Home / รักโบราณ / แม่หญิงย้อนเวลา มารักกับท่านขุน / เมษาเธอไปไหน คุณพี่ขุนทำไมใจจะขาด

Share

เมษาเธอไปไหน คุณพี่ขุนทำไมใจจะขาด

last update Last Updated: 2025-11-22 23:49:50

กลางดึกคืนนั้น ลมพัดผ่านหน้าต่างเรือน เสียงพื้นเรือนแกรกกรากเบา ๆ คล้ายเสียงบางอย่างที่กระซิบจากอดีต ขุนเทวัญนอนนิ่งอยู่บนฟูก ห่มผ้าผืนบาง แสงจากตะเกียงหัวเตียงไหวระริก เขาเข้าสู่นิทราอย่างเงียบงัน ก่อนจะเข้าสู่ความฝัน ที่เหมือนจริงจนรู้สึกถึงลมหายใจของอีกคน

ในฝันเขายืนอยู่กลางเรือนไทยไม้สักหลังหนึ่ง ท่ามกลางแสงแดดอ่อนปลายรุ่ง เสียงระฆังวัดดังแว่วจากที่ไกล กลิ่นอบเชยและน้ำอบลอยมาแตะจมูก

และตรงหน้าของเขาคือหญิงสาวผู้หนึ่ง สวมสไบเฉียงสีขาวนวล ผ้านุ่งสีแดงเลือดนก จีบหน้านางละเอียด เธอยิ้มพลางใช้มือบางแตะไหล่เขาเบา ๆ แววตาคู่นั้นทั้งคุ้นเคย ทั้งเศร้าและอ่อนหวานปนกัน

“ท่านมาช้าอีกแล้ว” เสียงเธอเบาดุจสายลมที่กระซิบข้างหู

“แต่ข้ากลับมาแล้ว” เขาพูดเสียงแผ่วตอบกลับทั้งที่ไม่รู้ว่ากำลังพูดกับใคร แม้ว่าจะเจอเธอมาหลายคราในห้วงนิทรา หัวใจแน่นตื้อเหมือนเคยพูดประโยคนี้มานับพันครั้ง

“เราจะไม่พรากจากกันอีกใช่ไหม” หญิงสาวเอ่ย

เขาคว้ามือเธอไว้ แต่แสงอาทิตย์กลับสว่างวาบ ภาพนั้นค่อย ๆ เลือนหายไป ขุนเทวัญสะดุ้งตื่นในเช้ามืด เหงื่อซึมเล็กน้อยบนหน้าผาก แม้อากาศจะเย็น

เขาลุกนั่งนิ่ง สบตากับความเงียบในห้อง เสียงนกยามเช้าดังระงม แต่ในอกของเขากลับดังเพียงเสียงตัวเองถามตัวเองซ้ำ ๆ

“อีกแล้ว เราฝันเช่นนี้อีกแล้ว” เขาเหยียดกายลุกขึ้นช้า ๆ เดินไปยืนที่หน้าต่าง สายลมเช้าพัดปลายม่านไหวเบา ๆ ในหัวของเขาวนเวียนกับใบหน้าหนึ่งที่ฝังแน่นมาตลอดหลายปี

“หญิงคนนั้นในฝันของเรา เธอคือใครกันแน่ แล้วทำไมจึงได้เหมือนกับ…”

เขาหลับตาหวนคิดถึงภาพเมื่อหลายวันก่อน วันที่ฟ้าร้องสะเทือนทั่วพระนคร วันที่เขากลับจากกรมพระคลังสินค้า แล้วพบหญิงสาวคนหนึ่งสลบอยู่หน้ารถของเขา

เธอในวันนั้นสลบไม่ได้สติ ใบหน้าซีดเซียว แต่ดวงหน้านั้นกลับเหมือนกับหญิงในความฝันไม่มีผิดเพี้ยน

“แม่เมษา เราเองยังไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะมีหน้าตาเหมือนกับหญิงในฝันของเรา” เขาพึมพำ

แสงแดดสายเริ่มสาดผ่านช่องไม้ ขุนเทวัญยืนนิ่งอยู่นาน “หรือภาพในฝันจะเป็นชาติภพที่แล้วของเรา”

ตลาดสายท้ายเรือนขุนเทวัญคึกคักตั้งแต่สาย แม่ค้าโหวกเหวก ขนมกล้วย ขนมถ้วย และกลิ่นกล้วยเชื่อมลอยคลุ้งเต็มบรรยากาศ เมษาเดินยิ้มหน้าบานถือถุงขนม ข้าง ๆ คือแม่พลอย ส่วนเฟื่องเดินหอบตะกร้าผลไม้ตามอยู่ไม่ห่าง

ทันใดนั้นเอง เสียงเอะอะจากทางซอยฝั่งตรงข้ามดังขึ้น มีชายท่าทางมึนเมาเดินโซเซออกมาจากร้านเหล้าในตลาด ท่าทางกร่างและเสียงดัง

“นั่นไงวะ คนที่ข้าบอกว่าสวยแบบนางอัปสรนั่นน่ะ”

“น้องสาวคนสวยจ๊ะ พอจะมีเวลาว่างไปดื่มน้ำชากับพวกพี่ทั้งสองบ้างมั้ยจ๊ะ”

เมษาหันไปมองตามเสียงแล้วขมวดคิ้ว เมื่อรู้ว่าพูดถึงตัวเอง “สภาพแบบนี้ คิดจะมาจีบฉันเหรอ ฝันไปเถอะ ไปจีบหมู หมา กา ไก่ มันก็ยังไปเอาเลย”

“นังคนนี้ปากดีนัก” ชายฉกรรจ์ทั้งสองเดินปรี่เข้ามาหา

เฟื่องขยับตัวมาขวางหน้าเมษาทันที “ท่านทั้งสอง อย่าได้ล่วงเกินหญิงในเรือนขุนเทวัญ”

แต่ฝ่ายนั้นหัวเราะหึ ๆ หน้าตาแดงจากสุรา “บ่าวหนุ่มเรือนนี้ดูชะแล่มแช่มช้อยอย่างกับสตรี หลีกไปเสียให้ไกล ก่อนที่จะโดนมือโดนไม้”

ชายคนหนึ่งก้าวพรวดเข้ามาหาเมษา ยกมือจะจับแขน เฟื่องปัดออกทันที ก่อนออกหมัดใส่หน้าอีกฝ่าย

ผัวะ!!

“อย่าแตะต้องแม่เมษา!” เฟื่องตะโกนเสียงดัง คนในตลาดเริ่มมุงดู

“ไอ้หนุ่มนี่ เป็นมวยเหมือนกันนี่หว่า”

ครู่เดียว ชายอีกคนก็เข้ามาประกบด้านหลังแล้วรั้งแขนทั้งสองของเฟื่องเอาไว้ ส่วนอีกคนปรี่เข้ามาชกเข้าที่ใบหน้าหลายครั้งจนอ่อนแรง

“เฟื่อง!” เมษาร้องลั่น

“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที” แม่พลอยร้องเสียงหลง

ชายเมาคนเดิมคว้าแขนเมษาอีกครั้ง “มากับข้าเถอะเจ้าแม่ ข้าจะทำให้เจ้าไม่รู้ลืมเลย”

“ปล่อยนะ” เมษาดิ้นสุดแรง พยายามสะบัดออก

แม่พลอยมองเฟื่องที่โดนเตะกลิ้งกับพื้น เมษาโดนฉุดกระชากกลางตลาด ด้วยไม่รู้จะช่วยอย่างไร จึงคว้าชายผ้าแล้วยกชายผ้าถุงขึ้นสูงเหนือเข่า แล้ววิ่งอย่างสุดกำลังกลับไปที่เรือน

ขุนเทวัญที่กำลังนั่งเขียนหนังสืออยู่ที่ห้องทำงานบนเรือน ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายของแม่พลอย จึงเดินลงมาดู แม่พลอยมาถึงพร้อมเสียงหอบและใบหน้าซีดเผือด

“ท่านขุนเจ้าคะ ตลาดท้ายคุ้งน้ำ แม่เมษาโดนพวกนักเลงฉุด เฟื่องโดนทำร้าย ท่านขุนรีบไปช่วยแม่เมษาทีเถิดเจ้าค่ะ”

ขุนเทวัญชะงัก คิ้วขมวดแน่น แววตาคู่คมแปรเปลี่ยนทันทีจากสงบกลายเป็นกร้าว มือกำแน่น ก่อนเอ่ยถามเสียงดัง

“อยู่ที่ใด”

“ตลาดท่าน้ำเจ้าค่ะ”

ยังไม่ทันฟังจบ ขุนเทวัญก็ก้าวยาวอย่างเร็ว เพื่อปรี่ไปยังตลาดท่าน้ำโดยทันที

ที่ตลาดท่าน้ำ ฝนเริ่มโปรยลงเบา ๆ แต่ไม่ดับกลิ่นเลือดจาง ๆ บนพื้น เฟื่องนอนหมดสติริมตลิ่ง เมษายังอยู่ในอ้อมแขนของชายเมาคนหนึ่ง กำลังโดนบีบแขนแรงจนเป็นรอยแดง

“มานี่เถอะน่าแม่คุณ อย่าทำพิรี้พิไรนักเลย”

เมษาหน้าซีด พยายามดิ้น “ปล่อยนะ ไอ้พวกหื่นกาม”

“รู้ได้ไงว่าฉันหื่นกาม แต่ก็ไม่ปฏิเสธก็แล้วกัน ฮ่า ๆ “เสียงหัวเราะยังไม่ทันจบ

ชายในชุดครึ่งทางการ สวมเสื้อแพรแขนยาวสีเข้ม เดินฝ่าฝนด้วยสายตานิ่งสงบ แต่ดุราวกับพายุ คนในตลาดหันขวับ มองราวกับเวลาในฉากหยุดลง ขุนเทวัญหยุดยืนตรงหน้าเฟื่องที่นอนแน่นิ่ง เขาก้มลงชั่วครู่ สัมผัสชีพจรแล้วลุกขึ้นอย่างช้า ๆ สายตามองไปยังชายสองคน ที่ยังจับแขนเมษาแน่นอยู่

“เราให้โอกาสพวกแกทั้งสองหยุดและขอโทษ แต่หากยังเลือกจะใช้กำลังกับสตรี เราจะใช้แรงของบุรุษตอบแทนให้สาสม”

“แกเป็นใคร ปากดีนักนะ ก็มาลองกันสักยกเป็นไร” ชายที่คุมตัวเมษาอยู่ปล่อยเธอ แล้วตั้งท่ามวยไทยปรี่เข้าหาขุนเทวัญ

ขุนเทวัญไม่พูดพร่ำใดอีก เขาสืบเท้าขวาขึ้นสูง ถีบไปที่ยอดหน้าของชายผู้นั้นอย่างจัง

“อุ๊บ บาทาลูบพักตร์” เมษาเผลอเอ่ยชื่อท่ามวยไทย ที่เธอมักได้ยินตอนที่บัวขาวขึ้นชกในยุคสมัยของเธอออกมา

ชายอีกคนจึงปรี่เข้ามาพร้อมไม้ท่อนใหญ่หมายฟาดเข้าที่ขุนเทวัญ แต่เขาหลบได้ทันควันและสวนกลับไปด้วยการถีบยอดอกจนอีกฝ่ายเซ แล้ววิ่งเข้าไปกระแทกเข่าเข้าอย่างจังจนชายคนนั้นกระเด็นตกน้ำ

“เข่าลอย” เมษาตะโกนออกมา “โอ้โห ถ้าคุณพี่ขุนไปชกมวยไทยล่ะก็ บัวขาวก็บัวขาวเถอะ โคตรโหด โคตรอันตราย”

คนในตลาดเริ่มฮือฮา ชายทั้งสองหายเมาเป็นปลิดทิ้ง และรีบวิ่งหนีไปทันที

ขุนเทวัญหันกลับมาหาเมษา มือเขายื่นมาอย่างเงียบ ๆ ไม่พูดอะไร เมษามองเขาด้วยดวงตาสั่นระริก

“คุณพี่ขุน ฉันขอโทษ ฉันแอบออกมาจากเรือนโดยไม่ได้ขออนุญาตจนเกิดเรื่อง” เมษาพูดเสียงเบา

ขุนเทวัญไม่พูด แต่กลับใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนสะอาดซับรอยเลือดเล็ก ๆ ที่ริมฝีปากของเธอ ความเงียบระหว่างสองคนกลับอบอุ่นแปลกประหลาด

ท่าน้ำกลับมาเงียบสงบ แต่ภายในใจของเมษากลับยังวุ่นวายเหมือนพายุไม่ยอมหยุด จู่ ๆ เธอก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากข้างหลัง มือหนึ่งแตะเบา ๆ ที่ไหล่ของเธอ จากนั้นอ้อมแขนของชายคนหนึ่งก็ค่อย ๆ โอบลงมาอย่างระวัง

ขุนเทวัญยืนนิ่ง เขาไม่รู้ว่าควรพูดอะไร จนในที่สุดเสียงของเขาดังขึ้นช้า ๆ ใกล้ใบหู เสียงต่ำ นุ่ม และจริงใจ “เธอไม่ใช่คนบ้านนี้เมืองนี้ ยิ่งหน้าตาสะสวยขนาดนี้ ยิ่งอันตราย ทีหลังอย่าไปไหนคนเดียวอีก เพราะจะไม่มีใครคอยปกป้อง ถ้าฉันไม่อยู่ตรงนั้น”

เมษาชะงัก นี่เป็นครั้งแรกที่ขุนเทวัญพูดอะไรยาว ๆ กับเธอ เมษาเงยหน้าขึ้นแล้วค่อย ๆ เอ่ยประโยคหนึ่งออกมาในใจช้า ๆ

“สวยเหรอ คุณพี่ขุนชมว่าฉันสวยเหรอคะ” ปลายปากสั่น ๆ เมื่อครู่ กลับแอบยกยิ้มมุมปากอย่างเก็บไม่อยู่

ขุนเทวัญใบหูแดงอีกแล้ว เขายืนนิ่ง แต่ปลายนิ้วข้างหนึ่งกลับเลื่อนมาแตะเบา ๆ ที่หลังมือของเธอ เขาไม่ได้พูดอะไรอีก และอ้อมแขนนั้นยังไม่ยอมปล่อย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แม่หญิงย้อนเวลา มารักกับท่านขุน   เมษาเธอไปไหน คุณพี่ขุนทำไมใจจะขาด

    กลางดึกคืนนั้น ลมพัดผ่านหน้าต่างเรือน เสียงพื้นเรือนแกรกกรากเบา ๆ คล้ายเสียงบางอย่างที่กระซิบจากอดีต ขุนเทวัญนอนนิ่งอยู่บนฟูก ห่มผ้าผืนบาง แสงจากตะเกียงหัวเตียงไหวระริก เขาเข้าสู่นิทราอย่างเงียบงัน ก่อนจะเข้าสู่ความฝัน ที่เหมือนจริงจนรู้สึกถึงลมหายใจของอีกคนในฝันเขายืนอยู่กลางเรือนไทยไม้สักหลังหนึ่ง ท่ามกลางแสงแดดอ่อนปลายรุ่ง เสียงระฆังวัดดังแว่วจากที่ไกล กลิ่นอบเชยและน้ำอบลอยมาแตะจมูกและตรงหน้าของเขาคือหญิงสาวผู้หนึ่ง สวมสไบเฉียงสีขาวนวล ผ้านุ่งสีแดงเลือดนก จีบหน้านางละเอียด เธอยิ้มพลางใช้มือบางแตะไหล่เขาเบา ๆ แววตาคู่นั้นทั้งคุ้นเคย ทั้งเศร้าและอ่อนหวานปนกัน“ท่านมาช้าอีกแล้ว” เสียงเธอเบาดุจสายลมที่กระซิบข้างหู“แต่ข้ากลับมาแล้ว” เขาพูดเสียงแผ่วตอบกลับทั้งที่ไม่รู้ว่ากำลังพูดกับใคร แม้ว่าจะเจอเธอมาหลายคราในห้วงนิทรา หัวใจแน่นตื้อเหมือนเคยพูดประโยคนี้มานับพันครั้ง“เราจะไม่พรากจากกันอีกใช่ไหม” หญิงสาวเอ่ยเขาคว้ามือเธอไว้ แต่แสงอาทิตย์กลับสว่างวาบ ภาพนั้นค่อย ๆ เลือนหายไป ขุนเทวัญสะดุ้งตื่นในเช้ามืด เหงื่อซึมเล็กน้อยบนหน้าผาก แม้อากาศจะเย็นเขาลุกนั่งนิ่ง สบตากับความเงียบในห้อง เสี

  • แม่หญิงย้อนเวลา มารักกับท่านขุน   ท่านขุนต้องเป็นของฉัน

    เสียงฝนยังคงพรำลงไม่หยุด ใต้ชายคาศาลาเล็ก ๆ เมษายืนใกล้ขุนเทวัญจนได้กลิ่นไอของผ้าที่ชื้นด้วยฝนและกลิ่นกายของท่านขุนคลุ้งจาง ๆ ขุนเทวัญยังคงถือผ้าคาดเอวผืนยาวที่ใช้บังฝนให้เมษาไว้ในมือ ปลายผ้ายังเปียกอยู่บ้าง แต่มุมหนึ่งแห้งเมษาหันมามองเขา เห็นใบหน้าของขุนเทวัญมีหยดน้ำเกาะอยู่ตามขมับ แก้ม และปลายคาง“คุณพี่ขุนเปียกหมดเลย” เมษาพูดเบา ๆ ก่อนจะยื่นมือมาหยิบปลายผ้าคาดเอวจากมือเขา ขุนเทวัญชะงักมอง ยังไม่ทันเอ่ยห้าม เมษาก็ยกผ้าผืนนั้นขึ้นอย่างเบามือ แล้วค่อย ๆ เช็ดหยดน้ำที่ข้างแก้มของเขา ขยับเลื่อนไปที่ขมับ และหน้าผากที่มีหยดน้ำเกาะพราว“อยู่เฉย ๆ สิคะจะเช็ดให้” เมษาว่าพลางยิ้มละไมขุนเทวัญยืนนิ่งเหมือนถูกมนตร์สะกด ใบหน้าเขานิ่งแต่หูเริ่มแดง แล้วแดงมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะตอนที่ปลายนิ้วของเมษาแตะลงเบา ๆ ตรงข้างสันกราม“คุณพี่ขุนหน้าแดงอีกแล้ว” เมษาเอียงคอถาม ยิ้มแบบคนรู้ทันขุนเทวัญเบือนหน้าหลบ “เธอนี่ ชอบพูดจาน่าเอามืออุดปากเสียจริง”“คุณพี่ขุนเนี่ยเป็นผู้ชายที่เรียบร๊อย เรียบร้อยนะคะ โดนแซวแค่นี่ถึงกับเขิน แต่ก็น่ารักนะเนี่ย” เมษายักคิ้วขุนเทวัญถึงกับไอออกมาในลำคอ “แม่เมษา พูดจาไม่งามเลย

  • แม่หญิงย้อนเวลา มารักกับท่านขุน   งานวัดฮีลใจ

    ในเช้าของวันที่แสงแดดอ่อน เสียงนกเอี้ยงร้องแว่วจากยอดมะม่วง แม่พลอยจัดผมให้เมษาอยู่หน้าห้องเรือนในด้วยสีหน้าเคร่งครัด เพราะว่าพระยาภูบดินทร์ บิดาของขุนเทวัญกลับมาจากราชการที่หัวเมืองเหนือ และทราบว่าที่เรือนมีหญิงหลงทางมาอยู่อาศัย จึงอยากพบกับเมษา“ฟังให้ดีนะ เธออย่าเผลอพูดอะไรแปลกหูเหมือนที่ชอบพูดกับฉันต่อหน้าคุณท่านนะ”“จ้า จะเรียบร้อยแบบกุลสตรีศรีรัตนโกสินทร์เลยแม่พลอย” เมษาเบะปากใส่กระจกบนเรือนใหญ่ พระยาภูบดินทร์นั่งอยู่ที่ตั่งกลางเรือน เสื้อแพรสีเทาเงินตัดกับผ้าพับอย่างเรียบ เส้นผมขาวแซมข้างหู แต่ดวงตายังคมและนิ่ง ข้าง ๆ กันคือคุณหญิงจันทร์วาด ที่กำลังจิบชาด้วยท่าทางของหญิงชั้นสูงเมษาเดินเข้ามาด้วยอาการกึ่งประหม่า แต่พยายามทำใจดีสู้เสือ“กราบสวัสดีค่ะ คุณท่าน คุณหญิง แล้วก็คุณพี่ขุน เอ๊ย ท่านขุนเทวัญค่ะ” มือยกพนมแสนเรียบร้อย แต่เสียงสั่นปลายประโยคคุณหญิงหรี่ตามองตั้งแต่หัวจรดปลายซิ่น “ขอให้ความเรียบร้อยนั้นอย่าได้หมดอายุภายในห้านาทีเถอะ”พระยาภูบดินทร์หัวเราะเบา ๆ ท่ามกลางความเงียบ เสียงหัวเราะที่ไม่ได้ยินบ่อยในเรือนนี้“เธอคือแม่เมษาหรือ ดูท่าทางแปลกจากคนบ้านนี้เมืองนี้ยิ่งนัก

  • แม่หญิงย้อนเวลา มารักกับท่านขุน   คำอธิษฐานที่ตรงกัน

    เสียงเครื่องยนต์รถยนต์ฝรั่งดังกระหึ่มขณะแล่นไปตามถนนลูกรังในพระนคร เมษานั่งเบียดแม่พลอยอยู่เบาะหลัง ดวงตาโตเท่าไข่ห่าน มองซ้ายขวาไม่หยุดส่วนขุนเทวัญนั่งอยู่เบาะด้านหน้าโดยมีเฟื่องเป็นคนขับรถ รถยนต์สีดำสนิทเงางาม ประทุนเปิดรับลมเย็นบาง ๆ ของช่วงสายวันนั้น“เพิ่งเคยนั่งรถโบราณย้อนยุคครั้งแรก” เมษาตะโกนฝ่าลม“รถโบราณอะไรกันแม่เมษา คันนี้เพิ่งนำเข้ามาจากอังกฤษเลยนะ” ขุนเทวัญพูดโดยไม่หันกลับมามอง“จริงด้วย นี่เรามาอยู่ในยุครัตนโกสินทร์นี่” เมษาบอกกับตัวเองก่อนที่จะหันไปมองทิวทัศน์รอบข้างของพระนครยุครัตนโกสินทร์รถยนต์แล่นมาหยุดที่หน้ากรมพระคลังสินค้า ซึ่งเป็นอาคารสถาปัตยกรรมผสมไทย-ตะวันตก ตัวอาคารสองชั้นทาสีขาวครีม มีบานหน้าต่างโค้งประดับไม้ฉลุลายทอง เสาเรียงรายรับชายคายาว หน้ากรมมีธงชาติสยามปลิวไสว เมษานั่งอ้าปากค้างอยู่เบาะหลัง“โอ้โห นี่หรือคือกรมพระคลังสินค้าของจริง มันทั้งสวยและดูขลังมาก”ขุนเทวัญหันมามองด้วยสีหน้าขรึมแต่แววตาขำ “ดูเธอจะไม่เคยเข้ามากลางพระนครสินะ”เขาก้าวลงจากรถแล้วหันมาทางแม่เมษาและแม่พลอย“ฉันต้องเข้าไปสะสางราชการภายในไม่นานนัก พวกเธอรออยู่แถวนี้ก่อน”“เจ้าค่ะ” แม่

  • แม่หญิงย้อนเวลา มารักกับท่านขุน   ภาพในฝันที่เริ่มชัด

    ในคืนนั้น สายลมอ่อน ๆ พัดผ่านเรือนไม้ เสียงจั๊กจั่นยังดังเป็นจังหวะ กล่อมให้บรรยากาศยามค่ำในพระนครเงียบสงัดยิ่งขึ้นเมษานอนอยู่บนฟูกบาง ๆ ใต้แสงตะเกียงน้ำมันที่ไหวระริก เสียงลมหายใจเธอสม่ำเสมอก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนไป และเข้าสู่ห้วงนิทราเธอฝัน แต่มันทั้งชัดเจนและพร่าเบลอในเวลาเดียวกัน ในฝันนั้นเมษายืนอยู่กลางลานกว้าง รอบตัวเป็นสวนไม้สูงเรียงรายเหมือนเขาวงกต กลิ่นกำยานหอมจาง ๆ ลอยมาแตะจมูก ผืนฟ้าเป็นสีแดงใกล้โพล้เพล้ แต่ไม่มีแดด ไม่มีเงา เหมือนเป็นโลกอีกมิติหนึ่งเธอก้มมองตัวเองพบว่าตนเองไม่ได้สวมเสื้อแขนกระบอกหรือผ้าซิ่นแบบทุกวัน แต่เป็นสไบเฉียงสีขาวนวล เนื้อผ้าบางเบา และผ้านุ่งแบบจีบหน้านางสีแดงเข้ม ลวดลายละเอียดประณีตแบบหญิงในสมัยอยุธยา ซึ่งไม่เคยมีใครในยุครัตนโกสินทร์แต่งเช่นนั้นเธอก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ เท้าเปล่าสัมผัสพื้นดินอ่อนนุ่มและเย็นจับใจ เมษารู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด ราวกับเคยเดินผ่านตรงนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างกาย เสียงที่ทุ้มนุ่ม และอบอุ่นอย่างประหลาด“เจ้ามาแล้วหรือ”เมษาหันขวับ ชายหนุ่มในชุดโจงกระเบนสีดำ สวมเสื้อห่มแพร ผ้าโพกหัวบาง ๆ ดวงตาคมคู่นั้

  • แม่หญิงย้อนเวลา มารักกับท่านขุน   แม่หญิงสูงศักดิ์กับแม่หญิงสายแซ่บ

    แดดสายสะท้อนลงบนหลังคามุงจาก กระทบผิวน้ำตลาดปากคลองจนเงาวาว แม่ค้าเขียงหมูเสียงดังแข่งกับเจ้าของร้านขนมฝอยทอง เสียงตะโกนเรียกลูกค้าเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณท่ามกลางความวุ่นวาย เมษาเดินมาในลุคสายช้อปย้อนยุค ผ้าซิ่นลายแดงสดเกือบสะท้อนแสงแดด เสื้อแขนกระบอกพับผิดเล็กน้อย ข้างหนึ่งไหล่ตก ข้างหนึ่งตั้งสง่า มือหนึ่งหิ้วขนมต้ม อีกมือถือทองหยอดมากินเล่น“ว้าว ตลาดนี่คือสวรรค์ของสายกิน นี่ถ้ามีชาไข่มุกให้กินด้วยละก็ ฟินสุด ๆ”แม่พลอยที่เดินตามแทบเอามือปิดหน้าผาก “อย่าพูดอะไรเพี้ยน ๆ ออกมาอีกเลยแม่เมษา แค่นี้คนก็มองกันทั้งตลาดแล้ว”“ก็มองคนสวยไง ไม่เห็นแปลก หรือเธอว่าฉันไม่สวยหรือไงแม่พลอย”“เออ ไอ้สวยน่ะก็สวย แต่แปลกก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน”เมษากรอกตามองบน “จะถือว่าเป็นคำชมแล้วกันนะ”ที่หัวตลาด เสียงวุ่นวายของพ่อค้าแม่ขายยังครึกครื้น แต่ทันทีที่แม่หญิงรำเพยปรากฏกายเดินนวยนาดอย่างงามสง่า ตลาดทั้งแถบก็เหมือนชะงักอารมณ์หนึ่งผ้าไหมสีชมพูทองจับจีบประณีต เสื้อห่มสไบกลิ่นน้ำอบโชยอ่อน ๆเมษาที่เพิ่งหันมาเห็น พึมพำกับแม่พลอยเบา ๆ “นั่นแม่หญิงรำเพยนี่”แม่พลอยพยักหน้า “ใช่ แม่หญิงรำเพย คู่หมายของท่านขุนเทวัญ”“คู

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status