LOGIN“มีน! น้าแพรวไม่อยากเล่น มานี่เดี๋ยวนี้!” กวินขึ้นเสียง นึกเสียใจที่บุตรชายที่รักไปกวนใจแพรวรุ้งให้หล่อนรำคาญ
“ม่าย! ปะป๊าเฉียงดัง มินไม่หาปะป๊า มินกัว ฮึกๆ น้าพะ...แพว ฮึก! มินกัว ปะป๊าจาตีมิน ฮือออ...”
“มีนา!”
กวินเริ่มหัวเสียเมื่อเจ้าหนูผู้เอาแต่ใจออกฤทธิ์ในเวลาที่ไม่สมควร
“จะตะคอกทำไม! อยู่ใกล้กันแค่นี้!”
แพรวรุ้งตวาดกลับ นึกสงสารเจ้าหนูตัวแสบขึ้นมา เธอไปอุ้มเอาเจ้าร่างตุ้ยนุ้ยขึ้นแนบอก ทว่าด้วยร่างกายที่ไม่ปกติบวกกับน้ำหนักตัวของเจ้าหนู ทำให้เธอถึงกับเซ จะล้มมิล้มแหล่
“คุณ!” กวินรีบเข้าไปโอบทั้งสองไว้ ก่อนที่จะเสียหลักล้มลงไปให้เจ็บตัว
“เอามือออกไปจากก้นฉัน!” แพรวรุ้งร้องลั่น เพราะเขาไม่ยอมปล่อย แถมยังบีบมันเน้นๆ ราวกับมันเขี้ยว
“มีน! ปะป๊าจับก้นน้าแพรว” แพรวรุ้งหาแนวร่วม
“อาลายนะ! ปะป๊า นี่แน่ะๆๆ มินจาฟ้องแม่ ป่อยนะ! ฮึบๆๆ”
หนูน้อยผลักบิดาที่โอบตนกับน้าแพวเอาไว้ มือป้อมๆ ทั้งผลักทั้งทุบบิดาของตัวเอง
“โอ๊ย! ตกลงลูกใครเนี่ย”
กวินตัดพ้อเจ้าตุ้ยนุ้ยในอ้อมแขนของแพรวรุ้ง ให้ตายเถอะ ขณะที่หล่อนอุ้มเจ้ามีนตัวแสบ สาบเสื้อคลุมมันดันแยกออกจากกันโดยที่เจ้าหล่อนไม่รู้ ใช่...หล่อนไม่รู้แต่เขารู้ เขาเห็น และอยากจะขยำหน้าอกอวบอึ๋มของหล่อนให้สะใจ
“มีนไปหาปะป๊าก่อนนะ น้าแพรวแต่งตัวก่อน”
เจ้าหนูส่ายหน้า เอียงศีรษะน้อยๆ เข้าหาซอกคอของนางแบบสาวอย่างประจบ แพรวรุ้งลอบถอนหายใจ อันที่จริงเธอควรได้นอนจมเตียง ร้องห่มร้องไห้ให้กับความสาวที่เสียไป แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ไม่ได้นอนร้องไห้ยังไม่พอ ยังต้องคอยดูแลเจ้ามีนจอมแสบ ท่าทางคงจะติดเธอเข้าให้แล้ว
“นี่! เอาลูกไปสิ ฉันจะไปนุ่งผ้า” กระซิบกระซาบไม่ให้คนในอ้อมแขนได้ยิน ทว่ามีหรือจะรอดพ้นหูหาเรื่องของเจ้าแสบไปได้
“ม่ายยย...มินจาอยู่ตรงนี้ อกน้าแพวอุ่นดี มินช้อบชอบ” ว่าพลางซุกร่างเข้าหาอกอวบๆ ของนางแบบสาว แล้วหันมายิ้มเย้ยบิดาไปหนึ่งที ยักคิ้วแถมให้อีกหนึ่งหน
“น่าตีจริงๆ เจ้าตัวแสบ ลงมาจากตัวน้าแพรวเร็วเข้า”
เจ้ามีนส่ายหน้าดิก แขนป้อมๆ โอบรอบคอเรียวของแพรวรุ้งอย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
“ก็ได้ อยากให้พวกคนงานที่เก็บหอยมุกมาเห็นน้าแพรวโป๊ใช่ไหมล่ะ เอาไหม ปะป๊าเรียกให้”
แพรวรุ้งหูผึ่ง มันเรื่องอะไรต้องให้ชาวบ้านมาเห็นเธอในชุดคลุมอาบน้ำด้วยล่ะ ถึงแม้จะเป็นนางแบบ แต่ตอนนี้มันคนละสถานการณ์กันนะ
“ม่ายอาว” เจ้าหนูขี้หวงปีนลงจากร่างของแพรวรุ้งในที่สุด
“ผมรอที่ห้องอาหารนะ มีเรื่องจะตกลงกับคุณ”
เขากล่าวสั้นๆ เตรียมออกจากห้องพร้อมมีนา
“แต่ฉันไม่มี” แพรวรุ้งโต้กลับเสียงแข็ง ขณะรื้อเสื้อผ้าในกระเป๋ามาสวม
“แพรว!”
“ปะป๊าจาขึ้นเฉียงทำมาย เดี๋ยวน้าแพวโกดหนีกับบ้านนะ”
เจ้าหนูมีนเตือนสติ กวินหน้าสลดแต่แพรวรุ้งกลับยิ้มขำ ความคิดความอ่านของหนูน้อยบางทีก็ฉลาดกว่าคนเป็นพ่อเสียอีก
“น้าแพวแต่งตัวไวๆ นะ มินจาลอกินข้าว”
เจ้าหนูยิ้มร่ามาให้น้าแพรวแล้ววิ่งออกจากห้อง
แพรวรุ้งยิ้มเอ็นดู หยิบเสื้อผ้าชุดที่มิดชิดที่สุดมาพิจารณา เวลาผ่านไปกว่าสามสิบนาทีก็ยังไม่ก้าวออกไปจากห้อง เพราะชุดที่ว่าเรียบร้อยที่สุดของนางแบบเซ็กซี่อย่างเธอ มันก็ยังเปิดเปลือยมากกว่าคนปกติอยู่ดี เธออยากหาสาวใช้สักคนให้ไปบอกเจ้าของคฤหาสน์ทีว่าวันนี้เธอคงต้องกินอาหารเช้าบนห้อง แต่กลับไม่มีใครเดินผ่านมาสักคน
ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปนาน กวินก็ย้อนกลับมาดู
“เมื่อไหร่จะลงไปข้างล่างซะที! ลูก...รอกินข้าวอยู่นะแพรว”
กวินพูดเองอึ้งเอง เมื่อคำว่า ‘ลูก’ ที่เขาเอ่ยกับแพรวรุ้ง ทำให้หัวใจอบอุ่นอย่างประหลาด แพรวรุ้งเองก็เช่นกัน
“ฉะ...ฉัน ฉันไม่ลงไปได้ไหม คือว่า...”
แพรวรุ้งไม่กล้าพูดว่าอายที่คนอื่นจะมาเห็นร่องรอยพวกนี้ เธอชี้มือใส่รอยจ้ำสีม่วงช้ำที่เกิดจากการกระทำของเขา
“จะอายทำไม ทำเป็นไม่เคยไปได้”
เขาว่าโดยไม่ทันคิด แพรวรุ้งหน้าตึงขึ้นมาทันใด
“ก็เพราะว่าฉันไม่เคยน่ะสิ! ใครจะไปเชี่ยวชาญเหมือนนายล่ะ”
“เรียกดีๆ นายๆ อยู่นั่นแหละ แสลงหู แล้วปากหายดีแล้วเหรอถึงได้ประชดประชัน อยากโดนตบอีกรอบหรือไง!?” เขาขู่ ยิ่งเห็นรอยช้ำที่มุมปากของสาวเจ้า เขามีหรือจะกล้าทำมันอีก
“ป่าเถื่อน! ฉันไปทำอะไรให้นายฮะ!”
“แพรว! บอกให้เรียกดีๆ”
“โอ๊ย!! นั่นแหละ ฉันไปทำอะไรให้คุณ เอะอะก็ขู่ เอะอะก็ตบ ฉันก็เป็นคนนะ! พ่อแม่ยังไม่เคยทำกับฉันอย่างนี้ แล้วคุณเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรฮะ! มีสิทธิ์อะไร!?”
แพรวรุ้งบันดาลโทสะเข้าทุบตีแผงอกล่ำๆ ด้วยสองกำปั้นอย่างเหลืออด น้ำตานางแบบสาวไหลพรั่งพรู ขณะที่กวินรวบตัวหล่อนเข้าไปกอด
“อย่าร้องแพรว อย่าร้อง...”
ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ แพรวรุ้งร่ำไห้จนอกแกร่งเปียกชุ่ม กวินดันหล่อนออกห่าง แล้วบรรจงแนบจุมพิตจูบซับน้ำตาให้หยดแล้วหยดเล่าอย่างอ่อนโยน จนมันแห้งหาย
“ฉันไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไรจริงๆ แต่ได้โปรดอย่าทำแบบนี้อีก อย่าทำเหมือนแคร์ฉัน อย่าตบหัวแล้วลูบหลัง เรื่องของเรา...จะเอายังไงก็ว่ามา ถ้าจะแต่งงานกับฉันก็จัดการได้เลย ฉันไม่มีทางเลือกแล้ว”
แพรวรุ้งพูดออกมาจากใจจริง จะให้เธอทำอย่างไรได้ บิดามารดาอีกล่ะ เธอยังไม่รู้เลยว่าจะโดนอะไรบ้าง
“ไม่! ผมแต่งงานกับคุณไม่ได้” เขาตอบเสียงดังฟังชัด
แพรวรุ้งผงะ ถอยห่างจากร่างหนา จะดูให้แน่ชัดว่าคนที่พูดประโยคชั่วร้ายดังกล่าวเป็นเขาจริงๆ
“หมายความว่ายังไง แค่แต่งงานเฉยๆ ไม่ต้องจดทะเบียนก็ได้ แค่เข้าโบสถ์เฉยๆ ก็ได้ กวินฉันขอร้อง ฉันมีพ่อมีแม่นะ พวกท่านจะคิดยังไงเรื่องที่ฉันยังอยู่ที่เกาะนี้ทั้งๆ ที่เจ๊แจงกลับไปแล้ว จะทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้นะ”
แพรวรุ้งน้ำตารินเป็นสาย มันจุกแน่นอยู่ในอก เมื่อได้ฟังในสิ่งที่เขาพูดออกมา จะว่าหน้าด้านเธอก็ยอม หากว่าสิ่งที่เธอร้องขอจะสามารถล้างอายให้คุณหญิงแม่ของเธอได้ ทีมงานที่เพิ่งกลับไปไม่รู้ว่าจะเอาข่าวเธอไปขายบ้างหรือเปล่า เธอกังวลจนแทบเป็นบ้า แล้วตอนนี้คำปฏิเสธของเขาก็กำลังจะฆ่าเธอทั้งเป็น
“ผมจะไม่แต่งงานกับใครอีกแล้วนอกจาก...เมษา”
เขาตอบไม่เต็มเสียง แพรวรุ้งอ้าปากค้าง เจ็บปวดบอกไม่ถูก
“ผู้หญิงคนนั้นตายไปแล้ว!” เค้นเสียงตอกกลับ หัวใจเจ้าเอ๋ยทำไมมันถึงได้น่ารังเกียจเช่นนี้ อิจฉาได้กระทั่งคนตาย น่าเวทนาจริงๆ แล้วเหตุใดกันที่ทำให้เธอต้องอิจฉาผู้หญิงคนนั้น หรือว่าเพราะเธอ...มีใจให้เขา ไม่...ไม่จริง! เขาก็แค่คนรู้จัก ไม่ได้มีความหมายกับเธอสักนิด แต่ทำไม...
“ถ้าอย่างนั้นก็จบ ถือซะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น” เธอกลั้นใจเอ่ยออกไป เจ็บลึกๆ ในอก ทรมานนัก มันช่างเกิดขึ้นรวดเร็วเพียงเพราะความสัมพันธ์ล้ำลึกเมื่อคืนนี้
กวินแค่นหัวเราะแล้วหันกลับไปต่อกรกับตาเฒ่าเจ้าเล่ห์พราวพริ้งยืนจังงังอยู่กับที่ นี่นางโดนหลอกอีกแล้วเหรอ ครั้งหนึ่งตาเฒ่าหื่นกามก็ล่อลวงให้นางบำรุงบำเรอความใคร่ให้มัน ตั้งแต่สาวยันอายุปูนนี้ อยากจะเลิกก็เลิกไม่ได้เพราะกลัวว่าจะถูกอีกฝ่ายเปิดโปงให้ตนเสียหน้าเสียชื่อเสียง พอเวลานี้ กวิน คนที่นางเผลอมีใจให้ ก็โกหกหลอกลวงนางเพื่อ.. เพื่ออะไร!? หรือว่า...แพรวรุ้ง!“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!” กวินร้องบอก หน้าตาดุดัน ตาแก่พุงหนาชักปืนออกมาขู่ มองดูลูกน้องที่ถูกต่อยหมดท่าแล้วให้ขัดใจนัก ไร้ฝีมือจริงๆ“อาลายวะ! พูดกันลีๆ ก็ล่าย ทำไมต้องใช้กำลัง หรือว่าลื้ออยากมีเลื่อง นี่มันผู้หญิงของอั๊ว ลื้อม่ายมีสิทธิ์”“เฮอะ! ผู้หญิงของแก แต่นั่น เมียกูโว้ย!”“ไม่จริง! ไม่จริง! กวินโกหก เธอโกหก! เธอเจอยัยแพรวแค่ตอนไปถ่ายแบบเท่านั้น แถมไปไม่กี่วันยังไม่ทันได้ทำงานด้วยซ้ำก็เลิกกองกลางคัน แล้วยัยแพรวจะไปเป็นเมียเธอได้ยังไง!?”“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคุณหญิง ก็ที่เธอหายไปเพราะผมนี่แหละเป็นคนพาเธอไปเอง โจรกระจอกที่ลักพาตัวแพรวรุ
[13]ปิดฉากเมฆากุมมือบางของภรรยาเอาไว้ เฝ้าดอมดมทั้งจูบจุมพิตฝ่ามือบางครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับการทำเช่นนั้นจะทำให้หล่อนตื่นขึ้นมาพูดคุยกับเขาเช่นเมื่อวานนี้ เกือบสามชั่วโมงแล้วที่เขานั่งอยู่ตรงนี้ คุณหมอบอกว่าไม่เกินชั่วโมงหล่อนคงฟื้น แล้วทำไมผ่านไปตั้งสามชั่วโมง หล่อนยังไม่ลืมตา“วารินทร์ คนขี้เซา ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ เธอยังไม่ได้รดน้ำในแปลงผักเลย วันนี้จะอู้งานใช่ไหม” เมฆาเอ่ยทั้งน้ำตา วันวานที่ผ่านผันแต่ความทรงจำในบางเรื่องยังไม่เลือนหาย เขายังจำได้เมื่อครั้งที่ลักพาตัวศรีภรรยามาจากอกของพี่ชาย ช่างเป็นสิ่งที่เลวร้าย แต่ถ้าถามว่าหากย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะทำแบบนั้นไหม บอกได้เลยว่า...ทำ เขายอมเป็นคนชั่ว หากว่าวันนี้ได้ครอบครองหัวใจของภรรยา“ปะ...เปล่านะ นายเหมืองจะกลับคำ...ใช่ไหม ไหนบอกว่าจะไม่ใช้แรงงานเมียแล้วไง แค่กๆ”เสียงแหบแห้งของคนป่วยร้องค้าน“วารินทร์...คนดีของนายเหมือง ฟื้นแล้วจริงๆ ผมดีใจเหลือเกิน”นายเหมืองหนุ่มเพียรกดจูบบนใ
“อ๊ะ...กวิน อืม...” แพรวรุ้งส่งเสียงเมื่อเขาเปลี่ยนจากนิ้วร้ายเป็นท่อนลำของความเป็นชายร้อนผ่าว เขาไม่ได้ถอดกางเกงด้วยซ้ำ เพียงแค่รูดซิบลงแล้วควักมันออกมาจากกางเกงชั้นใน เขาพยายามดุนดันแก่นกายร้อนผ่าวเข้ามาในร่างเธอ แต่มันช่างทำได้ยากเย็น“อ๊ะ! กวิน ฉันเจ็บ!”กวินชะงักเมื่อเสียงครางกระเส่าเปลี่ยนเป็นเสียงร้องอย่างเจ็บปวด เขาขยับกายอีกนิดเพื่อจะได้ยกร่างหล่อนขึ้นเหนือท่อนลำอีกหน“ค่อยๆ นั่งทับมัน อย่างนั้นแพรว อย่างนั้น อา....”แพรวรุ้งใบหน้าบิดเหยเก เขาบอกเธอเหมือนเป็นเรื่องง่ายแต่สิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่มันหนักหนาทีเดียว ตอนนี้ลำลึงค์ใหญ่โตสมชายชาตรี มุดเข้าไปในร่างเธอได้เพียงส่วนหัว ส่วนที่เหลือยังค้างเติ่งอยู่อย่างนั้นกวินยกร่างหล่อนขึ้นน้อยๆ แล้วค่อยๆ ปล่อยลงมาช้าๆ ทำอยู่อย่างนั้นซ้ำๆ กระทั่งความชุ่มฉ่ำนำพาให้ช่องทางสวาทดูดกลืนลำเอ็นขนาดยักษ์จนหมด และมันสามารถลดความเจ็บปวดในการหลอมรวมได้ดีทีเดียว“โอ...ไม่!” แพรวรุ้งร้องเสียงหลงเมื่อเขาช้อนร่างเธอไว้แล้วยกขึ้นลงเป็นจังหวะ ท่อนลำแกร่งกร้าวหา
กวินชะงักเล็กน้อย คุณหญิงเจ้าเล่ห์นัก หนึ่งเดือนมานี้เขาทำทุกวิถีทางที่จะให้พราวพริ้งไว้ใจเขา การร่วมทุนร่วมหุ้นทำฟาร์มไข่มุกที่เกาะมันตรา มันเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น เกาะมันตรามีจริงเสียเมื่อไหร่กัน ลายเซ็นของนางต่างหากคือสิ่งที่เขาต้องการ เอกสารฉบับล่าสุดที่เขาเอามาให้นางเซ็น มันไม่ใช่เอกสารทางธุรกิจแบบธรรมดา แต่มีใบโอนทรัพย์สินแทรกมาอย่างแนบเนียน มันถูกทำขึ้นจากทีมงานที่เขาไว้ใจมากที่สุด เพื่องานนี้โดยเฉพาะ“โธ่...ไม่ได้ปากหวานสักหน่อย แค่พูดความจริงเท่านั้น ถ้าพี่พริ้งยังไม่เซ็นก็ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้ ยังไงซะ เงินที่จะเอามาใช้ในการทำฟาร์มงวดนี้ มันก็เป็นของพี่พริ้งอยู่ดี” กวินว่า“นั่นก็เงินของเธอด้วย ถ้าฟาร์มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเมื่อไหร่ เธอต้องพาพี่ไปดูนะ พี่อยากรู้จริงๆ ว่าเกาะมันตราจะสวยแค่ไหน” พราวพริ้งทำหน้าเคลิ้มฝัน หารู้ไม่ว่า รูปถ่ายที่กวินเคยให้ดูนั้นมันเป็นสวนหนึ่งของเกาะปันรัก มิใช่เกาะมันตรา“แน่นอนครับ ตอนนี้ก็คืบหน้าไปมากแล้ว บ้านของเราสองคนก็สร้างได้ครึ่งหนึ่งแล้วนะครับ อีกเดือนสองเดือนน่าจะเข้าอยู่ได้เลย ผมไม่ไ
ร่างสวยสูงโปร่งอย่างนางแบบของแพรวรุ้ง เดินนวยนาดลงมาตามขั้นบันได เรียวขายาวขาวสะอาดมันสามารถตรึงสายตาของหนึ่งบุรุษให้จดจ้องแน่วนิ่ง แพรวรุ้งใจเต้นโครมคราม ดวงตาเขาที่จ้องมองมาประหนึ่งจะเปลื้องผ้าเธออย่างไรอย่างนั้น“เอ้า? ยัยแพรวมาพอดี”มารดาผู้แสนดีเอ่ยทักบุตรสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานผิดปกติ แพรวรุ้งรับรู้โดยสัญชาตญาณ คุณหญิงพราวพริ้ง มารดาผู้ยังงดงามของเธอ กำลังมีความรัก“แพรวไม่รู้ว่าคุณแม่มีแขก ขอโทษที่แต่งตัวไม่เรียบร้อยค่ะ”เธอกล่าวขอโทษแต่ไม่ได้คิดจะขึ้นไปเปลี่ยนแต่อย่างใด เดินมานั่งบนโซฟาเดี่ยวตัวหนึ่งที่ตั้งอยู่ในห้องรับแขก แอบปรายตาไปมองกวินอย่างยั่วเย้าอยู่ในที“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่ถือ” กวินกล่าวเสียงเรียบเรื่อย จ้องมองวงหน้าเนียนของแพรวรุ้งตาไม่กะพริบ หล่อนดูสดใสอิ่มเอิบผิดหูผิดตา และหล่อนกล้ามากที่หนีออกจากเกาะปันรัก มันน่าโมโหจริงๆ“ขอโทษนะจ๊ะกวิน” พราวพริ้งหันไปขออภัยบุรุษในดวงใจ ก่อนจะหันมาสั่งบุตรสาว “เราก็รีบขึ้นไปเปลี่ยนชุดสิ จะมัวมาขอโทษขอโพยกันทำไม”
[12]เพิ่งเข้าใจ-------------วารินทร์กำลังจัดโต๊ะอาหารค่ำไว้รอนายเหมืองผู้เป็นสามี ร่างอรชรเริ่มอวบอิ่มขึ้นมากเมื่อเธอต้องเร่งอาหารหลักอาหารเสริมเพื่อบำรุงเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในครรภ์ แต่กระนั้น ความน่ารักสดใสของคุณน้องคนงามก็ยังไม่เลือนหายไป“สวัสดีคะพี่วารินทร์ จันทร์มาหาเฮียเมฆค่ะ”วารินทร์ทำหน้าไม่ถูก ด้วยว่าการพบกันครั้งแรก เธอเข้าใจแม่เลี้ยงคนงามผิดไป“สวัสดีค่ะ เอ่อ...นายเหมืองยังไม่กลับเลย คุณ...เอ่อ...น้องจันทร์มาซะค่ำเชียว ทานข้าวด้วยกันนะคะ” ว่าที่คุณแม่เอ่ยชวน แต่ชมจันทร์ตอบกลับมาเพียงรอยยิ้มและยื่นซองเอกสารให้กับนายหญิงแห่งเหมืองวารินทร์“ฝากให้เฮียด้วยนะคะ จันทร์รีบไป ลาเลยก็แล้วกันนะคะพี่ สวัสดีค่ะ” ชมจันทร์ลาพี่สะใภ้ ความอ่อนแอในหัวใจพาให้เธออยากไปให้พ้นๆ จากผู้คน อยากอยู่เงียบๆ อยากนอนร้องไห้ให้สมใจ“เอ้า? จันทร์มาได้ไงมืดค่ำป่านนี้”เมฆาที่เพิ่งเดินขึ้นเรือนมาเอ่ยทักน้องสาวทันที“เฮียเมฆ คือ







