และผมก็ปล่อยให้เธอเดินกลับไปสนุกกับเพื่อนต่อ ในเมื่อเธอบอกว่าจะกลับก็ต่อเมื่อร้านปิด ผมก็ตามใจเธออย่างไม่เรื่องมาก สั่งลูกน้องไปบอกดีเจให้ประกาศว่าวันนี้ร้านปิดห้าทุ่ม และชดเชยโดยการไม่คิดค่ามิกเซอร์และกับแกล้มทุกโต๊ะ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเอาไว้ แต่จะให้ฟรีเลยคงจะไม่ได้เพราะแต่ละโต๊ะสั่งเครื่องดื่มดุดุกันทั้งนั้น ไหนจะค่าแรงพนักงานค่าน้ำค่าไฟที่ต้องจ่ายอีก ทำคนตัวเล็กหันขึ้นมามองห้องทำงานของผมตาขวางทันทีเมื่อได้ยินประกาศ 'หึ' ผมทำผิดตรงไหน ออกจะใจดีกับเธอมากด้วยซ้ำ
พอห้าทุ่มปุ๊บไฟในร้านก็ปรับแสงลงปั๊บตามคำสั่งของผม ยืนจับตามองคนตัวเล็กอยู่นานกว่าเธอจะเดินขึ้นมาหาผมบนห้องทำงาน ผมเลยกลับมานั่งยกแก้วเหล้าแกว่งไปมาอย่างใจเย็น ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครทำอะไรเธอ เพราะตลอดทางมีลูกน้องของผมคอยจับตาดูแลความปลอดภัยของเธออยู่แล้ว "พี่ฟิล์มละคะ" "พี่ให้กลับไปแล้ว" "ยุ่งมาก" "จะกลับเลยมั้ย พี่ไปส่ง" "ก็ร้านปิดแล้วนี่ โฟก็ต้องกลับรึป่าวเอ่ย" "..." นั่งมองเด็กดื้อที่เวลานี้ยืนกอดอกกลอกบนไปมาทุกคำที่พูดกับผม แถมยังทำสีหน้าเอาแต่ใจเชิดเชิดเหวี่ยงเหวี่ยงอีก ผมได้แต่กัดฟันมองอย่างอดทน เพี๊ยะ! "พี่ติณโฟเจ็บนะ" แต่ก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปฟาดก้นงอนๆ ระบายความมันเขี้ยวสักหน่อย ทำเธอโวยวายลั่นถลึงตาใส่จนหน้าแดงด้วยความโมโหเพราะทำอะไรผมไม่ได้ ได้แต่ยืนควันออกหูอยู่อย่างนั้น "ให้พี่เป่าให้มั้ย" "จิ๊ โฟจะฟ้องป๊า" "หึ กลัวแล้วคับผม" ผมยกแก้วเหล้าขึ้นมาจิบอย่างอารมณ์ดี เวลาเธอเชิดหน้างอนๆ เอาแต่ใจดูน่ามันเขี้ยวมากอยากจะจับมาฟัดแก้มป่องๆ ให้เข็ด "นอนคอนโดพี่นะ" เขาเอ่ยสิ่งที่ตัวเองต้องการทันทีที่ขึ้นรถ "อยากนอนห้องโฟ" ฉันก็ตอบกลับไปอย่างไม่ยอมกัน จะให้ยอมได้ยังไง เขาทำฉันหงุดหงิดอยู่นะ "ได้" "โฟอยากนอนคนเดียว" "ไม่" "พี่ติณเอาแต่ใจ" "ก็จริง" ไม่ใช่ว่าเราจะไม่เคยนอนด้วยกัน เอาเป็นว่าตั้งแต่ฉันจำความได้ภาพที่พี่ติณนั่งอยู่ข้างเตียงเป็นภาพที่ชินตามาก จนกระทั่งฉันเข้ามหาวิทยาลัยและย้ายมาอยู่ที่คอนโดเดียวกับพี่เลนส์พี่ฟิล์มแต่คนละชั้น พี่ติณก็ยังมาค้างที่คอนโดฉันอยู่บ่อยครั้งบางวันก็มารับฉันไปคอนโดเขา จนที่ห้องของเราสองคนมีเสื้อผ้าของเราทั้งคู่ไว้พร้อม แต่อย่าเข้าใจผิดกันนะ ฉันกับพี่ติณยังไม่ได้ไปถึงขั้นเรื่องอย่างว่ากันหรอก แค่นอนจับมือกันเฉยๆ แค่นั้นแหละ ฉันพูดจริงๆ "โฟอยากแวะกินโจ๊ก พี่ติณกินมั้ย" "กินได้" และสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันอนุญาตให้เขาเข้ามาใกล้ได้ ก็เพราะความตามใจของเขานี่แหละ ถึงแม้ว่าจะดุจะขัดใจฉันอยู่บ้าง แต่สุดท้ายพี่ติณก็เป็นคนคอยพาฉันไปกินของอร่อยๆ พาไปช้อปปิ้ง พาไปเที่ยว เพราะว่าพี่แฝดสลับกันบินไปดูงานบ้างโดนพี่ติณแย่งซีนบ้าง เหมือนวันนี้ที่ให้พี่ฟิล์มกลับไปก่อนนั่นแหละ "โจ๊กหมูไม่ใส่เครื่องใน ใส่ไข่เค็มสองครับ" "พาแฟนไปนั่งรอก่อนนะพ่อหนุ่ม" "ครับ" "พี่ติณมานั่งเบียดโฟทำไมคะ" "ที่ตั้งกว้าง" "จิ๊" จุ๊บ "งอแง" ขโมยจูบฉันอีกแล้วนะ เป็นแบบนี้ทุกทีเลย ทุกครั้งเวลาไปกินข้าวด้วยกัน พี่ติณก็จะมานั่งลงข้างกันไม่ยอมเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามอย่างตอนนี้ก็ขยับเก้าอี้พลาสติกสีแดงเข้ามาเบียดฉัน จนแทบจะเกยตักกันแล้ว เดี๋ยวก็ขึ้นไปนั่งทับให้ขาชาเลยซะดีมั้ยเนี่ย ฟู่ ฟู่ "อ้าปาก มัวแต่เล่นมือถือ" "ก็มันร้อนนี่ โฟรอให้อุ่นๆ ก่อน" "พี่เป่าให้แล้ว" "โฟขอหมูด้วยสิคะ" "ครับ" นั่งมองตัวเล็กเล่นมือถือเข้าแอพนั้นดูแอพนี้อย่างเพลิดเพลิน ผมเลยทำหน้าที่ตักโจ๊กในชามมาเป่าจนหายร้อนและป้อนเข้าปากสีกุหลาบอย่างตามใจสลับกับกินของตัวเองจนหมด นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ผมชอบเลือกนั่งข้างเธอ ถ้าไม่ติดว่าเป็นที่สาธารณะผมก็อยากอุ้มเธอมานั่งบนตักกว้างนี้ด้วย เพราะชอบกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเธอที่ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่อยู่ใกล้ "ง่วง?" "ค่ะ" "มานอนตรงนี้มา" "..." หลังจากกินโจ๊กกันเสร็จ ผมก็จูงมือตัวเล็กไปขึ้นรถขับกลับคอนโดเธอ เปิดลิสต์เพลงโปรดของเธอคลอเบาเบา จับมือนุ่มนิ่มมาบีบเล่นระหว่างทางเพลินดีนะ... แต่คงเป็นเพราะแอร์ที่เย็นฉ่ำ หรืออาจจะเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์และหนังท้องที่ตึงจากการกินอิ่ม มองเธออีกที ตัวเล็กก็นั่งสัปหงกเอนไปเอนมาจนผมกลัวว่าจะไปชนเข้ากับกระจก เลยอุ้มมานอนบนตักให้เธอกอดคอซบอกผมสบายๆ มีมือใหญ่โอบเอวบางไว้แทนผ้าห่มชั่วคราวตลอดทาง "โฟ ถึงแล้ว" "น้องโฟกัสครับ" "อือ อือ" "หึ" ฟอด ตอนเด็กขี้เซายังไง วันนี้ตัวเล็กของผมก็ขี้เซาเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ผมเลยต้องค่อยๆ อุ้มเธอในท่าเจ้าสาวเดินเข้าลิฟต์ส่วนตัวขึ้นไปบนห้องของเธอ วางตัวเล็กนั่งบนชั้นวางรองเท้าและก้มลงถอดรองเท้าส้นเข็มให้อย่างเบามือ ก่อนจะพาไปนั่งหลับต่อที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าในห้องน้ำ เช็ดเครื่องสำอางบนใบหน้าหวานซ่อนเปรี้ยวจนหมด แต่ที่ทำให้ผมยืนชั่งใจอยู่นานก็เพราะกำลังคิดว่าจะแค่เช็ดตัวหรือจะอาบน้ำให้ร่างนุ่มนิ่มนี้ดี ถ้าเช็ดตัวเฉยๆ ตัวเล็กก็จะนอนไม่สบายเท่าไหร่แต่ถ้าอาบน้ำให้เลย กลายเป็นผมนี่แหละที่จะลำบากทีหลัง เลยตัดสินใจกระซิบถามความสมัครใจของแมวน้อยขี้เซาก่อนจะได้ไม่ตื่นมาโวยวายกันทีหลัง "โฟ เช็ดตัวหรืออาบน้ำ" "หืม" "อยากเช็ดตัว หรือ อยากอาบน้ำ" "เช็ดตัว โฟง่วง" "จะเช็ดเอง หรือ พี่เช็ดให้" "พี่ติณ" เสียงงุ้งงิ้งเหมือนลูกแมวขี้อ้อนนิดๆ ทำผมอดยิ้มอย่างเอ็นดูไม่ได้ เลยกดริมฝีปากลงไปที่ปากเล็กๆ นั่นหนึ่งทีพอหอมปากหอมคอ จุ๊บ "รอแป็บนะ" เวลาหลับก็น่ารักเหมือนลูกแมวตัวเล็กตัวน้อย เวลาตื่นบทจะเอาแต่ใจก็เหมือนลูกแมวพองขนขู่ฟ่อฟ่อ น่ามันเขี้ยวจนอยากจับตีก้นหลังจากถ่ายรูปกันเสร็จ ครอบครัวของเราสองคนก็พากันไปทานมื้อเย็นฉลองให้กับคนเก่งที่โรงแรมสุดหรูของอากาย ซึ่งทางผู้ใหญ่ก็ได้คุยกันถึงฤกษ์แต่งงานที่ผมขอให้มามี๊หาฤกษ์ที่เร็วที่สุดให้...อีกสองสัปดาห์ข้างหน้าทำตัวเล็กของผมบ่นอุบทันทีที่ถึงห้องเพราะกลัวจะเตรียมตัวไม่ทัน ไหนจะคอร์สเจ้าสาวไหนจะชุดที่ยังไม่ได้เลือก แถมยังยื่นคำขาดสั่งห้ามชวนและพาเธอไปหาของกินอร่อยๆ เด็ดขาด ทำผมถึงกับแอบขำเพราะคงไม่พ้นมีคนเอ่ยปากบ่นหิวก่อนแน่นอน"พี่ติณ" เพราะเธออยากดูซีรีย์ตอนจบ ทำให้เราสองคนย้ายที่เช็ดผมมานั่งกันอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่น ผมนั่งที่พื้นให้ตัวเล็กใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมให้อยู่บนโซฟา มีเจ้าขนฟูนอนเล่นตุ๊กตาปลาอยู่ข้างๆ"หืม" ผมเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าใสๆ ตากลมโตที่ก้มมองอยู่ก่อน"โฟขอถามอะไรหน่อยสิ" "ครับ" "ทำไมพี่ติณถึงรักโฟ" "..." เป็นคำถามที่ตอบยากมากสำหรับผม เพราะผมเองไม่เคยคิดหาคำตอบเลยสักครั้ง"ตอบมาเร็ว""เป็นความลับของพี่ไม่ได้?" ผมเฉไฉหันไปอุ้มฟินิกซ์มาเล่นบนตัก"ไม่ได้สิ" "ทำไม""ก็โฟอยากรู้""..."...ย้อนกลับไปวันนั้นวันที่เธอเกิดป๊ากับมามี๊พาผมไปหาคุณน้ามายกับอานายที่โรงพยาบาล ส่วนมินินอย
จากที่ตั้งใจจะจูบลงโทษแค่นิดนิดหน่อยหน่อยกลายเป็นเครื่องติดปลุกเสือหลับอย่างเขาให้ลุกขึ้นมาล่าเหยื่อ สองมือหนาดันไหล่บางให้ล้มตัวนอน เปลี่ยนมาค่อยๆ ลูบไล้ต้นขาขาวแผ่วเบาจนใกล้จุดอ่อนไหวที่มีเพียงแพนตี้ตัวจิ๋วปกปิด จุ๊บ"ตกลงจะสารภาพมั้ย" ริมฝีปากร้อนถอนออกจากริมฝีปากบวมเจ่อแต่ยังคงวางทาบไว้แนบชิด"อ๊ะ มะ ไม่..." นิ้วซุกซนที่เขาใช้แทนไม้เรียว ค่อยๆ เลื่อนเข้าไปสัมผัสผิวบอบบางใต้แพนตี้ลูกไม้ลูบไล้เบาเบาให้พอรู้สึกวาบหวาม ทำคนน้องหายใจติดขัด"ไม่ตอบ?" ระหว่างรอคำตอบ ไม้เรียวของเขาก็เริ่มปัดไป่เฉียดตรงนั้นนิดผ่านตรงนี้หน่อยจนน้ำหวานเริ่มเปรอะเปื้อน ทำเขาแทบจะรอไม่ไหว"ย ยอม โฟยอมแล้ว" คนตัวเล็กรีบผละตัวลุกขึ้นท่าทางเหมือนกระต่ายน้อยเพราะกลัวจะโดนเขาลงโทษจนไม่มีเรี่ยวแรงลงไปแดนซ์ต่อ ทำเขาต้องยอมลุกตามอย่างขัดใจ ก่อนจะรวบตัวนุ่มนิ่มมานั่งตักรอฟังคำรับสารภาพจากจำเลยและเป็นไปตามที่ผมคิด ทุกอย่างเป็นแผนของเด็กดื้อทั้งหมด เธอแอบโทรไปสั่งชุดสั้นๆ นี้จากร้านเดียวกันโดยไม่ให้ผมรู้ เพราะให้ไปส่งที่คอนโดมินินแทน แถมโทรไปสั่งให้ที่ร้านมาส่งด่วนเพิ่มอีกหนึ่งชุดสำหรับเพื่อนใหม่อย่างวาดฝัน ใจดีมั้ยละ
วันนี้ฉันได้ไปงานเปิดร้านเหล้าของพี่ติณกับพี่แฝดด้วยแหละ ตอนที่รู้ว่างานจัดในธีมอวกาศทำฉันตื่นเต้นมาก เพราะยังไม่เคยใส่ธีมแนวนี้มาก่อน จริงๆ ภาพในหัวไม่ใช่ชุดมนุษย์อวกาศอย่างที่ใส่อยู่ในตอนนี้หรอกนะ แต่เพื่อไม่ให้พี่ติณดุจนหน้าตึงแล้วตึงอีก ฉันก็เลยเลือกชุดนี้แล้วก็บังคับให้เขาใส่คู่กัน ตรงคอนเซ็ปต์พี่ติณเป๊ะ 'มิดชิด ไม่โป๊'"พี่ติณ เสร็จยัง โฟเสร็จแล้วนะ""เรียบร้อยครับ" "ไหน เรียบร้อยจริงรึป่าว" ฉันหมุนตัวไปดูความเรียบร้อยของชุดให้เขาพร้อมกับดูว่ารูดซิปครบมั้ยจัดทรงให้อีกนิดหน่อย พึ่งเคยเห็นพี่ติณใส่ชุดแบบนี้ครั้งแรกถึงสีหน้าจะดูไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่แต่ดูหล่อและเท่มาก จนฉันต้องขอถ่ายรูปเก็บไว้ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีโอกาสเห็นเขาแต่งตัวแบบนี้อีก"สนุกมั้ย แกล้งพี่""ใครแกล้ง โฟเปล่าแกล้งนะ" ถึงปากจะบอกปฏิเสธอย่างนั้นแต่ก็อดแอบหัวเราะไม่ได้อยู่ดี จนเขาหาทางเอาคืนโดยการรวบร่างบางที่อยู่ในชุดมนุษย์อวกาศไปกดจมูกฟัดแก้มนุ่มอยู่หลายนาทีพอให้หายมันเขี้ยวฟอด ฟอด ฟอด"พะ พอแล้วๆ ไปกันเดี๋ยวเลยเวลานะ" "ไม่อยากไปแล้ว ให้ไอ้แฝดจัดการแทน" เสียงแหบพร่ากระซิบข้างหูคนน้องบ่งบอกถึงอารมณ์
"ธีมงานอะไรดีวะ" วันนี้ผมกับหุ้นส่วนอย่างไอ้แฝดนัดประชุมกันเรื่องงานเปิดร้าน พวกผมสามคนอยากได้งานแบบปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้าวีไอพีซึ่งก็เป็นเพื่อนสนิทและนักธุรกิจที่จริงใจของพวกเรา แน่นอนว่าเรื่องหลักสำคัญที่ผมจะไม่ปล่อยให้ไอ้แฝดคิดก็คือธีมงาน"ไม่เอาชุดว่ายน้ำ""กูก็ไม่เอา" ไอ้ฟิล์มเปลี่ยนไปจนไอ้เลนส์สงสัย"ไอ้ติณกูเข้าใจ แต่กูไม่เข้าใจมึงไอ้แฝด" "ดะ เดี๋ยวคอนเทนต์ซ้ำกับวันเกิด" เพื่อนผมไม่เนียนแล้วหนึ่งอัตรา"หึ""ชุดนอน" "ไม่ / ไม่" ชุดนอนผมก็ยิ่งไม่ไว้ใจว่าเมียผมจะใส่มาแบบไหน ถ้าเกิดชวนกันกับมินินใส่แบบสายเดี่ยวผ้าลื่นสั้นๆ ผมได้ปวดหัวมากแน่ยิ่งชอบแอบชวนกันซนอยู่ด้วย เพราะงั้นตัดไฟตั้งแต่ต้นลมดีที่สุดแค่เรื่องธีมงานก็ใช้เวลาไปเกือบชั่วโมงจนโดนไอ้เลนส์ด่าชุดใหญ่ในความเรื่องมากของผมกับไอ้ฟิล์ม จนสรุปกันที่ธีมอวกาศ ซึ่งผมก็เห็นด้วยดูแปลกใหม่ดี คนมาร่วมงานจะได้รู้สึกสนุกไปกับงาน"แล้วเครื่องดื่มมึงจะเอายังไง" หัวใจสำคัญของร้านเหล้าก็คือเครื่องดื่ม"กูหาวิสกี้มาครบ เสิร์ฟตามบิลที่เปิด" แน่นอนว่าหน้าที่หาเครื่องดื่มมาให้ลูกค้าได้ดื่มสนุกๆ คือผมเพราะมีดีกรีเจ้าของร้านเหล้าก
ฟอด"ยังไม่หมดนะ" พอฉันเล่าเรื่องมากมายของห้องนี้ให้เขาฟังจนเริ่มรู้สึกคอแห้ง เขาก็กดจมูกหอมแก้มฉันฟอดใหญ่ ฉันเลยต้องรีบพูดต่อเพราะกลัวว่าเขาจะพลาดไฮไลท์ของห้องนี้"หึ มีอีก?""แน่นอนสิ" ฉันแกะแขนแกร่งที่โอบกอดเอวบางไว้ออกเปลี่ยนเป็นจับมือใหญ่พาเดินไปตรงตู้แช่เครื่องดื่มที่ดูเนียนไปกับผนังห้อง ก่อนจะกดปุ่มเล็กๆ ให้ค่อยๆ เลื่อนเปิดออกเห็นห้องด้านในฉันไม่แน่ใจว่าตอนนี้เป็นเขาหรือฉันที่รู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องเซอร์ไพร์สนี้มากกว่ากัน ดอกกุหลาบโอลิเวียออสตินสีชมพูอ่อนมากมายเต็มไปทุกพื้นที่ของห้องทั้งพื้นทางเดินและบนเพดานสูง มันสวยมากๆ และเป็นดอกไม้ที่ฉันชอบมากที่สุดชอบมากกว่าตุ๊กตาตัวโปรดซะอีก ลองแอบนับๆ ดูแล้วมันมากกว่าหนึ่งร้อยดอกแน่ๆ แต่ก่อนจะถ่ายรูปสวยๆ นี้ไว้ ขอถามให้หายสงสัยก่อนแล้วกัน"ชอบมั้ย" เป็นเขาที่แย่งถามคำถามก่อนเผยให้รู้ว่าทั้งหมดที่ฉันคิดเป็นเรื่องจริง"ของพี่ติณหรอ""อือฮึ" เขาพยักหน้าตอบรับในลำคอ"พี่ติณรู้ทั้งหมดเลยหรอ""ไม่ทั้งหมด""แต่ชอบทั้งหมด" เพียงเท่านี้ใจดวงน้อยของฉันก็เต้นแรงอีกครั้ง โดยเฉพาะแววตาวิบวับคู่นี้ที่มีไว้มองแค่ฉัน ขยันทำให้ฉันหวั่นไหวจนไม่เป็นตัวเอง
เสียงสัญญาณแจ้งเตือนของแอพลิเคชั่นกล้องวงจรส่งเสียงดังว่ามีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ในห้องทำงาน ทำผมสงสัยจนคิ้วขมวดยุ่งพันกันไปหมด จนต้องหยิบมือถือกดเข้าไปดูความผิดปกติและสิ่งที่ทุกคนไม่รู้คือ ผมแอบซ่อนกล้องวงจรปิดตัวเล็กๆ ไว้ตรงมุมห้องทำงานที่ยังตกแต่งไม่เสร็จเชื่อมเข้ากับมือถือส่วนตัว ไม่รู้ว่าวันนั้นตัวเองคิดยังไงถึงได้ทำแบบนี้เหมือนกัน "หึ" มาวันนี้ภาพที่ผมเห็นในกล้องทำลายความเหนื่อยล้าจากงานที่มีจนหมด จากคิ้วที่ผูกเป็นปมเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มจนเห็นลักยิ้มสองข้าง อยากจะบินกลับไปหาคนตัวเล็กที่กำลังนั่งทาสีผนังอยู่ที่พื้น อยากรู้ว่าเธอจะใช้วิธีไหนพาผมไปดูของขวัญที่เธอทำให้ ที่สำคัญอยากให้รางวัลคนเก่งด้วยแน่นอนว่าความลับไม่มีในโลก กล้องที่ผมซ่อนไว้มีคนรู้เพิ่มหนึ่งคนคือ แนนนี่ ที่ปีนบันไดขึ้นมาทาสีผนังด้านบนส่งยิ้มเบาเบาผ่านกล้องมาให้โดยที่ไม่เผยความลับนี้ให้คนตัวเล็กรู้ ถือว่าทำได้ดีเพราะผมก็เก็บความลับไว้ให้เหมือนกันและตลอดสองสามวันมานี้ที่ผมอยู่ต่างประเทศ ทุกวันหลังจากกลับมาถึงห้องพักสิ่งแรกที่ผมเลือกทำคือการเปิดกล้องดูว่าวันนี้เธอทำอะไรให้บ้าง เหมือนตอนนี้ที่เธอกำลังสั่งให้ช่างยกโซ