แม่บ้านที่โดนตั้งคำถามอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่ก็มีไหวพริบพอที่จะคิดคำตอบได้รวดเร็ว พอกับท่าทีของชรันที่นิ่งเฉย เขาตักอาหารกินและดูข่าวในโทรศัพท์ชิลๆ
“ฟ้าเห็นบริษัทรับสมัครหาแม่บ้านในกลุ่มหางานจากเฟสบุ๊คน่ะค่ะ สมัครไว้แล้วเขาเรียกให้มาทำที่นี่ ก่อนหน้านี้ก็ทำแม่บ้านตามบริษัทค่ะ” พิชามญช์ยิ้มเล็กน้อย “แล้วยังสาวยังแส้ มีคนคุยหรือมีแฟนบ้างไหม?” “ไม่มีค่ะคุณผู้หญิง ฟ้าต้องส่งเงินให้แม่ มีภาระ ไม่ค่อยได้เจอใครด้วยค่ะ อ้อ อาทิตย์หน้าฟ้าขอลากลับบ้านสักอาทิตย์นึงได้มั้ยคะ?” “คุณรันว่าไงคะ?” เธอแกล้งถามสามีทั้งที่รู้เพราะได้ยินทุกอย่างแล้วจากเมื่อคืน “แล้วแต่คุณเลยพิชา” “ไปเถอะจ้ะ ไม่ต้องห่วงเรื่องงานของเธอหรอกนะ ตอนเธอไม่อยู่ มีคนทำหน้าที่แทนได้เหมือนกัน” คำพูดกำกวมที่ดูมีเลศนัยนั้น แน่นอนว่าแม่บ้านสาวรู้สึกได้แต่เธอพยายามไม่คิดมาก อาจจะเพราะมีแม่บ้านที่เป็นเมียคนขับรถด้วยอีกคนที่ทำงานบ้านได้ในช่วงที่เธอลางาน ธีทัตบึ่งไปถึงบ้านคุณพ่อของพรรณนารา พอกดกริ่งแล้วแจ้งแม่บ้านก็ได้รับเชิญให้เข้ามานั่งรอในบ้านหลังใหญ่ที่ดูมีฐานะเช่นกัน “รอสักครู่นะคะ พอดีคุณณัฐกับหนูพู่กันพึ่งกินข้าวเช้าเสร็จก็แยกย้ายกันขึ้นไปชั้นบน เดี๋ยวไปตามให้ค่ะ” “ขอบคุณมากครับ” พรรณนาราที่รู้ว่าธีทัตมาหาถึงบ้าน เธอดีใจมาก รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วลงไปหาเขาที่ห้องนั่งเล่น “พี่ธี สวัสดีค่ะ” ทั้งสองที่มองและยิ้มให้กัน เธอเขินเขานิดหน่อยตามประสาสาวๆ “ไปที่บ้านไม่เจอ เลยมาที่นี่ ทำไมน้องพู่เปลี่ยนวันไปค้างครับ?” “แม่อยากให้มีวันหยุดสุดสัปดาห์กับพ่อค่ะ” “พี่จะพยายามไปอยู่ที่นั่นให้บ่อยๆนะ น้องพู่จะได้ไม่เหงาเกินไป” เธอยิ้มแก้มแดงอายๆ จากนั้นทั้งสองคนก็ตกลงว่าจะไปเดินเล่นที่สวนข้างบ้านที่มีบ่อปลา ซึ่งพ่อของเธอเลี้ยงปลาคาร์ฟไว้มากมาย “เราแลกไอจีกันหน่อยดีไหม?” “อ้อ..ค่ะ แต่หนูไม่ค่อยได้โพสอะไรหรอกนะ” “อย่างน้อยก็ทักทายแชทคุยได้ไม่ใช่เหรอ?” “ค่ะ..พี่ธี” ธีทัตที่แก่กว่าเธอเจ็ดปี เขามองเธอด้วยความรู้สึกเหมือนมองหญิงสาวคนหนึ่ง จนต้องพยายามเตือนตัวเองไม่ให้พูดเกินเลยหรือทำกิริยาท่าทางให้เธอกลัว “เอ่อ..แล้ว..พี่ธีจะไปไหนต่อคะ? วันนี้วันเสาร์ พาแฟนไปเที่ยวเหรอคะ?” เธอแกล้งถามพลางดูปลาในบ่อไปด้วย ทำให้ธีทัตนิ่งไปนิดนึง “ไม่ได้ไปไหน พี่คิดว่าอยากพาแม่ไปทานข้าวเที่ยง ช่วงนี้อยากใช้เวลากับท่านให้เยอะขึ้นสักหน่อย” “พรุ่งนี้ละคะ?” เธอหันหน้ามาถามเขาด้วยดวงตาที่แสนสวย ราวกับมีดวงดาวระยิบระยับอยู่ในนั้น “พี่มารับพู่ไปเดินเล่นที่ห้างดีไหม? ไปกินขนมอะไรที่น้องพู่ชอบก็ได้” “จริงเหรอ? ได้เหรอคะ? แต่…ไม่ดีกว่าค่ะ หนู..ไม่อยากเป็นแบบแม่” ความที่เธอยังเป็นแค่เด็กที่กำลังจะเป็นสาว วุฒิภาวะยังไม่มาก แม้พยายามเก็บอาการแต่ธีทัตก็ดูออกว่าเธอชอบเขา “น้องพู่ตั้งใจเรียนนะ อย่าพึ่งวอกแวกสนใจเรื่องอื่น ถ้าเรียนจบ ม.ปลาย อยากปรึกษาเรื่องเรียนคณะอะไร มหาวิทยาลัยที่ไหน พี่ยินดีนะครับ” พรรณนารารู้สึกผิดหวังเหมือนอกหักที่เขาใช้คำพูดตัดบท เธอทำได้เพียงแค่พยักหน้าและยิ้มเจื่อนๆ แฟนสาวของพี่ธีคงจะสวย..ทำไมฉันต้องมาเจอเขาในสถานะแบบนี้ด้วย…ทำไมต้องอายุน้อยกว่าเขาทำให้เขามองฉันเป็นแค่เด็ก… ธีทัตเห็นเธอสลดลง ทำให้เขาคิดว่าตัวเองคงพูดปิดกั้นเกินไปจนพรรณนาราอาจเข้าใจผิด “พี่พูดเพราะเป็นห่วง ไม่ได้ตำหนิว่าน้องสนใจเรื่องอื่นไม่สนใจเรียน พี่..จะพูดยังไงดี” แต่ไม่ทันจะพูดอะไร พ่อของเธอก็โผล่มาพอดีและเขาจำธีทัตไม่ได้ “ใครน่ะ? เห็นแม่บ้านบอกว่ามีผู้ชายมาหาลูก” “สวัสดีครับ ผม..พอดีผ่านมาเลยซื้อขนมมาฝากน้องพู่ครับ ผมชื่อธีทัต” เขายกมือไหว้ณัฐวีย์ที่รับไหว้อย่างงงๆ “แล้วรู้จักพู่กันได้ยังไง? อายุเท่าไหร่?” “เอ่อ..คุณพ่อผม..กับคุณแม่ของน้อง..” ธีทัตยังไม่ทันพูดจบ คุณพ่อของพรรณนาราก็ของขึ้นทันทีที่รู้ว่าลูกชายของชู้รักภรรยาเก่าจะมายุ่งกับลูกสาวคนเดียวของเขา “ที่นี่ไม่ต้อนรับ ต้องขอโทษด้วยที่เสียมารยาท แต่ลูกสาวผมยังเด็ก อย่ามาที่นี่อีกเป็นครั้งที่สอง” สายตาของธีทัตดูเศร้าอย่างเห็นได้ชัด พรรณนาราตกใจที่พ่อของเธอพูดไม่ไว้หน้าเขาเลย “พ่อคะ พี่ธีเป็นคนดีนะ พี่เขาไม่เกี่ยว” “ได้แม่ของลูกสาวผมไปคนนึงแล้ว จะเอาลูกสาวผมไปอีกคนนึงเหรอ? คนดีก็ส่วนคนดี แต่เลือดในกายคุณมีเลือดชั่วของมันอยู่ครึ่งหนึ่ง ของแบบนี้..มันคงไม่พ้นส่งต่อกันผ่าน DNA ไปได้หรอก พู่กัน! เข้าบ้านไปเลย” “พ่อ..” “น้องพู่เชื่อคุณพ่อนะ พี่ไม่เป็นไร..พี่เข้าใจ..” เขายิ้มบางๆและพยักหน้าให้เธอเข้าบ้านไปก่อน “ผมขอโทษด้วยครับคุณพ่อ” ณัฐวีย์สะบัดหน้าไม่รับคำขอโทษและเดินตามลูกสาวเข้ามาในบ้านจนทันกัน “ไวไฟแบบพ่อมันไม่มีผิด เด็กสาวอายุแค่สิบห้ายังกล้ามาก้อร้อก้อติกถึงบ้าน ห้ามไปสุงสิงอะไรกับมันเข้าใจไหมพู่? ถ้าไม่เชื่อฟัง พ่อจะกักบริเวณ” พรรณนาราคว้าถุงขนมที่วางบนโต๊ะในห้องนั่งเล่นแล้วขึ้นไปบนห้องของตัวเองเงียบๆ ส่วนเขาตัดสินใจโทรหาอดีตภรรยาถึงเรื่องนี้ “ผมจะทบทวนเรื่องที่พู่กันต้องไปอยู่กับคุณ เพราะเมื่อกี้ลูกชายของชู้มาหาลูกสาวผมถึงบ้าน” “ลูกชายเขาไม่ได้มาอยู่ที่นี่หรอกค่ะ เขาก็อยู่กับแม่” “ผมจะไม่ขอคบค้ากับคนตระกูลนี้ไม่ว่าจะเป็นใคร บอกแค่นี้ ถ้าไม่คิดว่าลูกยังเห็นคุณเป็นแม่ ผมคงไม่ให้ไปแม้แต่วันเดียว” “เห็นใจชาด้วยเถอะคุณณัฐ ชาก็อยากอยู่กับลูก” หลังจากที่ธีทัตกลับออกไปได้ไม่นานนัก เขาก็ส่งข้อความถึงพรรณนาราในไอจี “ไม่ต้องคิดมากนะน้องพู่ เป็นใครก็โกรธ ถ้าเกิดกับพี่เองก็ต้องรู้สึก แต่เราก็ยังคุยกันเป็นพี่น้องได้นะครับ” “ค่ะ” พรรณนาราพิมพ์ตอบไปแค่นั้น แล้วนอนก่ายหน้าผาก พลางคิดถึงเรื่องที่พ่อเลี้ยงทำอะไรแย่ๆกับเธอ ฉันต้องหาทางเอาตัวรอดก่อน เรื่องอื่นค่อยคิดทีหลัง.. ตัวธีทัตเองเมื่อเห็นเธอตอบมาแค่นั้น เขาได้แต่ทำใจว่าด้วยอายุของเธอยังน้อย ทำให้เขาต้องระมัดระวังคำพูดหรือการแสดงออกกับเธอ ในตอนเย็นหลังเลิกเรียนในวันจันทร์ พิชามญช์ได้มารับลูกสาวด้วยตัวเองที่โรงเรียนและเมื่อถึงบ้านเธอก็ทำอาหารที่พรรณนาราชอบกินให้ หลายๆอย่างที่เธอพยายามเอาอกเอาใจลูกสาว ทั้งหมดก็เพื่อให้ตายใจเท่านั้น สายตาของชรันที่แอบมองลูกสาวเธอนั้นชัดเจน แม้เขาจะพยายามหลบซ่อนมันแค่ไหนก็ตาม “ดีแล้วล่ะที่คุณเอาใจใส่ลูกแบบนี้ ถ้าแกชอบอะไรคุณซื้อมาเยอะๆเลย” “ไม่เป็นไรค่ะ หนูกินอะไรก็ได้เหมือนทุกคน อิ่มแล้วขอขึ้นไปข้างบนนะคะ” พรรณนาราลุกออกจากห้องรับประทานอาหารไปก่อนและรีบขึ้นไปอาบน้ำ จากนั้นนั่งเงียบๆในห้องรอฟังว่าแม่และพ่อเลี้ยงกลับขึ้นมาเข้าห้องตอนไหน เสียงเคาะประตูทำเอาเธอตกใจ แต่เป็นเสียงแม่ที่เอ่ยถาม “พู่กัน นอนแล้วเหรอลูก?” “ยังค่ะ คุยกับเพื่อนอยู่” เธอเปิดประตูแง้มเพื่อตอบสั้นๆ โดยมีชรันยืนมองอยู่ด้านหลังเหมือนจะกลืนกินเธอได้เลย “นอนไวก็ดีนะลูก พรุ่งนี้แม่จะไปส่งไปโรงเรียนนะ” “ฝันดีค่ะ” เธอบอกลาเชิงตัดบทกลายๆ เมื่อแนบหูฟังจากประตูว่าทั้งคู่เข้าไปในห้องนอนแล้ว เธอรีบหยิบหมอนและเสื้อกันหนาวมาตัวหนึ่ง ย่องออกจากห้องไปที่บ้านหลังเล็กที่พักของแม่บ้าน พรรณนาราจำได้ว่ามีแม่บ้านชื่อฟ้าที่น่าจะนอนคนเดียวเพราะแม่บ้านวัยกลางคนนั้นพักกับสามีที่เป็นคนขับรถ จึงเลือกเคาะประตูห้องหนึ่งจากการคาดเดาเพราะรองเท้าที่วางอยู่หน้าห้อง เธอเคาะประตูเบาๆอยู่หลายที จนคนในห้องที่มาเปิดให้จากที่ง่วงงัวเงียก็ตกใจจนตาสว่าง “น้องพู่?…มีอะไรหรือเปล่าคะ?” ………………………………….🏠😈ชรันเห็นว่าพรรณนาราปลีกตัวไปแล้ว จึงมีโอกาสก่อนไปทำงานเพื่อคุยกับพิชามญช์“พรุ่งนี้ตอนเช้าเราไปจดทะเบียนสมรสกัน แล้วถ้าท้องจนเด็กอยู่ในระยะปลอดภัย ผมจะโอนให้แปดล้านตามคำขอ”“ลืมเรื่องแม่บ้านชั้นต่ำนั่นไปหรือเปล่า?”“ก็จะเลิกให้ไง”“ถ้าคุณผิดคำพูดล่ะ”“ว่ามาเลยจะให้ผมทำยังไง”“ฉันจะไม่บอกหรอกว่าจะทำยังไง..แต่ฉันทำแน่ คุณทำให้ฉันหันหลังกลับไม่ได้ ก็ต้องไปต่อกันแบบนี้แหละ อย่างน้อยฉันก็ได้รู้ตื้นลึกหนาบางของคุณมากขึ้น และที่คุณยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดก็เพราะคุณอยากได้ลูกสาวฉันเท่านั้นเอง มีแต่ฉันที่เป็นฝ่ายรักคุณ”พิชามญช์เสียใจมากจนเป็นความแค้น เธอตาแดงก่ำแทบจะเป็นสีเลือด เมื่อพูดจบก็ผลุนผลันออกจากห้องรับประทานอาหารไป พรรณนารานั่งเล่นอยู่ในห้องตัวเองจนถึงเวลาเที่ยง แม่บ้านได้มาเคาะประตูเรียกให้เธอไปทานข้าว“คุณผู้หญิงบอกป้าให้เอาอาหารมาให้ที่ห้อง แล้วหนูพู่ละคะ?”“หนูลงไปกินเองค่ะ”เธอมองไปที่ประตูห้องของแม่ด้วยความสงสารและเห็นใจ ก่อนจะไปนั่งอ้อยอิ่งกินมื้อเที่ยงเงียบๆคนเดียว ไม่นานนักธีทัตก็ขับรถมาที่บ้าน “พี่ธี..เอ่อ..สวัสดีค่ะ เอ้อ..พี่กินอะไรหรือยังคะ?”“ยังครับ เรียนเสร็จก็มานี่เลย”
ผ่านไปเพียงแค่ยี่สิบนาที พิชามญช์เขย่าตัวลูกสาวเบาๆจนแน่ใจว่าหลับลึกไปแล้ว เธอเดินกลับไปที่ห้องนอน ชรันที่นั่งเอนหลังดูโทรศัพท์อยู่เหลือบมองภรรยาที่มานอนหันหลังให้บนเตียงโดยไม่พูดอะไรสักคำ“พิชา เราควรต้องคุยกันนะ ไม่ใช่เงียบกันไปหมดแบบนี้”“คุยมาสิคะ”“ตอบผมมาก่อนว่าเมื่อคืนคุณทำไมไม่เข้าไปในห้องทำงาน ทั้งที่รู้ว่าผมทำอะไรอยู่”“คุณอยากเลิกกับพิชาใช่มั้ยคะ?”เธอถามชรันกลับทั้งที่ยังนอนหันหลังให้ “ไม่ได้อยากเลิก.. เอาล่ะ..สิ่งต่อไปนี้ที่ผมจะพูดนะ ผมมีความสัมพันธ์กับฟ้าจริงตั้งแต่เจ็ดปีก่อนแล้ว ถึงจะพึ่งมาเจอคุณ เธอเป็นแม่บ้านที่ออฟฟิศ เลี้ยงดูปูเสื่อกันมาตลอด ผมต้องรับผิดชอบเพราะเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ แต่เธอไม่เคยใฝ่สูงอะไร เอาเป็นว่า..ผมจะย้ายเธอออกไปจากบ้านนี้”ไม่มีคำขอโทษสักแอะ…ฮึ หน้าตัวเมียจริงๆ…“แล้วต้องไปนอนกับมันด้วยใช่มั้ยคะ? ไม่มีตรงไหนที่บอกว่าจะเลิกกับมัน”“จะให้เลิกยังไง? เธอมาก่อนคุณนะ แถมผมเป็นคนแรกของเธอด้วย”“อ้อ…ค่ะ เมื่อกี้พิชาก็คุยกับลูกว่าอาจเลิกรากับคุณแล้วจะไปหางานทำ ส่วนลูกก็ไปอยู่กับพ่อถาวรเพราะพิชาคงไม่มีความสามารถพอจะเลี้ยงดูได้ดีไปกว่าพ่อเขา พิชามาทีหลังใ
“หนูนอนไม่หลับค่ะ ขอนอนด้วยคืนนึงได้มั้ย? มุมห้องก็ได้”ฟ้าทำท่าประหลาดใจที่คุณหนูแสนสวยดูบอบบางจะอยากมานอนบนพื้นห้องของแม่บ้านอย่างเธอ แต่พอนึกถึงเรื่องที่เคยเห็นชุดของพรรณนาราในถังขยะ ทำให้เธอยอมเปิดประตูให้“น้องพู่นอนบนเตียงก็ได้ค่ะ นอนพื้นมันปวดหลัง”“ขอบคุณค่ะพี่ฟ้า เอ่อ..อย่าบอกใครว่าหนูมานอนที่นี่นะ ถ้าแม่ถามหนูจะแก้ตัวเอง”เมื่อปิดประตูและทั้งสองล้มตัวลงนอนแล้ว ฟ้านอนครุ่นคิดเรื่องที่เด็กสาวน่าจะถูกล่วงละเมิด เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่มาขอนอนด้วย ทั้งที่ตอนนี้พึ่งจะสามทุ่มเท่านั้นยัยเด็กคนนี้ต้องกลัวมากแน่นอน..ว่าแต่อีป้านั่นเป็นใจให้ผัวทำมิดีมิร้ายลูกสาวหรือเปล่า? หรือโดนวางยานอนหลับเหมือนเวลาที่เขามาเอากับฉัน..ชรันที่อาบน้ำเสร็จออกมาก็พบว่าพิชามญช์นอนเอนหลังเล่นโทรศัพท์อยู่ พอเขาชวนเธอดื่มไวน์ก่อนนอนด้วยกัน เธอปฏิเสธ“ไม่ล่ะค่ะ รู้สึกว่าดื่มไวน์แล้วหลับลึก ตื่นสายกว่าปกติ”“แต่ไวน์องุ่นพวกนี้ดีต่อสุขภาพนะ เราไม่ได้ดื่มเยอะสักหน่อย”เขาจำใจต้องเปิดไฟ reading lamp นอนดูโซเชี่ยลในโทรศัพท์เงียบๆอยู่ร่วมชั่วโมง พิชามญช์ที่ทำท่าหลับไปแล้วแต่ชรันก็ยังอยากให้เธอหลับลึกกว่านี้จึงรอไปอี
แม่บ้านที่โดนตั้งคำถามอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่ก็มีไหวพริบพอที่จะคิดคำตอบได้รวดเร็ว พอกับท่าทีของชรันที่นิ่งเฉย เขาตักอาหารกินและดูข่าวในโทรศัพท์ชิลๆ“ฟ้าเห็นบริษัทรับสมัครหาแม่บ้านในกลุ่มหางานจากเฟสบุ๊คน่ะค่ะ สมัครไว้แล้วเขาเรียกให้มาทำที่นี่ ก่อนหน้านี้ก็ทำแม่บ้านตามบริษัทค่ะ”พิชามญช์ยิ้มเล็กน้อย “แล้วยังสาวยังแส้ มีคนคุยหรือมีแฟนบ้างไหม?”“ไม่มีค่ะคุณผู้หญิง ฟ้าต้องส่งเงินให้แม่ มีภาระ ไม่ค่อยได้เจอใครด้วยค่ะ อ้อ อาทิตย์หน้าฟ้าขอลากลับบ้านสักอาทิตย์นึงได้มั้ยคะ?”“คุณรันว่าไงคะ?”เธอแกล้งถามสามีทั้งที่รู้เพราะได้ยินทุกอย่างแล้วจากเมื่อคืน“แล้วแต่คุณเลยพิชา”“ไปเถอะจ้ะ ไม่ต้องห่วงเรื่องงานของเธอหรอกนะ ตอนเธอไม่อยู่ มีคนทำหน้าที่แทนได้เหมือนกัน”คำพูดกำกวมที่ดูมีเลศนัยนั้น แน่นอนว่าแม่บ้านสาวรู้สึกได้แต่เธอพยายามไม่คิดมาก อาจจะเพราะมีแม่บ้านที่เป็นเมียคนขับรถด้วยอีกคนที่ทำงานบ้านได้ในช่วงที่เธอลางานธีทัตบึ่งไปถึงบ้านคุณพ่อของพรรณนารา พอกดกริ่งแล้วแจ้งแม่บ้านก็ได้รับเชิญให้เข้ามานั่งรอในบ้านหลังใหญ่ที่ดูมีฐานะเช่นกัน “รอสักครู่นะคะ พอดีคุณณัฐกับหนูพู่กันพึ่งกินข้าวเช้าเสร็จก็แยกย้าย
ชรันไปที่ห้องของพรรณนารา ฟ้าได้นอนเปลือยเปล่าบนเตียงรออยู่แล้ว เขาปิดไฟและล็อกประตูไว้ ก่อนจะไปที่เตียงรวบเอวแม่บ้านสาวให้มาที่ขอบเตียงและลงไปคุกเข่า จับขาสองข้างของฟ้าแยกออกและเริ่มลงลิ้นดูดดุนเครื่องเพศของเธออย่างเร่าร้อน เสียงร้องครางเริ่มต้นทันทีพร้อมกับที่ฟ้าเริ่มมีอารมณ์อย่างรวดเร็ว“อื้ออ…อาาา ดีจัง..ใช่ค่ะ ตรงนั้น..อาา”เธอขยุ้มผมของชายวัยกลางคนเบาๆ สองขาหนีบศีรษะเขาเอาไว้เพราะความซาบซ่าน แต่ใครจะรู้ว่าเขากำลังสร้างมโนภาพว่าทำสิ่งนี้ให้ผู้หญิงคนอื่นอยู่ชรันเลิกทำแล้วยืนขึ้นให้เธอนั่งใช้ปากให้ เขาครางในลำคออย่างพึงพอใจในความมืด เสียงดูดเข้าออกเร็วๆนั้นทำให้เขาถึงกับหน้าท้องเกร็ง ก่อนจะใช้สองมือจับศีรษะเธอกระแทกกับท้องน้อยรัวๆจนดุ้นนั้นลึกลงไปในคอของฟ้าจนน้ำลายไหลยืดพร้อมกับสำลักออกมาพิชามญช์ที่แอบฟังอยู่ด้านนอก น้ำตาอาบแก้มด้วยความคั่งแค้นนี่เขากล้าใช้ห้องลูกสาวฉันมาทำเรื่องระยำบัดสีแบบนี้ได้ยังไง? ทั้งที่ฉันเองก็นอนอยู่ห้องไม่ไกลกันคนทั้งสองเปลี่ยนจากบนเตียงไปที่หน้าต่าง ฟ้ายืนหันหลังโก้งโค้งให้ เสียงกระแทกกระทั้นรุนแรงนั้นถึงไม่แนบหูฟังกับประตู พิชามญช์ก็ได้ยินอย่างถนัดโด
ธีทัตขับรถมาตามพิกัดที่เธอให้ นั่นทำให้เขาแอบพอใจที่ได้รู้จักบ้านคุณพ่อของเธอ สาวน้อยนั่งหน้าตาเครียดและค่อนข้างจะเงียบ เขาถามคำเธอก็ตอบคำ “วันนี้พี่คิดอะไรไม่รู้เลยแวะมาดู กะแค่มาเฉยๆ ทำไมน้องพู่ไม่ไปกับทุกคนครับ”“หนูไม่อยากไปกับพวกเขา”“แล้วคุณแม่รู้มั้ยว่าน้องกลับมาบ้านคุณพ่อ?”“หนูไม่สำคัญขนาดนั้นหรอกค่ะ”“อย่าคิดแบบนั้นเลยนะ พ่อแม่ทุกคนล้วนรักและหวังดีกับลูกอยู่แล้ว”“แต่ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยกลับอันตรายมากกว่า”ธีทัตสะกิดใจกับคำพูดของเธอทันที “มีอะไรบอกพี่ได้นะครับ”เธอเงียบจนถึงบ้าน กล่าวขอบคุณและเดินเข้าบ้านไป นั่นทำให้เขาบอกกับตัวเองว่าจะต้องหาเวลามานอนค้างที่บ้านพ่อในช่วงสุดสัปดาห์บ้างชรันและพิชามญช์กลับมาที่บ้านโดยไม่รู้ว่าพรรณนาราไม่อยู่ พวกเขานั่งดื่มไวน์กันไปคนละนิดหน่อยและเข้านอน กลางดึกเกือบเที่ยงคืนที่ชรันแน่ใจว่าภรรยาใหม่ได้หลับสนิท เขาเดินไปที่ห้องของสาวน้อยวัยกระเตาะก็พบว่าไม่ได้ล็อกประตูห้อง แต่พอเปิดไฟปรากฎว่าเธอไม่อยู่“ไปไหนนะ?”เขาโทรหาฟ้าเพื่อสอบถามว่าเห็นพรรณนาราออกไปจากบ้านหรือไม่ พอรู้ว่าธีทัตมาที่บ้านและออกไปด้วยกัน มันทำให้เขาแอบเดือดดาลในใจ “ค