ในใจของเย่เทียนหนิงเองก็รู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง เขามองไปรอบ ๆ ด้วยความรู้สึกผิดเมื่อแน่ใจว่าไม่มีผู้อื่นอยู่ใกล้ เขาจึงอธิบายว่า “ข้าก็บ่นไปอย่างนั้นเอง ใจจริงยังคงเคารพยำเกรงท่านเจ้าสำนักหาใดเปรียบได้”เซี่ยจื่อผิงถามว่า “ว่าแต่ ท่านอาจารย์อาวุโสรองน่าจะเลิกกักตนบำเพ็ญแล้วกระมัง?”เย่เทียนหนิงพยักหน้า “ท่านเลิกกักตนตั้งแต่เช้าตรู่วันนี้แล้ว”“แล้วอาจารย์ท่านมีความเห็นอย่างไรเรื่องแต่งตั้งฉินซูเป็นบุตรแห่งนักปราชญ์คนใหม่?”“อาจารย์ท่านมิได้กล่าวกระไร แต่ดูจากสีหน้าของท่าน คงมิสบายใจอย่างแน่นอน”“เช่นนั้น พวกเราก็รอดูสถานการณ์ไปก่อนเถิด คำพูดของผู้อาวุโสย่อมมีน้ำหนักกว่าคำพูดของเรานับพันเท่า”เย่เทียนหนิงพยักหน้าช้า ๆ “ตอนนี้ก็ทำได้แต่เพียงเท่านี้”จากนั้น ชายทั้งสามก็เดินตรงไปยังหอดารารักษ์หอดารารักษ์ในยามนี้ซ่างกวนอวิ๋นซีกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้เบื้องหน้าของนางคือชายชราสวมชุดคลุมสีเทา!ชายชราผู้นี้รูปร่างผอมซูบ ใบหน้าซีดเหลือง ทว่าดวงตาทั้งสองข้างคมกริบราวกับดวงตาของพญาอินทรีคนผู้นั้นคือ หยางคุน ผู้อาวุโสอันดับสองแห่งหอดารารักษ์!เขาประสานมือคารวะซ่างกวนอวิ๋นซี กล่าวอ้
Read more