Share

บทที่ 6

Author: สาลี่แช่แข็ง
ฉันแอบออกจากห้องประชุมท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมาย

ใครจะรู้ว่าเพิ่งเดินไปได้สองก้าว กลับบังเอิญเจอกับเหลียงฮ่าวเหมี่ยว

เขาก็สังเกตเห็นฉันเหมือนกัน ทักทายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “คุณเสิ่น ไม่ได้เจอหมอจี้เหรอ?”

เหลียงฮ่าวเหมี่ยวกับจี้อวิ๋นโจวเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ทั้งสองคนอายุใกล้เคียงกัน แต่เหลียงฮ่าวเหมี่ยวเข้าทำงานในแผนกศัลยกรรมประสาทช้ากว่าจี้อวิ๋นโจวหนึ่งปี ตอนนี้เขายังเป็นแพทย์ประจำบ้านอยู่

ทำไมเราถึงสนิทกันน่ะเหรอ ก็เพราะมีหลายครั้งที่ฉันไปส่งเสื้อผ้าซักรีดและโจ๊กบำรุงร่างกายให้จี้อวิ๋นโจว แล้วบังเอิญเจอเขาพอดี

ต่อมาเวลาที่จี้อวิ๋นโจวยุ่ง ๆ ก็ให้ฉันติดต่อกับเหลียงฮ่าวเหมี่ยวโดยตรง นานวันเข้าเราก็คุ้นเคยกัน

ตอนนี้มาคิดดู เกรงว่าที่จี้อวิ๋นโจวยุ่งจะเป็นแค่เรื่องโกหก แท้จริงก็แค่ไม่อยากเจอฉันเท่านั้นเอง

แต่ดูเหมือนเหลียงฮ่าวเหมี่ยวจะไม่แปลกใจเลยที่ฉันไปร่วมสอบข้อเขียนที่โรงพยาบาลจิงเสีย?

“อ้อ ตอนตรวจคนไข้เมื่อกี้เขาบอกว่าอยากมาดู” เหลียงฮ่าวเหมี่ยวเห็นฉันไม่พูดอะไร ก็อธิบายต่ออีกประโยค “ดูเหมือนว่าพวกคุณจะไม่ได้เจอกันใช่ไหม?”

ประโยคหลัง เขาใช้น้ำเสียงแสดงความเสียดายอย่างชัดเจน

เหมือนกับว่าการที่ฉันกับจี้อวิ๋นโจวไม่ได้เจอกันเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย

แต่เขาเข้าใจผิดไป จี้อวิ๋นโจวอยากมาจริง แต่มาดูเจิ้งซินหรานต่างหาก

อาจจะสังเกตได้ถึงอารมณ์ของฉัน เหลียงฮ่าวเหมี่ยวเปลี่ยนเรื่อง ถามว่า “สอบข้อเขียนเป็นยังไงบ้าง? ยากไหม?”

ฉันเพิ่งจะเตรียมตอบ ก็ถูกเสียงซุบซิบนินทาข้างหลังขัดจังหวะเสียก่อน

“สาว ๆ สมัยนี้เก่งมากนะ พึ่งรูปร่างหน้าตานิดหน่อยก็ใช้เส้นสายได้แล้ว เฮ้อ เราเตรียมตัวกันมานานขนาดนี้ ดูท่าคงจะเสียเปล่าแล้ว”

“ใช่น่ะสิ เพราะได้พึ่งพาผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมประสาท ขาข้างหนึ่งก็ก้าวเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลจิงเสียแล้ว!”

ฉันนึกถึงฉากที่จี้อวิ๋นโจวถามไถ่เจิ้งซินหรานด้วยความห่วงใย มันเหมือนถูกคนเปิดอกแล้วราดด้วยน้ำส้มสายชู ทั้งเจ็บและบีบรัดหัวใจ

ตระกูลจี้มีวินัยเข้มงวด โดยเฉพาะหลังจากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทที่โรงพยาบาลสามปีก่อน จี้อวิ๋นโจวยิ่งเคร่งครัดกับตัวเอง ไม่ปล่อยโอกาสให้ใครจับผิดได้ แม่สามีจึงเตือนฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ตอนนี้เขาถึงขั้นยอมรีบมาจากแผนกผู้ป่วยใน เพียงเพื่อเจิ้งซินหรานคนเดียว

และนึกถึงสามปีที่ผ่านมา ที่ฉันวิ่งวุ่นเหมือนคนรับใช้ ส่งอาหารส่งเสื้อผ้า ทุกครั้งก็ดูลับ ๆ ล่อ ๆ น่าขำเหลือเกิน

เขามีใจจะปกป้องดูแลเธอ ก็ย่อมไม่สนสายตาคนภายนอก ส่วนฉัน ก็แค่ได้ครองตำแหน่งคุณนายจี้ แต่ก็เพียงแค่ในนามเท่านั้น

“ไม่ต้องไปสนคำซุบซิบนินทาพวกนี้หรอกครับ” เหลียงฮ่าวเหมี่ยวเห็นฉันเงียบไม่พูดอะไร จึงปลอบว่า “การสอบข้อเขียนของโรงพยาบาลจิงเสียขึ้นชื่อเรื่องความยุติธรรมอยู่แล้ว คุณเสิ่นต้องทำได้แน่นอน”

คุณต้องทำได้

ฉันทวนคำพูดนี้เงียบ ๆ ก่อนจะเงยหน้ามองไปทางเหลียงฮ่าวเหมี่ยว เห็นเพียงแววตาและเรียวคิ้วของเขาประดับด้วยรอยยิ้ม สีหน้าอ่อนโยน

เขาก็เหมือนกับจี้อวิ๋นโจว รูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาคมคาย แต่คงเพราะงานหมอกดดันมากจริง ๆ เพียงแค่เวลาสั้น ๆ ครึ่งปี ใบหน้าของคุณหมอเหลียงท่านนี้ก็กลมขึ้นกว่าครั้งแรกที่เราเจอกันเยอะ

ให้ความรู้สึกมั่นคงอย่างบอกไม่ถูก

“ข้อสอบไม่ยากค่ะ” ฉันรับคำให้กำลังใจจากเขา พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “รอดูผลเถอะค่ะ”

“ถ้าให้ผมพูด คุณเสิ่นมีฝีมือ” เหลียงฮ่าวเหมี่ยวยังคงให้กำลังใจต่อเหมือนเพื่อนเก่าอย่างไรอย่างนั้น “ไม่เตรียมตัวสอบสัมภาษณ์ล่วงหน้าไปเลยล่ะ”

เขายกยอฉันเกินไปแล้ว

แต่ฟังแล้วก็รู้สึกดีเหลือเกิน

ดูเหมือนว่าความรู้สึกฉันจะไม่ได้แย่ขนาดนั้นแล้ว

เสียงหวานเลี่ยนกลับทำลายความสุขนี้ลง “พี่เสิ่น ยังไม่กลับอีกเหรอคะ?”

ฉันหันกลับไปด้วยความสงสัย ก็เห็นจี้อวิ๋นโจวกับเจิ้งซินหรานที่ยืนอยู่ข้างหลังฉัน

ชายหนุ่มยืนสง่างามเหมือนต้นไม้หยก สาวน้อยน่ารักสดใส ใบหน้าไม่มีท่าทีอ้อนวอนน่าสงสารเมื่อครู่แล้ว ดูแล้วเหมาะสมกันมาก
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โดนเมินมาสามปี พอฉันขอหย่าเขากลับร้องไห้   บทที่ 100

    คำพูดที่มั่นใจและตรงไปตรงมานี้ของฉันทำให้สีหน้าฝ่ายบุคคลชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ถามว่า “เมื่อวานนี้ในกลุ่มสนทนาแลกเปลี่ยนของโรงพยาบาลจิงเสียปรากฎรูปถ่ายคู่ของคุณกับหมอเซี่ยแผนกวิสัญญีโรงพยาบาลซินหย่า คุณเห็นว่ายังไง?”“ในเมื่อเป็นการสัมมนา ฉันย่อมต้องแสดงความเป็นมิตรและจิตใจดีของคนโรงพยาบาลจิงเสียออกมาอยู่แล้ว ส่วนในภาพที่หมอเซี่ยที่ช่วยพยุงฉัน ก็แค่เพราะว่าตอนนั้นดาดฟ้ามันโยก เขาเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งที่ดึงฉันไว้เท่านั้นเอง”คงเป็นเพราะแววตาของฉันตรงไปตรงมาเกินไป สีหน้าของของฝ่ายบุคคลจึงไม่ได้ดูย่ำแย่เหมือนตอนที่ฉันเข้ามาก่อนหน้านี้แล้วหลังจากเงียบไปชั่วครู่ เขากล่าวกำชับว่า “คุณกลับไปทำงานก่อนเถอะ เรื่องนี้พวกเราจะตรวจสอบให้ชัดเจน”ฉันปรารถนาอย่างยิ่งก็ไม่รู้ว่าตัวเองล่วงเกินคนชั่ว ๆโดยไม่ได้ตั้งใจคนไหนเข้า ถึงกับต้องให้คนส่งจดหมายรายงานนิรนามไปยังฝ่ายบุคคลงั้นฉันจะอดทนรอฟังข่าวดีแต่สิ่งที่ทำให้ฉันคิดไม่ถึงก็คือ ตอนที่ฉันออกมาจากฝ่ายบุคคล กลับเผชิญหน้ากับเจิ้งซินหรานโดยบังเอิญสาวน้อยคงจะคิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะเจอฉันที่นี่ หลังจากตกตะลึงไปชั่วขณะ ก็พยักหน้าให้ฉัน เปิดปร

  • โดนเมินมาสามปี พอฉันขอหย่าเขากลับร้องไห้   บทที่ 99

    ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะตกอยู่ในศูนย์กลางความคิดเห็นของสาธารณชนอีกครั้ง และยังด้วยวิธีการแบบนี้ด้วยและเจิ้งซินหรานที่ทำให้ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์ฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า นอกจากจะพูดขอโทษฉันในกลุ่มแล้ว ภายในสี่ชั่วโมงหลังจากเกิดเรื่อง ก็ไม่ได้ติดต่อฉันอีกเลยถ้าไม่ได้บังเอิญเจอเหลียงฮ่าวเหมี่ยว ถึงตอนนี้ฉันก็คงยังไม่รู้อะไรเลยสิ่งที่ทำให้ฉันเป็นทุกข์มากกว่าเดิมก็คือ จี้อวิ๋นโจวสามีของฉัน หัวหน้าใหญ่จี้ผู้ร่วมเดินทางไปงานสัมมนาในครั้งนี้ หลังจากมองเห็นการกระทำโดยไม่ได้ตั้งใจของเจิ้งซินหราน ไม่เพียงแต่ไม่พูดแทนคุณนายจี้ที่ถูกลากเข้าไปในศูนย์กลางความคิดเห็นอย่างฉัน แต่กลับไปปกป้องเจิ้งซินหรานในทันทีอีกด้วยไม่น่าแปลกใจเลยที่สาวน้อยจนถึงตอนนี้ แม้แต่ข้อความขอโทษสักประโยคก็ไม่ส่งมาให้ฉันเพราะคิดว่านี่มันเรื่องเล็กมากหรือไง ทั้งยังมีการสนับสนุนของจี้อวิ๋นโจว เลยไม่ได้ใส่ใจสินะ?งั้นฉันล่ะ?ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่รู้ตัวอย่างสิ้นเชิง ถูกถ่ายภาพที่เรียกว่าภาพถ่ายโชคชะตา ทั้งยังถูกแบ่งปันในกลุ่มอย่างไม่มีเหตุผล หรือว่าฉันไม่ได้ถูกใส่ร้ายงั้นเหรอ?หากลงลึกจริง ๆ ถ้าฉันบอกว่าละเมิดสิทธิในการถ่ายภาพของ

  • โดนเมินมาสามปี พอฉันขอหย่าเขากลับร้องไห้   บทที่ 98

    ฉันนั่งรถไปที่สถานพักฟื้นของพ่อจะว่าไปฉันไม่ได้มาที่นี่สักพักหนึ่งแล้ว เมื่อมองผมสีดอกเลาและใบหน้าที่แก่ลงเรื่อย ๆ ของพ่อ ในใจของฉันหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆถ้าตอนนั้นเขารู้ว่างานแต่งงานที่ตัวเองก้มหัวขอร้องมาจะมีสภาพเป็นแบบนี้ คงจะต้องรู้สึกผิดและโทษตัวเองมากอย่างแน่นอนพ่อคะ บางทีพวกเราอาจจะผิดทั้งหมด ฝืนใจคนมันไม่มีความสุขหรอกค่ะตัดเล็บ ตัดผม หลังจากทำทั้งหมดนี้เสร็จก็พระอาทิตย์ตกดินแล้ว หลังจากห่มผ้าห่มให้พ่อเรียบร้อย ถึงได้ไปจากห้องผู้ป่วยอย่างอาลัยอาวรณ์เมื่อหันกลับมามองชายที่อยู่บนเตียงคนป่วยอีกครั้ง ฉันแอบบอกกับตัวเองว่า เสิ่นเสียนเยว่ จะต้องไม่ถูกตีจนล้มง่าย ๆ แบบนี้แน่เรื่องบางอย่างที่อยู่ในใจ ฉันขึ้นลิฟท์ตอนไหนไม่แน่ชัด จนกระทั่งเสียงทักทายอันอบอุ่นดังขึ้นใกล้ ๆ หู ฉันจึงเงยหน้าขึ้นอย่างอยากรู้ และมองเห็นใบหน้าอันคุ้นเคยของเหลียงฮ่าวเหมี่ยว“หมอเหลียงทำไมมาอยู่นี่?”“คุณจริง ๆ ด้วยหมอเสิ่น”หลังจากพูดคุยสัพเพเหระเล็กน้อย ฉันถึงรู้ว่าคุณตาของเสิ่นเสียนเยว่ก็อยู่ที่สถานพักฟื้นนี้เช่นกัน“หมอเสิ่นดูอารมณ์ไม่ค่อยดี” เหลียงฮ่าวเหมี่ยวรับรู้ได้ถึงอารมณ์ของฉัน กล่าวอย่

  • โดนเมินมาสามปี พอฉันขอหย่าเขากลับร้องไห้   บทที่ 97

    จี้อวิ๋นโจวเสียอาการต่อหน้าคนหมู่มากบรรดาคนรับใช้รีบร้อนจัดการ แม่สามียื่นทิชชูให้อย่างร้อนรน ผู้ชายที่พิถีพิถันเรื่องความสะอาดมาแต่ไหนแต่ไรกำลังมองดูซุปไก่หยดสีทองไม่กี่หยดที่ปลายแขนเสื้อ แล้วไปห้องน้ำอย่างไม่พอใจแม่สามีไม่ได้พูดหัวข้อนี้อีกแล้วจริง ๆจะพูดยังไงล่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจพุ่งเป้าไปที่จี้อวิ๋นโจวเสียหน่อย แต่ถึงยังไงวิวแม่น้ำนี้เขาก็ไปดูกับเจิ้งซินหราน ว่ากันตาจริงฉันเป็นแพะรับบาปแทนเขา คนปกติควรแสดงออกสักหน่อยไม่ใช่เหรอ?แต่จี้อวิ๋นโจวไม่ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันก็ทำได้แค่บอกเขาเท่านั้น ครั้งนี้ฉันรับแทนเขาได้หนึ่งครั้ง แต่ไม่สามารถรับแทนทุกครั้งไป ห้านาทีต่อมา จี้อวิ๋นโจวที่เปลี่ยนเสื้อเชิ้ตใหม่ก็กลับมาที่ห้องโถงใหญ่อีกครั้ง เหลือบมองฉันพลางกล่าวว่า “เวลาจำกัด พวกเรากลับกันก่อนเถอะ”ฉันอยากได้ใจจะขาด ตอนกำลังแอบโชคดี สายตากวาดมองไปที่ดวงตาของชายคนนั้น อดไม่ได้ที่จะหนาวสั่น ดูท่าหมอจี้จะโกรธอีกแล้วฉันนั่งตรงที่นั่งคนขับออกมาจากบ้านเดิม ไม่กี่อึดใจ หลังจากเครื่องยนต์ส่งเสียงคำราม เบนซ์จีห้าร้อยที่มีพลังก็พุ่งทะยานราวกับสัตว์ร้ายร่างกายเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างไม่สา

  • โดนเมินมาสามปี พอฉันขอหย่าเขากลับร้องไห้   บทที่ 96

    นี่กำลังตำหนิฉันงั้นเหรอแต่ฉันกับจี้อวิ๋นโจวเหมือนกันได้งั้นเหรอ?เขาลงจากเครื่องบินมีรถส่วนตัวมารับ มนุษย์เงินเดือนธรรมดาแบบฉัน ทั้งยังไม่สามารถเปิดเผยสถานะของคุณนายจี้ได้ ทำได้เพียงต่อแถวไปด้วยกันกับทุกคนเพื่อเรียกรถเท่านั้น ต้องเสียเวลาไปบ้างอยู่แล้วฉันกำลังโต้แย้งอยู่ในใจ แต่ปากกลับไม่มีเรี่ยวแรงจะพูดสักคำอาจเป็นเพราะเมื่อคืนถูกลมพัดที่บนดาดฟ้า ตอนนี้หัวสมองของฉันกำลังหนักอึ้งเมื่อเสิร์ฟอาหารแล้ว แม่สามีก็ตักซุปให้จี้อวิ๋นโจวทันที สอบถามอย่างห่วงใย แม่ก็เมตตา ลูกก็กตัญญู ส่วนฉัน ไม่แตกต่างอะไรกับอากาศเดิมทีฉันคิดว่าจะกินอาหารนี้ให้เสร็จอย่างเงียบ ๆ ทว่าในวินาทีต่อมา ปลายจมูกของฉันกลับได้กลิ่นทุเรียนที่คุ้นเคยความรู้สึกไม่สบายเกิดขึ้น ฉันอุดปาก อดไม่ได้ที่จะอ้วกออกมาสองสามครั้งเมื่อแม่สามีเห็นดังนั้นก็ตกตะลึงชั่วขณะ กล่าวอย่างกังวล “ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงอ้วกออกมาได้ล่ะ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า? อยากให้หมอหวังมาดูสักหน่อยไหม?”หมอหวังเป็นหมอประจำครอบครัวของตระกูลจี้ ต้องขอบคุณการดูแลของแม่สามี ฉันเคยถูกเขาเจาะเลือดไปสองครั้งตอนสงสัยว่าท้องเพียงไม่กี่นาที ฉันก็เข้าใจความห

  • โดนเมินมาสามปี พอฉันขอหย่าเขากลับร้องไห้   บทที่ 95

    ท่าทางหันกลับมาอย่างเขินอายของเจิ้งซินหรานทำฉันกับเซี่ยจี้ไป๋ต่างสับสนไปหมดเขาเหลือบมองฉันอย่างไม่มีทางเลือก กล่าวอธิบายว่า “หมอเจิ้งเข้าใจผิดแล้ว ผมกับหมอเสิ่นกำลังคุยเรื่องงาน”เมื่อสาวน้อยได้ยินก็หันหน้ามา สายตามองไปยังเซี่ยจี้ไป๋ที่พยุงข้อมือฉันอยู่ กล่าวอย่างขี้เล่นว่า “งั้นเหรอคะ?”ฉันชักมือกลับอย่างไม่แสดงอารมณ์ หลังจากกล่าวขอบคุณแล้ว ก็กล่าวอย่างจริงจังว่า “ข้อเสนอของหมอเซี่ยฉันจะพิจารณาอย่างจริงจังค่ะ”เจิ้งซินหรานเบิกตากว้าง กล่าวอย่างอยากรู้ “ข้อเสนออะไรเหรอคะ? ฉันกับพี่อวิ๋นโจวฟังได้ไหม?”เธอนิสัยร่าเริง ทั้งยังเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดในหมู่พวกเรา หากเปลี่ยนเป็นปกติ ฉันคงไม่ไปสนใจอะไรกับเธอ แต่ว่าตอนนี้ ในใจของฉันกลับเกิดความรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว“ลมแรงเกินไป ฉันกลับก่อนละ”เซี่ยจี้ไป๋เดินตามทันที “ได้ ไปด้วยกัน”ก่อนเข้าห้องโดยสาร ฉันได้ยินเสียงสาวน้อยตำหนิตัวเองอย่างเลือนลาง “ฉันถามคำถามที่ไม่ควรถามหรือเปล่าคะ?”น่าจะเป็นการพูดให้จี้อวิ๋นโจวฟังแต่เหตุผลที่ฉันกลับห้องโดยสารไม่ใช่เพราะหาข้อแก้ตัว วันนี้ทั้งวันฉันรู้สึกไม่สบายนิดหน่อย ตอนนี้ความรู

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status