LOGINTrigger Warning :
พาร์ทนี้มีการกระทำของตัวละครที่ไม่เหมาะสม มีเนื้อหาเกี่ยวกับการข่มขืน
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
รบกวนไม่ดราม่าเพราะเราเตือนตั้งเเต่หน้าเรื่องเลยนะคะ
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงนิยายสะท้อนสังคมเรื่องหนึ่งเท่านั้น พระเอกได้รับผลกรรมเเน่นอน
“แล้วมึงจะตามไปเทียวรับเทียวส่งเมียใหม่ที่ปทุมเหรอวะ ไกลไปป่าว”
ไอ้โล้นพูดกับผมระหว่างที่เรานั่งกระดกเหล้ากันสามคน ผมมองไปที่แก้วเหล้า ก่อนที่จะเติมน้ำแข็ง
“ไม่ไกลอ่ะ กูแค่ขับรถไปชั่วโมงเดียว”
“เช้าๆ รถติดจะตายห่า มึงไปยังไง แล้วเมียมึงเรียนตอนไหน”
“เออ นั่นดิ” ผมนึกขึ้นได้ หลังจากข่มขืนน้องนุ่มนี่ก็ข้ามคืนไปแล้วที่ผมแดกเหล้ากับเพื่อน ผมว่าจะทักเธอไปอยู่ แต่จำได้ว่าปาโทรศัพท์น้องนุ่มแตกไปแล้ว ไม่รู้เสียไปหรือยัง
คิดแล้วก็หยุดกระดกเหล้าไปซะเฉยๆ ทำแบบนั้นก็แย่ไปหน่อย ถ้าเป็นผมโดนเขวี้ยงโทรศัพท์ ก็คงโกรธ
“ไม่ต้องถาม เดี๋ยวคืนนี้กูจะกลับไปหาน้อง” ผมพูดแล้วกระตุกยิ้มออกมาบางๆ
“มึงนี่เรื่องผู้หญิงนานๆ ทีจะมีนะ ติดใจไรอีก” ไอ้โล้นถามผมขึ้นมา ผมเหลือบมองไอ้ห้อยที่นั่งก๊งเหล้าเงียบๆ มันเป็นคนไม่ค่อยพูดเท่าไหร่แต่ถนัดที่จะฟังคนอื่นพูดมากกว่า ไม่ได้ถือสาอะไรแล้วหันกลับไปมองมัน “หรือมันทำให้มึงนึกถึงน้องเนสคนเก่า?”
“พูดทำไม” ผมโพล่งขึ้นมา ขยี้หัวตัวเองแรงๆ เพราะไม่ค่อยพอใจที่ชื่อที่ผมพยายามจะลืมตลอดสามปี ตลอดจนผมไม่เคยนับว่าเธอคือผู้หญิงคนแรก เพราะไม่เคยได้... ไม่เคยได้เป็นเมีย
“คนที่มันรอวันเอาแต่ไม่ได้มั้ย?” อยู่ดีๆ ไอ้ห้อยก็โพล่งขึ้นมาหลังจากเงียบมานาน มันจ้องหน้าผมนิ่งๆ แต่แววตาวาววับ “... คนนี้มึงเลยข่มขืนเลย”
“อีดอกนั่นกูไม่นับว่าเป็นเมีย” ผมพูดอย่างโมโหพอนึกถึงหน้าเธอ เรื่องเนสมันมีอะไรมากกว่านั้น ผมแทบอุทิศตัวให้เธอ ตายให้ได้เลยตอนนั้น แต่เธอก็ทำเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ และมันกระทบใจจนเกือบทำให้ผมฆ่าคนตาย
“แต่มึงก็สปอยมันแทบตาย ไอ้สัส” ไอ้โล้นตบบ่าผม “ผู้หญิงอ่ะไม่มีเหี้ยอะไรมากหรอก เรามันเป็นคนกรังๆ แบบนี้ใครมันจะอยากมาจริงจังด้วยวะ”
“...”
“เพราะงั้นมาขายยากับกูดีกว่า ไม่รวยแต่เขือ แถมหาผู้หญิงได้เป็นร้อย”
“กูเลิกแล้วกับยา เดี๋ยวโดนตำรวจจับ” ผมที่ไม่เคยกลัวเหี้ยอะไรแม้แต่พ่อที่เคยถูกขนานนามว่าเป็นหัวโจกอาชีวะพูดถึงเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ขับฝ่าด่านยังไม่กลัว แต่เรื่องยานี่กลัวจริงๆ เพราะเคยเห็นมามากกับเรื่องพวกนี้
เพื่อนโดนจับ แฟนโดนจับ เพื่อนบางคนเสียคน เป็นบ้ากับมันไปเลย มันให้แต่โทษไม่เคยให้ข้อดี
“กูทำมาสามปีแล้วยังไม่โดนจับเลย”
“มึงทำเพราะมึงจำเป็น แต่กูนี่ไม่ กูมีเงินพ่อเงินแม่ให้ผลาญอยู่” ผมพูดแบบเลวๆ ท้าวคางแล้วนึกถึงคนตัวเล็กที่เพิ่งข่มขืนไป นึกถึงทำไม่ก็ไม่รู้ อยู่ดีๆ ก็รู้สึกผิด “ไม่ทำเหี้ยไรเลยก็ดีอยู่แล้ว”
“มึงก็คอยดูว่าเมียที่มึงเพิ่งข่มขืนมามันจะทนมึงมั้ย” ไอ้โล้นพูดอย่างดูแคลน นั่นทำให้ผมชะงักได้ทันตา “คนที่ไม่มีตังค์ติดตัวทำเหี้ยไรก็ไม่เป็นแบบมึง ผู้หญิงมันจะมาทนเหรอวะ”
ผมฉุกคิดตาม โดยที่ไม่รู้ว่าทำไม
“กูเอาเก่ง เดี๋ยวก็รัก” เอาเก่งที่ไหน แค่สอดเข้าไปผมยังแตกตั้งแต่รอบแรก
“มีดีแค่เอาแต่ไม่มีเงินมันก็แค่นั้น”
หมับ!
“แล้วมึงเป็นเหี้ยไรมาไซโคให้กูขายยา อยากมีเพื่อนแดกข้าวแดงด้วยกันไง?” ผมพุ่งไปกระชากคอเสื้อมันอย่างหงุดหงิด ไม่ได้จะต่อยแต่เป็นอารมณ์พาลที่มันมาตอกย้ำว่าผมไม่เอาไหน ผมไม่ได้ใส่ใจน้องนุ่มมากหรอก... คิดว่านะ แต่ทำไมพอมันตอกย้ำผมถึงรู้สึกหงุดหงิดชิบหาย
“กูก็แค่เสนอทางที่ดีกว่าให้มึง” ไอ้โล้นแสยะยิ้มออกมา “ถ้ามึงไม่อยากเกาะพ่อแม่ไปจนตายก็ทำตามที่กูบอก”
“...”
“แค่มึงรวย ทุกคนก็พร้อมรักมึงแล้ว”
จะจริงเหรอวะ
ผมคิดไม่ตกตอนที่ขับรถไปรังสิต ซิกแซกรถคันนู้นคันนี้ตามใจ ถ้าให้ผมไปทำงานมีหวังได้โดนไล่ออกมาแหง ผมมันเป็นพวกความอดทนต่ำ ทำอะไรไม่เป็น แถมยังไม่เป็นโล้เป็นพายอีกต่างหาก
จู่ๆ ตอนนั้นผมก็คิดว่า เมื่อก่อนไม่น่าทำตัวงั้นเลย แต่มาคิดอีกทีมันก็สายไปแล้ว
ผมว่า ผมไประบายอารมณ์กับน้องนุ่มดีมั้ย ยังไงเธอก็เป็นเมียผมแล้ว
ยังไงผู้หญิงมันก็เป็นได้แค่ที่ระบายอยู่แล้วนี่หว่า
ผมคิดแล้วบึ่งรถไปที่หอพักน้องนุ่มที่คุ้นเคย แต่ก็อย่างว่า หอพักที่นี่ผมเข้าไม่ได้เพราะเป็นผู้ชายถึงจะเป็นผัวเธอก็ตาม ผมเลยขับรถไปขู่ไอ้เจ๋งให้เอาเงินมาให้ผมเจ็ดร้อยเพื่อจะเช่าห้องอยู่ข้างๆ น้องนุ่มแล้วปีนระเบียงเข้าไปหา
ขู่ไอ้เจ๋งงี้ไปวันๆ ก็ไม่ดี เดี๋ยวมันอุตริแจ้งตำรวจมาจับผมก็ซวยดิ
หรือผมจะขายยาดีวะ?
ผมเข้าไปในห้อง ล็อกประตูไว้แล้วปีนไปอีกฝั่งของระเบียงน้องนุ่ม เห็นเธอยังนอนซมอยู่บนเตียง
เมื่อวานก็ป่วยนี่หว่า ถึงขนาดขาดเรียนเลยเหรอ? สงสัยจะหนักมือไปหน่อยมั้ง
อยู่ดีๆ ก็รู้สึกแย่ขึ้นมา ทั้งที่คนอย่างผมมันเป็นได้แค่เศษคนเท่านั้น
ผมเคาะประตูระเบียง น้องนุ่มสะดุ้งลุกขึ้นมองผมท่าทางกลัวๆ เธอหน้าแดงก่ำพร้อมกับกุมเสื้อเอาไว้แน่น
“ไม่เปิดพี่จะลงคลิป” ผมพูดไม่มีเสียงแล้วชี้ไปทางโทรศัพท์ที่หน้าจอแตกละเอียดของตัวเอง น้องนุ่มสะดุ้งเฮือก ก่อนที่เธอจะค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นมาเปิดประตูให้
แค่นั้นก็จบ
แต่ผมแม่งไม่มีหรอก คลิปอะไรนั่น แค่เอามาขู่เฉยๆ มันของถนัดของผมอยู่แล้ว
“ป่วยเหรอ” ผมถามย้ำทั้งที่รู้อยู่แล้ว น้องนุ่มปิดคอเสื้อตัวเองไว้แล้วหนีไปนอนเอาผ้าห่มคลุมโปงบนเตียงโดยที่ไม่ตอบอะไร
“...”
“พี่ถามไม่ได้ยินเหรอ?” ผมย้ำ น้องถึงตอบเสียงสั่นกลับมา
“... ค่ะ”
“กินยายัง”
“ยะ... ยังค่ะ”
“แล้วยาอยู่ไหน?” ผมย้อนถาม น้องนุ่มผงกหัวขึ้นมามองผมที่ยืนจังก้าอยู่ภายในห้อง สีหน้าเธอบอกผมว่าเธอกลัว และไม่มีทางเลือก
“นะ... ในตู้ห้องครัว”
ผมเดินไปทางตู้ไม้ในห้องครัวของเธอ ห้องน้องนุ่มรกเหมือนเธอทำอะไรไม่เป็นแม้แต่ทำงานบ้าน แต่คงไม่แปลกเพราะพ่อแม่ดูประคบประหงมมาก ผมมองไป ก่อนที่จะหันมาถามเธอ
“ทำไมไม่เก็บห้องอ่ะ”
“นะ นุ่มเก็บห้องไม่เป็นค่ะ” คนตัวเล็กตอบกลับมา เธอเอาผ้าห่มมาปิดหน้าตัวเองเอาไว้ เหมือนไม่อยากเห็นหน้าผม
“เก็บห้องไม่เป็น?” ผมแค่นหัวเราะ “น้องใช่ผู้หญิงจริงปะ”
“กะ ก็...”
ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่ผมก็รื้อตู้ไม้ในห้องครัวเธอแล้วเอาซองยาออกมา ที่เขียนว่าซาร่า เพราะแม่เคยบอกว่าเวลาเป็นไข้ให้กินยานี้ตอนเด็กๆ เดินอาดๆ ไปตรงหน้าเธอ แล้ววางซองยา พร้อมกับขวดน้ำเย็นมาวางบนโต๊ะข้างเตียง
น้องนุ่มค่อยๆ เลิกผ้าห่มมาดูเมื่อผมขยับไปนั่งตรงหน้าเธอที่เอาแต่นอนซมอยู่ ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกเมื่อผมใช้หลังมืออังหน้าผากเธอไว้ให้ แล้วเอาอีกมือมาจับหน้าผากตัวเองแบบโง่ๆ
ร้อนจี๋เลยดิ สงสัยจะป่วย
“ลุก” ผมผละมือออกจากหน้าผากของเธอแล้วคว้าแขนเธอกระตุกให้ลุกขึ้นมา “ลุก กินยา”
“ตะ แต่...”
“ถ้ากินยาวันนี้จะกลับเร็วก็ได้” ผมรู้ว่าเธอไม่อยากเจอหน้าผม ใช่ เพราะผมข่มขืนเธอไง
คนตัวเล็กค่อยๆ ลุกขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำนั้น เธอค่อยๆ แกะยาออกมาจากซอง แล้วเคาะเข้าปาก ก่อนที่จะกระดกน้ำตามไปด้วยท่าทางอิดโรย
ผมมองตาม พลันความคิดทะลึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัว เธอในชุดนอนบางๆ แม่งโคตรเย้าอารมณ์เลย
เอาอีกสักรอบก่อนไปดีมั้ยวะ
หมับ!
พอคิดแบบนั้นผมก็ไม่รอช้าที่จะผลักเธอที่กำลังกลืนน้ำลงคอลงกับเตียง พร้อมกับขยับกายไปขึ้นคร่อมเธอไว้ทั้งตัว แล้วตรึงมือเธอทั้งสองข้างไว้ด้วยฝ่ามือแกร่งของตัวเอง
“พะ... พี่!” เธอพยายามดิ้นรนไปมาอยู่ใต้ร่างกำยำของผม ผมหอบหายใจอย่างกระหาย กวาดสายตามองเรือนร่างอันน่ารัญจวนของอีกฝ่ายแล้วหอบแฮ่ก ไอ้นั่นลุกโพลงขึ้นมานอกกางเกงอย่างแสดงถึงความต้องการ
ผมทำท่าจะกระตุกเสื้อนอนของเธอออกอย่างรุนแรง แต่...
แต่เธอ... กลับร้องไห้ออกมา
“ฮึก” เธอสะอื้นหนักจนสำลักน้ำลายตัวเอง ผมเบิกตากว้าง มือที่คว้ากระดุมส่วนบนของเธอชะงักค้างกลางอากาศ “ยะ... ฮึก อย่าทำนุ่มเลย”
“...”
“นุ่มเจ็บ... อย่าทำนุ่มเลย นุ่มขอโทษ” เธอพรั่งพรูน้ำตาออกมาเยอะมาก เยอะจนผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังทำในสิ่งที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง
อยู่ดีๆ ผมแม่งก็รู้สึกแย่กับความเหี้ยของตัวเอง เลยผละมือออก พร้อมๆ กับคลายมือออกจากข้อมือทั้งสองข้างของเธอ แล้วขยับตัวลุกออกจากเธอไปด้วย
น้องนุ่มผุดลุกขึ้นเขยิบตัวหนีไปจนชิดผนังทันที เธอร้องไห้ออกมาอย่างหนักหน่วงในขณะที่ยกมือขึ้นพนมมือไหว้ผมปะหล่กๆ อย่างน่าเวทนา
ใจผมหล่นวูบลงไปที่ส้นตีน ก่อนที่จะกำหมัดแน่น
“กลับล่ะ” พูดไว้แค่นั้น ก่อนที่จะหันหลังกลับแล้วเดินออกไปจากห้องของเธออย่างเสียอารมณ์
แต่ในความเสียอารมณ์นั่น แม่งมีความรู้สึกแบบคนดีที่นานๆ ทีจะผุดขึ้นมา
ความรู้สึกละอายใจในสิ่งเหี้ยๆ ที่ทำลงไปนั่นไง
Trigger Warning :พาร์ทนี้มีการกระทำของตัวละครที่ไม่เหมาะสม มีเนื้อหาเกี่ยวกับการข่มขืนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านรบกวนไม่ดราม่าเพราะเราเตือนตั้งเเต่หน้าเรื่องเลยนะคะนิยายเรื่องนี้เป็นเพียงนิยายสะท้อนสังคมเรื่องหนึ่งเท่านั้น พระเอกได้รับผลกรรมเเน่นอน“แล้วมึงจะตามไปเทียวรับเทียวส่งเมียใหม่ที่ปทุมเหรอวะ ไกลไปป่าว”ไอ้โล้นพูดกับผมระหว่างที่เรานั่งกระดกเหล้ากันสามคน ผมมองไปที่แก้วเหล้า ก่อนที่จะเติมน้ำแข็ง“ไม่ไกลอ่ะ กูแค่ขับรถไปชั่วโมงเดียว”“เช้าๆ รถติดจะตายห่า มึงไปยังไง แล้วเมียมึงเรียนตอนไหน”“เออ นั่นดิ” ผมนึกขึ้นได้ หลังจากข่มขืนน้องนุ่มนี่ก็ข้ามคืนไปแล้วที่ผมแดกเหล้ากับเพื่อน ผมว่าจะทักเธอไปอยู่ แต่จำได้ว่าปาโทรศัพท์น้องนุ่มแตกไปแล้ว ไม่รู้เสียไปหรือยังคิดแล้วก็หยุดกระดกเหล้าไปซะเฉยๆ ทำแบบนั้นก็แย่ไปหน่อย ถ้าเป็นผมโดนเขวี้ยงโทรศัพท์ ก็คงโกรธ“ไม่ต้องถาม เดี๋ยวคืนนี้กูจะกลับไปหาน้อง” ผมพูดแล้วกระตุกยิ้มออกมาบางๆ“มึงนี่เรื่องผู้หญิงนานๆ ทีจะมีนะ ติดใจไรอีก” ไอ้โล้นถามผมขึ้นมา ผมเหลือบมองไอ้ห้อยที่นั่งก๊งเหล้าเงียบๆ มันเป็นคนไม่ค่อยพูดเท่าไหร่แต่ถนัดที่จะฟังคนอื่นพูดมากกว่า ไม่ได
Trigger Warning :พาร์ทนี้มีการกระทำของตัวละครที่ไม่เหมาะสม มีเนื้อหาเกี่ยวกับการข่มขืนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านรบกวนไม่ดราม่าเพราะเราเตือนตั้งเเต่หน้าเรื่องเลยนะคะนิยายเรื่องนี้เป็นเพียงนิยายสะท้อนสังคมเรื่องหนึ่งเท่านั้น[พาร์ท : ตะเข้]ผมข่มขืนน้อง แล้วก็มานั่งอวดเพื่อนในเฟสเหมือนว่าตัวเองนั้นเจ๋งมากที่สามารถทำระยำกับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งได้สำเร็จไปด้วยดีไอ้เข้ เทพบุตรใจหมา : กูได้น้องแล้วโล้นนักเจ๊ด เจ็ดราตรี : เร็วดีนี่หว่าเพื่อน ใจมึงนี่มันได้จริงๆผมกระตุกยิ้มให้กับข้อความ แต่ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ดังมาจากอีกฝั่ง เห็นเป็นน้องนุ่มที่นอนร้องไห้อยู่ เธอร้องไห้ตั้งแต่ผมเริ่มทำจนจบ ร่างเล็กซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม แล้วสะอื้นออกมาอย่างน่าอดสูผมมองเธออย่างไม่มีความรู้สึกผิดใดๆ หยิบมวนบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบแล้วพ่นควันขาวคลุ้งให้ลอยละล่องกับธาตุอากาศผมเองก็ชอบน้องอยู่พอตัว ผมลงทุนมารังสิตเพื่อมาหา ก่อนที่เรื่องเลวๆ ที่เคยเห็น เคยโดนมาตลอดจะทำให้ผมคิดได้แต่เรื่องแย่ๆ“ฮึก... ทำไมพี่ทำกับนุ่มอย่างงี้ล่ะ” ผมหันไปมองคนที่นอนเปลือยหลังห่มผ้าร้องไห้ซิกๆ อยู่บนเตียง เธอถามคำถามที่ผมเองที่ไร้ซึ่งควา
Trigger Warning :พาร์ทนี้มีการกระทำของตัวละครที่ไม่เหมาะสม มีเนื้อหาเกี่ยวกับการข่มขืนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านรบกวนไม่ดราม่าเพราะเราเตือนตั้งเเต่หน้าเรื่องเลยนะคะนิยายเรื่องนี้เป็นเพียงนิยายสะท้อนสังคมเรื่องหนึ่งเท่านั้นเราอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ ถูสบู่กับแขนเรียวเล็กของตัวเอง แล้วถูตามตัวลงไปเรานึกถึงพี่ตะเข้แล้วก็ได้แต่ทำหน้ามุ่ยอยู่ในห้องน้ำผู้ชายคนนั้นน่ากลัวที่สุดเราคิดในใจแล้วล้างตัวด้วยฝักบัว สระผม แปรงฟัน แล้วออกมาจากห้องน้ำในชุดผ้าเช็ดตัวผืนเดียว เพราะอยู่ในห้องแค่คนเดียวก็เลยไว้ใจแต่ทว่าเรากลับสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นผู้ชายคนนึงยืนสูบบุหรี่อยู่หน้าระเบียง เรามองไปแล้วตกใจที่เห็นว่าเป็นพี่ตะเข้ เขาใส่กางเกงยีนส์ตัวเดียวแล้วยืนมองเราจากหน้าระเบียงตั้งแต่หัวจรดเท้าเราไม่คิดว่าระเบียงฝั่งนี้จะปีนได้เพราะมันห่างกันมากแล้วก็คงไม่มีใครบ้าบิ่นปีนมาขนาดนั้นเลยเปิดไว้ให้ลมเข้า แต่ปิดผ้าม่านไว้กลัวคนจากอีกตึกแอบดู แต่ไม่คิดว่าพี่เขาจะปีนขึ้นมาแล้วเปิดม่านทิ้งไว้เพื่อมองเข้ามาในห้องเรารู้สึกหวาดกลัวมากตอนที่พี่เขาทิ้งบุหรี่ลงระเบียงแล้วเดินเข้ามาใกล้ จะหลบเข้าห้องน้ำแต่ขาก็แข็งจนขย
Trigger Warning :พาร์ทนี้มีการกระทำของตัวละครที่ไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน“หอพักที่นี่ไม่อนุญาตให้ผู้ชายเข้านะคะ”แล้วผมก็ต้องทำหน้าเซ็งเมื่อมาส่งถึงหอ (ที่น้องนุ่มบอก) ถึงได้รู้ว่านี่เป็นหอพักหญิงล้วน มีแต่ผู้หญิงพัก ส่วนหอผู้ชายอยู่อีกฝั่งเหี้ยไรวะ ทำไมผมถึงเข้าไม่ได้“ป้า แต่ผมไม่มีที่ไปนะ ผมแม่งขับรถจากบางนามารังสิตอ่ะ”“ค่ะ”“เข้าห้องน้องไม่ได้เหรอ”“ไม่ได้ค่ะ” ป้าแม่งยืนยันเสียงแข็ง ผมรู้สึกอยากเค้นคอป้าแต่ได้แค่หันไปยิ้มให้คนข้างๆ“น้องนุ่มบอกดิคะว่าเราเป็นแฟนกันอ่ะ” ผมพูดหน้าตาเฉย ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกทันทีเพราะผมแม่งเล่นแง่โดยไม่ปรึกษา“... คะ?”“บอกไปดิคะว่าพี่เป็นแฟนน้องอ่ะ พี่ตามมาจากรังสิตเลยนะ” ผมพูดแล้วถลึงตากดดันน้องแบบที่ปกติชอบทำกับไอ้พวกที่ผมไปไถตังค์บ่อยๆ น้องนุ่มมีสีหน้ากลัวๆ ก่อนที่จะหันมายิ้มแหยๆ ให้ป้า“คะ... คือพี่เค้าเป็นแฟนหนูเอง... ค่ะ” ท้ายประโยคเธอหันมามองผมอย่างสิ้นหวัง“อ๋อ ถ้าหนูยืนยันแบบนี้ก็ได้นะ แต่ที่นี่มีห้องพักรายวันอยู่ข้างๆ กัน ยังไงก็อยู่ด้วยกันไม่ได้นะจ้ะ ให้แฟนหนูไปอยู่ที่นั่นละกัน”“...”“แต่ค้างคืนวันนึงก็ราคาประมาณเจ็ดร้อยนะ ไห
ใครอ่ะ ที่มาหาเรา“เอ้ เดินไปกับเราหน่อยนะ” เราพูดกับเพื่อนสนิทอย่างกล้าๆ กลัวๆ หลังจากผละออกมาจากเพื่อนคนนั้นที่อุตส่าห์หวังดีมาบอก ที่เรากลัวจนต้องพึ่งเอ้เพราะไม่คุ้นชินกับคนแปลกหน้าอยู่แล้ว เอ้รีบพยักหน้ารับและเดินไปพร้อมกับเราที่หน้ารั้วมหาลัยอย่างว่าง่ายทันทีว่าแต่... ใครกันนะ ที่อยากมาเจอเรา เพราะเราแทบจะไม่มีเพื่อนในนี้เลยหมับ!เราสะดุ้งเมื่อคิดอะไรไม่ทันจบอยู่ดีๆ ข้อมือก็ถูกคว้าโดยผู้ชายคนหนึ่ง พอหันกลับไปมองก็เห็นว่าเป็นผู้ชายท่าทางอันธพาล มีรอยสักเต็มแขนทั้งสองข้าง ผมยาวแสกกลางยุ่งเหยิง แถมยังมองเราอย่างหงุดหงิดเดี๋ยวนะว่าแต่หงุดหงิดเหรอ?“อะ... อะไรคะ” ทั้งเราและเอ้ตกใจที่มีผู้ชายท่าทางแบบนี้เข้ามาในวิทยาลัยพยาบาลที่ส่วนมากจะมีแต่ผู้หญิง ผู้ชายที่อยากเป็นพยาบาลส่วนมากจะเป็นคนนิสัยอ่อนโยน แต่ไม่ใช่แนวๆ นี้เลย“น้องนุ่มของพี่” แล้วอยู่ๆ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปเป็นตื้นตัน ก่อนที่ร่างสูงจะรั้งเอวเราเข้ามากอดทันที “คิดถึงว่ะ”ดะ... เดี๋ยวก่อนนะคะ!เรามารู้ทีหลังว่าคือพี่ตะเข้คนนั้นหลังจากที่พี่เขาอธิบายพอกอดเราจนพอใจ“แค่กอดเอง น้องทำเหมือนพี่ไปข่มขืนอ่ะ” เขาตัดพ้อหลังจากที่เรา
หลังจากที่น้องนุ่มบอกว่าชอบคนเรียนแพทย์ ผมจึงบอกพ่อว่าจะกลับไปเรียนช่างกล แล้วสามเดือนที่ผ่านมาหลังจากนั้นของผมก็ดีดีเหี้ยไรล่ะไอ้สัส“มึงไปตีกับวิทยาลัยอื่น? แล้วยังไง” พ่อสอบปากคำผมในวันหนึ่ง หลังจากที่วิทยาลัยช่างกลเปิดเทอมผมก็ไม่เอาเรียน แต่เอาตัวไม่รอดแทน วันๆ โดดเรียนไปแว๊นกับไปตีวิทยาลัยอื่น จนเรื่องแดงถึงหูพ่อแล้วก็เกมดิ ผมโดนพ่อเรียกมาถามตรงๆ“มันมาสะกิด ตีนผมเลยกระดิก” นี่คือคำตอบของผม พ่อส่ายหัวอย่างระอา“มึงยี่สิบแล้วนะไอ้เข้” พ่อย้ำอายุผมให้รู้ว่าตอนนี้ผมบรรลุนิติภาวะแล้ว “ที่มึงบอกว่าจะกลับไปเรียนกูก็นึกดีใจ แต่จนเวลาผ่านไปมึงก็ยังไม่เปลี่ยนนิสัย”“พ่อก็รู้ นิสัยคนมันไม่ได้เปลี่ยนกันง่ายๆ ทีไอ้ทิงแม่งยังทำเด็กท้องเลย พ่อไม่ไปด่ามันอ่ะ”เออ มีเรื่องจะบอก ไอ้ทิงแฝดนรกผมมันทำเด็กสิบเจ็ดท้อง พ่อแม่เด็กเกือบเอามันเข้าคุก โชคดีที่พ่อเข้าไปเคลียร์เองตรงๆ ว่าจะขอลูกสาวมารับผิดชอบค่าดูแลลูกในท้องเองเลยจบดี ไอ้ทิงกับน้องได้หมั้นกัน ตอนนี้อยู่กินกันแล้วส่วนผมเหรอ?ใช้ชีวิตไปเรื่อย นานๆ จะมีคนโดนใจทีนึง ตอนนี้ก็สนใจน้องนุ่มอยู่“มึงอย่าไปโบ้ยไอ้ทิง รายนั้นเรื่องจบไปแล้ว มาเอาเรื่







