Share

บทที่ 10 ข้ายอมทั้งนั้น

Penulis: Luffy.g
last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-23 17:20:10

จางเหวิ่นชิงเดินทางกลับจวนสกุลจางด้วยความโมโหและหงุดหงิด ในขณะที่เซี่ยเหมยและจางหมินเย่วกำลังนั่งรอเขาด้วยความตื่นเต้นและกระวนกระวายใจ จางหมินเย่วยืนชะเง้อมองไปที่ประตูอยู่ไม่เว้นว่าง สองมือจิกเกร็งไปมาด้วยความกระสับกระส่าย

          ทันทีที่จางเหวิ่นชิงก้าวเข้ามาภายในห้องโถง จางหมินเย่วก็ปรี่เข้าไปหาบิดาของตนในทันที “ท่านพ่อ...”

          จางเหวิ่นชิงที่ยังคงอารมณ์ขุ่นมัว เมื่อเขาได้เห็นบุตรสาวตรงหน้าก็พาลมีอารมณ์โมโหมากขึ้นไปอีก

          “เย่วเอ๋อร์...ข้าขอสั่งเจ้าเลิกยุ่งกับซ่งฟู่หลงอีกเป็นอันขาด” คำสั่งเฉียบขาดที่ดังขึ้นมา พร้อมใบหน้าถมึงทึง ทำเอาจางหมินเย่วถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตระหนก

          “ท่านพ่อเกิดเรื่องอันใดขึ้น เหตุใดท่านจึงพูดเช่นนั้น”

          “เจ้านี่ช่างไม่รู้ความเสียจริง เจ้ารู้หรือไม่ซ่งฟู่หลงแต่งงานแล้ว” จางเหวิ่นชิงตวาดใส่จางหมินเย่วด้วยน้ำเสียงอันดัง

          จางหมินเย่วถึงกับอ้าปากค้าง “ใต้เท้าซ่งแต่งงานแล้วหรือเจ้าคะ”

          “เจ้าหนุ่มผู้นั้นเอ่ยปากต่อหน้าพระพักตร์ ทั้งท่าทางจองหองนั่น ข้าคิดแล้วก็แค้นยิ่งนัก” จางเหวิ่นชิงกล่าวออกมาพร้อมตวัดสายตาตำหนิใส่บุตรสาว

          “ท่านพ่อต้องมีเรื่องเข้าใจผิดเป็นแน่ ข้าให้คนสืบดูแล้วใต้เท้าอยู่ที่จวนเพียงลำพัง แม้แต่อนุก็ไม่มีสักคนเดียว” จางหมินเย่วรีบแก้ต่างออกมา นางไม่อยากจะเชื่อคำพูดของบิดาได้ ในเมื่อนางให้เล่อจิ้นไปสืบความมาแล้วเรียบร้อย

          “เชอะ...อนุงั้นหรือ” จางเหวิ่นชิงได้ยินคำว่า “อนุ” ก็นึกขุ่นเคืองขึ้นมา “เจ้าคนจองหองนั่นออกปากต่อหน้าฝ่าบาทปฏิเสธการแต่งงานกับเจ้า ทั้งยังบอกข้าอีกด้วยว่าหากเจ้ายังดื้อรั้นก็คงเป็นได้เพียงอนุของเขาเท่านั้น” จางเหวิ่นชิงพรั่งพรูออกมาด้วยความหงุดหงิดที่ถูกล่วงเกิน ทั้งยังไม่อาจทำอะไรซ่งฟู่หลงได้

          “อนุงั้นหรือ...” จางหมินเย่วเพ้อออกมา

          “เย่วเอ๋อร์...” เซี่ยเหมยร้องเตือนสติของจางหมินเย่วในทันที นางได้แต่หวั่นเกรงความคิดอันผิดเพี้ยนของบุตรสาว แม้ในคราแรกนางจะเห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ แต่หากต้องให้จางหมินเย่วแต่งเข้าเป็นอนุมีหรือที่คนสกุลจางจะยอมรับได้

          จางเหวิ่นชิงที่ได้สติก็รีบหันกลับมาจ้องมองจางหมินเย่วอย่างนึกจับผิด ความหวาดหวั่นพรั่งพรูขึ้นมาในใจ “เย่วเอ๋อร์...เจ้าอย่าได้คิดเรื่องเหลวไหลเป็นอันขาด” จางเหวิ่นชิงรีบขู่ออกมาทันที

          จางหมินเย่วหน้างอง้ำขึ้นมา ก่อนจะตัดสินใจกล่าวคำพูดที่ฟังดูไม่ถูกใจบิดามารดาของตนมากนัก “ท่านพ่อ...ท่านแม่...หากเพียงข้าได้แต่งกับใต้เท้าซ่ง ตำแหน่งอนุหาใช่เรื่องที่ข้าใส่ใจไม่”

          “เย่วเอ๋อร์...” มือหนาเงื้อมือขึ้นบนอากาศ แต่ก่อนที่จะตกกระทบกับใบหน้านวล เซี่ยเหมยก็รีบเข้ามารั้งแขนของจางเหวิ่นชิงเอาไว้แน่น

          “ท่านพี่ใจเย็นก่อน” เซี่ยเหมยลนลานกล่าวพร้อมหันไปหาจางหมินเย่วอย่างอ่อนใจ

          แต่แล้วมือหนึ่งก็ลอยขึ้นกลางอากาศก่อนจะฟาดลงบนใบหน้าของจางหมินเย่วอย่างแรง นางถึงกับซวนเซไปด้านข้างตามแรงกระแทก ก่อนจะหันหน้ามาเผชิญกับเจ้าของฝ่ามือนั้น

จางเซี่ยโยวยืนอยู่ด้านหน้าของนางก่อนจะตวาดใส่น้องสาวด้วยความไม่พอใจ  “เย่วเอ๋อร์ เจ้าทำเกินไปแล้วนะ คิดจะตบแต่งเป็นอนุ เจ้าไม่คิดถึงหน้าคนสกุลจางบ้างหรือ”

“เป็นอนุแล้วเช่นใดกัน ข้าเพียงต้องการแต่งงานกับชายที่ข้ารัก” จางหมินเย่วเถียงออกมาอย่างไม่ลดละ

“รักงั้นหรือ...เจ้ามันดื้อรั้นเอาแต่ใจ แต่เล็กจนโตสิ่งที่เจ้าต้องการ หากไม่ได้แต่โดยดีเจ้าก็แย่งชิงมันมา แต่ครั้งนี้เจ้าไม่มีทางสมหวังเป็นแน่” จางเซี่ยโยวกล่าวถ้อยคำรุนแรงออกมา เรื่องราวของความรักที่จางหมินเย่วมีต่อซ่งฟู่หลงทำเอาจวนสกุลจางแทบร้อนเป็นไฟ คนทั้งจวนต้องเดือดร้อนเพียงเพราะนางต้องการเพียงเท่านั้น

จางหมินเย่วจ้องหน้าจางเซี่ยโยวอย่างไม่ยอมเช่นกัน “พี่หญิง...ข้ามิได้ทำสิ่งใดผิด ข้าต้องการแต่งงานกับใต้เท้าซ่งและข้าจะแต่งกับเขาให้ได้”

“บังอาจ...” จางเหวิ่นชิงที่ได้ยินบุตรสาวทั้งสองมีปากเสียงกันก็ตะโกนออกมา “เย่วเอ๋อร์ ข้าคงตามใจเจ้ามากเกินไปแล้ว...พ่อบ้านนำตัวเย่วเอ๋อร์ไปสำนึกที่ศาลบรรพชน หากไม่มีคำสั่งข้าห้ามนางออกมาเป็นอันขาด”

“ฮูหยิน...เรื่องราวครั้งนี้เจ้าอย่าได้ให้ท้ายเย่วเอ๋อร์เป็นอันขาด หากเจ้าขัดคำสั่งอย่าหาว่าข้าไม่เตือน” จางเหวิ่นชิงหันไปกล่าวขู่ใส่เซี่ยเหมยก่อนจะสะบัดกายเดินออกจากห้องโถงไปด้วยความหัวร้อน

"ท่านพ่อ...ท่านพ่อ...ข้าไม่ยอม...ข้าไม่ยอม” จางหมินเย่วร้องตะโกนออกมาไล่หลังบิดา แต่กลับไร้ซึ่งการตอบรับอันใด จางหมินเย่วถึงกับฟุบลงกับพื้นอย่างหมดแรง ความหวังและความฝันของนางพังทลายในชั่วพริบตา

เซี่ยเหมยหันไปมองจางเซี่ยโยวอย่างนึกตำหนิ แต่จางเซี่ยโยวหาได้สนใจไม่ นางยิ้มเยาะออกมาอย่างนึกสะใจที่ได้เห็นน้องสาวของตนถูกขัดความต้องการเป็นครั้งแรกในชีวิต นางปรายตามองจางหมินเย่วอย่างนึกสมเพชก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องโถงไปอีกคนหนึ่งทิ้งให้มารดาของตนอยู่เพียงลำพังกับน้องสาวต่างอุทร

“ท่านแม่...ท่านต้องช่วยข้า...ท่านต้องช่วยข้านะ” จางหมินเย่วหันมาอ้อนวอนเซี่ยเหมยอีกครั้ง

เซี่ยเหมยได้แต่ถอนหายใจพลางส่ายหน้าออกมา “ครั้งนี้เจ้าทำพ่อเจ้าโกรธมากเกินไปแล้ว เจ้าไปอยู่ที่ศาลบรรพชนตามที่พ่อเจ้าสั่งก่อนเถิด ไว้ข้าจะหาจังหวะพูดคุยกับพ่อเจ้าอีกครั้ง”

เซี่ยเหมยหันไปหาเล่อจิ้น “เล่อจิ้น...พาเย่วเอ๋อร์ไปศาลบรรพชน ดูแลนายหญิงของเจ้าให้ดี อย่าให้ก่อเรื่องได้อีกเล่า” เซี่ยเหมยพูดจบก็ส่ายหน้าอีกครั้งอย่างจนใจ ก่อนจะก้าวเท้าเดินออกจากห้องไปอีกคน

“คุณหนู...หักห้ามใจเถิดเจ้าค่ะ ใต้เท้าซ่งผู้นั้นข้ามิเห็นว่ามีอะไรดี เขาไม่คู่ควรให้คุณหนูต้องเจ็บช้ำและถูกลงโทษเช่นนี้เลย”

จางหมินเย่วเม้มปากแน่น พร้อมดวงตาที่ฉายความมุ่งมั่นออกมา “ข้าไม่มีทางตัดใจ ขอเพียงได้แต่งงานเข้าจวนสกุลซ่ง ต่อให้เป็นเพียงอนุ...ข้าก็ยอมทั้งนั้น”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 68 ฟ้าหลังฝน

    บทที่ 68 ฟ้าหลังฝน“โยวเอ๋อร์....โยวเอ๋อร์...ข้าขอโทษ...ข้าขอโทษ” เสียงร้องตะโกนเรียกบุตรสาวของเซี่ยเหมยดังก้องไปทั่วห้องขัง นางทรุดตัวลงกับพื้นด้วยน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้มพร้อมหันหลังให้กับจางหมินเย่วอย่างหมดอาลัยตายอยาก นางอ่อนล้าและอ่อนแรงจนไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวอันใดกับจางหมินเย่วให้ตนเองต้องเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว“ท่านแม่...ตลอดเวลาที่ผ่านมาข้าได้แต่นึกขอบคุณท่านที่รักและเอาใจใส่ข้ามาโดยตลอดแม้ว่าท่านจะเกลียดชังข้ามากเพียงใด...แต่ว่า...ท่านแม่...จะมีสักครั้งหรือไม่ที่ท่านจริงใจต่อข้าแม้เสียงสักเสี้ยวนาที”เซี่ยเหมยกัดฟันแน่นข่มความอาดูรเอาไว้ในใจ ภาพแต่หนหลังผุดขึ้นมาในความนึกคิดของนางอีกครั้ง แม้นางจะนึกเกลียดชังสองแม่ลูกมากสักเพียงใดแต่ความผูกพันที่มีมาเนิ่นนานก็เป็นสิ่งที่นางมิอาจปฏิเสธได้ “นับแต่นี้ต่อไป...เจ้าอย่ามาให้ข้าเห็นหน้าเจ้าอีก” เซี่ยเหมยกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงที่สงบและจริงจัง ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปนั่งหันหลังที่มุมห้องขังอย่างไม่ต้องการเสวนากับจางหมินเย่วอีกต่อไปจางหมินเย่วสะอื้นไห้ในลำคอ ก่อนจะยกยิ้มบางขึ้นมาอีกหน “ขอท่านแม่โปรดรักษาตัวด้วย” นางคุกเข่าลงพร้อมโขกศีรษะกับพื้นเ

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 67 ท่านยอมรับความจริงเถิด

    บทที่ 67 ท่านยอมรับความจริงเถิดข่าวคราวเรื่องของหนิงอันอวี้ที่มีสภาพไม่ต่างจากตุ๊กตามีชีวิตแพร่สะพัดไปทั่วแคว้น “ไม่จริง...อันอวี้ต้องไม่เป็นอันใด...ไม่จริง...” หยางกุยฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับคลุ้มคลั่งอาละวาด ก่อนจะเป็นลมจนสิ้นสติไปในทันทีในขณะที่ซ่งฟู่หลงและจางหมินเย่วได้ยินเรื่องดังกล่าวก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างนึกสังเวชใจ “เวรกรรมจริงๆ”จางหมินเย่วหันไปมองซ่งฟู่หลงก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยความประหม่า “ใต้เท้า...ข้ามีเรื่องอยากขอร้อง”ซ่งฟู่หลงหรี่ตามองจางหมินเย่ว “เจ้าว่ามาสิ”“ข้าอยากไปเยี่ยมท่านแม่สักครั้ง...ท่านให้ข้าไปได้หรือไม่” จางหมินเย่วกล่าวออกมาในที่สุดแววตาที่อ้อนวอนทอดมองมาที่ซ่งฟู่หลง เขาได้แต่พยักหน้ารับพร้อมกำชับให้องครักษ์คอยคุ้มกันนางเอาไว้อย่างใกล้ชิดจางหมินเย่วพร้อมเล่อจิ้นและองครักษ์อีกสองนายขึ้นรถม้าพร้อมมุ่งหน้าตรงไปยังคุกอาญาในทันทีเซี่ยเหมยถูกกักขังอยู่ในห้องขังตามลำพัง ใบหน้าเหม่อลอย ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงอย่างทอดอาลัยตายอยาก นางรู้สึกอับจนและสิ้นหวังเป็นอย่างยิ่งในทันทีที่เซี่ยเหมยเห็นจางหมินเย่วตรงหน้า นางก็ปรี่เข้ามาพร้อมยื่นแขน ออกมาด้านนอกกรงขังหวั

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 66 ข้ามิอาจให้ท่านทำร้ายได้อีก

    บทที่ 66 ข้ามิอาจให้ท่านทำร้ายได้อีกจางเซี่ยโยวประคองหนิงอันอวี้เข้ามาภายในห้องนอนด้วยท่าทางที่เป็นปกติ แม้ว่าภายในใจนั้นกลับตื่นเต้นระคนหวาดหวั่นไปพร้อมกัน สุราและอาหารถูกจัดเรียงไว้อย่างพร้อมสรรพหนิงอันอวี้เข้ามาภายในห้องนอน เขามิได้ใส่ใจกับสิ่งใดตรงหน้า หนิงอันอวี้กระชากร่างของจางเซี่ยโยวเข้าหาตัวพร้อมบดขย้ำนางด้วยความอัดอั้นในอารมณ์ ริมฝีปากหนาบดขยี้ริมฝีปากบางอย่างดุนดันและตะกละตะกลามจางเซี่ยโยวร้องอู้อี้ออกมา นางพยายามดิ้นรนขัดขืนก่อนจะสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมได้ในที่สุด การกระทำดังกล่าวส่งผลให้หนิงอันอวี้มีท่าทางฉุนเฉียวและหงุดหงิดใจขึ้นมาในทันทีจางเซี่ยโยวรีบปรับอารมณ์ให้เป็นปกติอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มกว้างอย่างหวานเยิ้มออกมาพร้อมเดินเข้าไปคล้องลำแขนของเขาอย่างประจบเอาใจ “องค์ชาย...ข้าตระเตรียมสุราชั้นดีเอาไว้สำหรับดื่มด่ำในค่ำคืนนี้ หากท่านใจร้อนเช่นนี้จะมิทำให้เสียบรรยากาศหรอกหรือเจ้าคะ”จางเซี่ยโยวกล่าวพลางดึงรั้งหนิงอันอวี้ลงนั่งที่โต๊ะ ก่อนจะหย่อนกายลงนั่งบนตักเขา มือข้างหนึ่งวาดแขนโอบรอบลำคอ ในขณะที่อีกมือหนึ่งก็ยกสุรารินลงในจอกด้วยท่าทางที่เชื่องช้าแต่เย้ายวนในที จางเซี

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 65 น้อยเนื้อต่ำใจ

    บทที่ 65 น้อยเนื้อต่ำใจจางเซี่ยโยวโขกศีรษะขอบคุณหนิงเว่ยเจี้ยนอีกครั้ง เมื่อนางได้รับอนุญาตตามที่หนิงเว่ยเจี้ยนได้ให้คำมั่นไว้ นางก็ขอตัวลากลับไปในทันที นางหันหลังเดินออกไปโดยมิได้มองจางหมินเย่วที่อยู่ด้านข้างเลยแม้แต่น้อย“เช่นนั้นลูกก็ขอตัวเช่นกัน” ซ่งฟู่หลงโค้งตัวลาหนิงเว่ยเจี้ยนในทันที พร้อมกระชับร่างของจางหมินเย่วที่ยังคงยืนนิ่งราวกับกำลังอยู่ในความฝัน เหตุการณ์ตรงหน้าซับซ้อนเกินกว่าที่จางหมินเย่วจะสามารถคาดเดาอันใดได้“ฟู่หลง...ต่อไปเจ้าก็ดูแลเย่วเอ๋อร์ให้ดีเล่า” หนิงเว่ยเจี้ยนกล่าวกำชับซ่งฟู่หลงอีกครั้งอย่างนึกเป็นห่วงและเอ็นดู“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ...ชายาของข้านั้นดื้อรั้นและโง่เขลา...ต่อไปข้าคงมิอาจให้นางคลาดสายตาไปได้อีก” ซ่งฟู่หลงกล่าวตอบพร้อมปรายตามองจางหมินเย่วอย่างหยอกเย้าจางหมินเย่วได้แต่ยิ้มเจื่อนออกมา พร้อมใบหน้าที่สลดลงไป นางมิได้กล่าวสิ่งใดออกมาอีก นางได้แต่นึกเสียใจในความโง่เขลาของตนเองขณะที่อยู่ลำพังภายในเรือนนอน จางหมินเย่วได้แต่นั่งคอตกหวนคิดถึงความผิดพลาดที่ตนเองได้ก่อขึ้น นางได้แต่รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก ทั้งความผิดหวัง ความท้อแท้ ความรันทดใจซ่งฟู่หลงเข้ามานั่ง

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 64 ทวงสัญญา

    บทที่ 64 ทวงสัญญาหลังจากที่ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง หยางกุยฮวาถึงคุมตัวไปยังตำหนักเย็น ในขณะที่เซี่ยเหมยถูกจับกุมไปยังเรือนจำของศาลอาญาเพื่อรอคำตัดสิน จางเซี่ยโยวก็ได้คุกเข่าลงตรงหน้าหนิงเว่ยเจี้ยน “ทูลฝ่าบาท...ขอพระองค์ทรงทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับหม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ”จางเซี่ยโยวหวนนึกถึงในวันที่เซี่ยเหมยได้เดินทางมาหาตนที่จวนก่อนหน้านี้“โยวเอ๋อร์...แม่มีเรื่องสำคัญจะบอกกับเจ้า” เซี่ยเหมยกล่าวออกมา ในขณะที่มีโอกาสอยู่ด้วยกันตามลำพัง“ท่านแม่มีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ เหตุใดท่านจึงดูร้อนรนเช่นนี้”เซี่ยเหมยหยิบขวดยาจากแผงเสื้อออกมา ก่อนจะนำมาวางตรงหน้าจางเซี่ยโยว“นี่คือ....”เซี่ยเหมยตัดสินใจเล่าเรื่องราวที่หยางกุยฮวาได้นัดหมายกับตนให้จางเซี่ยโยวได้ฟังจนสิ้น “โยวเอ๋อร์...หากการนี้ทำสำเร็จ...อนาคตของเจ้าและองค์ชายสามย่อมสว่างสดใส และต่อไปจะมิมีผู้ใดขัดขวางตำแหน่งว่าที่ฮองเฮาของเจ้าไปได้อีกแล้ว” เซี่ยเหมยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง“ท่านแม่...” จางเซี่ยโยวพ้อออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนใจกับความคิดอันเลวร้ายของมารดาของตน “ท่านแม่ องค์ชายสามนั้นมีตำแหน่งรัชทายาทอยู่ก่อนแล้ว ห

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 63 จนมุม

    บทที่ 63 จนมุมนางกำนัลคนสนิทของหยางกุยฮวาถูกโยนลงมาตรงด้านข้างของเซี่ยเหมยด้วยสภาพบอบช้ำและอิดโรย“เจ้าจงสารภาพออกมาเดี๋ยวนี้” เสียงตวาดของหนิงเว่ยเจี้ยนดังขึ้นอีกครั้งนางกำนัลหันไปมองหยางกุยฮวาอย่างหวาดหวั่น ก่อนจะโขกศีรษะลงกับพื้นหลายต่อหลายครั้ง “ทูลฝ่าบาท...หม่อมฉันผิดไปแล้ว ขอฝ่าบาทเมตตาด้วย หม่อมฉัน...เอ่อ...เรื่องราวทั้งหมดฮองเฮาเป็นผู้บงการเพคะ”สิ้นเสียงของนางกำนัล หยางกุยฮวาก็ปรี่เข้ามาตบหน้านางอย่างแรง “นางทาสชั้นต่ำ เจ้ากล้าใส่ความข้าอย่างนั้นหรือ” หยางกุยฮวาตวาดออกมาด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา โทสะคุกรุ่นด้วยความเจ็บแค้นที่คนสนิทของตนคิดคดทรยศนาง“หยุดเดี๋ยวนี้...” หนิงเว่ยเจี้ยนตะคอกออกมาทำเอาหยางกุยฮวาถึงกับชะงักงันไป นางจ้องมองนางกำนัลด้วยแววตาเดือดดาลและอาฆาตแค้น“เจ้าจงบอกความจริงออกมาให้หมด ข้าจะให้ความเป็นธรรมแก่เจ้าเอง”“ทูลฝ่าบาท...ฮองเฮาวางแผนต้องการใส่ความองค์ชายหกจึงได้มอบยาพิษให้ฮูหยินจางเพื่อใส่ร้ายพระชายา หากแผนการสำเร็จก็จะสามารถกำจัดองค์ชายหกได้สำเร็จเพคะ” นางกำนัลกล่าวออกมาด้วยท่าทางลนลาน แม้นางจะซื่อสัตย์ต่อหยางกุยฮวามากเพียงใด แต่เมื่อนางถูกต่อรองด้วยชีวิ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status