“ก็ให้ตามเลทนะ ไม่ได้ให้พิเศษอะไร เท่าที่พี่รู้มา ค่าจ้างของล่ามคิดเป็นรายชั่วโมง ครึ่งวันก็มี เต็มวันก็ด้วย ค่าเดินทางบางคนก็ให้ต่างหากแล้วแต่ตกลงกัน อย่างครึ่งวันคือสี่ชั่วโมง ถ้างานไม่เสร็จเข้าชั่วโมงที่ห้าก็คิดเป็นรายชั่วโมงต่อไปเรื่อยๆ จนเสร็จงาน ราคาหมื่นห้าที่เพ้นท์จะได้ คือค่าจ้างล่ามที่พูดได้สามภาษานะ ค่าตัวก็ต้องสูงอยู่แล้ว” นันทิพาอธิบายให้บังอรเข้าใจ
“โห อย่างนี้เพ้นท์สบายเลย คุณนานโอมาอยู่เมืองไทยห้าวัน เพ้นท์ได้วันละหมื่นห้า ห้าวันก็เจ็ดหมื่นห้า” ช้องนางดีใจแทนเพชรหอมที่จะได้เงินค่าจ้างจำนวนมาก “ถ้ากุ้งพูดภาษาอิตาเลี่ยนได้ กุ้งจะเสนอตัวเอง แต่นี่เพิ่งหัดพูดหัดเขียน ยังไม่ถึงขั้นเซียน ให้เพ้นท์ทำดีที่สุด”
“โอเค ตกลงตามนี้ งั้นเลิกประชุมได้ ใครทำหน้าที่อะไรก็ขอให้ทำให้เต็มที่ คุณนานโอมาพักที่โรงแรมเราประจำ อย่าให้เสียชื่อ พี่ไม่อยากเสียลูกค้ากระเป๋าหนักไป”
นันทิพากำชับลูกน้อง ก่อนที่ทั้งหมดจะพากันเดินออกจากห้องประชุม บังอรกับช้องนางรีบเดินไปหาเพชรหอมที่กำลังปฏิบัติหน้าที่พนักงานต้อนรับลูกค้าตรงล็อบบี้ของโรงแรม
ราวสองทุ่มวันเดียวกัน
เพชรหอมเดินถือถุงกับข้าวเข้ามาในห้องเช่าหลายถุง ก่อนที่หล่อนจะเข้าบ้าน หล่อนแวะนำข้าวเหนียวมะม่วงไปให้เจ๊แมวเจ้าของห้องเช่านับสิบห้อง ตอบแทนน้ำใจที่ให้หยิบยืมเงินโดยไม่คิดดอกเบี้ยให้ตนเมื่อวานนี้ เพชรหอมอยู่คุยกับเจ๊แมวชั่วครู่จึงขอตัวกลับห้อง แล้วพอเปิดประตูห้อง หล่อนส่งยิ้มให้ชายหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่งที่ละสายตาจากกระดาษวาดรูปที่ยศนัยบรรจงวาด มองหญิงสาวแสนสวยที่เดินเข้ามาในห้อง
“โอ้โห วันนี้นึกครึ้มอะไรซื้อของมาเต็มมือเลย เมื่อวานนี้ยังบอกพี่ว่าต้องประหยัดไม่ใช่เหรอ” ภมรทักเพชรหอมที่วางถุงอาหารหลายถุงลงบนพื้น ก่อนจะทรุดตัวนั่งข้างบุตรชาย
“ก็ซื้อมาฉลองได้งานพิเศษไงคะพี่นาย”
“งานพิเศษเหรอ งานอะไร” ภมรที่ทำหน้าสงสัยอดถามไม่ได้
“วันเสาร์นี้จะมีแขกพิเศษมาพักที่โรงแรมค่ะ เขาต้องการล่ามที่พูดได้สามภาษาคือจีน อิตาเลี่ยนและภาษาสากล เพ้นท์ได้รับคัดเลือกให้เป็นล่ามค่ะ ได้เงินค่าจ้างวันละหมื่นห้า เขาใช้ล่ามห้าวัน สรุปเพ้นท์ได้ค่าจ้างเจ็ดหมื่นห้าค่ะ แต่ถ้าหลังหกโมงงานยังไม่เสร็จ เพ้นท์ได้เพิ่มชั่วโมงละพันห้าค่ะ”
เพชรหอมตอบด้วยรอยยิ้ม เพชรหอมไม่ลังเลที่จะรับงานนี้ หล่อนตอบตกลงทันทีที่บังอรนำเรื่องนี้มาบอกตน หากไม่รับงานนี้ หล่อนคงโง่เต็มที ทำงานห้าวัน ได้รับเงินมากกว่าเงินเดือนถึงสี่เดือน ใครบ้างจะไม่เอา
“โหดีจัง ถ้าได้งานแบบนี้บ่อยๆ ก็ดีสิ แทบไม่ต้องทำงานประจำเลยนะ หรือว่าจะลาออกจากงานมาทำงานเป็นล่ามดีล่ะ เงินดี งานก็ไม่หนักด้วย”
ภมรมองเห็นหนทางหาเงินให้เพชรหอม เพื่อนข้างห้องที่เขารักไม่ต่างกับน้องสาว คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันมาตั้งแต่เพชรหอมกับลูกย้ายมาอยู่ที่นี่
“ไม่เอาค่ะ เป็นแค่งานพิเศษน่ะดีแล้ว เพ้นท์ไม่มีความรู้เรื่องงานล่ามเลย จะหาลูกค้ายังไงก็หาไม่เป็น เพ้นท์คิดว่า งานล่ามไม่ได้มีตลอดด้วย สู้งานประจำไม่ได้หรอกค่ะ มีเงินเดือนตายตัวยังไงก็ไม่อดตาย รับเฉพาะงานๆ ไปดีกว่าค่ะ”
“อืม พี่ลืมคิดข้อนี้ไป เห็นว่าได้เงินดีเลยอยากให้เพ้นท์ทำเป็นงานประจำ”
“ขอบคุณพี่นายมากค่ะสำหรับความหวังดี ก็มีหลายคนนะคะที่ให้เพ้นท์เปลี่ยนอาชีพมาเป็นล่าม แต่เพ้นท์คิดว่าตัวเองยังไม่พร้อม ล่ามต้องเดินทางไปที่นั่นที่นี่แล้วแต่งาน เพ้นท์ไม่สะดวกค่ะ ทำงานประจำอย่างนี้ดีกว่า” เพชรหอมให้เหตุผลเพิ่มเติม “เพ้นท์มีเรื่องรบกวนพี่นายค่ะ ช่วงเย็นหลังจากหมดหน้าที่ของน้อย เพ้นท์ฝากฮาร์ทกับพี่นายได้ไหมคะ เพราะไม่รู้ว่างานจะเสร็จกี่โมง แต่ถ้าวันไหนงานเสร็จเร็ว เพ้นท์ก็ไม่กวนพี่นายค่ะ”
น้อยคือหนึ่งในคนที่เช่าห้องเจ๊แมวอยู่ น้อยอาศัยอยู่กับสามีและลูกที่ชั้นสองของอาคาร ความที่เดชาลูกชายของน้อยอยู่วัยเดียวกันกับยศนัยและอยู่โรงเรียนเดียวกัน เพชรหอมจึงจ้างให้น้อยไปรับยศนัยที่โรงเรียนพร้อมเดชา และมาอยู่ด้วยจนกว่าหล่อนจะกลับบ้าน เพชรหอมให้ค่าจ้างน้อยเดือนละหนึ่งพันบาท
จะว่าไปยศนัยไม่เคยอยู่กับน้อยจนกว่าเพชรหอมจะกลับบ้านสักครั้ง เป็นเพราะภมรจะมาอุ้มยศนัยไปเล่นด้วยที่ห้องเช่า สอนทำการบ้าน สอนวาดรูป อาบน้ำและหาข้าวหาน้ำให้ดื่ม ทำราวกับว่ายศนัยเป็นลูกคนหนึ่งก็ว่าได้
“ได้สิ ไม่มีปัญหาเลยเรื่องนี้ ดีซะอีก พี่กับชุจะได้ซ้อมเลี้ยงเด็ก เผื่อวันหน้ามีลูกจะได้รับมือไหว”
“ขอบคุณค่ะพี่นาย แต่คราวนี้พี่นายต้องรับค่าจ้างนะคะ พี่บังอรบอกว่า มีวันหนึ่งตามโปรแกรมที่เพ้นท์ต้องเป็นล่ามจนดึก ถ้าพี่นายไม่รับน้ำใจจากเพ้นท์ เพ้นท์ก็จะไปจ้างคนอื่นค่ะ” เพชรหอมพูดดักทางภมรอย่างรู้นิสัย
“ค่าตัวพี่ถูก เอาเป็นว่าเลี้ยงสุกี้พี่มื้อนึงก็แล้วกัน พี่จะจัดเต็มเลยคอยดู”
“จัดไปอย่าให้เสีย”
“พี่กลับห้องก่อนนะ ร้อนอยากอาบน้ำ”
“เดี๋ยวค่ะ เพ้นท์ซื้อต้มยำทะเลมาฝากพี่นาย ส่วนถุงนี้ยำปลาดุกฟูของโปรดพี่ชุค่ะ” เพชรหอมหยิบถุงอาหารที่หล่อนตั้งใจซื้อมาฝากพี่ชายข้างห้องและภรรยา ก่อนจะส่งให้ภมรที่ยื่นมือมารับไว้
“ขอบใจมากนะ” พูดจบ เขาก็เดินออกไปจากห้อง
เพชรหอมมองบุตรชายที่นั่งวาดรูปด้วยรอยยิ้ม หล่อนคลายความกังวลเรื่องหนี้สินที่เพิ่งสร้างไว้หมาดๆ เมื่อวานนี้ รายได้จากการเป็นล่ามห้าวัน ส่วนหนึ่งหล่อนตั้งใจเอาไปใช้หนี้เจ๊แมว อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้เป็นทุนสำรอง และอีกส่วนหนึ่งหล่อนจะไปซื้อสลากออมสิน เผื่อโชคดีถูกรางวัลใหญ่มีเงินเก็บก้อนโต หากไม่ถูกก็ไม่เสียหลาย เพราะถึงอย่างไรสลากออมสินก็เปรียบเสมือนการเก็บออมวิธีหนึ่ง พอถึงกำหนดเวลา ได้ทั้งต้นคืนแถมยังได้ดอกเบี้ยอีก มีแต่ได้กับได้ ไม่ต้องเสี่ยงอะไรด้วย
อนาคตของยศนัยเป็นเช่นไรเพชรหอมไม่รู้ หล่อนรู้เพียงว่า จะต้องเลี้ยงดูยศนัยให้ดีที่สุดเท่าที่หล่อนทำได้ ตามอัตภาพและสองมือ หนึ่งสมองของตน โดยไม่ง้อคนเป็นพ่อและไม่มีวันง้อด้วย
Chapter 49หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ณ กรุงเทพมหานคร ราซิเอลโล่ยืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้าประตูห้องเช่าของเพชรหอมหลังจากเคาะประตูเป็นสัญญาณบอกเจ้าของห้อง ในมือเขาถือพวงมาลัยที่ใช้ไหว้พระมาด้วย เขาตั้งใจมอบให้หล่อนมากกว่าจะหาซื้อดอกไม้จากร้านขายดอกไม้ที่ดอกสวยๆ แพงๆ เพราะเขารู้สึกชอบพวงมาลัยแบบที่ตนถืออยู่ “อ่ะให้” ราซิเอลโล่ยื่นพวงมาลัยให้เพชรหอม หล่อนถอนหายใจเบาๆ เมื่อเห็นพวงมาลัยไหว้พระ แล้วคิดว่าถึงเวลาเสียทีที่จะอธิบายให้เขาฟัง “คุณรู้ไหมว่า ดอกไม้ที่คุณให้ฉัน คนไทยเอาไว้ไหว้พระ เอาไว้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือบูชา ไม่ใช่เอามาให้ฉัน” “อ๋อเหรอ” เขาทำเสียงรับรู้ ก่อนฉีกยิ้มกว้าง “ฉันบูชาเธอไง รักด้วยบูชาด้วย เพราะฉะนั้นให้ได้” เพชรหอมระอากับความมึนของราซิเอลโล่ที่อธิบายให้ฟังก็แล้ว แต่ไม่คิดใส่ใจทำตาม “คุณทำอย่างนั้นไม่ได้ ฉันไม่ใช่พระ ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณจะเอาพวงมาลัยมาให้ฉัน” “ฉันไม่เข้าใจ ทำไมไม่ได้ ก็เธอยังให้คุณอาเลย มันกลมๆ เหมือนกัน ฉันจำได้” เขาเถียงสู้ “นั่นเขาเรียกกันว่ามาลัยไหว้ผู้
Chapter 48 “กุ้งไม่ลำบากหรอกค่ะ กุ้งเต็มใจค่ะ” ช้องนางไม่ห่วงนอน เพราะหล่อนเองก็ห่วงเขาเช่นกัน หล่อนลุกขึ้นจากเตียง เดินลงไปชั้นล่างและกลับขึ้นมาพร้อมกับกล่องใส่อุปกรณ์ทำแผล ช้องนางลงมือทำความสะอาดแผลให้เหนือเมฆที่ก้มหน้ามองดวงหน้าหวานสวยตลอดเวลา เขายิ้มกับภาพที่เห็น มันเหมือนกับภรรยาดูแลสามีอย่างไหนอย่างนั้น แต่เมื่อเห็นรอยฝ่ามือเสือหาญบนแก้มหล่อน รอยยิ้มเขาหุบลงทันที แค้นใจคนที่ทำให้เกิดรอยนี้ อยากไปโรงพยาบาลตัดมือเสือหาญให้ขาด จะได้ไม่ไปทำเช่นนี้กับใครอีก “อุ้ย!” คนตัวโตสะดุ้ง เมื่อหล่อนเอาแอลกอฮอล์ทางลงบนบาดแผล หลังจากน้ำเกลือที่เหลืออยู่ก้นขวดหมด ช้องนางจึงใช้แอลกอฮอล์แทน “แสบหรือคะ” ช้องนางถาม “แสบที่สุดเลย กุ้งเป่าให้พี่หน่อยสิ” เขาอ้อน ช้องนางทำตาม เป่าลมตรงแผลของเขา “คราวนี้ก็โอ๋พี่ด้วย พี่จะได้หายแสบแผล” ช้องนางหน้าแดงกับคำพูดออดอ้อนของเขา ใจหล่อนจักกะจี้ ขวยเขิน และตลอดเวลาที่ทำแผลเขาก็ออดอ้อนหล่อนไม่เลิก แต่หล่อนก็ได้แต่นั่งหน้าแดง ทำแผลให้เขาจนเสร็จ “เสร็จแล้วค่ะ”หล่อนบอกเมื่อติดพลาสเตอร์
Chapter 47ภายในรถซุปเปอร์คาร์ช้องนางถูกเสือหาญทำร้ายด้วยการตบและจิกหัว และเหมือนจะเป็นสัญชาตญาณของคนถูกทำร้ายที่ต้องปัดป้องตัวเอง ปลายเล็บแหลมคมข่วนเข้าที่ใบหน้าของเสือหาญจนเกิดเลือดซิบ นำพาความเจ็บมาให้เขาพอสมควร และไม่เพียงแค่หน้าเท่านั้นที่ถูกเล็บขูด ลำคอเขาก็เช่นกัน“ร้ายนะนักมึง”เสือหาญกระชากศีรษะช้องนาง เงื้อมือหมายจะฟาดลงบนแก้ม ทว่าเสียงเหมือนคนนำของแข็งทุบกระจกรถข้างคนขับจนมันแตกละเอียด ทำให้คนในรถหันไปมอง“พี่เหนือ”ช้องนางทั้งดีใจและตกใจที่เห็นเขา ทว่าเสือหาญมีเพียงความรู้สึกเดียวคือ ตกใจ“ไอ้เหนือ” เสือหาญเรียกชื่อเจ้าของรถ และรับรู้ความเสียเปรียบของตน เพราะตอนนี้เขานั่งอยู่ในรถ ปืนก็ตกไปอยู่ด้านล่างพื้นรถ เขาจึงไม่มีอาวุธต่อสู้เหนือเมฆนอกจาก...วินาทีเสือหาญนึกถึงมีดพกของตน “เออกูเอง” เหนือเมฆพูดขึ้น กระชากคอเสื้อเสือหาญ ทว่าความเป็นโจรที่มีในตัว และรู้วิธีเอาตัวรอด เสือหาญจับข้อมือเหนือเมฆแล้วกดให้ต่ำลงทำให้เหนือเมฆเกิดความเจ็บเหมือนข้อมือจะหัก ทว่าเจ้าของไร่เมฆาอดทนกับความเจ็บไม่ปล่อยเสือหาญไปง่ายๆ เสือหาญจึงหยิบมีดพกออกจากกระเป๋ากางเกง กดปุ่มให้มีดแหลมคมเด้งออก
Chapter 46กลางดึกจังหวัดราชบุรี ตามแผนการของเสือหาญ เมื่อได้รถยนต์และทรัพย์สินที่ตั้งใจไว้ เสือหาญ ม้วน ดาวและโด่งจะขับรถแยกกันไปคนละทาง ไปเจอกันยังจุดนัดหมาย แม้ว่าจะไม่เป็นไปตามแผนทั้งหมด ทว่าพวกเขาทำตามแผนที่ว่า ขับรถแยกไปคนละทิศทาง แล้วไปเจอกันที่โกดังแห่งหนึ่งในอำเภอโพธาราม เพราะโกดังแห่งนั้นมีรถบรรทุกคันใหญ่พร้อมตู้คอนเทนเนอร์ของคนที่จะรับซื้อรถหรูทั้งสี่คันรออยู่ รถคันหรูที่เสือหาญขับทะยานอยู่บนถนน มีตัวประกันสาวนั่งหายใจหายคอไม่สะดวกอยู่เบาะด้านข้าง ช้องนางนั่งตัวตรงแน่วมองถนนเบื้องหน้า สลับกับมองหน้าเสือหาญที่เวลานี้ถอดหมวกไอ้โม่งออก เผยให้เห็นใบหน้าชัดเจน ก่อนหล่อนจะหลุบตามองปืนที่วางอยู่ช่องใกล้กับเกียร์รถยนต์ ช้องนางไม่ได้นั่งนิ่งเฉย หล่อนพยายามคิดหาทางเอาตัวรอด ใจโจรยากแท้หยั่งถึง ถึงที่หมายแล้วเสือหาญอาจยิงตนทิ้งก็ได้ เนื่องจากหล่อนเห็นใบหน้าของเขา หล่อนกำลังนึกถึงคำนี้ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน แต่จะด้วยวิธีใด ช้องนางคิดไม่ตก ในขณะเดียวกันเดชดวงที่ขับรถตามมาไม่ห่าง เหยียบคันเร่งให้เร็วขึ้นเพื่อจะไล่ตามรถซุปเปอร์คาร์ที่มีพลังแรง
Chapter 45ณ โรงพยาบาลจังหวัดภูเก็ต ภายในห้องพักฟื้นวีไอพี ร่างคนถูกรถชนนอนหลับอยู่บนเตียงคนไข้ ตรงหลังฝ่ามือมีเข็มน้ำเกลือปักอยู่ ตามร่างกายเขามีรอยฟกช้ำจากการถูกรถยนต์กระแทก และผลจากการปะทะทำให้ตัวเขาไถลไปบนถนน ส่งผลให้ตรงหัวไหล่เกิดรอยถลอก ใบหน้ามีรอยช้ำ นานโอสั่งให้แพทย์เอ็กซเรย์สมองว่ากระทบกระเทือนหรือไม่ ผลที่ออกมาทำให้นานโอกับเพชรหอมโล่งอกส่วนเรื่องคดี นานโอเคลียร์กับเจ้าของรถคันนั้น และตกลงกันได้ด้วยดี เนื่องจากเจ้าของรถไม่มีความผิด เขาขับรถมาตามปกติ คนที่ผิดคือราซิเอลโล่ นานโอชดใช้ค่าซ่อมรถให้นายแพทย์เจ้าของรถ และออกค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวหลานชายเองทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยสักนิดเดียว นานโอกลับอยากเขกหัวหลานชายที่ทำอะไรโดยไม่คิด แต่ก็รู้เหตุผลของการกระทำนั้น แม้ว่าราซิเอลโล่จะไม่เป็นอะไรมากนอกจากรอยฟกช้ำดำเขียว ทว่าเขากลับยังไม่ฟื้น ยังคงนอนหมดสติตั้งแต่ถูกรถชนจนถึงตอนนี้ก็นานร่วมสี่ชั่วโมงเพชรหอมที่เฝ้าราซิเอลโล่ไม่ห่างยังมีความกังวลไม่หาย หล่อนจะสบายใจก็ต่อเมื่อเขาฟื้น เหตุการณ์ที่ราซิเอลโล่วิ่งให้รถชนแลกกับที่เพชรหอมให้อภัย หล่อนไ
Chapter 44ทว่าเท้าเล็กชะงักเมื่อเดินลงมาถึงที่พักบันไดที่อีกไม่กี่ขั้นก็จะถึงชั้นล่าง ดวงตาช้องนางขยายกว้าง ความตกใจระบายเต็มดวงหน้า เมื่อเห็นชายสามคนสวมหมวกไหมพรมอยู่ในห้องรับแขก พวกเขาถือปืนอยู่ในมือทุกคน หนึ่งในสามหันมามองหล่อนพอดี“กรี๊ด!” ช้องนางกรีดร้องลั่นบ้าน เสียงของหล่อนดังไปถึงข้างบน คนหูเบาที่นอนอยู่ในห้องดีดตัวลุกขึ้นนั่งหันมาตรงลิ้นชักหัวเตียง หยิบปืนที่วางอยู่ออกมาแล้วรีบลุกเดินออกไปจากห้อง“เฮ้ย จับมันไว้”เสือหาญสั่งม้วนที่อยู่ใกล้กับบันได ม้วนรีบทำตามก้าวเท้าวิ่งไปตามบันได ช้องนางที่อยู่ในอารามตกใจ ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก เห็นม้วนก้าวยาวๆ มาหาตนแต่ขาก็ก้าววิ่งหนีไม่ได้ ได้แต่กรีดร้อง“ปิดปากมันด้วยสิวะ แหกปากซะดัง” เสือหาญสั่งม้วนที่ใช้อีกมือปิดปาก แขนก็ยกร่างเล็กที่สะบัดเท้าไปในอากาศขัดขืนเต็มที่“เฮ้ย! พวกมึงเป็นใคร ปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้นะ”เสียงเหนือเมฆดังขึ้น เขามองกลุ่มคนที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าโจร...โจรที่กล้าล้วงคองูเห่า มันไม่ตายดีแน่ ยิ่งคิดทำร้ายช้องนาง โทษมีเพียงอย่างเดียวคือ ตาย“อือ...อือ” ช้องนางมองหน้าเหนือเมฆที่ยกปืนเล็งมายังกลุ่มโจร โดยมีเดชดวงถือปืนวิ่ง