LOGIN
🔥ไฟราคะ 🔥
บทนำ
..ร่างบางในชุดกระโปรงสีชมพูหวาน ใบหน้าหญิงสาวยิ้มแย้มเต็มไปด้วยความสุข 'เขมิกา' นั่งจัดช่อดอกไม้ใส่แจกันอย่างสวยงาม เธอเปิดร้านดอกไม้อยู่ในย่านตัวเมืองของกรุงเทพฯ ที่บ้านเธอทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่เธอไม่ชอบด้านนี้เท่าไหร่ เธอจึงมาเปิดร้านดอกไม้เป็นของตัวเอง เขมิกามีน้องสาวหนึ่งคนชื่อ เขมิกร
กรุ๊งกริ๊งๆ
..เสียงโมบายหน้าร้านดังขึ้นก่อนที่จะตามมาด้วยหญิงสาวร่างเล็กที่หอบหิ้วถุงขนมมาเต็มไม้เต็มมือ
" อ้าว..แข มาพี่ช่วย" เขมิกาเดินไปรับขอบจากน้องสาวก่อนจะไปวางไว้บนโต๊ะ
"ทำอะไรอยู่หรอพี่เขม" เขมิกรถามพี่สาวพลางค้นหาขนมของโปรด เธอหยิบขนมหม้อแกงออกมาก่อนจะนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย
"กำลังจัดดอกไม้จ้ะ แขมาหาพี่มีธุระอะไรหรือเปล่า" หญิงสาวถามก่อนจะหันไปจัดแจกันต่อ
"แขแค่แวะมาเล่นด้วยค่ะ เดี๋ยวก็ไปเรียนแล้ว" เขมิกาบอกกล่าวพี่สาวพลางเคี้ยวขนมตุ้ยๆ เธอมีเรียนคาบบ่ายจึงไม่เร่งรีบ
"อื้อ แล้วมีเงินกินขนมมั้ยล่ะ" เขมิกาฉีดพ่นน้ำใส่ดอกไม้ให้ดูสดชื่นยิ่งขึ้น หญิงสาวก้มลงไปสูดดมความหอมจากดอกไม้อย่างอดไม่ได้
"แขก็ว่าจะมาขอพี่เขมแหละค่ะ คิกๆ" หญิงสาวว่าพลางหัวเราะคิกคัก
"เท่าไร่ล่ะ" หญิงสาวเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์ก่อนจะหยิบแบงค์พันให้เขมิกรหนึ่งใบ
"หูยย สามพันไม่ได้หรอคะ" เขมิกรทำหน้ายู่ ก่อนจะกระพริบตาปริบๆ อ้อนพี่สาว
"ไม่ได้.. จะใช้อะไรเยอะแยะแค่ไปเรียนเอง รู้มั้ยว่ามันสิ้นเปลืองแค่ไหน กว่าจะหาเงินได้แต่ล่ะบาทมันเหนื่อยนะ " หญิงสาวบ่นเขมิกายาวเหยียดจนเธอต้องปิดหู พลางเดินหนี
"ไม่คุยกับพี่เขมแล้ว..แขไปดีกว่า แบร่ 😜" เขมิกรหันไปแลบลิ้นใส่พี่สาวอย่างกวนๆ ก่อนจะรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
"ยัยแข!!.. เด็กคนนี้นิ"
..เขมิกาส่ายหัวอย่างเอือมๆ เธอกับน้องสาวอายุห่างกันสามปี ตอนนี้เขมิกรกำลังเรียนอยู่มหาลัย ปีสองแล้ว ดื้อและแก่นแก้วที่สุด แม้เธอจะอายุปาไป 25 แล้ว แต่เธอก็ยิงโสดแถมยังซิง มีผู้ชายเข้ามาจีบเธอก็ไม่เคยสนใจ เธออยากใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวให้มากที่สุด เธอคิดว่า ชีวิตนี้ไม่จำเป็นต้องมีแฟนเลยก็ได้..
กรุ๊งกริ๊งๆๆ
..เสียงโมบายหน้าร้านดังขึ้นอีกครั้ง หญิงสาวหันไปมองผู้มาใหม่..เธอจ้องเขาอยู่นาน เขาทั้งหล่อ ทั้งสมาร์ท เท่ห์สุดๆ คิ้วดกดำ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสวยได้รูปน่าสัมผัสนั่นอีก
"คุณ...คุณครับ!" ชายหนุ่มเรียกหญิงสาวที่เอาแต่ยืนจ้องเขาอยู่ เขาเรียกตั้งหลายรอบเธอก็ไม่ขานรับ
"เอ่อ..ขะ..คะ รับอะไรดีคะ" หญิงสาวเรียกสติกลับมาก่อนจะละล่ำละลักถามชายหนุ่ม 'บ้าจริง! นี่เราเหม่อขนาดนี้เลยหรอเนี่ย' หญิงสาวสบถด่าตัวเองในใจ ก่อนจะฉีกยิ้มรับลูกค้า
"ผมเอาดอกไม้ช่อหนึ่งครับ ช่วยแนะนำทีว่าจะเอาดอกอะไร" ชายหนุ่มถามหญิงสาว เขาจะเอาดอกไม้ไปให้คนรัก มันก็ต้องเลือกความหมายดีดีหน่อย
"อยากให้สื่อความหมายอะไรคะ" หญิงสาวถามชายหนุ่ม เธอรู้สึกเสียเซลฟ์ไปเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มต้องมีแฟนแล้วแน่ๆ
"สื่อความหมายว่ารักครับ" เขาบอกหญิงสาว
" ดอกกุหลาบสีแดง แทนใจว่ารักมั่นคง ไม่มีจืดจาง
ดอกกุหลาบสีขาว แทนใจว่ารักบริสุทธิ์ค่ะ
ดอกกุหลาบสีชมพู แทนใจว่ารักหวานซึ้ง โรแมนติก
ดอกทานตะวัน แทนใจว่ารักเดียวใจเดียวค่ะ
ดอกลิลลี่สีขาว แทนใจว่ารักบริสุทธิ์เช่นกัน
ดอกลิลลี่สีชมพู แทนใจว่าที่สุดของหัวใจ
ดอกลิลลี่สีส้ม แทนใจว่าเธอเป็นความสุขของฉัน
ดอกกล้วยไม้ แทนใจว่ารักมั่นคง เชิดชู ให้เกียรติ์ค่ะ"
..เขมิกาเอ่ยบรรยายความหมายของดอกไม้แต่ล่ะอย่างให้ชายหนุ่มฟังอย่างตั้งใจ
"ผมเอาดอกลิลลี่สีชมพูครับ" ชายหนุ่มบอกกล่าวหญิงสาว ความหมายคือที่สุดของหัวใจ แสดงว่าเขาต้องมีคนรักแล้วจริงๆด้วย เขมิกาคิดในใจ
"ค่ะ ประมาณสักครึ่งชั่วโมงนะคะ ไม่ทราบว่าจะรอรับเลย หรือจะกลับมารับใหม่คะ" เธอถามชายหนุ่มพลางเดินไปหยิบดอกลิลลี่สีชมพูมาจัดแต่ง
"รอครับ"
..ชายหนุ่มบอกก่อนจะเดินไปนั่งรอที่โซฟา มือหนาล้วงหยิบสมาร์ทโฟนหรูราคาแพงขึ้นมาก่อนจะกดโทรหาแฟนสาว
"ฮัลโหล..เหมยทำอะไรอยู่ครับ....อ้อ...ทานข้าวหรือยัง...รอผมหรอ...ครับ...ผมทำธุระอยู่ครับ...อีกประมาณชั่วโมงนึง...ครับ..ผมจะรีบไป..รักเหมยครับ"
..เสียงสนทนาของชายหนุ่มและแฟนสาวของเขาดังเข้ามาในโสตประสาทของหญิงสาวทุกคำ เธอนั่งฟังเงียบไม่ได้คิดอะไรออกมา..ผู้หญิงคนนั้นช่างโชคดีจริงๆ เขาเป็นแฟนที่ทั้งหล่อ และเพอร์เฟค เอาใจใส่แฟนสาวเป็นอย่างดี แม้กระทั่งการเลือกดอกไม้ หญิงสาวคิดแล้วพลางส่ายหัวน้อยๆ.. เธอจะมีโอกาสได้แฟนที่ีดีแบบเขาบ้างหรือเปล่าหน๋อ..
"คุณครับ.. ผมขอเข้าห้องน้ำหน่อยนะครับ" ร่างสูงเอ่ยขออนุญาตหญิงสาว
"เชิญค่ะ"
.. เสียงหวานใสเอ่ยบอก เธอก้มหน้าจัดดอกไม้ไม่นานก็เสร็จ เธอห่อกระดาษเป็นขั้นสุดท้ายก่อนจะผูกโบว์อย่างสวยงาม เป็นจังหวะเดียวกับที่ชายหนุ่มเดินออกมา
"เสร็จแล้วค่ะ..เอ่อ..ไม่ทราบว่าคุณจะเขียนการ์ดด้วยมั้ยคะ" เธอหันไปถามชายหนุ่ม เขาเดินมาข้างๆหญิงสาว
"ครับ ได้ก็ดี"
"จะเขียนว่าอะไรคะ" เขมิกาหยิบการ์ดกับปากกาออกมาให้ชายหนุ่ม
"ผมว่าคุณเขียนให้ผมดีกว่า.. ผมไม่ถนัดเขียนพวกคำหวานเท่าไหร่"
"ค่ะ..งั้นคุณบอกมาก็ได้ค่ะ ว่าจะเขียนว่าอะไร" ..หญิงสาวก้มหน้าเตรียมเขียนการ์ดให้ชายหนุ่ม
"คุณช่วยคิดหน่อยสิ"
"งั้นก็เอาตามความหมายของดอกลิลลี่เลยนะคะ" หญิงสาวหันไปถามชายหนุ่มแต่ก็ต้องตกใจ เมื่อจมูกเธอไปโดนแก้มสากของชายหนุ่มอย่างไม่ได้ตั้งใจเมื่อเข้าก้มต่ำลงมา เธอรีบผละออกอย่างรวดเร็ว..
"เอ่อ..ขะ..ขอโทษค่ะ..ฉันไม่ได้ตั้งใจ" เธอบอกเขาตะกุกตะกัก
"ไม่เป็นไรครับ"
...ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาวที่บัดนี้แดงระเรื่อ เขมิการีบก้มเขียนการ์ดให้ชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว..เสร็จแล้วเธอก็ยื่นช่อดอกไม้ให้ชายหนุ่ม
"เท่าไหร่ครับ"
"3,500 บาทค่ะ" .ชายหนุ่มยื่นเงินให้หญิงสาว
"ผมไปก่อนนะครับ"
"ค่ะ"
...
ว่าแล้วเขาก็เดินออกจากร้านไป ชาตรีหยิบการ์ดขึ้นมาดู บนการ์ดเขียนว่า 'คุณคือผู้เป็นที่รักสุดหัวใจของผม'
🔥 ไฟราคะ 🔥บทที่ 25หลายวันต่อมาเขมิกาอยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปไหน เธอปิดเครื่องมาโดยตลอด ร้านดอกไม้ก็ปิด เหมือนเธอต้องการตัดขาดทุกอย่าง อยากอยู่โลกส่วนตัวสักพัก หญิงสาวนั่งพรวนดินที่สวนหลังบ้าน เธอออกไปซื้อดอกไม้มาปลูกเพื่อผ่อนคลายความทุกข์ร่างบางนั่งปลูกดอกไม้เป็นสวนหย่อมเล็กๆ ดอกไม้ที่เธอเลือกปลูกคือดอกทานตะวัน ความหมายมันลึกซึ้งดี เธอชอบ เขมิการดน้ำตามเป็นลำดับสุดท้าย หญิงสาวลุกขึ้นก่อนจะปัดดินที่เปื้อนมือ จู่ๆ เธอก็รู้สึกหน้ามืด มันเวียนหัวจนเธอแทบทรงตัวไม่อยู่ พรึ่บ! จอดับเขมิกากระพริบตาถี่ๆ เพื่อให้ชินกับแสงสว่าง กลิ่นยาดมลอยเตะจมูก เธอมองไปรอบๆ เห็นพ่อแม่ เขมิกรและเคนยืนรายล้อมเธออยู่ "โอ้ะ.. เขมเป็นอะไรคะ" เธอนั่งพิงหัวเตียงโดยมีเคนช่วยประคอง "เขมเป็นยังไงบ้างลูก" แขไขลูบหัวหญิงสาวอย่างเป็นห่วง ตอนที่เห็นเขมิกาเป็นลมอยู่สวนหลังบ้านเธอตกใจมาก"ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ " เธอโคลงศีรษะเล็กน้อยเมื่อรู้สึกมึนๆ"ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วลูก พ่อเป็นห่วงแทบแย่" "พี่เขมไปหาหมอดีกว่ามั้ยคะ" เขมิกรบอกเธอด้วยความเป็นห่วง"พี่โอเคแล้ว ไม่เป็นอะไรมากหรอก เมื่อเช้าสงสัยแดดแรง เลยหน้ามืดอ่ะ" เธอหันไ
🔥 ไฟราคะ 🔥บทที่ 24ร่างบางเดินเข้าบ้าน ก่อนจะเห็นพ่อแม่และน้องของเธออยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจ"พี่เขม!!" เขมิกรเรียกพี่สาวเสียงดังก่อนจะรีบวิ่งเข้ามากอดผู้เป็นพี่ด้วยความคิดถึง"เขม มายังไงลูก แล้วชาตรีล่ะ มาด้วยรึเปล่า" แขไขและมานพเดินเข้ามาหาหญิงสาวที่หอบหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้ามาด้วย"ไปนั่งคุยกันข้างในปะ" มานพเอ่ยก่อนที่ทุกคนจะเดินไปนั่งที่โซฟา เขมิกายกมือไหว้สวัสดีพ่อและแม่ นี่เป็นการกลับบ้านในรอบสองเดือนหลังจากที่เธอแต่งงานไป"เป็นยังไงบ้างลูก" แขไขกอดบุตรสาวด้วยความคิดถึง เขมิกาก็กอดตอบ เธอคิดถึงพ่อแม่เหลือเกิน"เขมสบายดีค่ะ พ่อกับแม่ล่ะค่ะ" "พ่อกับแม่สบายดีจ้ะ" "แล้วตาชาตรีไม่มาด้วยหรอลูก แล้วทำไมเก็บเสื้อผ้ามาแบบนี้ ทะเลาะกันหรอลูก" มานพเอ่ยถามเขมิกา ทุกคนต่างจ้องมองเธอรอคอยคำตอบ"เอ่อ..ปะ..เปล่าค่ะ ไม่ได้ทะเลาะกัน ช่วงนี้พี่ชาตรีงานยุ่งมากๆค่ะ ไม่ค่อยมีเวลา เขมเหงาก็เลยอยากกลับมาอยู่กับพ่อและแม่ก่อนไงคะ" เธอส่งยิ้มก่อนจะกอดอ้อนผู้เป็นพ่อ"จริงนะลูก ไม่ใช่โกหกพ่อนะ" "จริงๆค่ะ..อะไรกันเขมไม่อยู่แค่เดือนสองเดือนทุกคนก็ลืมเขมแล้วหรอคะ มันน่าน้อยใจจริงๆ " เขม
🔥 ไฟราคะ 🔥บทที่ 23หลังจากที่ประชุมเสร็จในเวลาสองชั่วโมงเต็ม ร่างสูงสมชายชาตรีก็เดินกลับห้องรองประธาน เขาเอนหลังพิงเก้าอี้ พลางหลับตาลงอย่างเมื่อยล้า "เสร็จแล้วหรอคะ" เสียงหวานใสเอ่ยทักขึ้น"เฮ้ย! เหมย.. เหมยมาตั้งแต่เมื่อไหร่" ชาตรีหันไปมองหญิงสาวอย่างตกใจ ไม่คิดว่าเธอจะรออยู่ที่นี่ "เหมยโทรถามเลขาคุณค่ะ พอใกล้ประชุมเสร็จ เหมยก็รีบมาเลย อย่าลืมนัดของเราสิคะ" กิ่งเหมยเดินนวยนาดเข้ามาหาชายหนุ่ม ก่อนจะขึ้นคร่อมชาตรีไว้ มือเรียวยกโอบรอบลำคอแกร่ง ก่อนจะซบใบหน้าลงที่แผงอกล่ำสันของชาตรี"เอ่อ เหมย ลุกก่อนนะ มันที่ทำงาน ใครมาเห็นจะดูไม่ดี" ชาตรีพยายามดันเธอออกห่าง แต่หญิงสาวยังคงเกาะแน่น"ชาตรีคะ... คุณรู้มั้ยว่าคุณเปลี่ยนไปมากเลยนะคะ คุณไม่ใส่ใจเหมยเหมือนเมื่อก่อน..คะ..คุณห่างเหินกับเหมย ฮึก~ " น้ำตาเธอไหลรินอาบใบหน้า มันไม่ใช่การเสแสร้ง หากแต่มันกลั่นออกมาจากความรู้สึกของเธอจริงๆ "มะ..เหมย" ชาตรีเอ่ยเรียกเธอเสียงแผ่ว น้อยนักที่กิ่งเหมยจะร้องไห้ ความผิดมาจากเขาเองที่ละเลยเธอ มือหนาโอบกอดเธอไว้ ก่อนจะก้มลงจุมพิตที่หน้าผากเธออย่างแผ่วเบา"..ฮืออ~~ " เธอซบใบหน้าลงกับอกแกร่งก่อนจะร้องไห้อ
🔥 ไฟราคะ 🔥บทที่ 22ร่างบางตื่นนอนในช่วงสายของวันใหม่ เธอเหลือบมองมือหนาที่พาดเอวบางของเธอไว้ เขมิกาจ้องใบหน้าเนียนใสของชายหนุ่มที่เริ่มรกรุงรังจากไรหนวดเนื่องจากเขาไม่มีเวลาดูแลตัวเอง เธอยกมือขึ้นลูบใบหน้าเขาอย่างแผ่วเบา"คุณคิดถึงฉันจริงๆหรอคะ" เป็นคำถามที่ไม่ได้ต้องการคำตอบ เธอเพียงพึมพำราวกับไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง เขามาหาเธอในรอบหลายวันที่ผ่านมา "คิดถึงสิ.." จู่ๆ ชาตรีก็ลืมตาขึ้นมาก่อนจะเห็นใบหน้าหวานใสเบิกตากว้างอย่างตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะตื่น มือหนากระชับกอดเธอแน่น"อะ..เอ่อ..คะ..คุณตื่นนานแล้วหรอคะ" เขมิกาถามเขาออกไป ใบหน้าเธอแดงเรื่อราวกับลูกตำลึงสุข เมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน เธอก้มหน้าหลบตาเขาอย่างเอียงอาย"หึหึ ก็พอจะได้ยินใครบางคนพูดแหละ" ชาตรียิ้มที่มุมปากเบาๆ เวลาเธอเขินช่างน่ารักเสียจริง "เอ่อ.. ฉะ..ฉันมีงานค้างไว้ ฉันขอตัวก่อนนะคะ" เขมิกาลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะถูกรวบกอดจากด้านหลัง"นี่เขม.. เธอเรียกฉันว่าพี่ได้มั้ย แล้วแทนตัวเองว่าเขม มันดูน่ารักกว่าแทนตัวเองว่าฉันเยอะเลยนะ" ชาตรีหอมแก้มหญิงสาวฟ่อดใหญ่อย่างอดใจไม่ไหว"จะดีหรอคะ..คุณ.." นิ้วเรียวแตะปากหญิงสาวเป
🔥 ไฟราคะ 🔥บทที่ 21 ร่างบางนั่งจัดดอกไม้อยู่ที่ร้าน Flower Love ในรอบหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเธอไม่ได้เข้ามาที่ร้านเลย วันนี้เธอจึงเข้ามาดูความเรียบร้อยเนื่องจากมีออเดอร์เข้ามา นับตั้งแต่วันนั้นชาตรีก็ไม่กลับบ้านเลย ผ่านมาเป็นสัปดาห์แล้ว เธอไม่รู้ว่าเขาไปไหน..กรุ๊งกริ๊งๆ เสียงโมบายหน้าร้านดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยใบหน้าหวานใสของหญิงสาวที่วิ่งมากอดผู้เป็นพี่อย่างแนบแน่นด้วยความคิดถึง"คิดถึงพี่เขมจังเลย ไม่เห็นกลับบ้านบ้างเลยนะคะ" เธอกอดเอวพี่สาวไว้แน่นพลางเงยหน้าขึ้นถาม"ขอโทษที พี่ยุ่งๆน่ะ เลยไม่ได้แวะไปหาเลย" เขมิกาเอ่ยตอบน้องสาว เธอก็คิดถึงคนที่บ้านเหมือนกัน เพียงแต่ยังไม่มีเวลาแวะไปหาเท่านั้น"พี่เขมพาแขไปกินบิงซูไถ่โทษเลยนะคะ" หญิงสาววัยทะเล้นเอ่ยบอกพี่สาว"พี่ขอติดไว้ก่อนได้มั้ย พี่กำลังยุ่งอ่ะ ไว้พี่จะเลี้ยงวันหลังนะ" เขมิกรทำหน้ายู่ แต่เธอก็เข้าใจพี่สาวดี เธอไม่ได้แง่งอนอะไร"แล้วนี่พี่ชาตรีไปไหนคะ" เขมิกรเอ่ยถามหาพี่เขย ตั้งแต่แต่งงานไปเธอก็ไม่เคยเจอพี่เขยอีกเลย เจอแค่วันแต่งงานวันเดียว เขมิกาอึกอักก่อนจะตอบออกไป"เอ่อ คุณชาตรีเขางานยุ่งอ่ะ ไม่ค่อยว่าง" เธอหันไปจัดดอกไม้ต่อ."
🔥 ไฟราคะ 🔥บทที่ 20[ Khemika ] ฉันตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าของอีกวัน รู้สึกปวดหัวนิดๆ เมื่อวานฉันจำได้ว่าพี่เคนมาส่งฉันกลับจากโรงพยาบาล แล้วคุณชาตรีก็เข้ามาชกต่อย เขาทำร้ายฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ทำไมฉันถึงต้องทน อาจจะเป็นเพราะฉันไม่อยากให้พ่อแม่เสียใจละมั้ง ฉันลุกขึ้นไปอาบน้ำก่อนจะเดินลงไปข้างล่าง คุณชาตรีไม่อยู่ รถก็ไม่เห็น ชั่งเถอะจะไปไหนก็เรื่องของเขา"จะทำอะไรก่อนดีเนี่ย" ฉันตัดสินใจเริ่มปั่นผ้าก่อน ฉันใช้ไม่เป็นหรอก ก็ทำตามลูกศรที่เขาชี้บอกเอา ปั่นทิ้งไว้แล้วก็มาเก็บกวาดบ้าน มันเหนื่อยนะ แต่ก็ต้องทำ ฉันยกมือขึ้นปาดเหงื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำไมทำงานบ้านมันเหนื่อยแบบนี้นะ "เฮ้ออ~" ฉันนั่งพิงบันไดบ้านอย่างเหนื่อยหอบ เมื่อพึ่งถูบ้านเสร็จ จ๊อก~ จ๊อก~ เสียงท้องร้องของฉันเองแหละ เริ่มจะหิวแล้วสิ ฉันเดินเข้าไปในครัวก่อนจะเปิดดูตู้เย็นว่าพอมีอะไรกินบ้าง "ไข่?" ฉันมองไข่กับผักสามสี่อย่างในตู้เย็น บอกตรงๆ แม้แต่ทอดไข่ฉันยังทำไม่เป็นเลย ก็ที่บ้านฉันมีแม่บ้านทำให้ทุกอย่าง ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ฉันก็ต้องทำเองทั้งหมดมันทำยังไงอ่ะ ฉันเริ่มจากตอกไข่ใส่ถ้วยก่อนจะปรุงเครื่องเล็กน้อย ฉ







