Share

งานวัดฮีลใจ

last update Last Updated: 2025-11-19 23:26:08

ในเช้าของวันที่แสงแดดอ่อน เสียงนกเอี้ยงร้องแว่วจากยอดมะม่วง แม่พลอยจัดผมให้เมษาอยู่หน้าห้องเรือนในด้วยสีหน้าเคร่งครัด เพราะว่าพระยาภูบดินทร์ บิดาของขุนเทวัญกลับมาจากราชการที่หัวเมืองเหนือ และทราบว่าที่เรือนมีหญิงหลงทางมาอยู่อาศัย จึงอยากพบกับเมษา

“ฟังให้ดีนะ เธออย่าเผลอพูดอะไรแปลกหูเหมือนที่ชอบพูดกับฉันต่อหน้าคุณท่านนะ”

“จ้า จะเรียบร้อยแบบกุลสตรีศรีรัตนโกสินทร์เลยแม่พลอย” เมษาเบะปากใส่กระจก

บนเรือนใหญ่ พระยาภูบดินทร์นั่งอยู่ที่ตั่งกลางเรือน เสื้อแพรสีเทาเงินตัดกับผ้าพับอย่างเรียบ เส้นผมขาวแซมข้างหู แต่ดวงตายังคมและนิ่ง ข้าง ๆ กันคือคุณหญิงจันทร์วาด ที่กำลังจิบชาด้วยท่าทางของหญิงชั้นสูง

เมษาเดินเข้ามาด้วยอาการกึ่งประหม่า แต่พยายามทำใจดีสู้เสือ

“กราบสวัสดีค่ะ คุณท่าน คุณหญิง แล้วก็คุณพี่ขุน เอ๊ย ท่านขุนเทวัญค่ะ” มือยกพนมแสนเรียบร้อย แต่เสียงสั่นปลายประโยค

คุณหญิงหรี่ตามองตั้งแต่หัวจรดปลายซิ่น “ขอให้ความเรียบร้อยนั้นอย่าได้หมดอายุภายในห้านาทีเถอะ”

พระยาภูบดินทร์หัวเราะเบา ๆ ท่ามกลางความเงียบ เสียงหัวเราะที่ไม่ได้ยินบ่อยในเรือนนี้

“เธอคือแม่เมษาหรือ ดูท่าทางแปลกจากคนบ้านนี้เมืองนี้ยิ่งนัก”

เมษารีบพยักหน้า “ใช่เจ้าค่ะ ฉันก็ไม่รู้ว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง จำได้แค่ว่าโดนฟ้าผ่าเข้ามาในห้อง จากนั้นก็มาอยู่ที่นี่แล้ว” เมษาพยายามเล่าเท่าที่เล่าได้ เพราะขืนบอกไปว่ากำลังไลฟ์ติ๊กต็อกแล้วโดนฟ้าผ่าพาย้อนเวลามา ก็คงจะถูกหาว่าเป็นบ้าแน่ ๆ

พระยาภูบดินทร์พยักหน้า ดวงตาไม่ดุดันแต่สังเกตลึก “เป็นคนความจำเสื่อม แต่กลับดูมีชีวิตชีวาเสียจริง ก็น่าสนใจดี”

คุณหญิงวางถ้วยชาลงช้า ๆ “น่าสนใจไม่เท่าท่าทีของหล่อนเจ้าค่ะ ทำตัวราวกับสนิทกับคนในเรือนนี้มานาน เข้าไปคุยกับคนนู้นที คนนี้ที ช่างออเซาะฉอเลาะยิ่งนัก”

ขุนเทวัญยังไม่พูดอะไร สายตาเพียงจับจ้องมือตัวเองที่วางนิ่งอยู่บนตัก

พระยาภูบดินทร์ยิ้มมุมปาก “หากความจำยังไม่กลับคืน เจ้าก็อยู่ที่นี่ไปก่อนก็แล้วกัน ถือว่าช่วยคนตกทุกข์ได้ยากเอาบุญเสียก็แล้วกัน”

เมษาเบิกตากว้างทันที “จริงเหรอเจ้าคะ ขอบพระคุณอย่างยิ่งเจ้าค่ะคุณพ่อ เอ๊ย คุณท่าน ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรให้ลำบากพระทัยเลยแม้แต่นิดเดียวเจ้าค่ะ”

พระยาภูบดินทร์หัวเราะอย่างชอบใจ คุณหญิงกระแอมเบา ๆ แล้วว่าเสียงเย็น “คุณท่านไม่ได้มีเชื้อพระวงศ์ ไม่ต้องใช้คำราชาศัพท์กับท่าน และฉันอยากขอเพียงข้อเดียว อย่าได้ทำกิริยาอย่างม้าดีดกะโหลกในเรือนนี้อีก”

เมษาชะงัก “ฉันจะไม่ดีด ไม่กระโดด ไม่เต้น ไม่ร้อง ไม่รำ จะนิ่งเป็นหมาเหงาเลยค่ะคุณหญิงแม่”

“แล้วก็ห้ามเรียกฉันว่าคุณหญิงแม่ เด็ดขาด” คุณหญิงจันทร์วาดดุเสียงเขียว

“เจ้าค่ะ คุณหญิงจันทร์วาด” เมษาก้มหน้าจ๋อย

คุณท่านหันไปทางลูกชาย “เทวัญ ลูกเห็นเป็นอย่างไร”

ขุนเทวัญเหลือบมองหญิงสาวที่ยืนทำท่ายืนตรงเกินพอดี เขาพยักหน้าเบา ๆ

“ก็ แม่เมษาเธอก็ดูไม่มีพิษมีภัยอะไร ซ้ำยังตกทุกข์ได้ยากความจำเสื่อม ช่วยเหลือเอาไว้ให้อยู่ในเรือนดูจะได้บุญครับคุณพ่อ”

เมษาหันมายิ้มตาเป็นประกาย แต่คุณหญิงยังพูดต่อด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ไม่มีพิษมีภัยอันใด แต่เป็นภัยต่อความสงบของเรือน”

เสียงหัวเราะของคุณท่านดังขึ้นอีกครั้ง “บางที การมีเด็กสาวที่มีชีวิตชีวาอยู่ในเรือน อาจจะดีสำหรับบ้านเราบ้างก็ได้นะจันทร์วาด ไม่เงียบเหงา”

คุณหญิงกลอกตาเบา ๆ “มีความวุ่นวายสิไม่ว่า คุณพี่”

เมษายิ้มหวานแบบสุดกำลัง แล้วโค้งตัวลงอีกครั้ง “ขอบพระคุณอีกครั้งเจ้าค่ะ ฉันจะพยายามไม่ให้เรือนนี้วุ่นวาย เอ่อ จะพยายามนะคะ”

และวันนี้ เมษาผู้หญิงหลุดยุค ก็กลายเป็นคนในความดูแลของเรือนขุนเทวัญ ภายใต้สายตาสามคู่ หนึ่งคือพ่อที่รู้สึกเอ็นดู สองคือแม่ที่ยังวางฟอร์ม และสุดท้ายคือลูกชาย ที่เริ่มรู้แล้วว่าความวุ่นวายและความมีชีวิตชีวานี้ ทำให้ทุกอย่างในเรือนเปลี่ยนไป

เช้าตรู่วันต่อมาในเรือนขุนเทวัญ แดดอ่อนส่องผ่านยอดไม้กระทบผิวหญ้า เสียงนกกระจิบร้องเจื้อยแจ้วอยู่ริมระเบียง กลิ่นดอกไม้จากสวนลอยมาตามลมผสมกลิ่นน้ำอบที่แม่พลอยเพิ่งพรมน้ำไว้หน้าห้องพระ

เมษานั่งอยู่บนตั่งหน้าชานในชุดซิ่นลายดอกสีชมพูอ่อน มือถือกลีบมะลิไว้แก้เบื่อ แววตาเหม่อมองออกไปทางประตูเรือน

“แม่พลอย เมื่อไหร่จะมีอะไรให้ทำที่ไม่ใช่พับผ้าหรือเก็บใบตองบ้างนะ”

แม่พลอยหัวเราะ “วันนี้วัดท้ายเรือนมีงานบุญ เทศน์มหาชาติใหญ่เลยล่ะ ทั้งโรงทาน ทั้งสวดมนต์ ทั้งขนมหวานสารพัด”

เมษาหันขวับ ดวงตาเป็นประกายทันที

“วัดเหรอ ไปได้ไหม ฉันอยากไป”

“พวกเราถ้าจะไปไหน ต้องขอนุญาตคุณท่านหรือไม่ก็ท่านขุนก่อน” แม่พลอยตอบยิ้ม ๆ

ขุนเทวัญเดินออกมาจากห้องในพอดี เสื้อแพรสีครามเรียบ ๆ กับผ้าโจงกระเบนอย่างเรียบสะอาด สายตาคมกริบตามสไตล์ท่านขุนหน้านิ่ง

เมษารีบลุกขึ้นยืนแบบเรียบร้อยเกินจริง

“เอ่อคุณพี่ขุนคะ ฉันอยากขออนุญาตไปเที่ยวงานวัดกับแม่พลอยได้มั้ยคะ”

ขุนเทวัญเลิกคิ้ว มองเธอนิ่ง ๆ แล้วครุ่นคิดบางอย่าง ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ “งานวัดหรือ ฉันเองก็ไม่ได้ไปมาเสียนานแล้ว หากเธออยากไปก็ไปแต่งตัวให้เรียบร้อย เดี๋ยวฉันจะพาไป”

เมษายิ้มกว้าง “จริงเหรอคะ คุณพี่ขุนจะพาไปวัด ว้าว ทริปบุญแห่งศตวรรษ”

แม่พลอยแอบกลอกตา ส่วนขุนเทวัญถอนหายใจเบา ๆ “เธอนี่ดูจะตื่นเต้นไปได้เสียทุกเรื่อง”

เมษาหัวเราะคิก ในใจอยากจจะพูดออกมาว่า ก็จะมีสักกี่คนที่ได้ย้อนเวลามาเที่ยวงานวัดแบบออริจินัลแบบนี้

งานบุญวัดท้ายตลาดครึกครื้นตั้งแต่สาย กลิ่นธูปจากศาลาใหญ่ลอยปะปนมากับกลิ่นขนมครก กล้วยเชื่อม และน้ำต้มอัญชันเย็นเจี๊ยบ เสียงเด็กวิ่งตามกันใต้ต้นโพธิ์ ชิงช้าสวรรค์โบราณกำลังหมุนช้า ๆ ส่งเสียงเหล็กเสียดสีดังเอียดอาดเป็นจังหวะ

เมษาเดินตามแม่พลอยเข้ามาในวัด วันนี้เรียบร้อยเกินมาตรฐานตัวเองไปไกล แต่ความงุ่นง่านตอนเดินยังคงอยู่ เพราะผ้าซิ่นนั่นก็ยังพันไม่คุ้นสักที

“โอ๊ย ถ้าเป็นยุคฉันนะ แค่หยิบกางเกงยีนส์ขาสั้นกับเสื้อยืดก็เดินลุยงานวัดได้ละ” เมษาบ่นกับแม่พลอย ขณะกวาดตามองรอบงานตาโต

แม่พลอยหัวเราะ“ถ้าแต่งเยี่ยงเจ้าว่าได้ ก็คงไม่เหลือคำว่ากุลสตรีหรอกแม่เมษา”

ด้านหน้าศาลาวัด มีแผงขายของตั้งเรียงราย ขนมต้ม ขนมกลีบลำดวน ข้าวเหนียวแก้ว น้ำลำไยในโอ่งดิน แม่ค้าห่มสไบ ส่งเสียงหวาน ๆ เรียกแขก

ขุนเทวัญที่เดินอยู่ด้านหลังในชุดสุภาพ เรียบขรึมอย่างขุนหนุ่มในนิยาย ได้แต่มองหญิงสาวตรงหน้าเดินสะบัดปลายผ้าซิ่นไปรอบงานเหมือนเด็ก

“เธอดูจะรื่นเริงเสียยิ่งกว่างานบุญ” เขาเอ่ยเบา ๆ เมษาหันมายิ้ม

“แหม คุณพี่ขุนก็ ฉันคือเมษาสายแซ่บ ก็ต้องแซ่บสิคะ”

“พูดกระไร ฟังไม่ได้ความ” ขุนเทวัญมองเธอที่กำลังยืนเคี้ยวขนมต้มตาเป็นประกาย ผมปลิวเบา ๆ ตามลม แววตาเธอสะท้อนความอย่างสดใส

เสียงระฆังจากโบสถ์ดังขึ้นเป็นสัญญาณให้ผู้คนเตรียมตัวฟังเทศน์ แม่พลอยชวนเมษาเดินเข้าไปในโบสถ์ แต่เมษายังเดินดูนั่นนี่ไม่หยุด

“แม่พลอย นั่นอะไรอะ ซุ้มล้วงไข่เสี่ยงทายเหรอ”

“แม่เมษาเจ้าขา รีบเข้าศาลาก่อนฝนจะตกเถอะ” แม่พลอยเริ่มส่งเสียงเรียกเพราะฟ้าเริ่มครึ้มและออกวิ่งนำไปก่อน

เม็ดฝนเริ่มตกกระทบพื้นลานวัดอย่างแรง เสียงของหยดน้ำกระทบดินดังประสานกับเสียงเปรี้ยงเบา ๆ จากฟ้าคำรามในระยะไกล

ขุนเทวัญขยับตัวเข้ามาข้าง ๆ “สงสัยฝนหลงฤดู รีบไปกันเถอะ แม่เมษา”

แต่ยังไม่ทันขยับตัว เม็ดฝนก็เปลี่ยนจากโปรยกลายเป็นสายกระหน่ำ เมษากอดแขนตัวเองไว้แน่น ชุดบาง ๆ ของเธอเริ่มแนบเนื้อเพราะหยาดฝน ลมเย็นพัดวูบจนเธอสะดุ้งเล็กน้อย

ทันใดนั้นขุนเทวัญไม่พูดพล่าม เขาปลดผ้าคาดเอวผืนยาวแล้วกางออกเหนือหัวเมษา แล้วโอบมันลงบังละอองฝน

“ไปหลบที่ศาลากันก่อน” น้ำเสียงเขานิ่ง แต่แววตาที่เหลือบมองเธอชั่วขณะกลับมีบางอย่างอ่อนโยนกว่าทุกครั้ง

เมษาเหลือบตามองเขา ผ้าของเขากำลังบังฝนให้เธอทั้งตัว แต่ปล่อยให้ตัวเองเปียก

ลมหายใจเธอสะดุดไปครู่หนึ่ง “คุณพี่ขุน จะไม่เปียกเหรอคะ”

ขุนเทวัญหันมามอง “ฝนแค่นี้ ไม่เป็นกระไรหรอก”

เมษาเงยหน้ามองใบหน้าเขาใกล้แค่คืบ ใจเธอก็เต้นผิดจังหวะอีกครั้ง เส้นผมเขาเปียกนิดหน่อย หยดน้ำเกาะอยู่ข้างขมับ กลิ่นกายที่ผสมกลิ่นฝนกับน้ำอบลอยมาแตะปลายจมูกเบา ๆ

ทั้งสองรีบก้าวมาหลบใต้ชายคาศาลาเล็กในวัด เสียงฝนซัดลงบนหลังคาถี่ขึ้น เมษายืนหอบนิด ๆ ด้วยความหนาวและความสั่นในอกที่ไม่แน่ใจว่าเกิดจากฝนหรืออะไร

“คุณพี่ขุน ฉันเคยคิดว่าผู้ชายในยุคนี้จะดูโบราณและถือตัว” เมษาเอ่ยเบา ๆ

ขุนเทวัญเหลือบมอง “แล้วตอนนี้เล่าคิดอย่างไร”

เมษาหันมาสบตาเขาเต็ม ๆ “ฉันว่าคุณพี่ขุน มีเสน่ห์แบบคลาสสิกค่ะ เอาใจใส่และสายเปย์ พูดน้อย แต่พูดทีหนึ่งทำให้ใจมันสั่นได้เฉยเลยอะ”

ขุนเทวัญชะงัก แม้ไม่เข้าใจคำว่าสายเปย์ แต่ใบหูเริ่มมีสีแดงจาง ๆ ถึงอย่างนั้นก็พยายามทำหน้านิ่ง

“เจ้าชอบใช้คำพูดแปลกหูนักแม่เมษา”

“ก็แค่พูดตรงใจ” เมษายิ้ม “หรือว่าคุณพี่ขุนไม่ชอบให้คนชม”

ขุนเทวัญส่ายหน้าน้อย ๆ “ไม่ใช่ไม่ชอบ แค่ไม่ชิน ไม่มีสตรีผู้ใดกล้าเอ่ยชมบุรุษต่อหน้าแบบเธอ”

“ก็บอกแล้วว่าเมษามันสายแซ่บ ชอบก็บอกว่าชอบ อุ๊บ!” เมษายกมือขึ้นปิดปากตัวเอง ส่วนขุนเทวัญดูท่าทางจะทำตัวไม่ถูกเช่นกัน

เสียงฝนยังตกพรำ เมษายืนเงียบลงครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยเสียงเบา

“ฝนตกนานเหมือนกันนะคะเนี่ย”

ขุนเทวัญหันมามอง “ถ้าฝนไม่หยุด ฉันก็จะยืนอยู่ตรงนี้กับเธอ ตราบใดที่เธอยังไม่หนาวเกินไป”

เมษายิ้มหวาน หัวใจเต้นจนกลัวว่าจะหลุดออกจากอก ขุนเทวัญมองเธออีกครั้ง ก่อนจะเบนสายตากลับไปยังลานวัด แต่ริมฝีปากหยักขึ้นเล็กน้อยเหมือนคนกำลังแอบยิ้ม

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แม่หญิงย้อนเวลา มารักกับท่านขุน   เมษาเธอไปไหน คุณพี่ขุนทำไมใจจะขาด

    กลางดึกคืนนั้น ลมพัดผ่านหน้าต่างเรือน เสียงพื้นเรือนแกรกกรากเบา ๆ คล้ายเสียงบางอย่างที่กระซิบจากอดีต ขุนเทวัญนอนนิ่งอยู่บนฟูก ห่มผ้าผืนบาง แสงจากตะเกียงหัวเตียงไหวระริก เขาเข้าสู่นิทราอย่างเงียบงัน ก่อนจะเข้าสู่ความฝัน ที่เหมือนจริงจนรู้สึกถึงลมหายใจของอีกคนในฝันเขายืนอยู่กลางเรือนไทยไม้สักหลังหนึ่ง ท่ามกลางแสงแดดอ่อนปลายรุ่ง เสียงระฆังวัดดังแว่วจากที่ไกล กลิ่นอบเชยและน้ำอบลอยมาแตะจมูกและตรงหน้าของเขาคือหญิงสาวผู้หนึ่ง สวมสไบเฉียงสีขาวนวล ผ้านุ่งสีแดงเลือดนก จีบหน้านางละเอียด เธอยิ้มพลางใช้มือบางแตะไหล่เขาเบา ๆ แววตาคู่นั้นทั้งคุ้นเคย ทั้งเศร้าและอ่อนหวานปนกัน“ท่านมาช้าอีกแล้ว” เสียงเธอเบาดุจสายลมที่กระซิบข้างหู“แต่ข้ากลับมาแล้ว” เขาพูดเสียงแผ่วตอบกลับทั้งที่ไม่รู้ว่ากำลังพูดกับใคร แม้ว่าจะเจอเธอมาหลายคราในห้วงนิทรา หัวใจแน่นตื้อเหมือนเคยพูดประโยคนี้มานับพันครั้ง“เราจะไม่พรากจากกันอีกใช่ไหม” หญิงสาวเอ่ยเขาคว้ามือเธอไว้ แต่แสงอาทิตย์กลับสว่างวาบ ภาพนั้นค่อย ๆ เลือนหายไป ขุนเทวัญสะดุ้งตื่นในเช้ามืด เหงื่อซึมเล็กน้อยบนหน้าผาก แม้อากาศจะเย็นเขาลุกนั่งนิ่ง สบตากับความเงียบในห้อง เสี

  • แม่หญิงย้อนเวลา มารักกับท่านขุน   ท่านขุนต้องเป็นของฉัน

    เสียงฝนยังคงพรำลงไม่หยุด ใต้ชายคาศาลาเล็ก ๆ เมษายืนใกล้ขุนเทวัญจนได้กลิ่นไอของผ้าที่ชื้นด้วยฝนและกลิ่นกายของท่านขุนคลุ้งจาง ๆ ขุนเทวัญยังคงถือผ้าคาดเอวผืนยาวที่ใช้บังฝนให้เมษาไว้ในมือ ปลายผ้ายังเปียกอยู่บ้าง แต่มุมหนึ่งแห้งเมษาหันมามองเขา เห็นใบหน้าของขุนเทวัญมีหยดน้ำเกาะอยู่ตามขมับ แก้ม และปลายคาง“คุณพี่ขุนเปียกหมดเลย” เมษาพูดเบา ๆ ก่อนจะยื่นมือมาหยิบปลายผ้าคาดเอวจากมือเขา ขุนเทวัญชะงักมอง ยังไม่ทันเอ่ยห้าม เมษาก็ยกผ้าผืนนั้นขึ้นอย่างเบามือ แล้วค่อย ๆ เช็ดหยดน้ำที่ข้างแก้มของเขา ขยับเลื่อนไปที่ขมับ และหน้าผากที่มีหยดน้ำเกาะพราว“อยู่เฉย ๆ สิคะจะเช็ดให้” เมษาว่าพลางยิ้มละไมขุนเทวัญยืนนิ่งเหมือนถูกมนตร์สะกด ใบหน้าเขานิ่งแต่หูเริ่มแดง แล้วแดงมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะตอนที่ปลายนิ้วของเมษาแตะลงเบา ๆ ตรงข้างสันกราม“คุณพี่ขุนหน้าแดงอีกแล้ว” เมษาเอียงคอถาม ยิ้มแบบคนรู้ทันขุนเทวัญเบือนหน้าหลบ “เธอนี่ ชอบพูดจาน่าเอามืออุดปากเสียจริง”“คุณพี่ขุนเนี่ยเป็นผู้ชายที่เรียบร๊อย เรียบร้อยนะคะ โดนแซวแค่นี่ถึงกับเขิน แต่ก็น่ารักนะเนี่ย” เมษายักคิ้วขุนเทวัญถึงกับไอออกมาในลำคอ “แม่เมษา พูดจาไม่งามเลย

  • แม่หญิงย้อนเวลา มารักกับท่านขุน   งานวัดฮีลใจ

    ในเช้าของวันที่แสงแดดอ่อน เสียงนกเอี้ยงร้องแว่วจากยอดมะม่วง แม่พลอยจัดผมให้เมษาอยู่หน้าห้องเรือนในด้วยสีหน้าเคร่งครัด เพราะว่าพระยาภูบดินทร์ บิดาของขุนเทวัญกลับมาจากราชการที่หัวเมืองเหนือ และทราบว่าที่เรือนมีหญิงหลงทางมาอยู่อาศัย จึงอยากพบกับเมษา“ฟังให้ดีนะ เธออย่าเผลอพูดอะไรแปลกหูเหมือนที่ชอบพูดกับฉันต่อหน้าคุณท่านนะ”“จ้า จะเรียบร้อยแบบกุลสตรีศรีรัตนโกสินทร์เลยแม่พลอย” เมษาเบะปากใส่กระจกบนเรือนใหญ่ พระยาภูบดินทร์นั่งอยู่ที่ตั่งกลางเรือน เสื้อแพรสีเทาเงินตัดกับผ้าพับอย่างเรียบ เส้นผมขาวแซมข้างหู แต่ดวงตายังคมและนิ่ง ข้าง ๆ กันคือคุณหญิงจันทร์วาด ที่กำลังจิบชาด้วยท่าทางของหญิงชั้นสูงเมษาเดินเข้ามาด้วยอาการกึ่งประหม่า แต่พยายามทำใจดีสู้เสือ“กราบสวัสดีค่ะ คุณท่าน คุณหญิง แล้วก็คุณพี่ขุน เอ๊ย ท่านขุนเทวัญค่ะ” มือยกพนมแสนเรียบร้อย แต่เสียงสั่นปลายประโยคคุณหญิงหรี่ตามองตั้งแต่หัวจรดปลายซิ่น “ขอให้ความเรียบร้อยนั้นอย่าได้หมดอายุภายในห้านาทีเถอะ”พระยาภูบดินทร์หัวเราะเบา ๆ ท่ามกลางความเงียบ เสียงหัวเราะที่ไม่ได้ยินบ่อยในเรือนนี้“เธอคือแม่เมษาหรือ ดูท่าทางแปลกจากคนบ้านนี้เมืองนี้ยิ่งนัก

  • แม่หญิงย้อนเวลา มารักกับท่านขุน   คำอธิษฐานที่ตรงกัน

    เสียงเครื่องยนต์รถยนต์ฝรั่งดังกระหึ่มขณะแล่นไปตามถนนลูกรังในพระนคร เมษานั่งเบียดแม่พลอยอยู่เบาะหลัง ดวงตาโตเท่าไข่ห่าน มองซ้ายขวาไม่หยุดส่วนขุนเทวัญนั่งอยู่เบาะด้านหน้าโดยมีเฟื่องเป็นคนขับรถ รถยนต์สีดำสนิทเงางาม ประทุนเปิดรับลมเย็นบาง ๆ ของช่วงสายวันนั้น“เพิ่งเคยนั่งรถโบราณย้อนยุคครั้งแรก” เมษาตะโกนฝ่าลม“รถโบราณอะไรกันแม่เมษา คันนี้เพิ่งนำเข้ามาจากอังกฤษเลยนะ” ขุนเทวัญพูดโดยไม่หันกลับมามอง“จริงด้วย นี่เรามาอยู่ในยุครัตนโกสินทร์นี่” เมษาบอกกับตัวเองก่อนที่จะหันไปมองทิวทัศน์รอบข้างของพระนครยุครัตนโกสินทร์รถยนต์แล่นมาหยุดที่หน้ากรมพระคลังสินค้า ซึ่งเป็นอาคารสถาปัตยกรรมผสมไทย-ตะวันตก ตัวอาคารสองชั้นทาสีขาวครีม มีบานหน้าต่างโค้งประดับไม้ฉลุลายทอง เสาเรียงรายรับชายคายาว หน้ากรมมีธงชาติสยามปลิวไสว เมษานั่งอ้าปากค้างอยู่เบาะหลัง“โอ้โห นี่หรือคือกรมพระคลังสินค้าของจริง มันทั้งสวยและดูขลังมาก”ขุนเทวัญหันมามองด้วยสีหน้าขรึมแต่แววตาขำ “ดูเธอจะไม่เคยเข้ามากลางพระนครสินะ”เขาก้าวลงจากรถแล้วหันมาทางแม่เมษาและแม่พลอย“ฉันต้องเข้าไปสะสางราชการภายในไม่นานนัก พวกเธอรออยู่แถวนี้ก่อน”“เจ้าค่ะ” แม่

  • แม่หญิงย้อนเวลา มารักกับท่านขุน   ภาพในฝันที่เริ่มชัด

    ในคืนนั้น สายลมอ่อน ๆ พัดผ่านเรือนไม้ เสียงจั๊กจั่นยังดังเป็นจังหวะ กล่อมให้บรรยากาศยามค่ำในพระนครเงียบสงัดยิ่งขึ้นเมษานอนอยู่บนฟูกบาง ๆ ใต้แสงตะเกียงน้ำมันที่ไหวระริก เสียงลมหายใจเธอสม่ำเสมอก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนไป และเข้าสู่ห้วงนิทราเธอฝัน แต่มันทั้งชัดเจนและพร่าเบลอในเวลาเดียวกัน ในฝันนั้นเมษายืนอยู่กลางลานกว้าง รอบตัวเป็นสวนไม้สูงเรียงรายเหมือนเขาวงกต กลิ่นกำยานหอมจาง ๆ ลอยมาแตะจมูก ผืนฟ้าเป็นสีแดงใกล้โพล้เพล้ แต่ไม่มีแดด ไม่มีเงา เหมือนเป็นโลกอีกมิติหนึ่งเธอก้มมองตัวเองพบว่าตนเองไม่ได้สวมเสื้อแขนกระบอกหรือผ้าซิ่นแบบทุกวัน แต่เป็นสไบเฉียงสีขาวนวล เนื้อผ้าบางเบา และผ้านุ่งแบบจีบหน้านางสีแดงเข้ม ลวดลายละเอียดประณีตแบบหญิงในสมัยอยุธยา ซึ่งไม่เคยมีใครในยุครัตนโกสินทร์แต่งเช่นนั้นเธอก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ เท้าเปล่าสัมผัสพื้นดินอ่อนนุ่มและเย็นจับใจ เมษารู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด ราวกับเคยเดินผ่านตรงนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างกาย เสียงที่ทุ้มนุ่ม และอบอุ่นอย่างประหลาด“เจ้ามาแล้วหรือ”เมษาหันขวับ ชายหนุ่มในชุดโจงกระเบนสีดำ สวมเสื้อห่มแพร ผ้าโพกหัวบาง ๆ ดวงตาคมคู่นั้

  • แม่หญิงย้อนเวลา มารักกับท่านขุน   แม่หญิงสูงศักดิ์กับแม่หญิงสายแซ่บ

    แดดสายสะท้อนลงบนหลังคามุงจาก กระทบผิวน้ำตลาดปากคลองจนเงาวาว แม่ค้าเขียงหมูเสียงดังแข่งกับเจ้าของร้านขนมฝอยทอง เสียงตะโกนเรียกลูกค้าเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณท่ามกลางความวุ่นวาย เมษาเดินมาในลุคสายช้อปย้อนยุค ผ้าซิ่นลายแดงสดเกือบสะท้อนแสงแดด เสื้อแขนกระบอกพับผิดเล็กน้อย ข้างหนึ่งไหล่ตก ข้างหนึ่งตั้งสง่า มือหนึ่งหิ้วขนมต้ม อีกมือถือทองหยอดมากินเล่น“ว้าว ตลาดนี่คือสวรรค์ของสายกิน นี่ถ้ามีชาไข่มุกให้กินด้วยละก็ ฟินสุด ๆ”แม่พลอยที่เดินตามแทบเอามือปิดหน้าผาก “อย่าพูดอะไรเพี้ยน ๆ ออกมาอีกเลยแม่เมษา แค่นี้คนก็มองกันทั้งตลาดแล้ว”“ก็มองคนสวยไง ไม่เห็นแปลก หรือเธอว่าฉันไม่สวยหรือไงแม่พลอย”“เออ ไอ้สวยน่ะก็สวย แต่แปลกก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน”เมษากรอกตามองบน “จะถือว่าเป็นคำชมแล้วกันนะ”ที่หัวตลาด เสียงวุ่นวายของพ่อค้าแม่ขายยังครึกครื้น แต่ทันทีที่แม่หญิงรำเพยปรากฏกายเดินนวยนาดอย่างงามสง่า ตลาดทั้งแถบก็เหมือนชะงักอารมณ์หนึ่งผ้าไหมสีชมพูทองจับจีบประณีต เสื้อห่มสไบกลิ่นน้ำอบโชยอ่อน ๆเมษาที่เพิ่งหันมาเห็น พึมพำกับแม่พลอยเบา ๆ “นั่นแม่หญิงรำเพยนี่”แม่พลอยพยักหน้า “ใช่ แม่หญิงรำเพย คู่หมายของท่านขุนเทวัญ”“คู

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status