Share

โซ่ตรวนหัวใจ
โซ่ตรวนหัวใจ
Author: เอริณ

บทนำ

last update Last Updated: 2025-11-06 09:35:30

บทนำ

“ห้ามสิ บอกเค้าว่าไม่ให้เค้าไป พูดสิว่าอย่าไป ฮึก”

น้ำตาที่ไหลรินรดสองแก้มสะท้อนความเจ็บปวดที่ฝังแน่นอยู่ในหัวใจยามทอดมองร่างสูงโปร่งของผู้ชายที่ตนมอบหัวใจให้เขาทั้งดวงอย่างเจ็บปวดแสนสาหัส ถ้าหากเขาเพียงเอ่ยห้าม ไม่ต้องกอดปลอบ แค่ขยับริมฝีปากหยักรูปหัวใจรั้งเธอเอาไว้สักนิด หัวใจภักดีที่มีแต่เขาเพียงคนเดียวคงไม่เจ็บปวดทุกข์ทรมานแทบขาดใจเช่นนี้

“พูดสิ พูดว่าอย่าไป พูด! ฮึก” เสียงสะอื้นไห้ที่พยายามเค้นคำขอร้องบอกเขาเหมือนสายลมที่พัดผ่านไปเพียงเท่านั้น เมื่อร่างสูงที่ยืนอยู่เบื้องหน้าทำเพียงถอนหายใจเบาๆ ก้มหน้ามองพื้นไร้เสียงตอบรับหรือคำพูดที่หัวใจภักดีอยากได้ยิน

7 ปีกับการเป็นแขนขา ลมหายใจให้เขา

7 ปีกับการมีหัวใจไว้เพื่อ ‘ปกน้อย’ ของเธอ ทว่าวันนี้เธอเพิ่งรู้ตัวว่าเป็นแค่เศษฝุ่นไร้ค่าที่เขามีไว้เพียงเพื่อให้ตัวเองได้เดินออกไปบนเส้นทางความฝันที่ไม่มีวันที่เธอจะร่วมอยู่ในนั้น ความฝันที่เขาพยายามก้าวขึ้นไปเป็นที่หนึ่งเพื่อใครอีกคน

ลิลลารู้สึกเหมือนหัวใจแตกละเอียดอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา เธอร้องไห้เหมือนหัวใจแตกเป็นเสี่ยง ทอดสายตามองเขาด้วยความรู้สึกผิดหวัง เสียใจ และเจ็บปวดกับการถูกเขาปฏิเสธอย่างโหดร้าย ทิ้งขว้างเธอเหมือนขยะในชีวิตที่ไม่ต้องการ

เจ็บ! ลิลลาร้องไห้สุดเสียงก่อนจะทรุดฮวบลงบนพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง

“ทำไมต้องเป็นเค้า ทำไมถึงทำกับเค้าแบบนี้ ฮือ” ร่างสูงที่ยืนก้มหน้าไร้ความรู้สึกเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าเปื้อนน้ำตาของ ‘หุ่นเชิด’ ที่เขาใช้เธอเป็นสะพานข้ามไปหาความฝัน ก่อนจะถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย

“เพราะเธอเป็นน้องสาวของพี่กี้ ถ้าฉันอยากให้พี่กี้สนใจ ฉันต้องเป็นคนในสายตาของเขา และเธอ…” นิ้วชี้เรียวยาวที่เคยจับจูงมือเธอเมื่อวันวานยกขึ้นชี้ที่ใบหน้าเปื้อนน้ำตา ก่อนที่ริมฝีปากหยักรูปหัวใจจะแสยะยิ้มร้ายที่มุมปากแล้วเอ่ยต่อด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกใดๆ “เป็นคนเดียวที่พี่กี้รักมากที่สุด ถ้าจะโทษต้องโทษที่เธอโง่คิดว่าฉันมีใจให้เธอทั้งๆ ที่ หึ”

สายตาคู่คมที่เคยอบอุ่นทอดมองมาด้วยแววตาสมเพชตอกย้ำความเจ็บปวดแสนสาหัสให้ร้าวรานมากขึ้น

“เธอไม่มีอะไรเทียบโบวี่ได้เลย เธอคิดเหรอว่าฉันจะชอบเธอจริงๆ ไม่ดูสารรูปตัวเองเลยเหรอ หึ แบบนี้ไงใครๆ ถึงด่าว่าเธอโง่ เสียดายที่พี่กี้ไม่โง่เหมือนเธอ ไอ้เหี้ยนั่นมันถึงได้รู้ว่ากูมาหลอกน้องสาวมัน บ้าเอ้ย อุตส่าห์วางแผนเอาไว้อย่างดี สุดท้ายก็ล้มไม่เป็นท่าเพราะมึง!”

ลิลลาเงยหน้ามองคนที่ใช้คำพูดหยาบคายด่าทอเธอด้วยความรู้สึกเจ็บจนแทบกระอัก ใบหน้าชาราวกับถูกเขาฟาดฝ่ามือลงมา หัวใจแหลกละเอียดไปกับการถูกทรยศ และหลอกลวงครั้งนี้ จบสิ้นกันสักทีกับความภักดี และหัวใจที่มอบให้ผู้ชายคนนี้ เธอผิดเองที่ไม่เคยเชื่อฟังคำตักเตือนของคนรอบกายที่ต่างลงความเห็นว่า ‘ปกปักษ์’ ที่เธอคบหากำลังหลอกลวงเธอ!

“และกูจะบอกมึงเอาไว้ให้หายโง่นะ กูไม่เคยนึกพิศวาสมึงเลย ไม่เคยแม้จะคิดยกย่องมึงขึ้นมาเป็นแฟน สิ่งเดียวที่กูต้องการจากมึงคือการทำให้พี่ชายของมึงสนใจในตัวกู จนกูได้โอกาสเป็นนักฟุตบอลในสโมสรของเขา!”

ได้คำตอบหรือยัง ลิลลาตอกย้ำคำพูดของคนที่ครั้งหนึ่งหัวใจเคยมอบให้เขาทั้งดวงด้วยน้ำตา

ร่างสูงเจ้าของคำพูดเจ็บแสบสะบัดตัวเดินหนีไปแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงความรู้สึกมากมายที่สรรหาคำอธิบายความเจ็บปวดออกมาไม่หมด ความจริงใจที่เธอเคยพร่ำบอก และแสดงให้เขาเห็น การเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้เหมาะสมกับเขาคือความโง่ในความโง่ที่คงไม่มีสิ่งใดเปรียบเทียบกับความเขลาของเธอได้อีกแล้ว

ลิลลาสะอื้นตัวโยน ร้องไห้ออกมาแทบขาดใจเมื่อฝนที่ตั้งเค้าจะตกลงมาตั้งแต่เมื่อเช้าเทกระหน่ำลงมาซ้ำเติมความเสียใจของเธอให้ทบเท่าทวีคูณ

เสียใจเหรอ ลิลลาถามตัวเองทั้งน้ำตา ยกมือขึ้นปาดไล้คราบความเสียใจบนแก้มแรงๆ ทว่ายิ่งปาดน้ำตาที่ควรเหือดหายกลับไหลทะลักออกมารวมกับสายฝนจนมือบางที่กำลังปาดไล่ต้องหยุดและยินยอมร้องไห้พร้อมสายฝนต่อไป

เธออยากเข้มแข็ง อยากหยุดน้ำตาแล้วก้าวเดินต่อไปให้ได้ ทว่าแค่เพียงคิดว่าวันพรุ่งนี้ข้างกายจะไร้เขา หัวใจที่แตกละเอียดก็ปวดแสบจนต้องยกมือขึ้นกุมมันเอาไว้แน่น ในวันที่เธอยอมเปิดหัวใจรับใครบางคนเข้ามา ยอมให้เขาเป็นเจ้าของหัวใจที่ไร้เดียงสาของเธอทั้งดวงกลับเป็นวันที่ชีวิตอันแสนเงียบเหงาของเธอต้องพบเจอกับคำว่า ‘เสียใจ’ แสนสาหัส ไม่มีอีกแล้วความหวังที่จะมีชีวิตเพื่อใคร หมดสิ้นแล้วกำลังใจที่จะเดินต่อไปในวันข้างหน้า วันนี้ปกปักษ์ไม่ได้ทำลายความรู้สึกของเธอเพียงอย่างเดียวแต่เขายังเหยียบย่ำทำลายหัวใจของเธอจนแหลกละเอียด และมันยากเหลือเกินที่เธอจะเปิดหัวใจยอมให้ใครเข้ามาอีก

เจ็บ! ลิลลาบอกย้ำหัวใจที่แหลกสลายให้จดจำความเจ็บปวดจากการถูกทรยศหักหลังในครั้งนี้เอาไว้ให้ดี และต่อจากนี้ไปชีวิตของเธอจะต้องไม่พบเจอกับความเจ็บปวดแสนสาหัสเช่นนี้อีก

เธอจะไม่ยอมเปิดใจรับใครอีกแล้ว ไม่ว่าคนคนนั้นจะเข้ามาเพื่อสิ่งใด…

มีคนเคยพูดว่าคนเราเมื่อหัวใจแตกสลายก็ไม่ต่างอะไรจากหุ่นยนต์ ร่างกายเคลื่อนไหวได้ตามหน้าที่แต่ไร้สิ่งหนุนนำกับความรู้สึก ลิลลากำลังรู้สึกเช่นนั้น ความผิดหวังเสียใจจากการกระทำของคนที่ตนเองเทิดทูนทำให้หญิงสาวแทบเสียสติ ร้องไห้ฟูมฟายแทบตายแต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งความรู้สึกเจ็บปวดที่กำลังกัดกินหัวใจได้

3 ชั่วโมงแล้วที่หญิงสาวนั่งดื่มเหล้าย้อมใจในร้าน ‘Ginn-Tonic’ ผับชื่อดังที่เต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาซึ่งต่างมาที่นี่ด้วยความต้องการแตกต่างกัน บ้างมาผ่อนคลาย บ้างมาเพื่อหาใครสักคนกลับไปด้วย หรือแม้กระทั่งบางคนที่มาที่นี่เพื่อปลดปล่อยความเสียใจที่มีเต็มอกเช่นเธอ

“มาคนเดียวเหรอครับ” เสียงทุ้มติดแหบเพราะอาการมึนเมาทำให้ใบหน้าแดงก่ำผินมองก่อนที่คนถูกถามจะแสยะยิ้มร้ายแล้วเอ่ยตอบเสียงแข็ง

“มากับผัว!” บอกก่อนจะยกแก้วเครื่องดื่มในมือขึ้นกระดกรวดเดียวหมดแล้วยกมือขึ้นปาดคราบน้ำสีอำพันซึ่งเปรอะเลอะริมฝีปากปากอิ่มออก ขยับกายอวบลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเดินเลี่ยงจากเคาน์เตอร์ของร้านเพื่อหนีพวกผู้ชายที่เมาแล้วเรื้อนออกมา ครั้นพอหญิงสาวเดินหนีได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกมือหนาจากชายคนเดิมกระชากต้นแขนเอาไว้แล้วเดินมาดักข้างหน้า

“เมาแล้วเดี๋ยวพี่ไปส่งดีกว่าครับ” บอกพร้อมรอยยิ้มร้ายก่อนจะสอดมือไปที่เอวหมายจะรั้งร่างอวบอิ่มเข้าหาตัว ทว่าถูกมือของใครอีกคนกระชากออก

ผลัก!

“เฮ้ย เสือกอะไรด้วยวะ” คำพูดหยาบคายที่กำลังจะเปล่งออกมาจากปากถูกกลืนกลับเข้าที่เมื่อมองเห็นใบหน้าของคนขัดคอชัดเจน

‘จิณณวัตร’ จ้องมองชายหนุ่มที่กำลังลวนลามผู้หญิงในร้านของเขาด้วยดวงตาดุดันอำมหิต เผลอคลาดสายตาจากยัยอ้วนแค่แป๊บเดียวก็ถูกมือมารที่ไหนไม่รู้เกือบมาฉกของหวงของเขาไปแล้ว

“มีปัญหา?” ถามห้วนๆ แล้วสาวเท้าเข้าไปใกล้พร้อมดึงร่างคนเมาไม่ได้สติเข้ามากอดเอาไว้ สายตาจ้องมองคนที่บังอาจแตะต้องผู้หญิงที่ตนเองหมายตาเขม็ง

“มะ ไม่มีครับคุณจิณณะ อะ เอ่อ ขอตัวก่อนนะครับ”

ร่างสูงใหญ่กึ่งเดินกึ่งวิ่งจากไปแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงความหงุดหงิดของชายหนุ่มที่มีต่อหญิงสาวในอ้อมแขน

“ดื่มไม่รู้จักดูตัวเอง!” กล่าวพร้อมตวัดอุ้มร่างอวบอิ่มขึ้นแนบอก ก้าวเดินออกไปยังที่พักส่วนตัวหลังร้าน โดยไม่ลืมหันไปสั่งการทางสายตากับลูกน้องให้ ‘จัดการ’ ผู้ชายคนนั้นให้เรียบร้อย

จิณณวัตรพาร่างปวกเปียกไร้สติของ ‘ยัยอ้วน’ น้องสาวบุญธรรมของพี่ชายคนสนิทในกลุ่มที่เขารู้จักคุ้นเคยกันดีเข้ามาในห้องพักส่วนตัวซึ่งจัดเอาไว้ด้านหลังของผับ ผนังห้องเก็บเสียงจากทั้งข้างนอกและข้างใน เขาจึงมักใช้พักผ่อนยามเหนื่อยล้าจากการงานจนกลับบ้านไม่ไหว

“อื้อ” ชายหนุ่มวางร่างอวบอิ่มลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา ก่อนจะนั่งตามลงไปแล้วจ้องมองดวงหน้าแดงก่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ด้วยความรู้สึกหลากหลาย วันนี้เธอคงเจอเรื่องมาหนัก เพราะเรื่องเหล่านั้นเขามีส่วนรู้เห็น

“ยัยเด็กบ้า จะเสียใจอะไรนักหนากับผู้ชายคนเดียว”

ผู้ชายที่หลอกลวงเธอ ใช้เธอเป็นเครื่องมือเพื่อความสำเร็จของตัวเอง!

“ปก ฮึก ปกอย่าไป ฮือ” มือหนาที่เกลี่ยไรผมคนเมาทัดใบหูชะงักก่อนจะกำแน่นเข้าหากันยามมือนั้นถูกรวบไปกอดเอาไว้แนบแก้ม

คิดถึงมันมากหรือไง!

เขาอยากตะคอกถาม หากก็ยั้งใจกับคำพูดของตนได้ เธอยังอ่อนแอ ยังเสียใจ เขาต้องเข้าใจเธอ

ทว่าผู้ชายที่ไม่เคยต้องอดทนกับสิ่งใดในโลก ลูกชายมาเฟียที่ชีวิตพบเจอความดำมืดของสังคมมาตลอดหรือจะทนสิ่งใดไหว… หลังจากที่ลิลลาพร่ำพูดรำพันหาผู้ชายที่หลอกลวงเธอมานานพอสมควร อารมณ์กรุ่นโกรธ บวกความหงุดหงิดเมื่อครู่ทำให้เขาตัดสินใจปิดริมฝีปากอิ่มที่เอาแต่พร่ำหาคนอื่น

จากจุมพิตที่ต้องการปิดเสียงร้องหาคนอื่นหอมหวานจนลมหายใจของชายหนุ่มนักรักสะดุด ริมฝีปากอิ่มนุ่มนิ่มแต่กรุ่นไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ยิ่งกระตุ้นให้เลือดในกายลุกไหม้ ริมฝีปากหยักละเลียดชิมหนักหน่วงแต่ไม่รุนแรง อ่อนหวานและตราตรึง เขาไม่เคยรู้สึกว่าจูบใครแล้วตัวเองอิ่มหนำสำราญขนาดนี้มาก่อน จูบไม่ประสาแต่เร่าร้อนในความรู้สึกของจิณณวัตรเรียกเลือดลมให้คนเชี่ยวชาญจนยากจะหยุดยั้งการกระทำที่ต้องการมากกว่าแค่จูบลงได้

จิณณวัตรจมดิ่งเข้าสู่ห้วงเสน่หาอย่างลืมตัว ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่เคยมีถูกตีแตกและลืมเลือนไปจนหมดยามคนใต้ร่างจูบตอบอย่างไม่ประสา กว่าจะรู้ตัวเขาก็หลงใหลวนเวียนคลอเคลียริมฝีปากอิ่มเนิ่นนาน กระทั่งร่างทั้งร่างสะท้านไหว เปลือยเปล่าเหลือเพียงเนื้อหนังสัมผัสกัน

ลิลลาไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ สติถูกครอบงำด้วยราคะจากการดื่มเครื่องดื่มมึนเมามากเกินไป หล่อนกลายเป็นคนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ตอบสนองความต้องการของเขา  และของตนเองจนคนทั้งคู่จมดิ่งลงไปในห้วงเสน่หาที่ยากจะกลับขึ้นมาได้ ทุกสิ่งเกิดขึ้นเหมือนฝัน มันรวดเร็ว เจ็บแปลบแต่ก็หวามไหวจนไม่อาจหยุดยั้งความต้องการตามธรรมชาติได้ กว่าจะรู้ตัวว่าทุกอย่างไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องก็สายเกินไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โซ่ตรวนหัวใจ   บทที่ 2 กงเกวียนกำเกวียน 100%

    “ไปเอาเอกสารที่บริษัทให้พี่หน่อย”“เอกสารอะไร?”“เอกสารเรื่องสัญญาซื้อขายนักเตะของอินทรีเหล็กไงเจอแล้วเอาไปส่งให้ไอ้กี้ด้วย แท้งกิ้วมากน้องชาย อ่อ ก่อนเที่ยงของวันนี้นะ อย่าลืมล่ะ บาย”ตัดสายทันทีที่สั่งงานจบ ไม่เหลือเวลาให้น้องตั้งตัวหรือกล่าวปฏิเสธ ด้วยรู้ดีว่าหากจิณณวัตรได้ยินชื่อกีรติไม่ว่าเรื่องอะไรย่อมไม่กล้าขัดใจแน่นอนสัญญาณตัดไปแล้วเหลือทิ้งไว้แต่เพียงความมึนงงในคำพูด และคำสั่งของผู้เป็นพี่ จิณณวัตรวางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะข้างตัว ใบหน้าหล่อเหลาคมสัน ดวงตาคมดุเหมือนบิดาเหลือบมองกองเอกสารงานของตัวเองแล้วถอนหายใจ ชายหนุ่มส่ายหน้า หากไม่ลืมเงยมองนาฬิกาเพื่อกะระยะเวลาให้พอเหมาะ ครั้นเห็นว่ายังพอเหลือเวลาอีกโขจึงก้มหน้าก้มตาทำงานต่ออีกสักครู่ ความเงียบที่แทรกเข้ามาทำให้ชื่อของผู้เป็นหัวข้อสนทนาวนเวียนกลับมาให้เขาอึดอัดใจกีรติ… พอพูดถึงพี่ชายข้างบ้านก็พาลให้นึกถึงน้องสาวบุญธรรมของอีกฝ่าย เกือบสามปีในความเป็นจริงแต่เป็นสามสิบปีในความรู้สึกของเขา ทุกครั้งที่เห็นหลังคายังไม่ต้องเห็นบ้านหัวใจก็ร้าวรานจนแทบจะขาดรอนลิลลาจะเป็นอย่างไรบ้าง สุขสบายดีหรือไม่ มีรอยยิ้มแย้มสรวลเช่นอดีตบ้างไห

  • โซ่ตรวนหัวใจ   บทที่ 2 กงเกวียนกำเกวียน 50%

    บทที่ 2 กงเกวียนกำเกวียนใบหน้าหล่อร้ายกับดวงตาสีดำสนิทเหม่อลอยจดจ้องมองเพดาน และแสงไฟสลัวที่กำลังกะพริบไปตามเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มรอบด้าน ทว่ากลับไม่มีสิ่งใดส่งผ่านเข้าไปในความรู้สึกของผู้ชายที่เหมือนจะมีเพียงร่างกายแต่ไร้วิญญาณเกือบสามปีแล้วที่เขากลายเป็นคนไม่มีหัวใจ ตั้งแต่คืนนั้น คืนที่เขาปล่อยให้อารมณ์ฝ่ายต่ำทำลายทุกอย่างที่มีอยู่เพียงน้อยนิด ความไว้วางใจเพียงหยิบมือจากเจ้าของดวงตาหวานโศกคู่นั้นสูญสลายกลายเป็นเพียงอากาศเมื่อเขาลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ และตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่เคยได้พบเธออีกเลย“ไอ้จิณณะ” เสียงห้าวจาก ‘อารักษ์ หรือเจท’ เพื่อนสนิทที่คบหากันมาร่วมสิบปีทำให้สติที่กำลังดำดิ่งจมปลักกับอดีตอันมืดมนหวนคืน ชายหนุ่มสะบัดศีรษะแรงๆ สองสามครั้ง ก่อนพยักหน้าตอบรับเพื่อน“ว่าไงวะ”“มึงเป็นอะไรวะ กูเห็นนั่งเหม่อมาร่วมชั่วโมงแล้ว”‘จิณณวัตร’ ทำเพียงถอนหายใจยาวเหยียดแทนการตอบคำถาม ชายหนุ่มเองก็ไม่รู้ว่าตนเองเป็นอะไร รู้สึกอะไร และคิดอะไรอยู่กันแน่ท้อแท้ สิ้นหวังหรือ… คงใช่ เขากำลังหมดเรี่ยวแรงที่จะตามหาเจ้าของดวงตาหวานโศกที่อยู่ในหัวใจมาตลอด 17 ปี เธอหายไป หายไปเลยเหมือนไม่เ

  • โซ่ตรวนหัวใจ   บทที่ 1 ฝันร้าย 100%

    (ต่อ)“ลินอยู่ที่นี่สบายดีค่ะ”สบายที่ว่าคือจิตใจ อย่างน้อยก็ไม่ต้องคอยหวาดระแวงว่าจะได้พบเขาโดยบังเอิญหรืออาจพบคนที่รู้จักเขา กลัว… หล่อนรู้ตัวเองดีว่าหวาดกลัวการพบกันในวันข้างหน้าอย่างที่สุด“ตามใจเรา” ในที่สุดกีรติก็พ่ายแพ้จนต้องล้มเลิกความต้องการของตัวเองเป็นครั้งที่เท่าไหร่เขาก็ไม่อาจแน่ใจ แต่ที่รู้แน่ก็คือหัวใจของน้องสาวแข็งกระด้างเย็นชาไปมากกว่าเมื่อสามปีก่อน กำแพงน้ำแข็งข้างในทั้งสูงชันทั้งหนาวเหน็บ การเป็นซิงเกิลมัมที่ต้องพบเจอคำสบประมาทของคนมากมายหล่อหลอมให้เด็กสาวใสซื่อผู้อ่อนหวานกลายเป็นคนแข็งกระด้างเย็นชาจนน่าใจหาย“แล้วเรื่องฝากไอ้แสบวันเสาร์นี้ล่ะ”“ยังเหมือนเดิมค่ะ แต่ตอนเย็นพี่กี้ต้องพารักมาส่งลินนะคะ ลินไม่สะดวกไปรับแกเอง”“สบายมาก”ใบหน้าของกีรติมีสีเลือดขึ้น ก่อนจะยิ้มกว้างด้วยเหตุว่าเขาเป็นลุงที่เห่อหลานมาก ทุกวันเสาร์ลิลลาต้องไปพบเจ้านายเพื่อพูดคุยเรื่องงาน หญิงสาวทำงานเป็นนักพิสูจน์อักษรให้กับสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งมาเกือบสองปีแล้ว แม้จะเป็นงานแบบพาสไทม์ ทว่ารายได้ก็มากพอ เมื่อนับรวมกับรายได้จากการทำขนมไทยง่ายๆ ส่งขายให้ร้านประจำสองสามร้านมาตั้งแต่มัธยมปลาย เรื่องกา

  • โซ่ตรวนหัวใจ   บทที่ 1 ฝันร้าย 50%

    บทที่ 1 ฝันร้ายสามปีต่อมาตึก ตึก ตึกเสียงฝีเท้าที่ก้าวเดินดังก้องในโสตประสาทจนร่างบอบบางที่นอนนิ่งบนเตียงสั่นเกร็ง ร่างกายแข็งค้างทว่าสั่นเทาจากความหวาดกลัว ดวงตากลมโศกหลับแน่น กัดริมฝีปากจนเลือดซิบ มือที่แนบข้างลำตัวกำเข้ากันจนเส้นเลือดปูดโปน หัวใจเต้นแรง และเร็วจนลมหายใจเข้าออกแทบขาดห้วง กลัว… ความกลัวจากสิ่งที่หล่อนไม่อาจมองเห็น หรือ… ไม่ต้องการมองเห็นมันสั่นประสาทจนร่างทั้งร่างกระตุกเกร็ง“ลิน!” เสียงเรียกดังก้อง ทว่ากระแสเสียงนั้นเกรี้ยวกราด ‘ลิลลา’ หัวใจแกร่งไกว หวาดกลัวเหลือเกินว่าจะถูกใครคนนั้นพรากบางสิ่งที่หล่อนซุกซ่อนเอาไว้ กลัวจนหัวใจเหมือนจะขาดแม้เพียงได้ยินเสียงของเขา เสียงที่หล่อนไม่มีวันลืมว่าครั้งนึงเจ้าของของมันทำร้ายเหยียบย่ำหล่อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนแหลกละเอียดไม่เหลือชิ้นดี“ลิลลา!” เขายังคงเรียกหาด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกวาด ทว่าอ่อนลงเล็กน้อย ในกระแสเสียงนั้นเหมือนโหยหา ทุกข์ตรม แต่ทำไมล่ะ หล่อนร้องถามในใจทั้งที่ยังหลับตาแน่น เขาจะโหยหาหล่อนทำไม ในเมื่อวันนั้นเมื่อครั้งอดีตเขาผลักไส เหยียบย่ำ รวมไปถึงทำลายหล่อนด้วยสองมือแข็งแรงคู่นั้นอย่างเลือดเย็น“ไม่!” เสียงที่บีบเค้

  • โซ่ตรวนหัวใจ   บทนำ

    บทนำ“ห้ามสิ บอกเค้าว่าไม่ให้เค้าไป พูดสิว่าอย่าไป ฮึก”น้ำตาที่ไหลรินรดสองแก้มสะท้อนความเจ็บปวดที่ฝังแน่นอยู่ในหัวใจยามทอดมองร่างสูงโปร่งของผู้ชายที่ตนมอบหัวใจให้เขาทั้งดวงอย่างเจ็บปวดแสนสาหัส ถ้าหากเขาเพียงเอ่ยห้าม ไม่ต้องกอดปลอบ แค่ขยับริมฝีปากหยักรูปหัวใจรั้งเธอเอาไว้สักนิด หัวใจภักดีที่มีแต่เขาเพียงคนเดียวคงไม่เจ็บปวดทุกข์ทรมานแทบขาดใจเช่นนี้“พูดสิ พูดว่าอย่าไป พูด! ฮึก” เสียงสะอื้นไห้ที่พยายามเค้นคำขอร้องบอกเขาเหมือนสายลมที่พัดผ่านไปเพียงเท่านั้น เมื่อร่างสูงที่ยืนอยู่เบื้องหน้าทำเพียงถอนหายใจเบาๆ ก้มหน้ามองพื้นไร้เสียงตอบรับหรือคำพูดที่หัวใจภักดีอยากได้ยิน7 ปีกับการเป็นแขนขา ลมหายใจให้เขา7 ปีกับการมีหัวใจไว้เพื่อ ‘ปกน้อย’ ของเธอ ทว่าวันนี้เธอเพิ่งรู้ตัวว่าเป็นแค่เศษฝุ่นไร้ค่าที่เขามีไว้เพียงเพื่อให้ตัวเองได้เดินออกไปบนเส้นทางความฝันที่ไม่มีวันที่เธอจะร่วมอยู่ในนั้น ความฝันที่เขาพยายามก้าวขึ้นไปเป็นที่หนึ่งเพื่อใครอีกคนลิลลารู้สึกเหมือนหัวใจแตกละเอียดอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา เธอร้องไห้เหมือนหัวใจแตกเป็นเสี่ยง ทอดสายตามองเขาด้วยความรู้สึกผิดหวัง เสียใจ และเจ็บปวดกับการถูกเขาปฏิเส

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status