ตอนที่ 2 รัญจวนใจ (1)
หวงลู่ ควบม้าออกจากเมืองหยางปิน เพื่อรีบเดินทางกลับไปหาคนรักที่เมืองหยางอิน ด้วยได้สัญญากับแม่นางซูเจียว หญิงงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองหยางอินไว้ว่า หลังจากได้นำส่งสินค้าเรียบร้อยแล้ว จะรีบเดินทางกลับไปหานางทันที เพราะตอนนี้มีแต่คุณชายทั้งหลายมาแย่งกันเกี้ยวนาง เขาเป็นแค่พ่อค้ากลัวว่านางจะเปลี่ยนใจ ดังนั้นเขาไม่อยากเสียเวลารั้งรอที่จะออกเดินทางในเช้าวันถัดไป ระยะทางจากเมืองหยางปิน ไปถึงเมืองหยางอิน ถ้าควบม้าด้วยความเร็วก็ใช้เวลาไม่กี่ชั่วยาม
แต่ว่าตอนนี้กว่าเขาจะได้เดินทางออกจากเมืองหยางปินนั้นช้าเกินไป เมื่อเช้าที่เขามาถึง กว่าจะตรวจเช็กสินค้า และ รับเงินเสร็จก็ปาเข้าไปยามเซินแล้ว หลังจากนั้นหวงลู่ ก็รีบเดินทางออกจากเมืองหยางปินทันที ก่อนที่ประตูเมืองจะปิดในยามอิ่ว
นี่ก็ใกล้เข้ายามซวีแล้ว หลังจากเขาควบม้ามาได้เกือบ สองชั่วยาม เมื่อหวงลู่ขี่ม้าออกนอกเมืองมา เขาขี่ม้าเข้าป่าตามเส้นทางที่เริ่มเลี้ยวลดคดเคี้ยว ยามนี้พระอาทิตย์ตกดินลับฟ้าไปแล้ว ได้แต่อาศัยแสงจันทร์นำทาง เมื่อเริ่มผ่านเข้าหุบเขาหยางจี เขามองเห็นแสงไฟสลัวๆ อยู่ข้างหน้า เขาจึงชะลอฝีเท้าม้าให้ช้าลง เมื่อเห็นเป็นโรงเตี๊ยม เขาจึงคิดว่าแวะเข้าพักสักประเดี๋ยว แล้วค่อยเดินทางต่อ
เมื่อถึงโรงเตี๊ยมฝูหลิว หวงลู่ก็กระโดดลงจากหลังม้าและเดินเข้าไปด้านใน เขาพบเสี่ยวเอ้อน้อยกำลังวิ่งออกมาต้อนรับ
"คุณชายท่ายนี้ เชิญๆ ขอรับ" เสี่ยวเอ้อน้อยกุลีกุจอวิ่งมาต้อนรับทันทีที่เห็นหวงลู่ก้าวเท้าเดินเข้ามา "คุณชาย ท่านต้องการห้องพัก หรืออาหารดีขอรับ"
"ข้าขอแค่อาหารก็พอ ข้าต้องรีบเดินทางต่อ" หวงลู่รีบบอกความต้องการของเขา ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะ
"ได้ๆ ขอรับ รบกวนคุณชายรอสักครู่นะขอรับ ข้าน้อยจะไปบอกพ่อครัวสักประเดี๋ยว" ว่าแล้วเสี่ยวเอ้อน้อยก็เดินหายไปหลังร้าน
เวลาผ่านไปประมาณ 1 เค่อ เสียวเอ้อน้อยก็ยกสำรับอาหารออกมาวางเรียงรายบนโต๊ะ
"เชิญขอรับ นายท่าน" เสี่ยวเอ้อน้อยกล่าวก่อนจะเดินออกไป
"อืม" หวงลู่ พยักหน้า ก่อนจะลงมือทานอาหารด้วยความเร่งรีบ
ขณะที่หวงลู่กำลังนั่งทานอาหารอยู่นั้น จังหวะที่เขาเงยหน้าขึ้นมา เขาต้องตกตะลึง เมื่อเห็นสตรีที่งดงามดั่งเทพเซียนสวมใส่อาภรณ์ที่ตัดเย็บจากผ้าแพรสีขาว ปลิวตามแรงเดินเมื่อนางย่างก้าวเดินลงบันได เส้นผมสีดำขลับที่ยาวสยายตัดกับใบหน้าขาวนวล ดวงตาหวานฉ่ำเป็นประกายยามต้องแสงไฟ ริมฝีปากบางสีชมพูมันวาว นั้นพาให้ใจที่เคยแน่วแน่ของหวงลู่เริ่มหวั่นไหว
หากกล่าวว่า แม่นางซูเจียวเป็นสตรีที่งดงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองหยางอิน ฉะนั้นแล้วสตรีผู้นี้ คงเป็นสตรีที่งดงามเป็นอันดับหนึ่งของแผ่นดิน
หวงลู่มองตามนางทุกย่างก้าวเดิน จากที่เร่งรีบทานอาหาร กลับหยุดชะงักไปเสีย
"ซือจง ข้าจะไปอาบน้ำที่ลำธารด้านหลัง ถ้าเจ้าต้อนรับแขกเสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมตรวจตราความเรียบร้อยด้วย" หลิวซือซือ นางเดินมาหาเสี่ยวเอ้อน้อย เมื่อพูดคุยธุระเสร็จเรียบร้อยนางก็เดินจากไป
กลิ่นหอมหวานเมื่อนางเดินผ่านโต๊ะที่หวงลู่ ทานอาหารอยู่นั้นยังคงลอยอยู่ในสายลม หวงลู่วางตะเกียบลงก่อนจะเรียกเสี่ยวเอ้อน้อย
"ขอรับนายท่าย" เสี่ยวเอ้อน้อยรีบวิ่งเข้ามาหาหวงลู่ทันที
บัดนี้หวงลู่เริ่มร้อนรุ่มทั้งกาย ทั้งใจ มังกรที่เคยหลับใหลก็ลุกขึ้นมาผงาดจนเขาปวดร้าวไปหมด มีหนทางเดียวที่จะทำให้เจ้ามังกรตัวเขื่องนั้นสงบได้ ก็คือ....
เมื่อคิดได้ดังนั้น หวงลู่ก็ไม่รอช้ารีบปลดเปลื้องอาภรณ์จนตัวเขาเองก็เปลือยเปล่าเช่นกัน เขาค่อยๆ ย่องฝีเท้าลงไปในลำธาร และดำผุดดำว่ายจนไปใกล้หลิวซือซือที่กำลังยืนหันหลังอยู่ใกล้โขดหินยักษ์
เมื่อเขาโผล่หัวขึ้นไปประชิดข้างหลังนาง เขาก็ใช้สองมือโอบกอดเต้าอวบอิ่มทันที ก่อนจะบีบขยำอย่างได้ใจ
"อะ..ท่านจะทำอะไรนะ" ซือซือร้องทันทีเมื่อโดนหวงลู่จู่โจม
"ข้าจะทำให้เจ้ามีความสุขอย่างไรเล่า แม่นาง" หวงลู่กระซิบริมหูนางเสียงกระเส่า เขาใช้ลิ้นร้อนเลียใบหูนาง ก่อนจะเปลี่ยนมาซุกไซ้ซอกคอขาวระหงของนาง
หวงลู่เลื่อนมือข้างหนึ่งลงไปยังกลีบบุปผาที่อวบอูมเต็มมือหนาของเขา และมืออีกข้างจะยังคงนวดเฟ้น และบีบบี้ยอดปทุมถันจนแข็งเป็นไต
"อะ...อ่า...ซี๊ด อ่า" ซือซือร้องครางเบาๆ เมื่อถูกมือหนาโจมตีทั้งข้างบนและข้างล่าง นางรู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังถูไถอยู่แถวๆ บั้นท้ายของนาง
หวงลู่อดใจไม่ไหว เขาสอดนิ้วมือเข้าไปยังกลีบบุปผานางที่ บัดนี้กำลังตอดรัดนิ้วของเขาอย่างแรง อีกมือเขาก็บีบนวดเฟ้นหน้าอกของนาง มังกรที่เริ่มขยายใหญ่ของเขากำลังถูไถร่องก้นนุ่มนิ่มขาวนวลของนางอย่างมัวเมา
"อ่า แม่นาง ท่านช่างงดงามทุกสัดส่วนเสียจริง อ่า...ท่านจะทำให้ข้าทนไม่ไหวแล้ว ซี๊ด...อ่า" หวงลู่ซุกไซ้ซอกคอนาง เขาใช้ลิ้นร้อนเลีย และดูดเม้มจนลำคอขาวระหงขึ้นสีแดงช้ำ
"อ่า..คุณชาย ในเมื่อท่านทนไม่ไหว แล้วท่านจะทนทำไมเจ้าค่ะ อ่า...ซี๊ด" นางกล่าวพลางแอ่นอกสู้มือหนา แผ่นหลังขาวนวลนั้นถูไถหน้าอกแกร่งแข็งแรง และสะโพกของนางก็บดเบียดเจ้ามังกรยักษ์ที่กำลังถูไถร่องก้นของนางอย่างยั่วยวน
เมื่อหวงลู่ได้ยินนางกล่าวเช่นนั้น ก็จับนางหันหน้ากลับมาทางตน เขาก้มลงดูดกลืนทรวงอกอวบอิ่มขาวนวลตรงหน้าทันที เขาดูดดึงยอดปทุมถันอย่างหิวกระหาย และใช้มืออีกข้างนวดเฟ้นอย่างหนักหน่วง
"อ่า...ซี๊ด คุณชายใจเย็นๆ เจ้าค่ะ อ่า" นางกล่าวพลางแอ่นอกอวบอิ่มเข้าไปใกล้ริมฝีปากหนา
หวงลู่ทนไม่ไหวแล้ว เขาอุ้มนางไปนอนบนโขดหินยักษ์ และจับนางแยกขาออกจากกัน ก่อนจะสอดใส่มังกรยักษ์เข้าไปทันที
"อะ" นางร้องตกใจ ทันทีที่หวงลู่สอดแก่นกายเข้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วเขารีบโยกขยับทันที อย่างหิวกระหาย
"อ่า..อ่า ซี๊ด...อ่า อ่า ซี๊ด"นางครางอย่างเสียวกระสันเมื่อเขาโยกขยับอย่างแรง
ปั๊บ....ปั๊บ....ปั๊บ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นป่าที่เงียบสงบ
"อ่า...อ่า...ซี๊ด แม่นาง...อ่า ซี๊ด" หวงลู่เสียวซ่านจึงเร่งจังหวะกระแทกกระทั้น จนในที่สุดทั้งสองก็ปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน "อ่าห์" หวงลู่หอบหายใจหลังจากปลดปล่อยน้ำนมสีขาวขุ่นข้างในตัวนาง
หลิวซือซือ นอนหอบหายใจอยู่บนโขดหินยักษ์ ดวงตาฉ่ำน้ำที่แสนหวานยั่วยวนนั้นกำลังมองหวงลู่ แล้วนางก็ยกยิ้มน้อยๆ ริมฝีปากบางสีชมพูมันวาว นั้นทำให้หวงลู่มองตาม แล้วอยากลิ้มลองว่าจะหวานสักเพียงใด ไม่รอช้าเขาจึงก้มลงไปบดจูบนางอย่างหิวกระหาย เขาดูดเม้มริมฝีปากเพื่อดูดน้ำหวานแสนหอม ก่อนจะส่งลิ้นร้อนเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของนาง อย่างไม่มีใครยอมใคร ทำให้เกิดเสียงจ๊วบจ๊าบๆ ดังลั่นป่าเขา
หลิวซือซือ ใช้มือโอบรอบลำคอเขา แล้วใช้ขาขาวนวลเกี่ยวกระหวัดเอวของหวงลู่ ทำให้แก่นกายที่เพิ่งสงบกลับมาตั้งชูชัน เมื่อถูกกลีบบุปผานางถูไถขึ้นลง
"อ่า" เสียงครางของหวงลู่หลุดออกมา เมื่อเขาถอนจูบจากริมฝีปากบางสีชมพูมันวาว ที่บัดนี้กลับบวบเป่งจากแรงดูดเม้มของหวงลู่
เมื่อแก่นกายของเขาตั้งชันจนขยายใหญ่ เขาจึงสอดใส่แก่นกายลงไปยังกลีบบุปผาอวบอูม ที่ยังคงมีน้ำขาวขุ่นไหลย้อยออกมา และเขาสอดใส่แก่นกายจนสุดแล้ว เขาก็อุ้มนางขึ้นมาจากโขดหิน นางยังคงใช้สองมือที่โอบรอบคอเขากระชับแน่นขึ้น ทรวงอกอวบอิ่มบัดนี้กำลังบดเบียดหน้าอกแกร่งแข็งแรงของเขา ขาขาวนวลเกี่ยวเอวเขาแน่น
หวงลู่ใช้สองมือจับสะโพกกลมกลึงของนางทั้งสองข้างก่อนจะจับนางยกขยับสะโพกขึ้นและลง
"อ่า...อ่า..อ่า เร็วอีกนิดเจ้าค่ะ คุณชาย ซี๊ดดดด อ่า" หลิวซือซือครางอย่างกระสันเสียว
ตั๊บบบ ตั๊บบบบบ เสียงโยกขยับที่เร่งจังหวะตามอารมณ์ที่กำลังร้อนเป็นไฟ แม้หวงลู่ยังยืนอยู่ในลำธาร
"อ่า อ่า ซี๊ดดดด อ่า...แม่นาง อ่า...ท่านบีบรัดมังกรข้าจนจะขาดแล้ว อ่า....อ่า ซี๊ด" หวงลู่เมื่อโดนผนังอ่อนนุ่มภายในของนางตอดรัดอย่างแรง เขาก็ใกล้ถึงสวรรค์เต็มทน หวงลู่จึงเพิ่มแรงกระแทกกระทั้น เขาทั้งบีบขยำก้นขาวนวลนุ่มในมือ ปากก็งับยอดปทุมถันที่ขยับขึ้นลงตามจังหวะโยกขยับของเขา
"อ่า อ่า ซี๊ดดด อ่า..คุณชายยยย ซี๊ด อ่า" ซือซือครางเสียวซ่านบิดกายไปมาตามแรงโยกขยับของหวงลู่ บัดนี้นางเสียวซาบซ่านไปทุกสัดส่วนที่ถูกหวงลู่จับ จูบ ดูด และบีบขยำ "อ่าห์" ในที่สุดนางก็ไปถึงฝั่งฝันก่อนหวงลู่ ผนังภายในจึงบีบรัดหวงลู่อย่างแรง จนในที่สุดหวงลู่ก็ไปแตะถึงสวรรค์ตามนาง "อ่าห์" เขากระตุกถี่รัวก่อนจะอัดฉีดน้ำขาวขุ่นเข้าไปจนเต็มกลีบบุปผานาง มันล้นทะลักจนไหลย้อยลงมาตามขาของหวงลู่ เขายังคงแช่แก่นกายในตัวนางอยู่ ขณะที่อุ้มนางยืนอยู่ในลำธาร
ลมหายใจอุ่นๆ ของหลิวซือซือ รดต้นคอของหวงลู่จนเขาขนลุกขนชันด้วยความเสียว เขาจึงวางซือซือลงบนโขดหิน แล้วก้มลงไปบดจูบนางอย่างเร่าร้อน ลิ้นทั้งสองเกี่ยวกระหวัดจนเกิดเสียงน่าอายขึ้น เมื่อเขาถอนจูบออกมา เขาใช้ลิ้นร้อนไล้ต่ำลงมาเรื่อยจนถึงทรวงอกอวบอิ่มที่กำลังกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจหอบของนาง เขาดูดเม้มทรวงอกของนางอย่างหิวโหย ก่อนจะงับเอายอดประทุมถันเข้าเต็มปาก หวงลู่ยังคงใช้ลิ้นร้อนดูดเม้มทรวงอกอวบอิ่มขาวนวลจนขึ้นสีกุหลาบ เขาดูดดึงจนพอใจ ก็ย้ายปากไปยังยอดปทุมถันอีกข้าง ก่อนจะใช้ลิ้นร้อนเขี่ยจนมันตั้งแข็งขึ้นเป็นไตอีกครั้ง
บัดนี้มังกรที่เพิ่งจะสงบหลังได้ปลดปล่อยไปในกายของนาง กำลังพองขยายใหญ่เต็มกลีบอวบอูม เขาจึงเริ่มโยกขยับช้าๆ
"ซี๊ด..คุณ...ชาย อ่า อ่า ท่านนี่ไม่รู้จักอิ่มเลยนะเจ้าค่ะ อ่า..อ่า" ซือซือ เริ่มส่งเสียงหวานหลังจากหวงลู่เริ่มขยับกายอีกครั้ง
"อ่า...ซี๊ด ก็เจ้างดงามเยี่ยงนี้ ข้ากินอย่างไรก็ไม่อิ่มสักที อ่า...อ่า ซี๊ด " หวงลู่เสียวซ่านขึ้นมาเมื่อนางโยกขยับสะโพกสวนกลับมาอย่างร้อนแรง หวงลู่จึงถอนแก่นกายออก ก่อนจะจับนางพลิกคว่ำในท่าคลานเข่า จากนั้นเขาสอดแก่นกายที่กำลังแข็งขึงเข้าไปทีเดียวจนสุด
"อ่า" นางร้องอย่างเสียวกระสันเมื่อเขาแทงพรวดเข้ามาทีเดียวจนสุด ทำให้ผนังอ่อนนุ่มภายในของนางขมิบรัวเร็วตอดรัดแก่นกายของหวงลู่ทันที
"ซี๊ด อ่า..อ่า...ซี๊ด อ่า อ่า อ่า" หวงลู่เองก็เสียวซ่านขึ้นมาอีกครั้งจนเขาก็ครางไม่เป็นภาษา เขาจึงใช้มือสองข้างยึดสะโพกของนางจนแน่นแล้วรีบเร่งจังหวะอย่างรัวเร็ว
"อ่า อ่า อ่า ซี๊ดดดด" ภายในของนางยังคงตอดรัดไม่หยุด จนเขาเพิ่มแรงกระแทกกระทั้นเข้าไปอีก จึงเกิดเสียงดังลั่นป่าเขา
ตั๊บบบบ ตั๊บบบบ ตั๊บบบบบ
"อ่า อ่า คุณชาย อ่า ซี๊ดดดดด อีกนิดเจ้าค่ะ อ่า อ่า อ่า ซี๊ด" ซือซือใกล้จะถึงฝั่งฝันแล้วจึงเร่งหวงลู่ พลางบิดกายไปมาอย่างเสียวซ่าน
"อ่า อ่า อดทน ซี๊ดดดด อีกนิด อ่าอ่า ข้าก็ใกล้แล้วแม่นาง อ่า อ่า อ่า ซี๊ด" เขาเร่งจังหวะกระแทกอีกสองสามครั้ง แล้วทั้งคู่ก็ปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง "อ่าห์"
ในที่สุดทั้งคู่ก็ไปถึงสวรรค์พร้อมกัน หวงลู่ล้มลงบนแผ่นหลังขาวนวลของซือซือที่ยังคงอยู่ท่าเดิม แก่นกายที่ปลดปล่อยน้ำนมสีขาวขุ่นยังค้างคาอยู่ในกายนาง ผนังอ่อนนุ่มนั่นยังคงขมิบตอดรัดไม่หยุด ลมหายใจอุ่นร้อนรดลงบนแผ่นหลังขาวนวล เขาบดจูบลงบนแผ่นหลังขาวนวลของนางอีกครั้ง ก่อนจะถอนแก่นกายออก แล้วอุ้มนางเข้าสู่อ้อมอกแกร่งแข็งแรง ก่อนจะพานางขึ้นมาจากลำธาร
"แม่นาง ท่านพักอยู่ที่ใด ให้ข้าไปส่งท่านดีหรือไม่" เขาก้มลงกระซิบแผ่วเบาใกล้ๆ ใบหูของนาง ก่อนจะใช้ลิ้นร้อนเลียและขบเม้ม
"คุณชาย ท่านจะไปส่งข้าที่ห้องของข้า หรือจะไปส่งข้าที่ห้องของท่านดี" นางกล่าวพลางกอดกระชับรอบคอแกร่ง แล้วบรรจงจูบลงบนหน้าอกแกร่ง
เมื่อหวงลู่เห็นสายตาฉ่ำน้ำที่แสนยั่วยวน เขาก็ไม่รอช้า รีบหยิบอาภรณ์ที่เขาเปลื้องอยู่หลังต้นไม้มาคลุมให้นาง ก่อนจะรีบอุ้มนางกลับห้องพักของเขาอย่างรวดเร็ว
ตอนที่ 4 อิ่มเอมหลังจากหมิงเจ๋อไปทำธุระที่เมืองหยางปินเสร็จเรียบร้อย บัดนี้เขากลับมาที่สำนักได้ราวๆ ครึ่งเดือน เรื่องในคืนนั้นยิ่งคิดยิ่งเสมอเหมือนความจริง เขาอยากหาทางพิสูจน์ให้ได้ แต่ก็เกรงว่าจะเป็นเช่นเดิม ดังนั้นจึงหาใครสักคนที่เขาไว้ใจได้พาไปด้วย จะได้แน่ใจในเรื่องที่ค้างคามาตลอดครึ่งเดือนเมื่อเขาเห็นหานลู่ ศิษย์น้องที่สนิทกันเข้ามาหาที่ห้องหนังสือ จึงได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้หานลู่ฟัง เขาได้ชักชวนหานลู่ให้ไปด้วย ในทีแรกหานลู่ปฏิเสธ แต่ด้วยความเคารพในตัวศิษย์ทำให้เกิดความเกรงใจจึงได้เผลอตกปากรับคำหลังจากได้ขออนุญาตอาจารย์ออกมาทำธุระสักวันสองวัน ก็ได้พากันควบม้าออกเดินทางมาจนถึงหุบเขาหยางจี แต่ทั้งสองได้วนหาโรงเตี๊ยมทั่วหุบเขาก็หาไม่พบ จึงควบม้าวนไป วนมาจนพลบค่ำ"เฮ้อ..ศิษย์พี่ใหญ่ นี่เราก็วนหาตั้งนานแล้วนะขอรับ ยังหาโรงเตี๊ยมที่ท่านว่ายังไม่พบเลย หรือว่าคืนนั้นท่านจะฝันไปขอรับ" หานลู่ชักจะถอดใจ หลังจากพวกเขาขี่ม้าวนทั่วหุบเขากลับไม่พบโรงเตี๊ยมที่หมิงเจ๋อกล่าว"ข้าก็คิดเช่นนั้น งั้นเรากลับกันเถอะ" ในที่สุดหมิงเจ๋อก็ถอดใจ เขาจึงขี่ม้านำทางเพื่อกลับสำนัก "ช้าก่อน..ศิษย์พี่ใหญ่
ตอนที่ 3 รัญจวนใจ (2)เมื่อกลับถึงห้องพัก เขาก็วางซือซือลงบนเตียงหนานุ่ม แล้วหวงลู่ก็ขึ้นคร่อมนางทันที ทั้งสองตาจ้องตาก็เกิดความร้อนรุ่มขึ้น เขาก้มลงบดจูบนางอีกครั้งอย่างร้อนแรง ริมฝีปากหนาไล่งับริมฝีปากบาง ก่อนจะส่งลิ้นร้อนเข้าไปเกี่ยวกระหวัด เมื่อเขาถอนริมฝีปากหนาออกมาซือซือก็ลุกขึ้นนั่ง แล้วผลักหวงลู่หงายหลังลงไปนอนบนที่นอน นางค่อยๆ ลุกคลานมาหาเขาช้าๆ ก่อนจะจับแก่นกายของเขาที่สงบไปแล้วขึ้นมาชัดรูดช้า"อ่า แม่นาง ท่านจะทำอะไร อ่า..อ่า" หวงลู่เพิ่งเคยถูกหญิงสาวรูดรั้งแก่นกายครั้งแรกก็กระสันเสียว ซูเจียวเป็นสตรีขี้อาย นางไม่เคยจับของเขารูดรั้งมาก่อน ความรู้สึกแปลกใหม่นี้ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง อุณหภูมิในร่างกายเริ่มร้อนขึ้นตามแรงรูดรั้ง "อ่า อ่า อ่า แม่นาง ซี๊ด อ่า เจ้าทำให้ข้าเสียวยิ่งนัก" หวงลู่ครางอย่างเสียวซ่านซือซือจึงก้มลงไปก่อนจะใช้ลิ้นร้อนไล้เลียแก่นกายที่เริ่มขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง นางค่อยๆ ละเลงลิ้นขึ้นลงช้าๆ ก่อนจะเร่งความเร็ว เมื่อหวงลู่เริ่มครางไม่เป็นภาษานางก็ใช้ปากครอบครองแก่นกายที่ขยายใหญ่โต แล้วค่อยๆ ดูดกลีนขึ้นลงช้าๆ "อ่า อ่า อ่า ซี๊ดดดดด เร็วขึ้นอีก อ่า อ่า อ่า ซี๊
ตอนที่ 2 รัญจวนใจ (1)หวงลู่ ควบม้าออกจากเมืองหยางปิน เพื่อรีบเดินทางกลับไปหาคนรักที่เมืองหยางอิน ด้วยได้สัญญากับแม่นางซูเจียว หญิงงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองหยางอินไว้ว่า หลังจากได้นำส่งสินค้าเรียบร้อยแล้ว จะรีบเดินทางกลับไปหานางทันที เพราะตอนนี้มีแต่คุณชายทั้งหลายมาแย่งกันเกี้ยวนาง เขาเป็นแค่พ่อค้ากลัวว่านางจะเปลี่ยนใจ ดังนั้นเขาไม่อยากเสียเวลารั้งรอที่จะออกเดินทางในเช้าวันถัดไป ระยะทางจากเมืองหยางปิน ไปถึงเมืองหยางอิน ถ้าควบม้าด้วยความเร็วก็ใช้เวลาไม่กี่ชั่วยาม แต่ว่าตอนนี้กว่าเขาจะได้เดินทางออกจากเมืองหยางปินนั้นช้าเกินไป เมื่อเช้าที่เขามาถึง กว่าจะตรวจเช็กสินค้า และ รับเงินเสร็จก็ปาเข้าไปยามเซินแล้ว หลังจากนั้นหวงลู่ ก็รีบเดินทางออกจากเมืองหยางปินทันที ก่อนที่ประตูเมืองจะปิดในยามอิ่วนี่ก็ใกล้เข้ายามซวีแล้ว หลังจากเขาควบม้ามาได้เกือบ สองชั่วยาม เมื่อหวงลู่ขี่ม้าออกนอกเมืองมา เขาขี่ม้าเข้าป่าตามเส้นทางที่เริ่มเลี้ยวลดคดเคี้ยว ยามนี้พระอาทิตย์ตกดินลับฟ้าไปแล้ว ได้แต่อาศัยแสงจันทร์นำทาง เมื่อเริ่มผ่านเข้าหุบเขาหยางจี เขามองเห็นแสงไฟสลัวๆ อยู่ข้างหน้า เขาจึงชะลอฝีเท้าม้าให้ช้าลง เมื่อเห
ตอนที่ 1 โรงเตี๊ยมฟูหลิวโรงเตี๊ยมฟูหลิวตั้งอยู่บนหุบเขาเร้นลับของหุบเขาหยางจี ผู้ใดเดินทางผ่านหุบเขานี้ในยามค่ำคืน หากมีวาสนาอาจได้พบเจอเจ้าของโรงเตี๊ยมแห่งนี้ ซึ่งมีเรื่องเล่าขานกันว่านางงดงามดั่งนางฟ้านางสวรรค์ หมิงเจ๋อ คือบุรุษรูปงาม มีใบหน้าหล่อเหลาคมสัน และมีรูปร่างบึกบึนสูงใหญ่ กำลังควบม้ามุ่งหน้าสู่เมืองหยางปิน ด้วยความเร่งรีบ บัดนี้เขาต้องรีบเร่งส่งสารลับไปยังสำนักฮุ่ยเปียว เพื่อขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เขาควบม้ามาจากเมืองหลานคุน อย่างรีบเร่งทั้งวันทั้งคืนบัดนี้ยามอิ่ว ใกล้เข้ายามซวีแล้ว ยังไม่ถึงตัวเมืองเสียที ว่ากันว่า ถ้าผ่านหุบเขาหยางจีไปได้ก็จะเข้าใกล้ตัวเมืองหยางปินแล้ว ตอนนี่เขาทั้งเหนื่อย ทั้งล้าเต็มทน คงต้องหาลำธารข้างหน้าแวะล้างหน้าล้างตาเสียหน่อย แล้วค่อยออกเดินทางต่อเมื่อใกล้ถึงลำธารเขาก็เห็นแสงไฟสลัวๆ อยู่ไม่ไกลมากนัก เขาควบม้าเข้าไปใกล้ๆ จึงเห็นเป็นโรงเตี๊ยม ตอนนี้เขาเหนื่อยและล้าเต็มทน คงต้องแวะพักโรงเตี๊ยมเสียหนึ่งคืน แล้วค่อยเร่งรีบออกเดินทางในยามเหม่าคาดว่าคงจะทัน เมื่อเขาเดินทางมาถึงโรงเตี๊ยม เขาก็ชะลอฝีเท้าม้า พลันสายตาของเขาเห็นหญิงสาวงดงามกำลังมอง