ่ย เขาก็ต้องการกำจัดเฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่แล้ว “ได้ พ่อรับปากเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋รู้สึกพอใจมาก “ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!” สิ่งใดที่นางไม่ได้ครอบครอง คนอื่นก็อย่าหวังจะได้ ทว่า ฮ่องเต้เยี่ยนยังไม่หายแคลงใจ เขาถาม “เรื่องในคุกลับนั้น ผู้ใดบอกเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋ยังมีจิตสำนึกอยู่ หาได้ทรยศองค์ชายสี่ไม่ “เป็น...เสด็จพี่เจ็ดเพคะ” สีหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนพลันมืดลง เจ้าเจ็ดนี่ เลอะเลือนเกินไปแล้ว! องค์หญิงเซี่ยนอี๋ขอร้อง “เสด็จพ่อ เสด็จพี่เจ็ดก็ถูกหม่อมฉันบังคับ ท่านอย่าตำหนิเขาเลย และอย่าบอกเขาด้วยว่า หม่อมฉันพูด มิฉะนั้นต่อจากนี้เขาคงไม่รักเอ็นดูหม่อมฉันอีกเพคะ” ใบหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนแสดงความอดกลั้นไม่ใส่ใจ “ได้ เราเข้าใจแล้ว”…… เมื่อองค์หญิงเซี่ยนอี๋ออกจากวังหลวง ก็ตรงไปที่คุกลับอีกครั้ง ครั้

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status