FAZER LOGINแม่บ้านที่โดนตั้งคำถามอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่ก็มีไหวพริบพอที่จะคิดคำตอบได้รวดเร็ว พอกับท่าทีของชรันที่นิ่งเฉย เขาตักอาหารกินและดูข่าวในโทรศัพท์ชิลๆ
“ฟ้าเห็นบริษัทรับสมัครหาแม่บ้านในกลุ่มหางานจากเฟสบุ๊คน่ะค่ะ สมัครไว้แล้วเขาเรียกให้มาทำที่นี่ ก่อนหน้านี้ก็ทำแม่บ้านตามบริษัทค่ะ” พิชามญช์ยิ้มเล็กน้อย “แล้วยังสาวยังแส้ มีคนคุยหรือมีแฟนบ้างไหม?” “ไม่มีค่ะคุณผู้หญิง ฟ้าต้องส่งเงินให้แม่ มีภาระ ไม่ค่อยได้เจอใครด้วยค่ะ อ้อ อาทิตย์หน้าฟ้าขอลากลับบ้านสักอาทิตย์นึงได้มั้ยคะ?” “คุณรันว่าไงคะ?” เธอแกล้งถามสามีทั้งที่รู้เพราะได้ยินทุกอย่างแล้วจากเมื่อคืน “แล้วแต่คุณเลยพิชา” “ไปเถอะจ้ะ ไม่ต้องห่วงเรื่องงานของเธอหรอกนะ ตอนเธอไม่อยู่ มีคนทำหน้าที่แทนได้เหมือนกัน” คำพูดกำกวมที่ดูมีเลศนัยนั้น แน่นอนว่าแม่บ้านสาวรู้สึกได้แต่เธอพยายามไม่คิดมาก อาจจะเพราะมีแม่บ้านที่เป็นเมียคนขับรถด้วยอีกคนที่ทำงานบ้านได้ในช่วงที่เธอลางาน ธีทัตบึ่งไปถึงบ้านคุณพ่อของพรรณนารา พอกดกริ่งแล้วแจ้งแม่บ้านก็ได้รับเชิญให้เข้ามานั่งรอในบ้านหลังใหญ่ที่ดูมีฐานะเช่นกัน “รอสักครู่นะคะ พอดีคุณณัฐกับหนูพู่กันพึ่งกินข้าวเช้าเสร็จก็แยกย้ายกันขึ้นไปชั้นบน เดี๋ยวไปตามให้ค่ะ” “ขอบคุณมากครับ” พรรณนาราที่รู้ว่าธีทัตมาหาถึงบ้าน เธอดีใจมาก รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วลงไปหาเขาที่ห้องนั่งเล่น “พี่ธี สวัสดีค่ะ” ทั้งสองที่มองและยิ้มให้กัน เธอเขินเขานิดหน่อยตามประสาสาวๆ “ไปที่บ้านไม่เจอ เลยมาที่นี่ ทำไมน้องพู่เปลี่ยนวันไปค้างครับ?” “แม่อยากให้มีวันหยุดสุดสัปดาห์กับพ่อค่ะ” “พี่จะพยายามไปอยู่ที่นั่นให้บ่อยๆนะ น้องพู่จะได้ไม่เหงาเกินไป” เธอยิ้มแก้มแดงอายๆ จากนั้นทั้งสองคนก็ตกลงว่าจะไปเดินเล่นที่สวนข้างบ้านที่มีบ่อปลา ซึ่งพ่อของเธอเลี้ยงปลาคาร์ฟไว้มากมาย “เราแลกไอจีกันหน่อยดีไหม?” “อ้อ..ค่ะ แต่หนูไม่ค่อยได้โพสอะไรหรอกนะ” “อย่างน้อยก็ทักทายแชทคุยได้ไม่ใช่เหรอ?” “ค่ะ..พี่ธี” ธีทัตที่แก่กว่าเธอเจ็ดปี เขามองเธอด้วยความรู้สึกเหมือนมองหญิงสาวคนหนึ่ง จนต้องพยายามเตือนตัวเองไม่ให้พูดเกินเลยหรือทำกิริยาท่าทางให้เธอกลัว “เอ่อ..แล้ว..พี่ธีจะไปไหนต่อคะ? วันนี้วันเสาร์ พาแฟนไปเที่ยวเหรอคะ?” เธอแกล้งถามพลางดูปลาในบ่อไปด้วย ทำให้ธีทัตนิ่งไปนิดนึง “ไม่ได้ไปไหน พี่คิดว่าอยากพาแม่ไปทานข้าวเที่ยง ช่วงนี้อยากใช้เวลากับท่านให้เยอะขึ้นสักหน่อย” “พรุ่งนี้ละคะ?” เธอหันหน้ามาถามเขาด้วยดวงตาที่แสนสวย ราวกับมีดวงดาวระยิบระยับอยู่ในนั้น “พี่มารับพู่ไปเดินเล่นที่ห้างดีไหม? ไปกินขนมอะไรที่น้องพู่ชอบก็ได้” “จริงเหรอ? ได้เหรอคะ? แต่…ไม่ดีกว่าค่ะ หนู..ไม่อยากเป็นแบบแม่” ความที่เธอยังเป็นแค่เด็กที่กำลังจะเป็นสาว วุฒิภาวะยังไม่มาก แม้พยายามเก็บอาการแต่ธีทัตก็ดูออกว่าเธอชอบเขา “น้องพู่ตั้งใจเรียนนะ อย่าพึ่งวอกแวกสนใจเรื่องอื่น ถ้าเรียนจบ ม.ปลาย อยากปรึกษาเรื่องเรียนคณะอะไร มหาวิทยาลัยที่ไหน พี่ยินดีนะครับ” พรรณนารารู้สึกผิดหวังเหมือนอกหักที่เขาใช้คำพูดตัดบท เธอทำได้เพียงแค่พยักหน้าและยิ้มเจื่อนๆ แฟนสาวของพี่ธีคงจะสวย..ทำไมฉันต้องมาเจอเขาในสถานะแบบนี้ด้วย…ทำไมต้องอายุน้อยกว่าเขาทำให้เขามองฉันเป็นแค่เด็ก… ธีทัตเห็นเธอสลดลง ทำให้เขาคิดว่าตัวเองคงพูดปิดกั้นเกินไปจนพรรณนาราอาจเข้าใจผิด “พี่พูดเพราะเป็นห่วง ไม่ได้ตำหนิว่าน้องสนใจเรื่องอื่นไม่สนใจเรียน พี่..จะพูดยังไงดี” แต่ไม่ทันจะพูดอะไร พ่อของเธอก็โผล่มาพอดีและเขาจำธีทัตไม่ได้ “ใครน่ะ? เห็นแม่บ้านบอกว่ามีผู้ชายมาหาลูก” “สวัสดีครับ ผม..พอดีผ่านมาเลยซื้อขนมมาฝากน้องพู่ครับ ผมชื่อธีทัต” เขายกมือไหว้ณัฐวีย์ที่รับไหว้อย่างงงๆ “แล้วรู้จักพู่กันได้ยังไง? อายุเท่าไหร่?” “เอ่อ..คุณพ่อผม..กับคุณแม่ของน้อง..” ธีทัตยังไม่ทันพูดจบ คุณพ่อของพรรณนาราก็ของขึ้นทันทีที่รู้ว่าลูกชายของชู้รักภรรยาเก่าจะมายุ่งกับลูกสาวคนเดียวของเขา “ที่นี่ไม่ต้อนรับ ต้องขอโทษด้วยที่เสียมารยาท แต่ลูกสาวผมยังเด็ก อย่ามาที่นี่อีกเป็นครั้งที่สอง” สายตาของธีทัตดูเศร้าอย่างเห็นได้ชัด พรรณนาราตกใจที่พ่อของเธอพูดไม่ไว้หน้าเขาเลย “พ่อคะ พี่ธีเป็นคนดีนะ พี่เขาไม่เกี่ยว” “ได้แม่ของลูกสาวผมไปคนนึงแล้ว จะเอาลูกสาวผมไปอีกคนนึงเหรอ? คนดีก็ส่วนคนดี แต่เลือดในกายคุณมีเลือดชั่วของมันอยู่ครึ่งหนึ่ง ของแบบนี้..มันคงไม่พ้นส่งต่อกันผ่าน DNA ไปได้หรอก พู่กัน! เข้าบ้านไปเลย” “พ่อ..” “น้องพู่เชื่อคุณพ่อนะ พี่ไม่เป็นไร..พี่เข้าใจ..” เขายิ้มบางๆและพยักหน้าให้เธอเข้าบ้านไปก่อน “ผมขอโทษด้วยครับคุณพ่อ” ณัฐวีย์สะบัดหน้าไม่รับคำขอโทษและเดินตามลูกสาวเข้ามาในบ้านจนทันกัน “ไวไฟแบบพ่อมันไม่มีผิด เด็กสาวอายุแค่สิบห้ายังกล้ามาก้อร้อก้อติกถึงบ้าน ห้ามไปสุงสิงอะไรกับมันเข้าใจไหมพู่? ถ้าไม่เชื่อฟัง พ่อจะกักบริเวณ” พรรณนาราคว้าถุงขนมที่วางบนโต๊ะในห้องนั่งเล่นแล้วขึ้นไปบนห้องของตัวเองเงียบๆ ส่วนเขาตัดสินใจโทรหาอดีตภรรยาถึงเรื่องนี้ “ผมจะทบทวนเรื่องที่พู่กันต้องไปอยู่กับคุณ เพราะเมื่อกี้ลูกชายของชู้มาหาลูกสาวผมถึงบ้าน” “ลูกชายเขาไม่ได้มาอยู่ที่นี่หรอกค่ะ เขาก็อยู่กับแม่” “ผมจะไม่ขอคบค้ากับคนตระกูลนี้ไม่ว่าจะเป็นใคร บอกแค่นี้ ถ้าไม่คิดว่าลูกยังเห็นคุณเป็นแม่ ผมคงไม่ให้ไปแม้แต่วันเดียว” “เห็นใจชาด้วยเถอะคุณณัฐ ชาก็อยากอยู่กับลูก” หลังจากที่ธีทัตกลับออกไปได้ไม่นานนัก เขาก็ส่งข้อความถึงพรรณนาราในไอจี “ไม่ต้องคิดมากนะน้องพู่ เป็นใครก็โกรธ ถ้าเกิดกับพี่เองก็ต้องรู้สึก แต่เราก็ยังคุยกันเป็นพี่น้องได้นะครับ” “ค่ะ” พรรณนาราพิมพ์ตอบไปแค่นั้น แล้วนอนก่ายหน้าผาก พลางคิดถึงเรื่องที่พ่อเลี้ยงทำอะไรแย่ๆกับเธอ ฉันต้องหาทางเอาตัวรอดก่อน เรื่องอื่นค่อยคิดทีหลัง.. ตัวธีทัตเองเมื่อเห็นเธอตอบมาแค่นั้น เขาได้แต่ทำใจว่าด้วยอายุของเธอยังน้อย ทำให้เขาต้องระมัดระวังคำพูดหรือการแสดงออกกับเธอ ในตอนเย็นหลังเลิกเรียนในวันจันทร์ พิชามญช์ได้มารับลูกสาวด้วยตัวเองที่โรงเรียนและเมื่อถึงบ้านเธอก็ทำอาหารที่พรรณนาราชอบกินให้ หลายๆอย่างที่เธอพยายามเอาอกเอาใจลูกสาว ทั้งหมดก็เพื่อให้ตายใจเท่านั้น สายตาของชรันที่แอบมองลูกสาวเธอนั้นชัดเจน แม้เขาจะพยายามหลบซ่อนมันแค่ไหนก็ตาม “ดีแล้วล่ะที่คุณเอาใจใส่ลูกแบบนี้ ถ้าแกชอบอะไรคุณซื้อมาเยอะๆเลย” “ไม่เป็นไรค่ะ หนูกินอะไรก็ได้เหมือนทุกคน อิ่มแล้วขอขึ้นไปข้างบนนะคะ” พรรณนาราลุกออกจากห้องรับประทานอาหารไปก่อนและรีบขึ้นไปอาบน้ำ จากนั้นนั่งเงียบๆในห้องรอฟังว่าแม่และพ่อเลี้ยงกลับขึ้นมาเข้าห้องตอนไหน เสียงเคาะประตูทำเอาเธอตกใจ แต่เป็นเสียงแม่ที่เอ่ยถาม “พู่กัน นอนแล้วเหรอลูก?” “ยังค่ะ คุยกับเพื่อนอยู่” เธอเปิดประตูแง้มเพื่อตอบสั้นๆ โดยมีชรันยืนมองอยู่ด้านหลังเหมือนจะกลืนกินเธอได้เลย “นอนไวก็ดีนะลูก พรุ่งนี้แม่จะไปส่งไปโรงเรียนนะ” “ฝันดีค่ะ” เธอบอกลาเชิงตัดบทกลายๆ เมื่อแนบหูฟังจากประตูว่าทั้งคู่เข้าไปในห้องนอนแล้ว เธอรีบหยิบหมอนและเสื้อกันหนาวมาตัวหนึ่ง ย่องออกจากห้องไปที่บ้านหลังเล็กที่พักของแม่บ้าน พรรณนาราจำได้ว่ามีแม่บ้านชื่อฟ้าที่น่าจะนอนคนเดียวเพราะแม่บ้านวัยกลางคนนั้นพักกับสามีที่เป็นคนขับรถ จึงเลือกเคาะประตูห้องหนึ่งจากการคาดเดาเพราะรองเท้าที่วางอยู่หน้าห้อง เธอเคาะประตูเบาๆอยู่หลายที จนคนในห้องที่มาเปิดให้จากที่ง่วงงัวเงียก็ตกใจจนตาสว่าง “น้องพู่?…มีอะไรหรือเปล่าคะ?” ………………………………….🏠😈แบมเห็นพ่อลูกเดินเข้ามาจึงเปิดประเด็นทันควันเพราะอยากระบายมานานแล้ว“เธอนี่เองที่แอบซ่อนอยู่ใต้เงามืดของผู้ชายบ้านนี้ จะเอาทั้งพ่อทั้งลูก แย่งทั้งสามีฉัน แม้แต่สามีแม่ตัวเองก็ไม่เว้น”พรรณนาราแค่ยิ้มบางๆให้ แต่ธีทัตลมจะใส่ เขารีบปรามอดีตภรรยาจอมตื้ออย่างแข็งกร้าว“ผมเลิกกับคุณแล้ว พ่อแม่คุณ พ่อแม่ผมรับทราบกันหมด ทำไมถึงพูดไม่รู้เรื่องนะแบม ตอนนี้ผมไม่รู้เลยว่าคุณคือใครอีกต่อไป แล้วพู่กันก็ไม่ได้ทำแบบที่คุณพูด”“แต่คุณอาชรันพูดเอง แถมโอนเงินให้ผู้หญิงคนนี้มาตลอด ไม่เชื่อก็ขอดูบัญชีมันสิ”ณัฐวีย์เหลืออดกับผู้หญิงที่เขาไม่รู้จักแต่เข้ามาด่าลูกสาวของเขาโครมๆฝ่ายเดียว“ออกไปจากบ้านผมเดี๋ยวนี้! คุณไม่รู้จักตื้นลึกหนาบางของไอ้สารเลวนี่ก็อย่าพูดมาก เพราะถ้าคุณได้รู้อาจจะตะลึงจนหน้ามือเป็นหลังเท้า คุณเป็นใคร? กล้าดียังไงมาด่าลูกสาวผมถึงในบ้านผม?”“หึ ไม่แปลกหรอกที่เมียยังเลิกไปเอาคนใหม่”ธีทัตทนความไร้มารยาทของแบมที่ทำต่อพ่อของพรรณนาราไม่ได้ เขาจับแขนเธอฉุดให้เดินตามออกไปข้างนอก ซึ่งแบมขัดขืนจึงถูกจับถูลู่ถูกังออกไป“ปล่อยนะธี!”“ไปซะแบม นี่คือฟางเส้นสุดท้ายสำหรับผม ต่อไปนี้คุณกับผม..เราไม่รู้
“อยู่กับพี่ ไม่ต้องกลัวนะ”“ห่วงตัวเองก่อนเถอะค่ะ หนูอ่ะไม่เท่าไหร่หรอก”ธีทัตลูบศีรษะเธอเบาๆก่อนทั้งคู่จะก้าวลงจากรถเพื่อเดินเข้าไปในบ้าน มอเตอร์ไซค์ที่ขี่ตามมาจอดอยู่นอกบ้านได้ถ่ายรูปอยู่ริมประตูบ้านและส่งทั้งภาพทั้งโลเคชั่นให้คนคนหนึ่งทันทีก่อนจะขี่ออกจากบริเวณนั้นไป ทั้งสองเดินเข้ามาในบ้านโดยไม่เจอใคร จึงนั่งรอที่ห้องรับแขก พรรณนาราโทรหาพ่อของเธอว่าได้มาถึงแล้ว ไม่ถึงห้านาทีณัฐวีย์ก็เดินลงมาจากชั้นบนลงมาหา “สวัสดีครับ คุณอา”เขายกมือไหว้ว่าที่พ่อตาในอนาคต ซึ่งอีกฝ่ายรับไหว้แบบแกนๆ หน้าตาบอกบุญไม่รับเท่าไหร่“มาทั้งคู่ก็ดี พู่กัน..แม่โทรบอกแล้วใช่มั้ย?”“ไม่ค่ะ หนูยังไม่ได้คุยกับแม่”ณัฐวีย์ถอนหายใจแล้วเปลี่ยนไปถามธีทัตต่อ“บ้านที่คุณจะขายน่ะ ผมไปดูมาแล้วแต่เห็นยังมีคนอยู่ ถ้าผมตกลงซื้อจะจัดการให้เข้าอยู่ได้เลยมั้ย?”“ได้เลยครับ ผมจะจัดการเอง”“งั้นเรื่องนี้ผมตกลง เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณเข้าไปหาผมที่บริษัท Arkadia Design & Build สักสิบโมง”“ครับ ผมจะไปตรงเวลา”“เอาล่ะ มาเข้าเรื่องที่ผมซีเรียสกัน เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณกับพู่กัน คุณแต่งงานแล้วแม้ว่าจะอ้างว่าเลิกก็กับภรรยาที่ไม่ได้จด
มื้อเที่ยงธีทัตพาพรรณนาราไปทานข้าวแล้วขับรถไปส่งเธอที่มหาวิทยาลัย ทันทีที่จอดรถเขาโอนเงินให้ต่อหน้าเธอจำนวนหนึ่ง“โอนให้ทำไมคะ? ทำเหมือนหนูขายงานไปได้”“ทำไมจะให้ไม่ได้ เราเป็นมากกว่าแฟนพี่อีก”“เลิกเรียนหนูจะคุยกับพ่อ เรื่องจะขอให้พี่เข้าไปทำงานที่บริษัท”“ไม่กลัวพ่อเหรอ?”เธอเลิกคิ้วเล็กน้อย หน้าตาไม่มีความวิตกกังวลอะไร“หนูพูดตามความจริง มีอะไรต้องกลัวล่ะ”ธีทัตท่าทางดีใจขึ้นมา เขายิ้มกว้างโชว์ฟันขาวเรียงสวย“พ่อต้องถามเรื่องเราแน่อยู่แล้ว”“แน่นอนค่ะ คงงั้น”“ถ้ารับสถานการณ์ไม่ไหว บอกพี่นะ”พรรณนาราไม่ตอบแค่ส่งยิ้มบางๆให้ เธอปลดเข็มขัดนิรภัยเตรียมลงจากรถ ธีทัตดึงแขนให้ตัวเธอเอนมาใกล้และจูบไปหนึ่งที “อะไรน่ะพี่ธี..อายคนอื่นเนี่ย”“ไม่รู้สิ พี่โดนของมั้ง..อยากกอดอยากอยู่ใกล้ตลอดเลย”เธอตีมือเขาเบาๆพลางส่ายหน้า “พี่จะมารอรับนะ”“ค่ะ”เขายิ้มให้อย่างอารมณ์ดีสุดๆ ทั้งที่พึ่งถูกไล่ออกจากบ้านและงานที่ทำ จากนั้นเขาคิดว่าอยากคุยกับพิชามญช์ต่อจากที่คุยค้างคาไว้ในตอนเช้า จึงส่งข้อความไปเลียบๆเคียงๆดูก่อนเผื่อเธอยังอยู่กับพ่อของเขาชรันพาภรรยาและลูกไปทานมื้อเที่ยงเสร็จก็มาส่งทั้งคู่ที่บ้าน
ธีทัตเอ่ยปากขอความรักจากเธอ นั่นทำให้พรรณนาราเกิดอยากควบคุมเขาขึ้นมาบ้าง เธอแอบคิดซุกซนว่าถ้าเก่งกับเขาเรื่องนี้ ธีทัตจะจงรักภักดีและมีแค่เธอคนเดียวเธอดันตัวเขาให้นอนลงแล้วเริ่มละเลงลิ้นเลียไปตามแผ่นอกกำยำของชายหนุ่มที่หายใจยาวด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะพรมจูบต่ำลงไปเรื่อยๆจนถึงกลางลำตัวที่ความเป็นชายตั้งลำแข็งและส่วนหัวที่พองเต็มที่จนเป็นสีแดงจัดลิ้นที่นุ่มนิ่มลากผ่านไปตามท่อนเอ็นนั้น ซึ่งมันกระตุ้นความต้องการของเขาจนส่วนหัวมีน้ำใสๆออกมาเป็นทาง ธีทัตเอื้อมไปเปิดไฟ Bedside Lamp เพราะอยากเห็นหน้าเธอชัดๆในขณะที่ทำรักให้เขาจนเธอแหวใส่“อื้อ พี่ธีเปิดไฟทำไมอ่า..”“เราจะได้สบตากันไงคะ”ธีทัตตอบด้วยเสียงที่ออดอ้อนพร้อมกับจับส่วนหัวไปแตะปากที่จิ้มลิ้มนั้น จนน้ำหล่อลื่นติดปากเธอแล้วยืดเป็นเส้นใสๆ เธอมองส่วนหัวที่เปียกลื่นแล้วใช้นิ้วแตะเบาๆพร้อมกับยิ้มให้ แล้วเริ่มทำรักด้วยปากให้เขา“อาา พู่”เสียงที่เกิดจากการดูด สิ่งที่เขาเห็นยิ่งทำให้ธีทัตเสียวจนแทบคลั่ง สีหน้าของพรรณนาราขณะที่ดูดดุนส่วนที่บานใหญ่ดูเธอเองก็พึงพอใจที่เห็นว่าเขามีอารมณ์มากจนสุดกลั้น“พี่เสร็จทำไงน่ะ..อาาา”เธอหัวเราะในลำคอนิดหน
ธีทัตอาบน้ำเสร็จออกจากห้องมาก็เจอพรรณนารานั่งไถโทรศัพท์อยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น ซึ่งเธอช้อนตามองและเปรยขึ้น“เวลาฉุกเฉินต้องออกจากห้อง มือถือใช้งานไม่ได้ทำไงคะ?”“ก็ใช้ Face Recognition ที่อยู่ตรงประตูนั่นไง หรือใช้รหัสสำรองที่ Digital Door Lock ก็ได้ ไว้พี่จะส่งคีย์ให้หนูถ้าเราอยู่ด้วยกันหรือว่ามาหาพี่ โอเค้?”“พี่บอกว่าจะเป็นฝ่ายมาหาหนูไม่ใช่เหรอ?”“ใช่ แต่หมายถึงเผื่ออยากมาหาพี่ไง อันนี้หนูพูดแล้วนะว่าให้พี่ไปหา”พรรณนารารู้สึกเสียหน้านิดหน่อยที่พูดเข้าทางเขาพอดี“หนูเรียกรถมารับก็ได้ค่ะ เริ่มง่วงแล้ว”ธีทัตเดินปราดเข้ามาอุ้มช้อนขาเธออย่างเร็วจนไม่ทันตั้งตัวแล้วพาเข้าห้องนอนที่เปิดไฟสลัวและมีกลิ่นหอมอโรม่าอบอวลไปทั่ว ก่อนจะวางเธอบนเตียงคิงไซส์ขนาดใหญ่ที่นุ่มเหมือนโรงแรมห้าดาว แล้วคร่อมไปบนร่างของสาวน้อยแสนสวยคนเดียวในใจของเขาที่พยายามขัดขืน“หนูไม่พร้อม..พี่ธี..”“พี่ป้องกันเอง เป็นหน้าที่พี่หรือพู่ไม่ชอบอะไรที่พี่ทำหรือเปล่า? บอกได้นะ พี่จะแก้ไข เรามีอะไรต้องคุยกันสิ”พรรณนาราไม่ยอมพูดเอาแต่หันหน้าหนี สองแขนยันแผ่นอกเขาไว้ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอม“เพราะพู่กลัวจะลำบากไปกับพี่หรือว่ามีใ
ระหว่างที่ธีทัตขับรถมาที่ห้องชุดสุดหรูก็ได้โทรหาพรรณนาราที่ไม่รับสาย เมื่อดูเวลาก็พบว่าสามทุ่มครึ่งซึ่งเธอน่าจะเลิกงานที่ร้านเบเกอรี่แล้ว เขาตัดสินใจไปที่ห้องของตัวเองก่อนเพื่อจัดการเก็บข้าวของ พอโทรหาอีกครั้งก็ปรากฏว่าได้ยินเสียงเหมือนเธออยู่กับเพื่อนหลายคนที่คุยเจื้อยแจ้วกันอยู่“พี่ธีมีอะไรหรือเปล่า?”“ไปเที่ยวกับเพื่อนเหรอ?”“ใช่ ฉลองย้อนหลังวันเกิดเพื่อน แค่นี้ก่อนนะคะ”พรรณนาราป้องปากคุยเบาๆเพราะอยู่ในรถกับกลุ่มเพื่อนหลายคน“เดี๋ยว ที่ไหน? พี่อยากไปด้วย กำลังเหนื่อยๆเลย”“ไม่อ่ะ นี่วันเกิดเพื่อนพู่นะ”“งั้นพี่จะนั่งรอที่ล็อบบี้จนกว่าพู่จะกลับ”“ตามใจ”“พี่โดนพ่อไล่ออกจากบ้านรวมถึงงานที่บริษัทด้วย”“ห๊ะ! อะไรนะ?”“ไปเที่ยวเถอะ พี่อยู่คนเดียวเงียบๆรอพู่ได้”เขาวางสายก่อนทำให้พรรณนาราอดไม่ได้ต้องเป็นฝ่ายโทรกลับมาหาจนได้“พี่ไม่ไปเปิดโรงแรมนอนหรือนอนบ้านคุณแม่พี่ก่อนสิคะ แล้วถ้าพู่กลับถึงห้องจะโทรหา”“ไม่ล่ะ นอนที่ล็อบบี้นี่แหละ”“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยอ่ะ?”“แฟนหายไปเที่ยวกลางคืนไม่บอกกันทำไงได้ พี่มันคนไม่สำคัญก็แบบนี้แหละ”“ยังไม่ได้ตกลงกันนะคะ อย่าพูดแบบนั้นค่ะ แค่นี้ก่อนนะ”พรรณน







