“ไม่เอาอย่าพูดแบบนี้สิพวกเธอ เดี๋ยวฟ้าก็เสียใจแย่พอดี”
“อ้อ พวกเราลืมไปว่าห้ามพูดความจริงกับฟ้าว่าถูกลากไปข่มขืน เดี๋ยวฟ้าจะเครียด”
ฟ้าลดากำมือแน่น มองหน้าเพื่อนทุกคนอย่างซึ้งในน้ำใจเลวๆ เป็นที่สุด
“ขอบใจนะที่มาเยี่ยม แต่กลับไปเถอะ ฉันจะพักผ่อน”
“คงเพลียที่ถูกข่มขืนล่ะมั้ง”
“อร ทำไมพูดกับฉันแบบนี้ ฉันไม่ได้ถูกข่มขืน ตำรวจบอกว่าไปช่วยฉันเอาไว้ได้ทัน” หล่อนแย้งอย่างสุดจะควบคุมอารมณ์ตัวเอง
“ใครจะบอกความจริงเธอล่ะ แต่เอาเถอะ ถ้าคิดแบบนี้แล้วสบายใจก็ตามใจ”
“อร!”
“แหม ไม่เห็นต้องทำหน้าตาโกรธแบบนี้เลย นี่พวกฉันไม่ได้พูดเองสักหน่อย แต่ข่าวของเธอในโทรทัศน์น่ะมันออกแบบนี้จริงๆ” อรอุมายิ้มน้อยๆ “ว่าลูกสาวมหาเศรษฐีใหญ่ถูกแท็กซี่ข่มขืนในรถ”
“ก็บอกแล้วไงว่ามันยังไม่ได้ข่มขืนฉัน!”
เพื่อนของหล่อนหัวเราะชอบใจกับท่าทางโกรธเคืองของหล่อน
“เอาเป็นว่าพวกเรากลับก่อนนะ แล้วยังไงถ้าอยากไปเที่ยวก็โทรมาแล้วกัน ไปล่ะ”
“ไปเลย ฉันจะพักผ่อน”
แล้วฟ้าลดาก็พลิกตัวหันหลังให้ น้ำตาไหลออกมาอาบแก้มเมื่อเพื่อนที่เคยคิดว่าพึ่งพาได้ตอนนี้กลับหัวเราะเยาะหล่อน
‘เพื่อนพวกนั้นน่ะก็แค่เพื่อนกินเพื่อนเที่ยว แต่ไม่มีคนไหนหรอกที่เป็นเพื่อนแท้ของแก ยายฟ้า ลองแกไม่มีเงินดูสิ พวกนั้นจะมาคบค้ากับคนเอาแต่ใจแบบแกไหม’
คำของพ่อที่เคยพูดเตือนสติย้อนกลับมาดังก้องอยู่ในหัวอีกครั้ง หรือมันจะเป็นอย่างที่พ่อพูดจริงๆ ไม่มีใครเป็นเพื่อนแท้ของหล่อนเลยสักคน
หล่อนร้องไห้ น้ำตาไหลพรากออกมา ทำไมนะ ตอนนี้ถึงได้รู้สึกโดดเดี่ยวเหลือเกิน
หนังสือพิมพ์ฉบับที่ห้าของวันนี้ถูกหล่อนฉีกทิ้งจนกลายเป็นแค่เศษกระดาษ เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้น หล่อนก็ไม่เคยออกจากบ้านอีกเลย เพราะเดินทางไปไหน ก็มีสายตาของคนอื่นมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นไปหมด เขานั่นคงอยากจะถามหล่อนว่าถูกข่มขืนจริงไหม
ทำไมชีวิตที่กำลังสวยหรูของหล่อนจะต้องมาพบเจออะไรแบบนี้ด้วย
“ฉันไม่ได้ถูกข่มขืนสักหน่อย ทำไมจะต้องลงข่าวเท็จแบบนี้ด้วย”
หล่อนพูดออกมาอย่างหงุดหงิดระคนเสียใจ “แววเอาหนังสือพิมพ์พวกนี้ไปเผาทิ้งให้หมดเลย”
“ค่ะ คุณหนู”
สาวใช้รับคำสั่งและรีบจัดการหอบเศษกระดาษหนังสือพิมพ์ออกไปเผาทันที
ปฐพีเดินเข้ามาในห้องของลูกสาว มองด้วยความสงสารจับใจ
“ฟ้า...”
“คุณพ่อ”
คนเป็นพ่อเดินไปหยุดข้างเตียงที่ลูกสาวนั่งอยู่
“พ่อให้เลขาฯ โทรไปจัดการกับหนังสือพิมพ์พวกนั้นแล้ว พรุ่งนี้ก็จะไม่มีข่าวพวกนั้นมากวนใจฟ้าของพ่ออีก”
หล่อนยิ้มเศร้าๆ “ถึงหนังสือพิมพ์ไม่ลง แต่ข่าวในอินเตอร์เน็ตก็ยังมีอยู่ และควบคุมได้ยากมาก ฟ้าอายค่ะคุณพ่อ”
“อย่าไปสนใจเลย เพราะลูกสาวของพ่อไม่ได้ถูกข่มขืนอย่างที่ข่าวลงสักหน่อย”
“แต่คนอื่นเข้าใจผิดไปหมดแล้ว ฟ้าไม่กล้าสู้หน้าคน ไม่กล้าออกไปไหน ฟ้าจะเป็นบ้าอยู่แล้ว”
ในที่สุดก็ร้องไห้โฮออกมา ปฐพีดึงลูกสาวเข้ามากอดแนบอก
“งั้นหลบไปภูเรือสักพักนะฟ้า เพื่อนของพ่อทำไร่องุ่นอยู่ที่นั่น”
“แต่ฟ้าไม่อยากไปจากกรุงเทพฯ ฟ้าไม่อยากไปอยู่ที่ในกันดาร”
“ก็ไปอยู่ที่นั่นจนกว่าข่าวของฟ้าจะจางลง หรือรอจนกว่าพ่อจะสามารถปิดข่าวได้หมด แล้วฟ้าค่อยกลับมาก็ได้นี่”
“แต่...”
ภูเรือเหรอ...
ไร่องุ่นเหรอ...
นี่หล่อนยังนึกภาพไม่ออกเลยว่าที่ที่บิดาพูดถึงมันมีรูปร่างหน้าตาเป็นยังไง
“เชื่อพ่อเถอะ แล้วฟ้าจะมีความสุขขึ้น”
หล่อนจะมีความสุขขึ้นได้ยังไง ในเมื่อหล่อนติดสบายจนเคยตัวแบบนี้
“งั้นคุณพ่อต้องรับปากกับฟ้านะคะว่าคนที่นั่นจะต้องเอาใจฟ้า จะต้องทำตามที่ฟ้าต้องการ”
ปฐพีระบายยิ้มน้อยๆ แต่ภายในรอยยิ้มนั้นกลับมีบางอย่างซ่อนเอาไว้
“ทุกคนที่นั่นใจดี และฟ้าจะมีความสุข”
หล่อนยกมือขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง และทำหน้าเหมือนกับยังไม่เชื่อคำพูดของบิดาสักเท่าไหร่
“งั้นฟ้าขอพาแววไปด้วยได้ไหมคะ เผื่อที่นั่นไม่มีคนรับใช้”
“ไม่ได้หรอก ไปคนเดียวน่ะสะดวกแล้ว”
“แล้วฟ้าจะใช้ใครล่ะคะ”
พ่อของหล่อนระบายยิ้มอีกครั้ง “เดี๋ยวไปถึง ฟ้าก็จะรู้เองนั่นแหละว่าควรจะใช้ใครดี”
“แล้วคุณพ่ออมยิ้มทำไมคะ มีแผนอะไรหรือเปล่า”
ปฐพีส่ายหน้าน้อยๆ “ไม่มีอะไรหรอก พ่อก็แค่ดีใจที่ฟ้าจะได้ไปภูเรือน่ะ”
แม้หล่อนจะไม่อยากไปนัก แต่กระนั้นก็ไม่มีทางเลือกอื่นใดอีก
“ก็ได้ค่ะ แต่คุณพ่อต้องรับปากกับฟ้านะคะว่าจะจัดการเรื่องข่าวให้เร็วที่สุด”
“อืม พ่อรับปาก”
หล่อนพอยิ้มออกมาได้บ้าง “แล้วคุณพ่อจะให้ฟ้าไปเมื่อไหร่คะ”
“พรุ่งนี้”
“พรุ่งนี้?!”
หล่อนอุทานเสียงดังลั่น ดวงตากลมโตเบิกกว้างจนลูกกะตาแทบจะถลนออกมา
“ใช่ พรุ่งนี้”
“ทำไมเร็วนักล่ะคะ ฟ้ายังไม่ได้เตรียมตัวเลย ยังไงก็ต้องมีเวลาให้ฟ้าจัดกระเป๋าสักสองสามวัน”
ปฐพีส่ายหน้าน้อยๆ
“ทำไมใช้เวลาจัดกระเป๋านานนักล่ะฟ้า ปกติครึ่งชั่วโมงก็พอแล้วนี่”
“แหม คุณพ่อไม่รู้อะไร ฟ้าต้องเอากระเป๋าไปหลายใบ แถมยังต้องคัดชุดสวย และเครื่องสำอางสำหรับการไปอยู่ในที่ชนบทแบบนั้นอีก แล้วแบบนี้จะไม่ให้ใช้เวลานานได้ยังไงกันล่ะคะ”
“เอาไปแค่ใบเดียวก็พอยายฟ้า”
ตอนที่ 57. ตอนอวสาน“ใครจะกล้าไปสารภาพรักกับคุณหนูขาวีนอย่างคุณกันล่ะ มีหวังถูกหัวเราะเยาะตายกันพอดี”หล่อนกับเขาสบตากัน และหล่อนก็ได้เห็นประกายความรักจากดวงตมคมกริบของเขาชัดเจน หัวใจของหล่อนฟูฟ่อง แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้“ถ้าฉันนิสัยไม่ดีขนาดนั้น ก็อย่ามายุ่งสิ ปล่อยฉันไปตามทางของฉัน”“ใครจะปล่อยเมียตัวเองไปได้ล่ะ ไม่มีวันเสียล่ะ ผมรักของผม”“แต่ฉันนิสัยไม่ดีนะ แถมยังชอบใส่จีสตริงด้วย”เขาหัวเราะร่วน ก้มลงจูบแก้มนวลอย่างแสนรัก“ใส่เฉพาะในห้องนอน ตอนอยู่กับผมบนเตียงน่ะไม่ว่าหรอก แต่ห้ามใส่ไปเดินอวดผู้ชายคนอื่น เพราะผมหึงคุณมาก เข้าใจไหม”หล่อนยังคงมึนงง และไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน“นาย... ไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม เรื่อง... ที่บอกว่ารักฉันน่ะ”ศีรษะทุยส่ายน้อยๆ ก่อนจะระบายยิ้มหวานฉ่ำให้กับหล่อน“เรื่องแบบนี้ใครเขาเอามาล้อเล่นหรือโกหกกันล่ะ ผมรักคุณจนแทบจะล้นออกมาจากอกอยู่แล้ว รักทั้งๆ ที่คิดเสมอว่าคุณเป็นผู้หญิงรักสนุก”“อีตาบ้า ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย”“ผมรู้ก็ตอนที่ได้เข้าไปในตัวของคุณแล้วนั่นแหละ” เขาอมยิ้ม มองลึกเข้ามาในดวงตาคู่งามของหล่อน “ผมรักคุณนะฟ้าลดา ยิ่งได้กอด ได้จูบ ผมก็ยิ
ตอนที่ 56.“ผมจะแต่งงานกับฟ้าครับ ผมรักเธอ”ปฐพีระบายยิ้มโล่งอกออกมา“พูดแบบนี้ พูดเสียงดังๆ เลยนะ เวลาอยู่ต่อหน้ายายฟ้าน่ะ”“แต่ผม... ไม่รู้เลยครับว่าเธอไปอยู่ที่ไหนตอนนี้”ปฐพีหัวเราะร่วน “โอ๊ย... การตามหาตัวยายฟ้าน่ะไม่ยากหรอก”“คุณลุงหมายความว่ายังไงครับ”“เดี๋ยวดูจากข้อมูลการใช้บัตรเครดิตก็รู้แล้วล่ะพ่อเอกว่ายายฟ้าไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน”เอกกวีได้ฟังคำพูดของปฐพีก็ระบายยิ้มออกมาอย่างโล่งอก“คุณหนูขา... เราจะไปช็อปปิ้งกันอีกแล้วเหรอคะ”แววที่เดินตามฟ้าลดาเข้ามาในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดภาคตะวันออกเอ่ยถามด้วยความวิตกกังวล“ใช่ ฉันเครียด ช็อปปิ้งแล้วมันทำให้รู้สึกดีขึ้น”“แต่ที่ห้องพักของเรามันแทบจะไม่มีที่เดินแล้วนะคะคุณหนู มีแต่ของที่ซื้อไว้เต็มห้องไปหมดเลย”“งั้นฉันจะซื้อวันนี้อีกวัน พรุ่งนี้จะไม่ซื้ออะไรแล้ว โอเคไหมแวว”“ค่ะคุณหนู”ฟ้าลดาเดินตรงหน้าไปในร้านเสื้อผ้ายี่ห้อดัง หยิบทุกชุดที่อยู่ตรงหน้าส่งให้แววถือ จนแววต้องรีบเตือนสติเพราะเกรงว่าคุณหนูของตัวเองจะไม่มีมือหิ้วกลับห้อง“คุณหนูขา พอเถอะค่ะ นี่ก็สิบกว่าชุดแล้วนะคะ”“ก็ได้”ฟ้าลดาแขวนชุดเดรสสีดำคืนที่เดิม ก่อนจะหันมาห
ตอนที่ 55.“ก็คุณหนูฟ้าลดาคนสวยไงครับ”“บ้า ฉันจะไปงอนนายทำไมกันล่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย อ๊ะ... อื้อ... อย่าขยับแบบนี้สิ คนบ้า อื้อ... อ๊า... อา...”หล่อนครวญครางเลยทีเดียวเมื่อคนที่นอนทับนิ่งๆ อยู่เคลื่อนไหวสะโพกเป็นวงกลม คลึงเค้นจนหล่อนเสียวสะท้าน“ก็ผมอยากจะยืนยันไงครับว่าเราสองคนเป็นอะไรกันแค่ไหน”หล่อนแก้มแดงก่ำ และก็อดตัดพ้อไปอย่างน้อยใจไม่ได้“ก็แค่เซ็กซ์เท่านั้นแหละ”“ถึงจะเป็นแค่เซ็กซ์ แต่มันก็ทำให้เราสองคนได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ผมว่าชีวีตคู่หากไม่มีเซ็กซ์เป็นส่วนประกอบก็คงจะจืดชืดมากเลยทีเดียว”“ไอ้คนบ้ากาม”“ผมบ้าคุณต่างหาก เมียจ๋า...”“นี่อย่ามาพูดแบบนี้นะ ออกไปจากตัวฉันเลย”“อย่าไล่ผัวสิครับ” เขาพูดเสียงอ่อนเสียงหวานและระดมพรมจูบหล่อนทั้งใบหน้า มือใหญ่ก็บีบเค้นเต้าอวบตลอดเวลา“นายรักฉันหรือเปล่า”ในที่สุดหล่อนก็ตัดสินใจถามออกมา และจ้องหน้าเขาอย่างรอคอยคำตอบเอกกวีระบายยิ้มอ่อนโยน มองลึกเข้าไปในดวงตาคู่งามของภรรยาคนสวย“ผมจะพิสูจน์ให้คุณดู ฟ้าลดา”แล้วเขาก็ก้มลงมาบดขยี้ปากอิ่มของหล่อน ปลุกเร้าให้หล่อนร้อนผ่าวและร้อนฉ่าพรักพร้อมต่อเกมสวาทของเขาอีกครั้งหล่อนอยากฟังคำตอบ
ตอนที่ 54. ฝ่ามือกางออกเค้นคลึงจนยอดถันแข็งชันเป็นไต นิ้วยาวถูไถจนเม็ดทรวงเคร่งครัด ก่อนจะส่งเข้าไปในอุ้งปาก ดูดอมมันอย่างเอร็ดลิ้น ทั้งกัดทั้งดูดทั้งเลียจนสาวน้อยกรีดร้องทรมานร่างอวบอัดส่ายระริก ดิ้นพล่านด้วยความเสียวกระสัน หยาดน้ำสวาทไหลซึมออกมาจนกลีบสาวเปียกชุ่ม ความร้อนฉ่าอัดแน่นอยู่เต็มซอกขา“อ๊า... อา... อ๊า...”หล่อนกรีดร้องด้วยความเสียวซ่านทรมาน ยิ่งยามที่เขาดูดเม็ดทรวงแรงๆ ตามด้วยการขบกัดด้วยแล้ว หล่อนก็ยิ่งแสนรัญจวน ร่างสาวลอยสูงขึ้นทุกขณะ“อ๊า... อา... เอก... เอกขา...”เขาคลายยอดถันออกจากปาก เลื่อนหน้าต่ำลงไปยังหน้าท้อง สองมือเลื่อนนำหน้าลงไปกระชากต้นขาอวบให้แยกกว้างออกจากกัน ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำลดต่ำลงไปอยู่ที่เนินสวาทพอดิบพอดีเสียงคำรามด้วยความพึงพอใจจากปากหยักสวยดังขึ้นไม่หยุด นิ้วยาวค่อยๆ แยกแย้มกลีบนางออก ดวงตาคมกริบจับจ้องมองสีสันความงดงามนั้นด้วยความตื่นตะลึง เขารู้สึกพรึงเพริดทุกครั้งที่ได้จับจ้องกับความอูมอวบของฟ้าลดา“สีสวยเหลือเกินฟ้าจ๋า...”หล่อนจิกเล็บลงกับศีรษะของเขา และกรีดร้องไม่หยุด เมื่อกลีบสาวถูกโจมตีด้วยปากด้วยลิ้น และนิ้วมื
ตอนที่ 53.“ไปเถอะแวว ฉันรับรองด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่าจะไม่ทำร้ายคุณหนูของแววให้ต้องเจ็บปวด ฉันจะพูดดีๆ กับคุณหนูของแววโอเคไหม”“ก็ได้ค่ะ แต่อย่าทำให้คุณหนูร้องไห้นะคะ”“รับรองครับ”แววเดินจากไปแล้ว เขาจึงหันมามองบานประตูไม้ตรงหน้า ยกมือขึ้นค้างอยู่กลางอากาศ ตั้งใจจะเคาะเรียก แต่ก็รู้ดีว่าเจ้าของห้องไม่มีทางยอมเปิดง่ายๆ แน่นอน ดังนั้นการไขกุญแจเข้าไปเลยจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดคนที่นอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงรีบดีดตัวลุกขึ้นทันที เมื่อเห็นประตูห้องเปิดออกโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า แต่นั่นยังไม่น่าตกใจเท่ากับคนที่ปรากฏตัวขึ้นหลังบานประตูไม้“นาย...”หล่อนช็อกค้าง ตาเบิกกว้าง ปากเผยอจนน้ำลายไหลย้อยออกมาคนตัวโตระบายยิ้มอ่อนๆ ก้าวข้ามธรณีประตูเข้ามาหา และดึงประตูให้ปิดสนิทลง พร้อมกับล็อกอย่างแน่นหนา“นี่ผัวนะไม่ใช่ผี ไม่ต้องทำหน้าตกใจแบบนั้นก็ได้ ฟ้าลดา”“นาย... มาได้ยังไง”“ขับรถมาครับ”“แล้ว... เข้ามาทำไม”เขาอมยิ้มน้อยๆ ก้าวเดินเข้ามาหา หญิงสาวตัวแข็งทื่อขยับไม่ได้“ก็เข้ามาหาเมียไงครับ”“ออกไปนะ ใครเป็นเมียนาย”เขามาหยุดยืนที่ขอบเตียง และมองหล่อนทั้งตัว มองด้วยสายตาเป็นเจ้าข้าวเจ้า
ตอนที่ 52.ฟ้าลดาจำรถของเอกกวีได้ ทันทีที่เห็นมันแล่นเข้ามาจอดที่หน้าคฤหาสน์ของตัวเองเท่านั้น หล่อนก็รีบโกยแน๊บขึ้นห้องนอนและล็อกประตูอย่างแน่นหนาเลยทีเดียว พร้อมกับกำชับแววไว้ ให้บอกว่าหล่อนไม่อยู่ไปบวชชีสามปีนั่นแหละถึงจะกลับมาแววรีบออกมาต้อนรับเอกกวีที่หน้าบ้านตามหน้าที่ ด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบายใจนัก เพราะไม่ชอบที่จะโกหกแต่ก็เลี่ยงไม่ได้“สวัสดีค่ะคุณเอก ลมอะไรหอบมาถึงที่นี่คะ”เอกกวียิ้มตอบให้กับแวว“ไม่ได้มีลมอะไรหอบฉันมาหรอก ฉันตั้งใจมาที่นี่ด้วยตัวเองเลยแหละ”“เอ่อ ตั้งใจเลยเหรอคะ”“อืม”เอกกวีพยักหน้ารับ ก่อนจะชะเง้อคอมองเข้าไปภายในคฤหาสน์หลังงามเบื้องหน้า“คุณลุงอยู่ไหมครับ แวว”“อยู่ค่ะ เดี๋ยวเชิญคุณเอกเข้าไปนั่งดื่มน้ำเย็นๆ ในห้องรับแขกนะคะ แล้วแววจะไปเรียนคุณท่านให้ค่ะว่าคุณเอกมาขอพบ”“ขอบใจมาก” เอกกวีระบายยิ้ม“เชิญค่ะ”แววทำหน้าที่เชื้อเชิญแขกเข้าไปในบ้าน เอกกวีเดินตามไป แต่ก็อดที่จะเงยหน้าขึ้นมองชั้นบนของบ้านไม่ได้ และก็ได้เห็นเงาของใครบางคนแอบอยู่หลังม่านในห้องหนึ่ง เขาระบายยิ้มน้อยๆ และรีบก้าวตามแววไป“เชิญนั่งก่อนนะคะ เดี๋ยวแววไปเรียนคุณท่านก่อนค่ะ”เอกกวีพยักหน้ารับ ท