ตอนที่ 3
ให้น้องไปแล้ว
"ขอโทษครับ เจ็บรึเปล่า"
"ฉันซุ่มซ่ามเองค่ะ ขอโทษค่ะ"
ชายหนุ่มก้มลงเก็บใบสมัครงานขึ้นมาแล้วยื่นให้ จากนั้นผายมือไปยังโต๊ะเก้าอี้ที่ประชาสัมพันธ์บอกเมื่อครู่
"นั่งเขียนใบสมัครตรงนั้นครับ"
"คือว่า เอ่อ...ฉัน"
ฉันกำลังจะเผ่นหนีต่างหากเล่า!
"ไม่สบายรึเปล่าครับ หน้าคุณดูแดงผิดปกติ ให้ผมเรียกรถพยาบาลให้มั้ย"
รูปหล่ออย่าเวอร์ไป แค่ปัดบรัชออนหนักมือไปหน่อยก็เท่านั้น
ไม่ใช่แค่หน้าหรอกที่แดง แต่ขอบตายังดูปูดเพราะเทคนิคการแต่งหน้าแบบเปิดหางตาของจิดาพา เปิดกว้างจนลูกกะตาจะไหลออกจากเบ้าแล้วเนี่ย
"ไม่ค่ะ ฉันโอเคดีมาก เอ่อ...จะไปเขียนใบสมัคร"
เบญญารีบบอกปัดไปทันที แต่พอหันหลังให้เขาแล้วเสียงทุ้มๆ ของใครคนหนึ่งดังแว่วเข้าหู
"คุณศิวะครับ อีกครึ่งชั่วโมงเข้าประชุมครับ"
คุณศิวะ!
หญิงสาวหูผึ่งหันขวับกลับไปมองทันที คนที่เดินชนเมื่อครู่คือคุณสามี อะไรจะซวยซ้ำซวยซ้อนได้ขนาดนี้วะ ตั้งใจจะมาแสดงตัวว่าเป็นเมียเขา แต่เขาดันรู้จักเธอในนามของผู้มาสมัครงาน! แล้วที่ย่ำแย่ไปกว่าคือหนังหน้าตอนนี้มันไม่สมควรเปิดเผยตัวตนด้วยไง
คนทั้งบริษัทจะได้รู้ว่าเมียท่านประธานกำลังจะไปเล่นงิ้วอย่างงี้เหรอ แค่คิดก็จะบ้า!
ศิวะยังไม่ละสายตาจากเบญญา เธอจึงจำใจต้องหย่อนก้นลงที่เก้าอี้แล้วก้มหน้าเขียนใบสมัครแบบขอไปที มีช่องว่างตรงไหนให้ติ๊กก็ติ๊กมั่วๆ บริษัทรับสมัครงานตำแหน่งอะไรเบญญาไม่รู้หรอก พอเขียนเสร็จก็นำไปยื่นคืนให้เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์แล้วเผ่นแนบ
เมื่อกลับมาถึงบ้านเบญญาเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนฟัง แรกๆ จิดาพาก็ถามด้วยความเป็นห่วง แต่พอฟังไปฟังมากลับหลุดขำก๊ากออกมาดังลั่น ส่วนเบญญานั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดคิดไม่ตกว่าจะเอายังไงดี
"ช่วยคิดสิ หรือว่าพรุ่งนี้ฉันจะไปแสดงตัวว่าเป็นเมียเขาใหม่อีกรอบ"
"ไม่ดีละมั้ง ตกลงแกได้เขียนใบสมัครจริงปะ"
"เขียนจริงดิ ก็ตอนนั้นมันประหม่าจนทำอะไรไม่ถูกนี่หว่า เขาก็จ้องฉันอยู่"
"เอางี้ ถ้าถูกเรียกเข้าทำงานแกก็เดินหน้าจีบคุณศิวะไปเลยสิ จะได้อยู่ใกล้เขามากขึ้น พอเขาตกหลุมรักแกปุ๊บแกก็ค่อยบอกความจริงว่าเป็นเมียเขาไง แบบนี้แฮปปี้จะตายไป"
"นี่คิดดีแล้ว?"
"เออน่า ลองดูสักตั้ง ไปทำให้เขาตกหลุมรักนะ ห้ามไปตกหลุมรักเขาซะเองนะเว้ย เผื่อแผนพังก็อย่าให้ใจพังไปด้วย"
เบญญามั่นใจว่าไม่มีทางแน่นอน เธอไม่ได้รักคนง่ายดายขนาดนั้น ขอเพียงได้ถ่วงเวลาเซ็นใบหย่าสักสองปีเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง
จิดาพาอยู่คุยต่อไม่นานสามีก็โทรตามให้กลับ หลังจากกินมื้อเย็นแล้วเบญญาขึ้นมานอนเอนหลังอยู่บนเตียง กำลังนอนนึกถึงหน้าสามีที่เพิ่งเคยเจอตัวเป็นๆ ครั้งแรก ความจริงศิวะก็รูปหล่อไม่เบา ดีงามไม่หมดทุกส่วน แถมยังสุภาพอ่อนโยนต่างจากที่คิดเอาไว้ ถ้าเธอเปิดใจคุยกับเขาด้วยเหตุผลเขาก็อาจจะเข้าใจได้
แต่จะเอาเหตุผลอะไรไปคุยล่ะ!
ให้บอกว่าที่ฉันไม่ยอมหย่าเพราะต้องการเงินของคุณอย่างนั้นเหรอ หรือบอกไปว่าจะไม่หย่าให้เด็ดขาดเพราะยังกอบโกยเงินไม่มากพอ ไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ฟังไม่ขึ้นทั้งนั้น
เบญญาถีบเท้าเร้าๆ อยู่บนเตียง ชกกำปั้นลงกับหมอนดังตุบๆ เวลาอะไรๆ ไม่ได้ดั่งใจนี่น่าโมโห ยิ่งคิดก็ยิ่งท้อ แต่นึกขึ้นได้ว่าตัวเองก็ยังไม่สิ้นไร้ไม้ตอกซะทีเดียว ปีที่แล้วเคยส่งเงินที่คุณย่าสิตางค์ให้เป็นของขวัญวันเกิดไปที่บ้าน แล้วบอกให้แม่ไปซื้อที่ดินไว้หนึ่งแปลง หากเอาไปขายก็คงจะพอเอามาประทังชีวิตระหว่างหางานใหม่
คิดได้แบบนั้นเบญญาจึงรีบหยิบโทรศัพท์โทร. ออก รอสายไม่นานผู้เป็นแม่ก็กดรับ เบญญาฉีกยิ้มกว้าง ประกายความหวังพุ่งถึงขีดสุด
"ฮัลโหล"
"แม่ แม่นอนยัง"
"ยัง โทรมาดึกป่านนี้มีอะไร"
"แม่ ตอนนี้เบลกำลังมีปัญหา เงินที่เคยโอนให้แม่เมื่อกลางปีที่แล้วแม่ได้เอาไปซื้อที่ดินให้เบลมั้ย"
จู่ๆ ปลายสายก็เงียบไป ทำให้เบญญาเริ่มใจไม่ดี
"แม่ ตกลงแม่ได้ซื้อที่ดินไว้ให้เบลอยู่ใช่มั้ย"
"ซื้อ"
ได้ยินดังนั้นหญิงสาวเริ่มยิ้มออก ทว่าประโยคต่อมากลับทำให้น้ำตาตกใน
"เบล...ที่ดินตรงนั้นแม่โอนให้น้องไปแล้วนะ แกก็มีผัวรวยหาซื้อเอาใหม่ไม่ได้เหรอ"
ได้ไง! นั่นมันเงินของเธอเองแท้ๆ แต่แม่ซื้อที่ดินแล้วโอนเป็นชื่อน้องชาย แถมในระหว่างหลายปีที่ผ่านมาเบญญายังส่งเงินไปให้ทางบ้านส่งน้องเรียนจนจบ เธออยากขอถามจริงๆ ว่าแม่ทำได้ยังไง
สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าไม่เหลืออะไรเลย เบญญาจุกอกจนพูดไม่ออก ค่อยๆ เลื่อนมือถือออกห่างจากใบหู ได้ยินเสียงแม่เรียกชื่อเธอซ้ำๆ ดังแววมาในสาย สักพักสายก็ถูกตัดไป
หัวใจของเบญญาหนักอึ้ง เงินที่คุณย่าสิตางค์ให้มาในตอนนั้นหวังว่าจะเอาไปซื้ออะไรเป็นชิ้นเป็นอันเก็บไว้บ้าง เอาเข้าจริงกลับไม่มีอะไรเหลือมาถึงตัวเองสักอย่าง เป็นแบบนี้แล้วยังจะมีทางใดให้เลือกอีก นอกจากเดินหน้าถ่วงเวลาหย่าให้ยืดเยื้อออกไปก่อน อย่างน้อยๆ ถ้ายังไม่หย่าศิวะก็ยังคงจ่ายเงินเดือนเดือนละห้าหมื่นให้ทุกเดือน
ตอนที่ 6ไม่ได้แอบนะคะ"สนุกมากมั้ยครับแอบดูคนอื่นแบบนี้""ไม่ได้แอบนะคะ""ก็เห็นอยู่ว่าแอบหลังเสามองนานแล้ว""คุณศิวะพูดเกินไป๊"เบญญาลากเสียงสูงแล้วตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะแหะๆ คนกำลังเดินอยู่ดีๆ ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆ จะมีซิทคอมให้ดู แล้วนี่เขาไม่ต้องรีบเข้าไปเคลียร์งานหรือยังไง ถึงมีเวลามาถามคำถามจับผิดแม่บ้านอยู่ได้"แล้วนี่มันเวลาอะไรแล้วครับ ทำไมถึงได้ยืนแทะไก่ย่างอยู่อีก ไม่ต้องทำงานแล้วเหรอ" ถามได้ใจตรงกันเป๊ะ"อุ้ย! ทำสิคะ จะรีบไปทำงานเดี๋ยวนี้ค่ะ""เดี๋ยวครับ"เบญญาหันกลับมาโปรยยิ้มหวาน"ตอนเข้าไปทำความสะอาดห้องของผม ไม่ต้องไปหยิบจับอะไรบนโต๊ะย้ายไปย้ายมา ผมไม่ชอบ"ถึงแม้จะหน้าชานิดหน่อยแต่เบญญาก็ยังยิ้มได้อยู่ ที่เขาไม่ชอบคงไม่ใช่แค่เรื่องงานแต่ไม่ชอบขี้หน้าเธอเสียมากกว่า"เข้าใจแล้วค่ะ ต่อไปเบลจะไม่หยิบจับอะไรบนโต๊ะทำงานของคุณศิวะอีก"ชายหนุ่มพ
ตอนที่ 5อ่อยเธอเช็ดกระจกวนไปวนมาหลายรอบ หากกระจกพูดได้มันคงตะโกนบอกว่า 'หล่อนเช็ดจนฉันถลอกหมดแล้วสาว!'ศิวะเงยหน้าขึ้นเมื่ออ่านเอกสารหน้าสุดท้ายจบ เห็นว่าหญิงสาวกำลังยืนจ้องเขาเขม็ง จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย"มีอะไรรึเปล่าครับคุณแม่บ้านคนใหม่""เอ่อ เปล่าค่ะ เรียกเบลก็ได้ค่ะ เอาซะเต็มยศเลย""งั้นก็ฝากคุณเบลเก็บแก้วกาแฟให้ด้วยนะครับ อีกสิบนาทีจะมีทีมงานใช้ห้องนี้เป็นที่ประชุม""รับทราบค่ะ"เร็วเท่าความคิด ทันทีที่ศิวะลุกขึ้นยืนเตรียมตัวเดินออกจากห้อง เบญญาก็แสร้งสะดุดล้มพุ่งตัวไปทางเขา ชนิดที่ว่ากะระยะไว้อย่างแม่นยำ ทว่าหลังจากนั้นก็...โครม!ศิวะเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว ร่างเล็กล้มลงไปกองกับพื้นแบบไม่ใช้ตัวแสดงแทน ตามมาด้วยเสียงร้องโอดโอย เขาถอยหลังออกไปสองสามก้าว หลุบตามองคนที่นอนกองอยู่บนพื้นแล้วถามเสียงเย็นชา"เจ็บไหมครับ"ขอบคุณที่ยังอุตส่าห์ถามไถ่ ฉันควรจะดีใจถูกต้องมั้ย"ยังไงก็อย่าลืมเก็บแก้วกาแฟให้ด้วยนะครับ"เป็นไงละทีนี้ หน้าแตกหมอไม่รับเย็บ นอกจากไม่ได้อะไรจากเหตุการณ์นี้ยังเจ็บตัวอีกต่างหาก เธอมองแผ่นหลังที่เดินห่างออกจากประตูแล้วคิดในใจ เมื่อวานนี้เขาก็ดูเหมือนคนดีมีน้ำใจ
ตอนที่ 4แน่ใจเช้าวันรุ่งขึ้นเบญญาถูกปลุกให้ตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ร้องครวญ ตอนแรกนึกว่าแก๊งคอลเซนเตอร์ปอยเปตโทรมา Goodmorning ที่ไหนได้เป็นนัดเรียกสัมภาษณ์งาน เบญญาดีดตัวลุกจากที่นอนทั้งที่ยังซึมกะทือ พอตั้งสติได้ก็รีบวิ่งแจ่นเข้าไปอาบน้ำแต่งตัววันนี้เธอสวมใส่ชุดที่เรียบร้อยหน่อย แต่งหน้าเบาๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าเมื่อวาน เพราะรู้แล้วว่าแต่งหน้าแนวโต่วอินมันเอามาใช้ในชีวิตจริงไม่ได้หลังจากทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็เรียกรถรับจ้างมารับ ที่ไม่ได้ให้คนขับรถไปส่งเพราะกลัวว่าสามีจะเห็นเข้าแล้วสงสัย เบญญาถูกพาตัวเข้าไปในห้องสัมภาษณ์งาน ภายในห้องอุณหภูมิเย็นเฉียบมีพนักงานฝ่ายบุคคลนั่งรออยู่ก่อนแล้ว"สวัสดีค่ะ ฉันเบญญา สว่างไสวค่ะ""สวัสดีค่ะ ดิฉันเห็นใบสมัครของคุณแล้ว แน่ใจใช่มั้ยคะว่าจะทำตำแหน่งนั้นจริงๆ"จากประวัติการศึกษาที่เขียนมาในใบสมัคร ทำให้พนักงานฝ่ายบุคคลต้องถามย้ำอีกรอบ "แน่ใจค่ะ"เบญญายิ้มแห้งๆ แล้วพยักหน้า อยากสารภาพไปตามตรงว่าเมื่อวานติ๊กตำแหน่งมั่วๆ ไม่ได้ดูอะไรเลย เผลอสมัครตำแหน่งอะไรจำไม่ได้หรอก แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยก็ยังได้ทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกับคุณศิวะ"ฉันผ่านก
ตอนที่ 3ให้น้องไปแล้ว"ขอโทษครับ เจ็บรึเปล่า""ฉันซุ่มซ่ามเองค่ะ ขอโทษค่ะ"ชายหนุ่มก้มลงเก็บใบสมัครงานขึ้นมาแล้วยื่นให้ จากนั้นผายมือไปยังโต๊ะเก้าอี้ที่ประชาสัมพันธ์บอกเมื่อครู่"นั่งเขียนใบสมัครตรงนั้นครับ""คือว่า เอ่อ...ฉัน"ฉันกำลังจะเผ่นหนีต่างหากเล่า!"ไม่สบายรึเปล่าครับ หน้าคุณดูแดงผิดปกติ ให้ผมเรียกรถพยาบาลให้มั้ย"รูปหล่ออย่าเวอร์ไป แค่ปัดบรัชออนหนักมือไปหน่อยก็เท่านั้นไม่ใช่แค่หน้าหรอกที่แดง แต่ขอบตายังดูปูดเพราะเทคนิคการแต่งหน้าแบบเปิดหางตาของจิดาพา เปิดกว้างจนลูกกะตาจะไหลออกจากเบ้าแล้วเนี่ย"ไม่ค่ะ ฉันโอเคดีมาก เอ่อ...จะไปเขียนใบสมัคร"เบญญารีบบอกปัดไปทันที แต่พอหันหลังให้เขาแล้วเสียงทุ้มๆ ของใครคนหนึ่งดังแว่วเข้าหู"คุณศิวะครับ อีกครึ่งชั่วโมงเข้าประชุมครับ"คุณศิวะ!หญิงสาวหูผึ่งหันขวับกลับไปมองทันที คนที่เดินชนเมื่อครู่คือคุณสามี อะไรจะซวยซ้ำซวยซ้อนได้ขนาดนี้วะ ตั้งใจจะมาแสดงตัวว่าเป็นเมียเขา แต่เขาดันรู้จักเธอในนามของผู้มาสมัครงาน! แล้วที่ย่ำแย่ไปกว่าคือหนังหน้าตอนนี้มันไม่สมควรเปิดเผยตัวตนด้วยไง คนทั้งบริษัทจะได้รู้ว่าเมียท่านประธานกำลังจะไปเล่นงิ้วอย่างงี้เหรอ
ตอนที่ 2เข้าหาเขาเอง"ตอนนี้ถ่วงเวลาไปได้ แต่อีกสักพักคุณศิวะต้องให้คนมาไล่จี้แน่ ดาวฉันไม่พร้อมหย่าตอนนี้"จิดาพาช่วยเพื่อนคิด พอคิดออกแล้วก็เผยรอยยิ้มร้าย"ถ้าไม่อยากหย่าก็ทำให้สามีในนามเป็นสามีจริงๆ ซะเลยสิ""จะบ้า แค่หน้าเขาฉันยังไม่เคยเห็น เขาจะมาพิศวาสฉันได้ยังไง""แล้วทำไมแกไม่เข้าหาเขาเองละ บริษัทในเครือนิลปกรณ์ที่เขาทำงานอยู่แกก็รู้จักไม่ใช่เหรอ"หลังจากจิดาพากลับไปแล้ว เบญญาขนบรรดาสมุดบัญชีธนาคารทั้งหลายแหล่มาเปิดออกดู เผื่อว่าก่อนหน้านั้นตัวเองจะมีหัวคิดดีๆ โอนเงินไปเก็บไว้สักก้อน แต่สิ่งที่ได้เจอหลังจากเปิดหน้าสมุดคือยอดค้างในบัญชีละสิบบาทยี่สิบบาทหรือว่าจะต้องไปตามจีบสามีตัวเองจริงๆ ?หญิงสาวมองตัวเองผ่านกระจกเงา หันซ้ายทีขวาทียิ้มบ้างทำหน้าบูดบึ้งบ้าง สะบัดผมที่ยุ่งเหยิงแล้วใช้มือสางอย่างลวกๆ จากนั้นใช้ปลายนิ้วชี้กดมุมปากฝืนยิ้มแล้วพึมพำคนเดียว"สองปี ขอแค่สองปีเท่านั้น จะคิดใหม่ทำใหม่ขยันเก็บเงิน พอถึงตอนนั้นคุณศิวะอยากหย่าก็จะไม่ว่าเลยสักคำ สวยๆ แบบนี้มันก็ต้องหลอกล่อผู้ชายให้หลงเสน่ห์ได้บ้างแหละ งั้นพรุ่งนี้เช้าก็อาบน้ำทาแป้งดีๆ แล้วไปหาเขาที่บริษัท"เช้าวันรุ่งขึ้น
ตอนที่ 1ผัวชื่ออะไร"แล้วทำไมคุณย่าสิตางค์ถึงได้เอ็นดูแกขนาดนั้น"หลังจากฟังเบญญาเม้าท์มอยเรื่องในอดีตเมื่อสามปีที่แล้ว จิดาพาถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ก็นับตั้งแต่เบญญาช่วยเหลือคุณย่าสิตางค์จากอุบัติเหตุเมื่อสามปีก่อน จากชีวิตเด็กกะโปโลที่ฐานะทางบ้านยากจนก็เปลี่ยนไปจะว่าไปเวลาคนเราดวงเฮงอะไรก็ฉุดไม่อยู่ อีกอย่างตอนนั้นเบญญากำลังอยากสลัดอันธพาลแถวบ้านที่มาไล่ตามตื๊อ ก็เลยเลือกหนีปัญหาด้วยการแต่งงานมันซะเลย พอได้เป็นสะใภ้นิลปกรณ์ใครๆ ก็ไม่กล้าแตะต้อง อย่าว่าแต่หาเรื่องตามจีบเลย แค่ย่างกายเข้ามาใกล้เกินห้าเมตรก็ไม่กล้าสามปีที่แล้วเบญญาเป็นเด็กจบใหม่ที่เดินหางานจนส้นรองเท้าสึก วันหนึ่งขณะที่เธอเดินอยู่ริมฟุตบาท เห็นหญิงอายุราวหกเจ็ดสิบต้นๆ กำลังข้ามถนน ตอนนั้นมีรถยนต์แล่นฝ่าไฟแดงมาอย่างรวดเร็ว เธอจึงพุ่งตัวเข้าไปช่วยเหลือหญิงชราอย่างไม่คิดชีวิตปาฏิหาริย์ทำให้ทั้งคู่รอดตายหวุดหวิด เหตุการณ์นั้นส่งผลให้คุณย่าสิตางค์รักใคร่เอ็นดูเบญญาสุดๆ ถึงขั้นบังคับหลานชายหัวแก้วหัวแหวนรับเบญญาเป็นเมีย ส่วนเบญญาก็ได้มีผัวรวยมาแบบงงๆแต่ถึงอย่างนั้นศิวะก็ไม่ใช่คนหัวอ่อนยอมทำตามทุกเรื่อง เขายื่นข้อเ