Home / โรแมนติก / โซ่ตรวนหัวใจ / บทที่ 1 ฝันร้าย 50%

Share

บทที่ 1 ฝันร้าย 50%

last update Last Updated: 2025-11-06 09:36:21

บทที่ 1 ฝันร้าย

สามปีต่อมา

ตึก ตึก ตึก

เสียงฝีเท้าที่ก้าวเดินดังก้องในโสตประสาทจนร่างบอบบางที่นอนนิ่งบนเตียงสั่นเกร็ง ร่างกายแข็งค้างทว่าสั่นเทาจากความหวาดกลัว ดวงตากลมโศกหลับแน่น กัดริมฝีปากจนเลือดซิบ มือที่แนบข้างลำตัวกำเข้ากันจนเส้นเลือดปูดโปน หัวใจเต้นแรง และเร็วจนลมหายใจเข้าออกแทบขาดห้วง กลัว… ความกลัวจากสิ่งที่หล่อนไม่อาจมองเห็น หรือ… ไม่ต้องการมองเห็นมันสั่นประสาทจนร่างทั้งร่างกระตุกเกร็ง

“ลิน!” เสียงเรียกดังก้อง ทว่ากระแสเสียงนั้นเกรี้ยวกราด ‘ลิลลา’ หัวใจแกร่งไกว หวาดกลัวเหลือเกินว่าจะถูกใครคนนั้นพรากบางสิ่งที่หล่อนซุกซ่อนเอาไว้ กลัวจนหัวใจเหมือนจะขาดแม้เพียงได้ยินเสียงของเขา เสียงที่หล่อนไม่มีวันลืมว่าครั้งนึงเจ้าของของมันทำร้ายเหยียบย่ำหล่อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนแหลกละเอียดไม่เหลือชิ้นดี

“ลิลลา!” เขายังคงเรียกหาด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกวาด ทว่าอ่อนลงเล็กน้อย ในกระแสเสียงนั้นเหมือนโหยหา ทุกข์ตรม แต่ทำไมล่ะ หล่อนร้องถามในใจทั้งที่ยังหลับตาแน่น เขาจะโหยหาหล่อนทำไม ในเมื่อวันนั้นเมื่อครั้งอดีตเขาผลักไส เหยียบย่ำ รวมไปถึงทำลายหล่อนด้วยสองมือแข็งแรงคู่นั้นอย่างเลือดเย็น

“ไม่!” เสียงที่บีบเค้นออกมาแหบแห้งพร่าสั่นเมื่อไม่อาจห้ามน้ำตาที่ไหลทะลักเอ่อล้นจากหัวใจที่อ่อนล้าสุดจะทานทน ทำไมกันนะยิ่งหลีกหนี หลบเลี่ยงกลับต้องพบเจอเขาในทุกๆ ที่ แม้กระทั่งความฝัน… ฝัน!

“พี่จิณ!” ดวงตากลมโศกเบิกโพรง ดวงหน้าหวานเปียกชื้นด้วยคราบเหงื่อ ครั้นเมื่อลืมตาสิ่งแรกที่เห็นคือใบหน้าของเขา… ผู้ชายที่หล่อนเข้าใจว่าอยู่ในฝัน ร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีดำดวงหน้าโกรธเกรี้ยวก้าวเดินเข้ามา สองมือยกขึ้นก่อนพุ่งเข้ามาหาหมายจะพรากผลาญลมหายใจหล่อนไป เสี้ยววินาทีนั้นลิลลาเห็นดวงตาคู่คมเรืองรองไปด้วยไฟโทสะ ในนั้นเต็มไปด้วยความเคียดแค้นอย่างท้วมท้น กระทั่งหล่อนรู้สึกเหมือนลมหายเหือดหาย แรงบีบบนลำคอแน่นขึ้น แน่นขึ้น จนลมหายใจขาดห้วง หล่อนไขว่คว้า ปัดป่ายสองมือน้อยเพื่อปลดปล่อยพันธะแข็งแรงราวคีมเหล็กบนลำคอ

 “อึก ปะ ปล่อย” น้ำเสียงที่เปล่งแหบโหยเหมือนลมหายใจที่ใกล้เหือดหาย มือไม้ที่เคยปัดป่ายปกป้องตนเองอ่อนแรง ก่อนดวงตาคู่หวานโศกจะปรือมองผ่านม่านน้ำตา เปลือกตาหนาหนักค่อยๆ ปิดลง ทว่า… ในเสี้ยววินาทีที่หล่อนกำลังจะจมดิ่งลงสู่ห้วงนิทราในพิภพยมราชนั้น เสียงหัวเราะเหี้ยมเกรียมก็ดังก้องสะท้อนไปมาสนั่นหวั่นไหวในห้วงสติที่เหลืออันน้อยนิด

“ฮะ ฮะ ฮ่า”

ทำไมกันนะ… หล่อนทวงถามเพียงในใจ ทำไมชีวิตของผู้หญิงคนนึงต้องพบเจอเรื่องราวเลวร้ายมากมายถึงเพียงนี้ ทำไมหล่อนต้องเจอเขา รู้จักเขา และถูกเขาทำร้ายในวันนั้น ทำไมทุกสิ่งที่เลวร้ายต้องประเดประดังสาดซัดเข้ามาในชีวิตของหล่อนมากมายถึงเพียงนี้ด้วย

ทำไม…

ทำไมนะหรือ… หล่อนยังไม่อาจหาคำตอบให้ตนเองได้ ทำได้เพียงแค่นหัวเราะเสียงแหบให้ชะตาชีวิตสุดแสนรันทดของตนเอง หัวเราะให้กับความทุกข์ที่ถูกสาดซัดเข้ามามากมายเหล่านี้ด้วย ทว่าในความทุกข์เหล่านั้นหล่อนยังมีใครอีกคนที่รอคอยอ้อมกอดอันอบอุ่น และความรักบริสุทธิ์จากผู้หญิงโชคร้ายคนนี้อยู่…

“ระ รัก อึก กานต์รัก”

“ลิน” มือหนาแข็งแรงแตะเบาๆ ที่ไหล่เล็ก ก่อนขยับโยกเพื่อเรียกคนนอนหลับบนโซฟาสีเบทตัวยาว สีหน้าซีดเซียวกับคำพูดเพ้อที่ฟังไม่ได้ศัพท์ทำให้ ‘แขก’ ที่หวังใจจะมาเยี่ยมเยียนน้องสาวแทบเข่าทรุด

“ลิลลา!” ร่างแน่งน้อยแน่นิ่งไม่ตอบรับ หนำซ้ำเสียงพร่ำเพ้อยังแหบโหยลมหายใจเข้าออกเร็วแรงจนน่าหวั่นใจ

‘กีรติ’ ใจหาย มองใบหน้าอ่อนเยาว์ในอ้อมแขนแล้วมองใบหน้าหวานโศกเหงื่อพราวระยับสลับกัน หัวใจคนเป็นพี่เริ่มวิตกด้วยรู้ดีว่าน้องสาวมักฝันร้ายอยู่เสมอ ฝันที่เจ้าตัวไม่ยอมบอกว่ามันเรื่องราวเป็นเช่นไร แต่เขาก็สังเกตได้ว่าน้องสาวเริ่มมีอาการเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน อาการย่ำแย่ลงทุกวันจนกระทั่งลิลลาต้องเข้าพบจิตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ

“ลิน” ครั้งนี้ชายหนุ่มเรียกพร้อมนั่งลงที่ริมโซฟา มือซ้ายเขย่าไหล่น้องสาวรุนแรงขึ้น มือขวายังคงโอบอุ้มหลานชายวัยสองขวบเอาไว้แนบอก ใบหน้าอ่อนเยาว์ขาวละเอียดเอนซบไหล่กว้าง ส่งเสียงอ้อแอ้เหมือนต้องการปลุกเรียกมารดาไปด้วย

“ลิลลา!”

เฮือก!

ร่างสูงใหญ่ที่กำลังเขย่ากายบางบนโซฟาผงะลุกยืนตามแรงสะดุ้งเฮือกของร่างที่เคยนอนนิ่งเหยียดยาว กีรติเลิกคิ้วสูง ใบหน้าหล่อเข้มจับจ้องมองน้องสาวที่กำลังนั่งหอบหายใจถี่เร็วตรงหน้านิ่ง ครั้นพอเห็นอีกฝ่ายยกมือลูบช่วงอกปอยๆ ก็สาวเท้าเดินเข้าไปหา นั่งลงที่ปลายโซฟาตัวเดียวกันก่อนเอ่ยถาม

“ฝันร้ายเหรอ”

ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมอง ดวงหน้าหมดจดชื้นเหงื่อ ดวงตากลมโศกแดงก่ำมีน้ำตาเอ่อคลอ กีรติถอนหายใจให้ความอึดอัดที่ก่อตัวขึ้นมาอย่างฉับพลัน เขาเป็นห่วงลิลลามาก ห่วงมากเสียจนอยากจะฆ่าไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้นด้วยมือของตนเอง เพราะความระยำที่มันกระทำต่อน้องสาวของเขาเมื่อสามปีก่อนทำให้ทุกวันนี้หญิงสาวที่เคยสดใสมีแต่รอยยิ้มกลายเป็นคนเงียบขรึมเศร้าโศกราวกับคนละคนกัน

“ลิน”

“ลินแค่เหนื่อยค่ะพี่กี้ เลยเผลอหลับไป ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” ร่างบอบบางซูบผอมลงไปทุกวันผละกายลุกขึ้นเดินหลบเลี่ยงเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่มองหน้าเขาอีก ชายหนุ่มจึงทำได้เพียงมองตามหลังน้องสาวไปจนลับสายตาก่อนจะหันกลับมาถอนหายใจส่ายหน้าให้เจ้าตัวน้อยในอ้อมแขนที่กำลังบ่นงึมงำกับไหล่ของเขาอยู่

“แม่เราเขาไม่สบายใจอะไรทำไมไม่บอกลุงฮึ”

บอกหรือ… ลิลลาไม่เคยเล่าอะไรให้ใครฟัง ไม่เคยเล่าเลย แม้กระทั่งบอกว่าใครคือพ่อของกานต์รัก

“หิวไหมฮึเรา เดี๋ยวลุงชงนมให้”

กีรติลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะพาเจ้าตัวน้อยในอ้อมแขนมายังคอกกั้นสำหรับเด็กที่ทำจากท่อพีวีซีซึ่งเขาต่อเองกับมือ ชายหนุ่มปล่อยหลานชายตัวน้อยลงในนั้น ให้เจ้าตัวเล็กเดินเล่นล้มลุกในเบาะรองนุ่มนิ่มแทนพื้นบ้าน เขามาที่นี่เสมอเมื่อยามว่างหรือเมื่อคิดถึงหลานชายตัวน้อยที่เริ่มจะซนขึ้นทุกวัน

‘กานต์รัก’ เด็กชายตัวอวบอ้วนผิวขาวกระจ่าง ดวงตากลมโตสว่างไสวเหมือนมารดา ทว่าเค้าหน้าของเด็กชายกลับละม้ายคล้ายใครอีกคนที่เขาคุ้นแสนคุ้นแต่นึกอย่างไรก็นึกไม่ออก กีรติเคยฉุกคิดหลายต่อหลายครั้งว่าใบหน้าของกานต์รักนับวันจะคุ้นเกินไป คุ้นจนเขาเริ่มกลัวความคิดของตัวเอง

“ลินท้อง ฮึก”

คำสารภาพพร้อมน้ำตาหอบใหญ่เมื่อสามปีก่อนทำให้เขาคลั่งจนเหมือนคนบ้า ลิลลาเดินมาบอกเขาว่าหล่อนท้องในวันที่หล่อนตั้งครรภ์ได้ถึงห้าเดือน และหากไม่จวนตัวเพราะพบเขาโดยบังเอิญจนเขาทันเห็นสภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป หล่อนคงจะเก็บงำ และฝังทุกอย่างไว้กับตนตลอดไป

ปีนี้กานต์รักอายุใกล้ครบสองขวบในอีกสองสัปดาห์ เขาตั้งใจจะพาน้องสาวและหลานชายไปฉลองวันคล้ายวันเกิดให้เจ้าตัวเล็กที่ทะเล ทว่าดูเหมือนมารดาของกานต์รักคงจะไม่ตอบตกลงอย่างแน่นอน

ตั้งแต่วันที่มาสารภาพว่าตั้งครรภ์ ลิลลาก็ไม่เคยพูดถึงพ่อของลูกอีกเลย หล่อนไม่แม้แต่จะเอ่ยถึงสาเหตุที่ทำให้ตั้งครรภ์ด้วยซ้ำ ตอนแรกเขาเข้าใจว่าพ่อของหลานคือไอ้ ‘ปกปักษ์’ อดีตแฟนหนุ่มของลิลลาที่ตั้งใจเข้ามาหลอกลวง และกอบโกยชื่อเสียงเงินทองจากน้องสาวของเขา ใช้ความซื่อใสไร้เดียงสาโดยยืมสิ่งที่เรียกว่าความรักเข้ามาเป็นสะพานในการทำร้ายน้องสาวของเขา ทว่าเขาฉลาดพอจะรู้ว่ามันเลวจึงชิงลงมือจัดการมันก่อน มันถึงได้ทอดทิ้งน้องสาวของเขาในทันที

“ไม่ใช่ค่ะ ถึงปกจะเลว แต่ก็ไม่เลวพอจะทิ้งลินไปเพราะท้องหรอกค่ะ”

ลิลลายอมเปิดปากในวันที่เขาวางแผนจะเข้าไป ‘จัดการ’ ไอ้สารเลวนั่นเพราะเข้าใจว่ามันทิ้งน้องสาวของเขาเพราะหล่อนท้อง และคำสารภาพความจริงข้อนี้ทำให้ผู้ต้องสงสัยถูกลดจำนวนลงไปหนึ่ง ทว่าจนถึงทุกวันนี้เขาก็ยังหาตัวผู้ต้องสงสัยคนอื่นเพิ่มไม่ได้เลย ที่สำคัญการที่ลิลลาแสดงออกอย่างชัดเจนว่า ‘ไม่ต้องการ’ รื้อฟื้นความทรงจำเลวร้ายในอดีตขึ้นมาเป็นตราบาปให้ลูกก็ทำให้เขาเริ่มลืมเลือนเรื่องราวเหล่านี้ลงไปบ้าง ทว่าก็ยังไม่อาจลบมันออกไปได้หมด

กีรติชงนมให้หลานชายเสร็จก็เดินเข้ามานั่งเล่นในคอกกั้นของเจ้าน้อยด้วย เพียงแค่ชายหนุ่มนั่งลงเจ้าตัวเล็กที่นับวันจะอวบขึ้นก็วิ่งเตาะแตะเข้ามาหย่อนก้นลงนั่งบนตักอย่างรู้งาน

“หิวล่ะซิ แม่เราคงทิ้งไว้ตั้งแต่เช้าใช่ไหม”

เขาถามเป็นเชิงบ่นกับเจ้าตัวเล็กเพราะตอนที่เดินเข้ามาในบ้านยังไม่ทันเปิดประตูก็เห็นร่างเล็กจ้อยเดินล้มลุกคุกคลานอยู่บนพื้นจนเข่าแดงไปหมด พอเดินเข้ามาถึงเจ้าตัวเล็กถึงได้วิ่งถลาเข้ามาหาเขาในทันที พอเห็นแบบนี้แล้วคนเป็นลุงก็ยิ่งห่วงใยสองแม่ลูกมากขึ้นไปอีก

“ไปอยู่กับลุงไหมฮึไอ้แสบ” ถามเสียงอ่อนโยนก่อนยกมือลูบไล้ศีรษะเล็กที่กำลังเอนตัวลงนอนบนตักดูดขวดนมมองตาแป๋วเหมือนจะบอกทางสายตาว่า ‘ก็ได้ครับ’ จนคนมองต้องเงยหน้าหัวเราะออกมาเสียงดัง

“หน้าตาเรานี่มันคุ้นมากเลยนะ คุ้นจริงๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหน”

“ไม่เคยเห็นหรอกค่ะ”

คำถามของกีรติชะงักเมื่อน้ำเสียงแข็งกระด้างกับใบหน้าเรียบตึงของมารดาเจ้าตัวแสบบนตักร้องตอบมาแทนตั้งแต่หน้าประตูห้องน้ำ ชายหนุ่มถอนหายใจอีกรอบละสายตาจากน้องสาวกลับมาหาหลานชายแล้วเอื้อมมือไปโอบกอดร่างน้อยบนตักตบไหล่ลูบหัวกล่อมคนนอนดูดนมสบายใจเบาๆ

“พี่ก็พูดไปเรื่อย ว่าแต่เรื่องที่พี่ขอเราว่าไง”

ใบหน้าหวานโศกส่ายไปมาแทนคำตอบ ก่อนร่างบอบบางจะเดินไปนั่งบนโซฟาตัวเดิมที่เคยเผลอหลับไปเมื่อเช้า

“ลินกับลูกไม่อยากเป็นภาระของใคร”

“ใครที่ว่าน่ะมันพี่ชายคนเดียวของเรานะ” น้ำเสียงของกีรติค่อนข้างแข็งกร้าวขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ชอบให้ลิลลาพูดจาตัดรอนเช่นนี้เลยมันทำให้เขารู้สึกแย่มากขึ้นไปอีกที่ตนเองดูแลน้องสาวคนเดียวได้ไม่ดีจนเกิดเรื่องเกิดราวมากมายเช่นทุกวันนี้

“ลินอยู่ที่นี่สบายดีค่ะ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โซ่ตรวนหัวใจ   บทที่ 2 กงเกวียนกำเกวียน 100%

    “ไปเอาเอกสารที่บริษัทให้พี่หน่อย”“เอกสารอะไร?”“เอกสารเรื่องสัญญาซื้อขายนักเตะของอินทรีเหล็กไงเจอแล้วเอาไปส่งให้ไอ้กี้ด้วย แท้งกิ้วมากน้องชาย อ่อ ก่อนเที่ยงของวันนี้นะ อย่าลืมล่ะ บาย”ตัดสายทันทีที่สั่งงานจบ ไม่เหลือเวลาให้น้องตั้งตัวหรือกล่าวปฏิเสธ ด้วยรู้ดีว่าหากจิณณวัตรได้ยินชื่อกีรติไม่ว่าเรื่องอะไรย่อมไม่กล้าขัดใจแน่นอนสัญญาณตัดไปแล้วเหลือทิ้งไว้แต่เพียงความมึนงงในคำพูด และคำสั่งของผู้เป็นพี่ จิณณวัตรวางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะข้างตัว ใบหน้าหล่อเหลาคมสัน ดวงตาคมดุเหมือนบิดาเหลือบมองกองเอกสารงานของตัวเองแล้วถอนหายใจ ชายหนุ่มส่ายหน้า หากไม่ลืมเงยมองนาฬิกาเพื่อกะระยะเวลาให้พอเหมาะ ครั้นเห็นว่ายังพอเหลือเวลาอีกโขจึงก้มหน้าก้มตาทำงานต่ออีกสักครู่ ความเงียบที่แทรกเข้ามาทำให้ชื่อของผู้เป็นหัวข้อสนทนาวนเวียนกลับมาให้เขาอึดอัดใจกีรติ… พอพูดถึงพี่ชายข้างบ้านก็พาลให้นึกถึงน้องสาวบุญธรรมของอีกฝ่าย เกือบสามปีในความเป็นจริงแต่เป็นสามสิบปีในความรู้สึกของเขา ทุกครั้งที่เห็นหลังคายังไม่ต้องเห็นบ้านหัวใจก็ร้าวรานจนแทบจะขาดรอนลิลลาจะเป็นอย่างไรบ้าง สุขสบายดีหรือไม่ มีรอยยิ้มแย้มสรวลเช่นอดีตบ้างไห

  • โซ่ตรวนหัวใจ   บทที่ 2 กงเกวียนกำเกวียน 50%

    บทที่ 2 กงเกวียนกำเกวียนใบหน้าหล่อร้ายกับดวงตาสีดำสนิทเหม่อลอยจดจ้องมองเพดาน และแสงไฟสลัวที่กำลังกะพริบไปตามเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มรอบด้าน ทว่ากลับไม่มีสิ่งใดส่งผ่านเข้าไปในความรู้สึกของผู้ชายที่เหมือนจะมีเพียงร่างกายแต่ไร้วิญญาณเกือบสามปีแล้วที่เขากลายเป็นคนไม่มีหัวใจ ตั้งแต่คืนนั้น คืนที่เขาปล่อยให้อารมณ์ฝ่ายต่ำทำลายทุกอย่างที่มีอยู่เพียงน้อยนิด ความไว้วางใจเพียงหยิบมือจากเจ้าของดวงตาหวานโศกคู่นั้นสูญสลายกลายเป็นเพียงอากาศเมื่อเขาลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ และตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่เคยได้พบเธออีกเลย“ไอ้จิณณะ” เสียงห้าวจาก ‘อารักษ์ หรือเจท’ เพื่อนสนิทที่คบหากันมาร่วมสิบปีทำให้สติที่กำลังดำดิ่งจมปลักกับอดีตอันมืดมนหวนคืน ชายหนุ่มสะบัดศีรษะแรงๆ สองสามครั้ง ก่อนพยักหน้าตอบรับเพื่อน“ว่าไงวะ”“มึงเป็นอะไรวะ กูเห็นนั่งเหม่อมาร่วมชั่วโมงแล้ว”‘จิณณวัตร’ ทำเพียงถอนหายใจยาวเหยียดแทนการตอบคำถาม ชายหนุ่มเองก็ไม่รู้ว่าตนเองเป็นอะไร รู้สึกอะไร และคิดอะไรอยู่กันแน่ท้อแท้ สิ้นหวังหรือ… คงใช่ เขากำลังหมดเรี่ยวแรงที่จะตามหาเจ้าของดวงตาหวานโศกที่อยู่ในหัวใจมาตลอด 17 ปี เธอหายไป หายไปเลยเหมือนไม่เ

  • โซ่ตรวนหัวใจ   บทที่ 1 ฝันร้าย 100%

    (ต่อ)“ลินอยู่ที่นี่สบายดีค่ะ”สบายที่ว่าคือจิตใจ อย่างน้อยก็ไม่ต้องคอยหวาดระแวงว่าจะได้พบเขาโดยบังเอิญหรืออาจพบคนที่รู้จักเขา กลัว… หล่อนรู้ตัวเองดีว่าหวาดกลัวการพบกันในวันข้างหน้าอย่างที่สุด“ตามใจเรา” ในที่สุดกีรติก็พ่ายแพ้จนต้องล้มเลิกความต้องการของตัวเองเป็นครั้งที่เท่าไหร่เขาก็ไม่อาจแน่ใจ แต่ที่รู้แน่ก็คือหัวใจของน้องสาวแข็งกระด้างเย็นชาไปมากกว่าเมื่อสามปีก่อน กำแพงน้ำแข็งข้างในทั้งสูงชันทั้งหนาวเหน็บ การเป็นซิงเกิลมัมที่ต้องพบเจอคำสบประมาทของคนมากมายหล่อหลอมให้เด็กสาวใสซื่อผู้อ่อนหวานกลายเป็นคนแข็งกระด้างเย็นชาจนน่าใจหาย“แล้วเรื่องฝากไอ้แสบวันเสาร์นี้ล่ะ”“ยังเหมือนเดิมค่ะ แต่ตอนเย็นพี่กี้ต้องพารักมาส่งลินนะคะ ลินไม่สะดวกไปรับแกเอง”“สบายมาก”ใบหน้าของกีรติมีสีเลือดขึ้น ก่อนจะยิ้มกว้างด้วยเหตุว่าเขาเป็นลุงที่เห่อหลานมาก ทุกวันเสาร์ลิลลาต้องไปพบเจ้านายเพื่อพูดคุยเรื่องงาน หญิงสาวทำงานเป็นนักพิสูจน์อักษรให้กับสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งมาเกือบสองปีแล้ว แม้จะเป็นงานแบบพาสไทม์ ทว่ารายได้ก็มากพอ เมื่อนับรวมกับรายได้จากการทำขนมไทยง่ายๆ ส่งขายให้ร้านประจำสองสามร้านมาตั้งแต่มัธยมปลาย เรื่องกา

  • โซ่ตรวนหัวใจ   บทที่ 1 ฝันร้าย 50%

    บทที่ 1 ฝันร้ายสามปีต่อมาตึก ตึก ตึกเสียงฝีเท้าที่ก้าวเดินดังก้องในโสตประสาทจนร่างบอบบางที่นอนนิ่งบนเตียงสั่นเกร็ง ร่างกายแข็งค้างทว่าสั่นเทาจากความหวาดกลัว ดวงตากลมโศกหลับแน่น กัดริมฝีปากจนเลือดซิบ มือที่แนบข้างลำตัวกำเข้ากันจนเส้นเลือดปูดโปน หัวใจเต้นแรง และเร็วจนลมหายใจเข้าออกแทบขาดห้วง กลัว… ความกลัวจากสิ่งที่หล่อนไม่อาจมองเห็น หรือ… ไม่ต้องการมองเห็นมันสั่นประสาทจนร่างทั้งร่างกระตุกเกร็ง“ลิน!” เสียงเรียกดังก้อง ทว่ากระแสเสียงนั้นเกรี้ยวกราด ‘ลิลลา’ หัวใจแกร่งไกว หวาดกลัวเหลือเกินว่าจะถูกใครคนนั้นพรากบางสิ่งที่หล่อนซุกซ่อนเอาไว้ กลัวจนหัวใจเหมือนจะขาดแม้เพียงได้ยินเสียงของเขา เสียงที่หล่อนไม่มีวันลืมว่าครั้งนึงเจ้าของของมันทำร้ายเหยียบย่ำหล่อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนแหลกละเอียดไม่เหลือชิ้นดี“ลิลลา!” เขายังคงเรียกหาด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกวาด ทว่าอ่อนลงเล็กน้อย ในกระแสเสียงนั้นเหมือนโหยหา ทุกข์ตรม แต่ทำไมล่ะ หล่อนร้องถามในใจทั้งที่ยังหลับตาแน่น เขาจะโหยหาหล่อนทำไม ในเมื่อวันนั้นเมื่อครั้งอดีตเขาผลักไส เหยียบย่ำ รวมไปถึงทำลายหล่อนด้วยสองมือแข็งแรงคู่นั้นอย่างเลือดเย็น“ไม่!” เสียงที่บีบเค้

  • โซ่ตรวนหัวใจ   บทนำ

    บทนำ“ห้ามสิ บอกเค้าว่าไม่ให้เค้าไป พูดสิว่าอย่าไป ฮึก”น้ำตาที่ไหลรินรดสองแก้มสะท้อนความเจ็บปวดที่ฝังแน่นอยู่ในหัวใจยามทอดมองร่างสูงโปร่งของผู้ชายที่ตนมอบหัวใจให้เขาทั้งดวงอย่างเจ็บปวดแสนสาหัส ถ้าหากเขาเพียงเอ่ยห้าม ไม่ต้องกอดปลอบ แค่ขยับริมฝีปากหยักรูปหัวใจรั้งเธอเอาไว้สักนิด หัวใจภักดีที่มีแต่เขาเพียงคนเดียวคงไม่เจ็บปวดทุกข์ทรมานแทบขาดใจเช่นนี้“พูดสิ พูดว่าอย่าไป พูด! ฮึก” เสียงสะอื้นไห้ที่พยายามเค้นคำขอร้องบอกเขาเหมือนสายลมที่พัดผ่านไปเพียงเท่านั้น เมื่อร่างสูงที่ยืนอยู่เบื้องหน้าทำเพียงถอนหายใจเบาๆ ก้มหน้ามองพื้นไร้เสียงตอบรับหรือคำพูดที่หัวใจภักดีอยากได้ยิน7 ปีกับการเป็นแขนขา ลมหายใจให้เขา7 ปีกับการมีหัวใจไว้เพื่อ ‘ปกน้อย’ ของเธอ ทว่าวันนี้เธอเพิ่งรู้ตัวว่าเป็นแค่เศษฝุ่นไร้ค่าที่เขามีไว้เพียงเพื่อให้ตัวเองได้เดินออกไปบนเส้นทางความฝันที่ไม่มีวันที่เธอจะร่วมอยู่ในนั้น ความฝันที่เขาพยายามก้าวขึ้นไปเป็นที่หนึ่งเพื่อใครอีกคนลิลลารู้สึกเหมือนหัวใจแตกละเอียดอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา เธอร้องไห้เหมือนหัวใจแตกเป็นเสี่ยง ทอดสายตามองเขาด้วยความรู้สึกผิดหวัง เสียใจ และเจ็บปวดกับการถูกเขาปฏิเส

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status