เสียงของเขาดังพอที่จะให้พนักงานคนอื่น ๆ หันมามอง แต่เขาไม่สนใจ รีบก้าวไปดักหน้าหญิงสาวแล้วเชยคางเธอขึ้นมา
เพียะ!
ความตกใจทำให้สุภัครพีมีการตอบสนองที่รวดเร็วเกินคาด เธอฟาดมือใส่แขนของเขาจนมือหลุดจากการเชยคาง
“ทำอะไรของคุณคะ” ถามเสียงสั่นอย่างหวาดหวั่น ไม่กล้าสู้สายตา เพราะกลัวเขาจะจำเธอได้เหมือนที่เธอจำเขาได้
ปฐพีอึ้งกับการกระทำอาจหาญของหญิงสาว แต่แปลกที่เขาไม่โกรธ กลับสนใจเธอมากยิ่งขึ้น เขาเชยคางของเธออีกครั้ง บีบแน่นขึ้นเมื่อเธอพยายามสะบัดหน้าหนีและเพ่งมอง
“เธอชื่ออะไร” ใจของเขาไหววูบขณะถามออกไป เพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่าหน้าตาเธอเหมือนใคร แม้แต่รูปร่างก็ยังเหมือน “ฉันถาม.. อ้อ! สุภัคร..” เขาอ่านป้ายชื่อได้เพียงแค่นั้นเพราะเธอรีบเอามือปิด แต่เขาก็รู้แล้วว่าเธอชื่อสุภัครพี ชื่อที่มาจากชื่อพ่อกับแม่รวมกัน
“ปล่อยฉันนะคะ” เธอสั่งเสียงสั่น รู้สึกรังเกียจจนอยากจะหนีไปให้พ้น ๆ คนใจดำพวกนี้ ถ้าเป็นบ้านหลังเก่าที่เคยอาศัยอยู่เธอคงรู้ตัวตั้งแต่มาถึงทันที คงไม่ต้องมาเผชิญหน้ากันแบบนี้
“เธอคือเด็กคนนั้นใช่ไหม... หนูครีมใช่หรือเปล่า” ถึงจะมั่นใจแต่ปากก็ถามออกไป เด็กหญิงหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูชนิดที่น้องสาวเขาเทียบไม่ติด เธอโตเป็นสาวเต็มตัวแล้ว แต่ความน่ารักน่าทะนุถนอมก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
“ไม่ใช่ค่ะ คุณจำคนผิดแล้ว” เธอตัดสินใจผลักเขาขณะเผลอสุดแรงจนหลุด แล้วรีบวิ่งหนีไปหลบด้านหลังวรวุธที่เดินเข้ามาพอดี
“เกิดอะไรขึ้นครับ พนักงานของเราทำอะไรให้ไม่พอใจบอกผมได้เลยนะครับ” วรวุธทำใจเย็นรับหน้า
“มาคุยกับฉันก่อน” ปฐพีไม่สนใจชายหนุ่ม แต่พูดกับหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา
“พี่ว่านคะ วันนี้ครีมขอกลับก่อนได้ไหมคะ” หญิงสาวไม่ตอบคำถามของเจ้าภาพในค่ำคืนนี้ แต่กระซิบกระซาบขอความเห็นใจจากหัวหน้างานด้วยเสียงที่สั่นเครือ
วรวุธไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ แต่ดูจากอาการตื่นตระหนกตกใจของหญิงสาวแล้วเธอคงทำงานต่อไม่ได้แน่
“ได้สิ เดี๋ยวพี่ไปส่งขึ้นรถแท็กซี่นะ”
“ถ้าเธอกล้ากลับออกไปตอนนี้ ฉันจะเอาเรื่องกับทางโรงแรมเธอให้ถึงที่สุด” ชายหนุ่มผู้ไม่เคยยอมก้มหัวให้ใครกล่าวเสียงกร้าว กะขู่ให้เธอกลัว
“เรามีสิทธิ์ฟ้องคุณกลับข้อหาลวนลามนะครับ พวกเราทุกคนเป็นพยานได้”
“อะไรกัน จะฟ้องร้องอะไรกัน”
ชายหนุ่มทั้งสองที่กำลังโต้คารมกันอยู่หันไปมองต้นเสียงที่อยู่ทางด้านหลังของปฐพี
“คุณพ่อ” ปฐพีหมุนตัวไปหาบิดา แต่เจตนาของเขาคือจงใจปิดบังใครบางคนไม่ให้ท่านได้เห็นมากกว่า “ออกมาทำไมครับ ยังไม่ถึงเวลาซะหน่อย”
“ยายแอลบอกว่าลูกกำลังสนใจใครบางคนอยู่ พ่อก็เลยอยากเห็นบ้าง”
“ไม่มีหรอกครับคุณพ่อ แอลมันเลอะเทอะ เข้าไปข้างในกันดีกว่าครับ”
ประมาณกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เพื่อดูให้แน่ใจ แต่ก็ไม่เห็นใครจะสวยถูกโฉลกแม้แต่คนเดียว ลูกสาวเขาคงแกล้งหยอกจริง ๆ นั่นแหละ
“ก็ได้” เขากับลูกชายมีสเป็กเรื่องผู้หญิงคล้าย ๆ กัน ถ้าเขามองแล้วไม่เข้าตาก็สบายใจได้
เมื่อบิดาหมุนตัวเดินกลับไปตามทางเดิน ปฐพีก็รีบทำมือส่งสัญญาณให้หญิงสาวกลับไปได้ แล้วรีบเดินตามหลังบิดากลับเข้าไปในบ้าน
การกระทำของเขาสร้างความงุนงงสงสัยให้กับทุกคน โดยเฉพาะกับวรวุธและสุภัครพี เพราะก่อนหน้านี้เขายังไม่มีท่าทีว่าจะยอมง่าย ๆ
“คุณไค สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับคุณปฐพี”
“ขอบคุณนะครับที่มาร่วมงานวันเกิดของลูกชายผม”
“ด้วยความยินดีครับคุณประมาณ คุณลุงฝากของขวัญมาแสดงความยินดีด้วยนะครับ” ไค เคนชิน ผายมือไปทางเลขาสาวที่ถือกล่องของขวัญสองกล่องมาร่วมงาน “ขอให้มีความสุขมาก ๆ และขอให้ปีนี้เป็นปีทองอีกปีของคุณปฐพีนะครับ”
“ขอบคุณสำหรับของขวัญและคำอวยพรนะครับ หลังจากวันนี้เราคงได้เจอกันบ่อยขึ้น” ปฐพีกล่าวเป็นนัยแอบแฝง เขาต้องไปเจออีกฝ่ายแน่นอน เร็วสุดคือพรุ่งนี้ ช้าสุดก็ไม่เกินพรุ่งนี้เช่นกัน เพราะเขามีเรื่องร้อนใจที่อยากขอความร่วมมือจากอีกฝ่ายนั่นเอง
“ด้วยความยินดีครับ” แม้จะแปลกใจกับคำพูดของอีกฝ่าย แต่ไคก็ไม่ได้แสดงออกไปมากกว่ายิ้มรับ เขาคุยกับเจ้าภาพอีกไม่กี่ประโยคก็ถูกเชื้อเชิญให้เข้าไปในงาน จึงใช้โอกาสนี้สำรวจการทำงานของพนักงานที่โรงแรมไปด้วย
เขาสั่งให้เลขาสาวคนเก่งไปลองชิมรสชาติของอาหาร ขณะที่กำลังยืนอยู่นั้นก็เห็นพนักงานโรงแรมกำลังยกถาดเครื่องดื่มมองมาทางนี้พอดีจึงกวักมือเรียก มองป้ายชื่อที่หน้าอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นระดับหัวหน้า “เป็นอย่างไรบ้าง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” เขาถามขณะหยิบเครื่องดื่ม
“มีนิดหน่อยครับ ผมตั้งใจจะเขียนรายงานให้ผู้จัดการทราบในวันพรุ่งนี้ครับ” วรวุธคิดว่าปัญหาที่เกิดไม่จำเป็นต้องรายงานถึงผู้บริหารระดับสูง จึงตอบเลี่ยง ๆ อย่างสุภาพ
“มีเรื่องอะไรรายงานมา จะได้แก้ไขเฉพาะหน้าไปก่อน”
“ไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรอกครับ ผมแก้ไขเรียบร้อยแล้ว” ถึงอย่างไรเขาก็ยังเห็นว่าเรื่องนี้ไม่สมควรเดือดร้อนถึงระดับผู้บริหาร เพราะพวกเขาคงไม่เห็นใจพนักงานระดับล่างแบบพวกตน
ผู้บริหารหนุ่มหรี่ตาเย็นยะเยือกมองอีกฝ่าย รู้สึกว่าหัวหน้างานคนนี้จงใจกันเขาออกจากเรื่องนี้ มันยิ่งทำให้เขาอยากรู้
“บอกผมมาว่าเกิดอะไรขึ้น” ไม่ใช่เพราะอยากเอาชนะ แต่เพราะเป็นเรื่องขององค์กรต่างหาก
เมื่อถูกคาดคั้นมากขึ้น หัวหน้าพนักงานฝ่ายจัดเลี้ยงอย่างวรวุธจึงยอมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้แก่เจ้านาย
คิ้วเข้มของชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นขมวดมุ่นด้วยความเคร่งเครียด แม้ไม่แน่ใจว่าการกระทำของปฐพีนั้นคืออะไร ระหว่างจำสุภัครพีได้ว่าเป็นหลานสาวที่ถูกพ่อของเขาขับไล่ออกจากบ้าน หรือสนใจเธอในทางชู้สาว หรืออาจจะเป็นทั้งสองอย่าง
“คุณทำถูกแล้ว พรุ่งนี้ให้ส่งรายงานถึงผมโดยตรงเลยนะ” เขารู้สึกว่าเรื่องนี้คงไม่จบง่าย ๆ เมื่อนึกถึงคำพูดแปลก ๆ ของปฐพีตอนที่ทักทายกันเมื่อสักครู่
“ครับท่าน”
“ไปทำงานได้แล้ว”
“ครับ” วรวุธโค้งศีรษะแล้วเดินแยกจากไป
“พี่หมีไม่ต้องเพิ่มค่าแรงให้ครีมหรอกค่ะ ครีมไปช่วยก็ได้ค่ะ” หญิงสาวยอมแพ้ต่อคำอ้อนวอนของรุ่นพี่เพศที่สาม(ขอบใจมากจ้ะน้องสาวสุดที่รักของพี่หมี เดี๋ยวคืนนี้พี่จะส่งรายละเอียดงานไปให้นะจ๊ะ)“ค่ะ สวัสดีค่ะ” เธอวางสายอย่างไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ เพราะไม่รู้ว่าสามีตัวดีจะยอมรับฟังเหตุผลหรือไม่……………….“พี่ไม่ให้ไป เราคุยเรื่องนี้กันจบแล้วไม่ใช่เหรอครีม” ไคออกอาการเหวี่ยงทันทีที่ได้ยินคำขอของภรรยา“ก็มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริง ๆ นี่คะ”“ไปทำที่ไหน บอกรายละเอียดมาให้หมด พรุ่งนี้พี่ต้องไปงานเปิดโรงแรมที่ชลบุรี ถ้ายังไงพี่จะไปส่งครีมก่อนแล้วค่อยไปงานของตัวเอง”“ครีมก็ไปทำงานที่ชลบุรีเหมือนกันค่ะ” เธอตอบอย่างตื่นเต้นหางคิ้วเข้มกระดกขึ้นข้างหนึ่งทันทีที่ได้ยินแบบนั้น “โรงแรมอะไร”“พี่เขายังไม่ได้ส่งรายละเอียดมาให้เลยค่ะ บอกว่าจะส่งมาให้คืนนี้”“โทรไปถามเลย พี่อยากรู้”&ldquo
สุภัครพีขยับโยกสะโพกกลมกลึง ลูบไล้ศีรษะได้รูปที่กำลังสาละวนกับหน้าอกหน้าใจของตน ร้องครางในลำคออย่างสุขสมกับความสุขที่ได้รับ เธอรู้สึกดีและมีความสุขมากที่ได้รับการสัมผัสจากเขามือเรียวช้อนใบหน้าของสามีมาจูบดูดดื่ม ขยับสะโพกรัวถี่ปรนเปรอความสุขให้เขาและตัวเอง เพื่อลบความรู้สึกที่ยังค้างคาให้หมดไป“ครีมจ๋า...” ไคเรียกภรรยาเสียงสั่นพร่า โอบรัดเอวกิ่วไว้แน่น ความซาบซ่านแผ่ขยายไปทั่วร่างแกร่ง ทุกจังหวะขยับขึ้นลงของเธอทำให้เขาต้องสูดปากครางอย่างห้ามไม่อยู่ “ครีมจ๋าพี่เสียวเหลือเกินที่รัก ครีมจ๋า อา...”สุภัครพีกอดรัดลำคอหนาของสามีไว้แน่น เมื่อถูกจับล็อกด้วยแขนแกร่งในลักษณะกึ่งนอนกึ่งนั่ง แล้วถูกสะโพกสอบอัดใส่หนักหน่วงจนร่างคลอน“พี่ไคขา...” เธอสูดปากครวญคราง กระซิบไม่ได้ศัพท์สลับกับจูบดูดดื่มก่อนที่ร่างบางจะกระตุกเกร็งไครู้ว่าภรรยาไปถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดเรียบร้อยแล้ว เขาวางร่างบางลงบนเตียง จับเธอตะแคงแล้วยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาพรมจูบขณะขยับจังหวะรักบุกประชิดไม่ออมแรง ไม่นานก็รีบชักเอ็นอุ่นออกมาปล่อยน้ำรักใส่ต้นขาของเธอ
“เธอ ช่วยตอบคำถามฉันที ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันแน่” แม้จะโกรธมาก แต่ปฐมาวดีก็ยังอยากรู้ให้แน่ชัด“ตามที่คุณแอลได้ยินเลยค่ะ เธอคือคุณผู้หญิงคนใหม่ของมามิยะ ภรรยาของคุณไค เคนชิน ค่ะ”“ไม่จริง ผู้หญิงต่ำ ๆ คนนั้นจะกลายเป็นคุณผู้หญิงได้ยังไง ฉันไม่เชื่อ”“ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรค่ะ เอาที่คุณแอลสบายใจเลยค่ะ แต่ตอนนี้เชิญคุณแอลไปจากตรงนี้ก่อนนะคะ มันไม่อยากโดนบอสตำหนิว่าทำงานไร้คุณภาพค่ะ”“กรี๊ดดดด..” ปฐมาวดีกรีดร้องด้วยความโมโหสุดขีด แล้วชี้หน้าเลขาตัวดีของผู้บริหารมามิยะไทยแลนด์ “ตาต่ำทั้งนายทั้งบ่าว เห็นกรวดเห็นหินดีกว่าเพชรไปได้ยังไง” ด่าจบก็เดินสะบัดหน้าอย่างมั่นใจจากไปมัณฑนามองหญิงสาวที่เดินเชิดหน้าจากไปอย่างละเหี่ยใจ “มั่นใจจริงนะคุณเพชรรัสเซีย” พูดประชดเบา ๆ ตามหลัง“พี่มันฮะ”“ว่าไงพรชัย”“ที่คุณเธอพูดเมื่อสักครู่เรื่องจริงหรือเปล่าฮะ” ชายหนุ่มบุคลิกตุ้งติ้งบ่งบอกความเป็นเพศที่สามชัดเจนเอ่ยถามหัวหน้างานของตนอย่
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมขวัญเสียแบบนี้ล่ะคนดี” ไคตกใจกับอาการของภรรยา กอดเธอเอาไว้แน่นขณะเค้นเอาคำตอบ“จูบครีมหน่อยสิคะพี่ไคขา” หญิงสาวยังย้ำคำเดิมด้วยเสียงสะอึกสะอื้นไคไม่สนใจแล้วว่าแขกสาวจะรู้สึกอย่างไร เพราะคนที่เขาแคร์ที่สุดคือภรรยา ดังนั้นเขาจึงโน้มลงไปหาริมฝีปากอวบอิ่มที่เบะนิด ๆ แล้วมอบจูบอย่างอ่อนโยน แต่กลับถูกเธอตอบโต้กลับมาอย่างดูดดื่มจนเขาเผลอคล้อยตามภาพบาดตาบาดใจที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ทำให้ปฐมาวดีอยากจะเข้าไปกระชากหล่อนมาตบสั่งสอนซะให้เข็ด แต่เธอไม่มีสิทธิ์ขนาดนั้นแปะ ๆ ๆ แปะ ๆ ๆเสียงปรบมือทำให้สุภัครพีสะดุ้งตกใจ รีบผละจากอกของสามีแล้วหันไปมอง มีคนอื่นอยู่ในห้องนี้ด้วยเหรอ เธอมัวแต่เสียใจจนลืมมอง“ขอโทษค่ะ ครีมไม่รู้ว่าพี่ไคมีแขก” เธออายจนตัวแดงเถือกปฐมาวดีร้องอ้ออยู่ในใจเมื่อเห็นหน้าหญิงสาวชัดเจน เธอจำหล่อนได้ สาวเสิร์ฟในงานโฮมปาร์ตี้คืนนั้น โชคดีเสียนี่กระไร ได้เป็นถึงนางบำเรอของผู้บริหาร.. คิ้วเรียวโก่งขมวดเล็กน้อย ใช่หล่อนหรือเปล่านะที่พี่ชายของเธอก็หมายตาเอาไว้“ไม่เป็นไรหร
ไคไม่ค่อยสบอารมณ์นัก เมื่อออกจากห้องประชุมแล้วรู้ว่ามีแขกที่ไม่ได้นัดหมายรออยู่ในห้องทำงาน“เธอมาพบผมเรื่องอะไรได้บอกหรือเปล่า”“บอกว่าธุระสำคัญเรื่องการหมั้นค่ะ พรชัยก็บอกเธอไปแล้วนะคะว่าบอสเข้าประชุม แต่เธอบอกว่าจะรอจนกว่าจะประชุมเสร็จ” มัณฑนารายการตามที่ได้รับข้อมูลมาจากผู้ช่วยของเธอ“เดี๋ยวนะคุณมัน เมื่อกี้คุณมันบอกว่าเรื่องการหมั้นใช่ไหม”“ค่ะ”“การหมั้นของใคร แล้วทำไมต้องสำคัญกับผมด้วยล่ะ”“ไม่ทราบค่ะ บอสต้องถามเธอค่ะ แต่เท่าที่ทราบมาคุณแอลเป็นประเภทหลงตัวเองนี่คะ” มัณฑนามองหน้าเจ้านายเขม็ง“ผมมีเมียแล้วนะคุณมัน” ไคพูดเบา ๆ ใส่เลขา“ถ้าอย่างนั้นมันก็ไม่ทราบแล้วค่ะ ลองถามกันเอาเองนะคะ” พูดจบก็เตรียมจะเปิดประตูห้องทำงานให้เจ้านาย แต่ถูกเขาห้ามเอาไว้ก่อน“เดี๋ยวนะ ผมรับโทรศัพท์ก่อน” ชายหนุ่มบอกกับเลขาแล้วหยิบโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในเสื้อสูทออกมา อมยิ้มนิด ๆ ก่อนจะกดรับสายด้วยน้ำเสียงสดใส “ครับผม”
สุภัครพีอึดอัดกับการเอาใจใส่ของชายหนุ่มเหลือเกิน อยากตะคอกใส่หน้าเขาว่าไม่ต้องมายุ่งกับเธอ แต่ก็ทำไม่ได้“ขอบคุณค่ะคุณปฐพี” เธอทนต่อสายตาสนใจใคร่รู้ของเพื่อนไม่ไหวแล้ว จึงเรียกบริกรที่เดินผ่านมาพอดี “ขอโทษนะคะ ห้องน้ำอยู่ทางไหนคะ”“เดินตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายครับ”“ขอบคุณค่ะ ครีมขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” เธอบอกกับเขาโดยไม่ยอมสบตา แล้วหันไปมองเพื่อนก่อนจะลุกจากไป“รู้สึกว่าคุณครีมเธอไม่ค่อยชอบผมนะครับ” ปฐพีแกล้งถามหญิงสาวทั้งสองคนหลังจากสุภัครพีลุกไปแล้ว“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ น่าจะยังไม่สนิทใจมากกว่า ปกติครีมเขาเป็นคนร่าเริงมากนะคะ” อารยาแก้ตัวแทนเพื่อน“ครีมเขาก็คงเกร็ง ๆ เหมือนพวกเราแหละค่ะ คุณปฐพีอย่าไปคิดมากเลยนะคะ”“อย่างนั้นเองเหรอครับ..” เขาหยิบโทรศัพท์ที่สั่นอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดู กระตุกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มให้สาว ๆ “ผมขอออกไปคุยโทรศัพท์ก่อนนะครับ เชิญทานกันตามสบายเลยนะ”“ค่ะ” หญิงสาวทั้งสองตอบรับ มองจนชายหน