Share

บทที่ 2 เกลี้ยกล่อม

Penulis: Luffy.g
last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-23 17:17:10

จางเหวิ่นชิงที่โกรธจัดจนเนื้อตาสั่นเทิ้ม ดวงตาแดงก่ำบ่งบอกถึงความอดทนที่ถึงขีดสุด เขาเงื้อมมือขึ้นอีกหนอย่างไม่อาจระงับอารมณ์ได้อีก

“ท่านพี่...มีเรื่องอันใดก็ค่อยๆ คุยกันก่อนเถิด เหตุใดต้องลงโทษลูกเช่นนี้กัน” เซี่ยเหมยที่เพิ่งก้าวเข้ามาภายในห้อง นางเร่งฝีเท้าเข้ามารั้งแขนจางเหวิ่นชิงไว้ ก่อนจะรีบปรี่เข้าไปประคองร่างของจางหมินเย่วในทันที

“เย่วเอ๋อร์เจ้าเจ็บหรือไม่ เจ้าอย่าถือสาพ่อของเจ้าเลยนะ พ่อของเจ้าเพียงเป็นห่วงเจ้ามากเกินไปเท่านั้น” เซี่ยเหมยพูดพลางลูบหลังจางหมินเย่วไปมา พร้อมหันไปหาจางเหวิ่นชิงสามีของตน “ท่านพี่ก็ใจเย็นก่อนเถิด เย่วเอ๋อร์ยังเด็กนักจึงได้คิดทำตามอำเภอใจมากไปหน่อย ไว้ข้าจะพูดกับนางเอง” เซี่ยเหมยรีบหว่านล้อมจางเหวิ่นชิงในทันที ก่อนจะหันไปส่งสายตาปลอบใจจางหมินเย่วและพยักหน้าส่งสัญญาณให้จางหมินเย่วกลับห้องตนเองไปก่อน

“ข้าไม่กลับ วันนี้ข้าต้องคุยกับท่านพ่อให้รู้เรื่อง” จางหมินเย่วยังคงยืนกรานด้วยท่าทางที่หนักแน่นจริงจัง

“เจ้าดู...เจ้าดูลูกบังเกิดเกล้าของเจ้าสิ” จางเหวิ่นชิงถึงกับกระทืบเท้า นิ้วมือชี้ไปตรงหน้าจางหมินเย่ว พร้อมหันไปตะคอกใส่เซี่ยเหมย “เป็นเพราะฮูหยิน...เพราะเจ้าทีเดียวที่ตามใจลูกจนเสียคนเช่นนี้” จางเหวิ่นชิงยังมิวายหันมาโทษเซี่ยเหมยอย่างหาเรื่อง

“เหตุใดท่านพ่อต้องพาลต่อว่าท่านแม่ด้วยเล่า นับจากท่านแม่ของข้าจากไป ท่านแม่ก็คอยดูแลข้ามาโดยตลอด ท่านพ่อทำเช่นนี้ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย” จางหมินเย่วร้องแหวออกมาเมื่อเห็นบิดาของตนพาลใส่มารดาเลี้ยงอย่างไม่เป็นธรรม

เซี่ยเหมยเป็นฮูหยินคนปัจจุบันของจวนสกุลจาง เดิมทีนางเป็นสาวใช้คนสนิทของฟางม่านเอ๋อร์ มารดาของจางหมินเย่ว ฟางม่านเอ๋อร์ตบแต่งเข้ามาเป็นฮูหยินของจวนสกุลจาง นางได้รับความรักและความโปรดปรานจากจางเหวิ่นชิงเป็นอย่างมาก แต่เวลาผ่านไปกว่าสามปี ฟางม่านเอ๋อร์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะตั้งครรภ์ทายาทสกุลจางเสียที แม้ว่าจางเหวิ่นชิงจะไม่คิดถือสาหรือรังเกียจอันใด แต่ด้วยหน้าที่ของฮูหยินสกุลจางทำให้ฟางม่านเอ๋อร์คิดหาอนุเพื่อมารับใช้จางเหวิ่นชิง และเพื่อให้สกุลจางมีทายาทสืบทอดต่อไป

ตัวเลือกที่ฟางม่านเอ๋อร์พึงพอใจจึงตกไปที่เซี่ยเหมย นางยกสาวใช้คนสนิทขึ้นเป็นอนุของจางเหวิ่นชิง หลังจากเวลาผ่านไปไม่นานเซี่ยเหมยก็ตั้งครรภ์ขึ้นมา นำพาความดีใจมาสู่คนสกุลจางอย่างถ้วนหน้า และเพียงสี่เดือนต่อมาสกุลจางก็ได้รับข่าวดีอีกครั้ง เมื่อฟางม่านเอ๋อร์ได้ตั้งครรภ์ในที่สุด จางเหวิ่นชิงทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจที่ภรรยาทั้งสองได้ให้กำเนิดบุตรแก่เขาในที่สุด

เซี่ยเหมยให้กำเนิดบุตรสาวคนโตของสกุลจาง นั่นคือจางเซี่ยโยว ส่วนฟางม่านเอ๋อร์ให้กำเนิดบุตรสาวคนรองคือจางหมินเย่ว หลังจากฟางม่านเอ๋อร์คลอดนางได้นาน ร่างกายของฟางม่านเอ๋อร์ก็อ่อนแอลงไปทุกวันๆ สุดท้ายฟางม่านเอ๋อร์ก็จากไปในที่สุด จางเหวิ่นชิงโศกเศร้าเป็นอันมากที่ภรรยาสุดที่รักจากเขาไปเร็วเช่นนี้ นับแต่นั้นจางเหวิ่นชิงก็มิได้รับอนุคนใดเข้ามาในจวนอีกเลย อีกทั้งยังยกเซี่ยเหมยขึ้นเป็นฮูหยินคนใหม่ของจวนสกุลจางอีกด้วย

เซี่ยเหมยรับหน้าที่ดูแลบุตรสาวทั้งสองคนให้เติบใหญ่ขึ้นมาพร้อมกัน เซี่ยเหมยค่อนข้างเอาใจใส่และตามใจจางหมินเย่วมากเป็นพิเศษ ทำให้นางมีนิสัยร่าเริงแจ่มใส ค่อนข้างเอาแต่ใจตนเองและอารมณ์ร้อน ผิดกับจางเซี่ยโยวที่เซี่ยเหมยมักจะเข้มงวดกวดขันจนเรียกได้ว่าแทบไม่ผ่อนปรน ทำให้จางเซี่ยโยวค่อนข้างดูสุขุมและใจเย็น

จางเหวิ่นชิงถึงกับชะงักไปเมื่อได้ยินคำพูดของจางหมินเย่ว เขาทั้งรู้สึกละอายใจต่อฟางม่านเอ๋อร์และรู้สึกผิดต่อเซี่ยเหมย จางเหวิ่นชิงหันมองหน้าเซี่ยเหมยด้วยสายตาขอลุแก่โทษ

“เอาละๆ พวกท่านสองพ่อลูก ตอนนี้หากยังคงถกเถียงกันไปก็ไม่มีประโยชน์อันใด เย่วเอ๋อร์เจ้ากลับไปที่เรือนก่อนไว้...เชื่อแม่” เซี่ยเหมยรีบกล่าวแก้สถานการณ์ที่ดูจะบานปลาย ก่อนจะดันตัวจางหมินเย่วให้ออกจากห้องไป นางยังมิวายแอบกระซิบข้างหูของจางหมินเย่ว “ไว้แม่จะเกลี้ยกล่อมพ่อเจ้าเอง เจ้ากลับไปรอฟังข่าวที่เรือนเจ้าก่อนเถิด”

จางหมินเย่วได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจยิ่งนัก นางหันมายิ้มกว้างพร้อมส่งสายตาขอบคุณมารดาเสียยกใหญ่

หลังจากที่จางหมินเย่วออกจากห้องไป เซี่ยเหมยก็ปิดประตูห้องอย่างแน่นหนา ก่อนจะก้าวเข้ามาคล้องแขนจางเหวิ่นชิงอย่างออดอ้อน “ท่านพี่...ท่านมานั่งพักให้คลายเหนื่อยก่อนเถิด” เซี่ยเหมยไม่พูดเปล่า นางประคองร่างสามีมานั่งที่โต๊ะ ก่อนจะรินน้ำชาให้เขาอย่างเอาใจ

จางเหวิ่นชิงที่ได้รับการปรนนิบัติจากภรรยาเช่นนี้ก็มีท่าทีอ่อนลง เขายกน้ำชาขึ้นจิบเล็กน้อย แต่ใบหน้าของเขายังคงมีสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ไม่หาย

          เซี่ยเหมยขยับกายมานั่งด้านข้าง ก่อนจะยกมือขึ้นกอบกุมมือใหญ่เอาไว้ “ท่านพี่...ท่านก็รู้ดีว่าเย่วเอ๋อร์ดื้อรั้นเพียงใด หากท่านยังคงแข็งขืนเช่นนี้มิเท่ากับผลักให้ลูกของเราทำเรื่องราวไม่เกิดควบคุมหรอกหรือ” เซี่ยเหมยพูดพลางจ้องมองหน้าจางเหวิ่นชิงพลางอย่างรอให้เขาทบทวนคำพูดนาง

          “อันที่จริงข้าก็ได้ยินเรื่องของใต้เท้าซ่งฟู่หลงอยู่บ้าง เขาทั้งหนุ่มแน่นแถมหน้าตาบุคลิกก็ไม่เป็นรองผู้ใด เรื่องตำแหน่งขุนนางนั้นหากได้ใต้เท้าซ่งเข้ามาเป็นเขยสกุลจาง ท่านเองก็สามารถส่งเสริมให้เขาก้าวหน้าได้อย่างไม่มีปัญหา เมื่อเป็นเช่นนั้นท่านยังมีสิ่งใดต้องกังวลใจอีกหรือ” เซี่ยเหมยโน้มน้าวสามีอย่างเป็นเหตุเป็นผล

          จางเหวิ่นชิงมองหน้าเซี่ยเหมยอย่างชั่งใจพลางถอนหายใจหนักออกมา แม้ว่าคำพูดของเซี่ยเหมยจะฟังดูมีเหตุผลชวนให้คล้อยตาม แต่เขาก็ยังคงขัดเคืองในตัวบุรุษผู้นี้อยู่เช่นเดิม “ฮูหยิน...ข้ารู้ว่าเจ้าหวังดี แต่หากม่านเอ๋อร์รู้ว่าข้าหาสามีที่ต่ำต้อยเช่นนี้ให้เย่วเอ๋อร์ นางคงนึกตำหนิข้าน่าดูทีเดียว” จางเหวิ่นชิงพูดพลาง ทอดสายตาเหม่อลอยคิดถึงหญิงสาวบนฟากฟ้าที่เขาเฝ้าคิดถึงอยู่ทุกวี่วัน

          เซี่ยเหมยชะงักค้างไปครู่หนึ่ง ก่อนจะปรับสีหน้ากลับมาเป็นปกติ นางยิ้มหวานให้จางเหวิ่นชิงพร้อมลูบหลังมือไปมา “ท่านพี่...ข้ากลับคิดว่าหากนายหญิงรู้ว่าท่านสนับสนุนให้เย่วเอ๋อร์ได้สมหวัง นางจะต้องขอบคุณท่านเป็นแน่ทีเดียว”

          “เจ้าคิดเช่นนั้นหรือ”

          “เจ้าค่ะ ความสุขของเย่วเอ๋อร์ ย่อมต้องเป็นความสุขของนายหญิงเจ้าค่ะ”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 68 ฟ้าหลังฝน

    บทที่ 68 ฟ้าหลังฝน“โยวเอ๋อร์....โยวเอ๋อร์...ข้าขอโทษ...ข้าขอโทษ” เสียงร้องตะโกนเรียกบุตรสาวของเซี่ยเหมยดังก้องไปทั่วห้องขัง นางทรุดตัวลงกับพื้นด้วยน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้มพร้อมหันหลังให้กับจางหมินเย่วอย่างหมดอาลัยตายอยาก นางอ่อนล้าและอ่อนแรงจนไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวอันใดกับจางหมินเย่วให้ตนเองต้องเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว“ท่านแม่...ตลอดเวลาที่ผ่านมาข้าได้แต่นึกขอบคุณท่านที่รักและเอาใจใส่ข้ามาโดยตลอดแม้ว่าท่านจะเกลียดชังข้ามากเพียงใด...แต่ว่า...ท่านแม่...จะมีสักครั้งหรือไม่ที่ท่านจริงใจต่อข้าแม้เสียงสักเสี้ยวนาที”เซี่ยเหมยกัดฟันแน่นข่มความอาดูรเอาไว้ในใจ ภาพแต่หนหลังผุดขึ้นมาในความนึกคิดของนางอีกครั้ง แม้นางจะนึกเกลียดชังสองแม่ลูกมากสักเพียงใดแต่ความผูกพันที่มีมาเนิ่นนานก็เป็นสิ่งที่นางมิอาจปฏิเสธได้ “นับแต่นี้ต่อไป...เจ้าอย่ามาให้ข้าเห็นหน้าเจ้าอีก” เซี่ยเหมยกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงที่สงบและจริงจัง ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปนั่งหันหลังที่มุมห้องขังอย่างไม่ต้องการเสวนากับจางหมินเย่วอีกต่อไปจางหมินเย่วสะอื้นไห้ในลำคอ ก่อนจะยกยิ้มบางขึ้นมาอีกหน “ขอท่านแม่โปรดรักษาตัวด้วย” นางคุกเข่าลงพร้อมโขกศีรษะกับพื้นเ

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 67 ท่านยอมรับความจริงเถิด

    บทที่ 67 ท่านยอมรับความจริงเถิดข่าวคราวเรื่องของหนิงอันอวี้ที่มีสภาพไม่ต่างจากตุ๊กตามีชีวิตแพร่สะพัดไปทั่วแคว้น “ไม่จริง...อันอวี้ต้องไม่เป็นอันใด...ไม่จริง...” หยางกุยฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับคลุ้มคลั่งอาละวาด ก่อนจะเป็นลมจนสิ้นสติไปในทันทีในขณะที่ซ่งฟู่หลงและจางหมินเย่วได้ยินเรื่องดังกล่าวก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างนึกสังเวชใจ “เวรกรรมจริงๆ”จางหมินเย่วหันไปมองซ่งฟู่หลงก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยความประหม่า “ใต้เท้า...ข้ามีเรื่องอยากขอร้อง”ซ่งฟู่หลงหรี่ตามองจางหมินเย่ว “เจ้าว่ามาสิ”“ข้าอยากไปเยี่ยมท่านแม่สักครั้ง...ท่านให้ข้าไปได้หรือไม่” จางหมินเย่วกล่าวออกมาในที่สุดแววตาที่อ้อนวอนทอดมองมาที่ซ่งฟู่หลง เขาได้แต่พยักหน้ารับพร้อมกำชับให้องครักษ์คอยคุ้มกันนางเอาไว้อย่างใกล้ชิดจางหมินเย่วพร้อมเล่อจิ้นและองครักษ์อีกสองนายขึ้นรถม้าพร้อมมุ่งหน้าตรงไปยังคุกอาญาในทันทีเซี่ยเหมยถูกกักขังอยู่ในห้องขังตามลำพัง ใบหน้าเหม่อลอย ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงอย่างทอดอาลัยตายอยาก นางรู้สึกอับจนและสิ้นหวังเป็นอย่างยิ่งในทันทีที่เซี่ยเหมยเห็นจางหมินเย่วตรงหน้า นางก็ปรี่เข้ามาพร้อมยื่นแขน ออกมาด้านนอกกรงขังหวั

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 66 ข้ามิอาจให้ท่านทำร้ายได้อีก

    บทที่ 66 ข้ามิอาจให้ท่านทำร้ายได้อีกจางเซี่ยโยวประคองหนิงอันอวี้เข้ามาภายในห้องนอนด้วยท่าทางที่เป็นปกติ แม้ว่าภายในใจนั้นกลับตื่นเต้นระคนหวาดหวั่นไปพร้อมกัน สุราและอาหารถูกจัดเรียงไว้อย่างพร้อมสรรพหนิงอันอวี้เข้ามาภายในห้องนอน เขามิได้ใส่ใจกับสิ่งใดตรงหน้า หนิงอันอวี้กระชากร่างของจางเซี่ยโยวเข้าหาตัวพร้อมบดขย้ำนางด้วยความอัดอั้นในอารมณ์ ริมฝีปากหนาบดขยี้ริมฝีปากบางอย่างดุนดันและตะกละตะกลามจางเซี่ยโยวร้องอู้อี้ออกมา นางพยายามดิ้นรนขัดขืนก่อนจะสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมได้ในที่สุด การกระทำดังกล่าวส่งผลให้หนิงอันอวี้มีท่าทางฉุนเฉียวและหงุดหงิดใจขึ้นมาในทันทีจางเซี่ยโยวรีบปรับอารมณ์ให้เป็นปกติอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มกว้างอย่างหวานเยิ้มออกมาพร้อมเดินเข้าไปคล้องลำแขนของเขาอย่างประจบเอาใจ “องค์ชาย...ข้าตระเตรียมสุราชั้นดีเอาไว้สำหรับดื่มด่ำในค่ำคืนนี้ หากท่านใจร้อนเช่นนี้จะมิทำให้เสียบรรยากาศหรอกหรือเจ้าคะ”จางเซี่ยโยวกล่าวพลางดึงรั้งหนิงอันอวี้ลงนั่งที่โต๊ะ ก่อนจะหย่อนกายลงนั่งบนตักเขา มือข้างหนึ่งวาดแขนโอบรอบลำคอ ในขณะที่อีกมือหนึ่งก็ยกสุรารินลงในจอกด้วยท่าทางที่เชื่องช้าแต่เย้ายวนในที จางเซี

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 65 น้อยเนื้อต่ำใจ

    บทที่ 65 น้อยเนื้อต่ำใจจางเซี่ยโยวโขกศีรษะขอบคุณหนิงเว่ยเจี้ยนอีกครั้ง เมื่อนางได้รับอนุญาตตามที่หนิงเว่ยเจี้ยนได้ให้คำมั่นไว้ นางก็ขอตัวลากลับไปในทันที นางหันหลังเดินออกไปโดยมิได้มองจางหมินเย่วที่อยู่ด้านข้างเลยแม้แต่น้อย“เช่นนั้นลูกก็ขอตัวเช่นกัน” ซ่งฟู่หลงโค้งตัวลาหนิงเว่ยเจี้ยนในทันที พร้อมกระชับร่างของจางหมินเย่วที่ยังคงยืนนิ่งราวกับกำลังอยู่ในความฝัน เหตุการณ์ตรงหน้าซับซ้อนเกินกว่าที่จางหมินเย่วจะสามารถคาดเดาอันใดได้“ฟู่หลง...ต่อไปเจ้าก็ดูแลเย่วเอ๋อร์ให้ดีเล่า” หนิงเว่ยเจี้ยนกล่าวกำชับซ่งฟู่หลงอีกครั้งอย่างนึกเป็นห่วงและเอ็นดู“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ...ชายาของข้านั้นดื้อรั้นและโง่เขลา...ต่อไปข้าคงมิอาจให้นางคลาดสายตาไปได้อีก” ซ่งฟู่หลงกล่าวตอบพร้อมปรายตามองจางหมินเย่วอย่างหยอกเย้าจางหมินเย่วได้แต่ยิ้มเจื่อนออกมา พร้อมใบหน้าที่สลดลงไป นางมิได้กล่าวสิ่งใดออกมาอีก นางได้แต่นึกเสียใจในความโง่เขลาของตนเองขณะที่อยู่ลำพังภายในเรือนนอน จางหมินเย่วได้แต่นั่งคอตกหวนคิดถึงความผิดพลาดที่ตนเองได้ก่อขึ้น นางได้แต่รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก ทั้งความผิดหวัง ความท้อแท้ ความรันทดใจซ่งฟู่หลงเข้ามานั่ง

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 64 ทวงสัญญา

    บทที่ 64 ทวงสัญญาหลังจากที่ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง หยางกุยฮวาถึงคุมตัวไปยังตำหนักเย็น ในขณะที่เซี่ยเหมยถูกจับกุมไปยังเรือนจำของศาลอาญาเพื่อรอคำตัดสิน จางเซี่ยโยวก็ได้คุกเข่าลงตรงหน้าหนิงเว่ยเจี้ยน “ทูลฝ่าบาท...ขอพระองค์ทรงทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับหม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ”จางเซี่ยโยวหวนนึกถึงในวันที่เซี่ยเหมยได้เดินทางมาหาตนที่จวนก่อนหน้านี้“โยวเอ๋อร์...แม่มีเรื่องสำคัญจะบอกกับเจ้า” เซี่ยเหมยกล่าวออกมา ในขณะที่มีโอกาสอยู่ด้วยกันตามลำพัง“ท่านแม่มีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ เหตุใดท่านจึงดูร้อนรนเช่นนี้”เซี่ยเหมยหยิบขวดยาจากแผงเสื้อออกมา ก่อนจะนำมาวางตรงหน้าจางเซี่ยโยว“นี่คือ....”เซี่ยเหมยตัดสินใจเล่าเรื่องราวที่หยางกุยฮวาได้นัดหมายกับตนให้จางเซี่ยโยวได้ฟังจนสิ้น “โยวเอ๋อร์...หากการนี้ทำสำเร็จ...อนาคตของเจ้าและองค์ชายสามย่อมสว่างสดใส และต่อไปจะมิมีผู้ใดขัดขวางตำแหน่งว่าที่ฮองเฮาของเจ้าไปได้อีกแล้ว” เซี่ยเหมยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง“ท่านแม่...” จางเซี่ยโยวพ้อออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนใจกับความคิดอันเลวร้ายของมารดาของตน “ท่านแม่ องค์ชายสามนั้นมีตำแหน่งรัชทายาทอยู่ก่อนแล้ว ห

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 63 จนมุม

    บทที่ 63 จนมุมนางกำนัลคนสนิทของหยางกุยฮวาถูกโยนลงมาตรงด้านข้างของเซี่ยเหมยด้วยสภาพบอบช้ำและอิดโรย“เจ้าจงสารภาพออกมาเดี๋ยวนี้” เสียงตวาดของหนิงเว่ยเจี้ยนดังขึ้นอีกครั้งนางกำนัลหันไปมองหยางกุยฮวาอย่างหวาดหวั่น ก่อนจะโขกศีรษะลงกับพื้นหลายต่อหลายครั้ง “ทูลฝ่าบาท...หม่อมฉันผิดไปแล้ว ขอฝ่าบาทเมตตาด้วย หม่อมฉัน...เอ่อ...เรื่องราวทั้งหมดฮองเฮาเป็นผู้บงการเพคะ”สิ้นเสียงของนางกำนัล หยางกุยฮวาก็ปรี่เข้ามาตบหน้านางอย่างแรง “นางทาสชั้นต่ำ เจ้ากล้าใส่ความข้าอย่างนั้นหรือ” หยางกุยฮวาตวาดออกมาด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา โทสะคุกรุ่นด้วยความเจ็บแค้นที่คนสนิทของตนคิดคดทรยศนาง“หยุดเดี๋ยวนี้...” หนิงเว่ยเจี้ยนตะคอกออกมาทำเอาหยางกุยฮวาถึงกับชะงักงันไป นางจ้องมองนางกำนัลด้วยแววตาเดือดดาลและอาฆาตแค้น“เจ้าจงบอกความจริงออกมาให้หมด ข้าจะให้ความเป็นธรรมแก่เจ้าเอง”“ทูลฝ่าบาท...ฮองเฮาวางแผนต้องการใส่ความองค์ชายหกจึงได้มอบยาพิษให้ฮูหยินจางเพื่อใส่ร้ายพระชายา หากแผนการสำเร็จก็จะสามารถกำจัดองค์ชายหกได้สำเร็จเพคะ” นางกำนัลกล่าวออกมาด้วยท่าทางลนลาน แม้นางจะซื่อสัตย์ต่อหยางกุยฮวามากเพียงใด แต่เมื่อนางถูกต่อรองด้วยชีวิ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status