“แปลว่าต้าร์ยังไม่ได้ร้อง”
“ยัง...ไม่มีเวลาให้เลยไงล่ะ...คืนนี้คงไม่ทัน เอาเพลงเก่าไปก่อน...”
เขามองไปที่เอกนรีอีกหน ก่อนจะบอกกับมยุรีว่า
“แนะนำให้เรารู้จักเพื่อนเธอได้ไหม ยุ”
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้...ไปตอนนี้เลย...” หล่อนคว้าข้อมือเขา “สักสองนาที...นรีเป็นคนเก่งนะ เก่งมากด้วย”
“เก่งด้านไหน...สายเดียวกับเธอไหม”
“ก็สายเดียวกัน แต่นรีไปทำบริษัทเล็กๆ แล้วก็เป็น
ยูทูปเปอร์ เป็นที่ปรึกษาด้านความงาม...ด้านการทำคอนเท้น”“อือ หลายอย่างนะ”
“ก็บอกแล้วไงว่ามีความสามารถ มากกว่านักการตลาดพื้นๆ แบบฉัน...”
มยุรีปลื้มเพื่อน เดชชนะบอกตัวเอง ดูแสดงออกอย่างจริงใจยิ่ง
“คนนี้ล่ะที่เราอยากเอามาช่วยทำวงคูนแคน”
“หือ...ได้หรือ”
เมื่อมาถึงโต๊ะ มยุรีก็เอ่ยแนะนำ
“นรี...รู้จักญาติฉันหน่อย...เขาชื่อเดชชนะ ส่วนนี่เพื่อนเรานะ เดช ชื่อเอกนรี...”
อายุน่าจะรุ่นเดียวกัน เธอมองแล้วยื่นมือมาจับ...เขาจับมือหล่อน มีอะไรบางอย่างวิ่งผ่านมือมา
เธอนึกในใจว่า
...ลูกไม่มีพ่อมีพลังที่ถ่ายทอดความอบอุ่นได้ด้วยวุ้ย...
เพราะเธอรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ เธอมีครูที่สอนเรื่องพลังจากมือให้...เป็นความรู้ติดตัวเกี่ยวกับด้านโหราศาสตร์ลายมือด้วย ลักษณะของมือที่ไม่แข็งกระด้างหรือหยาบ และไม่ได้อ่อนนุ่มจนเกินไป
ยิ่งดูใกล้ๆ เขามีผิวสวยมาก
“ใช้ครีมอะไร” เธอถามออกไป
มยุรีหัวเราะ
เดชชนะทำหน้างงๆ “ครีม?”
“ผิวสวยมาก...”
เขาทำท่าเขินๆ
“นายเดชไม่ได้สำอางขนาดนั้น ผิวดีเอง...”
“ขอบคุณที่ชมครับ”
“อยากให้นรีมาช่วยทำวงคูนแคนจังเลยล่ะ เดช...”
“ผู้จัดการวง?”
“ก็หากจะทำวงจริงจัง...นรีเก่งนะ...มาช่วยฉัน”
ชายหนุ่มหัวเราะ มองเพื่อนของมยุรีอีกหน ก่อนจะบอกว่า
“คงจะไม่มีเงินจ้างหรอกครับ”
และเขาก็ดึงมือตัวเองออกไปไม่ได้...เพราะเอกนรีกุมเอาไว้แน่น...ชายหนุ่มดึงออกนิดหนึ่ง หญิงสาวทำท่าขัดเขิน ยอมปล่อยโดยเร็ว
เดชชนะยิ้มมากกว่าเดิม...
รอยยิ้มคุ้นๆ
เหมือนรอยยิ้มใครนะ แต่เอกนรีคิดไม่ออก
“ผมขอตัวก่อน”
เขาไปแล้ว มยุรียังอยู่ที่นี่...
“ไง ทำท่าเหมือนต้องมนต์ นรี”
“บ้า...” เธออุทานออกมา “อย่าคิดอะไรแบบนั้น ฉันมีแต่พี่อาทรคนเดียวเท่านั้น”
“เดชเป็นคนมีเสน่ห์ และยังไม่มีแฟนด้วยนะ”
“มาขายทำไม ไม่ซื้อย่ะ...”
“เห็นอ้อยอิ่งจับมือเขา”
“ก็มือเขามีพลัง...เข้าใจไหม เธอก็รู้ว่าฉันทำนายผ่านศาสตร์ลายมือได้ ขอย้ำ ฉันไม่ได้คลิกกับเขานะ ฉันมี
พี่อาทร”“จ้ะ จ้ะ ย้ำจัง มีแต่พี่อาทรคนเดียว”
ก่อนมยุรีจะผละไป และอีกไม่นาน เธอก็ได้ยินเพลงใหม่ของนักร้องหนุ่ม...เสียงดี...
และเพลงนั่น...อะไรนะ
หัวใจซ่อนชู้...
เพลงเขียนประณามผู้หญิงซ่อนชู้เอาไว้ในหัวใจ
ใคร
ใคร
เอื้อยฟ้าหรือ...
เธอยิ้มมุมปากอย่างใช้ความคิด...น่าจะผลักดันให้เพลงนี้ไปถึงหูของเอื้อยฟ้า
ได้ยินเสียงสาวๆ และสาวไม่น้อยที่มาจองพื้นที่ดูการร้องเพลงนอกเหนือจากการกินอาหาร
นึกประหลาดใจ...
นักร้องสำรอง...มีแฟนขนาดนี้ทีเดียวหรือ และเสียงเรียก
โอป้า...
พี่เดช ก็เต็มสองหู
“แฟนเยอะเหมือนกันนะเรา” หญิงสาวออกปากรำพึงเบาๆ และหลังจากนั้นสักครึ่งชั่วโมง...
นายต้าร์ ตฤณ คูนแคนก็ปรากฏตัวขึ้น
นั่นหรือ ลูกชายเอื้อยฟ้า หญิงสาวเบะปาก
สูงผอม...ผิวคล้ำ...และเขากระโดดขึ้นเวทีรับช่วงต่อจากเดชชนะในการร้องเพลง
เพลงที่1 ผ่านไป เพราะอยู่กับลุงที่ทำเพลง เธอพอจะแยกแยะคนร้องที่เสียงดี...แต่นายต้าร์ร้องคร่อมคีย์
เหมือน...จะเมา...
แต่เสียงแฟนๆ ก็เซ็งแซ่ พอๆ กับเดชชนะ...
มยุรีเดินกลับมาบอกว่า “ตอนนี้เดชมีแฟน FC ไม่น้อยทีเดียว...ทั้งที่เขาไม่อยากเอาดีทางนี้”
“ปกติเขาทำงานอะไรล่ะ”
ยังไมทันได้คำตอบก็มีเสียงอื้ออึง โกลาหลหน้าเวที พร้อมกับเสียงตะโกนบอกว่า
“เจ้าของลิขสิทธิ์เพลงมาจับนักร้อง...”
มยุรีขยับตัว
เอกนรีเช่นกัน
“เพลงของเอื้อยฟ้า เอามาร้องไม่ได้”
เอกนรีเอนหลังพิงพนัก พึมพำว่า “เอาแล้วไง นังนางฟ้านรกเริ่มแล้วไง”
หญิงสาวหัวเราะคิกคัก ปรายตามอง...เอนตัวมาหาอีกนิด...“อย่า...อย่า” ชายหนุ่มร้องห้าม “นิสัยผมไม่ได้ดีนา... คุณนรี”“ไม่ดียังไงน้อ”“คุณนี่...เป็นดาวยั่วมาจากไหน”“ยั่วสวาทไม่เป็น แต่ยั่วโทสะ นี่ถนัด...”“ใครบอกว่าไม่ยั่วสวาท” เขากอด “ยั่วมาก รู้ไหม...ผมกลัวจริงๆนะ...”“ถ้างั้น ถอยห่างไปนิด...” เธองึมงำ...แต่คนที่ปากบอกว่าถอยห่างไปนิด คือคนที่กระแซะมาติดตัวเขา และสวมกอดเขาตอบ “อยากให้กลัวมากๆ...”“แล้วไงล่ะ ทำท่าเหมือนไม่กลัว”“แหม...ตัวสั่นแล้วนะเนี่ย” เอกนรีเอ่ย ลูกไฟจากกองไฟเล็กๆ แตกได้ยินเสียงเบาๆ กับเสียงแมลงกลางคืนจากต้นไม้ที่อยู่ในระดับต่ำจากเนินที่ปลูกบ้านนี้ “สั่นรอ...”“เดี๋ยวก็เจอดีตรงนี้...บนดิน...บนหญ้า ใต้ฟ้า ใต้จันทร์เสียหรอก”“ไม่เคยเจอ ถือเป็นประสบการณ์”เอกนรีตอบชัดนัก และก่อนจะโดนดี เธอก็กอดเขาไว้แน่น“ปีใหม่...จัดงานแต่ง...ไม่ต้องใหญ่มากนัก ก็ได้...”“ตอนไปขอคุณจากลุง...จะได้ไหมน้อ”“ไม่เป็นไร...ไม่ได้ก็จะแต่ง...ลุงคนเดียวตัดทิ้งได้”“น่ารักเสมอ คนดีของผม”“คุณก็หวานเสมอ จริงๆ นะ เกิดมาเพิ่งเคยเข้าใจว่าทำไมผู้หญิงถึงยอมข้ามขั้น เต็มอกเต็มใจ อยากพลีกาย...หลังจากพ
ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป“รอหลังเพื่อนหนูแต่งก่อนดีกว่าค่ะ...นะคะ...ปีหน้าแล้วกัน”“อาต้องรอข้ามปีเชียวหรือ” “เป็นพ่อม่ายข้ามปี หมักได้ที่นะคะ”ดำรงหัวเราะหึๆ “อ่ะ อีกปี...ข้ามปี...รอได้...”“ให้หนูเข้าใจเรื่องราวพวกนี้ก่อนค่ะ คุณอา...”“เข้าใจอะไร”“สมัยสาวๆ พวกเราเชื่อภาษิตโบราณ...ว่าเราจะไม่ร้องเพลงในครัว เพราะจะได้ผัวแก่”ดำรงทำตาโต“หนูไม่เคยร้องเพลงในครัวเลยนะคะ ไม่ว่าครัวไทย ครัวฝรั่งหรือที่ไหนที่ทำอาหาร...หนูกลัวมีผัวแก่ แล้วนี่อะไรกันคะ...ฮือๆ...” เหมือนกิตติมาครางเล็กน้อยอีกด้วย “หนูจะมีผัวแก่...หนูสับสนค่ะ แม้หนูจะฝ่ากมือหนูไว้กับคุณอา แต่ความจริงคือหนูจะมีผัวแก่”“อย่างเดียวเลย หนูมา” เสียงดำรงอ่อนโยนนัก “ถามใจตัวเองว่ารักอาไหม...จะแก่จะหนุ่มมิใช่ปัญหา ขอเพียงมีใจ”นั่นสินะ...กิตติมาบอกตัวเอง...ขอแค่มีใจ ขอแค่รัก... ในที่สุดหล่อนก็พยักหน้ารับ ความจริง ความรัก สองอย่างเดินไปด้วยกัน หล่อนฮัมเพลงเบาๆ“ถึงแก่แล้วจะรักใครจะทำไม”“ไม่ทำไมหรอกจ้ะ หนูมา แต่ขอหอมแก้มหนูสักฟอดแล้วกันนะ”อัจฉราขอถอนตัวออกไปจากบ้าน จากการดูแลวงและทุกคน เพราะดำรงจะแต่งงานแน่ๆ ในปีหน้า หล่อนพ
เอกนรียอมจะแต่งงานกับเดชชนะ พร้อมกับเขาประกาศถอนตัวจากวงการเพลง สุดท้ายอำลาเวที คืนนี้หลังจากสามเพลงแรกผ่านไป เดชชนะเชิญผู้หญิงคนหนึ่งออกมา พร้อมกับการประกาศร้องเพลง“จะกี่ล้านหยดน้ำตาอย่าสับสน”เอกนรีแต่งตัวด้วยชุดที่เอ๋จัดหาให้...เป็นการขึ้นร้องเพลงครั้งแรกของเธอเสียงประกาศบอกว่าเธอคือผู้จัดการวงคูนแคนเธอคือยูทูปเปอร์ คือเจ้าของคลิปดังๆ หลายคลิป...บนแอพลิแคชั่นที่มาแรงต่างๆแฟนเพลงข้างล่างส่งเสียงกรี๊ดๆ เสียงเอกนรีไพเราะเพราะถูกเทรนมาไม่น้อย ที่พอจะร้องเพลงได้ จึงง่ายที่จะไม่ต้องคร่อมทำนองไม่ผิดคีย์...จบเพลงด้วยคำบอกว่า “โอป้าเดช ให้เพลงนี้กับฉันวันที่โลกของฉันถล่มลงมา วันที่ฉันถูกเท ผู้หญิงที่หลงว่าตัวเองพร้อมถูกเทกะทันหัน ต้องเยียวยาตัวเอง วันที่อ่อนแอและเขาก็บอกว่าไงนะคะ”เธอหันมาถามเขา“กี่ล้านหยดน้ำตาอย่าสับสน จะขอดูแล”เสียงยิ่งดังกว่าเดิม“กาแฟมันขม ใส่ผมแทนนม”เสียงแฟนเพลงกรี๊ดกี่ครั้งแล้ว...ไม่ได้เป็นเสียงไล่แห่ แต่เป็นเสียงชื่นชมกับโมเม้นท์นี้การยอมรับเอกนรีเดชชนะคุกเข่าลงบนเวที...ทีมงานวิ่งมาส่งดอกกุหลาบสีชมพูให้กับเขา1 ช่อใหญ่...เขาขอเอกนรีแต่งงาน“แจ่งง
“เขาเคยรักฉันมากนะ” เอื้อยฟ้าอวด “ก็ที่พังเป็นสิบๆ ปีไม่ใช่เพราะรักฉันหรือ”“จะหลงตัวเองไปถึงไหน เขาหมดแล้ว อ้อ...ตอนนี้เขามีคนรักใหม่แล้วนะ”“ใคร”ก่อนจะถึงกับหน้าถอดสี“กิตติมา เพื่อนของเอกนรี จิตแพทย์ พี่ดำรงบอกทุกคนที่บ้านว่าหลังจากเดชกับเอกนรีแต่งงานกัน เขาจะแต่งกับกิตติมา”“แต่งงาน?”“ใช่”“เขาคิดอะไร เด็กนั่นคราวลูก”“รักไง....เขารักเด็กคนนั้น...เขาดูมีชีวิตชีวาอีกหนนะ เอื้อยฟ้า นั่นคือความจริง ถอยไปจากชีวิตเขาให้ไกลเหมือนยี่สิบกว่าปีที่เธอมาจากบ้านเขา...จากชีวิตเขา จะหวนไปทำไม ผัวหรือลูกหรือ เธอไม่เคยอยากได้ เพราะเธออยากทำรายได้ จะไปเอาคนที่เธอทิ้งมาทำไม”“พูดมาก เอาลูกชายเธอคืนไป”เอ๋ อัจฉรายักไหล่ แล้วตอบหน้าตาเฉยว่า“สุดแต่เขานะ จะอยู่ตรงไหนก็ได้ทั้งนั้น นั่นก็พ่อเขาแท้ๆเธอปั้นเขาสิ...ปั้นเลย ต้าร์มีดีกรีนักร้อวงมากกว่าเดชอีกนะ ทำให้ได้สิ วัดฝีมือเธอกับผัวด้วย”และความจริงต้าร์ไม่ได้ยินดีที่มีพ่อตัวจริงเขาตกใจ...เขาอยากเป็นลูกเอื้อยฟ้ากับดำรง วิลลี่อาจจะดูแลเขาดี และไปขอเมญ่าให้เขา...แต่ตัวเมญ่าเองเป็นฝ่ายหนี หล่อนบอกกับพ่อว่าขอไปอยู่เมืองจีนชั่วคราวด้วยข้ออ้างว่า.
“ผมขอพูดบ้างนะ ย่า” เดชชนะเอ่ย มองดูทุกคนกล่าวคำขอบคุณออกมา “ผมรู้ทุกคน รักและห่วงผม และผมขอบอกว่าผมรู้ว่าตัวเองเป็นใคร อยู่ตรงไหนและจะไปตรงไหนต่อ เรื่องของเอื้อยฟ้า หรือสามีเค้า...เป็นเรื่องอื่น เรื่องของคนนอก...ตอนนี้ผมห่วงแต่ต้าร์ว่าจะลงเอยแบบไหน”“เขาจะมีเมียเป็นตัวเป็นตน ล่าสุดลุงบอกว่าจะไปขอเมญ่าให้เขาค่ะ”“อ่ะนะ ขอนังเด็กคนนั้น” นายดุ่ยรำพึง “จะได้ไหม”“น่าจะได้นะ...บางทีมีเมียอาจจะดีขึ้น และดีอีกข้อ นางจะได้ไม่ยุ่งกับโอป้าของคูนแคนด้วยค่ะ นางยังพยายามอยู่ตลอดนะคะ ตอดนิดตอดหน่อย ไมได้ก็ยังคุยโว...ทำเรื่องเอง”“หึง?” นายดุ่ยแกล้งถามหญิงสาวหัวเราะ “มาก...”อัจฉราเพิ่งขอเข้ามาสมทบ...“ฉันเพิ่งโทร.ไปคุยกับเอื้อยเฟ้า”“ยังไงบ้าง” ดำรงถาม “เอื้อยฟ้าพูดอะไร”“เค้าอยากได้เดชไปทำเพลง...”เดชชนะยิ้มมุมปาก “ขอในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้...”“เค้าอยากเจอเดชนะ”“เจอผม” แล้วชายหนุ่มก็ส่ายหน้า “ทำไมล่ะ เจอเค้าสักครั้งไหม”“ผมเจอมาแล้ว” เขายังจำภาพที่หล่อนชูเงินใบละพันห้าใบหน้าเวทีได้ “เริ่มต้นเจอกันครั้งแรก เค้าก็จะเอาเงินฟาดหัวผม...ห้าพัน...กับทั้งชีวิตที่ผ่านมา...ผมไม่ขอเจอครับ เ
ต้าร์รู้ตัวขึ้นมาอีกทีชีวิตก็ยิ่งบัดซบมากไปกว่าเดิม...ต้องใช้คำนี้ เขาไม่ได้สนใจจะทำตัวให้ดีขึ้นเอื้อยฟ้าวางมือมีแต่วิลลี่ที่หันมาประคบประหงมดูแล...พาไปพบหมอ...ทั้งหมอทางอายุกรรม หมอทางจิตเวช...แต่ต้าร์ก็ยังไม่ได้ดีขึ้น เพลงก็ไม่ได้ทำ และเอกนรีก็บอกกับคนเป็นลุงก่อนกลับไปบุรีรัมย์อีกครั้งว่า“ลุงต้องทบทวนหน่อยแล้วค่ะว่าจะเลี้ยงลูกชายลุงแบบไหน ให้เป็นคนเต็มคน มิใช่หมาขี้เมา เสพยา..บ้าผู้หญิง”เพราะมาอยู่กรุงเทพ ไม่มีเมญ่า ต้าร์ก็ซื้อบริการมากินถึงในบ้าน...“ติดโรคร้ายอีก จะยิ่งเสียใจนะลุง...ที่จริงหนูว่าหาเมียให้เป็นตัวเป็นตนก็ดีกับเขานะ”“เมีย?? ฮ้า...ใคร” วิลลี่ทวนอย่างฉงน“เมญ่า...ผู้หญิงงคนนั้นชื่อเมญ่า เป็นลูกสาวเสี่ยระดับเจ้าพ่อของเมือง มีโรงแรม ไปขอให้เขาสิ ลุง...เพราะตอนนี้ยัยนั่นกำลังไปแย่งยื้อเดช หนูไม่อยากเปิดศึก...อีกอย่างนางก็มีผัวแล้ว มายุ่งกับเดชชนะทำไม...จริงไหม ป้า” หันไปถามเอื้อยฟ้าเสียอีก “บอกสามีป้าไปขอลูกสะใภ้ซะ...บางทีมีเมียเป็นตัวเป็นคนอาจจะดีขึ้น แต่ค่าสินสอดคงแพงหน่อยนะ พ่อเขาดังและรวยจริงเมื่อความจริงปรากฏ ความผิดหวังของเขาก็มีเต็มที่ แต่เขาก็ยังอยากช่วยล