บททั้งหมดของ องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน: บทที่ 751 - บทที่ 760

788

บทที่ 751

ชายวัยกลางคนหรี่ตาลงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "น้องชาย การถือกำเนิดของเทพศาสตราวุธถือเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับเราทั้งเป่ยเยี่ยนมิว่าเจ้าจะมาจากสำนักใดก็มิอาจครอบครองเทพศาสตราวุธได้แต่เพียงผู้เดียวฟังคำข้าเถิด ส่งมาให้ข้าเสีย มิเช่นนั้นหากคนจากสำนักอื่นมาถึง จะไม่มีผู้ใดพูดจาดีเช่นข้าอีก”ฉินซูถอนหายใจเบา ๆ แล้วกล่าว "ข้าพูดความจริง ไฉนพวกท่านจึงมิเชื่อเล่า?"“ท่านประมุข เห็นแล้วใช่หรือไม่ เจ้าหนุ่มนี่มันหัวแข็ง พูดเท่าไรก็มิฟัง พวกเรามิต้องเสียเวลาพูดกับเขาแล้ว หักแขนหาเจ้านี่เสียเถิด ข้ามิเชื่อว่าเขาจะมิยอมสารภาพ”“ใช่แล้ว ท่านประมุข กว่าเราจะสลัดคนของพรรคอื่นไปได้นั้นยากเข็ญนัก ขืนชักช้าอีกนิด พวกเราจะเหนื่อยเปล่านะขอรับ”ชายวัยกลางคนกล่าวเสียงต่ำอีกครั้งว่า “น้องชาย เจ้าจะมิยอมมอบให้ข้าจริง ๆ หรือ?”ฉินซูมีสีหน้าอับจนหนทาง ข้าไม่มีของอะไรสักอย่าง ท่านจะให้ข้ามอบกระไรเล่า?เห็นฉินซูมิไหวติง ชายวัยกลางคนเปลี่ยนสีหน้าเป็นเหี้ยมโหด กล่าวเสียงเข้มว่า “ลงมือ!”ชายร่างอ้วนและคนอื่น ๆ เผยสีหน้าดุร้ายพร้อมชูอาวุธในมือพุ่งเข้าใส่ด้วยความโหดเหี้ยมฉินซูขมวดคิ้ว กำลังจะลงมือแต่ก็พ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 752

มิน่าแปลกใจที่ชายวัยกลางคนจะตกใจเสียขวัญถึงเพียงนั้น เพราะกระแสพลังฝ่ามือที่ฉินซูปล่อยออกไปอย่างมิใส่ใจนั้นรุนแรงเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการไว้หลายโยชน์เขามิสงสัยเลยว่า หากรับฝ่ามือนี้เต็ม ๆ ตัวเขาซึ่งอยู่ในขั้นกลางระดับปฐพีคงไม่มีโอกาสรอดชีวิตแน่นอนอีกทั้งในยามนี้เขายังลอยอยู่กลางอากาศ แม้ต้องการหลบหลีกก็ไม่มีทางได้เปรียบบัดนี้เขาทำได้เพียงหลับตารอความตาย!ทว่าในตอนนั้นเอง ฉินซูก็สะบัดแขนเสื้อ สายลมอ่อนโยนแซงมาถึงตัวก่อน!ชายวัยกลางคนรู้สึกเหมือนถูกห่อหุ้มด้วยกระแสพลังฝ่ามือที่อ่อนโยน จากนั้นก็ร่อนลงสู่พื้นราวกับขนนกที่เบาหวิวร่างเพิ่งจะแตกพื้น เจ้าอ้วนและคนอื่น ๆ ก็รีบถามอย่างกระวนกระวายว่า “ท่านประมุข ท่านมิเป็นกระไรใช่หรือไม่ขอรับ?”ชายวัยกลางคนโบกมือ “ข้ามิเป็นไร!”ปากกล่าวเบา ๆ ทว่าในยามนี้หน้าผากของเขากลับชุ่มโชกด้วยเหงื่อเย็น หลังเสื้อก็เปียกชื้นด้วยเหงื่อเป็นวงใหญ่สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และมองฉินซูอย่างหวาดผวาเขาประจักษ์แก่ใจว่า หากเมื่อครู่นี้ฉินซูมิปรานี เขาคงสิ้นลมหายใจไปแล้วเมื่อคิดได้ดังนั้น ชายวัยกลางคนก็ประสานมือคารวะฉินซู กล่าวด้วยท่าทีจริงใ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 753

เขาเลิกคิ้วถามว่า “เขาเล่า เหตุใดจึงมิแสดงอาวุธ?”“ใช่แล้ว จูเหล่าจิ่ว ศิษย์ในพรรควิหคเพลิงของพวกท่านช่างมิรู้จักกฎเกณฑ์เสียเลย!”จูเหล่าจิ่วรีบอธิบายว่า “ทุกท่าน น้องชายผู้นั้นมิใช่คนในพรรควิหคเพลิงของพวกข้า”“มิใช่รึ?”ทุกคนขมวดคิ้วมองหน้ากัน ความสงสัยฉายชัดบนใบหน้าเจ้าหนุ่มนี่ตัวคนเดียว กล้ามาแย่งชิงเทพศาสตราวุธถึงหนองน้ำอัสดงเชียวหรือ?อะไรจะใจกล้าได้ปานนี้?เจ้าสำนักหวงออกคำสั่งอย่างโอหังว่า “เจ้าหนุ่ม ไสหัวมานี่!”ฉินซูเหลือบมองเขา แล้วหันกายไปทางอื่นเล็กน้อยอย่างมิสนใจไยดีเห็นดังนั้น เจ้าสำนักหวงรู้สึกเหมือนถูกเหยียดหยามทันทีตนเป็นถึงเจ้าสำนักโพยมันคำรามผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ซึ่งอยู่ในขั้นสูงสุดระดับปฐพี กลับถูกคนหัวดำจอมโอหังดูแคลนต่อหน้าผู้คนมากมายถึงเพียงนี้ความอัปยศอดสูนี้เขาจะทนกล้ำกลืนได้อย่างไร!เขาแค่นเสียงเย็นชา แล้วกล่าวเสียงแข็งว่า “ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตาย เช่นนั้นข้าจะช่วยสนองเจ้าเอง!”เมื่อเห็นว่าเขาตั้งใจจะลงมือ จูเหล่าจิ่วก็รีบออกปากห้ามปราม“เจ้าสำนักหวง อย่าเพิ่งใจร้อน น้องชายผู้นั้นมีวรยุทธ์ลึกล้ำเกินหยั่งถึง เมื่อครู่ข้าลงมือเต็มที่แล้ว ยังมิอาจทำร้าย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 754

!!!เมื่อเห็นเศษเหล็กบนพื้น เจ้าสำนักหวงตกตะลึงอ้าปากค้าง!จ้าวอวี้หมิงและคนอื่น ๆ ก็ตาค้างเช่นกัน!เจ้าสำนักเฝิงถามด้วยสีหน้าประหลาดใจว่า “เจ้าสำนักหวง หากข้าจำมิผิด ขวานเบิกคีรีของท่านสร้างจากเหล็กกล้าใช่หรือไม่?”เจ้าสำนักหวงพยักหน้าด้วยสีหน้าอึ้งทึ่งเหวอเฮือก!!ทุกคนสูดลมหายใจเข้าลึกในทันทีเพียงดีดนิ้วก็สามารถทำลายขวานเบิกคีรีที่สร้างจากเหล็กกล้าให้แตกเป็นเสี่ยง ๆ ได้ วรยุทธ์เช่นนี้นี้มันเกินไปแล้วกระมัง?หากมิใช่ได้เห็นด้วยตาตนเอง ให้ตายพวกเขาก็มิเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงเจ้าสำนักหวงมองดูด้ามขวานที่เหลืออยู่ในมือแล้วรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัว ในใจเต็มไปด้วยความหวาดผวาเขาประจักษ์แจ้งแก่ใจว่า เมื่อครู่นี้หากปราณดัชนีนั้นพุ่งตรงมาที่เขา ตอนนี้เขาคงตายมิเหลือศพไปแล้ว!เขาที่เพิ่งเฉียดจายมมา ยามนี้หน้าผากมีเหงื่อเย็นผุดซึมมิหยุดจ้าวอวี้หมิงได้สติแล้ว กล่าวเสียงขรึมว่า “น้องชาย เจ้ามาจากสำนักใดหรือ?”ฉินซูเหลือบมองเขา กล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “ข้าจะพูดอีกครั้ง ไร้สำนัก ไร้พรรค พวกเจ้ามิอยากตายก็จงไปให้พ้น มิเช่นนั้น นี่คือจุดจบของพวกเจ้า!”ฉินซูกล่าวจบ ก็ฟาดฝ่ามือใส่ต้นไม้ให
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 755

ครู่ต่อมา ทั้งสองคนก็พยักหน้าอย่างหนักแน่น “ดี ตกลงตามนี้!”พวกเขาต่างทราบดีว่า หากโชคดีได้เทพศาสตราวุธมาครอง ต่อไปหากมองไปทั่วเป่ยเยี่ยน จะมีผู้ใดกล้าท้าทายอีกเล่า?สิ่งที่สามารถทำให้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดบนฟากฟ้าเช่นนี้ได้ เพียงใช้ปลายนิ้วเท้าคิดก็รู้ได้ว่าเทพศาสตราวุธนี้วิเศษเพียงใดดังนั้น มิว่าอย่างไรพวกเขาก็ต้องลองเสี่ยงดูสักตั้งจากนั้น สายตาของคนสองสามคนก็หันไปมองจูเหล่าจิ่วฝ่ายหลังนั้นส่ายหน้าอย่างเด็ดขาด “พรรควิหคเพลิงของเราวรยุทธ์อ่อนแอเกินไป มิขอเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องวุ่นวายเหล่านี้อีก ทุกท่านเชิญตามสบาย ข้าขอตัวลาก่อน!”กล่าวจบ เขาก็พาเจ้าอ้วนและคนอื่น ๆ จากไปโดยมิลังเลเห็นดังนั้น จ้าวอวี้หมิงและคนอื่น ๆ ก็มิได้ห้ามปราม ถึงอย่างไร แต่ละคนก็ย่อมมีเป้าหมายของตนเอง อีกทั้งสิ่งที่จูเหล่าจิ่วกล่าวมาก็มิได้ผิดจากความจริง วรยุทธ์ของพรรควิหคเพลิงนั้นอ่อนแอเกินไปจริง ๆเมื่อมองส่งจูเหล่าจิ่วและพวกจากไปแล้ว จ้าวอวี้หมิงและคนอื่น ๆ ก็วกกลับเข้าป่าไปซ่อนตัวอยู่ในนั้นในขณะเดียวกันบนผืนน้ำแข็งของหนองน้ำอัสดง แสงสีแดงที่หายไปนานก็พวยพุ่งออกมาอีกครั้งคราวนี้แสงยิ่งเจิดจ้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 756

ชายหนุ่มร่างสูงคิ้วหนาตาโตผู้ถือดาบใหญ่ที่ฝังอัญมณีอยู่นั้นฟาดฟันปราณแห่งกระบี่สุดแรงออกมาหลายสายอย่างรวดเร็วและรุนแรงชายอีกคนฟาดแส้เก้าท่อนในมือมิยั้ง เงามากมายเข้าปกคลุมร่างฉินซูไว้ทันใดดาบใหญ่ในมือของชายชราก็ชักออกจากฝักทันที แสงดาบอันเข้มข้นราวกับมีตัวตนพุ่งลงมาดุจธารน้ำ!ในพริบตา การโจมตีหลายสายก็ห่อหุ้มฉินซูไว้แน่นหนาหมายจะสังหารฉินซูให้ตายคาที่ขณะที่พวกเขาลงมือ ก็มีร่างอีกหลายร่างพุ่งเข้ามาพลังของคนเหล่านี้มิได้อ่อนด้อยเลย แม้แต่ผู้ที่วรยุทธ์ย่ำแย่ที่สุดก็ยังอยู่ในขั้นต้นระดับสวรรค์ทันทีที่พวกเขาปรากฏตัวก็เห็นพวกชายชราลงมือสังหารฉินซูพร้อมกันภาพนี้ทำให้พวกเขาคิดว่าเทพศาสตราวุธได้ตกไปอยู่ในมือของฉินซูแล้วดังนั้น คนกลุ่มนี้จึงชักอาวุธในมือออกมาอย่างมิลังเล แล้วเปิดฉากโจมตีฉินซูอย่างรวดเร็วร่างของฉินซู หายวับไปในพริบตา ท่ามกลางการโจมตีที่โถมเข้าใส่ในแนวป่าจ้าวอวี้หมิงและคนอื่น ๆ มองดูฉากที่มิเคยเกิดมาก่อนนี้ ต่างคนต่างหลั่งเหงื่อเย็นแทนฉินซูเจ้าสำนักหวงกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เจ้าหนุ่มนั่นจบสิ้นแล้ว สงสัยเทพศาสตราวุธคงจะตกไปอยู่ในมือของคนกลุ่มนี้เสียแล้ว”
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 757

ชายร่างใหญ่ซึ่งอยู่ใกล้กับฉินซูที่สุด ร้องออกมาด้วยความดีใจสุดขีดแล้วพุ่งเข้าใส่ฉินซูทว่า ทันใดนั้นเอง ปราณแห่งกระบี่สายหนึ่งก็ตกลงมาจากฟากฟ้าโดยไม่มีสัญญาณเตือนร่างของชายร่างใหญ่ผู้นั้นถูกปราณกระบี่ฟันแยกออกเป็นสองส่วนในทันทีโลหิตสีแดงฉานย้อมผืนน้ำแข็งบนทะเลสาบให้กลายเป็นสีแดงในพริบตา!ในขณะเดียวกัน ปราณอันยิ่งใหญ่ใต้พื้นทะเลสาบก็ดูเหมือนจะถูกดึงดูดด้วยกลิ่นคาวเลือด ทำให้มันบ้าคลั่งขึ้นมาหนองน้ำอัสดงทั้งผืนสั่นสะเทือนตามไปด้วยเมื่อเห็นดังนั้น ฉินซูก็ขมวดคิ้วพลางมองไปยังชายที่ลงมือเมื่ออีกฝ่ายรู้สึกถึงสายตาอันเย็นชาของฉินซู ในใจก็อดสั่นสะท้านมิได้ ความหวาดกลัวแผ่ซ่านออกมาจากกระดูก“ข้า… ข้า...”เขาพยายามจะอธิบายสิ่งที่ตนเองกระทำภายใต้ความหวาดกลัวสุดขีด แต่เพราะตกใจเกินไปจึงพูดจาติดขัด'ตูม!!'แพน้ำแข็งหนาระเบิดออก แสงสีแดงเจิดจ้าพวยพุ่งออกมาจากใต้ทะเลสาบปราณอันยิ่งใหญ่ชวนให้อกสั่นขวัญแขวนก็แผ่กระจายออกมาด้วยเช่นกัน!“ให้ตายสิ พวกท่านอยากตายกันหรือไร? ยังมิรีบหนีไปอีก!” ฉินซูตะโกนใส่กลุ่มคนที่กำลังงงงันเสียงของเขาเปล่งออกมาจากกำลังภายใน ส่งผลให้แก้วหูของผู้ที่ได้ยิ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 758

ฉินซูชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วก็อดสบถออกมามิได้“บัดซบเอ๊ย ข้ายังมิทันได้ทำกระไร เจ้าจะตามข้ามาหาปะไร?!”ถึงจะสบถไปอย่างนั้น แต่กระบี่เล่มนี้ก็ประหลาดอย่างยิ่ง เขามิอยากถูกแสงสีแดงนั้นกลืนกินเมื่อคิดได้ดังนั้น ร่างของเขาก็พลันวูบหายไปจากที่เดิมเมื่อแสงสีแดงพุ่งพลาดไป เห็นได้ชัดว่าโกรธจัด!แสงสีแดงสว่างวาบขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากหมุนตัวหนึ่งครั้งก็พุ่งตรงเข้าใส่ฉินซูอีกครั้งเดิมทีฉินซูตั้งใจจะหลบต่อไป แต่โชคร้ายที่เขาเหยียบไปบนอากาศที่ว่างเปล่า!ด้วยมิทันตั้งตัว เขาจึงร่วงหล่นลงไปในผืนทะเลสาบที่เย็นเฉียบส่วนแสงสีแดงนั้นก็พุ่งตามลงไปอย่างรวดเร็วราวกับเงาตามตัวภายใต้สายตาที่หวาดกลัวของฉินซู แสงสีแดงนั้นกลับหรี่ลงแล้วพุ่งเข้าไปในร่างของเขา!“???”สีหน้าของฉินซูเต็มไปด้วยคำถาม!ทว่ายามนี้ตัวเขาทั้งตัวเปียกชุ่ม น้ำในทะเลสาบแสนเย็นเยียบห่อหุ้มร่างของเขาไว้ในขณะนั้นเอง มือหยกเรียวเล็กขาวผ่องข้างหนึ่งก็ยื่นลงมาจากผิวน้ำจากนั้นฉินซูก็ถูกซ่างกวนอวิ๋นซีดึงขึ้นไปฉินซูยังมิทันได้สติ ซ่างกวนอวิ๋นซีก็ถามอย่างร้อนรนว่า “ฉินซู กระบี่มารนั่นหายไปไหนแล้ว?”ฉินซูหนาวจนฟันบนฟันล่างกระทบกันกึ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 759

กล่าวจบ นางก็เดินตรงเข้าไปในป่า ฉินซูเข้ามาในถ้ำหินด้วยร่างที่สั่นงันงก มินานนัก ซ่างกวนอวิ๋นซีก็หอบฟืนเดินเข้ามาหลังจากก่อไฟแล้ว อาภรณ์ที่เปียกชุ่มของฉินซูก็เริ่มมีไอน้ำระเหยออกมาซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวเสียงเรียบเฉยว่า “ถอดอาภรณ์ออกผิงไฟให้แห้ง แล้วเราค่อยเดินทางต่อ”“ให้ถอดก็ได้ แต่ท่านช่วยออกไปข้างนอกก่อนจะได้หรือไม่?” ฉินซูมองซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยท่าทางหวาดระแวงหากมิรู้ว่าซ่างกวนอวิ๋นซีอายุปาเข้าไปสี่สิบห้าสิบปีได้แล้ว เขาคงมิรังเกียจจะหยอกเย้านางเล่นสักหน่อยแต่ด้วยอายุของอีกฝ่าย เขาก็ทำเช่นนั้นมิได้แน่นอน อายุสี่สิบห้าสิบของซ่างกวนอวิ๋นซีนั้นเป็นเพียงความคิดส่วนตัวของฉินซูเท่านั้น“หึ พูดราวกับว่าข้าอยากจะดูเจ้าเสียเต็มประดา”ซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวจบก็หันหลังเดินออกไปฉินซูจึงถอดอาภรณ์ออกแล้ววางผึ่งไว้ข้างกองไฟภายนอกถ้ำหินซ่างกวนอวิ๋นซีเปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน ร่างของนางวูบไหวแล้วหายไปจากที่ที่นางยืนทันทีในป่าที่อยู่ไกลออกไป จ้าวอวี้หมิงและคนอื่น ๆ กำลังล่าถอยอย่างระมัดระวังพวกเขาได้เห็นพลังของแสงสีแดงเมื่อครู่นี้กับตาแล้ว แม้แต่ยอดฝีมือระดับสวรรค์ยังไม่มีกำลังต่อต้าน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 760

ภายในถ้ำหินฉินซูกำลังนั่งผิงไฟอุ่น ๆแต่แล้วในตอนนั้นเอง ซ่างกวนอวิ๋นซีก็พรวดพราดเข้ามาด้วยจิตสังหารเต็มเปี่ยม“บอกมา กระบี่มารนั่น… ว้าย!!”นางยังพูดมิทันจบประโยค เมื่อสังเกตเห็นว่าฉินซูเปลือยกายก็กรีดร้องออกมาแล้วหันหลังกลับไปทันทีฉากนี้ทำเอาฉินซูงุนงงเป็นไก่ตาแตก!มิจริงกระมัง?นางอายุปาเข้าไปสี่ห้าสิบแล้ว ยังมิเคยเห็นเรือนร่างผู้ชายเลยหรืออย่างไร?หากเคยเห็นแล้วจะตื่นตกใจถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?เขาอดมิได้ที่จะเอ่ยถาม “นี่ ท่านคงมิใช่สาวเทื้อพรหมจรรย์[footnoteRef:0]หรอกกระมัง?” [0: สาวเทื้อพรหมจรรย์ หมายถึง ผู้หญิงอายุมากที่ยังไม่แต่งงาน] ซ่างกวนอวิ๋นซีมิเข้าใจความหมายในคำพูดของเขา นางทั้งอับอายทั้งโกรธจึงหันหลังไปตวาดว่า “ใส่อาภรณ์เดี๋ยวนี้ ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า!”“โอ้ ได้”ฉินซูรับคำ แล้วก็เริ่มใส่อาภรณ์ครู่ต่อมา เขาก็กล่าวว่า “ข้าเรียบร้อยแล้ว ท่านอยากถามกระไร?”ซ่างกวนอวิ๋นซีหันกลับมาจ้องมองเขาเขม็งด้วยแววตาเย็นชา “บอกมา ตกลงกระบี่มารบินไปที่ใดกันแน่?”“ข้าบอกไปแล้วมิใช่หรือว่าเหมือนจะบินไปทางป่าโน้น”“พูดจาเหลวไหล มีคนบอกว่าแสงสีแดงที่แปรจากกระบี่มารนั้นบินห
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
747576777879
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status