แชร์

3. แรกพบ

ผู้เขียน: กะหล่ำหมี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-26 11:39:55

ณ.โรงแรมแกรนด์ปาร์ค

ฉันขับรถส่วนตัวมาจนถึงโรงแรมหรูแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ก่อนเดินเข้าไปในโรงแรม และแวะเข้าห้องน้ำก่อน

ฉันมองตัวเองสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนเข้างาน

“แต่งโป๊ไปรึเปล่านะ แต่ไม่หรอก ชุดก็ไม่ได้เปิดอะไรมากซะหน่อย ผู้หญิงที่ผ่านตาในงานยังชุดแหวกกว่าฉันซะอีก” ฉันส่ายหน้าไปมาก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำหยิบมือถือต่อสายหาไอ้กรณ์ทันที

“ฉันมาแล้ว ท่านประธานอยู่ไหนคะ” ฉันเข้าสู่บทละคร ในฐานะ ลูกน้องของท่านประธานฝืนใจชะมัด

“อยู่ด้านใน ฟ้าครามคุณเข้ามาได้เลย” ทุกคนอาจจะสงสัยทำไมฉันถึงต้องสุภาพกับไอ้กรณ์ในขณะโทรศัพท์ตอนนี้ใช่มั้ย แน่นอนว่า งานนี้เป็นดีลที่มีมูลค่าสูงมาก แต่ตอนนี้รอบตัวของกรณ์ ก็คงรายล้อมไปด้วยซีอีโอบริษัทคู่แข่ง ดังนั้นการสร้างภาพลักษณ์ของซีอีโอให้ดูน่าเกรงขามจึงสำคัญมาก ๆ เพื่อชักจูงให้ดูเป็นที่น่าเชื่อถือ และนี่คือสาเหตุที่ฉันไม่ชอบไปดีลงานไหนกับไอ้กรณ์ เพราะสุดท้ายต้องคอยทำเป็นนอบน้อมให้ตัวมันนั้นดูสง่าราศีที่สุด ถ้าไม่ใช่เพื่อบริษัทที่ฉันก็ได้รับผลประโยชน์ล่ะก็ ไม่มีทางที่ฉันจะมาอ่อนหวานต่อหน้ามันแน่

ภายในงานเต็มไปด้วย คนชนชั้นสูง และเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจทั้งนั้น ฉันต้องพยายามสำรวม สุภาพ กิริยาอ่อนหวานเข้าไว้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะอดทนได้สักแค่ไหน แต่เพื่องานล่ะก็ทำได้อยู่แล้ว

“ขออภัยค่ะ ท่านประทานที่มาสาย” ฉันเดินเข้าไปโค้งคำนับให้ไอ้กรณ์ที่กำลังคุยกับนักธุรกิจคนอื่น ๆ แถมยังเป็นคู่แข่งซะด้วย

“ไม่เป็นไร ผมรู้ว่าคุณรถติด อ่ะนี่ คุณพิชัย ประธานบริษัท M กรุ๊ป”

“สวัสดีค่ะ คุณพิชัย”

“ไม่ต้องพิธีรีตอง คนกันเองทั้งนั้น ไม่นานนี่ก็เจอกันมาก่อนไม่ใช่หรือไงคุณฟ้าคราม” ฉันได้ยินดังนั้น ก็ค่อนข้างหงุดหงิดเล็กน้อย แท้จริงแล้วเมื่อเดือนก่อนฉันเพิ่งดีลแย่งงานของบริษัท M กรุ๊ปไป ดูท่าจะแค้นฝั่งหุ่นไม่น้อยจนตอนนี้

“นั่นสินะคะ งั้นฟ้าขออนุญาตคุยกันเองกับคุณพิชัยแล้วกันค่ะ” สิ้นคำ ไอ้กรณ์หันมาสะกิดมือฉันให้ระงับท่าที แต่ระดับฉันใครจะกลัว

“คราวนี้คุณฟ้าคงไม่ใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรมาแย่งงานผมหรอกนะครับ” แน่นอนว่าคุณพิชัยนั้นเริ่มเปิดศึกก่อนอย่างตรงไปตรงมา ไอ้กรณ์เองก็ดูท่าไม่ดีซะแล้ว แต่ฉันน่ะไม่ใช่คนให้ข่มกันได้หรอก ไม่งั้นทุกครั้งที่ฉันเจอบริษัทเขา จะแย่งงานได้มาทุกครั้งได้ไงล่ะ

“แหม เล่ห์เหลี่ยมอะไรคะ เป็นเพราะแผนสาวงามของคุณพิชัยมันไม่ได้ผลมากกว่ามั้ง” ฉันพูดไม่อ้อมค้อมเช่นกัน แถมเบนสายตาไปยังเลขาเขาอย่างเปิดเผยว่าฉันหมายถึงอะไร

“คุณฟ้าครามก่อนพูดอะไรช่วยไตร่ตรองด้วยนะครับ ไม่ใช่พูดอะไรไม่มีหลักฐาน” คุณพิชัยตีโพยใหญ่ หึ

“หลักฐาน คุณอยากให้ฉันเอามากางให้ดูตรงนี้จริง ๆ เหรอคะ แน่ใจนะ” ฉันแสยะยิ้ม

“เอ่อ...ล้อเล่นครับล้อเล่น หวังว่าคุณฟ้าครามจะไม่ถือสาผมที่พูดอะไรไร้สาระ”

“งั้นเหรอคะ อดให้คุณพิชัยดูเลย อ่ะ จริงสิ แทนที่เราจะมาเขม่นกันแบบนี้ คุณพิชัยอย่าลืมนะคะ ว่าโครงการนี้เป็นโครงการใหญ่เกือบพันล้าน ไม่ใช่มีแต่บริษัทของเราทั้งสองร่วมเสนอ แต่ลองมองออกไปให้กว้างนะคะ จะพบว่ามีอีกหลายบริษัทยักษ์ใหญ่กว่าเราจ้องจะงาบโครงการนี้เหมือนกัน”

“นะ...นั่นสินะครับ” คุณพิชัยหันยิ้มเจื่อน ๆ ให้ฉัน หึ ให้มันรู้ซะบ้าง ว่าคนอย่างฉันจะให้ใครข่มได้ง่าย ๆ ส่วนไอ้กรณ์เองแทนที่จะทำตัวขึงขังให้ดูสมาร์ทหน่อยก็ทำไม่ได้ เบื่อชิบต้องคอยมาตามเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้ตลอด

“ว่าแต่ตอนนี้กลุ่มนายทุนเศรษฐีต่างชาติยังไม่มาเหรอคะ ท่านประธาน” ฉันหันไปเอ่ยกับไอ้กรณ์ที่ยืนมองไปมาราวกับกำลังสำรวจอะไรบางอย่าง

“ยังเลย แต่นี่มันก็เลยกำหนดการที่ทางบริษัทเขาจะกล่าวแถลงเปิดตัวโครงการรีโนเวทโรงแรมบนเกาะนั่นนินา” ฉันก็ยืนมองดูไปรอบ ๆ อย่างสงบเหมือนกัน เท่าที่เห็นก็มีแต่บรรดานักธุรกิจที่ต้องการร่วมดีลงานกับโครงการนี้ทั้งนั้น แต่ตัวของกลุ่มนายทุนกลับไม่เห็นเลย รู้สึกแปลก ๆ ชอบกลจริง ๆ

ไม่นานนัก บนเวที ก็มีคนสูงสง่าเดินขึ้นก่อนกล่าวบนเวที

“ก่อนอื่นต้องของกล่าวสวัสดีทุกท่าน ณ. ที่แห่งนี้ด้วยครับ แต่เนื่องจากท่านประธานของเราติดภารกิจสำคัญจนไม่สามารถออกมาตอนรับ และขึ้นชี้แจงเรื่องโครงการได้ ด้วยเหตุสุดวิสัย ทางเราจึงจะเปลี่ยนวิธีการโดยให้แต่ล่ะบริษัทนำเอกสารแนวความคิดที่มีต่อโครงการของเรา เพื่อให้ทางเราได้พิจารณา และจะมีการติดต่อส่วนตัวไปในภายหลัง  บริษัทไหนเตรียมเอกสารมาแล้ว ก็สามารถยืนให้ผม ตรงโต๊ะด้านขวาได้เลยนะครับ จากนั้นเชิญทุกท่านเพลินเพลินกับ เสียงเพลง และอาหารชั้นเลิศตามอัธยาศัย ขอบคุณครับ” หลังจากชายคนหนึ่งกล่าวเสร็จแล้ว ภายในงานก็ยังคงดำเนินต่อไป

“เอกสารนี้ เราแค่ต้องไปยื่นให้เขาใช่มั้ยฟ้าคราม” ไอ้กรณ์หันมามองฉัน

“ค่ะ และท่านประธาน ควรเป็นคนนำเอกสารไปยื่นให้บริษัทนายทุนนั้นด้วยตัวเองนะคะ เพื่อแสดงความจริงใจ ส่วนดิฉันขอตัวกลับก่อน ดูเหมือนวันนี้คงไม่มีอะไรอีกแล้วน่ะค่ะ” ฉันยืนพูดกับไอ้กรณ์ได้สักพัก คุณพิชัยก็หัวเสียที่ไม่ได้คุยกับกลุ่มนายทุน และปลีกตัวออกไป ทำให้ฉันและไอ้กรณ์ ผ่อนคลายกลับมาเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ ตามเดิม

“แย่ว่ะมาเสียเที่ยวซะแล้ว” ไอ้กรณ์สถบขึ้น

“ช่างเถอะ ยังไงซะขอให้เขาได้เอกสารเราไปก่อน จากนั้นก็มาสวดมนต์ให้เขาสนใจสิ่งที่เรานำเสนอไปบ้าง”

“ก็นั่นแหละ แล้วนี่จะไปคลับดื่มต่อกับกู หรือกลับเลย”

“กูขอตัวกลับก่อนล่ะไม่ไหว ช่วงนี้ไม่ค่อยได้นอน” ฉันส่ายหน้าปฏิเสธมันไป

“โอเค กลับดีๆ ล่ะ”

“อืม กูไปก่อนนะ ไว้เจอกันที่บริษัท”

ฉันโบกมือให้ไอ้กรณ์ ก่อนจะเดินออกจากงานไปตามโถงทางเดิน แต่จู่ ๆ จิตสัมผัสของฉันก็รับรู้ได้ถึงแรงอาฆาตอย่างรุนแรง จนทำให้ฉันรู้สึกปวดหัวอย่างหนัก

“อั่ก...นี่มันอะไรกัน ระ...รุนแรงชะมัด” ฉันยืนสูดอากาศหายใจให้เต็มปอดก่อนจะเดินตรงไปตามเงาดำเพื่อหาจุดกำเนิดของแรงอาฆาตนี้

“นี่มันชั้น VIP ของโรงแรม ฉันเข้ามาได้รึเปล่านะ แต่ทางมันก็โล่งแปลก ๆ คงเดินเข้ามาได้อยู่ละมั้ง” ฉันเดินไปบ่นไป ใจก็ไม่อยากจะเข้ามายุ่งวุ่นวายหรอก แต่แรงอาฆาตนี้เหมือนกำลังเรียกฉัน หากกลับไปดื้อ ๆ มีหวังว่าความสุขในชีวิตจะถดถอยไปอีกจากที่เป็นแน่

ฉันเดินมาจนถึงประตูห้องหนึ่ง รังสีอาฆาตรุนแรงกว่าเคย ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งรู้สึกไม่ดี จนอยากจะอ้วก 

‘ในห้องนี้มีผีกี่ตนกันแน่เนี่ย’ ฉันรู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่ผีตนเดียวแน่ ๆ คนที่ถูกตามจองล้างจองผลาญเขาทนอยู่มาได้ไงนะ

‘จะเคาะห้องเขาดีมั้ย เขาจะหาว่าเราเสือกรึเปล่าวะ’ ฉันคิดในใจพลางเดินวนไปวนมาอย่างครุ่นคิดจนสุดท้ายก็เลือกที่จะเคาะประตูนั่นไป

“เอาวะ เป็นไงเป็นกัน”  ฉันกุมหน้าอกตัวเอง ทำใจที่จะเสือกกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ก่อนจะยกมือเคาะประตูนั่นไป

‘ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก’ ฉันเคาะประตูไป ทันใดนั้นฉันได้ยินเสียงตะโกนแผดออกมาดังมาก

“เข้ามา” เสียงอันดุดันนั้นทำให้ฉันก้าวขาไม่ออก ใครจะเดินเข้าไปห้องของคนที่ไม่รู้จักกันละ ฉันแค่มาตามเสียงเรียกของผีก็เท่านั้น

“ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก” ฉันยังคงเคาะประตูอยู่ที่เดิม จากนั้นเสียงสถบดังก็แผดแรงมาอีกหน

“พูดไม่รู้เรื่องรึไงวะ” เหมือนเสียงอันดุดันนี้จะดังมากกว่าเดิมราวกับเจ้าตัวนั้นอยู่ด้านหน้าเพียงแต่ประตูนั้นยังกั้นไว้

ประตูเปิดขึ้นอย่างเร็ว แต่ฉันยังไม่ทันได้มองคนตรงหน้า มือของเขาก็ปรี่เข้ามาจับต้นคอฉันก่อนอย่างจัง

เมื่อสองสายตาประสานทั้งฉัน และ เขา เราทั้งคู่ต่างตกอยู่ในภวังค์หลุมอากาศอะไรสักอย่าง สำหรับฉัน รูปร่างที่ดี ใบหน้าที่หล่อคมกริบตรงหน้า หากผู้หญิงที่ไหนพาลมาสบตารับรองได้ว่าสามารถตกอยู่ในภวังค์แห่งการลุ่มหลงได้ไม่ยาก

แต่มันไม่ใช่สำหรับฉัน เพราะตอนนี้สิ่งที่ทำให้นัยน์ตาคู่สวยของฉันเบิกตาโพลงมากกว่า คือกลุ่มผีจำนวนมากที่อัดแน่นไปทั้งห้อง โดยที่ไม่มีใครมองเห็นนอกจากฉัน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • HEART EYES ดวงตาสื่อรัก   31. ความเป็น ความตาย–

    31- ความเป็น ความตาย–“ช่วยด้วย......” ร่างของฉันกระตุกดีดตัวขึ้นร้องเสียงดังไปทั่วห้อง ดวงตาบวมเป่งจากการร้องไห้อย่างหนัก ใบหน้าผุดเหงื่อจากอาการหวาดผวา ฉันหอบหายใจรัวระรินราวกับขาดอากาศหายใจเจียนตาย นั่นมันไม่ใช่ความฝันหรอก แต่สถานที่แห่งนั้นคือเส้นแบ่งระหว่างความเป็นกับความตาย ฉันนึกว่าฉันจะไม่รอดกลับมาในโลกคนเป็นซะแล้ว พอคิดแบบนั้นก็พาลทำให้รู้สึกแย่แทบบ้าแล้วอะไรที่ทำให้ฉันกลับมาได้กันนะ นั่นคือสิ่งที่สมองฉันกำลังคิด“เป็นอะไร ฝันร้ายเหรอครับ” เสียงเข้มดังขึ้นนั่นจึงทำให้ฉันหลุดจากภวังค์เหม่อลอย ฉันเพิ่งจะรู้ตัวว่า มือของฉันถูกกุมไว้ด้วยมือหนาตั้งแต่ต้น และเขาเองก็นอนอยู่ข้าง ๆ ฉันมาตลอด เพียงฉันหันหน้าไปมองเขาความกลัวจนอกสั่นขวัญแขวนก็พลอยรู้สึกปลอดภัยขึ้นเขาละมือหนาออกจากมือฉันก่อนจะดึงฉันเข้าสวมกอดพลางลูบหัวอย่างอ่อนโยน“ฝันร้ายเหรอครับ ไม่เป็นไรผมอยู่ตรงนี้ตลอด คุณจะไม่เป็นไร คุณฟ้า” เพียงคำพูดของเขาเปล่งออกมา นั่นก็ทำให้ฉันร้องไห้ขึ้นอีกครั้ง มันไม่ใช่น้ำตาแห่งความกลัว หรือ เสียใจ แต่มันเป็นน้ำตาแห่งความรู้สึกดี อบอุ่นซาบซึ้งใจจนเอ่อล้นสองมือของฉัน โอบกอดเอวของเขาก่อนจะซ

  • HEART EYES ดวงตาสื่อรัก   30. รู้ว่าเสี่ยง...แต่คงต้องขอลอง

    30- รู้ว่าเสี่ยง...แต่คงต้องขอลอง –ฉันคว้ากระเป๋าเดินออกจากห้องพลางมองนาฬิกาข้อมือ“21.00 น. ยังพอมีเวลา น่าจะได้ความคืบหน้าอะไรมาสักหน่อยล่ะนะ” ฉันเดินตรงดิ่งผ่านตึก B ซึ่งฉันมีบัตรผ่านอยู่เพราะเป็นผู้ร่วมดูแลความรับผิดชอบ แต่เมื่อไปเกือบถึงตึก C ฉันก็ต้องค่อย ๆ ลัดเลาะมองซ้ายขวาเพื่อไม่ให้ใครสังเกตเห็น ขืนมีคนมาเห็นเข้ามีหวังโดนมองเป็นผู้ต้องสงสัยไปอีกคนฉันเดินมาจนถึงทางเข้าตึก C ทางหนึ่งซึ่งไม่ใช่ทางหลัก พยายามยืนนิ่ง ๆ ก่อนที่ผีคุณปานจะปรากฏ“คุณปานว่าไงคะ ได้คุยกับวิญญานตนนั้นรึยัง” ฉันหันไปพูดกับผีคุณปานที่ตอนนี้ลอยอยู่ใกล้ ๆ ฉัน‘ค่ะ แต่ เขา ยัง เอา แต่ เสีย สติ เพราะ บ่วง ห่วง อยู่ ค่ะ ไม่ ต่าง จาก ปาน’ ผีคุณปานพูดด้วยความหดหู่ ทั้งที่เรื่องเขาเองก็น่าหดหู่อยู่แล้ว“คุณปานช่วยทำยังไงก็ได้ให้เขามาตรงนี้ได้มั้ยคะ คือฟ้าเข้าไปด้านในไม่ได้จริง ๆ มันอันตรายเกินไป” ฉันทำหน้าวิงวอนผีคุณปาน ซึ่งเธอก็พยักหน้ารับก่อนจะหายวับไปอีกครั้งฉันเดินไปมาเงียบ ๆ พลางก้มมองดูนาฬิกา ด้วยใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ เพราะไม่อยากอยู่นานกลัวถูกจับได้ฉันกัดนิ้วหัวแม่โป้งด้วยความกังวลจนเป็นรอย ไม่นานผีคุณปานก

  • HEART EYES ดวงตาสื่อรัก   29. คดีอุบัติเหตุ หรือ ฆาตกรรม –

    29- คดีอุบัติเหตุ หรือ ฆาตกรรม –หลังว่าสาย ไม่มีคำพูดใด ๆ ของพวกเรา ต่างคนต่างรีบจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ เก็บของสำคัญลงกระเป๋าก่อนจะรีบวิ่งแจ้นออกจากบ้านไปที่รถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้านทันที‘บรืน............’ รถของพวกเรามุ่งหน้าไปทางท่าเรืออย่างเร่งด่วนตอนนี้ ไม่มีเวลาแม้แต่จะสนใจกัน ใบหน้าของคนขับรถเข้มดุ คิ้วขมวด กัดริมฝีปากบ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์ส่วนฉันเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เมื่อปลายสายที่โทรเข้ามาคือไอ้กรณ์ มันโทรมาเพื่อจะถามข่าวเกี่ยวกับศพบนโรงแรมที่กำลังเป็นข่าวไปทั่วเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน แต่เพราะฉันไม่ได้อยู่ที่นั่น เลยให้คำตอบมันไม่ได้ฉันก็ต้องตื่นตระหนกอยู่แล้ว เพราะทำงานที่นั่น แต่คนที่ควรจะเครียดมากกว่าฉัน มันก็ต้องเป็นคนข้าง ๆ อย่างเขาเนี่ยแหละ เพราะโรงแรมแห่งนี้ยังไม่ทันจะเปิดให้บริการแต่กลับมีศพบนเกาะแน่นอนว่าถ้าข่าวสะพัดไปเป็นวงกว้าง ผลกระทบที่ตามมามันมากมายแน่นอนเรามาถึงท่าเรือ และเลือกที่จะนั่งสปีดโบ๊ทเพราะต้องการไปถึงเกาะให้เร็วที่สุด เมื่อเรือเทียบท่า คุณเอ็ดเวิร์ดก็เดินเข้มเข้าไปในโรงแรมทันทีพร้อมกับเรียกประชุมด่วนของพนักงานในบริษัท (ก็ไม่ได้เกี่ยวกับฉันล่ะนะ)ฉันเด

  • HEART EYES ดวงตาสื่อรัก   28. อยากรักต้องกล้าหน่อย

    28- อยากรักต้องกล้าหน่อย –เช้าวันใหม่ฉันตื่นขึ้นมาหาววอด ๆ พลางกะพริบตาถี่ ๆ เพื่อค่อย ๆ รับแสง อาทิตย์ที่สาดเข้ามาผ่านกระจกระเบียงพอสร่างเมาแล้วความคิดต่าง ๆ ก็ถาโถมเข้ามาในสมองไม่หยุดไม่หย่อนฉันรู้ว่าตัวฉันไม่สามารถจะโหวกเหวกโวยวายได้ เพราะเวลาฉันเมาแล้วนั้น มันมักจะลืมตัวทำอะไรในแบบที่ปกติฉันไม่มีทางทำแน่ ๆแต่มันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันหงุดหงิดทุกทีจริงๆ ขนาดฉันปล่อยเนื้อปล่อยตัวขนาดนี้ เขาแค่นอนทื่อ ๆ สวมกอดฉันก็เท่านั้น พาลทำให้หงุดหงิดอะไรก็ไม่รู้ จนตอนนี้อยากจะลุกขึ้นออกไปสูดอากาศให้รู้สึกหัวโล่งซะหน่อยเพียงที่ฉันคิดจะลุกขึ้น ฉันก็รู้สึกว่าร่างของฉันถูกพันธนาการด้วยสองแขนแกร่งแน่น ใบหน้าของเขาอยู่ไม่ห่างจากใบหน้าฉันมากนัก มันสามารถมองชัดจนเห็นขนตางอนของเขาที่รับกับใบหน้าได้เลยฉันจึงไม่พยายามขยับอีกเพราะกลัวเขาตื่น แต่กลับจ้องมองเขาด้วยความถวิลหา อิฟ้ามันก็ผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้ชายหล่อมาก ๆ ก็ค่อนไปทางสเปกแถมอยู่ห่างไม่ถึงคืบจะไม่ให้หวั่นไหวได้ไงอ่ะพวกแก“คุณฟ้า จะจ้องผมนานมั้ยครับ” เสียงเข้มแหบพร่า เพราะว่าเพิ่งตื่นนอนเอ่ยขึ้น แต่ดวงตาของเขาก็ไม่ได้เปิดออกแต่อย่างใด“ฉันไม่

  • HEART EYES ดวงตาสื่อรัก   27.  ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ(2)

    27- ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ(2) –ฉันพูดออกไป พลางเกยคางสะอื้นเบา ๆ เงียบ ๆ แบบนั้น เรี่ยวแรงหายหมด ทั้งยังปวดหัวตึก ตึก เป็นระยะ“คุณฟ้า...” เสียงเขาเรียกฉัน นั่นทำให้ฉันขยับใบหน้าเอียงมองเขาด้วยสายตามที่พริ้มด้วยอาการที่ยังมึนเมาค้างอยู่“คะ???”“ผมบอกคุณว่าวันนี้ไม่ต้องมาห้องผม แต่ผมไม่ได้บอกให้คุณออกมาเที่ยวนะครับ”“ละ..แล้วทำไมฉันจะออกมาเที่ยวไม่ได้ละคะ”“ก็คุณฟ้า พึ่งจะไม่สบายมานะครับ ผมก็เลยไม่ให้คุณมาห้องผม”“ไม่ใช่ว่าวันนี้ คุณต้องนอนกับผู้หญิงคนนั้นเหรอคะ” ฉันเอ่ย หน้าเอียงคอถามเขา“ผู้หญิงคนนั้น?? คนไหน” เขาเอ่ยเสียงทุ้มเข้มมองหน้าฉันคิ้วขมวด เหอะ.... คงเยอะจนไม่รู้ว่าใครเป็นใครล่ะสิ“ก็คนสวย ๆ ในห้องทำงานของคุณเอ็ดเวิร์ดไงคะ ทำเป็นจำไม่ได้ ออกจะทอดสายตาหวานซึ้งขนาดนั้น” ฉันพูดพลางเบือนหน้าเกยบ่าเขาไป เพราะจู่ ๆ ก็รู้สึกหงุดหงิดทุกทีที่คิดถึงผู้หญิงคนนั้นของเขา“หึ... นี่คุณหึงผมเหรอคุณฟ้า” เพียงคำนั้นของเขาทำให้ฉันสะดุ้งมองหน้าเขาอย่างลนลาน“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงคะ ใคร..ใครหึงคุณกัน คุณจะนอนกับใครอะไรที่ไหนก็เรื่องของคุณเอ็ดเวิร์ดอยู่แล้ว ฉันเป็นแค่ลูกจ้าง ไม่ใช่ผู้หญิง

  • HEART EYES ดวงตาสื่อรัก   26.  ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ(1)

    26- ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ(1) –เขาอุ้มฉันจะออกมาด้านนอก จวบจนเดินมาถึงรถยนต์ของเขา ความรู้สึกอึดอัดพาลให้ฉันหายใจโล่งขึ้น ใบหน้าของเขาพลันปรากฏต่อสายตาฉันชัดเจน และใกล้จนเขาน่าจะสามารถรับรู้การหายใจถี่ ๆ ขอฉันได้ ทำไมนะเหรอ ก็หัวใจเจ้ากรรมดันเต้นแรงตึกตัก ไม่รู้เพราะเมาเหล้า หรือเมารักแต่ถึงยังไงฉันก็ไม่อยากไปกับเขาหรอก พอคิดว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรกับฉัน แถมเขาก็เพิ่งจะแยกกับผู้หญิงคนนั้นมา พาลทำให้ฉันอารมณ์เสียถ้าเขาจะงุนงง ว่าฉันเป็นบ้าอะไรคงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะฉันก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าเป็นบ้าอะไร เรื่องงานฉันอาจจะเก่ง คิด วิเคราะห์ แยกแยะ แต่กับเรื่องความรักฉันไม่สันทัดจริง ๆ“คุณจะปล่อยฉันได้รึยัง” เพียงฉันพูดออกมา เขาก็คลายแขนปล่อยให้ฉันลง ฉันหันไปคว้ากระเป๋าใบเล็กของฉันที่เขาถืออยู่ก่อนจะหันหลังเดินออกไปดุ่ม ๆ มุ่งไปทางออกถนนใหญ่แบบไม่พูดอะไรถึงท่าเดินที่ไม่เป็นเส้นตรง แถมสายตาก็เบลอ ๆ ก็ไม่ทำให้ฉันกลับไปกับเขาหรอก“นั่น.... คุณจะไปไหน” เสียงของคุณเอ็ดเวิร์ดพูดตามหลังฉัน“กลับบ้าน....สิ” ฉันหันไปมองเขาพร้อมกับพูดไปแบบนั้นก่อนจะหันเดินต่อเพื่อออกไปยังถนนใหญ่“ผมบอกให้คุณ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status