หน้าหลัก / รักโบราณ / ในวันที่ใจของข้าถ่องแท้ / ตอนที่1||สามีหรือไอ้ตัวบดซบ! (1)

แชร์

ตอนที่1||สามีหรือไอ้ตัวบดซบ! (1)

ผู้เขียน: 28พิจิกาเฉิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-01 10:57:41

วันนี้มหานครเสียนหยาง เมืองหลวงของ ต้าเซี่ย มีงานมงคลเกิดขึ้นจึงคึกคักไปครึ่งเมืองเพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์ปราบกบฏองค์ชายรองผ่านไปเมื่อเกือบสองปีเมืองเสียนหยางก็แทบไม่มีงานมงคลจัดขึ้นอย่างเอิกเกริกเช่นนี้บ่อยนัก

แต่วันนี้กลับมีงานมงคลของสองตระกูลใหญ่แล้วยังจัดขึ้นมาอย่างเอิกเกริกอีกด้วยขึ้นมาชาวบ้านชาวเมืองจึงตื่นตาตื่นใจไปตามๆ กัน นั่นคงเพราะจวนที่แต่งสะใภ้ คือจวนเว่ยกั๋วกง หยวนเค่อเจียง สกุลหยวนที่เป็นสกุลเดิมของอดีตหยวนฮองเฮาผู้เป็นมารดาแท้ๆ ของฉางตี้ฮ่องเต้กับชินอ๋อง จึงไม่แปลกที่งานแต่งวันนี้ยิ่งใหญ่ เพราะไม่ใช่เพียงฝ่ายเจ้าบ่าวที่เป็นสกุลใหญ่

ฝ่ายเจ้าสาวเองก็ไม่ธรรมดา สกุลจี นั้นเป็นแม่ทัพใหญ่ของต้าเซี่ยมาเกินสิบเจ็ดรุ่น จนมาถึงรุ่นของ จีม่อชง ผู้นำตระกูลจีคนปัจจุบันคือรุ่นที่สิบแปด นอกจากตำแหน่งแม่ทัพเขายังได้ดำรงตำแหน่งเป็นจีไท่เว่ย แม่ทัพใหญ่ปกป้องมหานครเสียนหยางหรือหน่วยอวี้หลินที่นับเป็นหน่วยทหารกล้าที่ขึ้นตรงต่อฉางตี้ฮ่องเต้แต่เพียงผู้เดียวขณะนี้

ซึ่งน้อยคนนักจะได้นั่งตำแหน่งไท่เว่ยตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสามสิบอีกด้วย ซึ่งจีไท่เว่ยผู้นี้นับว่าเขาเป็นกำลังหลักในการช่วยฉางตี้ฮ่องเต้กับชินอ๋องซ่างกวนไท่นั้นร่วมมือกันปราบกบฏองค์ชายรองที่ปลิดชีพอดีตฮ่องเต้กับอดีตฮองเฮาแล้วยังเคียงข้างจนปีศาจดำที่ขณะนั้นยังเป็นองค์ไท่จื่อจนขึ้นเป็นจักรพรรดิพระองค์ใหม่เช่นนี้เขาจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นจีไท่เว่ย ไปเมื่อสองปีก่อน

ไหนจะยังมีแม่ทัพเช่นซานจี (จีคนที่สาม) เจียงจวินที่ติดตามชินอ๋องซ่างกวนไท่ไปรบอยู่ชายแดนเป่ยฉีอีกด้วย ดังนั้นสกุลจีย่อมเป็นสกุลที่มีอำนาจอยู่ในราชสำนักไม่น้อยไปกว่าสกุลหยวนดังนั้นวันนี้เจ้าสาวที่เป็นน้องสาวคนเล็กของสองแม่ทัพคนสำคัญย่อมไม่ธรรมดา

เสียงประทัด เสียงเครื่องสาย คึกคักอย่างยิ่งขบวนเจ้าสาวนี้แค่สินเดิมก็มากมายยาวราวสามลี้ชาวบ้านจึงออกมาดูชมจนสองข้างถนนคึกคักยิ่ง เจ้าสาวตัวอวบอมยิ้มจนปวดแก้ม ปีนี้คุณหนูลิ่วจี จีเมี่ยวหลัว นามรองว่าลิ่วจีอายุสิบแปดปีแล้ว หลังหมั้นหมายกับคุณชายใหญ่ของจวนเว่ยกั๋วกงตั้งแต่อายุสิบสองปี สมัยบิดาของนางยังมีชีวิตอยู่แต่ช่วงนั้นนายท่านจีก็เจ็บป่วยร่างกายแทบไม่ไหวแล้วเนื่องจากเขาเป็นแม่ทัพใหญ่ออกรบแล้วบาดเจ็บหนักกลับมา

แต่เพราะห่วงบุตรสาวคนเดียวบิดาจึงตัดสินใจให้หมั้นหมายกับบุตรชายคนโตของสหายรุ่นน้องเช่นเว่ยกั๋วกง พอจัดการหมั้นหมายได้ไม่ถึงครึ่งปีด้วยซ้ำบิดาของนางก็จากไปจริงๆ ความจริงสัญญาหมั้นหมายดังกล่าวคือรอให้จีเมี่ยวหลัวครบสิบห้าปีก็แต่งเข้าสกุลหยวนได้เลย

แต่เพราะช่วงนั้นกลับมีเหตุการณ์กบฏองค์ชายรองขึ้นมาเสียก่อนงานแต่งจึงต้องรอไปก่อน เนื่องจากบ้านเมืองไม่สงบหากจัดงานแต่งก็ดูจะไม่เหมาะสมเท่าใดนักยิ่งต้าเกอและซานเกอพี่ชายทั้งสองของจีเมี่ยวหลัวนั้นเป็นกำลังสำคัญด้วยแล้วจึงยิ่งไม่สมควรจัดงานมงคล ได้แต่รอให้บ้านเมืองผ่านพ้นวิกฤตไปสักครึ่งปี นางเองก็ไม่คิดมากเชื่อฟังผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายด้วยดี

ทว่าพอครบครึ่งปีสมควรแก่เวลางานมงคลสามารถจัดได้อย่างสะดวก หยวนเค่อเจวี๋ยก็มาคุกเข่าขอให้นางช่วยเห็นใจเขา เพราะสหายรักของเขานั้นเอาชีวิตปกป้องเขาจากโจรร้าย จนถึงแก่ความตายตอนที่บ้านของสหายรักผู้นั้น นอกจากมารดาที่แก่เฒ่ายังคงมีภรรยาที่ตั้งครรภ์แก่จวนเจียนจะคลอด

หยวนเค่อเจวี๋ยรับปากสหายก่อนตายไปแล้วว่าจะช่วยดูแลครอบครัวที่เหลือของสหายคนนั้นทำให้เขาไม่อาจผิดคำพูดได้ หากแต่งงานกับนางในขณะนั้นคงยากที่จะได้ดูแลทั้งมารดาและภรรยาของสหายครรภ์แก่ได้เต็มที่จึงวิงวอนให้จีเมี่ยวหลัวเห็นใจ

นางฟังแล้วจึงรู้สึกเห็นใจจริงๆ งานแต่งของนางกับเขาช้าออกไปอีกสักหน่อยคงไม่เป็นอันใด จึงถามหยวนเค่อเจวี๋ยไปว่าเขาจะให้นางรอไปอีกนานเท่าใด พอเขาตอบขอเวลาสามปี ถึงยามนี้บุตรของสหายคงคลอดแล้วและภรรยาผู้โชคร้ายของสหายผู้นั้นก็คงพอจะดูแลตนเองกับลูกน้อยได้แล้ว

ว่าที่สามีของนางช่างเป็นคนดีมีคุณธรรมจริงๆ …

แน่นอนว่าจีเมี่ยวหลัวย่อมสนับสนุนว่าที่สามีอยู่แล้วดังนั้นงานแต่งของนางกับเขาจึงเพิ่งจัดขึ้นเอาในวันนี้เพราะครบสามปีตามสัญญา คิดแล้วนางก็อดจะแอบแย้มผ้าม่านมองดูเจ้าบ่าวของตนเองเสียมิได้

นางเกิดและเติบโตมาสิบแปดปี แต่ตลอดวัยสาวคือสามปีจีเมี่ยวหลัวไม่เคยมองบุรุษอื่นเพราะจิตใจของนางคิดเสมอว่าตนเองมีคู่หมั้นคู่หมายแล้วถึงไม่เคยรู้จักรความรักมาก่อน แต่ถึงจะอย่างตั้งแต่สามปีก่อนในใจของนางหยวนเค่อเจวี๋ยคือสามีนับเขาคุกเข่าให้นางแล้ว ดังนั้นนอกจากตั้งใจศึกษาวิชาแพทย์จนแตกฉานและสอบเข้าเป็นหวู่โจว (นักชันสูตรยุคโบราณ) จนได้รับคัดเลือกสมดังใจจีเมี่ยวหลัวล้วนไม่เคยคิดจะชายตาแลบุรุษใดอีก

พอวันนี้กำลังจะแต่งให้กับบุรุษที่ตนปีกใจว่าคือสามีอย่างครบถ้วนและถูกต้องทุกทางแล้วนางย่อมยินดีอย่างยิ่ง ซึ่งตลอดเวลาสามปีที่นางต้องรอคอยหยวนเค่อเจวี๋ยจีเมี่ยวหลัวก็มิได้ใช้ชีวิตล่องลอยไปวันๆ นางสอบได้ตำแหน่งหวู่โจวแล้วก็ไปรับราชการอยู่ต่างเมืองมาโดยตลอด จนสามเดือนก่อนจึงได้ย้ายกลับมาเสียนหยางเพื่อเตรียมงานแต่ง

ถูกต้องแล้ว ถึงนางจะเป็นสตรีแต่สามปีก่อนนางก็สามารถสอบเป็นขุนนางได้หลังจากจบการศึกษาวิชาแพทย์หลวง ถึงตำแหน่งจะไม่โดดเด่น แต่หวู่โจว (แพทย์ชันสูตรยุคโบราณ) อาชีพที่นางใฝ่ฝันมาตั้งแต่จำความได้ก็ควรค่าสำหรับนางแล้ว

ดังนั้นต่อให้หัวใจของจีเมี่ยวหลัวยังไม่เคยรู้สึกรักใคร่เจ้าบ่าวในวันนี้แต่นางก็รู้สึกขอบคุณหยวนเค่อเจวี๋ยอยู่มากที่อีกฝ่ายยอมรับอาชีพของนางได้ แถมยังยอมให้นางรับราชการต่อไปได้จนกว่านางจะพอใจ เขาช่างเป็นสามีที่ประเสริฐยิ่งสำหรับนางจริงๆ ...

ประเสริฐกับมารดามันนะสิ!

หลังจากพิธีกราบไหว้ฟ้าดินและบิดามารดากับบรรพชนแล้ว เจ้าสาวจึงถูกส่งเข้าห้องหอรอคอยผู้เป็นเจ้ามาร่วมผูกผมและดื่มสุรามงคลร่วมกันจึงเป็นอันเสร็จสิ้นพิธีต่อจากนั้นก็รอเพียงฤกษ์เข้าแท้จริง

ทว่าแทนที่จีเมี่ยวหลัวจะได้สุขสันต์แสนชื่นมื่นประกอบพิธีสุดท้ายแล้วเตรียมตัวอาบน้ำและรอฤกษ์เข้าหอนางกลับต้องมานั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงกลางห้องหอโดยที่ตรงหน้ามีหนึ่งสตรีกับสองเด็กน้อยคนหนึ่งวัยราวสามขวบกับอีกผู้วัยราวหนึ่งขวบพร้อมถาดน้ำชาอยู่ตรงหน้านี้มันเรื่องบัดซบอันใดกัน?!

จากสุรามงคลเหตุใดจึงกลายเป็นน้ำชารับอี้เหนียงและบุตรชายทั้งที่นางกับสามียังไม่ทันได้ร่วมเรียงเคียงหมอนกันเลยด้วยซ้ำ!

"ลิ่วจี เจ้าโปรดเห็นใจพวกเราเถิดนะ"

เห็นใจ?!

นางต้องเห็นใจสตรีที่จะมาเป็นอนุภรรยาไม่พอยังต้องรับบุตรชายของอีกฝ่ายมาเป็นบุตรของตนเอง ยังมิทันเข้าหอนางกลับมีบุตรออกมาถึงสองคนมารดามันเถอะ!

"สามปี สามปีที่เจ้าขอเวลาจากข้า ขอเวลาไปดูแลภรรยากับมารดาและบุตรของสหายผู้มีพระคุณสูงส่งเทียมฟ้า ดูแลกันอย่างดีเสียจริง ดีจนได้ลูกชายมาเพิ่มอีกคนแล้ว ข้าขอถามเจ้าสักหลายคำหน่อยเถิดนะเจิ้งไห่ เจ้าดูแลกันอย่างไร? ดูแลกันท่าใด? "

จีเมี่ยวหลัวปกติย่อมทราบตนเองไม่ใช่สตรีเฉลียวฉลาดและมีรูปโฉมล่มปฐพี แต่พอวันนี้นางกลับรู้สึกว่าตนเองโง่เขลาจนเขาบนศีรษะนั้นงอกออกมายาวกว่ากระบือไปเสียแล้ว โกรธจนอยากสังหารคนเป็นอย่างไรนางเพิ่งกระจ่าง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ในวันที่ใจของข้าถ่องแท้    ตอนที่3||ตบปากคนแก่จะผิดหรือไม่นะ?!(จบตอน)

    คราวนี้ฮูหยินผู้เฒ่าหยวนถึงกับพูดไม่ออก เพราะโดยธรรมเนียมแล้ว ชาวต้าเซี่ยน้อยจวนนักที่จะยินยอมให้อนุภรรยาหรืออี้เหนียงคลอดบุตรก่อนฮูหยินเอก นอกจากมีเหตุจำเป็นเช่นตัวของฮูหยินเอกนั้นมิอาจให้กำเนิดบุตรชายได้ จึงสามารถรับสตรีมาเป็นอี้เหนียงให้ตั้งครรภ์แทน ทว่าในกรณีของจีเมี่ยวหลัวนี้ยังไม่ทันร่วมหอหลายชายคนโตของนางกลับใจร้อนคิดจะให้ฮูหยินเอกของตนเองรับเอาบุตรของอนุภรรยาที่แอบไปซุกซ่อนเอาไว้ภายนอกจากจวนถึงสามปีเช่นนี้ จวนเว่ยกั๋วกงก็ผิดกับสกุลจีจริงๆ"สมรสนี้ไร้ความเป็นธรรม ฝ่าบาทได้โปรดเมตตาน้องสาวของกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ"จีม่อชงรีบคุกเข่าโคกศีรษะขอร้องผู้เป็นนายเหนือหัวโดยตรงของตนทันทีเมื่อฝ่ายของสกุลหยวนหมดคำจะโต้แย้ง น้องสาวคนเดียวเขาเลี้ยงดูนางได้ หากจะมีสามีแล้วไม่มีความสุขซึ่งจากที่ดูแล้วมียายเฒ่าทั้งโลกแคบและใจคับแคบหากจีเมี่ยวหลัวยังต้องแต่งสะใภ้ก็เหมือนนรกตั้งแต่ยังไม่ตายแล้วจริงๆ"ผู้บัญชาการจีต้องคิดให้ถี่ถ้วนนะ ปีนี้น้องสาวของเจ้าอายุสิบแปดแล้ว ยิ่งผ่านการแต่งงานเช่นนี้ อนาคตของนางสำหรับออกเรือนเกรงว่าจะยากแล้ว"ซ่างกวนโทวเอ่ยเตือนสติแม่ทัพใหญ่ในมหานครเสียนหยางออกไปเสียงเรีย

  • ในวันที่ใจของข้าถ่องแท้    ตอนที่3||ตบปากคนแก่จะผิดหรือไม่นะ?!(1)

    ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วยาม ผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายต่างก็มารวมตัวกันพร้อมหน้า รวมถึงตัวเจ้าบ่าวด้วย เจ้าบ่าวที่ยังนอนอยู่บนเตียงในสภาพยับเยินเกินบรรยายที่มาพร้อมกับหมอคอยดูอาการ เห็นแล้วจีเมี่ยวหลัวก็เหยียดริมฝีปากอวบอิ่มคล้ายดูถูก"ฝ่าบาทต้องคืนความเป็นธรรมให้กับสกุลหยวนของพวกเรานะเพคะ ดูสิเพคะ สตรีแซ่จีช่างป่าเถื่อนยิ่งนัก ซ้อมทายาทของจวนเว่ยกั๋วกงของพวกเราจนเป็นเช่นนี้"ฮูหยินผู้เฒ่าสกุลหยวนรีบออกหน้าแทนหลานชายที่นางรักมากที่สุดทันที เมื่อผู้คนพร้อมหน้า ซ่างกวนโทวฟังแล้วคิ้วขมวด แต่ไม่พูดอันใด แต่ถึงเขาไม่พูดสักคำทุกคนต่างรู้แจ้งฝ่าบาทไม่คิดจะเข้าข้างญาติผู้น้องของเขาแน่นอนในกรณีนี้หากใครไม่ตาบอดย่อมเห็นใจฝ่ายเจ้าสาวมากกว่า แล้วฉางตี้ฮ่องเต้เป็นคนโง่หรือเขาจึงจะมองไม่ออกว่าใครผิดใครถูก"ฮูหยินผู้เฒ่าหยวนคงผิดแล้ว ที่ต้องคืนความเป็นธรรมย่อมเป็นสกุลจีของพวกเรา หมั้นหมายหกปีกว่าจะได้ตบแต่ง แต่พอแต่งเข้ามาแล้วคุณชายใหญ่หยวนเค่อเจวี๋ยนั้นกลับซุกซ่อนอนุภรรยานอกจวนพร้อมบุตรชายถึงสองคน นี่คือยุติธรรมหรือ? "จีไท่เวย หรือจีม่อชง บุรุษหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดปี ผู้บัญชาการหน่วยอวี้หลินที่ขึ้นตรงกับฉาง

  • ในวันที่ใจของข้าถ่องแท้    ตอนที่2||เทพเซียนหรือจะสู้ปีศาจดำ!(จบตอน)

    "ขะ…ขอบคุณเจ้าค่ะ"นางกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักแต่แววตานั้นดูแล้วนางขอบคุณจากใจจริง สตรีเราไม่ใช่ชีวิตนั้นยิ่งสตรีที่รูปโฉมงดงามแต่มีครอบครัวยากจนหรือมีบิดามารดาที่เห็นแก่ตัว"หรือหากเจ้ากับลูกวันหน้าเกิดลำบาก ก็นำป้ายหยกนี้ไปที่จวนจีไท่เว่ยหากไม่พบข้าก็ขอพบเหล่าฮูหยินจี ท่านแม่ของข้าไม่ใช่คนใจดำ"กล่าวจบจีเมี่ยวหลัวก็หันหลังจากมาทันทีร่างอวบอั๋นถึงจะมีน้ำหนักมาก ทว่าในยามที่ปีนหน้าต่างห้องหอนั้นกลับว่องไวนัก ไม่นานเสียงคนทั้งจวนเว่ยกั๋วกงก็แตกตื่น แต่จีเมี่ยวหลัวไม่สน คิดแค่จะกลับจวนสกุลจีไปหาพี่ชายคนโตเท่านั้นในเมื่อออกจากประตูดูแล้วจะยาก เจ้าสาวตัวกลมจึงได้แต่หันไปปีนกำแพงหลบหนีเท่านั้น ซ้อมเจ้าบ่าวไปขนาดนั้นนางรั้งอยู่ไม่ได้แล้ว ขอกลับจวนสกุลจีไปตั้งหลักก่อนย่อมปลอดภัยกว่า ยิ่งคิดว่าบัดนี้พี่ชายคนโตกับมารดาคงกลับถึงจวนจีไท่เว่ยไปนานแล้วนางยิ่งรอช้าไม่ได้ จวนเว่ยกั๋วกงนี้ไม่ธรรมดา เพราะเป็นถึงท่านน้าชายของฉางตี้ฮ่องเต้ ตีสุนัขย่อมต้องดูเจ้าของ แต่มันโกรธจนหน้ามีตีไปแล้วจึงค่อยได้สติหึ! แต่ก็แค่ตีสุนัขมิใช่หรือไร?ถึงเจ้าของจะเป็นปีศาจดำคนโกรธจนหน้ามืดย่อมไม่สนใจอยู่แล้ว จี

  • ในวันที่ใจของข้าถ่องแท้    ตอนที่2||เทพเซียนหรือจะสู้ปีศาจดำ! (1)

    แน่นอนว่าผ่านไปครู่ใหญ่สภาพของเจ้าบ่าวเช่นหยวนเค่อเจวี๋ยนั้นไม่น่ามองด้วยสภาพที่กลายเป็นเพียงผ้าขี้ริ้วเก่าๆ ที่ถูกใช้คนใกล้หมดอายุ และบอบช้ำจนแทบจะคล้ายกับเศษเนื้อที่ถูกทุบจนแหลกเหลว ตบตีนางมาหนึ่งครั้ง จีเมี่ยวหลัวไม่ซ้อมจนเครื่องในทะลักออกมาทางปากก็นับว่านางไว้หน้าเว่ยกั๋วกงกับฉางตี้ฮ่องเต้ที่เป็นญาติผู้พี่ของไอ้ตัวบัดซบนี่มากแล้ว"ไอ้คนบัดซบ วันเวลาของสตรีนั้นล้ำค่ายิ่งกว่าทองคำเจ้าอย่าคิดล้อเล่น สามปีไม่ใช้แสนสั้น หากข้าไม่รั้งรอเจ้าป่านนี้คงแต่งงานมีลูกไปแล้ว ไอ้ตัวบัดซบไอ้คนสารเลว!"หลังจากกระทืบคนจนสาแก่ใจจีเมี่ยวหลัวยังด่าไปอีกหลายประโยคก่อนจะหยุดมองภาพของสามีที่กำลังจะกลายเป็นอดีตด้วยใบหน้าเรียบเฉย ใจจริงอยากสังหารมันเสียด้วยซ้ำ แต่คนนี้ตายไปคงสบายเกินไปมันสมควรอยู่ชดใช้สิ่งที่ตนเองกระทำ ช่วงชิงวัยสาวสดใสของนางไปสามปี นางย่อมคิดบัญชีแค้นแน่"เจ้า…เจ้ามัน…สตรี!…สตรี…เสียสติ เจ้ามันเป็นนางมารอำมหิต!"หยวนเค่อเจวี๋ยถึงบาดเจ็บหนักช้ำในจนกระอักโลหิตสดๆ ออกมาหลายค่ำ หากกลับยังสามารถปากดีด่าทอจีเมี่ยวหลัวได้อีก หวู่โจวสาวกัดปากเล็กน้อยในใจของนางยิ่งเดือดดาลจึงคิดว่าจัดให้มันสักชุดค

  • ในวันที่ใจของข้าถ่องแท้    ตอนที่1||สามีหรือไอ้ตัวบดซบ!(จบตอน)

    "คือว่า...""หึ! คงดูแลกันไปหลายกระบวนท่าสินะ แค่สามปีจึงมีบุตรชายออกมาถึงสองคน ถามจากใจ แท้จริงสหายที่เจ้ากล่าวอ้างนั้นแท้จริงไม่มีอยู่จริง ทว่าทั้งหมดเป็นเพียงคำลวงที่เจ้าสร้างขึ้นใช่หรือไม่หยวนเค่อเจวี๋ย?!"จีเมี่ยวหลัวนั้นอยากร้องไห้แต่กลับร้องไม่ออก ดวงตาคู่งามรู้สึกแสบร้อนมากนางไม่ได้เสียใจแต่นางเจ็บแค้น! ทว่ากลับไม่มีน้ำตาสักหยด เขามีสตรีในดวงใจแล้ว เหตุใดไม่พูดกับนางตรงๆ แค่เขาพูด นางหรือจะยังหน้าหนาไม่ยอมถอนหมั้นหลีกทางให้พวกเขานางไม่ใช่คนใจดำเช่นนั้นสักหน่อย"หลอกข้าทำไม เจ้าหลอกให้ข้ารอทำไม เวลาสามปีมันไม่น้อยเลยนะเจิ้งไห่ คำแค่ประโยคเดียว ขอแค่เจ้าบอกกับข้าประโยคเดียว สตรีเช่นจีเมี่ยวหลัวคนนี้ย่อมหลีกทางให้อยู่แล้วแต่นี่...เจ้าหลอกข้าให้รอถึงสามปีได้อย่างไร ไอ้ตัวบัดซบ!"จีเมี่ยวหลัวไม่คิดจะโทษฝ่ายสตรี เพราะมองดูย่อมเห็น สามแม่ลูกนั้นเจียมเนื้อเจียมตัวนัก ที่มีปัญหาก็คือไอ้ผู้ชายบัดซบหยวนเค่อเจวี๋ยที่จับปลาหลายมือ รักสาวงามแต่ก็ไม่ยอมปล่อยมีจากคุณหนูสกุลดีเช่นกัน เขามันโลภมากจนสมควรตายสักหมื่นครั้ง!“เจ้าก็อย่าเอะอะไปนักเลย แต่แรกเจ้าก็ไม่ยังไม่คิดจะรีบมีทายาทให้สกุลหยวนขอ

  • ในวันที่ใจของข้าถ่องแท้    ตอนที่1||สามีหรือไอ้ตัวบดซบ! (1)

    วันนี้มหานครเสียนหยาง เมืองหลวงของ ต้าเซี่ย มีงานมงคลเกิดขึ้นจึงคึกคักไปครึ่งเมืองเพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์ปราบกบฏองค์ชายรองผ่านไปเมื่อเกือบสองปีเมืองเสียนหยางก็แทบไม่มีงานมงคลจัดขึ้นอย่างเอิกเกริกเช่นนี้บ่อยนักแต่วันนี้กลับมีงานมงคลของสองตระกูลใหญ่แล้วยังจัดขึ้นมาอย่างเอิกเกริกอีกด้วยขึ้นมาชาวบ้านชาวเมืองจึงตื่นตาตื่นใจไปตามๆ กัน นั่นคงเพราะจวนที่แต่งสะใภ้ คือจวนเว่ยกั๋วกง หยวนเค่อเจียง สกุลหยวนที่เป็นสกุลเดิมของอดีตหยวนฮองเฮาผู้เป็นมารดาแท้ๆ ของฉางตี้ฮ่องเต้กับชินอ๋อง จึงไม่แปลกที่งานแต่งวันนี้ยิ่งใหญ่ เพราะไม่ใช่เพียงฝ่ายเจ้าบ่าวที่เป็นสกุลใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวเองก็ไม่ธรรมดา สกุลจี นั้นเป็นแม่ทัพใหญ่ของต้าเซี่ยมาเกินสิบเจ็ดรุ่น จนมาถึงรุ่นของ จีม่อชง ผู้นำตระกูลจีคนปัจจุบันคือรุ่นที่สิบแปด นอกจากตำแหน่งแม่ทัพเขายังได้ดำรงตำแหน่งเป็นจีไท่เว่ย แม่ทัพใหญ่ปกป้องมหานครเสียนหยางหรือหน่วยอวี้หลินที่นับเป็นหน่วยทหารกล้าที่ขึ้นตรงต่อฉางตี้ฮ่องเต้แต่เพียงผู้เดียวขณะนี้ซึ่งน้อยคนนักจะได้นั่งตำแหน่งไท่เว่ยตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสามสิบอีกด้วย ซึ่งจีไท่เว่ยผู้นี้นับว่าเขาเป็นกำลังหลักในการช่วยฉางตี้ฮ่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status