Home / วัยรุ่น / ์Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก / Nevermind :: CHAPTER 8 แค่จูบเท่านั้น [100%]

Share

Nevermind :: CHAPTER 8 แค่จูบเท่านั้น [100%]

Author: Sweet_Moon
last update Huling Na-update: 2025-05-12 16:56:21

Nevermind : 8

แค่จูบเท่านั้น

คืนนี้ฉันเอาแต่นอนกระสับกระส่ายจนเวลาล่วงเลยมาเกือบตีสอง หันไปมองร่างสูงที่นอนคว่ำอยู่บนเตียงและหลับไปแล้วซึ่งคุณองศากลับมาค่อนข้างดึกมาก มารู้อีกทีคือเขามานอนข้างเตียงเป็นที่เรียบร้อย เหงื่อตามร่างกายของฉันผุดขึ้นมาโดยอัตโนมัติพร้อมท้องที่เกิดอาการหน่วงขึ้นมาเสียดื้อๆ ฉันลุกขึ้นนั่งทั้งที่แอร์ก็เย็นจนร้อนๆ หนาวๆ มองชุดนอนที่เป็นแบบชุดเย็บลูกไม้ตรงหน้าอกทั้งสองเนื้อผ้าซาตินสีแดงที่เป็นสีโปรดของคุณองศา มือหนึ่งกุมหน้าท้องตรงเข้าห้องน้ำและพอนั่งลงเท่านั้นล่ะ ฉันถึงได้รู้ว่าไอ้อาการที่เกิดขึ้นมันคืออะไรกันแน่ ลุกเข้าไปห้องแต่งตัวเปิดลิ้นชักหาอะไรบางอย่างซึ่งจำได้ว่าฉันซื้อมาด้วยนี่นาแต่ตอนนี้มันเหลือเพียงแค่ซองเปล่าเท่านั้น

ตายห่า... ทำยังไงดีล่ะเนี่ย

ออกจากห้องแต่งตัวมาถึงเตียงนอนมองฝั่งที่นอนของฉันไม่ได้เลอะก็โล่งใจกลัวว่าจะต้องซักมันออกยากซะด้วย ทิ้งตัวลงนั่งคุกเข่าบนพื้นพรม วางมือบนท่อนแขนแกร่งและเขย่าไปมาเบาๆ แต่คุณองศาก็ไม่ตื่น

“คุณองศาคะ” ฉันเอ่ยเรียกเขาก็ยังคงนิ่ง เขย่าตัวเขาเป็นผลเมื่อเปลือกตาลืมขึ้นมองหน้าฉัน

“แพรวา”

“คุณองศา”

“เป็นอะไรหรือเปล่า?” เขาผงกใบหน้าขึ้นมามองฉันทั้งที่ดวงตาก็หลับลงด้วย จะบอกเขาดีไหมอะแพรวา เรื่องแบบนี้ไม่อยากบอกให้เขารู้เลยแต่ถ้าไม่บอกก็ไม่ได้ น้ำตาของฉันเอ่อล้นขอบตาจนคุณองศาลืมตาเต็มตื่น “ร้องไห้ทำไม”

“แพร...”

“อ้ำอึ้งทำไม?”

“แพรเป็นเมนส์ค่ะ”

“ห๊า แล้วบอกฉันทำไม”

“ผ้าอนามัยหมดค่ะ” คุณองศาคิ้วขมวดกันทันทีขณะที่ฉันนั่งอยู่บนพื้นพรม “ช่วยไปซื้อให้แพรที่ร้านสะดวกซื้อทีได้ไหมคะ?”

“หะ ให้ฉันไปซื้อเนี่ยนะ” ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองคุณองศาก็ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ฉันซื้อไม่เป็น”

“ซื้อซองแบบนี้มาก็ได้ค่ะ” ฉันยื่นซองผ้าอนามัยที่ตัวเองใช้ส่งให้คุณองศาดู เขาก็หยิบมันไปดูพลางพลิกไปมา

“ฉันก็ยังดูไม่เป็นอยู่ดีนะแพรวา”

“งั้นแพรไปซื้อเองก็ได้ค่ะ” พอเขาปฏิเสธฉันลุกขึ้นยืนแต่คุณองศาก็คว้าข้อมือฉันไว้ก่อน

“โอเค ฉันจะไปซื้อให้ ไม่ต้องร้อง”

คุณองศาเช็ดน้ำตาให้ฉันก่อนจะลุกจากเตียงหยิบเสื้อยืดสีขาวมาสวมแค่ตัวเดียว หยิบกระเป๋าเงินพร้อมซองผ้าอนามัย ฉันก็เดินเข้าครัวไปต้มน้ำร้อนชงน้ำขิงดื่มเวลาเป็นเมนส์ทีไรฉันมักจะปวดท้องตลอดเวลา ดีนะที่ยาแก้ปวดท้องเมนส์มีฉันต้องกินก่อน ตรงเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระคราบเลือดที่ไหลเป็นทาง นุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวยืนรอเขาที่หน้าประตู ลงไปเกือบสิบนาทีแล้วนะ จำได้ว่าเดินไปไม่ไกลเท่าไหร่มีร้านสะดวกซื้ออยู่

มองประตูที่เปิดขึ้นก็ต้องขมวดคิ้วที่คุณองศาหิ้วถุงพลาสติกมาแบบใหญ่มาก เขาก็ยื่นมันมาให้ฉันถึงได้รู้ว่าเขาเหมาผ้าอนามัยมาให้ฉันแบบเกือบยี่สิบห่ออะ เมื่อได้มาฉันก็รีบเข้าห้องน้ำทุกอย่างเรียบร้อยก็หยิบชุดนอนสีแดงเซ็กซี่ดีเทลผ้าตาข่ายร่องอกซึ่งพอเป็นเมนส์ทีไรทรวงอกของฉันจะใหญ่โตกว่าเดิมประมาณสองเท่าได้ เดินออกมาจากห้องแต่งตัวไปยังเตียงนอนก็เห็นคุณองศานั่งอยู่ตรงปลายเตียง

“เป็นไงบ้าง?”

“ปวดท้องนิดหน่อยค่ะ แต่แพรกินยากินน้ำขิงแล้วค่ะ” ตอบคุณองศาฉันก็เดินไปนั่งที่โซฟาเบดปรับนอนที่ติดริมกระจกสีดำราคาเป็นแสนนะตัวนี้ “แพรขอนอนบนโซฟานะคะ กลัวเปื้อนเตียงนอน”

“...” เอาผ้าสีดำมาปูรองนอนอีกที ฉันยังไม่ทันได้นอนเลยก็เห็นร่างสูงที่ถอดเสื้อยืดสีขาวออกเรียบร้อย ทิ้งตัวลงกึ่งนั่งกึ่งนอนตรงพนักโซฟามีหมอนอิงที่คุณองศาเอาซ้อนขึ้น เขาแยกขาออกพลางตบเบาๆ ให้ฉันไปนอนแทรกตรงกลาง

“เดี๋ยวปวดหลังนะคะ คุณองศานอนที่เตียงเถอะค่ะ”

“มานี่” คำสั่งของเขาเด็ดขาด ฉันก็ยอมที่จะขึ้นไปนอนบนตัวของเขาแน่นอนว่านอนทับแบบนี้รู้ถึงความนูนใหญ่ที่เด่นหราออกมาเลยล่ะ คุณองศาดึงผ้าห่มคลุมร่างกายของเราสองคน ฉันแนบใบหน้าลงกับแผงอกแกร่งท่อนแขนของเขาโอบคอฉันไว้จนฝ่ามือเฉียดโดนทรวงอกฉันด้วย หลับตาลงซุกหน้าตรงตำแหน่งลำคอแกร่งที่หอมเย้ายวน “เป็นเมนส์ทีไร จะเป็นแบบนี้ตลอดเลยหรือไง?”

“ค่ะ” ตอบคำถามคุณองศาทั้งที่หลับตาอยู่ ฉันก็กอดร่างใหญ่อบอุ่นนี้อย่างแนบแน่น “บางทีแพรก็ป่วยด้วย”

“ใช่ไหม ตัวอุ่นๆ นะ” น้ำเสียงแหบพร่ากระซิบมาที่ข้างใบหู ฉันจึงลืมตาเงยหน้ามองคุณองศาที่มองฉันอยู่ก่อนแล้ว กระทั่งใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาใกล้มากขึ้น จนลมหายใจของเราผสานกันไปมา

“จูบแพรได้ไหมคะ?”

“...” คุณองศาชะงักริมฝีปากที่กำลังขยับเข้ามา ดวงตาของเราผสานกันและกันราวกับว่าโดนดึงดูดเข้าหากัน อารมณ์ของฉันจู่ๆ มันก็พลุ่งพล่านขึ้นมา ทั้งที่ไม่ได้ดื่มเหล้าด้วยซ้ำ

“แพรทำตัวไม่ดีกับคุณองศาอีกแล้ว” ฉันพึมพำออกมา กระทั่งคุณองศาเอื้อมมือมาช้อนปลายคางฉันให้เชิดหน้าขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาเอียงองศาของใบหน้าโดยไม่พูดไม่จาอะไรเลยแม้แต่คำเดียว รับรู้แค่ว่าเวลานี้ริมฝีปากของเราสองคนได้แนบชิดกันมากขึ้น ดวงตาของฉันหลับลงโดยอัตโนมัติตามด้วยมือที่ลากไล้ตั้งแต่ไหล่ของเขามาถึงท้ายทอย สอดนิ้วมือเข้าไปในเรือนผมและจิกเบาๆ เพื่อระบายความรู้สึกที่เกิดขึ้น คุณองศากดแนบจูบแน่นขึ้นจนฉันเจ็บที่ริมฝีปากตัวเอง นี่เป็นจูบแรกของฉันเลยนะ จูบที่ฉันไม่เคยสัมผัสและไม่เคยรับรู้ว่ามันดีขนาดนี้ ยิ่งเป็นคุณองศา... ฉันเชื่อว่าเขาทำมันได้ดีมากกว่านี้แน่

ฝ่ามือของคุณองศาจากที่บีบปลายคางฉันแน่น เวลานี้เขาเลื่อนมาประคองแก้มฉันตามด้วยการเกี่ยวสายเดี่ยวชุดนอนของฉันหลุดออกจากไหล่ ร้องครวญครางออกมาไม่เป็นภาษาขณะที่คุณองศาถอนริมฝีปากออกไปอย่างอ้อยอิ่ง ดวงตาของเราผสานกันและกัน ตามด้วยลมหายใจที่หอบถี่คุณองศาพลิกตัวให้ฉันเป็นฝ่ายนอนและเขากึ่งทับตัวฉันแค่ช่วงบนเท่านั้น คุณองศาพรมจูบแก้มฉันมาถึงเปลือกตาและมาจบที่ริมฝีปากของฉันอีกครั้ง ยามที่ริมฝีปากของเขาบดคลึงขบกัดฉันก็เลื่อนท่อนแขนทั้งสองโอบกอดลำคอของเขาไว้จิกเล็บยาวๆ ระบายบนผิวเนื้อแผ่นหลัง คุณองศาใช้ลิ้นร้อนดุนดันริมฝีปากของฉันให้เปิดออกกว้างยังไม่ทันได้หายใจเข้าด้วยซ้ำ ลิ้นร้อนก็เข้ามาภายในโพรงปากตวัดดูดดึงลิ้นของฉันจนพยายามดันลิ้นเขาให้ออก ทว่าเป็นการกระทำที่สูญเปล่าจริงๆ ปากของเราเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายที่แลกกันอย่างเมามัน ขอใช่คำนี้นะ เพราะคุณองศาเอาแต่ตักตวงโพรงปากของฉันอย่างหื่นกระหายทั้งที่ก่อนหน้านั้นเขาทำมันอย่างอ่อนโยน

“อื้ม” ครางประท้วงจนคุณองศาค่อยๆ ถอนจูบออกจนน้ำลายของเรายืดยาว ฉันหอบหายใจหนักทันทีที่สบตาของเขาที่เต็มไปด้วยความต้องการอย่างมากล้น คุณองศาดึงท่อนแขนฉันออกจากลำคอจากนั้นก็สอดประสานนิ้วกับนิ้วมือฉันและแนบลงกับโซฟาไม่ให้ฉันขยับถึงจะขยับก็คงสู้แรงเขาไม่ได้ ใบหน้าหล่อเหลาซุกไซ้ซอกคอฉันทันทีจนเชิดหน้าขึ้นให้เขาได้พรมจูบตามที่ต้องการ เขาขบเม้มลำคอของฉันและกัดเบาๆ จนฉันกัดปากตัวเองแน่น

ไม่มีเลยความรู้สึกที่นึกรังเกียจ ไม่มีการผลักไสด้วยซ้ำไป... เพราะว่าคุณองศาคือผู้ชายที่ฉันมอบชีวิตให้เขา

“พอเถอะ” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้น “ฉันทำกับเธอแบบนี้ไม่ได้แพรวา”

“...”

“เธอเป็นเหมือนน้องสาวฉัน และฉันทำแบบนี้กับน้องสาวไม่ได้”

“คุณองศา”

“เธออย่ายั่วฉันอีก เพราะถ้าบ่อยครั้งฉันคงไม่เอ่ยปากหยุดแบบนี้แน่”

“แพรทราบค่ะ”

ให้คำมั่นสัญญากับคุณองศาขณะที่เขาพาตัวเองออกจากตัวฉันและนั่นทำให้น้ำตาของฉันเอ่อล้นอีกครั้ง เวลาไม่ได้เป็นเมนส์อารมณ์อ่อนไหวฉันแทบไม่มีด้วยซ้ำ ทำไมแค่คำพูดของคุณองศาที่ไม่ได้ด่าทอฉัน กลับทำให้รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาเสียดื้อๆ ก็ไม่รู้สิ พลิกตัวนอนตะแคงข้างขดตัวดึงผ้าห่มมิดลำคอ เปลือกตาปิดลงอัตโนมัติพร้อมน้ำตาที่ยังคงไหลรินหางตาไม่ขาดสาย ฉันเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหวนคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นไปได้ยังไงกัน 

ตื่นขึ้นมาช่วงเวลาแปดโมงกว่าได้ ฉันรีบกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งมองข้างกายก็ไม่พบคุณองศา หนำซ้ำบนเตียงก็ว่างเปล่า พอคิดได้ว่าตัวเองเผลอบอกพูดอะไรไปแบบนั้นและรีบเอามือแตะริมฝีปากตัวเอง ฉันจะมองหน้าคุณองศายังไงดี เขาเหมือนโกรธฉันจริงๆ แล้วรอบนี้ ฉันไม่ควรที่จะร้องขอให้เขาช่วยทำแบบนั้นให้ ฉันไม่ควรทำแบบนั้นกับผู้มีพระคุณของตัวเอง แค่คิดว่าจูบเมื่อคืนทำให้คุณองศารู้สึกแย่ ฉันก็อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาด ลุกขึ้นตรงเข้าห้องน้ำชำระร่างกายแต่งตัวด้วยชุดทำงานซึ่งโทรบอกพี่วันว่าฉันจะเข้าไปสายหน่อย

“แพรวาครับ”

“อ้าว คุณนนท์” กำลังยืนดื่มน้ำขิงเพื่อให้ร่างกายไม่เพลียและอาการปวดท้องก็จางหายไปอาจด้วยเพราะฉันหลับไปด้วย “หิ้วอะไรมาด้วยคะเนี่ย”

“คุณองศาให้ผมเอาโจ๊กกับยามาให้ครับ เห็นบอกว่าแพรวาเป็นประจำเดือน”

“อ๋อ แล้วคุณองศาล่ะคะ?”

“ออกไปตั้งแต่เช้าแล้วครับ มีงานด่วน” มีงานด่วนหรือไม่อยากเห็นหน้าฉันแน่ แหงสิ ฉันเองก็สู้หน้าเขาไม่ได้ “ไม่พักก่อนเหรอครับ จะไปทำงานจริงๆ เหรอ”

“ค่ะ แพรไหวคุณนนท์ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”

“ก็ถ้าไม่ไหวโทรหาผมได้เลยนะ ผมจะไปรับ”

“งั้นไปกันเถอะค่ะ”

คุณนนท์พาฉันมาส่งที่ห้างสรรพสินค้าในเวลาต่อมา เขาไม่ได้เข้ามาส่งถึงที่ร้านหรอกนะเพราะฉันปฏิเสธเนื่องจากเขาเองก็มีงานทำจะให้มาเฝ้าฉันตลอดมันก็คงไม่ได้หรอก ฉันวางถุงโจ๊กไว้ในรถคุณนนท์ให้เขาเอาไปกิน เข้ามาถึงร้านฉันก็จัดแจงของทุกอย่างกับมุกที่ถามว่าป่วยหรือเปล่าก็เลยบอกเพื่อนไปว่าเป็นเมนส์ ฉันอยู่ร้านกาแฟจนถึงทุ่มครึ่งก็เตรียมที่จะเก็บของเพื่อกลับห้อง เอาจริงยังไม่อยากกลับเลยนะ ไม่อยากมองหน้าคุณองศานานๆ

เพราะว่า... สิ่งที่เขาสร้างไว้ตรงลำคอฉันหนึ่งจุดเนี่ยล่ะ รอยคิสมาร์กไง ดีนะรอยไม่ใหญ่มากแค่เป็นจ้ำเล็กๆ มุกเห็นยังถามเลยว่าไปโดนอะไรมา ฉันก็เลยโกหกว่าเกาแรงไปหน่อย ดีนะที่มุกไม่ได้สงสัยอะไร สำคัญคือคอเสื้อเชิ้ตก็ปกปิดรอยนี้ได้

“รับอะไรดีคะคุณลูกค้า ร้านใกล้ปิดแล้วค่ะ” ฉันพูดโดยไม่มองลูกค้ากระทั่งผละสายตาจากการเอาเค้กลงกล่องกลับไปกินที่ห้อง รอยยิ้มก็ผุดขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

“คาราเมล...”

“คาราเมลมัคคิอาโต้หนึ่งใช่ไหมคะ?”

“ความจำดีมาก” คุณธามยิ้มเอ็นดูที่ฉันพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่เขาจะได้สั่งกาแฟ ฉันจัดการทำกาแฟแก้วสุดท้ายให้เขาที่ยืนอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์บาร์โดยที่มองฉันอยู่

“วันนี้คุณธามมาดึกนะคะ”

“พอดีฉันเพิ่งเลิกงานน่ะ เธอล่ะจะไปไหนต่อ” คำถามของคุณธามทำให้ฉันส่ายหน้า “อยากไปนั่งเล่นที่ริมน้ำไหม?”

“คะ ริมน้ำเหรอ”

“ใช่ แล้วแต่เธอนะ” คุณธามรับแก้วกาแฟไปนั่งรอที่เก้าอี้ทางเข้าออกร้าน ฉันไม่ได้ตกลงหรอกนะแต่ถึงเวลาที่จะต้องเก็บของเพื่อปิดร้าน ซึ่งเขาก็รอจนถึงร้านปิดฉันก็โบกมือบ๊ายบายมุกที่แฟนหนุ่มมารอรับ หันไปสบตากับคนตัวสูงที่หัวฉันอยู่ตรงไหล่เขาพอดิบพอดี “เธอกลับยังไง?”

“คุณธามยังอยากไปนั่งเล่นที่ริมน้ำอยู่ไหมคะ?”

“อยากสิ”

“งั้นฉันจะไปกับคุณค่ะ”

“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว” อ้าว มาเปลี่ยนใจตอนที่ฉันตกลงเนี่ยนะ พอคุณธามเห็นสีหน้าอึ้งๆ ของฉันก็ยกยิ้มมุมปาก เอานิ้วชี้จิ้มหน้าผากจนสติของฉันกลับมา “เปลี่ยนเป็นนั่งเรือชมวิวแม่น้ำดีกว่า”

“จริงเหรอคะ? แต่มันเป็นยังไงอะคะ”

“ต้องลองสิ ฉันไม่บอกเธอหรอก” ย่นจมูกใส่คนตัวสูงที่เดินนำฉันมาถึงรถเบนซ์สีดำเงาสี่ประตูที่มีคนขับรถของเขาเปิดประตูให้ขึ้นไปนั่งรถที่มีกลิ่นหอมมากๆ คนของคุณธามนั่งอยู่ด้านคนขับถึงสองคนเลยล่ะ แถมยังมีรถตามหลังมาด้วย “บอกเรือเราที่กำลังจะออกให้รอก่อน เคลียร์ชั้นดาดฟ้าเรือให้กูด้วย”

“ครับคุณธาม” คนของคุณธามทำตามคำสั่งเขา ขณะที่รถก็เคลื่อนตัวไปยังริมแม่น้ำใจกลางเมือง

“คุณธามไม่ได้ขับรถเองเหรอคะ?”

“ขับบ้าง แต่เธอก็รู้ว่าฉันขับไม่ได้เพราะอะไร”

“จริงด้วย”

เขาเป็นโรคกลัวความมืดขั้นรุนแรงจะให้ขับรถเองก็คงยังไงอยู่ คิดดูนะขนาดในรถยังเปิดไฟสว่างเลยทั้งที่ปกติรถจะมืดเวลาสัญจรไปไหนถูกปะ นี่แบบแสงไฟส่องให้เห็นใบหน้าของเราสองคนที่มองสบตากันอยู่ สายตาของเขาที่มองฉันดูอ่อนโยนมากๆ เลยนะ แบบว่ายังไงอะเวลาดวงตาคู่นี้มองมาทำให้ฉันรู้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่ไม่ได้เลวร้ายหรอกมั้ง... เพิ่งจะรู้จักกันก็คงจะตัดสินใจจากรูปลักษณ์ภายนอกก็ไม่ได้ด้วยสิ ฉันเหลือบมองสร้อยคอของเขาอีกครั้งที่ยังคงไม่เห็นว่าสร้อยที่เขาห้อยคอ เป็นแบบไหนแต่ก็ช่างเถอะนะ

รถของคุณธามจอดที่ท่าเทียบ ตอนที่ฉันลงจากรถก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจที่เห็นเรือสำราญสีขาวลำใหญ่มาก ดูหรูหราสุดๆ ก็คงจะเป็นแขกที่ขึ้นเรือเป็นชาวต่างชาติส่วนหนึ่งนะ ด้านบนจะเป็นแบบเปิดโล่งรับลมแม่น้ำและได้มองวิวได้แบบ 360 องศาเลย คุณธามจับต้นแขนฉันและพาเดินลงเรือไปจากนั้นก็พาขึ้นไปชั้นดาดฟ้า มีโต๊ะอาหารเรียงรายอยู่หลายโต๊ะเลย คุณธามเลือกนั่งโต๊ะริมแถวท้าย โอ้โห...

“สวยจัง”

“เดี๋ยวเรือล่องจะสวยกว่านี้”

“แล้วเรือจะล่องนานไหมคะ?” ฉันเอ่ยถามคุณธามขณะเอากระเป๋าผ้าวางไว้ที่เก้าอี้ข้างกายที่ว่างอยู่

“ประมาณหนึ่งชั่วโมง”

“งั้นก็ไปทุกที่ที่แม่น้ำจะไป ใช่ไหมคะ”

“คงใช่นะ”

คุณธามคงมึนงงกับคำพูดที่ดูตื่นเต้นของฉัน “สั่งอาหารกันเถอะ”

เขาให้ฉันดูรายการอาหารที่ราคาแพงหูฉีกสุดๆ พอเห็นเขาสั่งอาหารจำพวกสเต๊กเนื้อ,อกเป็ดราดซอสสูตรพิเศษ,หอยแมลงภู่อบซอสไวน์ขาวและอีกมากมายตามด้วยไวน์แดง เรือก็ล่องออกจากท่าเผยให้เห็นวิวสองฝั่งที่สวยงามแม้แต่วัดวาอารามก็ติดไฟสวยที่สุด

“ไม่สั่งอะไรเหรอ?”

“อาหารแพงมากเลยค่ะ ฉันสั่งไม่ลงเลย”

“อยากกินอะไรก็สั่ง เธอไม่ต้องเกรงใจฉันหรอก” ไอ้ที่บอกว่าไม่ต้องเกรงใจน่ะ ต้องเกรงใจมากๆ เลย

“อีกอย่างฉันกินอาหารแบบที่คุณธามสั่งไม่ค่อยเป็นเลยค่ะ”

“งั้นสั่งอาหารไทยสิ อย่าไปคิดถึงเรื่องราคา”

พอคุณธามบอกแบบนี้ฉันก็ไม่เกรงใจแล้วนะ เลือกที่จะสั่งข้าวมาหนึ่งจานแบบเติมได้ตลอดและสั่งต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อนที่น่ากิน,ผัดฉ่าทะเล,ไข่ยัดไส้เต้าหู้หมูสับ

“แค่นี้ก่อนนะคะ ไม่เยอะไปใช่ไหมคะ?”

“ไม่เยอะหรอก เอาไวน์มาก่อน”

“เออ ฉันขอเป็นน้ำเปล่านะคะ” รีบดักก่อนที่คุณธามจะบอกพนักงานให้เอาแก้วไวน์มาให้ฉันด้วย ไม่ขอดื่มอีกต่อไป ต้องรออาหารเกือบยี่สิบนาทีฉันก็เอาแขนเท้ากับขอบเหล็กกั้นเท้าคางมองวิวตรงหน้า หลับตาลงรับลมเย็มๆ ที่ผ่านใบหน้าจนเส้นผมปลิวไสว “คุณธามมานั่งเรือแบบนี้บ่อยหรือเปล่าคะ?”

“ไม่บ่อย” หันไปมองเขาที่มองฉันอยู่ก่อนแล้ว พลางสูบบุหรี่ไปด้วย “ครั้งแรกที่มีเธอมาด้วย”

“...”

“ปกติฉันไม่ค่อยเข้าใกล้ผู้หญิงสักเท่าไหร่”

“ทำไมเหรอคะ?”

“เพราะฉันไม่อยากทำร้ายใคร อาการที่ฉันเป็นน่ะ มันทำร้ายตัวฉันและทำร้ายคนรอบข้าง”

“จริงเหรอคะ”

“อืม”

“คุณธามไม่เห็นทำร้ายฉันเลยนี่คะ” มองใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบนิ่งขณะที่เส้นผมสีดำปลิวไสว ผมคุณธามยาวรากไทรเลยล่ะเพิ่งจะสังเกต “ต้องมีคนที่เข้าใจในสิ่งที่คุณธามเป็นสักวันหนึ่งค่ะ”

“จะไปมีได้ยังไงกัน ใครจะอยากอยู่ใกล้คนที่เป็นโรคจิตเภทอย่างฉันกัน”

“โรคที่คุณธามเป็น ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะคะ เพียงแค่คุณธามต้องดูแลตัวเอง กินยาและทำจิตใจให้สงบ ออกไปท่องเที่ยวบ้างแล้วก็คุยกับใครสักคนที่ทำให้คุณธามรู้สึกไว้ใจ ฉันว่าคุณธามต้องหายค่ะ อาจจะไม่ใช่ตอนนี้ก็ตาม”

“เธอน่ะเป็นคนดีจริงๆ นะ แพรวา” เอ่ยชมฉันและนั่นทำให้ฉันสงสัยมากจำต้องกลับไปหาข้อมูลเกี่ยวกับคุณธามแล้วสิ เขาพูดเองนะว่าตัวเองเป็นโรคจิตเภทฉันเองก็ไม่รู้หรอกว่ามันเป็นยังไงถึงต้องหาข้อมูลของเขา “เธอทำให้ฉันนึกถึงใครคนหนึ่ง ใครคนนั้นที่เคยอยู่ข้างฉันมาก่อน”

“อาหารมาเสิร์ฟแล้วครับ”

ก่อนที่คุณธามจะได้พูดอะไรต่อพนักงานก็นำอาหารที่สั่งมาเสิร์ฟให้กับเราสองคน นั่งกินอาหารบนเรือและได้ดูวิวมันดีจริงๆ นะ ฉันไม่เคยได้ทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลยล่ะ พอคุณธามทำให้ก็รู้สึกขอบคุณเขามากที่พาฉันมากินของอร่อยๆ และได้ดูวิวรอบเมืองจนเรือล่องครบกำหนดเวลาก็มาจอดเทียบท่า เวลาก็ล่วงเลยมาถึงสี่ทุ่มกว่า

“วันนี้ฉันสนุกแล้วก็อิ่มท้องมากเลยค่ะ”

“อืม”

“ขอบคุณคุณธามมากเลยนะคะที่พาฉันมาที่นี่ มันสวยมากเลยค่ะ” หันไปมองเรือสำราญและนักท่องเที่ยวที่เดินออกจากเรือแต่สิ่งที่ทำให้ต้องมึนงงคือบางคนดูหัวเสีย บางคนดูหัวเราะชอบใจ ทำไม... อารมณ์ต่างกันขนาดนั้นล่ะ

“ถ้าเธออยากมาอีก ก็บอกนะฉันจะได้พามา”

“มาบ่อยๆ คงไม่ดีมั้งคะ เสียดายเงินค่ะ” ฉันกระซิบบอกเขาที่หัวเราะออกมาเบาๆ “งั้นฉันไปก่อนนะคะ”

“เดี๋ยวฉันไปส่ง”

“ฉันนั่งรถแท็กซี่กลับเองได้ค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ”

“งั้นถึงห้องแล้วส่งข้อความบอกฉัน” มองสมาร์ทโฟนสุดหรูสีดำถูกยื่นมาตรงหน้า ฉันก็รู้ได้ทันทีว่าคุณธามต้องการขอเบอร์ฉัน ก็เลยให้เขาไปอย่างไม่รีรอ “ฉันโทรเข้าไปแล้ว อย่าลืมเซฟเบอร์ไว้ด้วย”

“ค่ะ ฉันกลับก่อนนะคะ”

“กลับดีๆ นะ แพรวา”

 ฉันหันไปมองคุณธามที่หันไปคุยกับผู้ชายแก่คราวตาคนหนึ่ง จากนั้นเขาก็เดินไปที่เรือสำราญ ฉันก็ไม่ได้สนใจเลยเดินมาถึงริมฟุตบาทรอรถแท็กซี่สักพักฉันก็ขึ้นเพื่อกลับไปที่ห้อง ต้องเผชิญหน้ากับคุณองศาใช่ไหมนะ? ไม่อยากเจอหน้าเขาเลยบอกตามตรง ฉันรู้สึกเกลียดตัวเองที่เผลอไผลทำเรื่องบ้าๆ นั้น

แค่สมเพชตัวเอง... สมเพชที่บังอาจไปขอร้องอ้อนวอนคุณองศาให้เขาทำแบบนั้น ฉันเป็นใครและเขาเป็นใคร?

เขาอยู่สูงกว่าฉันมากและฉันก็อยู่ต่ำกว่าเขามาก ไม่มีอะไรเลยเทียบกันได้สักนิด 

*------------------------------------------*

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ์Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก   Special episode :: ขอบคุณเธอที่เข้ามาในชีวิต / ขอบคุณเขาที่มอบทุกอย่างให้ Part.4 [จบบริบูรณ์]

    “รักมากที่สุด” ในที่สุดคำที่ฉันอยากฟังก็ออกมากจากริมฝีปากแดงคล้ำ ดวงตาของฉันเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาทันที“แพรก็รักเฮียองศาค่ะ”====================เสียงคลื่นทะเลสาดซัดเข้าฝั่งเมื่อฉันยืนกอดอกมองสายน้ำและทรายที่เหยียบอยู่ บ้านพักริมทะเลของเฮียองศาเวลานี้เราได้มาพักผ่อนหลังจากที่ผ่านอะไรด้วยกันมามากมาย เคยบอกว่าคงจะไม่ได้ที่นี่อีกสุดท้ายฉันกลับยืนมองมันอยู่ตรงนี้ ขณะที่ยืนลูบแขนตัวเองเพราะลมทะเลในตอนเช้าค่อนข้างหนาว ผ้าแพรสีน้ำเงินก็ถูกคลุมจากด้านหลัง หันไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่ถึงแม้อายุจะนับไปเรื่อยๆ ใบหน้าของเขาก็ยังคงหล่อเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ราวกับว่าสตาฟมันเอาไว้“เข้าไปข้างในดีไหม หนาวตัวเย็นเลย”“ไม่เป็นไรค่ะ แพรอยากอยู่ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวลูกเผลอวิ่งลงทะเล” ฉันกับเฮียองศามองเด็กผู้ชาหนึ่งคนที่กำลังนั่งเล่นก่อกองทรายเป็นรูปปราสาท ‘เด็กชายพายุ โยคินวาณิชย์สกุล’ อายุ 5 ขวบ ลูกชายคนแรกของเราสองคนที่หน้าตาเหมือนฉันแต่นิสัยคล้ายพ่อ คิดดูว่าพายุเป็นเด็กฉลาดมากและก็มีมุมที่อ่อนโยนเหมือนกันฉันแค่นิดเดียวนะ นิดเดียวจริงๆ“งั้นเดี๋ยวเฮียไปดูลูกก่อน” พูดจบก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินไปหาลูกชายที่พอเห็นพ่อก

  • ์Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก   Special episode :: ขอบคุณเธอที่เข้ามาในชีวิต / ขอบคุณเขาที่มอบทุกอย่างให้ Part.3

    พูดจบก็จูงมือฉันขึ้นรถขับออกจากคาสิโน ไม่สิ ผับของเฮียก็ตรงมายังเส้นทางที่ไปบริษัทรถของเขานี่นา ฉันจำได้ดีเลยว่าเราเจอกันวันนั้นที่ฉันเก็บกระเป๋าเงินให้เฮียได้และหลังจากนั้นเราก็ได้เจอกัน ได้อยู่ด้วยกันจนมาถึงปัจจุบันนี้ รถของเฮียจอดลงที่หน้าบริษัทของเขาที่มีรถหรูราคาแพงโชว์เรียกลูกค้าระดับสูงๆ กันทั้งนั้น ฉันเดินตามเฮียองศามายังด้านข้างบริษัทมองเข้าไปข้างในก็ยิ่งมึนงงหนักไปอีกก็แค่ร้านกาแฟกับเค้กไม่ใช่เหรอ? เพิ่งจะรู้ว่าตรงนี้มีร้านกาแฟด้วย ตอนเจอกับเฮียยังเห็นเป็นร้านขายของที่ระลึกอยู่เลยมาตอนนี้กลับกลายเป็นร้านกาแฟและเค้กไปด้วย มีคนเข้าไปในร้านค่อนข้างเยอะอาจเพราะตรงนี้เป็นย่านติดกับการค้าหลากหลายไหนจะมหาลัยอีก ไหนจะบริษัทอีกทำเลตรงนี้คือดีมากเลยนะ“มองไปข้างบนสิ” เฮียองศาให้ฉันมองขึ้นไปด้านบนอีกครั้ง แน่นอนว่าความรู้สึกก็เหมือนกับตอนที่มองป้ายผับของเฮียองศา ฉันหันไปมองเฮียที่จูงมือพาฉันเข้ามาในตัวร้านและมีพนักงานสองคนเห็นเฮียก็รีบมาต้อนรับ “นี่แพรวา เมียฉัน”“ค่ะคุณองศา”“เมียฉันเป็นเจ้าของร้านกาแฟนี้”“ฮะ เฮียคะ มันไม่มากไปเหรอคะ?” ฉันบีบฝ่ามือหนาแน่นจนเฮียองศาหันมายิ้ม“ชื่อร้า

  • ์Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก   Special episode :: ขอบคุณเธอที่เข้ามาในชีวิต / ขอบคุณเขาที่มอบทุกอย่างให้ Part.2 [NC+]

    พูดจบก็โน้มมาบดขยี้จูบบนกลีบปากฉันราวกับห่างหายมานานจนมันทับถมกลายเป็นความต้องการอย่างมากล้น เฮียผละจูบออกให้ฉันได้หายใจอารมณ์เวลานี้พลุ่งพล่านจนฉันไปไม่เป็นได้แต่หอบหายใจหนัก ขณะที่มือของฉันก็เลื่อนไปกอบกุมความเป็นชายของเฮียองศาเวลานี้มันอยากออกมาสูดอากาศข้างนอกแต่เฮียก็ยังคงไม่ได้ยอมให้มันออกมาสักที ไล่จูบมาถึงทรวงอกพลางครอบครองยอดอกฉันด้วยอุ้งปากที่ร้อนระอุ นั่นทำให้ฉันเสียวจนจิกนิ้วเท้าบนพื้นกระเบื้องเย็นเฉียบแน่น ริมฝีปากร้อนไล่มาถึงหน้าท้องแบนราบจากนั้นก็ยกขาข้างหนึ่งของฉันพาดบ่าสิ่งที่เฮียกำลังทำฉันรู้ดีถึงได้จิกเส้นผมหนานุ่ม ณ เวลานี้เฮียกำลังตักตวงความหอมหวานจากกลางกายสาวอย่างมูมมาม พอทำจนพาฉันไปถึงสวรรค์ชั้นที่เท่าไหร่ฉันไม่อาจรู้ได้ ฉันก็มองสบตากับเขาพลางย่อตัวนั่งคุกเข่าตรงหน้าเขาพลางรูดกางเกงยีนส์ของเฮียลงมาพลางกางเกงในซึ่งท่อนเอ็นยาวใหญ่ตีโดนแก้มฉันเบาๆ“แพรกินเฮียบ้างนะคะ” ฉันมองสบตากับเฮียองศาที่กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อฉันใช้มือประคองความเป็นชายที่ใหญ่ยาวของเขาซึ่งเวลานี้กำลังแข็งและดิ้นไปมาในมือของฉัน จากนั้นฉันก็ค่อยๆ โน้มใบหน้าลงไปสูดเอากลิ่นสาบเข้ามาในปดให้ได้มากที่สุ

  • ์Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก   Special episode :: ขอบคุณที่เธอเข้ามาในชีวิต / ขอบคุณเขาที่มอบทุกอย่างให้ [Part.1]

    ตอนพิเศษขอบคุณเธอที่เข้ามาในชีวิต / ขอบคุณเขาที่มอบทุกอย่างให้ ====================“เรามาแต่งงานกัน แพร”“...”“ฉันพูดจริงนะ” คุณองศาเดินมาหยุดตรงหน้าฉันพลางจับมือฉันที่วางอยู่ไปกุมไว้ กระทั่งพลุไฟเย็นหมดลงคุณองศาก็ดึงก้านมันออกวางไว้บนโต๊ะ บีบมือฉันแน่นพลางโน้มลงมากดจูบอย่างแนบแน่น “ฉันรู้แล้วว่าต้องทำยังไง ถึงจะมีเธออยู่ข้างๆ กันไปตลอดชีวิต”“ตะ แต่ว่าการแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วแพรคิดว่าคุณองศาอาจจะเจอใครที่ดีกว่า...”“ไม่มีใครดีมากกว่าเธอ” เขาส่ายหน้าไปมาราวกับบอกว่าไม่มีใครดีเท่าฉัน “ฉันเลือกแล้ว”“แพรยังไม่พร้อมนี่คะ” ตอบคุณองศาซึ่งเขาก็ไม่ได้โกรธฉันหรอกนะ เขายังยิ้มเอ็นดูฉันอีกต่างหาก “แพรเพิ่งจะได้ใช้ชีวิตของตัวเองในแบบที่แพรไม่เคยได้ใช้ แล้วแพรกลัวว่าถ้าแต่งงานไปแพรอาจจะไม่ได้ใช้ชีวิตแบบนี้”“สองปีที่ผ่านมายังไม่พออีกเหรอ?” มันก็พอนั่นแหละ “หรือเธอไม่อยากแต่งกับฉัน”“ไม่ใช่นะคะ! แพรอยากแต่งกับคุณองศาค่ะ แต่ว่า...”“แต่อะไรอีกล่ะ เธอเนี่ยแต่ๆ บ่อยมาก”“แพรขอเวลาคิดได้ไหมคะ?” เอาจริงไม่ได้อยากปฏิเสธคำขอแต่งงานของคุณองศา ถึงตกใจพอตั้งสติได้ก็ดีใจเป็นบ้าเลยล

  • ์Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก   Nevermind :: CHAPTER 38 Happy birthday & Happy new year ll Part.2 [100%] THE EHD

    เช้าของวันที่ 31 ธค. คุณองศาขับรถมาส่งฉันที่ร้านกาแฟซึ่งปานก็รออยู่พร้อมพี่วิทย์ พอให้หลังคุณองศาฉันก็ให้ปานกับแฟนหนุ่มกลับไป แค่ฝากซื้อของก็เกรงใจจะแย่ คุณองศามาส่งฉันบอกว่าจะแวะไปทำธุระให้พ่อของเขา เขาน่ะจำวันเกิดตัวเองได้จริงปะเนี่ย? วันเกิดคุณองศาจำง่ายสุดเลยนะดูเขาแบบไม่ได้สนใจเลย เหมือนลืมว่าเที่ยงคืนของวันที่ 1 มค. ฉันจะเซอร์ไพร์สวันเกิดเขา จะมาทำหน้างงไม่ได้นะขอบอก ฉันขอให้คุณองศาแวะซื้อพลุไฟเย็นมาด้วยทางบ้านพักอนุญาตให้จุดแบบไม่มีเสียงเพราะงั้นก็เลยต้องใช้พลุไฟเย็นแทน เอาจริงฉันอยากจุดตอนที่วันปีใหม่ได้เริ่มอะไรใหม่ๆ แต่เริ่มใหม่กับคนดีคนเดิมอะนะ ฉันเข้ามาในห้องครัวร้านพี่รันที่ตอนนี้ปิดวันหยุด ก็จัดการทำคัพเค้กเจ็ดชิ้นตกแต่งด้วยมาการองโยเกิร์ตสตอร์วเบอรี มีน้ำตาลแบบวงกลมสีทองและสีเงิน ส่วนตกแต่งหน้าคัพเค้กฉันก็จะทำเป็นครีมสีชมพูทำเป็นดอกกุหลาบ ซึ่งทำคัพเค้กใช้เวลาก็ประมาณบ่ายนิดๆ ก็คงเสร็จ“ปานซื้อเทียนเป่าไม่ดับมาด้วยเหรอเนี่ย?” ขืนให้คุณองศาเป่าไม่ดับบอกเลยว่าคัพเค้กคงไม่ได้กินแต่ถูกโยนทิ้งและกระทืบมากกว่า เขาน่ะคงไม่ชอบอะไรแบบนี้ดีนะที่สั่งซื้อเทียนแท่งยาวเรียวคล้ายเทียนเ

  • ์Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก   Nevermind :: CHAPTER 38 Happy birthday & Happy new year II Part.2 [50%]

    Nevermind : 38Happy birthday & Happy new year II Part 2“ส้มเต็มต้นเลยแหะ” คุณองศาเอ่ยขึ้นพลางเอื้อมมือไปจับลูกส้มที่สุกกำลังน่ากิน ฉันหยิบตะกร้าขึ้นมาเพื่อเลือกส้มกลับบ้านพักได้โดยชั่งตามน้ำหนัก ตอนนี้เราอยู่ตรงกลางสวนที่มีผ้าปูสำหรับไว้ปิกนิก คุณองศาสั่งเครื่องดื่มและเค้กส้มซึ่งที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเค้กส้มเลยล่ะ “เปรี้ยวหรือเปล่า?”“เดี๋ยวแพรเก็บเอาไปชั่งจ่ายเงินแล้วค่อยลองชิมดูค่ะ” ตอบโดยไม่มองหน้าเขาฉันก็เลือกส้มเต็มตะกร้าก็เอาไปชั่งที่เขามีไว้สำหรับแพคส้มกลับบ้านซึ่งเป็นแพคเกจที่น่ารักมากๆ เมื่อได้ถุงกระดาษที่ติดโล้โก้ของสวนฉันก็เดินกลับมาที่ปิกนิกเห็นคุณองศามองผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นพนักงานของที่สวนเอาเครื่องดื่มกับเค้กมาเสิร์ฟ ผู้หญิงคนนั้นมองหน้าเขาและเอียงอายแถมยังคุยอะไรกันสักอย่างซึ่งฉันไม่ได้ยินหรอกนะ “มาแล้วค่ะ”“เค้กมาพอดี” พนักงานผู้หญิงมองฉันพลางเดินออกจากตรงนี้ ฉันมองเค้กส้มที่น่ากินกับชาเขียวเย็นที่คุณองศาสั่งให้ราวกับรู้ว่าเป็นของโปรดของฉัน “เสียค่าส้มไปเท่าไหร่ เอาเงินฉันไป”“ไม่เป็นไรค่ะ แพรมีเงิน” ตอบคุณองศาโดยไม่มองหน้าเขาตักเค้กส้มกินซึ่งอร่อยขึ้นชื่อจริงๆ“อยากถ

  • ์Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก   Nevermind :: CHAPTER 38 Happy birthday & Happy new year [100%]

    “อื้ม พะ พอแล้วค่ะ” ดันใบหน้าหล่อเหลาให้ถอนจูบออก ให้ตายสิแพร! จะขาดใจจริงๆ นะ“คิดถึงเธอแทบบ้าแล้วแพร” คุณองศาเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่มากล้น ฉันเองก็เหมือนกันนั่นแหละแต่ว่าเล่นจูบจนเกือบจะพรากวิญญาณฉันมันก็ไม่ไหวนะ “ฉันจะตายจริงๆ นะถ้าเธอไม่ยอมให้สักที”“งั้นก็ตายไปเลยค่ะ” เค้นเสียงแข็งใส่เขาพลางเดินไปปิดแก๊สที่น้ำเดือดจนควันขึ้นแล้ว “ถ้าแพรอยาก แพรจะทำ”“...”“แต่ถ้าแพรไม่ แพรก็จะไม่ให้คุณองศาทำค่ะ”บอกเขาเด็ดขาดถึงจะมีเสี้ยวหนึ่งที่ดันอยากทำกับเขาเหมือนกับที่เขาคลั่งขนาดนี้ ฉันก็ไม่ยอมง่ายๆ หรอกนะบอกไว้ก่อน คุณองศาน่ะต้องโดนฉันทรมานเรื่องนี้ไปอีกสักพักจนกว่าฉันจะใจอ่อน อย่างน้อยก็ให้สมกับที่เขาเคยเผลอใช้คำพูดไม่ดีกับฉันมาตลอดที่เราอยู่ด้วยกัน ถึงจะมาง้อก็ใช่ว่าจะใจอ่อนเรื่องที่เขาอยากทำมันใจจะขาดตอนนี้ฉันเดินนำเขาอยู่นะ... หลังจากที่เดินตามเขามาตลอด ถึงเวลาที่คุณองศาต้องเดินตามกันบ้างเช้านี้ฉันนั่งเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองกับคุณองศาที่มีแค่ไม่กี่ชุด เขาคงไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาค้างที่นี่เกือบครึ่งเดือนล่ะมั้งคงคิดว่าถ้าหากเจอฉันและฉันจะกลับไปกับเขามันก็ไม่

  • ์Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก   Nevermind :: CHAPTER 38 Happy birthday & Happy new year [50%]

    Nevermind : 38Happy birthday & Happy new yearหลังจากที่คุณองศาเข้ามาในไร่กับฉันเพราะต้องการมาเป็นแมวเฝ้าเจ้าของ แถมเป็นแมวที่ดุเอามากๆ จนพี่รันเห็นยังขำเลยกระทั่งคุณองศาเดินเข้าไปในบ้านและเห็นรูปแต่งงานของพี่รันจากที่หน้าตาบูดบึ้งก็ยิ้มหน้าบาน แถมคุยกับพี่รันเรื่องไร่สตอร์วเบอรีอีกต่างหาก เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้อย่างรวดเร็วสมกับเป็นคุณองศาหลายร้อยหน้าเลิกงานฉันกับคุณองศาก็มาที่ตลาดนัดคนเดิน เพราะพรุ่งนี้ฉันไม่ต้องไปทำงานคุณองศาบอกว่าเช้าก็เก็บเสื้อผ้าไปที่บ้านพักรีสอร์ทบนเขาได้เลย เขาจองเรียบร้อยเห็นบอกว่าคืนหนึ่งก็ปาเข้าไปเกือบคืนจะสามหมื่นอะ คิดดูว่าต้องอยู่ที่นั้นอีกสามวันจนถึงวันเคาน์ดาวน์ปีใหม่และวันเกิดคุณองศาเลย ดูเหมือนเขาจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันเกิดตัวเองหรือรู้ก็ไม่แน่ใจ คุณองศาดูไม่ได้สนใจว่ามันเป็นวันเกิดตัวเอง รู้แค่ว่าจะไปพักผ่อนกับฉัน ไหนจะพาไปเที่ยวอีกซึ่งฉันอยู่ที่นี่มาสองปียังไม่เคยไปเที่ยวทั่วจังหวัดเลยด้วยซ้ำ“อืม อันนี้อร่อยอะแพร” หันไปคุณองศาที่กำลังใช้ไม้จิ้มจิ้มไส้อั่วกินซึ่งเขาให้ชิม ไม่ได้ให้กินจนหมดถ้วยนะดูหน้าแม่ค้าสิทำหน้าจะร้องไห้แล้ว “ชิมจนอิ่มเล

  • ์Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก   Nevermind :: CHAPTER 37 เราสองคน [100%]

    “เฮ้อ อยากจะบ้าตาย” คุณองศาเดินไปนอนบนเตียงต่อตามเดิม ฉันก็เลยพาตัวเองมานอนบ้างแต่ยังไม่ได้นอนหรอกนะเอาแต่จ้องตากันนั่นแหละ “ไม่อยากจะคิดว่าสองปีที่เธอหนีฉันมาจะต้องเจอกับเรื่องแบบนี้มากแค่ไหน”“แพรไม่เป็นไรหรอกค่ะ แพรน่ะป้องกันตัวเองเสมอ” ตั้งแต่คุณองศามาอยู่ด้วยกันมีดที่เคยใช้ป้องกันตัวก็ไม่ได้อยู่ใต้หมอนอีกต่อไป ราวกับว่าเขาคือที่พักพิงและคอยปกป้องฉันจากเรื่องที่มันไม่ดี สบายใจมากเลยล่ะ“ต่อไปนี้เธอไม่ต้องห่วงนะ ฉันอยู่ตรงนี้กับเธอ”“...”“จะอยู่กับเธอ ดูแลเธอไปจนวันตาย” คำพูดของคุณองศาทำให้ฉันเผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ตื้นตันใจ “เราสองคนจะไม่มีวันพรากจากกันอีก”หลายวันผ่านไปเหลืออีกแค่ไม่กี่วันก็จะเป็นวันสิ้นปีที่คุณองศาหาที่พักเพื่อพาฉันไปพักผ่อน ตั้งแต่มีเขาเข้ามาในชีวิตบอกเลยว่าฉันกลับมามีความสุขอีกครั้งและเป็นความสุขที่เขาเป็นคนทำให้ด้วยนะ คุณองศาช่วงนี้เห็นบอกว่ามีธุระต้องไปจัดการแทนคุณพ่อของเขาที่โทรมาหาบอกว่าให้ทำธุระคือการไปดูแลรีสอร์ทแห่งหนึ่งที่ฉันเพิ่งจะรู้ว่าพ่อของคุณองศามีหุ้นส่วนอยู่เห็นว่ากำลังจะซื้อขาดเลย เขาก็เลยไม่ได้มานั่งเฝ้าฉันที่ร้านบ่อยๆ ซึ่งมันดีม

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status