วันนี้พี่ชายพาเธอนั่งรถคันใหม่ออกมาจากบ้าน ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมที่บ้านถึงมีรถหลายคัน เพราะเขานั้นเป็นเจ้าของโชว์รูม และรถแต่ละคันก็มีแต่แพงๆ ทั้งนั้น อย่างรถเก๋งคันนี้ เธอพอจะเดาได้ว่าราคาของมันนั้นคงหลายล้านเลยทีเดียว
"ปีนี้เธออายุเท่าไหร่แล้ว" นั่นคือคำถามแรกของชายหนุ่ม เมื่อทั้งคู่นั่งรถออกมาจากบ้านได้สักพัก
"ขวัญอายุยี่สิบสามค่ะ" ขวัญข้าวตอบพี่ชายออกไป ขณะที่เธอนั้นไม่กล้าหันไปมองหน้าเขา เมื่อชายหนุ่มแต่งตัวด้วยเสื้อยืดกางเกงยีนแล้วใส่แจ็คเก็ตทับยิ่งทำให้เขานั้นดูดี ในเวลานี้หัวใจของเธอมันเต้นโครมคราม อย่างไม่เป็นจังหวะ เมื่อได้อยู่กับเขาสองต่อสองภายในรถแบบนี้
"อืม...แล้วเรียนจบอะไรมา" ชายหนุ่มถามในประโยคที่รู้อยู่แก่ใจ เมื่อเขารู้สึกชอบเวลาที่เธอตอบคำถาม ความใสซื่อของขวัญข้าว ผิดแปลกจากผู้หญิงทุกคนที่เดินเข้ามาในชีวิตของเขา เพราะหญิงสาวไม่มีมารยา เธอดูไร้เดียงสา และนั่นคือเหตุผลที่เขาไม่ค่อยชอบเวลาที่เพื่อนๆ เขาใกล้ขวัญข้าว เพราะกลัวว่าหญิงสาวจะตามเล่ห์เหลี่ยมของพวกผู้ชายไม่ทัน ทั้งที่เขาเองก็ใช่ย่อย คนที่ขวัญข้าวควรจะอยู่ให้ห่างๆ คือพี่ชาย ไม่ใช่ชาร์ลและเควิน
"ขวัญเรียนจบเศรษฐศาสตร์มาค่ะ" หญิงสาวตอบออกไปแต่ภายในใจของเธอนั้นได้แต่ภาวนาให้ถึงตลาดโดยเร็ว ขวัญข้าวรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก เมื่ออยู่กับเขาตามลำพังแบบใกล้ชิดอย่างนี้ ถามว่ารู้สึกดีไหมนั่นแหละที่เธอกำลังกลัว
"ตกลงอันดับแรกฉันจะให้เธอทำงาน เป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อ ทำได้ไหมมันขึ้นอยู่กับเธอ ถ้าทำไม่ได้ก็กลับบ้านไป" ขวัญข้าวรู้สึกน้อยใจในตัวของพี่ชายขึ้นมาในทันที เมื่อเธอยังไม่ได้ลงมือทำงานเขาก็ประเมินค่า และพูดในทำนองว่าเธอนั้นจะทำไม่ได้
หลังจากนั้นบทสนทนาระหว่างคนทั้งคู่ก็เงียบลงไป รถยนต์คันหรูวิ่งเข้ามาในห้างสรรพสินค้าที่ดูกว้างใหญ่ จนขวัญข้าวนั้นรู้สึกแปลกใจ เพราะนี่มันไม่ใช่ตลาดอย่างที่เธอตั้งใจเอาไว้ว่าจะมาตั้งแต่แรก
"ขวัญจะไปตลาดทำไมพี่พามาห้างละค่ะ" หญิงสาวยังคงทำหน้าบึ้งไม่ยอมลงไปจากรถ ที่สำคัญเธอนั้นเป็นคนประหยัด และไม่ชอบติดหรู ทั้งที่มารดาเลี้ยงเธอมาไม่ต่างจากลูกคุณหนู แต่ขวัญข้าวก็ทำตัวติดดิน นั่นคือสิ่งที่แม่เลี้ยงกวางกมลรู้สึกรักและประทับใจในตัวของขวัญข้าวเพิ่มขึ้น
"เธอจะไปทำไมตลาด ลงไปได้แล้ว" ชายหนุ่มพูดออกมาพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนจะเอ่ยถามขวัญข้าวออกมาอย่างแปลกใจ เมื่อเธอคือผู้หญิงคนแรกในชีวิตที่คิดจะพาเขาไปเดินตลาด
"พี่ไปทำธุระของตัวเองเถอะค่ะ ขวัญจะรออยู่ในรถ" ขวัญข้าวพูดพร้อมกับเอามือขึ้นมากอดอกเอาไว้ เพื่อยืนยันว่ายังไงเธอก็จะไม่ยอมเข้าไปในห้างสรรพสินค้าอย่างแน่นอน
"ธุระของฉันที่ไหนกันล่ะ ที่ฉันพามาห้างล้วนแต่เป็นธุระของเธอทั้งนั้น" คราวนี้ชายหนุ่มพูดพร้อมกับชักสีหน้าออกมาอย่างไม่พอใจ เมื่อขวัญข้าวนั้นเริ่มจะทำตัวเรื่องมากกับเขา ซึ่งอัครเดชนั้นไม่ชอบให้ใครมาขัด เวลาที่เขาตัดสินใจหรือออกคำสั่ง ทุกคนจะต้องทำตามไม่ว่าจะเป็นที่ทำงานหรือว่านอกเวลางานก็ตาม และยิ่งเป็นขวัญข้าวสิ่งที่เขาต้องการคือการที่เธอยอมจำนนในทุกเรื่อง
"ฉันบอกพี่ตั้งแต่จะออกมาจากบ้านแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าจะไปตลาด แล้วพามาห้างทำไม ฉันไม่ชอบเดินห้าง ชอบเดินตลาดมากกว่า" หญิงสาวพูดออกมาพร้อมกับเชิดหน้าอย่างไม่ยอมเขา แม้จะหวาดกลัวชายหนุ่มอยู่บ้าง แต่เธอก็มีสิทธิ์เลือกไม่ใช่เหรอ
"จะเดินลงไปดีๆ หรือจะให้ฉันอุ้มลงไปจากรถ เอ...หรือว่าชอบทำตัวเรียกร้องความสนใจ ได้! เดี๋ยวจะจัดให้" อัครเดชพูดพร้อมกับ รีบเดินลงไปจากรถแล้วอ้อมมาฝั่งผู้โดยสาร เขาเปิดประตูออกพร้อมกับปลดล็อกเข็มขัดนิรภัยให้กับขวัญข้าว
"ไม่ต้องยุ่งขวัญลงเองได้!" ขวัญข้าวพูดออกมาเสียงแข็ง พร้อมกับทำหน้ามุ่ยไม่สบอารมณ์ใส่ชายหนุ่มออกไป แต่เขากลับยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ
"แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง ทำไมต้องเรื่องมากด้วยก็ไม่รู้" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเดินนำหน้าขวัญข้าวเข้าไปภายในห้างสรรพสินค้า หญิงสาวพยายามทิ้งระยะห่างไม่กล้าเดินเคียงข้างไปกับเขา เพราะการแต่งตัวของเธอกับผู้หญิงรอบข้างช่างแตกต่างกันเหลือเกิน ส่วนมากมีแต่แต่งตัวเปรี้ยวๆ สวยๆ ทั้งนั้น พอหันกลับมามองตัวเองเหมือนบ้านเด็กนอกเข้ากรุงยังไงก็ไม่รู้
"พี่เสือ! ใช่พี่เสือไหมคะเนี่ย พวกเราเป็นแฟนคลับพี่เชียร์พี่ทุกสนามเลยนะคะ" หญิงสาววัยรุ่น หน้าตาจิ้มลิ้มกล่าวชมชายหนุ่มออกมาด้วยความปลื้มปริ่มใจ ราวกับได้เจอซูเปอร์สตาร์ดาราในดวงใจก็ไม่ปาน
"ขอบคุณมากนะครับที่ติดตาม" ชายหนุ่มกล่าวคำขอบคุณไปตามมารยาท พร้อมกับฉีกยิ้มที่มุมปากออกมาเล็กน้อย
"พวกเราขอถ่ายรูป ไว้เป็นที่ระลึกหน่อยนะคะพี่เสือ นี่เธอ! รบกวนถ่ายรูปให้พวกเราได้ไหมอ่ะ" ขณะที่ขวัญข้าวแกล้งเดินช้าๆ มองโน่นมองนี่หญิงสาวตัวเล็กๆ หน้าตาบ้องแบ๊วก็วิ่งตรงมาที่เธอ พร้อมกับ ยื่นสมาร์ตโฟนมาให้ เพื่อขอความร่วมมือในการถ่ายรูปให้กับพวกหล่อน
"อืม...ได้สิ" ขวัญข้าวพูดพร้อมกับยิ้มตอบรับกลับไปด้วยใบหน้าที่สดใสตามสไตล์ของเธอ ถ้าไม่บอกว่าอายุยี่สิบสามทุกคนคงคิดว่าเธอนั้นพึ่งเรียนมัธยมปลาย เพราะใบหน้าของหญิงสาวนั้นดูอ่อนกว่าอายุมาก
ขวัญข้าวถ่ายรูปให้กับกลุ่มวัยรุ่นสาวๆ ไปหลายภาพ พวกหล่อนเปลี่ยนท่านั้นท่านี้บ่อยครั้งอย่างไม่รู้จักเกรงใจทั้งคนถ่ายภาพ และพ่อนักบิดเลยสักนิด กว่าจะถ่ายเสร็จก็ปาไปหลายนาที จนขวัญข้าวนั้นถึงกับถอนหายใจออกมา เธอรู้สึกไม่ชอบอะไรที่มันวุ่นวายแบบนี้เลยสักนิด
หลังจากที่ถ่ายภาพเสร็จอัครเดชพาเธอตรงไป ที่ร้านกระเป๋า ซึ่งราคาแต่ละใบนั้นมีแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนหรือมากกว่านั้นเธอไม่แน่ใจ หญิงสาวเลือกอยู่นานสองนาน แต่ขวัญข้าวไม่ได้เลือกใบที่ชอบ เธอกำลังเลือกใบที่ราคาถูกที่สุดในร้าน
"กูว่ามึงมาจำนนให้กับเท้ากูนี่มา! หาเรื่องเจ็บตัวแต่เช้าเลยนะมึง จะลุกไปทำงานดีๆ หรือจะให้กูเตะเข้าไป!" อัครเดชพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง พร้อมกับคว้าข้อมือเรียวของขวัญข้าว ให้เธอมายืนอยู่ทางด้านหลังของเขา โดยมีชาร์ลนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า พร้อมกับสายตาที่เอือมๆ เมื่อเพื่อนกำลังหวงน้องสาวราวกับว่าเธอนั้นเป็นแฟนของเขาจนน่าแปลกใจ "น้องขวัญโตแล้วนะ เรียนจบแล้วสมควรที่จะมีแฟนได้แล้วด้วย มึงจะหวงอะไรนักหนา ทีมึงยังคบผู้หญิงมากหน้าหลายตา และพร้อมกันทีละหลายคนเลยไอ้เสือ!" ชาร์ลยังคงลอยหน้าลอยตาพูดออกมา โดยไม่รู้ว่าเพื่อนนั้นกำลังกัดฟัน เพื่อระงับความโกรธเอาไว้ "มึงเสือกอะไรด้วย และที่สำคัญน้องกูมีแฟนแล้วมึงห้ามยุ่ง!" คำพูดของชายหนุ่มทำให้ขวัญข้าวขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เธอมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมพี่ชายถึงพูดกับชาร์ลออกไปแบบนั้น "มีแล้วก็เลิกได้...แค่แฟนไม่ใช่ผัว พี่ไปทำงานก่อนนะครับน้องขวัญแล้วเจอกัน...บ๊าย
"ฉะ ฉันขอโทษ" อัครเดชถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย พร้อมกับแววตาที่รู้สึกผิด ก่อนจะกล่าวขอโทษหญิงสาวออกมา ขณะที่น้ำตาของเธอไหลไม่หยุด ดวงตากลมโตเหม่อลอยมองออกไปด้านหน้าอย่างไร้จุดหมาย ราวกับว่าเธอกำลังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น "ขวัญ! พูดอะไรออกมาสักคำสิ! เธอจะด่าจะว่า หรือตบตีฉันยังไงก็ได้ แต่อย่าเฉยชาชอบแบบนี้" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับลูบลงไปที่แก้มนวล แล้วค่อยๆ ปาดน้ำตาให้เธออย่างเบามือ แต่ทว่าขวัญข้าวก็ยังคงยืนนิ่ง ไม่พูดไม่จาไม่แสดงอาการใดๆ ออกมา จนทำให้ชายหนุ่มนั้นเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดี "ขวัญ....พี่จะพยายามเก็บอารมณ์และมีเหตุผล ให้มากกว่านี้ พี่ขอโทษนะขวัญ" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับโอบร่างอรชรเข้ามาไว้ในอ้อมกอด เขาควรจะบอกเธอออกไปดีไหมว่าการกระทำเมื่อครู่มันเกิดจากความหึงหวง และกลัวว่าจะมีใครเข้ามาจีบเธอ โดยที่เขานั้นยังไม่กล้าเผยความในใจให้กับเธอได้รู้ "ฮึก...ฮื้อ พี่ทำกับขวัญแบบนี้ได้ยังไง พี่ทำได้ยังไง...ฮื้อ" หญิงสาวร้องไห้ฟูมฟายออกมา เมื่อเธอกำลังคิดว่าสิ่งที่เขาทำไป
หญิงสาวรวบผมมัดหางม้าต่ำ ทำให้แลดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เธอปัดแก้มโทนสีตุ่นๆ ทาปากด้วยสีชมพูนู้ด พร้อมทั้งปัดคิ้วให้ดูตั้งตามเทรน แต่ไม่ฟูจนเวอร์ รับรองว่าใครเห็นต่างก็ต้องตกตะลึงในความงามของเธอที่ดูสวยโดดเด่นเซ็กซี่ในลุคของสาวมั่น เปลือกตาเธอปัดด้วยอายแชโดว์สีชมพูอ่อนดูวิ้งค์เป็นประกายนั้น ยิ่งทำให้ดวงตากลมโตมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นชายใดได้จ้องคงต้องตกอยู่ในวังวน จนเก็บเอาไปเพ้อฝันจินตนาการอยากได้เธอมาอยู่ข้างกายอย่างแน่นอน ขวัญข้าวหยิบต่างหูห่วงสีทองมาใส่ ซึ่งเป็นเครื่องประดับชิ้นเดียวในตัว แต่มันกลับทำให้ใบหน้าของเธอนั้นโดดเด่นเพิ่มความเซ็กซี่ขึ้นมาอีก จากนั้นหญิงสาวจึงหยิบสูทสีเทาแขนยาวมาสวมทับ ยิ่งทำให้ขวัญข้าวนั้นดูดีกว่าเดิมเป็นหลายเท่า เธอหยิบรองเท้าคัทชูสีแดงออกมาจากในตู้แล้วเดินลงไปด้านล่าง พร้อมสำหรับการรับประทานอาหารมื้อเช้า ก่อนออกไปทำงานในวันแรกของชีวิต พอขวัญข้าวเดินตรงมายังโต๊ะอาหาร อัครเดชถึงกับมองตาค้าง เขาไม่คิดว่าเธอจะสวยเซ็กซี่และดูดีมา
"อื้ม...แล้วเธอล่ะได้หรือยัง เราไปหาที่นั่งคุยกันก่อนดีไหม" ชายหนุ่มถามหญิงสาวออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ขณะที่ขวัญข้าวชำระเงินเสร็จพอดี "แม่ให้เรามาทำงานกับพี่เสือ พรุ่งนี้เริ่มงานวันแรก เอาไว้ค่อยคุยกันนะ เราต้องรีบกลับเพราะพี่เสือรออยู่ที่รถนานแล้ว" ขวัญข้าวรีบปฏิเสธภูผาออกไป เพราะเธอรู้ดีว่าชายหนุ่มคิดกับเธอมากเกินกว่าเพื่อน เมื่อเธอกับเขาสนิทกันมาตั้งแต่เรียนมัธยมจวบจนมหา'ลัย แม้เขาเพิ่งจะบอกความในใจเธอได้ไม่นาน แต่ขวัญข้าวก็พอจะรู้และพยายามที่จะถอยห่าง เมื่อเธอนั้นไม่อยากสานสัมพันธ์กับเขา "เดี๋ยวเราเดินไปส่ง" "ไม่เป็นไรหรอกแค่นี้เองเราเดินไปเองได้ เธอรีบไปทำธุระตัวเองเถอะ" ขวัญข้าวพยายามปฏิเสธชายหนุ่มออกมา เพราะหญิงสาวกลัวว่าพี่ชายจะดุ ถ้าหากเขาเห็นผู้ชายมาส่งเธอที่รถแบบนี้ "เอามานี่เดี๋ยวเราถือให้"
ขวัญข้าวไม่ได้สนใจเสือหนุ่มกับคู่ขาของเขา เธอเดินตรงเข้าหาพนักงาน พร้อมกับยื่นบัตรให้ โดยที่ไม่ได้สังเกตชุดที่พนักงานเลือกไว้ "จ่ายด้วยบัตรใบนี้นะคะ" "คุณผู้หญิงจะไม่ดูชุดก่อนเหรอคะ ถูกใจหรือเปล่าก็ไม่รู้ สำหรับชุดที่ดิฉันเลือกเอาไว้ให้ แต่ก็มั่นใจว่าคุณจะใส่ได้แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ตัวเล็กๆ แบบนี้ ใส่ชุดไหนก็สวยแถมคุณยังเป็นคนที่สวยอยู่แล้ว" พนักงานสาวกล่าวชื่นชมขวัญข้าวออกมาจากใจเพราะเธอมองมุมไหนหญิงสาวก็สวยสะดุดตา มีเพียงแค่แพมคู่ขาของเสือหนุ่ม ที่มองเห็นเธอเป็นเพียงแค่คนรับใช้ "ขอบคุณนะคะ ชุดไหนขวัญก็ใส่ได้ทั้งนั้นละค่ะ ขวัญเองก็เชื่อใจคุณพี่ว่าจะเลือกให้ตรงตามที่สาวออฟฟิศเขานิยมใส่กัน" หญิงสาวพูดพร้อมกับส่งยิ้มแหยๆ ไปให้กับพนักงาน เพราะเธอเองก็ไม่ถนัดเลือกชุดสักเท่าไหร่
"เลือกได้หรือยังแม่คุณ! แค่เลือกกระเป๋าก็ปาไปเป็นชั่วโมงแล้วนะขวัญข้าว ชอบใบไหนก็หยิบมาเถอะ! จะเลือกอะไรนักหนาก็ไม่รู้" คำพูดของชายหนุ่ม ทำให้ขวัญข้าวแอบชำเลืองหางตามองค้อนไปที่ใบหน้าคม ด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจ ถ้าเธอไปตลาดคงได้มาหลายใบ แต่ตอนนี้คงต้องทำใจหยิบมาสักใบ เพื่อไม่ให้เขานั้นว่าเธอได้ "เอาใบนี้ก็แล้วกันค่ะ" หญิงสาวหยิบกระเป๋าสะพายแบรนด์เนมสีดำ ยื่นให้พนักงานไปหนึ่งใบ "ใบนี้ลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์นะคะ ราคาจะเหลือแค่เก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทเท่านั้น ตกลงคุณผู้หญิงรับใบนี้ใช่ไหมคะ" พนักงานสาวสวยถามขวัญข้าวออกมาด้วยรอยยิ้ม "ใช่ค่ะ" หญิงสาวพูดพร้อมกับหยิบบัตรเครดิตออกมา ซึ่งเธอใช้มันอย่างประหยัด จะรูดบัตรเฉพาะในยามที่จำเป็นเท่านั้น"ไม่ต้องเดี๋ยวฉันจ่ายเอง เอาใบนี้ ใบนี้ แล้วก็ใบนี้ด้วยทั้งหมดรวมเป็นเจ็ดใบ" อัครเดชที่สังเกตการณ์อยู่นาน เขาพอจะเดาได้ว่าทำไมเธอถึงไม่เลือกสักที