"ทำไมคุณหนูฟางอี้หลิงถึงให้คนดูแลนั่งร่วมโต๊ะด้วยละขอรับ ข้าเตรียมโต๊ะเอาไว้ต่างหากด้านหลังแล้วนะขอรับ" นายอำเภอรู้สึกไม่พอใจกับคนติดตามของนางที่นั่งด้านข้างเจ้านายแล้วทำหน้าตายไม่สนใจเขาที่เป็นเจ้าภาพของงาน แต่ต้องกดข่มความโกรธเอาไว้เพราะสนใจในตัวนางอยู่ตอนนี้ รอให้นางหลงเขาเสียก่อนเถอะที่เหลือเขาจะจัดการเองกับคนของนาง
"อ้อคนของท่านพ่อที่ให้มาคอยดูแลเป็นพิเศษที่จวนของข้าคนที่ติดตามดูแลถือว่าคือคนในครอบครัว พวกเราจะให้เกียรติทุกคนเท่าเทียมกัน พวกเขาทำงานแทนทุกอย่างถ้าเกิดเรื่องอะไรพวกเขาทุกคนคือด่านหน้าที่คอยปกป้องข้าก่อนคนจากคนประสงค์ร้าย การจะใช้คนจึงต้องมีทั้งพระเดชพระคุณ ไม่ใช่กดหัวคนที่ดูแลเราเอาไว้ใต้ตีน ใช้ใจซื้อใจพวกเขาทำเหมือนคนในครอบครัวจะได้สบายใจช่วยเหลือคนกันแบบใจแลกใจนะเจ้าคะท่านนายอำเภอ" างอี้หลิงตอบกับไปแบบชิวๆ "อ้อถ้าเช่นนั้นข้าต้องขอโทษด้วยขอรับ แต่ถึงอย่างไรก็ควรจะให้เจ้านายมีโอกาสมีเวลาส่วนตัวด้วยนะขอรับคุณหนูฟาง" นายอำเภอลู่ฟงพูดต่อแบบสื่อความหมาย "อ้อเจ้าคะข้าไม่ถือนายน้อยโม่เฉียงกับนายน้อยหลี่เจิ้นหยางนั้นรู้จักกันกับข้ามาหลายปี พวกเราสามรถคุยกันได้ทุกเรื่องเลยเจ้าค่ะท่านนายอำเภออยากร่วมพูดคุยก็ได้นะเจ้าคะตามสบาย คนของข้าเขาจะไม่ขัดขวางอะไรอยู่แล้วเจ้าคะ" ฟางอี้หลิงตอบคำถามไปอีกชุดเบาๆ "อ้อได้ขอรับแม่นางฟาง ช่นนั้นข้าจะกลับมานั่งร่วมโต๊ะกับท่านทั้งสามคนอย่างแน่นอนหลังจากเปิดงานต้อนรับทุกคนที่มาร่วมงานในจวนขอข้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว หวังว่าจะได้ความใส่ใจจากกคุณหนูฟางอี้หลิงเหมือนกับนายน้อยทั้งสองคนนะขอรับ" นายอำเภอลู่ฟงบอกก่อนจะขอไปจัดการงานของตนเองก่อนจะมานั่งร่วมโต๊ะเดียวกันกับนาง เขาเล็งถึงผลประโยนช์มากมายจากจวนของนาง "เชิญท่านนายอำเภอตามสบายเจ้าค่ะงานวันนี้เป็นงานที่ใหญ่พอสมควร ท่านเองต้องคอยดูแลต้อนรับแขกอยู่แล้วไม่ต้องเป็นห่วงอะไร ทางนี้ข้ามีเพื่อนร่วมโต๊ะให้พูดคุยไม่เบื่อหน่ายเจ้าค่ะ" ฟางอี้หลิงตอบยิ้มๆส่งไปให้นายอำเภอที่มอนางแทบจะกลืนกินนางไปทั้งตัว ช่างไร้มารยาทสิ้นดีคงคิดว่าตนเองมีหน้าที่ใหญ่โตทุกคนต้องก้มหัวให้พร้อมทั้งเกรงกลัว เสียใจด้วยถ้าอยู่ในที่ปลอดผู้คนนางจะสั่งสอนให้มันเดินกลับจวนไม่ถูกเลยละ ใจเย็นๆก่อนฟางอี้หลิงงานใหญ่รออยู่ นางนั่งนับหนึ่งถึงร้อยเพราะรังเกียจสายตาหื่นของนายอำเภอลู่ฟง พอนายอำเภอเดินออกไปจากโต๊ะสามหนุ่มถอนหายใจออกมาพร้อมๆกัน "มันช่างรนหาที่ตายที่บังอาจใช้สายตาจวบจ้วงมองพระชายาของข้า ถ้าไม่ติดว่างานใหญ่จะเสียข้าจะเอาดาบจิ้มตามันทั้งสองข้าง ท่านอ๋องกัดฟันพูดขึ้นเบาๆให้ได้ยินกันที่นั่งในโต๊ะนี้ "พระองค์ทรงพระทัยเย็นก่อนพะยะค่ะพวกข้าก็โกรธไม่ต่างกันที่มันมองพระชายาด้วยสายตาน่ารังเกียจยิ่งนัก ดูมันไม่สะทกสะท้านอะไรเลยคงคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่มากละสิหึ" โม่เฉียงพูดให้ได้ยินเฉพาะโต๊ะของตัวเองอาหารที่ลำเลียงเข้ามาเสริฟนั้นคนของพวกเขารับต่อมาวางลงบนโต๊ะของเจ้านายเอง ท่านอ๋องส่งสัญญาณให้คนของตนเองจับตาความเคลื่อนไหวนายอำเภอแบบไม่ให้คลาดสายตา ทางด้านนายอำเภอนั้นกำลังเตรียมตัวขึ้นเวทีเพื่อจะได้พูดคุยกับทุกคนที่เข้ามาร่วมงาน เวลายามอู๋ทุกคนก็จะร่วมกินมื้อเที่ยงด้วยกันทุกคนที่ได้จดหมายเชิญเข้าร่วมงานตอนนี้มีของรองท้องบนโต๊ะเท่านั้นที่นำมาเสริฟทุกโต๊ะ คนสนิทของนายอำเภอก็ขึ้นไปบนเวทีแล้วประกาศเสียงดังบอกให้แขกทุกคนเงียบก่อน "ตอนนี้ท่านนายอำเภอจะขึ้นมาเปิดงานในตอนนี้ขอให้ทุกคนปรบมืต้อนรับท่านนายอำเภอลู่ฟง นายอำเภอคนใหม่ที่ย้ายมาประจำการเมืองจี่เป่ยแห่งนี้ด้วยขอรับ" พอจบเสียงประกาศเสียงปรบมือดังกึกก้องทั่วทั้งงานรวมถึงฟางอี้หลิงกับทุกคนในโต๊ะที่ตบมือให้เกียรติเจ้าภาพของงานในวันนี้ด้วย "สวัสดีแขกทุกคนที่มาร่วมงานเลี้ยงต้อนรับของข้านายอำเภอคนใหม่ของเมืองจี่เป่ยแห่งนี้ด้วยขอรับ ก่อนอื่นต้องฝากเนื้อฝากตัวกับทุกคนที่เข้าร่วมงานเลี้ยงด้วย ข้าจะรับใช้ชาวเมืองจี่เป่ยด้วยความซื่อสัตย์ขอให้ทุกท่านแนะนำเสนอแนะได้ทุกเรื่อง เอาละทุกท่านที่เคารพรักข้านั้นได้รับสารน์จากวังหลวงเรื่องการขึ้นภาษีของเมืองจี่เป่ยจากสามส่วนขึ้นเป็นห้าส่วนเพราะจากรายงานของขุนนางเก่าแก่ที่เมืองนี้ส่งเรื่องว่า การค้าขายคึกคักที่สุดพอจบสงครามมาได้สองเดือนการเป็นอยู่ตอนที่มีสงครามนั้นชาวเมืองจี่เป่ยถือว่าดีกว่าทุกเมืองอื่นๆเป็นอย่างมาก ชาวบ้านมีอาชีพที่ท่านนายอำเภอคนเก่าหาอาชีพที่ยั่งยืนให้ทำมีที่ส่งขายไปตามเมืองอื่นๆอีกไม่น้อย จึงจะขอขึ้นภาษีเข้าคลังหลวงที่ขาดหายไปเพราะทางชายแดนเหนือนั้นท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉีก็พึ่งจะจบศึกมาสองเดือนเหมือนกัน จึงทำให้ในวังหลวงนั้นขาดแคลนเสบียงและตำลึงเพื่อจะใช้ทำนุบำรุงกองทัพทุกชายแดน จึงได้ส่งสารน์มาที่เมืองจี่เป่ยเพราะว่ามีพื้นที่การทำนาข้าวมากมายที่ได้ผลผลิตที่ดีจึงขอภาษีในสิ้นเดือนนี้นำร่องทุกอำเภอ" พอนายอำเภอพูดจบเสียงในงานเลี้ยงต้อนรับก็ดังอื้ออึงเพราะทุกคนนั้นเสียสามส่วนมาจากท่านนายอำเภอคนเดิมก็ถือว่าพอดีแล้ว ถ้าห้าส่วนพวกเขาก็จะไม่แย่หรือนี้ก็พึ่งจะหมดสงครามได้สองเดือนเองทำไมมีการขึ้นภาษีเร็วขนาดนี้ ไม่คิดจะให้ชาวบ้านได้ตั้งตัวได้เลยหรืออย่างไร ทุกคนหันไปคุยกันจนดังไปทั่วทั้งงานเลี้ยงนายอำเภอยกยิ้มมุมปากเพราะเขาอ้างสารน์จากเมืองหลวงหาเงินส่วนต่างเข้ากระเป๋าตัวเอง ใครบอกให้คนเมืองนี้ร่ำรวยกว่าเมืองอื่นๆละ เขาร่วมมือกับคนในอำเภอที่ทำงานกับนายอำเภอคนเก่า นายอำเภอนั้นตงฉินซื่อสัตย์สุจริตทำให้คลังของอำเภอนี้เต็มทุกอย่างทั้งเงินทองและอาหารที่จวนของแม่นางฟางอี้หลิงนั้นบริจาคเข้าคลังของอำเภอไม่เคยขาด มันช่างโชคดีที่เขาได้ย้ายมาจากเมืองเหลียวที่ทำเรื่องเอาไว้จนบิดาต้องใช้อำนาจย้ายเขาออกมาเพราะทำงานในวังเป็นขุนนางใหญ่มานานเขาจึงหลุดรอดมาได้อย่างไม่ยาก พอมาที่เมืองจี่เป่ยได้สองเดือนสันดานเดิมของเขาก็เริ่มออกเพราะความโลภที่เห็นตำลึงในคลังหลวงมากมายที่เอาไว้ช่วยเหลือชาวเมืองถ้าเดือดร้อน แต่ตอนนี้นายอำเภอลู่ฟงพุ่งเป้าไปที่จวนของแม่นางฟางอี้หลิงเพราะได้สืบข่าวมาเรียบร้อยว่านางนั้นร่ำรวยไม่น้อ มีลูกติดนั้นไม่สำคัญกำจัดไปตอนไหนก็ได้ ตอนนี้ต้องทำคะแนนให้นางสนใจในตัวของเขาก่อนแต่ที่ขัดหูขัดตาเขาตอนนี้คือคนติดตามที่หนุ่มแน่นทั้งหล่อเหลาที่มันนั่งข้างๆนางนั้นต่างหากละ ลู่ฟงคิดก่อนจะปรับหน้าให้ยิ้มแย้มเพื่อเข้าไปร่วมโต๊ะกับสาวงามที่นั่งร่วมกับคนของนางที่พูดคุยกันเรื่องเขาประกาศขอขึ้นภาษีสิ้นเดือนนี้ตอนนี้สองร่างพัวพันกันบนเตียงหลังใหญ่ด้วยความเร่าร้อนฟางอี้หลิงที่ไม่เคยผ่านมือชายมาก่อนตอนนี้ถูกพระสวามีปรนเปรอจนไม่เป็นตัวของตัวเอง มันทั้งเสียวทั้งเรียกร้องให้นางตอบสนองเขากลับแบบเงอะๆงะๆของคนที่ไม่ประสาเรื่องของสามีภรรยาที่มีสัมพันธ์ลึ้กซึ้งต่อกัน นางก็ทำไปตามสัญชาตณาญของนางเองสร้างความพอใจให้กับชายหนุ่มยิ่งนัก ที่พระชายรักยอมตอบสนองตัวเองแบบไร้เดียงสายิ่งทำให้อารมณ์ของท่านอ๋องหนุ่มที่กักเก็บมานานแทบจะคลั่งต่อกริยาน่ารักของพระชายารักของตัวเองเขาจึงต้องให้นางพร้อมกัน ก่อนจะนำอ๋องน้อยเข้าไปในกุหลาบงามของนางการร่วมหอในครั้งนี้ชายหนุ่มจึงต้องใจเย็นและให้นางประทับใจในการร่วมรักกับพระสวามีมากที่สุดเนางร้องครวญครางใต้ร่างใหญ่ของพระสวามีมือก็ลูบสะเปะสะปะไปทั่วตัวของพระสวามี ชายหนุ่มกำลังดูดดึงหน้าอกอวบใหญ่เกินตัวของนางด้วยความหลงไหลส่วนมืออีกข้างก็ลูบลงไปแหวกร่องกลางกายของนางที่มีน้ำสีใสรื่นออกมาเพราะมีอารมณ์ร่วมกับพระสวามีก่อนจะใช้นิ้วเขี่ยจุดอ่อนไหวของนางจนฟางอี้หลิงต้องส่งเสียงครางหวานออกมา อ๋องหนุ่มเร่งชักนิ้วเร็วขึ้นให้ชายารักถึงฝั่งฝันไปก่อนตนเองพอท่านอ๋องชักนิ้วเร็วขึ้นตามเสียงกรี
เรื่องราวของเมืองจี่เป่ยถูกจัดการเสร็จสิ้นภายในสองอาทิตย์นายอำเภอลู่ฟงถูกชาวบ้านข้วางปาผักเน่าไข่เน่าอยู่หนึ่งอาทิตย์เต็มทุกคนต่างพากันสาปแช่งเขาสารพัดที่อยากจะทำ แล้วผู้ตรวจการจากเมืองเหลียวเดินทางมาถึงพร้อมทั้งหลักฐานหลายอย่างตระกูลลู่สิ้นสลายไปเพราะหลานชายคนโปรดชาวเมืองเหลียวโกรธแค้นบุกเข้าทำร้ายปู่กับย่าของลู่ฟงจนตายคาจวนอย่างอนาถที่ส่งเสริมหลานชายในทางที่ผิด บิดาถูกตรวจสอบจากจดหมายที่ท่านอ๋องส่งไปถึงพี่ชาย จัดการบิดาของลู่ฟงถูกปลดจากตำแหน่งขุนนางใหญ่พบหลักฐานมัดตัวต้องโทษประหาร แต่ฝั่งฮูหยินเอกไม่ได้รู้เรื่องด้วยได้จึงลงโทษผู้เป็นบิดาโทษคือประหารและไม่ให้ลูกหลานตระกูลลู่รับราชการอีกชั่วเก้าโครต ฮูหยินเอกขายกิจการพาลูกๆทุกคนย้ายไปที่เมืองอื่นกับครอบครัวเก่า ตอนนี้ในเมืองจี่เป่ยติดป้ายรับสมัครสอบนายอำเภอคนใหม่ในอีกหนึ่งเดือน ให้ทุกคนที่อยากจะสอบเป็นนายอำเภอให้ตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบที่จะมีขึ้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าส่วนท่านอ๋องนั้นตามเกี้ยวพระชายาทุกวันแต่ยังไม่สำเร็จแต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยท้อถอยเพราะหลงรักพระชายาของตัวเองจนถอนตัวไม่ขึ้น โดนนางสั่งสอนด่าทอชายหนุ่มกับย
"นำตัวมันไปหน้าศาลเอาน้ำสาดให้มันตื่นมัดมันเอาไว้กับเสาร์ให้แน่นหนาคุ้มกันให้ดีอย่าพึ่งให้มันตายเร็วไป ให้ชาวบ้านจะได้เห็นคนบงการโจรป่าที่คอยปล้นชิงตำลึงทรัพย์สินของพวกเขาลงโทษอย่างไรบ้าง ที่ผ่านมาทำกับคนอื่นเอาไว้เยอะให้มันโดนกระทำดูบ้าง จะได้รู้ว่าพอคนไม่มีทางสู้กับแล้วมันรู้สึกอย่างไร"ท่านอ๋องสั่งทหารของตัวเองก่อนจะเดินตามพระชายาที่เดินตามหลังบิดาของนางกับลูกทั้งสองคนของเขาออกไปหน้าศาล"ท่านพ่อรอข้าด้วยเจ้าค่ะ"นางรีบเดินออกจากในศาลให้ทันบิดากับสองแฝดที่เดินนำหน้าออกไปก่อน ในศาลไม่มีอะไรที่นางจะอยู่ต่อปล่อยให้ทหารจัดการกันเองหมดธุระของนางแล้วท่านอ๋องรีบสั่งทหารของตัวเองให้จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ก่อนจะรีบเดินตามพระชายของตนให้ทันเพื่อจะประกาศกับชาวเมืองจี่เป่ยเรื่องลูกกับนางว่าคือพระชายาขอตัวเองให้ถูกต้องเสียที"รองแม่ทัพกับกุนซือจัดการต่อให้เรียบร้อยด้วย เดี๋ยวข้าจะออกไปหาพระชายาก่อน"ท่านอ๋องสั่งคนสนิทเสร็จก็รีบตามสามแม่ลูกออกมาด้านนอกของศาล"โอ๊ะพวกเองดูนั้นอดีตท่านแม่ทัพกับหลานเดินออกมาด้านในแล้ว ช่างน่ารักเหลือเกินท่านก็ยังองอาจดูไม่ได้แก่เลยสักนิดเลยพวกแกว่าจริงไหม"เสียง
เสียงผู้คนด้านนอกยิ่งฮือฮาขึ้นไปอีกกับคำตอบของนายน้อยทั้งสองคนที่ตอบรองแม่ทัพอย่างตรงไปตรงมา นายอำเภอลู่ฟงมองหน้าของฟางอี้หลิงที่นั่งกับอดีตท่านแม่ทัพใหญ่ฟางอี้หลุนกับท่านอ๋องนั่งข้างตั้งแต่ที่เดินเข้ามา ที่แท้แล้วนางเป็นถึงพระชายาของท่านอ๋องหยวนอวิ๋ยฉีแต่ไม่เคยเปิดเผยตัวตนของนางให้ผู้คนได้รู้จักนายอำเภอลู่ฟงกัดฟันหน้าดำหน้าแดงด้วยความโกรธที่เขาได้ติดกับดักแบบที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตอนนี้ลูกน้องทุกคนที่ชักดาบขึ้นมาโดนทหารของท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉีจับกุมมารวมกันทั้งหมดแล้ว แม้แต่คนของหัวหน้าศาลเองก็โดนจับได้โดยไม่มีโอกาสได้ต่อสู้เลยสักคน"ท่านกุนซือขึ้นประกาศความผิดของนายอำเภอลู่ฟงกับหัวหน้าศาลที่ร่วมกันทำผิดให้ชาวอำเภอจี่เป่ยได้รับรู้ความจริงทั้งหมดด้วย" ท่านอ๋องบอกคนสนิทกุนซือคู่ใจ"พะยะค่ะท่านอ๋อง " กุนซือรับคำสั่งก่อนจะขึ้นไปยืนบนที่เก้าอี้ของหัวหน้าศาลที่เคยนั่งประจำตำแหน่งแต่กุนซือไม่ได้นั่งยืนอ่านความผิดของนายอำเภอลู่ฟง"นายอำเภอลู่ฟงฟังคำตัดสินความผิดของท่านที่ให้การชุบเลี้ยงกองกำลังของโจรป่าเพื่อเอาไว้ใช้ทำงานให้ตนเองทั้งคอยปล้นสะดมทั้งฉุดฆ่าหญิงชาวบ้านของเมืองเหลียวอีกจนน
"บังอาจเป็นแค่คนคุ้มกันแกถึงกับกล้าเสนอหน้าบอกมีหลักฐานเอาผิดข้าเลยหรือไอ้คนชั้นต่ำ"นายอำเภอลู่ฟงตวาดขึ้นเสียงดังใส่คนสนิทของแม่นางฟางอี้หลิงหญิงหม้ายที่ตนเองกำลังจะตามเกี้ยวนางอยู่ทหารถอดดาบออกมากันพรึ่บพับจนทุกคนตกใจกับสิ่งที่ทหารแสดงตนทุกคนที่ยืนคุมด้านหน้าด้านข้างท่านรองแม่ทัพ เอาดาบยื่นไปพาดคอของนายอำเภอลู่ฟงพร้อมกดลงนั่งลง จนนายอำเภอตกใจกับทุกอย่างตรงหน้าที่เกิดขึ้นรวดเร็วมาก "ระวังคอจะหลุดออกจากบ่าทั้งที่ยังไม่ได้ไต่สวนละนายอำเภอ" น้ำเสียงเย็นชาทั้งรังสีอันตรายที่ปล่อยออกมาจนเขาหายใจแทบไม่ออกท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉียกมือขึ้นบอกให้ทุกคนวางดาบลงก่อนแล้ว ยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะส่งเสียงที่ทำให้ทุกคนในศาลแทบจะหยุดหายใจได้แม้แต่หัวหน้าศาลที่คิดจะใช้อำอาจช่วยนายอำเภอลู่ฟงต้องหลั่งเหงื่อเย็นกับน้ำเสียงเย็นชาแฝงไปด้วยความดุดันและโหดเหี้ยม"เดี๋ยวเจ้าก็รู้ว่าข้าจะสามารถทำอะไรได้บ้างที่ศาลแห่งนี้ ข้าในนามของฝ่าบาทที่เดินทางลงมาปราบโจรชั่วในเมืองจี่เป่ยโดยตรงและจะใช้อำอาจของข้ากำจัดคนชั่วที่แฝงตัวเป็นขุนนางในคาบโจรให้สิ้นซากในวันนี้และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ข้าแม่ทัพหยวนอวิ๋นฉีแห่งแดนเห
"โน้นไงนายอำเภอมาแล้วพวกเรารอฟังคำตัดสินของหัวหน้าศาล"เสียงของชาวบ้านคุยกันที่เห็นนายอำเภอลงรถม้าแล้วเดินเข้าศาลไปด้านในลู่ฟงเดินเข้าไปในศาลกวาดสาตามองไปในห้องมีคนมาที่ศาลจนเต็มเพื่อรับฟังคำตัดสินของโจรป่า เขาเห็นอดีตท่านแม่ทัพฟางอี้หลุนกับเด็กแฝดลูกๆของแม่นางฟางอี้หลิงที่เขาสนใจนั่งอยู่กับบิดาของนางนายน้อยทั้งสองคนคู่ค้าของนาง"เชิญท่านนายอำเภอด้านบนนี้ขอรับ"เจ้าหน้าที่ศาลออกมาต้อนรับและพาเขาไปนั่งเตรียมเอาไว้ให้เขาทำความเคารพข้างหัวหน้าศาลก่อนจะนั่งลงเขายิ้มส่งไปให้ฟางอี้หลิงหลังจากที่ก้มหัวให้บิดาของนางแล้วเสียงเคาะไม้ดังขึ้นบอกว่าเป็นเวลาที่ศาลจะเปิดแล้วทุกอย่างเงียบกริบลงฟังอย่างรอคอย"เอาละข้าจะขอเปิดศาลเบิกตัวหัวหน้าโจรได้"หัวหน้าศาลสั่งและเริ่มลงมือไต่สวนทันทีรองแม่ทัพของท่านอ๋องกับกุนซือเดินประกบโจรป่าเข้ามาในศาลโดยมีทหารอีกสองคนหิ้วแขนเขาเข้ามาคนละข้างเพราะตอนอยู่ในห้องขังท่านอ๋องได้เค้นข้อมูลจากมันมาแล้วทำให้สภาพของหัวหน้าโจรนั้นล่อแล่ไม่น้อยทั้งยังโดนชาวบ้านปาผักเน่าไข่เน่าเข้าไปอีกทำให้ใบหน้าของเขาโตเหมือนหัวหมูจากนั้นหัวหน้าศาลจึงถามหัวหน้าโจรหลังจากที่เขานั่งคลุบ