共有

บทที่ 135

作者: เฉิงกวงโฮ่วถู่
ในห้องน้ำหญิง ผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมเสื้อผ้าแบบอนุรักษนิยมกำลังผลักผู้ชายที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์ออกไปอย่างแรง

ผู้หญิงคนนี้สวยมาก

เธอสวมถุงน่องสีดำปกปิดขาที่เรียวยาว

ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอย่างบางเบาเพื่อเสริมรูปลักษณ์ของเธอให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น

เธอรู้สึกโชคร้ายมาก

ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน ทำไมถึงเกิดเรื่องเช่นนี้กับเธออีกแล้ว?

เป็นไปได้ไหมว่าเธอคือสิ่งที่เรียกว่า ผู้หญิงสวยคือบ่อเกิดความหายนะ?

แต่เธอไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมสวรรค์ถึงทำกับเธอเช่นนี้?

ชายคนนั้นหอบหายใจอย่างหนัก “เลิกขัดขืนสักที ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอก

อยู่กับฉันไม่ดีหรือไง? ฉันมีเงินมากมาย ทรัพย์สินครอบครัวฉันมีหลายหมื่นล้าน พ่อของฉันมีลูกชายเพียงคนเดียวก็คือฉัน ทุกอย่างจะเป็นของฉันในอนาคต!”

“ต่งเฟย ฉันไม่ได้ชอบคุณ คุณรวยขนาดนี้คุณจะหาผู้หญิงที่ไหนก็ได้ ฉันขอร้อง ปล่อยฉันไปเถอะนะ”

ผู้หญิงคนนั้นร้องไห้ไม่หยุด เธอแทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรงอยู่แล้ว

“ฉันไม่ดียังไง? รูปร่างหน้าตา ภูมิหลังครอบครัว อะไรมันไม่ดีสำหรับเธอกัน? ฉันไล่ตามเธอมานานแล้วแต่เธอก็เอาแต่ปฏิเสธฉัน ฉันชักจะหมดความอดทนแล้วนะ!”

เพียะ!

ยิ่งต่งเฟยคิดถึงเรื่องนี
この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード
ロックされたチャプター

関連チャプター

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 136

    “ไอ้สารเลว แกกำลังรนหาที่ตาย! แกรู้ไหมว่าพ่อของฉันเป็นใคร พ่อของฉันคือ ต่งอู่ ถ้าคืนนี้แกกล้าตีฉัน แกไม่รอดแน่นอน!”เมื่อเย่ซิวได้ยินเช่นนั้น แทนที่จะกลัวเขากลับหัวเราะเยาะนี่มันเป็นการเจอศัตรูในที่แคบชัด ๆเขาเดินไปนั่งยอง ๆ ต่อหน้าต่งเฟย“คุณเพิ่งบอกว่าคุณเป็นลูกชายคนเดียวของต่งอู่ใช่ไหม?”ต่งเฟยตะคอกอย่างเย็นชา “ใช่ แกกลัวขึ้นมาแล้วใช่ไหมล่ะ!”“ถ้าแกไม่อยากตายก็คุกเข่าลงต่อหน้าฉันผู้นี้และโขกหัวคำนับร้อยครั้งซะ ถ้าฉันอารมณ์ดีฉันอาจจะไว้ชีวิตที่น่าสมเพชของแก!”ท่าทีของเขาช่างดูหยิ่งยโส และคิดว่าเย่ซิวกลัวเขา“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เยี่ยมมาก” เย่ซิวพูดอะไรบางอย่างที่ต่งเฟยไม่เข้าใจ และลงมือทันทีเขาโจมตีร่างกายท่อนบนของต่งเฟยอย่างต่อเนื่องหลายสิบครั้งในการโจมตีแต่ละครั้ง เขาได้ปล่อยกำลังภายในเข้าไปในร่างกายของต่งเฟยดวงตาของต่งเฟยตกตะลึง เขารู้สึกถึงบางสิ่งที่กำลังเข้าสู่ร่างกายแต่เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไรเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัวและโกรธ “แกทำอะไรกับฉัน!”เย่ซิวตบไหล่ “ไม่มีอะไร คุณก็สูญเสียหน้าที่ที่ผู้ชายควรจะมีไปก็เท่านั้น”“ในโลกนี้มีคนไม่เกินสามคนที่สามารถรักษาคุณไ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 137

    ภายในห้อง มีผู้หญิงที่สวยมากเพิ่มมาคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่เขาพบเมื่อกี้ที่ประตูห้องน้ำหญิงเย่ซิวคิดกับตัวเองว่า นี่มันบังเอิญเกินไปแล้วผู้หญิงคนนั้นเห็นเย่ซิวก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ขมวดคิ้วหลิ่วอวี้ฝูยืนขึ้นแล้วดึงเย่ซิวให้มานั่งข้างเธอ จากนั้นก็ชี้ไปที่ผู้หญิงผมสีทองแล้วพูดว่า“พี่เย่ ฉันขอแนะนำให้พี่รู้จัก นี่คือรองประธานอีกคนของบริษัทของเรา หลินโหรว”“เธอมีความสามารถรอบด้าน ฉันโทรเรียกให้เธอมาที่นี่เพื่อจะได้ดูว่าเราจะหารือเรื่องความร่วมมือกันในอนาคตของบริษัทของพี่ยังไงดี”ตระกูลหลิ่วมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และมีหลายด้านที่พวกเขาสามารถร่วมมือกับบริษัทของเย่ซิวได้เย่ซิวยิ้มและยื่นมือออกมา “สวัสดีครับ ผมเย่ซิว”ร่องรอยของความรังเกียจแวบขึ้นมาในดวงตาของหลินโหรว แต่เพราะหลิ่วอวี้ฝูอยู่ตรงนี้ด้วยเธอจึงยื่นมือออกไปจับมือของเขา และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หลินโหรว” หลิ่วอวี้ฝูเหลือบมองหลินโหรวอย่างแปลกใจ ทำไมวันนี้เธอทำตัวแปลก ๆ?หลิ่วอวี้ฝูไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเข้าใจผิด หลินโหรวจึงมองว่าเย่ซิวเป็นพวกโรคจิตลามก……“ป้าจาง ถั่วงอกพวกนี้ขายยังไงคะ?”“กะหล่ำปล

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 138

    เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอก็นำของที่ซื้อมาไปวางไว้ในครัว จากนั้นก็อุ่นซาลาเปาและซาลาเปาเนื้อที่เหลือจากมื้อเช้าแล้วนำไปใส่ไว้ในชามเธอยังเทน้ำลงในแก้วกระดาษและถือออกไปแม่ชีขอบคุณเธอและเริ่มทานมันเธอทานอย่างรวดเร็วแต่ยังคงความสง่างามเอาไว้เธอรีบทานซาลาเปาและซาลาเปาเนื้อจนหมดอย่างรวดเร็วหลิ่วเมิ่งอิ๋นยื่นน้ำให้ “แม่ชี ดื่มน้ำหน่อยนะคะ”“ขอบใจแม่หนู!”แม่ชีกล่าวขอบคุณอีกครั้ง เธอดื่มน้ำรวดเดียวพร้อมพูดว่า “แม่หนู ฉันขอดูลายมือให้หนูหน่อยได้ไหม?”หลิ่วเมิ่งอิ๋นค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อยแต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธ และยื่นมือออกไปแม่ชีจับมือของเธอแล้วบีบทีละนิ้วแววตาของแม่ชีค่อย ๆ แข็งแกร่งขึ้น และเมื่อใกล้จะถึงจุดจบ เธอก็รู้สึกตื่นเต้นมากจนตัวสั่นเล็กน้อย“แม่ชี มีอะไรหรือเปล่าคะ?” หลิ่วเมิ่งอิ๋นถามด้วยความงุนงงเล็กน้อย พฤติกรรมของแม่ชีผู้นี้แปลกจริง ๆแม่ชีกลับมามีสติพลันส่ายหน้าแล้วยิ้ม "ไม่มีอะไร แม่หนูช่างโชคดี ขอบคุณสำหรับอาหาร แล้วพบกันเมื่อสวรรค์ต้องการ”จากนั้นแม่ชีก็จากไปหลิ่วเมิ่งอิ๋นกลับมาบ้านอีกครั้งแต่สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ แม่ชีกลับมาอีกครั้งและปรากฏตัวบนกำแพงและสังเหตุ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 139

    “ไม่อยากเชื่อเลยว่าในโลกนี้ยังมีผู้หญิงสวยสดอย่างนี้อยู่ด้วย!”เขาอดไม่ได้ที่จะน้ำลายไหล จากนั้นก็รีบเก็บกระเป๋าสัมภาระและออกเดินทางอย่างรีบร้อนเขาไม่ได้สนใจอะไรอย่างอื่นเลยนอกจากผู้หญิง เมื่อเห็นหลิ่วเมิ่งอิ๋นเช่นนี้แล้วเขาจะอดใจไหวได้อย่างไร?“สาวน้อย รอฉันก่อนนะ ฉันจะรีบไปหาเธอเดี๋ยวนี้เลย!”…“เป็นไปไม่ได้ ให้ตายเถอะ ให้ตายสิวะ!”ต่งเฟยคำรามอยู่ภายในห้องเดิมที เขาคิดว่าเย่ซิวโกหกเขาอย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขากลับมา เขาต้องการหาผู้หญิงเพื่อระบายอารมณ์ แต่กลับพบว่าตนได้สูญเสียความเป็นชายไปหมดแล้วไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็ไม่เป็นผล ยากระตุ้นต่าง ๆ ที่กินเข้าไปก็ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เลยเขาตื่นตระหนกมากจากนั้นเขาก็ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแต่ก็ไม่พบปัญหาอะไรเลยเขายังไปพบแพทย์แผนจีนเก่ง ๆ หลายคนแต่ก็ไร้ประโยชน์แม้กระทั่งไปขอให้จอมยุทธภายในตระกูลช่วยตรวจดูให้ก็ยังไม่ได้ผลเช่นกันคำตอบที่ทุกคนให้มาคือ เขามีสุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดแต่เขาได้สูญเสียหน้าที่ที่สำคัญที่สุดในฐานะลูกผู้ชายไปแล้วตอนนี้เองที่เขาตระหนักถึงความน่ากลัวของเย่ซิ่ว ดังนั้นเขาจึงต้องบอกเรื่อ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 140

    ตามที่คาดไว้ เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ทั้งสองคนก็เคร่งขรึมมากขึ้นทันที“คุณพูดจริงเหรอ?” เฉิงอู่ถามและจ้องมองที่ต่งอู่อย่างตั้งใจ“แน่นอนว่าเรื่องจริง” ต่งอู่พยักหน้าหนักแน่น “ผมเห็นมาด้วยตาของตัวเอง เขามาถึงระดับนี้ตั้งแต่อายุยังน้อยเบื้องหลังของเขาอาจจะมีอาจารย์ที่แข็งแกร่งมาก หรือเขาอาจจะได้เรียนรู้ทักษะวิชายุทธที่ทรงพลังมาก หรือยิ่งกว่านั้น อาจเป็นไปได้ที่เขาจะดื่มน้ำอมฤตเข้าไปแล้ว…”เมื่อมาถึงจุดนี้เขาก็หยุดพูด และปล่อยให้พวกเขาคิดต่งอู่รู้ดีว่า สำหรับผู้ฝึกยุทธเหล่านี้ สิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับพวกเขาคือทักษะอันทรงพลังหรือเครื่องยาสมุนไพรอันล้ำค่าโบราณไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน ความแข็งแกร่งของพวกมันก็สามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว“แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?” คุณจางถามอย่างร้อนรนใจ“ตระกูลหลิ่ว”เมื่อได้ยินชื่อนี้ คุณจางก็แสดงสีหน้าลำบากใจ “ถ้าเป็นที่อื่นก็คงจะจัดการได้ง่ายกว่า ตอนนี้คุณรู้สถานการณ์ของตระกูลหลิ่วดีกว่าผม ผมไม่กล้าบุ่มบ่ามไปที่บ้านของพวกเขาหรอก”ตอนนี้ตระกูลหลิ่วได้รับการขนานนามว่าเป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของประเทศหลงเถิง ใครก็ตามที่กล้ายั่วยุพวกเขาก็เท่ากับรนห

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 141

    เมื่อเย่ซิวได้ยินเช่นนี้เขาก็หันกลับมาและคว้ามือเล็ก ๆ ของเซี่ยซิ่วซิ่วทันที “จริงเหรอ? คุณเคยได้ยินเรื่องนี้จากที่ไหน?”ฝ่ามือของเย่ซิวกว้างและแข็งแกร่ง ทันทีที่สัมผัสกัน หัวใจของเซี่ยซิ่วซิ่วก็เต้นเร็วขึ้น ใบหน้าของเธอแดงอย่างน่าหลงใหลเธอคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เหมือนฉันจะได้ยินคุณปู่พูดกับคุณลุง แต่ฉันจำรายละเอียดไม่ได้ ฉันไปถามคุณปู่ดีไหม?”เย่ซิวพยักหน้า “ดีสิ รีบไปถามได้เลย"เซี่ยซิ่วซิ่วยังไม่ไป แต่แลบลิ้นใส่เย่ซิว “ฉันไม่ได้ช่วยนายฟรี ๆ หรอกนะ นายต้องให้รางวัลฉันบ้างสิ”เย่ซิวยิ้มและพูดว่า “คุณอยากได้อะไรเป็นรางวัลเหรอ?”เซี่ยซิ่วซิ่วกัดริมฝีปากเล็กน้อย และรวบรวมความกล้าเพื่อพูดว่า “ฉันอยากได้จูบแรกของนาย นายจะให้ฉันไหม?”เย่ซิวยิ้มอย่างไม่รู้จะพูดอะไร และค่อย ๆ เดินไปหาเซี่ยซิ่วซิ่วหัวใจของเซี่ยซิ่วซิ่วเต้นเร็วมากเมื่อเห็นเย่ซิวเดินมาทางตน เธอก็ค่อยๆ หลับตาลงด้วยความคาดหวังท่ามกลางความกังวลใจจากนั้นเธอก็รู้สึกถึงความอุ่นเล็กน้อยบนริมฝีปาก แต่ไม่นานก็หายไปเมื่อเธอลืมตาขึ้น เธอเห็นเย่ซิวมองเธอกึ่งยิ้มซิ่วซิ่วรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งในใจในการแข่งขันกับในหม

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 142

    ภายในร้านอาหารเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง มีชายหนวดเครารุงรังสองคนกำลังนั่งกินหม้อไฟเนื้อสุนัขอยู่“น่าสนใจจริง ๆ ลูกวัวแรกเกิดไม่กลัวเสือเลย!!”“แค่จอมยุทธระดับสามยังกล้าท้าทายจอมยุทธระดับสี่ เขาคิดจริงหรือว่าอายุน้อยเป็นข้อได้เปรียบ?”…ภายในโรงน้ำชา ชายชราผู้มีสายตาเฉียบแหลมกำลังเพลิดเพลินกับชาอย่างสบายใจทันใดนั้น หน้าจอโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างโต๊ะก็สว่างขึ้นเมื่อเขาเปิดดู สีหน้าประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา“ระดับสามสู้กับระดับสี่ มั่นใจหรืออวดดีกันแน่? คงต้องไปดูให้เห็นกับตาเสียแล้ว”…ที่ในโรงฝึก มีผู้หญิงรูปร่างล่ำสันคนหนึ่งก็ได้รับข่าวนี้เช่นกัน“ในที่สุดแวดวงยุทธภพที่น่าเบื่อก็เกิดประกายความตื่นเต้นขึ้นแล้วสินะ”…“ที่นี่แหละ!”ชายหน้าตาไม่น่าไว้ใจปรากฏตัวขึ้นหน้าเขตที่อยู่อาศัยเก่า ๆ แห่งหนึ่งเพื่อที่จะพาตัวหลิ่วเมิ่งอิ๋นไปโดยเร็วที่สุดเขาจึงไม่รีรอและมาที่นี่โดยเร็วที่สุดทันทีที่มาถึง เขาก็เห็นคนสองคนเดินออกมาจากเขตที่อยู่อาศัยหลิ่วเมิ่งอิ๋นกำลังช่วยประคองพ่อของเธอ “ตอนนี้คุณพ่อรู้สึกยังไงบ้างคะ?”พ่อของเธอยิ้ม “ดีขึ้นมาก ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเจ้าหนุ่มคนนั

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 143

    เย่ซิวได้รับรายงานของหลางอี และเตรียมการใหม่ทันทีเขาเรียกกองกำลังหมาป่าราตรีสิบคนที่ถูกส่งไปทำภารกิจที่สองกลับมา และให้ทั้งหมดไปปกป้องหลิ่วเมิ่งอิ๋นภารกิจที่สองใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้วจากนั้นเขาก็โทรหาหลิ่วเมิ่งอิ๋น และบอกให้เธออยู่บ้านอย่าออกไปไหนจนกว่าจะกลับมาเขาบอกให้เธอขอโรงเรียนลากลับก่อนเช่นกันต้องจัดการเรื่องที่นี่ให้เสร็จโดยเร็วที่สุดแล้วรีบกลับไปยังเจียงเฉิงเพื่อไปยังภูเขานั้นครืด!เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น และเย่ซิวก็เห็นว่าเป็นสายที่ไม่คุ้นเคยหลังจากรับสายแล้วก็มีเสียงไพเราะดังมาจากปลายสาย“สวัสดีค่ะ คุณเย่ ทานข้าวหรือยังคะ?”มันเป็นเสียงเรียกของแอร์โฮสเตส“สวัสดีครับ ทานแล้วครับ”“อ่อค่ะ…” ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกได้เลยว่าแอร์โฮสเตสค่อนข้างผิดหวัง แต่เธอก็กลับมาสงบมั่นคงอีกครั้ง และพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณอยากจะออกไปดื่มสักหน่อยไหมคะ? ฉันจะเลี้ยงคุณเอง”เย่ซิวดูเวลา ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มแล้วหลังจากคิดเรื่องนี้แล้วเขาก็ตัดสินใจไปพบเธอเพื่อจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย และเธอจะได้ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องนี้อีก “ได้สิ คุณบอกสถานที่มาแล้วเดี๋ยวผมจะไปหา...ไม่สิ ไม่ดีกว่

最新チャプター

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1172

    “แกจะส่งมาดี ๆ หรือจะให้ฉันลงมือเอามาเอง”เย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย “ผมไม่เข้าใจว่าคุณพูดเรื่องอะไร”“แกน่าจะรวยมากเลยสินะ บอกไว้เลยนะ ฉันนี่แหละที่เป็นคนขายปีศาจแมวให้แก”เย่ซิวจึงเข้าใจทันที “ก็แสดงว่านายแอบทำอะไรไว้ในตัวเสี่ยวโหรว เพื่อใช้ติดตามฉัน… ดูท่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่นายทำแบบนี้สินะ”ดูจากท่าทางก็รู้ว่าเป็นมืออาชีพใช้วิธีเอาเสี่ยวโหรวไปขายในตลาดมืด พอมีคนซื้อก็ค่อยตามไปแล้วหาจังหวะชิงตัวกลับมาจากนั้นก็เอาไปขายใหม่ วนลูปแบบนี้ไปเรื่อย ๆถือเป็นวิธีหาเงินที่รวดเร็วจริง ๆแต่น่าเสียดายที่คราวนี้ดันมาเจอของแข็งเข้าแล้ว“ใช่เลย แกน่ะเป็นคนที่อ่อนที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลยนะ อยู่แค่ระดับสร้างรากฐานปราณแท้ ๆ แต่กลับพกศิลาวิญญาณมามากขนาดนั้น อย่างนี้ต้องรวยมากแน่…”พูดยังไม่ทันจบ อีกฝ่ายก็ลอบโจมตีทันทีทั้งที่มีพลังระดับวิญญาณก่อกำเนิด แต่ยังเล่นสกปรกด้วยการลอบจู่โจม เรียกได้ว่าทั้งเลวทั้งเจ้าเล่ห์สุด ๆเปรี้ยง!ทันใดนั้นก็มีสายฟ้าสีม่วงเส้นหนึ่งก็ผ่าลงมากลางหัวอย่างจังชายคนนั้นถูกฟาดจนร่างแหลกละเอียดกลายเป็นเศษธุลีแทบไม่เหลือชิ้นดีเสี่ยวโหรวที่ยืนข้าง ๆ ถึงกับหน้าซีด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1171

    “สินค้าชิ้นที่สองของงานประมูล เป็นจิตวิญญาณนักรบระดับถอดจิตขั้นต้นเนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้สภาพจิตวิญญาณจึงยังไม่คงที่เราต้องใช้วิชาเฉพาะตัวเพื่อรักษาสภาพเอาไว้ชั่วคราว ต้องพาไปที่ที่มีพลังหยินหนาแน่น หรือไม่ก็ต้องมีจิตวิญญาณนักรบที่แข็งแกร่งช่วยรักษาให้ ราคาเริ่มต้นที่หนึ่งแสนศิลาวิญญาณ”พูดจบ เธอก็หยิบลูกแก้วคริสตัลออกมา ภายในมีวิญญาณของปีศาจหมาป่าตนหนึ่งถูกผนึกไว้บนร่างมันมีรูโหว่อยู่หลายแห่งมีหลายคนให้ความสนใจ ต่างเริ่มเสนอราคากันเย่ซิวเองก็ถูกจิตวิญญาณนักรบตนนั้นดึงดูดสายตาเข้าแล้วเขาไม่ได้สังเกตเลยว่าหลังจากให้กระบี่แม่ลูกกับเสี่ยวโหรวไป เธอก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยไม่นานราคาก็ถูกดันขึ้นไปถึงสองล้านกว่าศิลาวิญญาณถ้ามันไม่บาดเจ็บล่ะก็ ต่อให้มีหลายสิบล้านก็อาจจะยังซื้อไม่ได้ด้วยซ้ำจำนวนคนที่ร่วมประมูลค่อย ๆ ลดลงเย่ซิวจึงเสนอราคาไปที่สามล้านศิลาวิญญาณในครั้งเดียว และชนะการประมูลไปอย่างราบรื่นของก็ถูกส่งมาถึงมือเย่ซิวอย่างรวดเร็วเขานำมันเก็บเข้าไปในธงหมื่นวิญญาณแล้วให้จิตวิญญาณนักรบทั้งสามที่อยู่ภายในช่วยรักษาบาดแผลให้แน่นอนว่าจอมมารโลหิตดู

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1170

    แน่นอนว่าการค้างคืนด้วยกันนั้นไม่ได้ทำให้เย่ซิวเสียสมาธิอะไรหากพูดถึงความเย้ายวน ก็ไม่มีใครจะสู้เสวี่ยเหมยได้อยู่แล้วในตลาดมืดแห่งนี้มีขายเสื้อคลุมแบบเดียวกับที่เย่ซิวสวมอยู่เขาซื้อมาเพิ่มอีกสองชุดเก็บไว้หนึ่งชุด อีกชุดให้เสี่ยวโหรวสวมไม่งั้นสายตาโลมเลียจากรอบข้างจะมากเกินไปหน่อยจากนั้นเขาก็พาเสี่ยวโหรวเดินเล่นในตลาดมืดต่อจริง ๆ แล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาซื้อของอะไรเดินวนไปหนึ่งรอบก็ไม่เจอของอะไรที่ดูมีค่าเป็นพิเศษแบบที่ในนิยายบางเรื่องชอบเขียนว่าพระเอกเดินผ่านตลาดแป๊บเดียวก็เจอสมบัติล้ำค่าอะไรแบบนั้น เรื่องแบบนั้นไม่มีเกิดขึ้นที่นี่หรอกสุดท้ายเขาก็มาถึงอาคารจัดประมูลของตลาดมืดถึงจะเรียกว่าอาคาร แต่จริง ๆ ก็แค่โรงเรือนที่มีขนาดใหญ่กว่าร้านทั่วไปนิดหน่อยเท่านั้นเองการเข้าไปข้างในต้องจ่ายค่าผ่านประตูคนละหนึ่งร้อยศิลาวิญญาณเย่ซิวจ่ายไปสองร้อยแล้วก็จับมือเสี่ยวโหรวเดินเข้าไปมือของเธอนุ่มมาก แถมยังเย็นนิด ๆ ชวนให้รู้สึกอยากจับไม่ปล่อยตอนเข้าไป ที่นั่งก็เหลือว่างอยู่ไม่มากแล้วคนอื่น ๆ แค่เหลือบมองเย่ซิวแล้วก็หันหน้ากลับไปทันทีเพราะที่นี่ ถ้าจ้องใครนานเกินไปจะถูก

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1169

    “วันนี้บังเอิญมีงานประมูลจัดขึ้นพอดี หนึ่งในของประมูลสำคัญคือหุ่นเชิดโบราณตัวหนึ่งมีพลังระดับถอดจิต ถ้าคุณมีฝีมือก็ลองประมูลดูได้”เย่ซิวสะดุดใจขึ้นมาทันที พลังต่อสู้ของหุ่นเชิดระดับถอดจิตนั้นสูงมากถ้าได้มาจะช่วยยกระดับพลังโดยรวมของเขาได้มากทีเดียวเขาพยักหน้าแล้วก็ตรงเข้าสู่เขตตลาดมืดทันทีบรรยากาศภายในตลาดมืดดูไม่ต่างจากตลาดนัดทั่วไปผู้บำเพ็ญตนนั่งเรียงกันสองฝั่งข้างทาง หน้าแต่ละคนมีแผงเล็ก ๆ วางของขายหลากหลาย“แวะมาดูได้เลย ของดีราคาถูก รับประกันไม่มีโกง”“คัมภีร์ประจำตระกูลของแท้ ขอแลกกับหินธาตุไฟ”“หญิงแท้ ขอแลกแต่งงานกับร้อยศิลาวิญญาณ”……ของหลากหลายจนมองตามแทบไม่ทันเย่ซิวเดินผ่านแผงขายของทีละอันของบางอย่างเขาก็สนใจ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีประโยชน์กับเขามากนัก เลยไม่ได้ซื้ออะไรจู่ ๆ เขาก็หยุดที่แผงหนึ่งแผงนี้ไม่ได้มีของวางขายเหมือนแผงอื่น ๆ แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่แทนเธอสวมเสื้อผ้าบางเบา ร่างเล็กบอบบางแต่รูปร่างกลับพอดีสัดส่วน หน้าตาจัดว่าระดับแปดเต็มสิบที่เด่นที่สุดคือดวงตาสีฟ้าราวกับไพลินแค่เห็นแวบเดียวก็ยากจะละสายตามีคนจำนวนไม่น้อยหยุดมองที่แผงนี้

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1168

    เย่ซิวเก็บร่างแยกทั้งห้าไว้ในจุดตันเถียนจากนั้นเขาก็ขังตัวเองบำเพ็ญตนในถ้ำอยู่อีกหลายวันเมื่อออกมาอีกครั้ง เขาก็ทยอยส่งมอบโอสถให้กับแต่ละคนตามที่สั่งไว้ แลกกับวัตถุดิบล้ำค่าหลายชิ้นหลังจากนั้นเย่ซิวก็ตรงไปหาจางเสี่ยวอวี๋ “ฉันอยากไปตลาดมืด เธอพอมีช่องทางไหม”ตลาดมืดนี่ เย่ซิวเคยได้ยินมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่ในสำนักอวิ้นหลิงแล้วเขาว่ากันว่าสถานที่ตั้งลึกลับสุด ๆนอกจากคนในสำนัก ก็ยังมีผู้บำเพ็ญจากสำนักอื่น ๆ แอบเข้ามาทำการค้าด้วยเบื้องหลังตลาดมืดเหมือนจะมีผู้มีอิทธิพลหนุนหลังอยู่หลายรายการซื้อขายข้างในถือว่าปลอดภัยมากมีของดี ๆ หลายอย่างที่โลกภายนอกหาไม่ได้แน่นอนว่าถ้ามีสมบัติติดตัวมากเกินไปแล้วโดนรู้เข้าตอนออกจากตลาดมืดอาจถูกตามฆ่าปิดปากหรือโดนปล้นก็ได้“ฉันรู้สิ สถานที่แบบนั้นต้องใช้ชุดพิเศษในการเข้าไปด้วย”จางเสี่ยวอวี๋พูดจบก็ดึงชุดคลุมสีดำออกมาจากแหวนผนึกของ“ในนั้นทุกคนต้องใส่ชุดนี้ ห้ามเปิดเผยตัวตน และต้องจ่ายค่าผ่านประตูสิบศิลาวิญญาณด้วยนะ”เย่ซิวรับเสื้อคลุมมาถือไว้แล้วจางเสี่ยวอวี๋ก็อธิบายเส้นทางไปตลาดมืดให้ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากสำนัก เป็นเมืองเล็ก ๆ แ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1167

    “อะไรนะ? แค่วันเดียวนายก็กลั่นสำเร็จจริงเหรอ?”ทันทีที่เห็นเย่ซิว เจ้าสำนักก็รีบถามขึ้นด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวังเขาเองก็ไม่ได้เพิ่มพลังตัวเองมานานแล้วเหตุผลหลักก็เพราะไม่มีโอสถที่เหมาะสมพอให้ใช้โอสถระดับปฐมญาณนั้นหาได้ยากมากในตลาดต่อให้มีก็จะปรากฏแค่ในงานประมูลเท่านั้น และราคาก็มักจะพุ่งขึ้นสูงเทียมฟ้าเสมอแม้รั่วอวิ๋นจะสามารถกลั่นยาได้แต่เธอต้องลองห้าหกครั้งถึงจะสำเร็จสักครั้ง แถมแต่ละครั้งต้องใช้ต้นทุนมหาศาล“ผมไม่ทำให้ท่านอาจารย์ผิดหวังครับ” เย่ซิวยื่นโอสถเก้าเม็ดที่ถูกเจือจางแล้วให้ ก่อนถอนหายใจหนึ่งที “ไม่คิดเลยว่าฝีมือกลั่นโอสถของผมจะแย่ขนาดนี้ ทั้งหมดออกมาเป็นแค่ระดับต่ำ”เจ้าสำนักมองโอสถระดับปฐมญาณในมือแล้วถึงกับตกใจ แม้เขาจะเป็นคนสุขุมมาก แต่ก็ยังเผยสีหน้าเหลือเชื่อออกมาแล้วก็หัวเราะลั่นด้วยความยินดี “ดี ดีมาก ๆ ฝีมือกลั่นโอสถของนายอาจจะแซงหน้าอาจารย์ของตัวเองไปแล้วก็ได้นะ”เย่ซิวยิ้มเก้อ ๆ “ไม่น่าเป็นไปได้หรอกครับ ผมยังพัฒนาอีกมาก เอ่อ…”จู่ ๆ สีหน้าเขาก็ซีดเผือด ร่างกายโงนเงนเหมือนจะล้มเจ้าสำนักหรี่ตา “นายเป็นอะไรไป?”“ไม่เป็นไรครับ แค่เสียพลังมากเก

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1166

    เย่ซิวเอ่ยรายชื่อวัตถุดิบออกมาติดต่อกันเป็นสิบ ๆ อย่างหนึ่งในนั้นก็คือวัตถุดิบชิ้นสุดท้ายสำหรับการหลอมร่างแยกธาตุดินเขามีแผนการบางอย่างในใจ และจำเป็นต้องสร้างร่างแยกธาตุทั้งห้าสำเร็จเสียก่อนถึงจะลงมือได้ดวงตาของเจ้าสำนักเปล่งประกายวาบ “ฉันมีหินดินธาตุดั้งเดิมอยู่ก็จริง แต่ของสิ่งนี้ล้ำค่ามาก เว้นเสียแต่นายจะสามารถกลั่นโอสถระดับปฐมญาณออกมาได้”เย่ซิวพยักหน้า เขารู้จักโอสถประเภทนี้ดี มันสามารถเพิ่มพลังระดับปฐมญาณได้แต่กระบวนการกลั่นซับซ้อนมาก แถมวัตถุดิบยังหาได้ยากสุด ๆแค่ต้นทุนวัตถุดิบสำหรับหนึ่งเตากลั่นก็เกินสิบล้านศิลาวิญญาณแล้วผู้บำเพ็ญสายอิสระทั่วไปไม่มีทางสู้ราคาไหวแน่“แล้วเจ้าสำนักอยากได้กี่เม็ด ถึงจะยอมแลกล่ะครับ”“นายกลั่นได้จริงเหรอ?” เจ้าสำนักมองเย่ซิวด้วยสีหน้าตกตะลึง ดวงตาฉายแววไม่เชื่อโอสถชนิดนี้ไม่เหมือนกับโอสถวิญญาณหยก ระดับความยากสูงกว่ากันหลายเท่าเย่ซิวไม่ได้รีบตอบในทันที แต่เงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยว่า “ผมขอลองก่อน ยังไม่กล้ารับประกันว่าจะสำเร็จเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เจ้าสำนักให้วัตถุดิบสำหรับหนึ่งเตากลั่นกับผมก่อนถ้ากลั่นไม่ได้ ผมยินดีจ่ายค่าต้นทุน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1165

    เย่ซิวรีบวิ่งเข้าไปในห้องทันทีพอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นเสี่ยวไป๋ลอยอยู่กลางอากาศพลังวิญญาณในห้องถูกดูดเข้าไปหามันอย่างบ้าคลั่งไม่กี่วินาทีก็สูบพลังวิญญาณจนหมดทั้งห้องจากนั้นร่างของมันก็ถูกห่อหุ้มด้วยรังไหมขนาดใหญ่ แล้วค่อย ๆ ลอยลงสู่พื้นอย่างช้า ๆเย่ซิวยิ้มกว้างด้วยความดีใจ เสี่ยวไป๋กำลังจะวิวัฒนาการอีกแล้วรอบที่แล้วเหมือนจะพัฒนาขึ้นไม่มากเท่าไหร่แต่สัญชาตญาณของเย่ซิวบอกว่ารอบนี้น่าจะเติบโตแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียวเขารีบเอาน้ำพุวิญญาณที่เหลืออยู่เทราดลงไปบนรังไหมทันที ซึ่งมันก็ถูกดูดซึมหายไปอย่างรวดเร็วนี่อาจช่วยเร่งขั้นตอนวิวัฒนาการให้เร็วขึ้นได้เย่ซิวเดินไปอุ้มเจ้าเสี่ยวอวี่ที่อยู่ไม่ไกลขึ้นมาเจ้าตัวนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากแต่ท้องของมันนี่เหมือนหลุมดำชัด ๆเย่ซิวเลยจัดเต็มอีกครั้ง เขากลั่นโอสถวิญญาณหยกมาอีกหมื่นเม็ดให้มันไว้กินเล่นทั้งสำนักอวิ้นหลิงคงไม่มีใครกล้าทำอะไรฟุ่มเฟือยอย่างเขาอีกแล้วล่ะในช่วงครึ่งเดือนหลังจากนั้น เย่ซิวก็หมกตัวอยู่แต่กับการกลั่นโอสถและฝึกฝนวิชาต่าง ๆข้างนอกเองก็เริ่มมีข่าวแพร่กระจายไปว่าเย่ซิวสามารถกลั่นโอสถวิญญาณหยกได้ควา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1164

    จากท่าทีและสีหน้าของทุกคน เย่ซิวก็พอเดาออกว่าโอสถนี่น่าจะหาได้ยากมากในตลาดไม่งั้นพวกเขาคงไม่แห่กันมาขอซื้อแบบนี้แน่เขาทำหน้าลำบากใจเล็กน้อย “ผมก็อยากช่วยนะครับ แต่โอสถตัวนี้ตอนปรุงมันใช้พลังจิตเยอะมากวันหนึ่งผมปรุงได้ไม่กี่รอบเอง แถมวัตถุดิบก็หายากด้วย”ความหมายแฝงก็คือพวกคุณต้องเพิ่มเงินและเตรียมของมาเองซึ่งทุกคนก็ไม่ใช่คนโง่และเข้าใจเจตนาของเขาทันที ก่อนจะรีบเสนอว่า“ถ้างั้นแบบนี้ดีไหม โอสถวิญญาณหยกหนึ่งเม็ด ฉันให้หนึ่งพันหนึ่งร้อยศิลาวิญญาณ ส่วนวัตถุดิบเราจัดการเอง แบบนี้ตกลงไหม”เย่ซิวคำนวณในหัวอย่างไวต้นทุนของโอสถวิญญาณหยกต่อเม็ดอยู่ที่ราว ๆ หนึ่งพันศิลาวิญญาณถึงจะรวมค่าแรงและพลังวิญญาณที่ใช้ก็ถือว่าต้นทุนต่ำมาก อย่างมากก็แค่เสียเวลาเฉย ๆเขาสามารถกลั่นได้เป็นหมื่นเม็ดในคราวเดียวถ้าขายให้คนพวกนี้หมื่นเม็ดก็เท่ากับว่าจะได้เงินถึงสิบกว่าล้านศิลาวิญญาณเลยทีเดียวกำไรขนาดนี้ก็แทบจะเรียกได้ว่ากินขาดแต่เย่ซิวก็ยังไม่ตอบตกลงทันที และทำท่าลังเลอยู่รั่วอวิ๋นที่ยืนข้าง ๆ ตบไหล่เขาเสียงดัง “ยังจะลังเลอะไรอีกล่ะ?นี่มันโอกาสทองเลยนะ ได้ทั้งเงินได้ทั้งฝึกฝีมือ”เย่ซิวถ

無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status