วันนี้ที่คณะบริหารธุรกิจมีการคัดเลือกน้องปี1เพื่อเข้าประกวดดาวเดือนของมหาวิทยาลัย ทิวาได้รับการเสนอชื่อให้เป็นตัวแทนของคณะเพื่อประกวดดาวเดือนของมหาวิทยาลัย แต่เขากลับปฏิเสธ และให้เหตุผลว่า ตัวเขาเองไม่เหมาะสม และเสนอเคนตะแทน และเมื่อทุกคนพิจารณากันดี ๆแล้ว จึงยอมรับข้อเสนอของทิวาเพราะเคนตะเอง ก็เป็นหนุ่มตี๋ ผิวขาวรูปร่างดีสูงโปร่ง ยิ้มเก่งอารมณ์ดี น่าจะเหมาะกับการประกวดครั้งนี้ ซึ่งเคนตะเองก็ได้แต่ชี้หน้าคาดโทษเพื่อนรักของเขา เพราะนอกจากที่ทิวาจะเสนอชื่อเขาแล้ว โอโซนยังเป็นฝ่ายสนับสนุน ให้รุ่นพี่ทั้งหมดพร้อมกับเพื่อน ๆ ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้เขาประกวดอีกด้วย ส่วนทิวากับโอโซน ก็ได้แต่ยิ้มออกมาอย่างชอบใจ
“พวกมึงสองคนเนี่ยนะ ผลักภาระให้กูอีกแล้ว โดยเฉพาะมึงไอ้วา เขาเสนอชื่อมึงแล้วแท้ ๆ เสือกโยนมาให้กูซะงั้น” เคนตะบ่นเพื่อนของเขาทันทีที่เดินเข้ามานั่งด้วยกัน ด้วยอาการเคืองนิดๆ
“เอาน่าไอ้เคนตะ ไอ้วามันไม่มั่นใจ แล้วมันก็ไม่กล้า กูว่ามึงนั่นแหละเหมาะสมที่สุดแล้ว เชื่อกู” โอโซน บอกกับเพื่อนรักของเขา
“มึงด้วย ไอ้โอโซน เห็นดีเห็นงาม กับไอ้วา พูดนั่นพูดนี่ จนรุ่นพี่เลือกกูจนได้ จริงๆกูน่าจะเสนอมึงนะ ไม่น่ายอมตกลงง่าย ๆเลย”เคนตะตอบกลับโอโซนพร้อมกับชี้หน้าคาดโทษ
“เฮ้ย!!!ไม่ดีหรอกไอ้เคนตะ มึงนะเหมาะที่สุดแล้ว กูไม่หล่อเท่ามึงหรอก เชื่อกู มึงทั้งหล่อทั้งหุ่นดี สาว ๆ เห็นก็ต้องกรี๊ด ยังไงเดือนมหาลัยปีนี้ก็ต้องเป็นของมึงอย่างแน่นอน”
“จริงอย่างที่ไอ้โอโซนมันพูดนะไอ้เคนตะ ยังไงกูก็คิดว่ามึงเหมาะสมกว่ากูเยอะขืนให้กูไป อายคนอื่นเขาเปล่าๆ” ทิวารีบพูดเสริม
“มึงเนี่ยนะจะอายคนอื่นไอ้วา มึงออกจากหน้าตาน่ารักขนาดนี้ ไม่อย่างนั้นรุ่นพี่เขาไม่เลือกมึงหรอก”เคนตะยังคงเถียงกับทิวาต่ออย่างไม่ลดละ
“พอ ๆเลิกเถียงกันได้แล้ว เรื่องนี้จบแล้ว เขาตกลงเลือกมึงไอ้เคนตะมึงไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนแล้วตกลงตามนี้ตอนนี้กูหิวแล้ว ไปหาข้าวแดกกันดีกว่า” โอโซนรีบพูดตัดบทบท ก่อนที่เคนตะ จะเริ่มโวยวายงอแงเพื่อนไปมากกว่านี้
“ไอ้อ้วน!!เห็นแก่กินนะมึง ว่างไม่ได้หาของแดกตลอด เออ ๆ จบก็จบ ไปหาอะไรแดกกัน แต่พวกมึงต้องเลี้ยงกูนะ โทษฐานที่รวมหัวกันวันนี้”
“ได้อยู่แล้วไม่มีปัญหา คุณเคนตะอยากกินอะไรบอกกูมาได้เลย เดี๋ยวกูกับไอ้โอโซนเลี้ยงเองครับ ไอ้คุณว่าที่เดือนมหาลัย”ทิวาบอกกับเคนตะพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี
หลังจากที่พวกเขาหมดตกลงกันได้ จึงจบบทสนทนากันเพียงแค่นั้น พร้อมกับรีบเดินออกไปจากตึก ที่พวกเขาประชุมอยู่กับรุ่นพี่ เพื่อตรงไปยังโรงอาหารของคณะ แล้วหาอะไรกินกันตามที่โอโซนพูด และแล้ววันประกวดดาวเดือนของมหาวิทยาลัยก็ถูกจัดขึ้น ซึ่งแต่ละคณะก็ส่งดาวเดือนเฟรชชี่ปี 1 ของแต่ละคณะตัวเองมาเป็นตัวแทนในการประกวดอย่างมากมาย การประกวดเริ่มจากการแนะนำตัวเอง แสดงความสามารถของแต่ละคน และดูเหมือนว่าเคนตะจะดูโดดเด่นที่สุด ทั้งด้านรูปร่างหน้าตา การแสดงความสามารถ จนในที่สุด เขาก็สามารถคว้าตำแหน่ง เดือนมหาวิทยาลัยมาครองได้สำเร็จตามที่ทุกคนคาดเอาไว้“เห็นไหมกูบอกแล้ว ว่ายังไงมึงก็ต้องได้”โอโซนเอ่ยชมเพื่อนของเขา พร้อมกับยิ้มออกมาอย่างชื่นชม
“ใช่!! เคนตะของพวกเรา หล่อที่สุดแล้วก็เก่งที่สุดเลย” ทิวาเอ่ยชมพร้อมกับชูนิ้วโป้งขึ้น2 นิ้ว เป็นการชื่นชม
การพูดคุยของพวกเขาทั้งสามดูจะออกรสออกชาติโดดเด่น โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของใครหลาย ๆคน และหนึ่งในนั้น คือ ไทม์อดีตเดือนมหาวิทยาลัยที่ตอนนี้เขาเรียนอยู่ปี 3ปีแล้วเพราะเขาเอาแต่จ้องไปที่ทิวาอย่างไม่วางตา เหมือนคนกำลังเจอของเล่นใหม่“ไอ้อาร์ม เด็กคนนั้นใครวะ มึงรู้จักไหม”ไทม์เอ่ยถามเพื่อนของเขาที่น่าอยู่ข้างๆ
“คนไหนวะ” อาร์มถามไทม์ออกมาด้วยความสงสัย
“ก็คนตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ หน้าตาน่ารักๆ ยิ้มสวย ๆ ที่ยืนคู่กันกับไอ้เคนตะ เดือนมหาลัยปีนี้ไง”ไทม์บอกกับเพื่อนทั้งที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่เป้าหมายของเขาอยู่ตาไม่กะพริบ
“กูก็ไม่รู้เหมือนกันหวะ แต่น่าจะเป็นเพื่อนของไอ้เคนตะนั่นแหละ ถ้ามึงอยากรู้ มึงก็ถามไอ้เคนตะเอาก็ได้นี่ ทำไมวะ มึงสนใจเหรอวะ”
“เออ น่ารักดีว่ะ” พูดจบไทม์ก็หันไปมองกลุ่มของทิวาอีกครั้งและมองทิวาด้วยสายตาที่หลงใหล
หลังจากการประกวดจบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทิวาก็เดินยิ้มออกมา กับเคนตะแล้วก็ โอโซน อย่างอารมณ์ดี ภาคินที่ก็ส่งข้อความมาบอกว่าเขาจอดรอนานแล้ว ให้รีบกลับคอนโดได้แล้ว ทิวาจึงร่ำลาเพื่อน ๆ ก่อนจะรีบเดินตรงดิ่งไปหาเจ้าของข้อความที่ส่งมาให้เขา ด้วยความเร่งรีบ“พี่คินไม่ได้ไปดูประกวดดาวเดือนเหรอ เคนตะหล่อมากเลยนะ แล้วก็เด่นมาก ๆด้วย สุดท้ายมันก็ได้เป็นเดือนมหาลัยจริงๆ เพื่อนวานี่สุดยอดเลยใช่ไหม”ทิวาเล่าเรื่องของเคนตะ เพื่อนรักของเขาพร้อมกับพูดชมออกมาด้วยความภาคภูมิใจในตัวเพื่อนของเขาเอามากๆ จนคนที่นั่งข้างๆ เริ่มมีอาการหงุดหงิด ที่อีกฝ่าย เอาแต่ชมคนอื่นต่อหน้าเขา
“กูดูแล้ว แล้วก็เห็นว่ามันได้รางวัลแล้ว กูก็เลยออกมาไง ใครจะไปให้ร่ำไรเหมือนมึง ประกวดจบตั้งนานแล้ว ยังโอ้เอ้ร่ำไรอยู่ได้”ภาคินบอกกับทิวาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยปนหงุดหงิดนิด ๆ
“ก็วาแสดงความยินดีกับเพื่อนวาอยู่ เพื่อนวาได้เป็นเดือนมหาวิทยาลัยทั้งที วาก็ต้องยินดีด้วยไหมล่ะ แต่เคนตะมันหล่อจริงๆนะ ขึ้นกล้องมาก ๆด้วย วายังถ่ายรูปกันมาเลย พี่คินดูสิ” ทิวายังเอ่ยชมเพื่อนไม่ขาดปาก พร้อมกับยื่นโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ที่ถ่ายรูปของเคนตะ ให้กับภาคินดู ภาคินเองก็เริ่มหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิม จึงปัดโทรศัพท์ ที่ทิวายื่นให้เขาออก แต่ด้วยความที่เขาไม่ทันระวัง ทำให้โทรศัพท์ ของทิวาหล่นตกพื้น ทิวาถึงกับหน้าเสีย เพราะคิดว่าเขาน่าจะโมโห เอามากๆ
“พี่คินโมโหอะไรวาขนาดนั้นเหรอ ทำไมต้องปัดมือถือของวาด้วย ไม่ชอบอะไรก็บอกสิ บอกกันดี ๆก็ได้ ไอ้พี่ขี้โมโห” ทิวาก้มเก็บโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ที่ตกอยู่ที่พื้นรถพร้อมกับบอกอีกฝ่ายด้วยความน้อยใจ ปนโมโห
ภาคินเอง ก็ไม่รู้ว่าจะขอโทษน้องยังไงเขาก็ได้แต่มองแต่พูดอะไรไม่ออก และการสนทนาก็จบเพียงแค่นั้น และไม่มีใครพูดอะไรอีกเลย ตลอดเส้นทาง ที่เขาขับรถกลับคอนโด เมื่อมาถึงคอนโดทิวาก็เดินปึงปังด้วยความโมโห เข้าห้องตัวเองปิดประตูเงียบ แม้แต่ข้าวเย็นก็ไม่ยอมออกมากิน ภาคินเองก็ได้แต่เดินวนไปวนมา ที่หน้าห้องนอนของอีกฝ่าย เพื่อจะเข้าไปขอโทษ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง เพราะเขาคิดว่าครั้งนี้เขาเองก็ผิด ที่ไปหงุดหงิดใส่ทิวาแบบนั้น ทั้ง ๆที่น้องไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ครั้งนี้น้องก็คงจะโกรธเขาจริง ๆ ก็คงต้องให้น้องอารมณ์เย็นกว่านี้ แล้วเขาค่อยขอโทษน้อง เพื่อให้น้องหายโกรธ เพราะวันนี้น้องคงไม่มีอารมณ์จะคุยกับเขาแน่ ๆ เมื่อคิดได้อย่างนั้นภาคินก็ได้แต่ถอนหายใจยาวเหยียดด้วยความเครียด ก่อนจะเดินเข้าห้องนอนของตัวเองไป**************************************************************************************************************
ช่วงเย็นของวันงานปาร์ตี้ที่จัดขึ้นภายในบ้านสวนของภาคินและทิวาก็เริ่มต้นขึ้น บรรยากาศเป็นไปอย่างกันเองน่ารักและอบอุ่น อาหารทั้งคาวหวาน ผลไม้และเครื่องดื่มมากมากมายถูกจัดเตรียมเอาไว้รองรับสำหรับทุกคน แต่ละแต่งกายกันมาในชุดสบาย ๆ เข้ามาร่วมในงาน ต่างพากันดื่มกินร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนาน ภาคินก็ยังคอยบริการหยิบนั่นตักนี่ให้ทิวาไม่ขาดตกบกพร่อง จนเพื่อน ๆต่างพากันเอ่ยปากแซวว่าเป็นคนคลั่งรัก และกลัเมีย แต่ภาคินก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะเขาเองก็รู้สึกว่าตัวเองก็เป็นคลั่งรักอย่างที่เพื่อนเขาแซวจริง ๆ หลังจากที่ปาร์ตี้ผ่านไปได้สักพักก็เริ่มจะดึกแล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสี่ท่านจึงขอตัวเข้าไปพักผ่อนส่วนวัยรุ่นที่เหลือก็ยังคงปาร์ตี้กันต่อ และวันนี้พวกเขาทั้งหมดก็ตกลงกันว่าจะกางเต็นท์นอนข้างนอกด้วยกันทั้งหมด เพื่อเก็บเกี่ยวบรรยากาศและรับอากาศที่บริสุทธิ์ด้วยกัน บรรยากาศท้องทุ่งและต้นไม้ที่เขียวขจีพร้อมกับกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้ในยามราตรี สร้างความสงบภายในจิตใจพร้อมด้วยกลิ่นอายของความสดชื่นจากธรรมชาติ ยิ่งทำให้พวกเขาที่เหนื่อยจากงานปาร์ตี้แล้วพากันมานั่งพักที่มุม ๆหนึ่งของสวนถึงกับพากันหายใจสูดเอากลิ่นอ
ช่วงนี้อยู่ในช่วงปิดเทอมทุกคนต่างก็แยกย้ายกลับบ้านของตัวเองเพื่อกลับไปอยู่กับครอบครัวตัวเอง รวมถึงภาคินและทิวาด้วย เพราะตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ก็เดินทางกลับมาถึงบ้านของพวกเขาเองเรียบร้อยแล้ว ทั้ง2ครอบครัวกำลังช่วยกันจัดสถานที่และเตรียมอาหารและเครื่องดื่มไว้สำหรับเลี้ยงฉลองสำหรับคืนนี้ เพราะงานเลี้ยงวันนี้บรรดาเพื่อน ๆของทิวาและภาคินจะเดินทางมาร่วมในงานครั้งนี้ด้วย “อ้าว!!!น้องวาตื่นแล้วเหรอลูก เดินทางมาเหนื่อย ๆ กว่าจะมาถึงก็ดึก ทำไมไม่นอนต่ออีกสักหน่อยหล่ะลูก” แม่จูนแม่ของทิวาเอ่ยท้วงลูกชายเพียงคนเดียวของเธอขึ้นเมื่อเธอหันไปเจอทิวาที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยและเดินลงมาจากข้างบนบ้านมาหาเธอ “มันชินครับแม่ อีพี่คินปลุกวาตื่นแต่เช้าไปเรียนทุกวัน จนร่างกายเริ่มปรับตัวเป็นแบบนั้นไปแล้ว แล้วอีกอย่างวาก็อยากตื่นมาอยู่กับพ่อกับแม่ด้วยไงครับ” ทิวาบอกกับแม่ของเขา พร้อมกับเดินเข้าไปกอดด้วยท่าทีออดอ้อน “ขี้อ้อนตลอดเลยนะเราเนี่ย หิวไหมลูก แม่ทำของโปรดของน้องวาไว้ให้อยู่ในครัว ไปกินสิลูก” แม่จูนบอกกับลูกชายสุดที่รักเพียงคนเดียวของเธอด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่อ่อนโยน “คุณแม่ใจดีแล้วก็น่ารักกับวาตลอดเลย
ตอนนี้เคนตะเอาแต่เดินวนไปวนมาอยู่ภายในคอนโดของดีนคนรักของเขา เพราะเขากำลังเครียดและคิดไม่ตก เนื่องจากเรื่องที่เขากำลังแอบคบหาดูใจกันกับดีน ถูกมือดีถ่ายภาพเอาไว้ได้ จนตอนนี้กลายเป็นข้าวใหญ่โต ทำให้ดีนเองต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเป็นวงกว้าง “
หลังจากที่นทีและไรวินขับรถออกไปแล้ว ทิวาก็เอาของที่เขาถือมาไปเก็บที่ท้ายรถ ก่อนจะเดินอ้อมมาเพื่อตั้งท่าจะขึ้นรถของภาคินด้านคนขับ เพื่อสตาร์ทรถเปิดแอร์รอภาคินที่กำลังคุยธุระกับโค้ชโจ้อยู่ แต่ยังไม่ทันที่ทิวาจะได้ขึ้นไปนั่งบนรถไทม์ก็เดินตรงดิ่งมาหาทิวาพร้อมกับดึงที่ข้อมือของทิวาเอาไว้ จนทิวาเองเซถลาจนเกือบจะล้ม
ตอนนี้ภาคิน ได้ขึ้นเป็นนักศึกษาปี4 และทิวาก็ขยับมาเป็นนักศึกษาปี 2
นับตั้งแต่วันที่ภาคินได้ตัดสินใจบอกเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับทิวาให้ผู้ใหญ่ได้รับรู้และพวกท่านก็อนุญาตให้พวกเขาคบกัน ภาคินก็ย้ายตัวเองไปนอนห้องเดียวกับทิวาทุกคืน และแน่นอนว่าในบางคืนพวกเขา