LOGINห้องจัดเลี้ยงของโรงแรม
“ครีม”
“ขา”
“เรื่องนั้นพี่บอกผู้จัดการให้แล้วนะ แต่ยังไม่ได้คำตอบ เขาบอกว่าต้องคุยกับคุณมงคลก่อน”
“ขอบคุณค่ะพี่ว่าน”
“อือ ถ้าได้คำตอบแล้วพี่จะบอกนะ แต่คิดว่าคงไม่มีปัญหาหรอก เพราะครีมไม่ใช่พนักงานประจำอยู่แล้ว”
“ถ้าไม่ใช่ช่วงสอบสำคัญและพ่อต้องเข้าผ่าตัดด้วย ครีมก็คงไม่ขอหยุดทั้งอาทิตย์แบบนี้หรอกค่ะ พี่ว่านก็รู้นี่คะว่าครีมอยากได้เงินมากแค่ไหน”
“พี่เข้าใจ ไปทำงานเถอะ เดี๋ยว ๆ พี่เกือบลืม พรุ่งนี้มาทำงานเร็วหน่อยได้ไหม พรุ่งนี้จะมีโฮมปาร์ตี้ของลูกค้าวีไอพี เขาต้องการพนักงานแค่สิบคนเท่านั้น แต่เขาเลือกครีมมาด้วย”
“ได้ค่ะ พรุ่งนี้ครีมไม่มีเรียนอยู่แล้ว ครีมจะรีบมาแต่วันนะคะ”
“โอเคจ้ะ มาขึ้นรถที่นี่ตอนสี่โมงเย็นนะ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะพี่ว่าน”
วันต่อมา
“สวัสดีค่ะพี่ว่าน” หญิงสาวทักทายชายหนุ่มที่เพิ่งเดินทางมาถึง
“ดีจ้ะ” วรวุธยิ้มรับคำทักทายของหญิงสาว วางมือขยี้ศีรษะของเธอเบา ๆ “กินข้าวมาหรือยัง ถ้ายังไปกินให้เรียบร้อยก่อนสิ คืนนี้อาจจะยุ่งจนไม่มีเวลาพักเลยก็ได้”
“ครีมทานแล้วค่ะ ครีมไปเตรียมตัวก่อนนะคะ” หญิงสาวแยกตัวไปอยู่กับเพื่อน ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในหน้าที่ของตัวเอง เกือบครึ่งชั่วโมงต่อมาก็แยกย้ายกันไปยืนประจำจุด รอให้บริการแก่แขกที่มาร่วมงาน
“บาร์เทนเดอร์ อีกสิบนาทีปรุงเหล้ามาให้ฉันสักแก้วสิ แล้วเธอ..” หญิงสาวตัวเล็กบอบบาง แต่งหน้าทำผมแบบจัดเต็ม บ่งบอกความเป็นเซเล็บชี้ไปที่สุภัครพีที่ประจำตำแหน่งอยู่ใกล้ ๆ บาร์เทนเดอร์ รับหน้าที่เสิร์ฟเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในคืนนี้ “เอาไปเสิร์ฟให้ฉันในบ้านด้วย”
“คุณหนูต้องการรสไหนครับ” บาร์เทนเดอร์ผู้มีประสบการณ์ถามอย่างนอบน้อม
“คิดว่าแบบไหนเหมาะกับฉันก็ปรุงมาสิ” สาวสวยลูกสาวเจ้าของบ้านนามว่าปฐมาวดี ขยิบตาใส่บาร์เทนเดอร์หนุ่มก่อนจะเดินจากไป
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกสาวของคุณประมาณนะ ชื่อคุณปฐมาวดี” วรวุธเดินมาให้ข้อมูลกับลูกน้อง เมื่อลูกสาวเจ้าของบ้านเดินไปแล้ว
“แล้วเจ้าภาพล่ะคะ ใช่คนนั้นหรือเปล่า” ขนิษฐาที่ได้จับคู่กับสุภัครพีเอ่ยถามหัวหน้า ส่งสายตาไปทางชายหนุ่มไฮสเป็กที่เพิ่งเดินเข้ามาในงาน
“ใช่ คุณปฐพีลูกชายของคุณประมาณ เจ้าของวันเกิดวันนี้ เตรียมตัวให้พร้อมนะ พี่ไปดูความเรียบร้อยก่อน”
“เสร็จแล้วครีม เอาไปเสิร์ฟหน่อย” บาร์เทนเดอร์เทเหล้าใส่แก้วที่เตรียมไว้ ตกแต่งแก้วเสร็จก็เรียกหญิงสาวที่ถูกสั่งงานเอาไว้ตั้งแต่แรกให้ทำหน้าที่
สุภัครพียกถาดที่มีแก้วเหล้าวางไว้ เดินไปทางที่เห็นลูกสาวเจ้าของบ้านเดินไป “ขออนุญาตค่ะ” เอ่ยอย่างนอบน้อมก่อนจะเดินเข้าไปในคฤหาสน์หลังมหึมา แต่ภายในโถงใหญ่ก็มีแต่โต๊ะรับแขกกับความว่างเปล่า เหลียวซ้ายแลขวาไม่รู้จะไปทางไหนต่อดี จึงได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น หวังให้มีใครสักคนผ่านมาเห็น
“ใครน่ะ” เสียงทุ้มที่ดังขึ้น ทำให้หญิงสาวหันไปมองทางบันไดที่แยกเป็นสองทาง เขาคนนั้นกำลังยืนอยู่ทางขวา จ้องเธอเขม็ง แวบหนึ่งที่สบตากันเธอรู้สึกคุ้นหน้าเขาพิกล
“เหล้าที่คุณผู้หญิงสั่งเอาไว้ค่ะ” ตอบเสร็จก็หลบสายตาลงต่ำ
“วางเอาไว้บนโต๊ะนั่นแหละ แล้วก็ไปเอาเหล้ามาให้ฉันใหม่อีกแก้ว” ปฐพีบอกกับพนักงานของทางโรงแรมที่บิดามีหุ้นส่วนอยู่ด้วย
“ค่ะ” หญิงสาวทำตามที่เขาสั่ง วางค็อกเทลลงบนโต๊ะรับแขกแล้วเดินออกไป ไม่นานก็กลับมาพร้อมกับเหล้า เธอวางมันลงบนโต๊ะรับแขก ข้างหน้าชายหนุ่มที่เป็นคนสั่ง เสร็จแล้วก็ก้มศีรษะเดินถอยออกไป
“จะไปไหน” ปฐพีจิบเหล้าในแก้วเมื่อถามออกไปแล้ว “ยืนรอจนกว่าฉันจะบอกให้ไป”
“อะไรกัน เครื่องดื่มของแอลมาแล้วทำไมไม่เรียกล่ะ” หญิงสาวที่เดินลงมาตามบันไดทางด้านซ้ายโวยวาย เธออยู่ในชุดราตรีเลื่อมสีแดงแบบรัดรูป อวดเนินอกที่มีอยู่พอประมาณเกือบครึ่งเต้า
“ทำไมต้องให้เรียก เป็นคนสั่งมาเองไม่ใช่เหรอ”
“พี่พี แอลเป็นน้องสาวพี่พีนะ ไม่ใช่ขี้ข้าที่บริษัท”
ความทรงจำในวัยเด็กส่วนหนึ่งค่อย ๆ ผุดขึ้นมาในสมองของสุภัครพี เมื่อได้ยินสองพี่น้องคุยกัน คนหนึ่งชื่อพี คนหนึ่งชื่อแอล ชื่อนี้เหมือนกับชื่อของ...
‘ไปแล้วไม่ต้องซมซานกลับมาอีกนะ แล้วก็ไม่ต้องไปบอกคนอื่นล่ะว่าเรามีแม่คนเดียวกัน ฉันอาย’
‘แอล’
‘ทำไมล่ะพี่พี แอลพูดผิดตรงไหน ก็หล่อนเป็นเหลือบเป็นไรคอยกวนใจพวกเรามาตลอดจริง ๆ นี่’
‘เขาก็จะไปอยู่แล้ว จะไปพูดอีกทำไมล่ะ ถ้ายังพูดมาก เขาไม่ยอมไปขึ้นมา แกจะรับผิดชอบไหม’
‘แม่ก็ไม่อยู่แล้ว หล่อนคงไม่หน้าด้านขนาดนั้นหรอก จริงไหมระพี’
‘น้องแอลกับน้องพีไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอกจ้ะ ไม่ให้พี่อยู่พี่ก็ไม่อยู่หรอก ขอให้น้องทั้งสองคนมีความสุขมาก ๆ นะ ดูแลตัวเองให้ดี ๆ ด้วยล่ะ พี่ไปก่อนนะ’
แม้จะจำได้รางเลือนและไม่รู้สึกถึงความผูกพันเป็นพิเศษ แต่เธอก็รู้แล้วว่าสองคนนี้คือน้องต่างบิดาของแม่ ใจของเธอเต้นรัว
“นั่นเธอจะไปไหน ฉันบอกว่ายังไง” ปฐพีถามเสียงขรึมทรงอำนาจ
“ฉันขอโทษค่ะ เดี๋ยวฉันจะให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทนนะคะ” สุภัครพีหยุดตอบโดยไม่หันไปมอง รีบก้าวเท้ายาว ๆ ออกจากบ้าน
คิ้วเข้มขมวดมุ่น มองหญิงสาวที่ลนลานเดินจากไปอย่างไม่พอใจ และไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงเป็นแบบนั้น
“เป็นบ้าอะไรของเธอน่ะ แต่หน้าตาเธอดูคุ้น ๆ นะพี่พี คล้าย ๆ ใครสักคนที่เรารู้จักเลย”
คิ้วเข้มขมวดมุ่นอีกครั้ง เรื่องการจดจำลักษณะคนต้องยกนิ้วให้น้องสาวคนนี้เลย เพราะมันเป็นพรสวรรค์ที่ดีเพียงอย่างเดียวที่เธอมี
“พี่พีจะไปไหน”
“จะไปดูให้แน่ใจว่าแกมั่วหรือเปล่า” เขาตอบคำถามน้องสาว แล้วก้าวยาว ๆ ตามพนักงานหน้าตาสวยถูกใจ ตั้งแต่แรกเห็นคนนั้นไปจนทันกัน “เดี๋ยวก่อน”
ใบหน้าเคร่งขรึมเผลอยิ้มออกมา เมื่อเห็นร่างที่นอนหลับไร้สติตะแคงตัวอยู่บนเตียงนอน ข้าง ๆ เตียงมีกล่องของขวัญที่สุทธิดาส่งมาให้แทนคำขอบคุณเปิดอยู่ ข้างในมีชุดชั้นในและชุดนอนผ้าซีทรูที่เข้าชุดกันหลายชุด เขาเดินเข้าไปนั่งลงบนเตียงอย่างนุ่มนวลที่สุด เพราะกลัวจะทำให้เธอตื่น แต่ก็ทำพลาดจนได้ ร่างบางส่งเสียงอุทธรณ์ในลำคอก่อนจะลืมตาขึ้นมา “พี่ไค” เธองัวเงียเรียกเขา “มานานแล้วเหรอคะ ทำไมไม่ปลุกครีมล่ะ” “พี่บอกให้กลับบ้านไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ” สามีตีหน้าขรึมเสียงขรึมใส่ภรรยา คิด ๆ แล้วก็อยากงอนเธอไปอีกหลาย ๆ วัน ที่ทำกับเขาเหมือนไม่ใช่สามี แต่ก็ทำไม่ลงเพราะรักเธอมากเกินไป คนถูกดุที่อยู่ใต้ผ้าห่มนวมเม้มปากแน่นก่อนจะค่อย ๆ คลายออก “ครีมไม่สบายใจนี่คะ ครีมอยากมาง้อ อยากมาขอโทษ” “ขอโทษเรื่องอะไร ครีมทำอะไรผิดถึงต้องมาขอโทษ” สุภัครพีลุกจากที่นอนแล้วดึงมือสามีมากุมไว้ “รู้ไหมคะว่าครีมดีใจมากแค่ไหนเวลาที่พี่ไคไปรับครีม แต่ถึงจะดีใจมากครีมก็ไม่อยากให้พี่ไคไปรับ เพราะครีมไม่อยากตกเป็นเป้าสายตา ไม่อยากถูกครหาและไม่อยากให้พี่ไคต้องถูกนินทาไปด
ปฐพีแปลกใจกับการแสดงออกอย่างยิ้มแย้มแจ่มใสไร้การเสแสร้งนั้นนัก เธอยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติแบบนั้นได้อย่างไรกัน ไม่รู้สึกเป็นปมด้อยกับตัวเองบ้างเหรอ ที่เกิดมาสวยและรวยมากแต่กลับกลายเป็นคนง่อยเปลี้ยเสียขา“แล้วปกติหนูเล็กใช้ชีวิตอยู่ในบ้านอย่างไรครับ คือผมสงสัยเพราะคุณบอกว่าจะซื้อรถเข็นมาใช้ แสดงว่าคุณยังไม่มีถูกไหมครับ”“ค่ะ” หญิงสาวตอบตรง ๆ “ปกติเล็กจะทำงานอยู่ในห้องนอนเสียส่วนใหญ่ ห้องนอนของหนูเล็กเหมือนคอนโดห้องหนึ่งเลยค่ะ มีมุมทานข้าว มุมนั่งเล่น มุมทำงาน ใช้ชีวิตอยู่ในนั้นได้ 24 ชั่วโมงเลยค่ะ ถ้าจะออกจากห้องนอนก็ค่อย ๆ เดิน ค่อย ๆ พัก เดี๋ยวก็ลงมาถึงข้างล่างเองค่ะ แต่ส่วนใหญ่หนูเล็กจะขี่หลังจัสตินลงมามากกว่าค่ะ จัสตินบอกว่าหนูเล็กอวบเกิน เขาอุ้มไม่ไหวค่ะ” เธอเล่าไปยิ้มไป และยิ้มกว้างขึ้นเมื่อพูดถึงเพื่อนเกย์สุดที่รักที่เพิ่งมาจากอังกฤษ แต่ตอนนี้กำลังไปเที่ยวทะเลภาคใต้กับแฟนหนุ่มเพื่อหาไอเดียใหม่ ๆ“ใครคือจัสตินเหรอจ๊ะ” ประมาณถามอย่างสนใจเพราะรู้แน่ ๆ ว่าฝ่ายนั้นคือผู้ชาย“เพื่อนที่สนิทกันมาก ๆ ของหนูเ
จนล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ มารดาของเธอก็ยื่นคำขาดว่าจะไม่ยอมอ่อนข้อให้อีก เพราะเธอผลัดท่านมาสองปีแล้ว ท่านยอมรับข้อเสนอเรื่องที่เธอให้โกหกใครต่อใครว่าเป็นโรคประหลาด เท้าอ่อนเปลี้ยเพลียแรง เดินเหินด้วยตัวเองแทบไม่ได้ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วอาการที่ว่ามานั้นจะเกิดขึ้นได้ยากมาก ต้องเดินไกล ๆ เป็นกิโลหรือยืนนาน ๆ เป็นชั่วโมงเท่านั้นอาการถึงจะกำเริบแล้วท่านก็รับปากอีกข้อว่าถ้าแต่งงานแล้วในอนาคตต้องหย่าร้างกัน ท่านจะไม่ก้าวก่ายกับชีวิตส่วนตัวของเธออีกดังนั้นเธอจึงตัดสินใจรับปากเรื่องแต่งงาน เมื่อสืบประวัติของว่าที่เจ้าบ่าวมาอย่างละเอียดแล้วรู้ว่าฝ่ายนั้นก็ตกที่นั่งเดียวกับเธอเหมือนกัน เขาเป็นคนเย็นชาไม่รู้จักกับความรัก เป็นเพลย์บอยตัวพ่อ ชอบผู้หญิงสวยสง่าและเซ็กซี่ซึ่งต่างกับเธออย่างสิ้นเชิงเธอเป็นคนบ้า ๆ บอ ๆ และฝันที่จะมีความรักแบบเจ้าชายกับเจ้าหญิง ถ้าเขาเป็นขั้วบวกเธอก็เป็นขั้วลบ รับรองว่าชีวิตคู่ต้องล่มจมไม่เป็นท่าตั้งแต่ปีแรกแน่ ๆ แบบนี้แหละที่เธอต้องการที่สุด“ถ้าลูกตัดสินใจเองพ่อก็ตามใจลูก พ่อหวังว่าลูกจะมีความสุขกับการตัดสินใจของลูกนะ”
“ส่วนเธอ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอไปได้ยินอะไรมาหรืออิจฉาอะไรครีมเขา แต่เธอควรจะรู้เอาไว้ว่าครีมไม่ใช่เด็กเสี่ยอย่างที่เธอเข้าใจ ครีมเขาเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของฉันทุกประการ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปอย่าให้ฉันได้ยินว่าเธอดูถูกภรรยาฉันอีก ฉันจะดำเนินคดีกับเธอสถานเดียว” ไคหยิบนามบัตรจากกระเป๋ายื่นให้เธอ “เธอควรรู้เอาไว้ว่าฉันเป็นใคร ก่อนที่คิดจะท้าทายคำพูดของฉัน” แล้วยื่นอีกใบให้คนที่เป็นอาจารย์กชกรรับนามบัตรมาอ่าน.. ปากที่แสยะอย่างไม่ค่อยพอใจเปลี่ยนเป็นเม้มแน่น ใจแป้วลงไปทันทีที่ได้เห็นชื่อบริษัทและตำแหน่งบนนามบัตรใบนั้นแม้แต่พรหมเทพยังตกใจเมื่อได้รู้ความจริง เขาหันไปมองหญิงสาวที่เคยตามจีบ ดูไม่ออกจริง ๆ ว่าเป็นเมียมหาเศรษฐี เพราะเธอทำตัวติดดินมาก“พี่ขอโทษแทนนิ่มด้วยนะครีม พี่สัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก วา จีน แล้วก็แมวด้วย พี่ขอโทษจากใจเลย”“คุมเมียพี่ให้ดีหน่อยก็แล้วกันพี่กาแฟ อย่าปล่อยให้บ้าอีกล่ะ” พันวากล่าวอย่างไม่ค่อยเต็มใจจะยกโทษให้สักเท่าไหร่“ครีมแต่งงานกับพี่ไคแล้วจริง ๆ พวกเราเป
“พอ ๆ หยุด ๆ” ความโกลาหลเกิดขึ้นในทันที เพื่อน ๆ ของทั้งสองฝ่ายต่างก็ช่วยกันห้ามช่วยกันดึงเพื่อนออกมา“ปล่อยกู! กูบอกว่าปล่อยกูไงไอ้กาแฟ มึงไม่เห็นเหรอว่ามันตบกูตั้งหลายที” กชกรพยายามจะดิ้นออกจากวงแขนของคนรักให้ได้“มาสิอีดอก อีร่าน มึงแน่จริงมึงก็เข้ามาเลย กูจะตบเลาะฟันให้ร่วงหมดปากเลยมึง” พันวาก็พยายามจะถลาเข้าไปหาอีกฝ่าย แต่ก็ถูกเพื่อน ๆ ดึงตัวเอาไว้“มึงเสือกอะไร กูไม่ได้ด่ามึงซะหน่อย คนโดนด่าเขายังไม่ร้อนตัวเลย”“ก็เพราะครีมมันไม่ร้อนไงกูถึงได้ร้อนแทน ปากมึงว่างนักเหรอไง ถ้าว่างมากก็ไปแดกขี้ลูกมึงไป จะได้เลิกเห่าหอนใส่ชาวบ้านเขา”“พอเถอะวา อายเขา” สุภัครพีห้ามเพื่อน “เดี๋ยวอาจารย์มาเห็นเข้าก็เป็นเรื่องหรอก”“เป็นก็เป็นสิ จะได้รู้กันไปเลยว่าใครผิด”“มึงนั่นแหละผิด กูจะเอาเรื่องมึงให้ถึงที่สุดคอยดูสิอีวา อีดอก”“ก็เอาเลยสิอีนิ่ม อีดอกทองเอ๊ย”“กรี๊ดดดด..” กชกรสะบัดแขนสุดแรงจนสามารถพาตัวเอ
“ขอบใจมากเลยนะที่ยังนึกถึงพี่ แล้วที่ญี่ปุ่นเป็นอย่างไรบ้าง หมดหนาวหรือยัง” “ไม่หนาวไม่ร้อน อากาศกำลังดีถ้าใส่แขนยาวนะคะ” “แล้วได้ไปเที่ยวที่ไหนบ้างล่ะ” “ก็ไม่ค่อยได้ไปไหนหรอกค่ะ” เธอไล่ชื่อสถานที่เที่ยวที่ได้ไปในช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่อยู่ญี่ปุ่นให้เขาฟัง “เขาว่าหนุ่มญี่ปุ่นหล่อ ๆ เยอะ เดินกันเกลื่อนถนนจริงหรือเปล่า” “ไม่จริงหรอกค่ะ ที่ครีมเห็นยังไม่มีใครหล่อเท่าพี่ชายของครีมสักคน” เธอพูดเอาใจเขาพร้อมรอยยิ้มกว้าง“รวมคุณไคด้วยหรือเปล่า”“คนนั้นเป็นข้อยกเว้นค่ะ คนนั้นเขาเป็นเทพบุตรค่ะ”“ไม่ค่อยเข้าข้างสามีตัวเองเลยนะ” แม้จะรู้สึกคันยิบ ๆ ที่หัวใจ แต่เขาก็แ







