ตอนที่ 3 รัญจวนใจ (2)
เมื่อกลับถึงห้องพัก เขาก็วางซือซือลงบนเตียงหนานุ่ม แล้วหวงลู่ก็ขึ้นคร่อมนางทันที ทั้งสองตาจ้องตาก็เกิดความร้อนรุ่มขึ้น เขาก้มลงบดจูบนางอีกครั้งอย่างร้อนแรง ริมฝีปากหนาไล่งับริมฝีปากบาง ก่อนจะส่งลิ้นร้อนเข้าไปเกี่ยวกระหวัด เมื่อเขาถอนริมฝีปากหนาออกมา
ซือซือก็ลุกขึ้นนั่ง แล้วผลักหวงลู่หงายหลังลงไปนอนบนที่นอน นางค่อยๆ ลุกคลานมาหาเขาช้าๆ ก่อนจะจับแก่นกายของเขาที่สงบไปแล้วขึ้นมาชัดรูดช้า
"อ่า แม่นาง ท่านจะทำอะไร อ่า..อ่า" หวงลู่เพิ่งเคยถูกหญิงสาวรูดรั้งแก่นกายครั้งแรกก็กระสันเสียว ซูเจียวเป็นสตรีขี้อาย นางไม่เคยจับของเขารูดรั้งมาก่อน ความรู้สึกแปลกใหม่นี้ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง อุณหภูมิในร่างกายเริ่มร้อนขึ้นตามแรงรูดรั้ง "อ่า อ่า อ่า แม่นาง ซี๊ด อ่า เจ้าทำให้ข้าเสียวยิ่งนัก" หวงลู่ครางอย่างเสียวซ่าน
ซือซือจึงก้มลงไปก่อนจะใช้ลิ้นร้อนไล้เลียแก่นกายที่เริ่มขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง นางค่อยๆ ละเลงลิ้นขึ้นลงช้าๆ ก่อนจะเร่งความเร็ว เมื่อหวงลู่เริ่มครางไม่เป็นภาษานางก็ใช้ปากครอบครองแก่นกายที่ขยายใหญ่โต แล้วค่อยๆ ดูดกลีนขึ้นลงช้าๆ
"อ่า อ่า อ่า ซี๊ดดดดด เร็วขึ้นอีก อ่า อ่า อ่า ซี๊ด" หวงลู่เสียวซ่านจึงกระแทกแก่นกายในปากนางอย่างแรง
"อ่า อ่า อ่า ซี๊ดดดด อ่า อ่า อ่าห์" ในที่สุดเขาก็ปลดปล่อยอีกครั้ง น้ำขาวขุ่นพุ่งอัดฉีดเข้าไปเต็มปากของซือซือ นางกลืนกินลงไปทุกหยาดหยด แล้วจ้องมองหวงลู่ที่นอนหอบหายใจอยู่ใต้ร่างของนาง
เป็นครั้งแรกของหวงลู่ที่ไปแตะถึงสวรรค์ด้วยริมฝีปากบางของสตรี เขาจึงนอนหงายอย่างหมดแรงด้วยความเหนื่อยหอบ "แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก" เสียงหอบหายใจที่เต้นรัวเร็วหลังจากสุขสม คืนนี้เขาช่างมีความสุขยิ่งนัก สักพักลมหายใจของหวงลู่ก็เริ่มสงบลงและเปลี่ยนจังหวะเป็นดังอย่างสม่ำเสมอ คืนนี้เขาได้นอนหลับไปอย่างสุขใจ
หลิวซือซือจึงก้าวเท้าลงจากเตียง นางหยิบเสื้อคลุมที่ซือจงนำมาวางไว้ให้ มาสวมทับกายที่เปล่าเปลือย ก่อนจะเดินหายออกจากห้อง
รุ่งเช้าหวงลู่ตื่นขึ้นมาอย่างงุนงง ในห้องนอนของเขายังปกติดีทุกอย่าง แม้แต่เตียงที่ยับย่นก็กลับเรียบตึงเหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้น เมื่อคืนเขานอนในสภาพเปลือยเปล่า แล้วไฉนตอนนี้เขายังคงสวมชุดเมื่อวานอยู่
ก๊อก..ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"เข้ามาได้" หวงลู่จึงได้สติ เอ่ยปากเรียกคนเคาะประตูให้เข้ามา
"คุณชายขอรับ ข้าน้อยนำน้ำมาให้ท่านล้างหน้าขอรับ" เป็นเสี่ยวเอ้อน้อยนั่นเอง
"อืม ขอบใจเจ้ามาก" เขามองตามเสี่ยวเอ้อน้อยที่เดินออกจากห้องไป
"หรือว่าเมื่อคืนข้าจะเก็บเอานางมาฝัน" เขารีบสะบัดหัว ก่อนจะลุกไปล้างหน้าล้างตา แล้วรีบออกเดินทางต่อทันที
เมื่อออกจากหุบเขาหยางจี เขาก็รีบควบม้าไปเมืองหยางอินทันที กลัวว่าแม่นางซูเจียวจะเป็นห่วง จึงไม่ได้หันหลังกลับมามอง ว่ามีสตรีนางหนึ่งที่งดงามดั่งเทพเซียนสวมใส่อาภรณ์สีขาวสะอาดตา ยืนมองเขาควบม้าจากไป.........
เมื่อหวงลู่เข้าสู่เมืองหยางอิน เขาควบม้าราวๆ 2 ชั่วยามก็มาถึง เขารีบเดินทางกลับเข้าบ้านไปอาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะเอาของฝากไปให้หญิงคนรักทันที
"ข้ามาหาแม่นางซูเจียว" เมื่อเขาเดินทางมาถึงเรือนของซูเจียวสาวใช้ก็ออกมาต้อนรับ ซูเจียวเป็นบุตรีของพ่อค้าผ้าแพรผู้มั่งคั่ง นางเป็นสตรีอ่อนหวาน ขี้อาย ด้วยความงดงามของนางทำให้มีเหล่าคุณชายมากหน้าหลายตาต่างส่งแม่สื่อมาเกี้ยวนาง ทำให้เขาอดกังวลใจไม่ได้ว่านางจะเปลี่ยนใจไปจากเขาหรือไม่
"คุณหนูมาแล้วเจ้าค่ะ คุณชาย" สาวใช้ประจำกายของนางเดินนำมาแจ้งแก่หวงลู่ที่กำลังนั่งรออยู่ในศาลากลางน้ำ
เมื่อหวงลู่หันไปก็ได้พบกับสตรีอันเป็นที่รัก ซูเจียวมีใบหน้ารูปไข่ คิ้วเรียวบางเข้ากับดวงตาเล็กที่หวานฉ่ำ ริมฝีปากบางสีชมพูช่างเข้ากับแก้มนวลนางที่ออกสีอมชมพูเช่นกัน
"ท่านกลับมาแล้วหรือเจ้าค่ะ" ซูเจียวเอ่ยทักเขาก่อน หวงลู่จึงได้สติ
"ใช่ ข้าเร่งรีบควบม้ามาหาเจ้าหลังจากข้าเสร็จธุระทันที" หวงลู่ล้วงของบางอย่างออกมาจากอกเสื้อ
"นี่คือปิ่นปักผมที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่สตรีของเมืองหยางปิน ข้าเลยซื้อมาฝากเจ้า" หวงลู่กล่าวพลางวางปิ่นลงบนฝ่ามือนุ่มนิ่ม
ซูเจียวรับมาอย่างเอียงอาย
ก่อนจะก้มลงมองปิ่นสีทองในมือ "ช่างสวยงามมากนะเจ้าค่ะ พี่หวง" น่ากล่าวเสียงหวาน
"งั้นเจ้าก็ต้องให้รางวัลข้าที่นอกจากจะรีบกลับมาหาเจ้าแล้ว ข้ายังมีของมาฝากเจ้าด้วย" หวงลู่กล่าวอย่างเจ้าเล่ห์ เขาลูบไล้ฝ่ามือนุ่มนิ่มอย่างมีความหมาย
ซูเจียวเขินอายจนหน้าแดง หลังจากพูดคุยกันไปประมาณ 1 ก้านธูป หวงลู่ก็ต้องขอตัวกลับก่อน และก่อนกลับเขาส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้นางอย่างมีความหมาย ทั้งสองตามองตากันหวานฉ่ำ
เมื่อถึงยามซวี ซูเจียวอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วจึงให้สาวใช้ไปพักผ่อน
"ชิงเถา เจ้าออกไปเถอะ ข้าง่วงแล้ว" ซูเจียวเอ่ยปากบอกสาวใช้ประจำกาย นางก็เข้าใจทันที จึงได้รีบจัดเตรียมที่นอนหมอนมุ้งให้เจ้านายก่อนออกไป
ยามจื่อ ซูเจียวได้นอนกลับไปแล้ว แต่ยังมีใครบางคนกำลังงัดแงะหน้าต่างห้องนอนของนางเข้ามา เมื่อหวงลู่เข้ามาได้ก็ปิดหน้าต่างให้สนิทเหมือนเดิม ก่อนจะเดินมายังเตียงนอนที่ซูเจียวกำลังหลับสนิทอยู่
หวงลู่ค่อยๆ ปีนขึ้นเตียง ก่อนจะมุดเข้าไปในผ้าห่มของนาง เมื่อเขาเข้ามาสุดก็โผล่หน้าขึ้นมาหาซูเจียวที่กำลังนอนหลับอยู่
หวงลู่ซุกหน้าลงไปยังบนลำคอขาวผ่อง ก่อนจะขบเม้มจนขึ้นสีกุหลาบ
เมื่อซูเจียวรู้สึกตัวตื่นก็ตกใจ "อะ..พี่หวง พี่จะทำอะไรเจ้าค่ะ"
"พี่คิดถึงเจียวเอ๋อเหลือเกิน ไม่มาหาคงไม่ได้แล้ว ไหน ขอพี่ดูหน้าเจ้าชัดๆ หน่อย" หวงลู่ผละออกมาจากลำคอของนาง ก่อนจะจับใบหน้าของนางให้หันมามองตน เมื่อเห็นริมฝีปากบาง เขาก็โน้มใบหน้าลงไปจูบ เขาจูบนางอย่างแผ่วเบา นุ่มนวล เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนก่อนเข้ามากวนจิตใจเขาทั้งวันทั้งคืน เขาจึงเผลอคิดว่าซูเจียว คือแม่นางผู้นั้น จากจูบที่อ่อนโยนนุ่มนวลกลับแปรเปลี่ยนร้อนแรงหิวกระหาย เขาบดจูบริมฝีปากบางของซูเจียวอย่างแรง และสอดลิ้นร้อนเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของนาง
ซูเจียวไม่เคยรองรับจูบที่ร้อนแรงของหวงลู่มาก่อน จึงทำให้หายใจไม่ทัน นางจึงทุบแผ่นหลังของเขา
หวงลู่จึงได้สติ เขาถอนจูบออกมา ทำให้ซูเจียวหอบหายใจอย่างแรง "แฮ่ก....แฮ่ก"
หวงลู่ไม่รอช้าเขารีบปลดเปลื้องอาภรณ์ขาวบางของซูเจียวออก แล้วก้มลงดูดดึงยอดปทุมถันของนางอย่างหิวกระหาย มือหนาอีกข้างก็นวดเฟ้นทรวงอกนุ่มหยุ่นอย่างแรง ทำให้ซูเจียวเจ็บ
"อะ พี่หวง ข้าเจ็บ"
"ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน เจ้าไม่คิดถึงข้าเหรอ" เขาเงยหน้าขึ้นมองนาง ก่อนจะถามอย่างน้อยใจ
ซูเจียวไม่รู้จะกล่าวอะไรนางก็ได้แต่กัดริมฝีปากนางจนขึ้นสี
หวงลู่จึงรู้สึกผิด เขาจึงค่อยๆ เลื่อนใบหน้าไปหานาง "ข้าขอโทษ" เขาก้มลงจูบนางอีกครั้งอย่างช้าๆ อย่างแผ่วเบาราวกับนางเป็นตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ
จากนั้นเขาจึงผุดลุกขึ้นนั่ง "ข้าขอโทษนะเจียวเอ๋อ ข้ากลับก่อนดีกว่า เจ้าพักผ่อนเถอะ" อยู่ๆ มังกรที่เพิ่งจะผงาดกลับสงบลงไป เขารีบกระโจนออกไปทางหน้าต่างทันที ทำให้ซูเจียวที่เปลือยเปล่ามองตามแผ่นหลังที่ออกไปอย่างไม่เข้าใจ
หวงลู่ยังคงวนเวียนกับเรื่องคืนก่อน แม้ได้พบหน้าหญิงอันเป็นที่รัก เขาก็ไม่สามารถร่วมรักกับนางเช่นเดิมได้อีก เป็นเพราะเหตุอันใด หรือว่าคืนนั้นเขาจะไม่ได้ฝันไป อย่างไรก็ดี เขาจะต้องกลับไปพิสูจน์ให้ได้ ว่าเรื่องในคืนนั้นเป็นความจริงหรือความฝัน.......
"ข้าเปลี่ยนใจละ คืนนี้ต่อให้ข้าเร่งรีบ ข้าก็เดินทางกลับไปไม่ทัน ข้าตัดสินใจจะพักที่นี่สักคืนหนึ่ง ยังมีห้องว่างเหลืออยู่หรือไม่" หวงลู่เปลี่ยนใจกะทันหัน
"มีแน่นอนขอรับ" เสี่ยวเอ้อน้อยยิ้มก่อนจะตอบหวงลู่
หลังจากหวงลู่รับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย เสี่ยวเอ้อน้อยก็พาเขาไปยังห้องพักชั้นสอง
"คุณชายรอสักครู่นะขอรับ ข้าน้อยจะไปเตรียมน้ำอุ่นให้ท่านอาบ" เสี่ยวเอ้อน้อยบอกหวงลู่หลังจากพาเขานำมายังห้องพักเรียบร้อยแล้ว
"อะ..ไม่ต้องๆ ข้าเหนื่อยแล้วจะขอพักเลย เจ้ามีอะไรก็รีบๆ ไปทำเถอะ" หวงลู่รีบไล่เสี่ยวเอ้อน้อยทันที เขาอยากจะไปตามหาแม่นางผู้งดงามที่ลำธาร
"ขอรับ งั้นข้าน้อยขอตัวก่อนขอให้ท่านพักผ่อนอย่างสุขสำราญนะขอรับ" เสี่ยวเอ้อน้อยพูดจบก็หันหลังเดินออกไปจากห้องพัก และปิดประตูให้อย่างเรียบร้อย
หวงลู่ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ จนเสียงฝีเท้าหายไปในที่สุด เขาก็ค่อยๆ แง้มประตูออกไป เขาหันซ้ายมองขวาเมื่อไม่เห็นใครเขาก็ค่อยๆ ย่องออกไป
เมื่อเขาเดินลงมาถึงบันไดชั้นล่างก็ไม่พบเสี่ยวเอ้อน้อย เขาจึงรีบวิ่งออกไปทางด้านหลังของโรงเตี๊ยม เขาวิ่งลัดเลาะมาเรื่อยๆ จนได้ยินเสียงของน้ำที่ไหลผ่านลำธาร
"น่าจะถึงแล้ว คงแถวๆ นี้แหละ เขาอยากพบนางอีกสักครั้ง" ขณะที่เขากำลังรำพึงรำพันอยู่นั้นเขาก็ได้ยินเสียงของน้ำกระเซ็น คงจะแถวๆ นี้เขาจึงเดินไปตามเสียงเรื่อยๆ จนเห็นร่างสตรีเปล่าเปลือยยืนหันหลังอวดแผ่นหลังขาวนวล ยิ่งงดงามเมื่อต้องกับแสงจันทร์ที่ค่อนข้างสว่างในคืนนี้
เขารีบหาที่หลบซ่อนตัว "สวบ" เสียงกิ่งไม้ที่โดนหวงลู่เหยียบ ทำให้หลิวซือซือหันมามองตามเสียง หวงลู่ที่แอบมองหลังต้นไม้ใหญ่ต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ยามที่นางหันมา ทรวดทรงของนางนั้นน่ามองยิ่งนัก ไม่ว่าจะเป็นทรวงอกอวบอิ่มที่แม้แต่ผมยาวสลวยสีดำขลับของนางพาดทับปิดอยู่ ก็ยังเห็นชัดเจน เอวเล็กคอดนั้นขาวนวลจนอยากจะเอื้อมมือไปสัมผัสยิ่งนัก
เมื่อหลิวซือซือ มองไม่เห็นผู้ใดนางจึงหันหลังกลับไปแหวกว่ายน้ำในลำธารต่อ
ตอนที่ 4 อิ่มเอมหลังจากหมิงเจ๋อไปทำธุระที่เมืองหยางปินเสร็จเรียบร้อย บัดนี้เขากลับมาที่สำนักได้ราวๆ ครึ่งเดือน เรื่องในคืนนั้นยิ่งคิดยิ่งเสมอเหมือนความจริง เขาอยากหาทางพิสูจน์ให้ได้ แต่ก็เกรงว่าจะเป็นเช่นเดิม ดังนั้นจึงหาใครสักคนที่เขาไว้ใจได้พาไปด้วย จะได้แน่ใจในเรื่องที่ค้างคามาตลอดครึ่งเดือนเมื่อเขาเห็นหานลู่ ศิษย์น้องที่สนิทกันเข้ามาหาที่ห้องหนังสือ จึงได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้หานลู่ฟัง เขาได้ชักชวนหานลู่ให้ไปด้วย ในทีแรกหานลู่ปฏิเสธ แต่ด้วยความเคารพในตัวศิษย์ทำให้เกิดความเกรงใจจึงได้เผลอตกปากรับคำหลังจากได้ขออนุญาตอาจารย์ออกมาทำธุระสักวันสองวัน ก็ได้พากันควบม้าออกเดินทางมาจนถึงหุบเขาหยางจี แต่ทั้งสองได้วนหาโรงเตี๊ยมทั่วหุบเขาก็หาไม่พบ จึงควบม้าวนไป วนมาจนพลบค่ำ"เฮ้อ..ศิษย์พี่ใหญ่ นี่เราก็วนหาตั้งนานแล้วนะขอรับ ยังหาโรงเตี๊ยมที่ท่านว่ายังไม่พบเลย หรือว่าคืนนั้นท่านจะฝันไปขอรับ" หานลู่ชักจะถอดใจ หลังจากพวกเขาขี่ม้าวนทั่วหุบเขากลับไม่พบโรงเตี๊ยมที่หมิงเจ๋อกล่าว"ข้าก็คิดเช่นนั้น งั้นเรากลับกันเถอะ" ในที่สุดหมิงเจ๋อก็ถอดใจ เขาจึงขี่ม้านำทางเพื่อกลับสำนัก "ช้าก่อน..ศิษย์พี่ใหญ่
ตอนที่ 3 รัญจวนใจ (2)เมื่อกลับถึงห้องพัก เขาก็วางซือซือลงบนเตียงหนานุ่ม แล้วหวงลู่ก็ขึ้นคร่อมนางทันที ทั้งสองตาจ้องตาก็เกิดความร้อนรุ่มขึ้น เขาก้มลงบดจูบนางอีกครั้งอย่างร้อนแรง ริมฝีปากหนาไล่งับริมฝีปากบาง ก่อนจะส่งลิ้นร้อนเข้าไปเกี่ยวกระหวัด เมื่อเขาถอนริมฝีปากหนาออกมาซือซือก็ลุกขึ้นนั่ง แล้วผลักหวงลู่หงายหลังลงไปนอนบนที่นอน นางค่อยๆ ลุกคลานมาหาเขาช้าๆ ก่อนจะจับแก่นกายของเขาที่สงบไปแล้วขึ้นมาชัดรูดช้า"อ่า แม่นาง ท่านจะทำอะไร อ่า..อ่า" หวงลู่เพิ่งเคยถูกหญิงสาวรูดรั้งแก่นกายครั้งแรกก็กระสันเสียว ซูเจียวเป็นสตรีขี้อาย นางไม่เคยจับของเขารูดรั้งมาก่อน ความรู้สึกแปลกใหม่นี้ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง อุณหภูมิในร่างกายเริ่มร้อนขึ้นตามแรงรูดรั้ง "อ่า อ่า อ่า แม่นาง ซี๊ด อ่า เจ้าทำให้ข้าเสียวยิ่งนัก" หวงลู่ครางอย่างเสียวซ่านซือซือจึงก้มลงไปก่อนจะใช้ลิ้นร้อนไล้เลียแก่นกายที่เริ่มขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง นางค่อยๆ ละเลงลิ้นขึ้นลงช้าๆ ก่อนจะเร่งความเร็ว เมื่อหวงลู่เริ่มครางไม่เป็นภาษานางก็ใช้ปากครอบครองแก่นกายที่ขยายใหญ่โต แล้วค่อยๆ ดูดกลีนขึ้นลงช้าๆ "อ่า อ่า อ่า ซี๊ดดดดด เร็วขึ้นอีก อ่า อ่า อ่า ซี๊
ตอนที่ 2 รัญจวนใจ (1)หวงลู่ ควบม้าออกจากเมืองหยางปิน เพื่อรีบเดินทางกลับไปหาคนรักที่เมืองหยางอิน ด้วยได้สัญญากับแม่นางซูเจียว หญิงงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองหยางอินไว้ว่า หลังจากได้นำส่งสินค้าเรียบร้อยแล้ว จะรีบเดินทางกลับไปหานางทันที เพราะตอนนี้มีแต่คุณชายทั้งหลายมาแย่งกันเกี้ยวนาง เขาเป็นแค่พ่อค้ากลัวว่านางจะเปลี่ยนใจ ดังนั้นเขาไม่อยากเสียเวลารั้งรอที่จะออกเดินทางในเช้าวันถัดไป ระยะทางจากเมืองหยางปิน ไปถึงเมืองหยางอิน ถ้าควบม้าด้วยความเร็วก็ใช้เวลาไม่กี่ชั่วยาม แต่ว่าตอนนี้กว่าเขาจะได้เดินทางออกจากเมืองหยางปินนั้นช้าเกินไป เมื่อเช้าที่เขามาถึง กว่าจะตรวจเช็กสินค้า และ รับเงินเสร็จก็ปาเข้าไปยามเซินแล้ว หลังจากนั้นหวงลู่ ก็รีบเดินทางออกจากเมืองหยางปินทันที ก่อนที่ประตูเมืองจะปิดในยามอิ่วนี่ก็ใกล้เข้ายามซวีแล้ว หลังจากเขาควบม้ามาได้เกือบ สองชั่วยาม เมื่อหวงลู่ขี่ม้าออกนอกเมืองมา เขาขี่ม้าเข้าป่าตามเส้นทางที่เริ่มเลี้ยวลดคดเคี้ยว ยามนี้พระอาทิตย์ตกดินลับฟ้าไปแล้ว ได้แต่อาศัยแสงจันทร์นำทาง เมื่อเริ่มผ่านเข้าหุบเขาหยางจี เขามองเห็นแสงไฟสลัวๆ อยู่ข้างหน้า เขาจึงชะลอฝีเท้าม้าให้ช้าลง เมื่อเห
ตอนที่ 1 โรงเตี๊ยมฟูหลิวโรงเตี๊ยมฟูหลิวตั้งอยู่บนหุบเขาเร้นลับของหุบเขาหยางจี ผู้ใดเดินทางผ่านหุบเขานี้ในยามค่ำคืน หากมีวาสนาอาจได้พบเจอเจ้าของโรงเตี๊ยมแห่งนี้ ซึ่งมีเรื่องเล่าขานกันว่านางงดงามดั่งนางฟ้านางสวรรค์ หมิงเจ๋อ คือบุรุษรูปงาม มีใบหน้าหล่อเหลาคมสัน และมีรูปร่างบึกบึนสูงใหญ่ กำลังควบม้ามุ่งหน้าสู่เมืองหยางปิน ด้วยความเร่งรีบ บัดนี้เขาต้องรีบเร่งส่งสารลับไปยังสำนักฮุ่ยเปียว เพื่อขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เขาควบม้ามาจากเมืองหลานคุน อย่างรีบเร่งทั้งวันทั้งคืนบัดนี้ยามอิ่ว ใกล้เข้ายามซวีแล้ว ยังไม่ถึงตัวเมืองเสียที ว่ากันว่า ถ้าผ่านหุบเขาหยางจีไปได้ก็จะเข้าใกล้ตัวเมืองหยางปินแล้ว ตอนนี่เขาทั้งเหนื่อย ทั้งล้าเต็มทน คงต้องหาลำธารข้างหน้าแวะล้างหน้าล้างตาเสียหน่อย แล้วค่อยออกเดินทางต่อเมื่อใกล้ถึงลำธารเขาก็เห็นแสงไฟสลัวๆ อยู่ไม่ไกลมากนัก เขาควบม้าเข้าไปใกล้ๆ จึงเห็นเป็นโรงเตี๊ยม ตอนนี้เขาเหนื่อยและล้าเต็มทน คงต้องแวะพักโรงเตี๊ยมเสียหนึ่งคืน แล้วค่อยเร่งรีบออกเดินทางในยามเหม่าคาดว่าคงจะทัน เมื่อเขาเดินทางมาถึงโรงเตี๊ยม เขาก็ชะลอฝีเท้าม้า พลันสายตาของเขาเห็นหญิงสาวงดงามกำลังมอง