공유

ตอนที่ 5 โครมไฟกระต่าย

last update 최신 업데이트: 2025-08-18 21:26:29

ตอนที่ 5

โครมไฟกระต่าย

ตลอดหลายวันที่ผ่านมาหลิงฉงหลงนอกจากเลือกแบบดูแบบเกี่ยวกับชุดเจ้าสาวแล้วนั้นวันๆ นางก็ได้เพียงไม่นั่งก็นอนเล่นอยู่ในเรือนใหม่ของตน เมื่อวานก็เพิ่งจะไปที่สกุลกู้เพื่อเยี่ยมเยียนท่านป้ากู้ซึ่งดูเหมือนว่าท่านป้าจะยุ่งวุ่นวายกับงานมงคลของนางที่มีหลายอย่างที่ยังต้องวางแผนตะเตรียมและสั่งการ นางรั้งอยู่เพียงหนึ่งชั่วยามเท่านั้นก็ขอตัวกลับออกมาเพราะถึงอยู่ด้วยนางก็ช่วยอะไรท่านป้าไม่ได้อีกทั้งจะพลอยทำให้นางพะวงไปเสียเปล่าๆ

ส่วนคุณชายใหญ่กู้หลังจากที่แวะมาวันนั้นก็ไม่ได้แวะมาอีกเลย มีเพียงส่งขนมและสิ่งของมาให้บ้างเป็นบางครั้งแต่นางก็คิดว่าเป็นของที่ท่านป้ามอบให้ในนามของบุตรชายก็เท่านั้น

นางรู้มาว่ากู้ซืออันในตอนนี้ดูแลกิจการของสกุลกู้เกือบทั้งหมด แน่นอนว่าย่อมยุ่งจนเจียดเวลาอันมีค่าออกมาไม่ได้อย่างง่ายๆ อย่างแน่นอน ฉงหลงแม้จะเข้าใจดีแต่ใบหน้าโฉมสะคราญเช่นนั้นยามใดที่ได้เห็นก็ราวกับว่าได้รับพร หากได้มองคราใดดวงตาก็ราวกับกำลังถูกปลอบประโลมอย่างไร อย่างนั้น รูปโฉมเช่นนั้นต่อให้คนต้องจ่ายเพื่อให้ได้มองเต็มตาสักเพียงเสี้ยว นาทีแน่นอนว่าย่อมมีคนจำนวนมากที่เต็มใจจ่ายเงินอย่างไม่เสียดาย

ฉงหลงเองก็อาจจะเป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกัน แต่นับได้ว่านางโชค  ดีกว่าผู้อื่นได้กระมัง ก็ในเมื่อภายหน้าหากเขาได้ชื่อว่าเป็นสามีภรรยากับนางแล้วใบหน้าราวเทพเซียนรังสรรค์นั้นนางก็น่าจะมองได้มากเท่าที่  ต้องการอีกทั้งยังไม่ต้องจ่ายเงิน

หากงานวิวาห์ลุล่วงเมื่อถึงเวลานั้นจะนับได้ว่านางได้ครอบครองรูป โฉมสะคราญของเขาครึ่งหนึ่งด้วยหรือไม่นะ ไม่ใช่ว่าใครต่างก็บอกว่าสามีภรรยาถือเป็นคนๆ เดียวกัน ทุกสิ่งของเขาย่อมกลายเป็นของนางด้วยเช่นกันใช่หรือไม่

นางแต่งงานครั้งนี้คิดไปคำนวณมาดูเหมือนนางจะได้ได้สมบัติเป็นกอบเป็นกำอย่างไม่เคยนึกคาดหวังว่าจะได้มากมายถึงเพียงนี้

สัญญาหมั้นหมายแต่งงานนี้ท่านปู่ผู้ล่วงลับนับว่าทำเอาไว้ได้อย่างดี  ตอนมีชีวิตไม่อาจทิ้งสมบัติล้ำค่าใดนอกจากความทรงจำระหว่างปู่หลาน แต่เมื่อล่วงลับไปแล้วกับพาสมบัติล้ำค่ามาให้เต็มไปหมด

วันนี้แต่เดิมนางคิดจะออกไปเดินเล่นที่ข้างนอกเสียหน่อย ทว่ายามจะออกจากบ้านฝนก็ดันตกลงมาเสียก่อนจึงได้แต่พับเก็บความตั้งใจเดิมที่มีเอาไว้ ประจวบเหมาะกับที่นางเดินผ่านส่วนที่เป็นประตูเชื่อมไปอีกฝั่งซึ่งตั้งแต่ย้ายมานางก็ยังไม่ได้แวะไปดูที่ด้านนั้นเลยแม้จะอยู่ห่างแค่เพียงหนึ่งกำแพงและหนึ่งประตูกั้นเท่านั้น

หลิงฉงหลงตัดสินใจไม่กลับเรือนพัก แต่เปลี่ยนเส้นทางไปยังอีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็นฝั่งที่เป็นส่วนของร้านค้าแทน

เดินพ้นประตูใหญ่มาก็คือลานกว้างด้านหลังของร้านค้า มีขนาดพอๆ กับที่ลานบ้านอีกฝั่งที่นางใช้พักอาศัยเพียงแต่ที่นี่มีข้าวของเครื่องใช้คล้ายเป็นเครื่องมือตากสมุนไพรวางอยู่มากมาย กวาดตามมองดูแล้วก็พบว่าสภาพยังดีอยู่มากทีเดียว ถัดไปเป็นในส่วนของหลังร้านที่มีห้องเก็บของสองห้องใหญ่ นางเลือกที่จะก้าวเข้าไปดูที่ภายในหน้าร้านก่อน ก็พบว่าเป็นสถานที่ที่ไม่เลวเลย ภายในการตกแต่งแม้ดูเรียบง่ายแต่ก็เป็นสัดส่วน แบ่งแยกอย่างชัดเจน

ต่อมานางกับอาจินจึงไปดูที่ห้องเก็บของทั้งสองห้อง ห้องหนึ่งเป็นห้องที่ใช้เก็บของทั่วไปจริงๆ ส่วนอีกห้องนั้นเป็นห้องที่เก็บดอกไม้แห้งใส่หีบเอาไว้นับสิบหีบใหญ่ๆ

หลิงฉงหลงเห็นเช่นนั้นก็ตาลุกวาวขึ้นมาทันทีเดียว

คุณภาพของดอกไม้แห้งเหล่านั้นถือว่ายังอยู่ในสภาพดีมาก ที่แท้พวกที่ตากของที่ลานด้านหลังของร้านก็มีเอาไว้ตากดอกไม้แห้งพวกนี้นี่เอง

“ดอกไม้แห้งพวกนี้ถูกทิ้งแล้วใช่หรือไม่”

“น่าจะเป็นเช่นนั้นนะเจ้าค่ะ”

“เจ้ารู้หรือไม่ที่นี่เคยเป็นร้านอะไรมาก่อน”

“หากบ่าวจำไม่ผิดน่าจะเป็นร้านขายดอกไม้นะเจ้าคะ”

“เพราะอย่างงั้นเลยมีดอกไม้แห้งเต็มไปหมดสินะ”

เจ้าร้านของคนเก่าทิ้งเอาไว้ที่นี่ตอนนี้นางที่เป็นเจ้าของคนใหม่จึงถือว่าเป็นเจ้าของดอกไม้ตากแห้งเหล่านี้สินะ

“อาจินประเดี๋ยวเจ้าให้คนมายกหีบดอกไม้แห้งออกไปไว้ที่เรือนพัก สักหีบหนึ่งนะ” นางเอ่ยสั่งสาวใช้ของตน นางอยากนำดอกไม้แห้งเหล่านี้ไปทำอะไรสักอย่างเป็นการคั่นเวลาที่ว่างอยู่ในทุกๆ วัน ส่วนที่จะนำไปทำอะไรนั้นฉงหลงเองก็ยังตัดสินใจไม่ได้แต่ก็มีคิดเอาไว้ในใจแล้วอีกทั้งยังถือว่าเป็นสิ่งที่นางค่อนข้างจะถนัดใช้ได้เลยทีเดียว

บ่ายคล้อยหลังจากฝนหยุดตกได้สักพัก ฉงหลงจึงได้โอกาสออกไปเดินเล่นอย่างที่ใจปรารถนาไว้ตั้งแต่เช้าแต่ฟ้าฝนในเวลานั้นกลับไม่เป็นใจ

บนถนนในยามนี้ถือว่าครึกคักใช้ได้ ผู้คนอื่นๆ ก็คงเป็นเช่นเดียวกับนางกระมังที่ไม่อาจออกมาเดินได้อย่างใจนึกตลอดวันเพราะฝนฟ้าไม่เป็นใจ พอฝนหยุดผู้คนต่างก็พากันหลั่งไหลออกมา

“โคมไฟนั้นไม่เลวเลย” หญิงสาวเอ่ยพลางชี้ไปที่โคมไฟที่ถูกแขวนเอาไว้ไกลๆ ที่หน้าแผงลอยแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยโคมไฟรูปแบบต่างๆ

“หากเจ้าชอบก็ซื้อกลับไปสักอัน” ไม่ใช่เสียงของอาจินที่เอ่ยกลับมาอย่างที่ควรจะเป็นแต่กลับเป็นเสียงทุ้มต่ำของบุรุษที่นับได้ว่าฉงหลงนั้นเร็วจะคุ้นหูอยู่มากในระยะนี้

กู้ซืออันและจางจงยืนอยู่ด้านหลังนางและอาจิน ชายหนุ่มในวันนี้สวมหมวกกว้างที่มีผ้าโปร่งสีขาวซึ่งสามารถปกปิดใบหน้าได้

นางสังเกตได้ว่าหากอยู่ที่จวนหรือที่บ้านเลขที่สิบสามของนางยามเมื่อพบเขาจะเปิดเผยใบหน้า แต่หากอยู่ข้างนอกจวนกับจะต้องสวมหมวกปกปิดใบหน้าส่วนใหญ่เอาไว้

“บังเอิญจริงคุณชายใหญ่กู้ก็มาเดินเล่นที่นี่หรือเจ้าคะ” ฉงหลงเอ่ยทักทายชายหนุ่มโฉมเฉิดฉายพร้อมรอยยิ้มกว้าง

 “ข้าทำธุระอยู่แถวนี้พอดี” เสียงเรียบเอ่ยตอบ

“เช่นนั้นข้าไม่รบกวนเวลาท่านแล้ว เชิญคุณชายทำธุระของท่านเถิดเจ้าค่ะ ข้ากับอาจินจะไปเดินเล่นต่อแล้ว” นางเอ่ยพร้อมเตรียมตัวจะกล่าวลา เพราะคิดว่าชายหนุ่มคงกำลังยุ่งอยู่

“ธุระของข้าเสร็จแล้ว”

“เช่นนั้นคุณชายคงกำลังจะกลับเรือนกระมัง” นางเอ่ยถามต่อ

เขาไม่ได้เอ่ยตอบที่นางถาม แต่กลับถามนางกลับมาแทน

“มื้อค่ำเจ้ากินอะไรหรือยัง”

“ยังเจ้าค่ะ” นางคิดหาของกินตามแผงบนถนนที่ดูจะมีของกินหลากหลายตั้งขายอยู่

“หอลุ่ยเหยียนที่หัวมุมถนนฝั่งโน้นมีหมูตุ๋นน้ำแดงที่ขึ้นชื่อ แม่นางหลิงอยากลิ้มรสดูหน่อยหรือไม่”

“อยากเจ้าค่ะ” นางตอบรับในทันทีด้วยแววตาแวววาวเมื่อได้ยินเรื่องเกี่ยวกับอาหารการกิน

อาหารเลิศรสบนโต๊ะกว่าสิบอย่าง ถูกบรรจงส่งมาบนโต๊ะอาหารเบื้องหน้าหลิงฉงหลงในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งเค่อ[1]ด้วยซ้ำหลังจากที่สั่งรายการอาหารที่ต้องการลงไป

“ชิมดูว่าถูกปากหรือไม่” ชายหนุ่มเอ่ยหลังจากที่คับหมูตุ๋นน้ำแดงให้ว่าที่ฮูหยินของตนที่เมื่อครู่ตั้งแต่อาหารจากแรกจนจานสุดท้ายถูกส่งมา สายตาของนางก็แวววับไม่หยุดแต่กลับไม่ยอมลงตะเกียบเสียที

“เนื้อนุ่มละลายในปากเลยเจ้าค่ะ” นางเอ่ยตอบจนแทบหลั่งน้ำตา รสชาติความอร่อยและความละมุนลิ้นยังชัดอยู่ในปาก

“หากชอบภายหน้าอยากกินเมื่อไหร่ก็ให้คนมาซื้อ”

“ของขึ้นชื่อเช่นนี้ราคาคงไม่น้อย หากซื้อทานบ่อยๆ ออกจะสิ้นเปลืองเจ้าค่ะ นานๆ ซื้อกินสักครั้งก็พอ”

“หอลุ่ยเหยียนแห่งนี้เป็นกิจการหนึ่งของสกุลกู้ อีกอย่างหากภายหน้าภรรยาของข้าต่อให้กินหมูตุ๋นน้ำแดงทุกมื้อก็ไม่ใช่ว่าข้าจะจ่ายไม่ไหว”

“คุณชายใหญ่กู้ท่านช่างดีจริงๆ ชาตินี้ฉงหลงได้แต่งกับท่านถือว่ามีวาสนานัก”

กู้ซืออันมองเจ้าของใบหน้าเล็กที่เมื่อครู่กล่าวคำซาบซึ้งต่อเขาเสียยาวเป็นประโยคเพียงเพราะของอร่อยตรงหน้า...

“คุณชายใหญ่ก็รีบทานสิเจ้าคะ หมูตุ๋นน้ำแดงนี่เลิศรสจริงๆ” นางเป็นฝ่ายคีบอาหารให้เขาบ้าง

ทั้งสองผลัดกันคีบอาหารให้กันตลอดมื้อ กู้ซืออันไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่ามื้อนี้เขานั้นกินข้าวได้มากกว่าเดิมกว่าครึ่งถ้วย ด้านฉงหลงนั้นยิ่งไม่กล่าวถึงไม่ได้นางกินมื้อค่ำไปถึงสองถ้วยใหญ่เต็มๆ อิ่มจนกระทั่งต้องนั่งพักอยู่ที่ห้องอาหารส่วนตัวอยู่พักหนึ่งเลยถึงจะเดินลงมาขึ้นรถม้าพร้อมกับกู้ซืออันได้

รถม้าค่อยๆ เคลื่อนตัวไปอย่างไม่เร่งรีบนักตามคำสั่งของชายหนุ่ม ที่คอยดูท่าทีของฉงหลงอยู่ตลอด

“เจ้ารู้สึกไม่สบายท้องดีขึ้นหรือไม่” เขาไม่น่าปล่อยให้นางกินมากไปเลย

“ดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะ” นางยิ้มกว้างเมื่อตอบ “ข้าตะกละเกินไปหน่อยจริงๆ กลับไปแล้วนั่งพักให้อาหารย่อยก็พอแล้ว”

หลิงฉงหลงตอนนี้ในสายตาของชายหนุ่มน่าสงสารอยู่นิดหน่อยจริงๆ นางคล้ายกับเด็กน้อยที่กำลังไม่สบายและอ่อนแอที่กำลังต้องการถูกปกป้อง

“เมื่อครู่ตอนที่ขึ้นรถม้าไม่เห็นจางจง เขากลับไปก่อนแล้วหรือเจ้าคะ” นางเอ่ยหาเรื่องคุยจะได้ไม่ต้องมัวสนใจกับอาการจุกท้องของตัวเอง

“ข้าใช้เขาไปทำธุระอื่นน่ะ”

“เป็นเช่นนี้นี่เอง...แล้ว....” ยังไม่ทันที่นางจะถามสิ่งใดต่อ รถม้าที่เคลื่อนไหวราบรื่นคงที่มาตลอดจู่ๆ ก็เกิดการเคลื่อนไหวอย่างแรงดูเหมือนว่ารถม้าจะตกหลุมขนาดใหญ่

ฉงหลงที่แทบจะไม่มีแรงทรงตัวนั่งให้ติดเบาะด้านข้างเป็นอันถูกแรงสะบัดเกือบที่จะกลิ้งตกไปที่พื้นของรถม้า หากไม้ใช่ว่ากู้ซืออันคว้าตัวหญิงสาวเขามาโอบเอาไว้ได้เสียก่อน เมื่อทุกอย่างหยุดนิ่งแล้วเขาจึงประคองนางลงจากรถม้าในทันที

อาจินประคองคุณหนูของนางต่อจากคุณชายใหญ่ที่ละออกไปเพื่อที่จะดูว่าล้อของรถม้าสามารถไปต่อได้หรือไม่พร้อมกับคนบังคับรถม้า

“คุณหนูไม่เป็นอะไรนะเจ้าคะ” ผู้เป็นสาวใช้เอ่ยถามออกมาอย่างเป็นห่วง อาจินนั้นเมื่อครู่นั่งอยู่หน้ารถม้าพร้อมกับคนบังคับรถยังเกือบจะถูกแรงกระแทกเหวี่ยงลงจากรถเลย โชคดีที่นางเกาะฐานรถม้าเอาไว้แน่นจึงรอดเคราะห์ร้ายไปอย่างหวุดหวิด

“ข้าไม่...ข้าไม่....ไม่ไหวแล้ว...” หญิงสาวเอ่ยออกมาอย่างยากลำบากพร้อมสะบัดตัวออกจากอาจินผู้เป็นสาวใช้และวิ่งอย่างทุลักทุเลไปที่ข้างทางก่อนจะอ้วกทุกอย่างที่กินไปเป็นมื้อค่ำออกมาทั้งหมด

หญิงสาวนั่งลงบนพื้นอย่างหมดสภาพ

ต่อจากนี้นางไม่กล้าตะกละอีกแล้ว

“อ้วกออกมาแล้วก็ดี...ยามนี้คงโล่งแล้วใช่หรือไม่”

เขาไม่เอ่ยถามเปล่ายังยื่นถุงใส่น้ำที่ไม่รู้นำมาจากไหนส่งให้อีกนางด้วย

นางพยักหน้า ก่อนจะเอื้อมมือไปรับถุงใส่น้ำจากเขา

“คุณชายใหญ่กู้ คืนนี้ท่านกลับบ้านไปบอกท่านป้าให้ยกเลิกงานมงคลของพวกเราเถิด วันนี้ข้าขายหน้าเกินไปแล้วไม่กล้าสู้หน้าคุณชายได้อีกตลอดชีวิต”

ฟังร่างเล็กเอ่ยจบเป็นครั้งแรกที่กูซืออันกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ไม่ได้

สุดท้ายในคืนนี้เนื่องด้วยรถม้าไม่อาจใช้งานได้อีกต่อไปเพราะล้อตกหลุมขนาดใหญ่จนล้อหลุดออกมา โชคดีที่ไม่นานจางจงก็ขี่ม้าตามมาพอดี กู้ซืออันจึงตัดสินใจอุ้มหลิงฉงหลงขึ้นม้าตัวเดียวกันและเป็นผู้ส่งนางกลับบ้านที่ตรอกที่สิบสามด้วยตนเอง

หลิงฉงหลงเงียบมาตลอดทางที่ชายหนุ่มขี่ม้าไปส่งนางกลับบ้าน เขากับนางขี่ม้าตัวเดียวกันจึงไม่อาจไม่ใกล้ชิด  แต่ในตอนนี้นางไม่มีอารมณ์ไปดีใจที่ได้ใกล้ชิดบุรุษรูปงามหรอกนะ ตอนนี้แค่ถือโคมไฟกระต่ายน้อยในมือให้มั่นคงก็เต็มกลืนแล้ว

เจ้าโคมไฟกระต่ายนี่มาได้อย่างไรน่ะหรือ มาพร้อมกับจางจงที่ตามมาสบทบอย่างไรล่ะ

ที่แท้ธุระที่สั่งให้จางจงไปทำก็คือซื้อโคมกระต่ายให้นางนี่เอง

โชคดีที่อย่างน้อยก็มีโคมไฟกระต่ายติดมือกลับบ้าน หลังจากนางเสียหน้าพร้อมกับอาหารในท้องไปจนหมด...หลิงฉงหลงในตอนนี้ทั้งอับอายทั้งเสียดายของชั้นดีที่กินไป

[1] หนึ่งเค่อ เท่ากับเวลา 15 นาที

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • โฉมสะคราญผู้นี้คือสามีข้า   รวมตอนพิเศษ 2

    ตอนพิเศษ : ข่าวดีครั้งใหม่เรือนใหญ่สกุลกู้ในยามเช้าอากาศปลอดโปร่ง แสงแดดอุ่นสาดต้องใบไม้เขียวชอุ่ม ด้านในเรือนหรู หลิงฉงหลงนั่งพิงหมอนอิงอยู่บนตั่ง ดวงหน้าอิ่มเอิบแฝงรอยแดงระเรื่อเพราะอาการแพ้ท้อง มือบอบบางลูบหน้าท้องแบนราบที่เพิ่งเริ่มมีกำลังจะมีชีวิตใหม่เติบโตอยู่ในนั้นกู้ซืออันก้าวเข้ามาด้วยสีหน้าเปี่ยมยิ้ม ดวงตาคมดุที่ปกติแฝงความเข้มงวดกลับอ่อนโยนอย่างที่สุดยามทอดมองภรรยา“วันนี้อาการดีขึ้นบ้างหรือไม่ เจ้ายังกินข้าวเช้าได้น้อยนัก ข้าห่วง”“ข้าเพียงเวียนศีรษะเล็กน้อย…ไม่เป็นอะไรหรอกท่านพี่”หลิงฉงหลงเอ่ยเสียงแผ่วแต่แววตาเต็มไปด้วยความสุข นางก้มมองหน้าท้องตนเองพลางยกยิ้มอ่อนหวาน“ครั้งนี้ ข้ามั่นใจว่าเจ้าตัวเล็กจะเป็นสตรีน้อยแน่ ๆ”กู้ซืออันหัวเราะเบา ๆ มือใหญ่ลูบเส้นผมนางอย่างเอ็นดู“จะเป็นบุตรชายหรือบุตรสาวก็ล้วนเป็นสายเลือดของเรา ข้าไม่ปรารถนาอื่นใดนอกจากให้เจ้าแข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูก”ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าเล็ก ๆ ดังใกล้เข้ามา เด็กชายวัยห้าขวบผู้เป็นบุตรคนโตวิ่งเข้ามาด้วยความตื่นเต้น“ท่านแม่! นี่จริงหรือไม่ ข้าจะมีน้องจริง ๆ หรือ!?”หลิงฉงหลงยกยิ้มพลางอ้าแขนรับลูกชายเข้ามากอด“จร

  • โฉมสะคราญผู้นี้คือสามีข้า   รวมตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ : ความฝันที่ไม่อยากฝันยามราตรีเงียบสงัด แสงจันทร์ลอดเข้ามาผ่านหน้าต่างบานเล็ก กู้ซืออันนอนหลับตาพริ้มเคียงข้างภรรยาอย่างที่เคยทุกคืน แต่คืนนี้…กลับต่างออกไปภายในความฝัน เขาพบว่าตนเองยืนอยู่ในเรือนว่างเปล่า ทุกสิ่งที่เคยอบอุ่นกลับเย็นเยียบไร้ผู้คน เสียงหัวเราะที่คุ้นหูหายไปจนหมดสิ้น เขาเดินไปทั่วทั้งเรือนแต่กลับไม่พบเงาของนางแม้แต่น้อยแล้วภาพหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า — หลิงฉงหลงยืนอยู่กลางลาน แต่ใบหน้างดงามกลับเย็นชา แววตาไร้แววอ่อนโยนที่เคยมีให้เขา“ซืออัน…ข้ามิได้รักท่านอีกต่อไปแล้ว”หัวใจของเขาราวกับถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ มือใหญ่เอื้อมไปคว้าแต่กลับว่างเปล่า ร่างของนางถอยห่างออกไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายเลือนหายไปกับหมอกจาง“ฉงหลง! อย่าไป… อย่าทิ้งข้า!” เสียงตะโกนของเขาแตกพร่า สะท้อนก้องไปทั่วความว่างเปล่าความหนาวเหน็บบีบรัดจนหายใจไม่ออก ความหวาดกลัวที่ไม่เคยมีมาก่อนถาโถมเข้ามาในใจชายผู้ไม่เคยยอมแพ้แก่สิ่งใดกู้ซืออันสะดุ้งตื่นในยามดึก เหงื่อเม็ดโตผุดเต็มหน้าผาก หัวใจเต้นแรงราวกับจะทะลุออกจากอก เขาหันไปมองคนข้างกายทันทีหลิงฉงหลงยังคงนอนหลับสนิท แสงจันทร์อาบไล้เรือนร่างบอบบางในอ้อมผ้า

  • โฉมสะคราญผู้นี้คือสามีข้า   ตอนที่ 36 เพื่อนางข้าไม่เกี่ยงหากต้องโหดเหี้ยม (จบ)

    ตอนที่ 36เพื่อนางข้าไม่เกี่ยงหากต้องโหดเหี้ยมหนี้ที่นายอำเภอฉางต้องชดใช้ถูกเรียกเก็บเป็นก้อนๆ เพราะอีกฝ่ายมีหนี้สิ้นมากหลายแห่ง แน่นอนว่าเงินเพียงเล็กน้อยไม่ได้สำคัญถึงกับที่กู้ซืออันจะรอไม่ได้ มีลูกหนี้เป็นนายอำเภอถือเป็นการดีเสียอีก อีกทั้งอำนาจและเส้นสายของนายอำเภอฉางตั้งหากที่พอจะสำคัญในสายตากู้ซืออันอยู่บ้างเรื่องของฉางกู๋เขาให้คนตามดูจนแน่ชัดแล้วว่าอีกฝ่ายออกไปจากเมืองต้าไห่แล้วจริงๆ อีกทั้งเหมือนจะลงใต้เพื่อเดินทางไปที่บ้านเดิมของสกุลฉาง แม้ฉางกู๋จะยอมจากไปแต่โดยดีทว่ากู้ซืออันย่อมไม่อาจวางใจได้ว่าในอนาคตคนผู้นี้จะคิดหวนกลับมาทำร้ายฮูหยินตัวน้อยของตนอีกหรือไม่แน่นอนว่าเขาย่อมต้องลงมือก่อนที่จะนั่งรออีกฝ่ายที่ไม่รู้ว่าจะกลับมาแก่แค้นหรือไม่และจะใช้วิธีการใดและเวลาใดเพราะฉะนั้นในคืนหนึ่งกู้ซืออันจึงมีคำสั่งการหนึ่งให้จางจงคนสนิทไปทำนั่นก็คือหามือดีสักหายคนไปจัดการหันแขนหักขาฉางกู๋ผู้นั้นซะ โดยให้ทำให้เหมือนว่าเป็นฝีมือของพวกโจรที่ต้องการปล้นชิงทรัพย์คนที่คิดร้ายกับฮูหยินของเขา แม้ชายหนุ่มจะไม่คิดเอาชีวิตแต่ก็ไม่คิดให้คนผู้นั้นอยู่ครบสามสิบสองส่วนในร่างกายอยู่แล้ว“อย่าให้เห

  • โฉมสะคราญผู้นี้คือสามีข้า   ตอนที่ 35 ทำผิดก็ต้องชดใช้

    ตอนที่ 35ทำผิดก็ต้องชดใช้คืนนั้น หลังจากขับไล่ฉางกู๋ออกไปแล้ว นายอำเภอฉางมิอาจข่มตาหลับได้ทั้งคืน ความคิดถึงชื่อเสียงและเกียรติยศของตระกูลฉางวนเวียนอยู่ไม่หยุดสุดท้ายเมื่อฟ้าเริ่มสว่าง เขาจึงตัดสินใจพาตัวเองไปยัง จวนสกุลกู้ ด้วยท่าทีที่ต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาที่หน้าจวน คนใช้ของสกุลกู้ต่างประหลาดใจที่เห็น ขุนนางผู้ทรงอำนาจแห่งเมืองนี้ ยอมก้าวลงจากเกี้ยวด้วยตนเอง แถมยังไม่แสดงอำนาจข่มใด ๆ ดั่งเคย หากแต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจริงจังเมื่อกู้ซืออันก้าวออกมาต้อนรับ เขาเห็นชัดว่านายอำเภอฉางโค้งคำนับลึก แววตาที่เคยเชิดชูศักดิ์ศรีบัดนี้เต็มไปด้วยการยอมอ่อนข้อ“คุณชายกู้… ข้ามาครานี้เพื่อกล่าวคำขออภัยต่อท่านและฮูหยินโดยตรง เรื่องที่หลานโง่เขลาของข้าได้ก่อไว้ ข้าขอยอมรับผิดทั้งหมด”เสียงของเขาหนักแน่น แต่ฟังออกชัดเจนว่าฝืนกล้ำกลืนความอับอายเอาไว้เต็มที่กู้ซืออันยกยิ้มจาง ๆ ไม่ได้แสดงความโกรธเคืองหรือรีบร้อนตอบรับ เพียงเอ่ยช้า ๆ ราวกับให้ถ้อยคำของอีกฝ่ายก้องสะท้อนอยู่ในโถง “นายอำเภอฉาง…ถ้อยคำนี้ ข้าเฝ้ารอมาเนิ่นนานแล้ว”ความเงียบปกคลุมทั่วทั้งจวน ทุกคนจับตามองการเผชิญหน้าของสองตระกูลอย่างระทึ

  • โฉมสะคราญผู้นี้คือสามีข้า   ตอนที่ 34 เริ่มลงมือ

    ตอนที่ 34 เริ่มลงมือ หลายวันต่อมา ในเรือนของนายอำเภอฉาง บรรยากาศกลับไม่ สงบดังเดิมเสียงฮูหยินใหญ่ตวาดลั่นออกมาจากห้องโถง “ท่านไปเล่นการ พนันอีกแล้วใช่หรือไม่! ข้าถึงได้ยินข่าวว่ามีเจ้ามือจากนอกเมืองมาตามทวง หนี้ถึงหน้าประตูเรือน!”นายอำเภอฉางขมวดคิ้ว หน้าดำแดงเพราะทั้งโกรธและอับอาย “พวกนั้นมันใส่ความข้า! ข้ามีหน้าที่การงานทั้งตำแหน่ง ใครจะกล้าออกมาเอาเรื่องกับข้าอย่างเปิดเผยเล่า”“แต่คนทั้งเมืองเขาเริ่มซุบซิบนินทาแล้วว่า นายอำเภอฉางเป็นหนี้ บ่อนจนหัวโต หากเรื่องนี้ลามไปถึงผู้ตรวจการ เจ้าคิดหรือว่าตำแหน่งของ เจ้าจะมั่นคง!”คำพูดนั้นทำให้เขาหน้าซีดลงเล็กน้อย แม้จะพยายามข่มอารมณ์ แต่เหงื่อเย็นก็ผุดขึ้นตรงขมับในขณะเดียวกัน คนสนิทของเขารีบเข้ามารายงานเบา ๆ“ท่านนายอำเภอ…มีข่าวว่ามีคนลือกันว่า ท่านรับสินบนจากพ่อค้าหลายราย ทั้งยังเกี่ยวพันกับการลักลอบสมุนไพรต้องห้าม”นายอำเภอฉางสะดุ้งเฮือก ดวงตาเบิกกว้าง “เรื่องนี้…ใครเป็นคนปล่อย!”คนสนิทก้มศีรษะต่ำ “ข้าน้อยยังไม่รู้แน่ชัด เพียงแต่ได้ยินว่าข่าวลือเริ่มแพร่ไปตามโรงเตี๊ยมกับตลาด คนพูดกันหนาหูนัก…”เขากำหมัดแน่น กัดฟันกรอด “เป็นใคร…เป็นใ

  • โฉมสะคราญผู้นี้คือสามีข้า   ตอนที่ 33 เฝ้ารอโอกาส

    ตอนที่ 33 เฝ้ารอโอกาส กว่าที่หลิงฉงหลงจะตั้งตัวตั้งสติกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ก็กินเวลาไปกว่าสามวันเต็มๆ แล้ว กู้ซืออันยังไม่ยอมให้นางออกไปดูที่ร้านฮวาเซียงด้วยตนเอง นางรู้ดีว่าชายหนุ่มเป็นห่วงกลัวว่านางไปเห็นด้วยตาตนเองแล้วจะเกิดอารมณ์อ่อนไหวอีกแต่ถึงอย่างนั้นแม้นางไม่ได้ไปด้วยตัวเองแต่ก็ต้องเรียกสวีมี่อิงผู้ดูแลร้านเข้ามารายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเพลิงที่เผาไหม้มี่อิงรายงานกับนางว่าทุกอย่างในส่วนของร้านและที่เก็บของภายในร้านที่เก็บสินค้าเอาไว้เป็นส่วนใหญ่นั้นถูกเผาจนเหลือเพียงแค่เศษซาก ทุกอย่างเสียหายจนหมดสิ้น รายการความเสียหายเล่มหนึ่งถูกยื่นมาพร้อมกับการรายงานให้ฟัง แน่นอนว่าหญิงสาวรับรายงานนี้เอาไว้ด้วยใจที่สั่น หากไม่ติดว่ามีผู้เป็นสามีคอยกุมมือให้กำลังใจอยู่ทุกขณะหญิงสาวก็คงไม่อาจกลั้นน้ำตาหรือความอ่อนไหวนี้เอาไว้ได้อีกโชคดีที่ส่วนของบ้านเล็กๆ ของนางที่ถนนหมายเลขสิบสามไม่ได้รับความเสียหายไปด้วย เพราะกำแพงกั้นระหว่างกันนั้นค่อนข้างจะแน่นหนาแข็งแรงอีกทั้งไม่มีหลังคาหรือส่วนใดของเรือนที่ยื่นใกล้ชิดกันจนเพลิงจะสามารถลุกลามมาถึงได้หลิงฉงหลงอดคิดไม่ได้หากนางต้องสูญเสียบ้านหลั

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status