Share

บทที่ 4 ขอพบ

Penulis: Luffy.g
last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-23 17:17:52

จางหมินเย่วตื่นแต่เช้าตรู่จนเล่อจิ้นอดประหลาดใจไม่ได้แต่เมื่อได้เห็นนายหญิงของตนรีบตรงเข้าเข้าครัวเพื่อทำเซาปิ่ง นางก็อดนึกขบขันในความคลั่งรักของจางหมินเย่วเสียมิได้

จางหมินเย่วใช้เวลาในการทำเซาปิ่งกว่าสี่ชั่วยามกว่าที่ขนมจะสำเร็จเป็นรูปเป็นร่าง เมื่อจางหมินเย่วตระเตรียมทุกอย่างจนเสร็จสิ้นด้วยมือของตนเอง นางยกยิ้มขึ้นมาด้วยความภาคภูมิใจ

ใบหน้าของซ่งฟู่หลงปรากฏเด่นชัดขึ้นในความคิดของจางหมินเย่ว สายตาละเมอเพ้อพก นัยน์ตาชวนฝันดั่งคนที่ตกอยู่ในภวังค์ความรัก ทำเอาเล่อจิ้นอดที่จะหยอกเย้านางอย่างเสียมิได้ “คุณหนู ใต้เท้าซ่งต้องปลาบปลื้มเป็นแน่เจ้าค่ะ”

จางหมินเย่วยิ้มกริ่มรับโดยทันที “ขนมเสร็จแล้ว พวกเรารีบกลับไปแต่งตัวกันเถิด”

จางหมินเย่วอาบน้ำแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน โดยมีเล่อจิ้นคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง “คุณหนูช่างงดงามยิ่งนัก หากใต้เท้าซ่งได้พบคุณหนูจะต้องตกหลุมรักคุณหนูเป็นแน่” เล่อจิ้นกล่าวออกมาตามที่นางเห็น จางหมินเย่วนับวันยิ่งงดงามขึ้นอย่างมาก ใบหน้าที่จิ้มลิ้มรับกับดวงตากลมโตอันหวานซึ้งชวนให้หลงใหล ผิวขาวเนียนราวกับหยวกกล้วย ทั้งหน้าอกกลมมนที่ใหญ่โตกว่าหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน

จางหมินเย่วค้อนขวับอย่างเคอะเขินให้กับความปากหวานของสาวใช้คนสนิท นางอดที่จะส่องกระจกไปมาอยู่หลายหนอย่างนึกเป็นกังวลเสียมิได้

จางหมินเย่วอยากสร้างความประทับใจในคราแรกที่ได้พบเจอกันกับชายที่นางพึงใจ หลังจากตรวจตราความเรียบร้อยทั้งผมเผ้า ใบหน้าและเสื้อผ้าจนพึงพอใจแล้วจางหมินเย่วก็สาวเท้าเดินออกจากเรือนไปอย่างเร่งรีบ

รถม้าจอดเทียบอยู่หน้าจวนโดยพ่อบ้านได้ตระเตรียมไว้ตามคำสั่งอย่างเรียบร้อย เล่อจิ้นประคองจางหมินเย่วก้าวขึ้นบนรถม้าอย่างทะนุถนอม รถม้าค่อยๆเคลื่อนไปตามถนน แต่ความเร็วของมันกลับไม่เท่าจิตใจของจางหมินเย่วที่ตอนนี้ล่องลอยไปยังจวนสกุลซ่งเป็นที่เรียบร้อย

จางหมินเย่วนั่งกระวนกระวายใจอยู่ภายในรถด้วยความตื่นเต้น นางได้แต่นึกบทสนทนาที่ควรพูดในการเผชิญหน้ากับซ่งฟู่หลง สองมือบิดกำไปมาด้วยความร้อนรนใจ

หลังจากรถม้าจอดเทียบบริเวณหน้าจวนสกุลซ่ง จางหมินเย่วก้าวลงจากรถมาด้วยใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง

“เล่อจิ้น ข้าดูเป็นเช่นใดบ้าง เสื้อผ้าเรียบร้อยดีหรือไม่” จางหมินเย่วอดที่จะเอ่ยถามสาวใช้ของตนอีกหนด้วยความประหม่าและตื่นเต้น

“คุณหนูงดงามแล้วเจ้าค่ะ...งดงามยิ่งนัก”

จางหมินเย่วยิ้มอย่างพึงพอใจ “เช่นนั้น เราไปกันเถอะ”

เล่อจิ้นเคาะประตูที่หน้าจวนสกุลซ่ง ในขณะที่จางหมินเย่วยืนรออย่างใจจดใจจ่อ ชั่วครู่หนึ่งพ่อบ้านก็เปิดประตูออกมาต้อนรับ

“เรียนพ่อบ้าน คุณหนูรองสกุลจางมาขอเข้าพบใต้เท้าซ่งเจ้าค่ะ” เล่อจิ้นรีบรายงานกับพ่อบ้านในทันที

พ่อบ้านมองหญิงสาวทั้งสองด้วยความแปลกใจก่อนจะปรับสีหน้าราบเรียบอีกหน เขาโค้งกายคำนับอย่างมีมารยาท “ข้าน้อยจะไปเรียนนายท่านสักครู่ขอรับ”

ในขณะนั้นซ่งฟู่หลงที่กำลังฝึกกระบี่อยู่ที่ลานกว้างในสวนกลางจวน พ่อบ้านก็เดินเข้ามารายงานเขาในทันที

“เรียนนายท่าน คุณหนูรองสกุลจางมาขอพบขอรับ”

ซ่งฟู่หลงหยุดชะงักไปก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ คุณหนูรองสกุลจางผู้นี้ เขามิเคยพบเจอมาก่อนเหตุใดจึงได้มาขอพบเขาเช่นนี้

“บอกไปว่าข้าไม่ว่าง” ซ่งฟู่หลงกล่าวตัดบทออกไปอย่างนึกรำคาญใจก่อนจะหันความสนใจกลับมาที่กระบี่ตรงหน้าอีกครั้ง

พ่อบ้านรับคำพร้อมก้าวถอยออกมา ก่อนจะเดินกลับไปยังหน้าจวนอีกครั้ง

“เรียนคุณหนู...วันนี้นายท่านติดธุระไม่สามารถออกมารับรองคุณหนูได้ เชิญคุณหนูจางกลับไปเสียก่อนเถิดขอรับ”

“บังอาจนัก...ท่านพ่อบ้านได้บอกใต้เท้าซ่งหรือไม่ว่าคนที่ขอพบคือคุณหนูรองสกุลจาง บุตรสาวใต้เท้าจางหว่านชิงเสนาบดีกรมคลัง”

พ่อบ้านทำหน้าเจื่อนลงอย่างรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ “ข้าน้อยรายงานแล้วขอรับ หากคุณหนูมีธุระอันใด โปรดฝากข้าน้อยไว้ ข้าน้อยจะรีบเรียนใต้เท้าให้ทราบอีกครั้ง”

“นี่ท่าน...” เล่อจิ้นตวาดออกมาอย่างขุ่นเคือง คนจวนสกุลซ่งช่างเสียมารยาทยิ่งนัก  กล้าตัดรอนนายหญิงของตนเสียได้

“เล่อจิ้น อย่าเสียมารยาทกับท่านพ่อบ้าน” จางหมินเย่วหันมาตำหนิเล่อจิ้น พร้อมส่งสายตาดุให้กับนาง ก่อนจะปรับสีหน้ากลับมาราบเรียบอีกครั้ง นางหันไปหาพ่อบ้านที่ยืนตรงหน้าพร้อมยื่นตะกร้าขนมเซาปิ่งให้กับเขา “ท่านพ่อบ้านโปรดอย่าได้ถือสาคนของข้าที่เสียมารยาทต่อท่าน หากใต้เท้าซ่งติดธุระเช่นนั้นข้าขอรบกวนท่านฝากนำขนมเซาปิ่งมอบให้กับใต้เท้าซ่งด้วยเถิด”

พ่อบ้านรับตะกร้ามาไว้กับมืออย่างไม่อาจปฏิเสธ “ข้าน้อยจะเรียนใต้เท้าให้ทราบขอรับ”

“ขอบคุณท่านพ่อบ้านมาก เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน” จางหมินเย่วมิได้เซ้าซี้อีกต่อไป นางหันหลังกลับพร้อมขึ้นรถม้าอย่างไม่อิดออด แม้ว่าภายในใจจะรู้สึกผิดหวังมากยิ่งนักก็ตาม

“คุณหนู...ใต้เท้าซ่งช่างเสียมารยาทยิ่งนัก ใต้เท้าทำเช่นนี้มิเท่ากับหักหน้านายท่านหรือเจ้าคะ” เล่อจิ้นได้จังหวะก็รีบต่อว่าซ่งฟู่หลงในทันที

“ข้ายังมิร้อนใจเหตุใดเจ้าต้องร้อนใจแทนด้วยเล่า วันนี้เป็นข้าที่มาเสียเที่ยวเอง ใต้เท้าซ่งคงมีธุระสำคัญ เอาไว้วันหน้าข้าจะหาโอกาสมาพบใต้เท้าใหม่อีกสักหน” จางหมินเย่วพูดกับเล่อจิ้นไม่ต่างจากการปลอบประโลมหัวใจตัวเอง นางแง้มบานหน้าต่างออกพร้อมยกมือขึ้นเท้าคาง สายตาจ้องมองออกไปด้านนอกด้วยดวงตาที่หม่นแสงระคนความผิดหวัง

จางหมินเย่วกลับเข้ามาในภายในเรือนของตน พร้อมหย่อนกายลงนั่งด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน ความผิดหวังที่มิได้พบซ่งฟู่หลงทำให้นางได้แต่นั่งทอดถอนหายใจ

“คุณหนูทานข้าวเสียก่อนเถิด ตั้งแต่เช้าคุณหนูยังมิได้ทานสิ่งใดเลย” เล่อจิ้นรีบเข้าปรนนิบัติจางหมินเย่วอย่างเอาใจ อาหารของโปรดของนางถูกนำเข้ามาจัดวางตรงหน้า จางหมินเย่วเพียงคีบเข้าปากอยู่ไม่กี่คำก็วางตะเกียบลง “เจ้าออกไปเถิด ข้าจะพักผ่อนแล้ว”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 68 ฟ้าหลังฝน

    บทที่ 68 ฟ้าหลังฝน“โยวเอ๋อร์....โยวเอ๋อร์...ข้าขอโทษ...ข้าขอโทษ” เสียงร้องตะโกนเรียกบุตรสาวของเซี่ยเหมยดังก้องไปทั่วห้องขัง นางทรุดตัวลงกับพื้นด้วยน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้มพร้อมหันหลังให้กับจางหมินเย่วอย่างหมดอาลัยตายอยาก นางอ่อนล้าและอ่อนแรงจนไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวอันใดกับจางหมินเย่วให้ตนเองต้องเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว“ท่านแม่...ตลอดเวลาที่ผ่านมาข้าได้แต่นึกขอบคุณท่านที่รักและเอาใจใส่ข้ามาโดยตลอดแม้ว่าท่านจะเกลียดชังข้ามากเพียงใด...แต่ว่า...ท่านแม่...จะมีสักครั้งหรือไม่ที่ท่านจริงใจต่อข้าแม้เสียงสักเสี้ยวนาที”เซี่ยเหมยกัดฟันแน่นข่มความอาดูรเอาไว้ในใจ ภาพแต่หนหลังผุดขึ้นมาในความนึกคิดของนางอีกครั้ง แม้นางจะนึกเกลียดชังสองแม่ลูกมากสักเพียงใดแต่ความผูกพันที่มีมาเนิ่นนานก็เป็นสิ่งที่นางมิอาจปฏิเสธได้ “นับแต่นี้ต่อไป...เจ้าอย่ามาให้ข้าเห็นหน้าเจ้าอีก” เซี่ยเหมยกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงที่สงบและจริงจัง ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปนั่งหันหลังที่มุมห้องขังอย่างไม่ต้องการเสวนากับจางหมินเย่วอีกต่อไปจางหมินเย่วสะอื้นไห้ในลำคอ ก่อนจะยกยิ้มบางขึ้นมาอีกหน “ขอท่านแม่โปรดรักษาตัวด้วย” นางคุกเข่าลงพร้อมโขกศีรษะกับพื้นเ

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 67 ท่านยอมรับความจริงเถิด

    บทที่ 67 ท่านยอมรับความจริงเถิดข่าวคราวเรื่องของหนิงอันอวี้ที่มีสภาพไม่ต่างจากตุ๊กตามีชีวิตแพร่สะพัดไปทั่วแคว้น “ไม่จริง...อันอวี้ต้องไม่เป็นอันใด...ไม่จริง...” หยางกุยฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับคลุ้มคลั่งอาละวาด ก่อนจะเป็นลมจนสิ้นสติไปในทันทีในขณะที่ซ่งฟู่หลงและจางหมินเย่วได้ยินเรื่องดังกล่าวก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างนึกสังเวชใจ “เวรกรรมจริงๆ”จางหมินเย่วหันไปมองซ่งฟู่หลงก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยความประหม่า “ใต้เท้า...ข้ามีเรื่องอยากขอร้อง”ซ่งฟู่หลงหรี่ตามองจางหมินเย่ว “เจ้าว่ามาสิ”“ข้าอยากไปเยี่ยมท่านแม่สักครั้ง...ท่านให้ข้าไปได้หรือไม่” จางหมินเย่วกล่าวออกมาในที่สุดแววตาที่อ้อนวอนทอดมองมาที่ซ่งฟู่หลง เขาได้แต่พยักหน้ารับพร้อมกำชับให้องครักษ์คอยคุ้มกันนางเอาไว้อย่างใกล้ชิดจางหมินเย่วพร้อมเล่อจิ้นและองครักษ์อีกสองนายขึ้นรถม้าพร้อมมุ่งหน้าตรงไปยังคุกอาญาในทันทีเซี่ยเหมยถูกกักขังอยู่ในห้องขังตามลำพัง ใบหน้าเหม่อลอย ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงอย่างทอดอาลัยตายอยาก นางรู้สึกอับจนและสิ้นหวังเป็นอย่างยิ่งในทันทีที่เซี่ยเหมยเห็นจางหมินเย่วตรงหน้า นางก็ปรี่เข้ามาพร้อมยื่นแขน ออกมาด้านนอกกรงขังหวั

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 66 ข้ามิอาจให้ท่านทำร้ายได้อีก

    บทที่ 66 ข้ามิอาจให้ท่านทำร้ายได้อีกจางเซี่ยโยวประคองหนิงอันอวี้เข้ามาภายในห้องนอนด้วยท่าทางที่เป็นปกติ แม้ว่าภายในใจนั้นกลับตื่นเต้นระคนหวาดหวั่นไปพร้อมกัน สุราและอาหารถูกจัดเรียงไว้อย่างพร้อมสรรพหนิงอันอวี้เข้ามาภายในห้องนอน เขามิได้ใส่ใจกับสิ่งใดตรงหน้า หนิงอันอวี้กระชากร่างของจางเซี่ยโยวเข้าหาตัวพร้อมบดขย้ำนางด้วยความอัดอั้นในอารมณ์ ริมฝีปากหนาบดขยี้ริมฝีปากบางอย่างดุนดันและตะกละตะกลามจางเซี่ยโยวร้องอู้อี้ออกมา นางพยายามดิ้นรนขัดขืนก่อนจะสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมได้ในที่สุด การกระทำดังกล่าวส่งผลให้หนิงอันอวี้มีท่าทางฉุนเฉียวและหงุดหงิดใจขึ้นมาในทันทีจางเซี่ยโยวรีบปรับอารมณ์ให้เป็นปกติอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มกว้างอย่างหวานเยิ้มออกมาพร้อมเดินเข้าไปคล้องลำแขนของเขาอย่างประจบเอาใจ “องค์ชาย...ข้าตระเตรียมสุราชั้นดีเอาไว้สำหรับดื่มด่ำในค่ำคืนนี้ หากท่านใจร้อนเช่นนี้จะมิทำให้เสียบรรยากาศหรอกหรือเจ้าคะ”จางเซี่ยโยวกล่าวพลางดึงรั้งหนิงอันอวี้ลงนั่งที่โต๊ะ ก่อนจะหย่อนกายลงนั่งบนตักเขา มือข้างหนึ่งวาดแขนโอบรอบลำคอ ในขณะที่อีกมือหนึ่งก็ยกสุรารินลงในจอกด้วยท่าทางที่เชื่องช้าแต่เย้ายวนในที จางเซี

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 65 น้อยเนื้อต่ำใจ

    บทที่ 65 น้อยเนื้อต่ำใจจางเซี่ยโยวโขกศีรษะขอบคุณหนิงเว่ยเจี้ยนอีกครั้ง เมื่อนางได้รับอนุญาตตามที่หนิงเว่ยเจี้ยนได้ให้คำมั่นไว้ นางก็ขอตัวลากลับไปในทันที นางหันหลังเดินออกไปโดยมิได้มองจางหมินเย่วที่อยู่ด้านข้างเลยแม้แต่น้อย“เช่นนั้นลูกก็ขอตัวเช่นกัน” ซ่งฟู่หลงโค้งตัวลาหนิงเว่ยเจี้ยนในทันที พร้อมกระชับร่างของจางหมินเย่วที่ยังคงยืนนิ่งราวกับกำลังอยู่ในความฝัน เหตุการณ์ตรงหน้าซับซ้อนเกินกว่าที่จางหมินเย่วจะสามารถคาดเดาอันใดได้“ฟู่หลง...ต่อไปเจ้าก็ดูแลเย่วเอ๋อร์ให้ดีเล่า” หนิงเว่ยเจี้ยนกล่าวกำชับซ่งฟู่หลงอีกครั้งอย่างนึกเป็นห่วงและเอ็นดู“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ...ชายาของข้านั้นดื้อรั้นและโง่เขลา...ต่อไปข้าคงมิอาจให้นางคลาดสายตาไปได้อีก” ซ่งฟู่หลงกล่าวตอบพร้อมปรายตามองจางหมินเย่วอย่างหยอกเย้าจางหมินเย่วได้แต่ยิ้มเจื่อนออกมา พร้อมใบหน้าที่สลดลงไป นางมิได้กล่าวสิ่งใดออกมาอีก นางได้แต่นึกเสียใจในความโง่เขลาของตนเองขณะที่อยู่ลำพังภายในเรือนนอน จางหมินเย่วได้แต่นั่งคอตกหวนคิดถึงความผิดพลาดที่ตนเองได้ก่อขึ้น นางได้แต่รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก ทั้งความผิดหวัง ความท้อแท้ ความรันทดใจซ่งฟู่หลงเข้ามานั่ง

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 64 ทวงสัญญา

    บทที่ 64 ทวงสัญญาหลังจากที่ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง หยางกุยฮวาถึงคุมตัวไปยังตำหนักเย็น ในขณะที่เซี่ยเหมยถูกจับกุมไปยังเรือนจำของศาลอาญาเพื่อรอคำตัดสิน จางเซี่ยโยวก็ได้คุกเข่าลงตรงหน้าหนิงเว่ยเจี้ยน “ทูลฝ่าบาท...ขอพระองค์ทรงทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับหม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ”จางเซี่ยโยวหวนนึกถึงในวันที่เซี่ยเหมยได้เดินทางมาหาตนที่จวนก่อนหน้านี้“โยวเอ๋อร์...แม่มีเรื่องสำคัญจะบอกกับเจ้า” เซี่ยเหมยกล่าวออกมา ในขณะที่มีโอกาสอยู่ด้วยกันตามลำพัง“ท่านแม่มีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ เหตุใดท่านจึงดูร้อนรนเช่นนี้”เซี่ยเหมยหยิบขวดยาจากแผงเสื้อออกมา ก่อนจะนำมาวางตรงหน้าจางเซี่ยโยว“นี่คือ....”เซี่ยเหมยตัดสินใจเล่าเรื่องราวที่หยางกุยฮวาได้นัดหมายกับตนให้จางเซี่ยโยวได้ฟังจนสิ้น “โยวเอ๋อร์...หากการนี้ทำสำเร็จ...อนาคตของเจ้าและองค์ชายสามย่อมสว่างสดใส และต่อไปจะมิมีผู้ใดขัดขวางตำแหน่งว่าที่ฮองเฮาของเจ้าไปได้อีกแล้ว” เซี่ยเหมยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง“ท่านแม่...” จางเซี่ยโยวพ้อออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนใจกับความคิดอันเลวร้ายของมารดาของตน “ท่านแม่ องค์ชายสามนั้นมีตำแหน่งรัชทายาทอยู่ก่อนแล้ว ห

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 63 จนมุม

    บทที่ 63 จนมุมนางกำนัลคนสนิทของหยางกุยฮวาถูกโยนลงมาตรงด้านข้างของเซี่ยเหมยด้วยสภาพบอบช้ำและอิดโรย“เจ้าจงสารภาพออกมาเดี๋ยวนี้” เสียงตวาดของหนิงเว่ยเจี้ยนดังขึ้นอีกครั้งนางกำนัลหันไปมองหยางกุยฮวาอย่างหวาดหวั่น ก่อนจะโขกศีรษะลงกับพื้นหลายต่อหลายครั้ง “ทูลฝ่าบาท...หม่อมฉันผิดไปแล้ว ขอฝ่าบาทเมตตาด้วย หม่อมฉัน...เอ่อ...เรื่องราวทั้งหมดฮองเฮาเป็นผู้บงการเพคะ”สิ้นเสียงของนางกำนัล หยางกุยฮวาก็ปรี่เข้ามาตบหน้านางอย่างแรง “นางทาสชั้นต่ำ เจ้ากล้าใส่ความข้าอย่างนั้นหรือ” หยางกุยฮวาตวาดออกมาด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา โทสะคุกรุ่นด้วยความเจ็บแค้นที่คนสนิทของตนคิดคดทรยศนาง“หยุดเดี๋ยวนี้...” หนิงเว่ยเจี้ยนตะคอกออกมาทำเอาหยางกุยฮวาถึงกับชะงักงันไป นางจ้องมองนางกำนัลด้วยแววตาเดือดดาลและอาฆาตแค้น“เจ้าจงบอกความจริงออกมาให้หมด ข้าจะให้ความเป็นธรรมแก่เจ้าเอง”“ทูลฝ่าบาท...ฮองเฮาวางแผนต้องการใส่ความองค์ชายหกจึงได้มอบยาพิษให้ฮูหยินจางเพื่อใส่ร้ายพระชายา หากแผนการสำเร็จก็จะสามารถกำจัดองค์ชายหกได้สำเร็จเพคะ” นางกำนัลกล่าวออกมาด้วยท่าทางลนลาน แม้นางจะซื่อสัตย์ต่อหยางกุยฮวามากเพียงใด แต่เมื่อนางถูกต่อรองด้วยชีวิ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status