LOGIN“ปะป๊า แง้ๆๆ ของมินๆ ปะป๊าแย่งของมิน ฮือ...” หนูน้อยร้องจ้าอยู่หน้าประตู เป็นจังหวะเดียวกับที่กวินก้มลงดูดกลืนยอดอกสีหวานของนางแบบสาว
แพรวรุ้งผวาเฮือก รีบผลักศีรษะของเขาให้ออกห่างแล้วควานหาเสื้อผ้ามาสวม
“บ้าฉิบ! มีนา!”
“ปะป๊าดูดนมน้าแพวทามมาย ฮึกๆ” หนูน้อยถามพลางสะอื้นฮักๆ แพรวรุ้งหน้าแดงเป็นกุ้งต้ม ขณะที่กวินคิดหาทางเอาตัวรอด
“ก็ปะป๊าลองชิมให้มีนไงครับว่า นมบูด หรือเปล่า”
เขาปดหน้าตาจริงจัง มีนาไม่เชื่อ ส่ายหน้าดิก
“คุณ! นั่นปากหรือที่พูดน่ะ”
แพรวรุ้งอดไม่ได้ มาว่านมเธอบูดแล้วเขาจะดูดมันทำไมห๊า!
“มินจาฟ้องแม่ ปะป๊ากอดน้าแพวด้วย ฮึกๆ” หนูน้อยร้องไห้จ้า เดือดร้อนกวินต้องคลานลงจากเตียงมาอุ้มเอาเจ้าหนูตัวแสบมาปลอบ
“ไม่มีอะไรครับลูก ก็น้าแพวไม่สบายไง ปะป๊าเลยต้องวัดไข้แบบนี้”
เขาใช้หน้าผากตัวเองแนบไปกับหน้าผากของบุตรชาย
“แล้วทำไมต้องวัดที่นมน้าแพวด้วย นั่นของมิน ปะป๊าบอกว่าคืนนี้จาให้มินดูดนมน้าแพว” หนูน้อยเถียง น้ำตาเริ่มเหือดหาย
แพรวรุ้งเริ่มหน้าม้าน สองพ่อลูกคุยเรื่องการดูดนมจากหน้าอกของเธอราวกับว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา
“ก็...ก็น้าแพรวเป็นปอดบวมไงครับลูก ปอดมันอยู่ข้างในตัวเรา ปะป๊าวัดไข้จากหน้าผากไม่ได้เลยต้องวัดผ่านนมน้าแพว”
เขาอธิบายคำลวงดังกล่าวให้ดูน่าเชื่อถือ สองมือประคองบุตรชายไว้ในอ้อมแขนอย่างแสนรัก
“เอาล่ะๆ ฉันว่าเชิญคุณสองคนออกไปรอข้างนอกได้แล้ว ฉันต้องการพักผ่อน”
“ม่าย มินจานอน” เด็กน้อยออกตัว ปาดน้ำตาป้อยๆ
“ใช่ๆ เป็นเด็กต้องนอนกลางวัน” คุณพ่อช่วยเสริม
แพรวรุ้งระอาเต็มทน วันนี้เธอจะได้อาบน้ำตอนไหนนี่
“โอเค ตามใจพวกนาย แต่ฉันขอไปอาบน้ำก่อนโอเคไหม” ว่าแล้วก็งัดเอาของใช้ส่วนตัวออกมาจากกระเป๋า ผ่านไปไม่กี่นาทีพอหันกลับมาก็พบว่าเจ้าหนูตัวแสบหลับอยู่บนบ่าของคนเป็นพ่อเรียบร้อย
ใบหน้าทะเล้นกวนบาทาของกวินดูอ่อนลงจนเหลือเพียงอ่อนโยน มือข้างหนึ่งของเขาจับศีรษะเล็กๆ ของเจ้าตัวแสบให้เข้าที่เข้าทางบนบ่ากว้าง แพรวรุ้งได้ยินเขาฮัมเพลงเบาๆ เห่กล่อมเจ้าหนูอยู่สักพัก เธอจึงเลี่ยงเข้าห้องน้ำ พอเสร็จเดินออกมาอีกทีก็เห็นสองพ่อลูกนอนกอดกันอยู่บนเตียงใหญ่
แพรวรุ้งเข้าไปชะโงกหน้าดูเจ้าหนูใกล้ๆ ใบหน้ายามหลับสนิทดูไร้พิษสงน่ารักน่าชัง ปากนิดจมูกหน่อยเหมือนคนเป็นพ่อ ผิดก็แต่ริมฝีปากอิ่มเล็กๆ ที่คงจะเหมือนมารดาของแกกระมัง
“อีตาคนนี้นี่ก็เหลือเกินจริงๆ หลับไปได้ยังไงผ้าผ่อนไม่รู้จักหามาห่มให้ลูก เป็นพ่อประสาอะไรนะตาทึ่ม” นางแบบสาวบ่นกระปอดกระแปดแต่หาผ้าห่มมาคลุมร่างให้คู่ดูโอที่นอนเกยกันอยู่
“ดูๆ ไปนายนี่ก็น่ารักเหมือนกันเนาะ ถ้าลดปากหมาๆ ของนายออกไป ลบมือปลาหมึกด้วย นายก็ถือว่าเป็นผู้ชายที่ใช้ได้นะ อยากรู้จังว่าเมียนายชอบนายตรงไหนกันฮึ พ่อจอมหื่น” หญิงสาวบ่นพึมพำใกล้ๆ ใบหน้าพ่อจอมหื่น ใบหน้าขาวคมเรียบนิ่งยามหลับไม่ได้ต่างจากบุตรชายเท่าใดนัก เธอนั่งลงที่พื้นข้างเตียง สองมือประสานไว้ใต้คาง เอียงคอเพ่งพินิจดูวงหน้าของกวินด้วยความหลงใหลโดยไม่รู้ตัว ลืมแม้กระทั่งว่าตัวเองยังอยู่ในชุดเสื้อคลุม
แพรวรุ้งยื่นมือออกไปหมายจะสัมผัสใบหน้านั้นด้วยความอยากลองอยากรู้ แล้วทันใดนั้นเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นจนได้
หมับ!
“ว้าย! นี่คุณไม่ได้หลับเหรอ?” เธอร้องลั่นเมื่อมือแกร่งตะปบคว้ามือบางเอาไว้ก่อนที่มันจะสัมผัสถูกใบหน้าเขา
“ชู่ว์...เบาๆ สิคุณลูกผมหลับอยู่” เขาปรามแล้วค่อยๆ ลุกจากที่นอน ลากหล่อนไปเข้าห้องน้ำอีกรอบ ปิดประตูลงกลอนเรียบร้อยท่ามกลางแขนขามือไม้ของหล่อนที่ประทุษร้ายร่างเขา
“พาฉันมาในนี่ทำไม ปล่อยนะ!”
“เมื่อกี้คุณจะทำอะไร?”
“อะไร!? ฉันเปล่า” แก้ตัวเสียงหลง ก้มหน้าหลบสายตาคมที่ส่งมาอย่างจับผิด
“ก็ผมเห็นว่าคุณกำลังจะจับหน้าผม”
“ฉันเปล่า!”
นางแบบสาวเงยหน้าเถียงคอเป็นเอ็นทั้งที่หลักฐานมันชัดเสียยิ่งกว่าอะไร เพราะเมื่อครู่มือบางของเธออยู่ห่างจากใบหน้าเขาแค่คืบเท่านั้น
“แต่ผมรู้ คุณจะแตะหน้าผมทำไม”
“ขี้ตู่! ปล่อยนะ! ใครทำอย่างนั้นมิทราบ นึกว่าตัวเองวิเศษมาจากไหนกัน ไม่มีใครเขาอยากแตะนายหรอกนอกจากเมียโง่ๆ ของนาย โอ๊ย!”
“อย่าก้าวร้าวเมียผม!” กวินร้องใส่หน้า ดวงตาแววโรจน์ด้วยความโกรธ กำข้อมือแพรวรุ้งแน่นหนึบ
“อะไร!? ฉันแค่พูดตามที่คิด รักกันเหลือเกินนะแตะต้องไม่ได้”
“แน่นอน เมียผมสูงส่งกว่าคุณเป็นไหนๆ ไม่มาแก้ผ้าหาเงินเหมือนคุณหรอก”
“อย่าดูถูกฉัน!”
“ทำไม!? อย่างคุณน่ะ กว่าจะได้เป็นซุปเปอร์สตาร์ ทอดสะพานเนื้อสด ให้ใครเขามาบ้างล่ะแพรวรุ้ง”
“ฉันไม่เคย!” เธอแหวกลับไปเสียงขุ่น รู้สึกผิดหวังและน้อยใจอย่างประหลาดที่เขากล่าวหาอย่างนั้น
“ตอแหล!” เขาว่าหล่อน แพรวรุ้งตาลุกวาว
“ปากจัด! ปล่อยฉันนะไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ ปล่อย!”
“เถียงไม่สู้ก็จะหนี”
“เรื่องของฉัน ปล่อยนะ!” ไม่ว่าเปล่าแต่พยายามดิ้นรนออกจากอ้อมแขนเขา มันรัดเธอแน่นเหลือเกิน
“ไม่ปล่อย ถึงผมจะไม่รวยเท่าพี่ชายแต่ผมก็มีเงินนะแพรวรุ้ง มันน่าจะซื้อความสุขจากคุณได้บ้าง เพราะฉะนั้นคุณจะเอาเท่าไหร่สำหรับครั้งแรกของเรา”
“ต่ำ! สมองกลวงหรือเปล่า ฉันไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่านะ”
“แล้วจะพิสูจน์ยังไงว่าไม่ใช่” เขาเล่นลิ้น อยากให้หล่อนตกหลุมพราง
“ต้องให้ฉันยอมคุณด้วยหรือเปล่าถึงจะพอใจ”
เธอประชด ใบหน้างามเริ่มมีเม็ดเหงื่อผุดพราย
“แน่นอน ยินดีเลยล่ะ ว่าแต่จะเอาเท่าไหร่”
“ฉันไม่เอา แต่ถ้าพิสูจน์แล้วมันไม่เป็นอย่างที่คุณคิด คุณต้องเลิกวุ่นวายกับฉัน” เธอยื่นข้อเสนอโง่ๆ ที่คิดได้เพราะอารามอยากประชด
“ได้! แต่เดาว่าผมกับคุณคงต้องเจอกันไปอีกนานเชียวล่ะ”
“อย่ามั่นใจให้มากนัก บางสิ่งบางอย่างมันตัดสินด้วยตาเปล่าไม่ได้หรอก หึๆ”
แพรวรุ้งแค่นยิ้มเยาะเย้ยเขา
“นั่นไงผมเลยต้องพิสูจน์” ว่าแล้วก็ฉกจุมพิตที่ริมฝีปากคู่งาม
แพรวรุ้งดิ้นขลุกขลักในวงแขน ความมั่นใจเกินร้อยของเขามันช่างท้าทายเหลือเกิน เธอถามตัวเองว่าตัดสินใจแน่แล้วหรือแพรวรุ้ง ตัดสินใจใช้วิธีเยี่ยงคนไร้สมองอย่างนี้เพียงเพื่อกำจัดเขาออกไปจากชีวิต แล้วมันจะคุ้มแน่หรือ?
“ไม่ๆๆ อย่านะ ได้โปรด อ๊ะ!” เธอร้องเสียงหลงเมื่อเขาขบเม้มที่ลำคอขาวผ่อง
“หยุด! พอแล้ว พอ! ฉันเปลี่ยนใจแล้ว!”
นางแบบสาวกลั้นใจหลับตาปี๋ร้องบอกเขา เธอขอเปลี่ยนใจตอนนี้เถอะ
“เสียใจ มันสายไปแล้ว”
ชายหนุ่มกระซิบที่ข้างหู โจมตีหล่อนด้วยลิ้นร้อนๆ ลากไล้ล้วงลึกเข้าไปในโพรงหูสะอาดจนแพรวรุ้งครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน เสื้อคลุมตัวงามถูกเปลื้องออกในเวลาต่อมา...อย่างง่ายดาย
“บอกแล้วว่าเธอต้องชอบมัน” เขาเย้ยนัยน์ตาพราว
แพรวรุ้งน้ำตาคลอเมื่อเห็นสายตาเยาะหยันนั้น เขานั่งลงตรงหน้าเธอ บรรจงใช้เรียวลิ้นบังคับให้เธอแยกขาออกห่าง ก่อนจะลดใบหน้าลงไปคลอเคลียกุหลาบงาม เคล้าคลึง สูดดม และขบเม้มจนเธอสั่นสะท้าน เขารังแกส่วนบอบบางของเธอด้วยเรียวลิ้นอย่างช่ำชองและเนิ่นนาน ร่างเธอกระตุกไปหลายครั้งเมื่อเขาเน้นตรงส่วนที่เป็นเกสรของกุหลาบสีแดงระเรื่อ
“อย่านะ...ฉันขอล่ะ ยอมแล้ว ฉันยอมแล้ว...อย่าเอาคืนฉันด้วยวิธีนี้เลย ฉันขอโทษที่พูดล่วงเกินภรรยาของคุณ ฉันขอโทษ!”
แพรวรุ้งสะอื้นฮักต่อหน้าเขาเมื่อความรู้สึกผิดครอบคลุมจิตใจ
กวินถอยห่างเหมือนต้องของร้อน เขาลุกขึ้นยืนกำหมัดแน่นแล้วหันหลังออกไปจากห้องน้ำแสนสวาท ไม่ใช่หยดน้ำตาของแพรวรุ้งที่ทำให้เขาหยุด แต่เพราะคำๆ นั้นต่างหาก ภรรยาของคุณ
กวินแค่นหัวเราะแล้วหันกลับไปต่อกรกับตาเฒ่าเจ้าเล่ห์พราวพริ้งยืนจังงังอยู่กับที่ นี่นางโดนหลอกอีกแล้วเหรอ ครั้งหนึ่งตาเฒ่าหื่นกามก็ล่อลวงให้นางบำรุงบำเรอความใคร่ให้มัน ตั้งแต่สาวยันอายุปูนนี้ อยากจะเลิกก็เลิกไม่ได้เพราะกลัวว่าจะถูกอีกฝ่ายเปิดโปงให้ตนเสียหน้าเสียชื่อเสียง พอเวลานี้ กวิน คนที่นางเผลอมีใจให้ ก็โกหกหลอกลวงนางเพื่อ.. เพื่ออะไร!? หรือว่า...แพรวรุ้ง!“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!” กวินร้องบอก หน้าตาดุดัน ตาแก่พุงหนาชักปืนออกมาขู่ มองดูลูกน้องที่ถูกต่อยหมดท่าแล้วให้ขัดใจนัก ไร้ฝีมือจริงๆ“อาลายวะ! พูดกันลีๆ ก็ล่าย ทำไมต้องใช้กำลัง หรือว่าลื้ออยากมีเลื่อง นี่มันผู้หญิงของอั๊ว ลื้อม่ายมีสิทธิ์”“เฮอะ! ผู้หญิงของแก แต่นั่น เมียกูโว้ย!”“ไม่จริง! ไม่จริง! กวินโกหก เธอโกหก! เธอเจอยัยแพรวแค่ตอนไปถ่ายแบบเท่านั้น แถมไปไม่กี่วันยังไม่ทันได้ทำงานด้วยซ้ำก็เลิกกองกลางคัน แล้วยัยแพรวจะไปเป็นเมียเธอได้ยังไง!?”“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคุณหญิง ก็ที่เธอหายไปเพราะผมนี่แหละเป็นคนพาเธอไปเอง โจรกระจอกที่ลักพาตัวแพรวรุ
[13]ปิดฉากเมฆากุมมือบางของภรรยาเอาไว้ เฝ้าดอมดมทั้งจูบจุมพิตฝ่ามือบางครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับการทำเช่นนั้นจะทำให้หล่อนตื่นขึ้นมาพูดคุยกับเขาเช่นเมื่อวานนี้ เกือบสามชั่วโมงแล้วที่เขานั่งอยู่ตรงนี้ คุณหมอบอกว่าไม่เกินชั่วโมงหล่อนคงฟื้น แล้วทำไมผ่านไปตั้งสามชั่วโมง หล่อนยังไม่ลืมตา“วารินทร์ คนขี้เซา ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ เธอยังไม่ได้รดน้ำในแปลงผักเลย วันนี้จะอู้งานใช่ไหม” เมฆาเอ่ยทั้งน้ำตา วันวานที่ผ่านผันแต่ความทรงจำในบางเรื่องยังไม่เลือนหาย เขายังจำได้เมื่อครั้งที่ลักพาตัวศรีภรรยามาจากอกของพี่ชาย ช่างเป็นสิ่งที่เลวร้าย แต่ถ้าถามว่าหากย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะทำแบบนั้นไหม บอกได้เลยว่า...ทำ เขายอมเป็นคนชั่ว หากว่าวันนี้ได้ครอบครองหัวใจของภรรยา“ปะ...เปล่านะ นายเหมืองจะกลับคำ...ใช่ไหม ไหนบอกว่าจะไม่ใช้แรงงานเมียแล้วไง แค่กๆ”เสียงแหบแห้งของคนป่วยร้องค้าน“วารินทร์...คนดีของนายเหมือง ฟื้นแล้วจริงๆ ผมดีใจเหลือเกิน”นายเหมืองหนุ่มเพียรกดจูบบนใ
“อ๊ะ...กวิน อืม...” แพรวรุ้งส่งเสียงเมื่อเขาเปลี่ยนจากนิ้วร้ายเป็นท่อนลำของความเป็นชายร้อนผ่าว เขาไม่ได้ถอดกางเกงด้วยซ้ำ เพียงแค่รูดซิบลงแล้วควักมันออกมาจากกางเกงชั้นใน เขาพยายามดุนดันแก่นกายร้อนผ่าวเข้ามาในร่างเธอ แต่มันช่างทำได้ยากเย็น“อ๊ะ! กวิน ฉันเจ็บ!”กวินชะงักเมื่อเสียงครางกระเส่าเปลี่ยนเป็นเสียงร้องอย่างเจ็บปวด เขาขยับกายอีกนิดเพื่อจะได้ยกร่างหล่อนขึ้นเหนือท่อนลำอีกหน“ค่อยๆ นั่งทับมัน อย่างนั้นแพรว อย่างนั้น อา....”แพรวรุ้งใบหน้าบิดเหยเก เขาบอกเธอเหมือนเป็นเรื่องง่ายแต่สิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่มันหนักหนาทีเดียว ตอนนี้ลำลึงค์ใหญ่โตสมชายชาตรี มุดเข้าไปในร่างเธอได้เพียงส่วนหัว ส่วนที่เหลือยังค้างเติ่งอยู่อย่างนั้นกวินยกร่างหล่อนขึ้นน้อยๆ แล้วค่อยๆ ปล่อยลงมาช้าๆ ทำอยู่อย่างนั้นซ้ำๆ กระทั่งความชุ่มฉ่ำนำพาให้ช่องทางสวาทดูดกลืนลำเอ็นขนาดยักษ์จนหมด และมันสามารถลดความเจ็บปวดในการหลอมรวมได้ดีทีเดียว“โอ...ไม่!” แพรวรุ้งร้องเสียงหลงเมื่อเขาช้อนร่างเธอไว้แล้วยกขึ้นลงเป็นจังหวะ ท่อนลำแกร่งกร้าวหา
กวินชะงักเล็กน้อย คุณหญิงเจ้าเล่ห์นัก หนึ่งเดือนมานี้เขาทำทุกวิถีทางที่จะให้พราวพริ้งไว้ใจเขา การร่วมทุนร่วมหุ้นทำฟาร์มไข่มุกที่เกาะมันตรา มันเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น เกาะมันตรามีจริงเสียเมื่อไหร่กัน ลายเซ็นของนางต่างหากคือสิ่งที่เขาต้องการ เอกสารฉบับล่าสุดที่เขาเอามาให้นางเซ็น มันไม่ใช่เอกสารทางธุรกิจแบบธรรมดา แต่มีใบโอนทรัพย์สินแทรกมาอย่างแนบเนียน มันถูกทำขึ้นจากทีมงานที่เขาไว้ใจมากที่สุด เพื่องานนี้โดยเฉพาะ“โธ่...ไม่ได้ปากหวานสักหน่อย แค่พูดความจริงเท่านั้น ถ้าพี่พริ้งยังไม่เซ็นก็ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้ ยังไงซะ เงินที่จะเอามาใช้ในการทำฟาร์มงวดนี้ มันก็เป็นของพี่พริ้งอยู่ดี” กวินว่า“นั่นก็เงินของเธอด้วย ถ้าฟาร์มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเมื่อไหร่ เธอต้องพาพี่ไปดูนะ พี่อยากรู้จริงๆ ว่าเกาะมันตราจะสวยแค่ไหน” พราวพริ้งทำหน้าเคลิ้มฝัน หารู้ไม่ว่า รูปถ่ายที่กวินเคยให้ดูนั้นมันเป็นสวนหนึ่งของเกาะปันรัก มิใช่เกาะมันตรา“แน่นอนครับ ตอนนี้ก็คืบหน้าไปมากแล้ว บ้านของเราสองคนก็สร้างได้ครึ่งหนึ่งแล้วนะครับ อีกเดือนสองเดือนน่าจะเข้าอยู่ได้เลย ผมไม่ไ
ร่างสวยสูงโปร่งอย่างนางแบบของแพรวรุ้ง เดินนวยนาดลงมาตามขั้นบันได เรียวขายาวขาวสะอาดมันสามารถตรึงสายตาของหนึ่งบุรุษให้จดจ้องแน่วนิ่ง แพรวรุ้งใจเต้นโครมคราม ดวงตาเขาที่จ้องมองมาประหนึ่งจะเปลื้องผ้าเธออย่างไรอย่างนั้น“เอ้า? ยัยแพรวมาพอดี”มารดาผู้แสนดีเอ่ยทักบุตรสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานผิดปกติ แพรวรุ้งรับรู้โดยสัญชาตญาณ คุณหญิงพราวพริ้ง มารดาผู้ยังงดงามของเธอ กำลังมีความรัก“แพรวไม่รู้ว่าคุณแม่มีแขก ขอโทษที่แต่งตัวไม่เรียบร้อยค่ะ”เธอกล่าวขอโทษแต่ไม่ได้คิดจะขึ้นไปเปลี่ยนแต่อย่างใด เดินมานั่งบนโซฟาเดี่ยวตัวหนึ่งที่ตั้งอยู่ในห้องรับแขก แอบปรายตาไปมองกวินอย่างยั่วเย้าอยู่ในที“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่ถือ” กวินกล่าวเสียงเรียบเรื่อย จ้องมองวงหน้าเนียนของแพรวรุ้งตาไม่กะพริบ หล่อนดูสดใสอิ่มเอิบผิดหูผิดตา และหล่อนกล้ามากที่หนีออกจากเกาะปันรัก มันน่าโมโหจริงๆ“ขอโทษนะจ๊ะกวิน” พราวพริ้งหันไปขออภัยบุรุษในดวงใจ ก่อนจะหันมาสั่งบุตรสาว “เราก็รีบขึ้นไปเปลี่ยนชุดสิ จะมัวมาขอโทษขอโพยกันทำไม”
[12]เพิ่งเข้าใจ-------------วารินทร์กำลังจัดโต๊ะอาหารค่ำไว้รอนายเหมืองผู้เป็นสามี ร่างอรชรเริ่มอวบอิ่มขึ้นมากเมื่อเธอต้องเร่งอาหารหลักอาหารเสริมเพื่อบำรุงเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในครรภ์ แต่กระนั้น ความน่ารักสดใสของคุณน้องคนงามก็ยังไม่เลือนหายไป“สวัสดีคะพี่วารินทร์ จันทร์มาหาเฮียเมฆค่ะ”วารินทร์ทำหน้าไม่ถูก ด้วยว่าการพบกันครั้งแรก เธอเข้าใจแม่เลี้ยงคนงามผิดไป“สวัสดีค่ะ เอ่อ...นายเหมืองยังไม่กลับเลย คุณ...เอ่อ...น้องจันทร์มาซะค่ำเชียว ทานข้าวด้วยกันนะคะ” ว่าที่คุณแม่เอ่ยชวน แต่ชมจันทร์ตอบกลับมาเพียงรอยยิ้มและยื่นซองเอกสารให้กับนายหญิงแห่งเหมืองวารินทร์“ฝากให้เฮียด้วยนะคะ จันทร์รีบไป ลาเลยก็แล้วกันนะคะพี่ สวัสดีค่ะ” ชมจันทร์ลาพี่สะใภ้ ความอ่อนแอในหัวใจพาให้เธออยากไปให้พ้นๆ จากผู้คน อยากอยู่เงียบๆ อยากนอนร้องไห้ให้สมใจ“เอ้า? จันทร์มาได้ไงมืดค่ำป่านนี้”เมฆาที่เพิ่งเดินขึ้นเรือนมาเอ่ยทักน้องสาวทันที“เฮียเมฆ คือ







