ผมไม่ลืมที่จะพาเธอไปเดินซื้อกระโปรงนักศึกษาตัวใหม่ซึ่งตอนแรกเธอก็งอแงไม่ยอมอยากใส่แค่ที่มีเพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะถึงปีสุดท้ายของเธอแล้ว แต่ผมก็ยังดื้อที่จะพาเธอไปให้ได้ทำเธอหน้างอปากเชิดแอบงอนกับความเอาแต่ใจของผม ไม่เป็นไรเกิดมาผมก็ยังไม่เคยลองง้อผู้หญิงคนไหนมาก่อนเหมือนกัน น้องลลิลจะเป็นคนแรกที่ผมยอมเธอ
"หนูใส่ไซต์อะไรคะ" "..." "อ๊ะ" "เอวประมาณยี่สิบสอง" "ไซต์เอสครับ ความยาวประมาณนี้" "ห้าตัวครับ" "..." เพราะเธอไม่ยอมพูดกับผม ทำให้ผมต้องวัดขนาดเอาเองโดยการโอบเอวเธอมายืนด้านหน้าผมใช้สองมือหนาจับเข้าที่เอวเธอเพื่อวัดขนาดเอื้อมมือข้างหนึ่งไปหยิบกระโปรงตัวอย่างที่แขวนไว้มาทาบที่ตัวเธอเพื่อวัดความยาวโดยที่แขนอีกข้างยังไม่ปล่อยจากการโอบกอดเธอที่ยืนแก้มแดงเป็นลูกตำลึงแต่ยังคงบึ้งตึงใส่ผมอยู่ทำผมอดอมยิ้มอย่างเอ็นดูเธอไม่ได้ เหมือนว่าผมจะเจอเด็กดื้อซะแล้วสิ ฟอด "พี่นาวา!" "ครับผม" หลังจากได้ของครบเรียบร้อยผมก็จูงมือเด็กดื้อที่พึ่งเพิ่มข้อหาให้ผมอีกหนึ่งข้อเพราะการกระทำอันอุกอาจของผมที่ก้มลงไปหอมแก้มเธอท่ามกลางสายตาพนักงานในร้านที่พากันมองยิ้มกรุ่มกริ่มมาที่เราสองคนจนเธอหันมาถลึงตากลมโตเหมือนน่ากลัวใส่ผม แล้วผมก็พาเธอไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตต่อเพราะอยากจะทำสเต็กง่ายๆ ให้เธอลองชิมฝีมือผมเย็นนี้และเพื่อง้อเด็กน้อยของผมด้วยที่ผมเอาแต่ใจกับเธอไปนิดหน่อย ซึ่งเธอก็ยอมมากับผมแต่โดยดีคอยช่วยเลือกผักสำหรับทำสลัดและเนื้อสเต็กแบบที่เธออยากกินมีผมคอยเข็นรถเข็นเดินตามหลังแอบมองสาวร่างบางตรงหน้าพูดเจื้อนแจ้วด้วยสายตาหลงไหล มันเป็นช่วงเวลาที่ผมคิดว่าไม่น่าจะได้ใช้กับใครแต่ได้มาใช้กับเธอ "พี่นาวาชอบทานเนื้อแบบไหนคะ" "คะ" "ชอบเนื้อสันหรือทีโบนคะ" "เนื้อสันค่ะ" "ผักสลัดแค่นี้พอมั้ยคะหรือจะไปตักตรงบาร์ดี" "ลลิลว่ามีให้เลือกเยอะกว่า" "ก็ได้ค่ะ" "งั้นเดี๋ยวลลิลเอาอันนี้ไปเก็บก่อนค่ะ" "หนูเอาขนมขบเคี้ยวด้วยมั้ย" "ไว้กินตอนดูหนังกัน" "ลลิลเอาห่อสีเหลืองค่ะ" แล้วผมก็พาเธอไปยังรถสปอร์ตหรูที่จอดไว้ที่โซนซุปเปอร์คาร์ของห้างขับตรงไปยังคอนโดของผมกับเธอทันทีแถมยังมัดมือชกพาเธอขึ้นมาห้องของผมเลยไม่ต้องแวะห้องเธอเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เสียเวลา เพราะผมให้คนนำเสื้อผ้าที่ร้านสำหรับเธอมาไว้ในห้องแต่งตัวผมเรียบร้อยแล้วซึ่งเธอก็งอแงไม่ยอมเปลี่ยนเพราะกลัวว่าจะเป็นของคนอื่นหรือแฟนของผมทำผมต้องงัดหลักฐานขึ้นมายืนยันว่าไม่มีแฟนและเอาสลิปโอนเงินค่าเสื้อผ้าของเธอเมื่อเช้าให้เธอดูทำเธอตาค้างอ้าปากกว้างไม่ห่วงสวยเพราะตกใจกับตัวเลขที่เห็นผมเลยอาศัยจังหวะที่เธอช๊อกอยู่นี้ก้มลงไปอุ้มเธอที่นั่งอยู่ที่โซฟาด้วยท่าเจ้าสาวพาไปส่งที่วอคอินโครเซทให้เธอได้ใช้เวลาส่วนตัวได้ตามสบาย และปลีกตัวมาเตรียมของในครัวรอเธอ "ลลิลช่วยมั้ยคะ" "หนูหายงอนพี่แล้วหรอ" "ลลิลไม่ได้งอนสักหน่อย" "ไม่งอนก็ไม่งอนค่ะ" "ไหน ใส่ได้พอดีมั้ย" "พอดีเลยค่ะ" "ขอบคุณนะคะ" "ขอบคุณแค่นี้เอง?" "..." จุ๊บ แล้วเขาก็ยื่นหน้าหล่อหล่อมามองฉันใกล้ใกล้เอียงหน้าเล็กน้อยทำแก้มป่องข้างหนึ่งเหมือนรออะไรบางอย่าง มาถึงขนาดนี้แล้วฉันเลยทำใจกล้าใช้ปากเล็กเล็กจุ๊บเข้าไปที่แก้มสากกลมกลมหนึ่งทีเป็นการขอบคุณเขาอีกหนึ่งครั้ง ก่อนจะรีบเฉไฉแทรกตัวเข้าไปในแขนแกร่งที่กำลังเตรียมเนื้อสำหรับหมักเครื่องเทศมีฉันทำหน้าที่โรยเกลือสีชมพูกับพริกไทยดำตามที่เขาบอกอย่างเคร่งครัด เนื้อสเต็กจานนี้ต้องอร่อยมากแน่แน่เพราะเราสองคนช่วยกันทำ ระหว่างรอเวลาให้เนื้อเข้าที่ เราสองคนก็พากันมานั่งรอที่โซฟาตรงห้องนั่งเล่นมีเขานั่งเช็คอีเมล์ในไอแพดอยู่โดยที่แขนข้างหนึ่งยังคงโอบกอดเอวบางของฉันเอาไว้ให้เข้าหาตัวเขาจนฉันเกือบจะได้นั่งเกยตักแกร่งส่วนฉันก็นั่งอ่านการ์ตูนรอเพราะกลัวว่าถ้าดูรายการโปรดในยูทูปจะทำเสียงรบกวนเขา โชคดีที่พรุ่งนี้ฉันมีเรียนบ่ายเลยไม่เป็นห่วงเรื่องเวลามากแต่คงไม่อยู่จนดึกเพราะไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของพี่เขา พอนาฬิกาที่เราตั้งเวลาไว้ส่งเสียงเตือนว่าเนื้อใช้ได้แล้วพี่เขาก็รีบลุกขึ้นเดินไปเปิดเตาไฟฟ้าเหยาะน้ำมันมะกอกลงกระทะเล็กน้อยรอกระทะร้อนแล้วนำเนื้อสเต็กลงไปย่างทันที ส่วนฉันก็ช่วยเตรียมตักสลัดแบ่งลงจานสองใบสำหรับเราสองคน แล้วพากันมานั่งกินที่หน้าทีวีเพราะพี่นาวาอยากดูหนังที่เข้าใหม่ด้วย ระหว่างที่พี่เขาเปิดหนังในจอยักษ์ฉันก็นั่งหั่นเนื้อสเต็กเป็นชิ้นลูกเต๋า และคอยใช้ส้อมจิ้มป้อนใส่ปากพี่เขาอย่างเอาใจสลับกับป้อนเข้าปากฉันจนหมดจาน "หืม อร่อยมากมากเลยค่ะพี่นาวา" "ฉ่ำมาก" "ดีใจจังที่หนูชอบ" "เหมือนไปทานที่ร้านดังดังเลยนะคะ" "งั้นถ้าวันหลังหนูอยากทานบอกพี่นะ" "พี่ทำให้หนูได้ทุกวันเลย" #อ่านเพลินๆ อินไปกับความน่ารักของพี่นาวาและน้องลลิลกันนะคะหลังจากวันนั้นที่เราสองคนคุยกันเรื่องแต่งงาน ผมก็เข้าไปหาอนุญาตคุณพ่อคุณแม่ของขิมทันทีที่เดินทางถึงกรุงเทพ ซึ่งท่านทั้งสองคนก็อนุญาตและไม่รับเงินค่าสินสอด อยากให้เราสองคนเก็บเงินไว้สร้างครอบครัวกันมากกว่า แถมยังช่วยหาฤกษ์ให้เราสองคนได้รวดเร็วทันใจผมด้วย"บี๋คะ ลูกค้าเพิ่มข้าวหมูทรงคัตสึกลับบ้านสองที่นะ""ครับบี๋""บี๋เหนื่อยมั้ย"ฟอด"กำลังใจจากขิมค่ะ"จุ๊บ"ขอบคุณครับ"ใช่ครับ หลังจากแต่งงานกันเธอก็ขอเรียกแทนกันว่าเบบี๋เพื่อให้ดูพิเศษกว่าตอนเป็นแฟนกันซึ่งผมก็ไม่ได้ติดกลับมองว่าน่ารักมากด้วยซ้ำ"บี๋ คิดเห็นเงินเสร็จยัง""สะ เสร็จแล้ว""ขอบคุณที่มาอุดหนุนนะครับ""เชิญ""บี๋!""คืนนี้โดนแน่ตัวเล็ก""..."มีเมียน่ารักมันก็น่าหงุดหงิดหัวใจเหมือนกันนะ ผมเห็นไอ้ผู้ชายคนนี้มาฝากท้องที่ร้านของเราหลายวันแล้ว คอยส่งยิ้มหวานให้เมียผมตลอด สงสัยคงต้องเจอสลอดสักที 'หึ' คิดแล้วก็ของขึ้น! ได้แต่ทดโทษเอาไว้จัดการฟาดก้นกลมคนตัวเล็กสักทีสองทีในคืนนี้ ผมใช้เงินเก็บส่วนหนึ่งมาซื้อบ้านเก่าและรีโนเวทใหม่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสาขาที่สองของครอบครัวเธอ โดยที่สาขานี้มีผมเป็นพ่อครัวผ่านการฝึกฝนกับเจ้าของสูตรอย่
"กรี๊ด/กรี๊ด"ฟิ้ววว ตุบ"เฮ้ย!""พี่ลันตามลลิลมาเร็วๆ นะคะ""..."ไปงานแต่งงานมาก็หลายงานแต่มาได้ช่อดอกไม้ที่งานแต่งของน้องสาวตัวเองอย่างไม่ได้ตั้งใจ ผมเลยต้องคว้ามากอดไว้ด้วยแขนล่ำๆ ของผมข้างหนึ่ง หันไปมองสาวข้างๆ ที่ผมล็อคมงไว้สักพัก กำลังยืนบิดไปบิดมาเอานิ้วชี้จิ้มเข้าหากันอย่างเขินอาย หรือว่านี่จะเป็นสัญญาณบอกว่าถึงเวลาของผมกับเธอแล้ว ก่อนจะเอื้อมไปโอบเอวเล็กเข้ามากอดข้างกายและก้มลงไปกระซิบข้างหูหอมๆ"สงสัยต้องรีบตามลลิลไปจริงๆ แล้วสิ" "ไปไหน ปาร์ตี้หรอ ไปสิ""หึ" ฟอด"พี่ลัน ทำอะไรเนี่ย คนมองใหญ่แล้ว เห็นมั้ย""หมันเขี้ยว""อะไรเล่า""ไม่ต้องเลย ห้ามหมันเขี้ยวขิม""ไปกันเลยมั้ย""ขิมจะได้มีเวลาแต่งตัวเยอะๆ""อืม"มีเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะถึงงานปาร์ตี้ริมหาดฉลองแต่งงานของคู่รัก เหลือมากพอที่จะให้ผมทำอะไรอะไรได้สองสามรอบให้หายหมันเขี้ยวคนตัวเล็กสักหน่อย ยิ่งวันนี้ชุดที่ตัวเล็กใส่เป็นชุดเดรสกระโปรงยาวผ้าซาตินแขนตุ๊กตาคอกว้างสีชมพูถึงจะเป็นชุดเรียบๆ แต่มันดูเซ็กซี่มากสำหรับผมพอดับเครื่องยนต์ปุ๊บไฟข้างในของผมก็ติดปั๊บจนรู้สึกปวดหนึบ รีบจูงมือเล็กเดินไปยังห้องพักส่ว
"น่ารักแบบนี้นี่เอง พี่ลันถึงหวง""ไม่ยอมพามาเจอลลิลเลย""ลลิลก็สวยมากๆ""สวยกว่าพี่ลันอีก""แปลกๆ นะตัวเล็ก""ว่าแต่เป็นคนเดียวกันกับที่ลลิลแอบเห็นที่ทะเลรึป่าวคะพี่ลัน""ห๊ะ พี่ลันมีหลายคนงั้นหรอ""เฮ้อ อยู่ดีดีงานก็เข้า""หึ""ขำอะไรมึง"หลังจากฉันพาพี่ลันไปเปิดตัวกับครอบครัวฉันอย่างเป็นทางการ พี่ลันก็ผลันตัวเองจากลูกค้าขาประจำเป็นพนักงานเสิร์ฟมือโปร จนขึ้นแท่นเป็นพนักงานดีเด่นของร้าน ทำให้พี่ๆ พนักงานในร้านพากันแซวยกใหญ่ขออย่ามาแย่งงานกันเลย ทำเอาคุณพ่อคุณแม่หัวเราะชอบใจกันใหญ่ และเอ็นดูพี่ลันเพิ่มขึ้นอีกสิบเท่า แต่ขิมคนนี้จะไม่ยอมให้มาแย่งตำแหน่งลูกรักไปได้แน่นอน ขิมไม่ยอม! มาวันนี้ก็ถึงตาเขาบ้าง เขาพาฉันมาแนะนำให้รู้จักกับลลิลน้องสาวคนสวยอายุเท่ากันกับฉัน สวยมากอัธยาศัยดีมากด้วย ทำให้ความเกร็งที่ฉันมีหมดไปได้อย่างง่ายดายตั้งแต่ไม่กี่นาทีแรกที่เราเจอกันและเพราะเราอายุเท่ากันด้วยแหละเลยคุยกันถูกคอสนิทกันเร็วมาก แถมพี่นาวาแฟนลลิลก็หล่อมากดูเหมาะสมเข้ากันสุดสุดเราสี่คนพากันมาลองบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดเจ้าดังที่บางแสน เพราะพี่ลันอยากกินปูนึ่งกับปลาหมึกกระดองย่าง ส่วนลลิลกับฉันก็อยากกินกุ้
สามเดือนแล้วที่ผมกับตัวเล็กเป็นแฟนกันแบบที่ผมยัดเยียดสถานะตัวเองให้เธอทุกวัน คิดแล้วก็ขำตัวเองเหมือนกันนะ แต่ผมอยากได้คนนี้และไม่อยากปล่อยให้หลุดมือไปด้วย แค่นี้ผมก็คิดว่าเราเจอกันช้าเกินไปสำหรับผมด้วยซ้ำ"ครบโปรแล้ว ตัวเล็กพาพี่ไปเจอคุณพ่อคุณแม่ได้ยัง""พี่ลันก็ไปเจอคุณแม่ขิมทุกวันอยู่แล้วนี่""มันเหมือนกันมั้ย"ใช่ครับ...ที่เธอพูดไม่ผิด ผมไปเจอคุณแม่เธอทุกวัน ในฐานะลูกค้าประจำของร้านมื้อกลางวันบ้างมื้อเย็นบ้างกินจนครบทุกเมนู บางวันก็เจอคุณพ่อเธอด้วย แต่เราเพียงแค่ยิ้มทักทายกันเท่านั้นอันที่จริง ผมขอไปเจออยากจะแนะนำตัวเองในฐานะลูกเขยตั้งแต่วันแรกหลังจากที่ผมขอเธอเป็นแฟนแล้ว แต่เป็นเธอที่ไม่มั่นใจเพราะความสัมพันธ์แบบก้าวกระโดดของเรา เลยกลัวว่าผมจะหมดโปรเหมือนกับเพื่อนๆ ของเธอที่เจอ ผมเลยพยายามทำให้เธอเห็นตามรับตามส่งอยู่ด้วยกันทุกวันห้องเธอบ้างห้องผมบ้างถ้าถามว่ามีงอนกันมั้ยก็ต้องยอมรับว่ามี มันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งน่าจะเหมือนกับคู่อื่นๆ ส่วนใหญ่จะเป็นความดื้อเงียบของเธอมากกว่า แต่ที่งอนกันหลายชั่วโมงที่สุดก็น่าจะเป็นต
วันนี้ฉันเลิกเรียนเสร็จก็รีบแยกจากเพื่อนๆ นั่งรถมาหาคุณพ่อคุณแม่ที่ร้าน ไม่รู้ว่าวันนี้มีลูกค้าเยอะรึป่าวและก็คิดถึงกุ้งเทมปุระที่คุณพ่อทำด้วย เอากลับไปฝากพี่ลันด้วยดีกว่าพอมาถึงคุณแม่ก็ให้ฉันไปรับออเดอร์จากลูกค้าในห้องวีไอพี เพราะพี่พี่พนักงานกำลังยุ่งอยู่กับการเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าสองสามโต๊ะ ฉันจึงรีบเอากระเป๋าไปเก็บในตู้และหยิบผ้ากันเปื้อนสีดำที่สีโลโก้ร้านขึ้นมาใส่ถือแท็บเล็ตไปรับออเดอร์ทันที"ขอโทษที่ทำให้รอนะคะ" "ลูกค้ารับอะไรดีคะ""พะ พี่ลัน" "..." "ราเมนหนึ่งที่ค่ะ""ลันละคะ""ข้าวหน้าเนื้อ" "เพิ่มกุ้งเทมปุระกับเกี๊ยวซ่ามาแชร์กันมั้ยลัน""ได้""รับเครื่องดื่มอะไรดีคะ""ชาเขียวเย็นสองค่ะ""กรุณารอสักครู่นะคะ" ลมหายใจของฉันแทบหยุดชะงักมันอึ้งจนทำตัวไม่ถูกไม่คิดว่าลูกค้าในห้องวีไอพีจะเป็นคนคุ้นหน้าที่นั่งหันหลังให้ ฉันจำเขาได้ทันทีทั้งกลิ่นน้ำหอมเสื้อผ้าแม้แต่ทรงผม เขาอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสาวสวย สวยมากดูเหมาะสมกับพี่ลันมากๆ เลย แถมดูสนิทสนมกันด้วย ฉันพยายามตั้งสติแล้วเดินออกมาด้วยสีหน้าท่าทางปกติเพราะไม่อยากให้คุณแม่สงสัย พยายามทำตัวให้ยุ่งๆ ไม่ให้ตัวเองคิดฟุ้งซ่านไปต่างต่าง
"พี่ลันนน""อย่าวิ่ง เดี๋ยวล้ม"พรึ่บ ฟอด"ตัวเล็กหิวมั้ย""ไม่หิวค่ะ""งั้นไปนั่งรอพี่ทำงานอีกนิดนึงนะ""ได้ค่ะ"หลังจากวางสายจากเขาไม่นาน ฉันก็มาถึงสถานีจุดหมายปลายทางของวันนี้ ทันทีที่ฉันแตะบัตรโดยสารออกมาเรียบร้อย ฉันก็เห็นพี่ลันยืนใส่หูฟังไร้สายสีขาวสองมือล้วงกระเป๋ารออยู่ ผู้ชายอะไรขนาดแค่ใส่เสื้อฮู้ดสีดำกับกางเกงยีนส์รองเท้าผ้าใบยังหล่อเท่ห์ชะมัดเลย แอบถ่ายรูปไว้หน่อยดีกว่าฉันยืนตกอยู่ในภวังค์ความหล่ออยู่ไม่นาน ก็รีบวิ่งเข้าไปหาคนที่มายืนรอรับฉัน พอพี่ลันหันมาเห็นก็เอ็ดดุเบาเบาด้วยความเป็นห่วงนั่นแหละ ก่อนจะใช้แขนแกร่งคล้องคอฉันเข้าไปหาและก้มลงมาหอมผมสีน้ำตาลฟอดใหญ่ ทำหน้ากลมๆ ของฉันร้อนผ่าวใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างไม่ต้องสืบหาสาเหตุ ก้มหน้าก้มตาเดินไปกับเขาโดยที่แขนแกร่งยังคงโอบไหล่ฉันอยู่อย่างนั้นท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่มองมาทางเราสองคน"ตัวเล็กอยากฟังงานพี่มั้ย""ขิมฟังได้หรอ""ฟังได้""ถ้าเป็นตัวเล็ก พี่อนุญาต""..."เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เข้ามาห้องอัดเสียงแบบนี้ บรรยากาศต่างจากกองถ่ายที่ฉันเคยไปถ่ายโฆษณาโดยสิ้นเชิง กองถ่ายมีผู้คนพลุกพล่านแต่ที่นี่เวลานี้มีแค่เขาที่กำล